Gospel of Judas กับ National Geo Graphic

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
-Rei-
โพสต์: 1015
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 8:31 pm
ติดต่อ:

พุธ เม.ย. 12, 2006 11:57 pm

เพิ่งดู National Geo Graphic จบไปตะกี้ค่ะ
มีคนเอามาประกาศให้ทุกคนที่โบสถ์ดู
แต่เรคิดว่า คนที่เอามาประกาศที่โบสถ์เองก็คงไม่ทราบว่าเรื่องมันเกี่ยวกับอะไร
ไม่งั้นคงไม่กล้ามาประกาศออกไมค์ให้ทุกคนดูคืนนี้

เค้าพูดถึงการค้นพบหนังสือโบราณของกลุ่มที่ชื่อว่า นอสติก อะไรสักอย่าง
และบอกว่า ในยุกแรกเริ่ม มีพระกิตติคุณ (พระวรสาร) มากถึง 30 เล่ม
และผู้นำศาสนจักรในศตวรรษที่ 3 ตัดออกจนเหลือแค่
มัทธิว มะระโก ลูกา ยอห์น 4 เล่มเท่านั้น

หนังสือที่ค้นพบเล่มหนึ่งพูดถึง บันทึกของจูดาส ซึ่งถูกคัดลอกเป็นภาษาอียิปต์โบราณ
แล้วก็เล่าถึงการตามหาที่มา การพิสูจน์ว่ามันเก่าแก่จริงอยู่นานมาก
เนื้อหาในหนังสือโบราณกล่าวว่า ยูดาส เป็นสาวกคนเดียวที่เข้าถึงพระเยซูได้มากที่สุด
จึงได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจที่เสียสละที่สุด นั่นคือ การทรยศพระองค์
เพื่อให้การตรึงกางเขนเกิดขึ้น

อืมมม มันก็พอจะเป็นไปได้นะ ถ้าคิดถึงว่ายูดาสก็ทิ้งบ้านทิ้งเรือนมาติดตามพระเยซู
อยู่ๆจะมาคิดทรยศกันง่ายๆ มันน่าจะมีเหตุผลมากกว่านั้น
และการที่พระเยซูทรงมอบหมายให้ยูดาสทำการทรยศเพื่อให้เกิดการตรึงกางเขนก็ฟังขึ้น

แต่มันไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิ เพราะสารคดีบอกว่า
จริงๆแล้วพระเยซูบอกความลับกับยูดาสว่า พระเจ้าอยู่ในตัวของมนุษย์ทุกคนต่างหาก
เราไม่ต้องให้ความเคารพพระเจ้าผู้สร้างโลก และ ไม่ต้องสวดก่อนอาหาร เพราะเป็นเรื่องเหลวไหล

อ้าวววว ไหงงั้นล่ะ เริ่มออกทะเลไปไกลแล้วนั่น ???

และแย่กว่านั้นคือ บอกว่า เพราะยูดาสเข้าถึงพระเยซูได้มากกว่าคนอื่นๆ
สาวกคนอื่นๆจึงอิจฉายูดาส จึงเขียนใส่ร้ายยูดาสในพระกิตติคุณ(พระวรสาร)
และตามมาด้วยเรื่อง ความเชื่อของคริสเตียนกลุ่มนอสติกที่ว่า
จริงๆแล้วการคืนพระชนมไม่ใช่เรื่องสำคัญ
การสิ้นพระชนม์ เป็นไปเพื่อปลอดปล่อยวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังนิรันดร์ที่ถูกกักไว้ในร่างต่างหาก
การทรยศถือเป็นการปลดปล่อยพระเยซูจากร่างที่กักขังวิญญาณนิรันดร์ของพระองค์
ไม่เกี่ยวกับการไถ่ และการตายเป็นเรื่องดี ดังนั้นยูดาสที่ฆ่าตัวตายจริงไม่ใช่เรื่องเลวร้าย
ถือเป็นการปลดปล่อยวิญญาณจากที่คุมขัง ว่างั้นเถอะ

อุแม่เจ้า.... National Geo Graphic กล้าทำสารคดีแบบนี้ด้วยเรอะ
ยังกับส่งเสริมให้คนฆ่าตัวตายนิ
ไม่แปลกใจที่หนังสือเล่มนี้ถูกแบนจากศาสนจักรยุคแรกอ่ะ
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ยูดาสเป็นคนดีหรือไม่ดี แต่มันอยู่ที่เรื่องของการตีความองค์พระบิดาเจ้า และการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเป็นไปเพื่ออะไรตะหาก
ผู้เชื่อใหม่ดูแล้วตกใจตายชัก ขนาดเรยังตกกะใจเป็นพักๆเลย

มันมีลัทธินอสติกนั่นจริงๆเหรอ แล้วตอนนี้ไม่มีแล้วเหรอคะ
อยากรู้ว่าเป็นยังไงต่อ คือตกใจมากมาย
มีคริสเตียนอีกกลุ่มที่ตีความเรื่องการสิ้นพระชนม์ไปคนละเรื่องกับพวกเราเลย
แล้วยังบอกอีกว่า จริงๆแล้วพระคัมภีร์ของเรา บางทีก็อาจจะไม่ได้เขียนโดยอัครสาวกเอง
แต่เขียนในช่วงศตวรรษที่ 3 ซึ่งอัครสาวกตายไปตั้งนานแล้ว

อ้าว... แล้วใครเขียนละนั่น จริงเหรอคะที่ว่า พระกิตติคุณ(พระวรสาร) ไม่ได้เขียนโดยอัครสาวก แต่เขียนโดยคนอื่น เช่น พระกิตติคุณยอห์น เขียนหลังจากที่ท่านยอห์นตายไปแล้ว ???

เป็นสารคดีที่ส่งเสริมความเสื่อมศรัทธาจริงๆ ให้ตายเถอะ *pif

พี่ๆช่วยมาให้ข้อโต้แย้งสารคดีเรื่องนี้หน่อยค่ะ เผื่อมีคนอื่นที่ดูเหมือนกันแต่ไม่กล้าถาม
เรมีข้อโต้แย้งอยู่ในใจอยู่แล้ว คือ เป็นสารคดีที่ทำให้เราออกห่างจากพระเจ้า
ดังนั้นมันมาจากมารเป็นแน่แท้ ถ้าเป็นสารคดีคริสเตียนในอีกมุมมองแต่เป็นไปเพื่อให้เราเข้าใกล้พระเจ้ามากขึ้น ก็พอว่า แต่นี่ทำให้เราออกห่างจากพระเจ้า ไม่ใช่รายการที่มาจากสวรรค์แหงๆ

แล้วเค้าจะฉายสารคดีประมาณนี้ต่อไปอีกจนถึงวันที่ 6 พฤษภาคมค่ะ
ร้ายสุดๆคือ โฆษณา Week of Secret Bible ที่ว่า
"พระเยซูอาจไม่ได้เป็นพระเมสสิยาห์ เพียงพระองค์เดียว"
ไบเบิ้ลกล่าวถึงพระผู้ช่วยให้รอดอื่นนอกจากพระเยซูด้วยเหรอ
โกหกทั้งเพน่ะ ชักอยากร้องไห้แล้วสิ

ปลายทางของคนทำสารคดีชุดนี้คืออะไรหนอ
ในเมื่อโทษของผู้ที่ทำให้ผู้เล็กน้อยสักคนหนึ่งหลงออกไปจากทางของพระเจ้านั้นสาหัสนัก ?
แก้ไขล่าสุดโดย -Rei- เมื่อ พฤหัสฯ. เม.ย. 13, 2006 12:01 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
mind
.
.
โพสต์: 527
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 5:45 pm
ที่อยู่: BKK

พฤหัสฯ. เม.ย. 13, 2006 12:17 am

SugarRei เขียน:

มันมีลัทธินอสติกนั่นจริงๆเหรอ แล้วตอนนี้ไม่มีแล้วเหรอคะ
ถ้ามีจริง มันคงสุญพันธ์ ไปแล้วมั๊งครับ เพราะ คงเชื่อว่าต้องปลดปล่อยวิญญาณ เลยเดี้ยงไปหมดแล่ว :P
Divine Mercy

พฤหัสฯ. เม.ย. 13, 2006 12:17 am

ยุคนี้เป็นยุคที่ซาตานกำลังเร่งที่จะทำงาน มันพยายามที่จะใหผู้เชื่อศรัทธาไขว่เขว

การเสด็จกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้าเป็นหลักสำคัญของความเชื่อคริสตชน

เพื่อให้ผู้เชื่อได้เห็นถึงความเป็นพระเจ้าซึ่งมีอำนาจเหนือความตาย

อย่าลืมครับว่า "โทษของบาปคือความตาย" ถ้าหากพระองค์ไม่ทรงฟื้นคืนชีพแล้วไซร้

ก็เท่ากับว่าพระองค์ยังไม่สามารถชนะบาปได้อย่างแท้จริง การสิ้นพระชนม์เพื่อไถ่บาปจึงหมดความหมาย

ดังนั้นผมเชื่อว่าสารคดีนี้ซาตานมองวัตถุประสงค์ผิดไป

เพราะสิ่งเหล่านี้ยิ่งทำให้ผู้เชื่อศรัทธามีความเชื่อมากขึ้นเป็นทวีคูณ

เพราะพระองค์ทรงไถ่บาปด้วยอำนาจของพระองค์และชนะมันอย่างถาวร ;)
ภาพประจำตัวสมาชิก
-Rei-
โพสต์: 1015
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 8:31 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. เม.ย. 13, 2006 12:25 am

สุดๆเลยอ่ะ ตอนแรกดูๆก็ อืมม มุมมองใหม่
ดูไปเรื่อยๆ เฮ้ย... ไม่ใช่รายการของสวรรค์แล้วงานนี้
แถมจะฉายไปจนถึงเดือนหน้าด้วยนะ สุดยอด....

ซาตานยึดครองเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิคช่วงสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ *swt

คุณลุงคนที่เอามาประกาศออกไมค์ให้คนที่โบสถ์ดูรายการคงนั่งช็อคไปแล้ว
นี่ตูบอกให้คนทั้งโบสถ์ดูรายการอะไรเนี่ย

ชื่อเรื่อง Gospel of Judas กับช่วง Secret Bible week ดูเหมือนรายการเสริมศรัทธา
แต่ที่ไหนได้ .... สงสารลุงเค้าแฮะ เค้าคงตกใจกว่าเร
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พฤหัสฯ. เม.ย. 13, 2006 12:26 am

กลุ่มนอคติสเป็นเฮเรติกในยุคแรกๆ ที่มีการเขียนพระคัมภีร์แปลกๆออกมามากมาย

เกร็ดเรื่องแนวคิดนอสติค (Gnostic)

���เป็นแนวคิดความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องวิญญาณเหนือธรรมชาติจากตำนานที่ถูกสร้างขึ้น งานเขียนและคำสอนของทางนอสติคเน้นเกี่ยวกับเรื่องวิญญาณต่างๆ โดยเชื่อว่าประสบการณ์ทางวิญญาณเป็นแก่นที่แท้จริงของศาสนา เรื่องพระเจ้าและคำสอนของทางคริสตภายหลังถูกใช้นำมาโยงประกอบกับแนวคิดทางนอสติคด้วย แต่ทั้งหมดเป็นการกระทำปรุงแต่งของทางสาวกนอสติคเองที่พยายามโยงเรื่องพระเยซูและคำสอนต่างๆเป็นของทางนอสติค และเช่นเดียวกับคัมภีร์สารนอกระบบที่หลายคนเข้าใจผิดว่าคำสอนทางนอสติคเป็นของทางคริสต์ หรือ เป็นสารที่ถูกตัดออก ทั้งๆที่ความจริงแล้วไม่เป็นความจริงเลย

หลายต่อหลายครั้งอัครสาวก เปโตร เปาโล และ ยอห์น ก็ได้เตือนผู้คนไม่ให้สนใจในเทพนิยายปรัมปราเท็จเช่นนี้

ดันแคน กรีนลีส (Duncan Greenless) นักเทวศาสตร์ผู้ศึกษาและนับถือแนวคิดนอสติคได้ให้นิยามสำหรับแนวคิดนอสติคไว้ว่า

“นอสติคซิซึ่ม (Gnosticism) คือแนวคิดการค้นหาประสบการณ์ความรู้ตรงเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้า วิญญาณ และ อวกาศ ในช่วงศตวรรษแรกๆที่คริสตศาสนาพัฒนาขึ้น นอสติคก็ได้เอาแนวคิดของทางคริสตศาสนามาใช้
โดยปฏิเสธเรื่องเนื้อหาความเชื่อและศรัทธาออก ดังนั้นคำหลายๆคำจึงมาทางคริสต์เสียมาก แต่เรื่องวิญญาณและเรื่องเหนือธรรมชาติมาจากแนวคิดลัทธินอกรีตทั้งหลายของทางตะวันตก”
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ พฤหัสฯ. เม.ย. 13, 2006 12:27 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
-Rei-
โพสต์: 1015
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 8:31 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. เม.ย. 13, 2006 12:41 am

ขอบคุณพี่โฮลี่ค่ะ *kis

สารคดีไม่ได้พูดงี้อ่ะ มันบอกว่า นอสติกเป็นคริสเตียนที่ใช้คำสอนของอัครสาวกด้วยล่ะ
สรุปว่าสารคดีมันมั่วใช่มะนั่น แย่มากๆอ้ะ แม่นั่งดูอยู่ด้วยหันมามองเรใหญ่เลยงับ
แก้ไขล่าสุดโดย -Rei- เมื่อ พฤหัสฯ. เม.ย. 13, 2006 12:44 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. เม.ย. 13, 2006 1:34 am

คนแปลอาจจะมั่วก็ได้จ๊ะ

มีหลายครั้งที่คนภาค ภาคส่ง ๆ
อ่านผิด พูดผิด หลาย ๆ ครั้งมักจะออกชื่อผิด เรียกผิด

ปกติ NGG จะทำแบบเป็นกลางนะ
ครั้งนี้อาจจะเกิดจากการที่คนแปล
ไม่เข้าใจความหมายของศาสนาคริสต์ จึงแปลตามที่ตัวเองเข้าใจ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. เม.ย. 13, 2006 1:34 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. เม.ย. 13, 2006 7:45 am

SugarRei เขียน: อ้าว... แล้วใครเขียนละนั่น จริงเหรอคะที่ว่า พระกิตติคุณ(พระวรสาร) ไม่ได้เขียนโดยอัครสาวก แต่เขียนโดยคนอื่น เช่น พระกิตติคุณยอห์น เขียนหลังจากที่ท่านยอห์นตายไปแล้ว ???
อันนี้ขอฟันธงเลย ครับว่าไม่จริง!!!


ในจดหมายของท่านนักบุญเปาโล ที่มีอยู่ในพันธสัญญาใหม่ ฉบับหนึ่ง
(ขอโทษ หนูจำไม่ได้ว่าเล่มไหน :-[)

ได้บอก ".พระกิตติคุณซึ่งข้าพเจ้าได้อ่านแล้ว." (ประมาณนี้นะ) ::)

การคัดลอกพระคัมภีร์พันธะสัญญาใหม่โดยเฉพาะ พระวรสารกิตติคุณ/สหทรรศน์

มีมาตั้งแต่สมัยนักบุญเปาโล ยังมีชีวิตในโลกนี้แล้วครับ 8)
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. เม.ย. 13, 2006 7:46 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Q
โพสต์: 103
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. พ.ค. 26, 2005 5:45 am

พฤหัสฯ. เม.ย. 13, 2006 11:01 am

SugarRei เขียน:
แล้วยังบอกอีกว่า จริงๆแล้วพระคัมภีร์ของเรา บางทีก็อาจจะไม่ได้เขียนโดยอัครสาวกเอง
แต่เขียนในช่วงศตวรรษที่ 3 ซึ่งอัครสาวกตายไปตั้งนานแล้ว

อ้าว... แล้วใครเขียนละนั่น จริงเหรอคะที่ว่า พระกิตติคุณ(พระวรสาร) ไม่ได้เขียนโดยอัครสาวก แต่เขียนโดยคนอื่น เช่น พระกิตติคุณยอห์น เขียนหลังจากที่ท่านยอห์นตายไปแล้ว ???

ถ้าจำไม่ผิด เข้าใจว่าผู้เขียนหนังสือกิจการอัครสาวก
กับ ผู้เขียนพระวรสาร น.ลูกา จะเป็นคนเดียวกันนะ
คือ ชื่อลูกา ซึ่งไม่ใช่เป็นยิว และก็เคยเป็นหมอมาก่อน
แม้ไม่ใช่หนึ่งในอัครสาวกทั้งสิบสอง แต่
ต่อมาก็กลายเป็นเพื่อนร่วมงานของ น.เปาโล

ส่วนคนเขียนพระวรสาร น.มัทธิว นี่ล่ะที่เชื่อว่า
ก็คือ อัครสาวกมัทธิว ที่เคยเป็นคนเก็บภาษีมาก่อน

ตอนที่ มัทธิว กับลูกาเขียนพระวรสาร ก็เชื่อว่า
ในตอนนั้น พระวรสารของมาร์โก เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายแล้ว
เชื่อว่าเล่มนี้ล่ะที่ น่าจะเก่าที่สุดกว่าของใครเพื่อน
ดังนั้น ตอนที่มาร์โกเขียนเสร็จ จึงแน่นอนว่าทั้ง
ลูกา, มัทธิว และยอห์น ยังไม่มีใครตายเลยซักคน

มาร์โก แม้จะไม่ใช่เป็นหนึ่งในอัครสาวกทั้งสิบสอง
แต่ก็เป็นเพื่อนร่วมงานของทั้งน.เปโตร และ น.เปาโล
เป็นไปได้ว่าท่านเป็นสักขีพยานการตายของทั้งสองคนด้วย

ส่วนของ น.ยอห์นอัครสาวกนั้น มาเขียนหลังใครเพื่อน
ถึงจะหลังใครเพื่อน แต่ก็น่าจะประมาณปี ค.ศ. 90 เองนะ
ไม่ใช่ศตวรรษที่สาม อย่างที่อ้างมาแน่ๆ

(ไม่ค่อยแม่นเรื่องพระคัมภีร์เท่าไหร่ ยังงัย ถ้าจำมาผิดๆ ชี้แนะด้วย)

แต่พวก Gnosticism เนี่ย โผล่มาตอนศตวรรษที่สองแน่ๆ
และพวกนี้ก็ปฏิเสธพระคัมภีร์เล่มหลักๆ และธรรมประเพณี
ของคริสตชน มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

จึงไม่น่าแปลกหรอก ที่จะเจอทฤษฎีต่างๆโมเมออกมาเยอะไปหมด

ถ้าต้องการศึกษาทฤษฎีมั่วๆของคนกลุ่มนี้ เสนอว่าควรจะ
อ่านผลงานของ น.อีเรนีอุส ที่ชื่อ Adversus Haereses
มีเขียนไว้เพียบ
แก้ไขล่าสุดโดย Q เมื่อ พฤหัสฯ. เม.ย. 13, 2006 12:11 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พฤหัสฯ. เม.ย. 13, 2006 2:47 pm

หลักฐานเก่าแก่ที่สุด ของพระคัมภีร์ที่เขียนโดยนักบุญยอห์นคือ เศษกกปาปิรัส ที่เขียนพระธรรมยอห์นบทที่13 ซึ่งมีอายุอยู่ในช่วงค.ศ.100ครับ ไม่ใช่ศตรววษที่3

คัมภีร์ส่วนใหญ่ของพวกนอสติกต่างหาก ที่มักมีอายุถอยหลังไปไม่เคยเกินศตรววษที่3 รวมทั้งพระคัมภีร์ฟิลลิปที่ดาวินชีปะติโค้ดเอามาอ้าง นั้นน่ะมีหลักฐานว่าเขียนศตรววษที่4ด้วยซ้ำแต่ดันมาอ้างว่าเป็นของนักบุญฟิลิปอัครสาวก
St.paul

ศุกร์ เม.ย. 14, 2006 10:52 am

แล้วเค้าจะฉายสารคดีประมาณนี้ต่อไปอีกจนถึงวันที่ 6 พฤษภาคมค่ะ
ร้ายสุดๆคือ โฆษณา Week of Secret Bible ที่ว่า
"พระเยซูอาจไม่ได้เป็นพระเมสสิยาห์ เพียงพระองค์เดียว"
ไบเบิ้ลกล่าวถึงพระผู้ช่วยให้รอดอื่นนอกจากพระเยซูด้วยเหรอ
โกหกทั้งเพน่ะ ชักอยากร้องไห้แล้วสิ

ก็ไม่ต้องไปดูมันสิครับ ถ้าเราไม่ดูเลยมันก็ไม่มีไรเกิดขึ้นกับความเชื่อเราหรอก
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ ศุกร์ เม.ย. 14, 2006 3:59 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
-Rei-
โพสต์: 1015
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 8:31 pm
ติดต่อ:

เสาร์ เม.ย. 15, 2006 12:56 am

S.PAULVS เขียน:
แล้วเค้าจะฉายสารคดีประมาณนี้ต่อไปอีกจนถึงวันที่ 6 พฤษภาคมค่ะ
ร้ายสุดๆคือ โฆษณา Week of Secret Bible ที่ว่า
"พระเยซูอาจไม่ได้เป็นพระเมสสิยาห์ เพียงพระองค์เดียว"
ไบเบิ้ลกล่าวถึงพระผู้ช่วยให้รอดอื่นนอกจากพระเยซูด้วยเหรอ
โกหกทั้งเพน่ะ ชักอยากร้องไห้แล้วสิ

ก็ไม่ต้องไปดูมันสิครับ ถ้าเราไม่ดูเลยมันก็ไม่มีไรเกิดขึ้นกับความเชื่อเราหรอก
ถึงเราไม่ดูมันก็มีคนอื่นๆดูอ่ะจิคะ TT
Guest

เสาร์ เม.ย. 15, 2006 11:41 pm

There are fictions in all religions. It depends on you how far you reach what the founders found.

But I can say to you. These are stupid stories.
Jesus had no idea of plan like that (Betray).
Guest

เสาร์ เม.ย. 15, 2006 11:46 pm

You cannot claim which parts are original either. Nobody can claim as they are not living in the past.

Past is the past. What you find inside is the real. Don't get stuck on the shell, but to see what is the kernel (core of teaching).

These are unfinished topics of discussion.

In Him.
ภาพประจำตัวสมาชิก
-Rei-
โพสต์: 1015
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 8:31 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ เม.ย. 16, 2006 11:48 pm

จากกระทู้นี้ คือข้อความที่คัดมาจาก คม ชัด ลึก

http://www.newmana.com/yabb/http://newm ... eadid=3211

จูดาสทรยศโดยตั้งใจ หรือ รับคำสั่งมา เราไม่รู้ และไม่ขอเถียงในประเด็นนี้
แต่ที่น่าสงสัยมากๆคือ

ข้อความที่ว่า

จากคำแปลล่าสุดจากเอกสารโบราณ ระบุว่าพระเยซูทรงตรัสต่อจูดาส์เองว่า "เธอต้องช่วยเราสละกายที่ห่อหุ้มเราไว้" พร้อมทำนายว่าจูดาส์เองต้องทนรับเสียงสาปแช่งของคนรุ่นหลังเพื่อปฏิบัติภารกิจดังกล่าว

พระเยซูทรงกล่าวกับจูดาส์ว่า พระองค์ทรงประสงค์จะสละกายหยาบแล้วกลับสู่ดินแดนของพระผู้เป็นเจ้า


ถ้าเป็นพระประสงค์ที่จะให้มีการทรยศเพื่อให้เกิดการไถ่ มันก็ฟังขึ้นค่ะ
แต่ถ้าเป็นพระประสงค์ที่จะให้มีการทรยศ เพราะ "เบื่อโลกนี้แล้ว อยากกลับสวรรค์"
มันอะไรกันคะ

สรุปว่าถ้าเชื่อตามนี้ คือพระเยซูไม่ได้ประสงค์การไถ่
แต่ประสงค์แค่จะกลับสวรรค์
พระคัมภีร์เก่าที่เล็งถึงการไถ่ทั้งหมด คือเรื่องเหลวไหล?

ถ้าให้เลือกเชื่อ ระหว่าง คนที่เขียน Gospel of Judas ในอีกเกือบ 200 ปี หลังจากยูดาสตาย
กับให้เชื่อพระคัมภีร์เก่า ทั้งเล่ม รวมทั้งพระวรสารอีก 4 เล่ม


เพื่อนๆคิดว่าไงคะ
แก้ไขล่าสุดโดย -Rei- เมื่อ อาทิตย์ เม.ย. 16, 2006 11:48 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ เม.ย. 17, 2006 12:27 am

ประเด็นคือ พระเยซูขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณครับ ไม่ได้สละกายแล้วไปแต่วิญญาณ
ภาพประจำตัวสมาชิก
-Rei-
โพสต์: 1015
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 8:31 pm
ติดต่อ:

จันทร์ เม.ย. 17, 2006 1:10 am

อยากจะชี้ประเด็นอีกอย่างก็คือ

คำว่า "เอกสารนี้ เป็นเอกสารฉบับจริง" ที่กล่าวอ้าง จนทำให้ดูน่าเชื่อถือนั้น

เนชั่นแนล จีโอ กราฟฟิค แค่พิสูจน์ว่า เอกสารฉบับนี้ "เขียนขึ้นในศตวรรษที่3 จริง"
แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า "ผู้เขียนรู้จักกับยูดาสจริง"
และไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า "ข้อความในเอกสารนี้เป็นความจริง"

สมมุตินะคะ สมมุติเรเขียนใส่กระดาษตัวโตๆว่า "เรจังสวยที่สุดในโลก"
แล้วใส่กล่องเก็บไว้

อีก 2000 ปีต่อมา มีคนมาขุดพบ แล้วพิสูจน์ว่า กระดาษใบนั้นถูกเขียนในปี 2006 จริง

คำว่า "เอกสารแบบจริง" มันพิสูจน์อะไรคะ ?

พิสูจน์ได้แค่ว่า มันถูกเขียนขึ้นโดยใครสักคนในปี 2006 ใช่ไหมคะ
หรือจะเชื่อได้แน่นอนว่า ข้อความ "เรจังสวยที่สุดในโลก" เป็นความจริง
เพียงเพราะ "มันเก่าจริง"

ความเก่า ไม่ใช่เครื่องพิสูจน์ว่า ข้อความข้างใน "เป็นความจริง" ค่ะ

เพราะถ้าแค่ "ความเก่า" ทำให้มันกลายเป็นจริงได้
เรจะเริ่มเขียนข้อความ "เรจังสวยที่สุดในโลก" ใส่กล่องเก็บไว้ตั้งแต่วันนี้เลย
เผื่ออีก 2000 ปี จะมีคนเชื่อ ;D
แก้ไขล่าสุดโดย -Rei- เมื่อ จันทร์ เม.ย. 17, 2006 1:13 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

จันทร์ เม.ย. 17, 2006 9:57 am

จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวกาลาเทีย ซึ่งเขียนขึ้นในปี ค.ศ. 57 หรือ 58 บทที่ 1 ข้อที่ 6-10 กล่าวเอาไว้เกี่ยวกับหนังสือพระวรสารนอกสารระบบ ซึ่งท่านเรียกว่า "ข่าวดีอื่น" ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับ เพราะขัดกับความจริงในข่าวดีของพระคริสตเจ้า

"ข้าพเจ้าประหลาดใจที่ท่านทั้งหลายหันเหอย่างรวดเร็วจากพระบิดาผู้ทรงเรียกท่านด้วย พระหรรษทานของพระคริสตเจ้า ไปเชื่อข่าวดีอื่น อันที่จริงแล้ว ข่าวดีอื่นนั้นไม่มี แต่มีบางคนก่อความวุ่นวายในหมู่ท่านทั้งหลาย และประสงค์จะบิดเบือนข่าวดี ของพระคริสตเจ้า แต่ถ้าเราหรือทูตสวรรค์ประกาศข่าวดีขัดแย้งกับที่เราเคย ประกาศแก่ท่าน ขอให้ผู้นั้นถูกสาปแช่งเถิด บัดนี้ ข้าพเจ้าขอพูดย้ำสิ่งที่ข้าพเจ้า เคยพูดไว้ก่อน อีกครั้งหนึ่งว่า ถ้าใครประกาศข่าวดีแก่ท่านขัดแย้งกับข่าวดีที่ท่านเคยรับไว้ ก็ขอให้ ผู้นั้นถูกสาปแช่งเถิด บัดนี้ ข้าพเจ้ากำลังเอาใจมนุษย์หรือพระเจ้า ข้าพเจ้าพยายาม เอาใจมนุษย์กระนั้นหรือ หากข้าพเจ้ายังเอาใจมนุษย์ ข้าพเจ้าก็คงไม่เป็นผู้รับใช้ ของพระคริสตเจ้า"
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

จันทร์ เม.ย. 17, 2006 3:11 pm

อย่าลืมสวดภาวนาด้วยนะครับ เกี่ยวกับเรื่องนี้

สวดให้วิญญาณที่น่าสงสารหลายดวงที่หลงไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
fizzy vippie
โพสต์: 371
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 26, 2005 10:58 am

อาทิตย์ เม.ย. 23, 2006 10:06 pm

เห็นว่าแตนตื่นกันจังกะเรื่องของยูดาส ... ไปอ่านเจอในเว็บ zenit เลยเอามาฝากน้องๆ
อ่านแล้วอยากให้คิดกัน โดยเฉพาะตรงที่พี่ hi-light ไว้ พระสันตะปาปาทรงพูดไว้ดีมากเลย

======================================================================

พระสันตะปาปาทรงย้ำถึง สิ่งเร้นลับในการทรยศของ ยูดาส ... สาวกผู้ปฏิเสธความรักจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
แปลจากบทความใน www.zenith.org วันที่ 13 เมษายน 2549

ในบทเทศน์ระหว่างพิธีบูชามิสซาระลึกถึงอาหารค่ำมื้อสุดท้ายของพระเยซูเจ้า (วันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์) พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงเน้นย้ำต่อผู้ร่วมพิธีว่า ความเร้นลับของ ยูดาส เกิดจากการปฏิเสธความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างแน่ชัด

พระสันตะปาปากล่าวระหว่างพิธีบูชามิสซาในวันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์ว่า “ยูดาส อิสคาริออต เป็น “คนทรยศ” ที่สำหรับเขาแล้ว เงินตรา อำนาจ และ ความสำเร็จ สำคัญกว่าความรัก และเขาก็ไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อยที่จะขายองค์พระเยซูเจ้า”

ข้อวิจารณ์จากพระสันตะปาปานี้ สืบเนื่องมาจากการเปิดตัวของ “คัมภีร์ ฉบับ ยูดาส” เมื่อเร็วๆนี้ ที่ว่าเป็นเอกสารโบราณที่เปิดมุมมองต่อสาวกผู้ทรยศพระคริสต์ในแง่ดี เอกสารบรรยายว่า ที่จริงแล้ว ยูดาส จำต้องเชื่อฟังคำสั่งจากเบื้องบนให้ส่งตัวพระเยซูให้กับทางการ

ในระหว่างบทเทศน์ พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 16 ทรงกล่าวแย้งเกี่ยวกับกรณีที่ ยูดาส ได้ตัดสินใจขายองค์พระเยซูเจ้า ด้วยเงินเพียง 30 เดนารี ว่าเป็นเพียงการอธิบายตามหลักของพระวรสารเท่านั้น

พระสันตะปาปาพูดว่า “ความเร้นลับฝ่ายมืดต่างหากที่ก่อให้เกิดการปฏิเสธ ส่งผลให้เกิดสิ่งที่ ยูดาส ได้กระทำลงไป และเป็นที่แน่นอนว่า ในวันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์นี้ วันที่พระเยซูเจ้าทรงมอบพระองค์เอง น่าจะทำให้เราคิดได้ว่า ความรักของพระผู้เป็นเจ้าไม่มีขอบเขต แต่มนุษย์กลับเป็นผู้สร้างขอบเขตนั้นซะเอง

การปฏิเสธ

พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงถามอีกว่า “แล้วคนทรยศผู้นี้ได้อะไรจากการกระทำของเขา” ทรงตอบว่า “การปฏิเสธความรัก การไม่ต้องการที่จะถูกรัก การที่จะไม่รัก ทิฐิทำให้คิดว่าไม่ต้องการการชำระล้าง ทำให้เขาปิดกั้นตัวเองจากการช่วยให้รอดขององค์พระผู้เป็นเจ้า”

“ในมุมมองของ ยูดาส” พระสันตะปาปากล่าว “เราได้เห็นอย่างชัดเจน ซึ่งธรรมชาติของการปฏิเสธ เขาตัดสินพระเยซูจากมุมมองของ อำนาจและความสำเร็จ สำหรับเขาแล้ว อำนาจและความสำเร็จเท่านั้นที่มีตัวตน แต่ความรักไม่ใช่”

“และตัวเขาเองก็ละโมบ เงินทองสำคัญกว่าการมีส่วนร่วมกับพระเยซูเจ้า มันสำคัญกว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าและความรักของพระองค์เสียอีก”

พระสันตะปาปากล่าวว่า “และด้วยทางนี้ เขากลายเป็นคนโกหกที่เล่นเกมคนสองหน้า แยกตัวจากความเป็นจริง อยู่กับสิ่งลวง จนสุดท้ายก็สูญเสียแม้กระทั่งความจริงที่สูงสุดคือองค์พระผู้เป็นเจ้าไป”

ทรงกล่าวด้วยว่า “ด้วยวิถีชีวิตแบบนี้ เขากลายเป็นคนที่ยากแก่การกลับตัวกลับใจ เมื่อเทียบกับการกลับใจของลูกล้างผลาญ(นิทานเปรียบเทียบในพระวรสาร) และสุดท้ายก็ได้ทิ้งชีวิตที่เหลวแหลกนั้น”
แก้ไขล่าสุดโดย fizzy vippie เมื่อ อาทิตย์ เม.ย. 23, 2006 10:15 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Divine Mercy

อาทิตย์ เม.ย. 23, 2006 10:17 pm

สำหรับผมแล้ว เชื่อตามที่พระศาสนจักรสั่งสอน

ในความคิดผมคือ ยูดาสยังเป็นคนทรยศ

ตราบใดที่พระศาสนจักรยังไม่ได้เปลี่ยนแปลง

และสอนตามบริบทของพระวรสารต่อไป ตามที่พระสันตะปาปาทรงยืนยัน

ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ไม่มีมุมมองใหม่สำหรับยูดาส
แก้ไขล่าสุดโดย Divine Mercy เมื่อ อาทิตย์ เม.ย. 23, 2006 10:20 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
bomzaiya
โพสต์: 663
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 02, 2005 10:41 pm
ที่อยู่: Sriracha Chonburi
ติดต่อ:

จันทร์ เม.ย. 24, 2006 7:55 am

เรื่องนี้ ต้องกล่าวอะไรสักอย่างหนึ่ง เกี่ยวกับพระคัมภีร์

พระคัมภีร์ คือ งานเขียนจากฝีพระหัตถ์ของพระเจ้า --> เน้น พระเจ้า
ผ่านปลายปากกาของประกาศก ผู้เผยพระวจนะ และสานุศิษย์ของพระองค์ --> สังเกตนะครับว่า พระเจ้า กระทำ ต่อมนุษย์ เพื่อให้เกิดงานเขียน

ดังนั้น งานเขียนในพระคัมภีร์เป็นอย่างไร ... สิ่งนั้น ก็มาจากพระเจ้า
พระคัมภีร์ มีการปนเปื้อน ด้วย ข้อความที่ปีศาจใส่เข้ามาด้วย ผ่าน ผู้ที่เชื่อในพระเจ้า บางท่าน

ทางพระศาสนจักร จึงมีการสังคายนา เพื่อชำระพระคัมภีร์ และใช้เฉพาะสิ่งที่มาจากพระเจ้า
อะไรในบทความที่ยังคงทำให้พระเจ้านั้นศักดิ์สิทธิ์ และเสริมพระสิริมงคล อันนี้ถือว่า ใช้ได้

เพราะพระเจ้าเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ พระองค์ไม่ทำพระองค์ไม่ศักดิ์สิทธิ์ พระองค์ไม่ทำพระองค์ให้มีความขัดแย้ง
ในสิ่งที่พระองค์ตัดสินใจไปแล้ว

เช่น เรื่องที่หนึ่ง พระองค์ได้ตอบว่า ใช่ ..... จะไม่มีตอนอื่นที่ขัดแย้งในพระคัมภีร์ที่กล่าวว่า ข้อความนี้ ไม่ใช่

แต่จะกลับเป็นการ หนุน และอธิบายให้เข้าใจท่องแท้มากยิ่งขึ้น

สรุปแล้วพระคัมภีร์ มีความหมายและเจตนารมณ์ของพระเจ้า อยู่ครบถ้วน

แต่ต้องอย่าลืมว่า พระองค์ไม่เคยหยุดรักมนุษย์ พระองค์ยังคงทำงานร่วมกับเราอยู่เสมอ

พระองค์จะมาไขแสดง ประจักษ์ เทศน์สอน อธิบายความหมายในพระคัมภีร์ ในตอนต่างๆ
ผ่านผู้ที่พระองค์ทรงเลือก แต่พระองค์ไม่เคยที่จะเปลี่ยนข้อความใดๆ ในพระคัมภีร์เลย
และแน่นอน สิ่งที่มีการไขแสดงเหล่านั้น จะเป็นไปในลักษณะพาใจคนเรา กลับเข้าสู่พระเจ้า
ผ่านการกลับใจ การภาวนา การพลีกรรม ใช้โทษบาป

พระองค์ไม่ได้ประจักษ์มาในลักษณะ ให้เราเข้าใจขัดแย้งกับข้อความในพระวรสาร
แต่พระองค์ขยายความเข้าใจของเราเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ

..... สิ่งที่เล่ามาเนี่ย จากประสบการณ์จริงเลยครับ ....
หลายครั้งก็ไม่เข้าใจความหมายในพระคัมภีร์ แต่พระองค์ยังคงอธิบายข้อความพระองค์
ผ่านสิ่งแวดล้อมที่เรา ลูกแกะของพระองค์ จดจำได้ว่า คำอธิบายเหล่านี้มาจากพระองค์

.อาแมน.
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

จันทร์ เม.ย. 24, 2006 12:28 pm

เห็นด้วยกับพี่นัทครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
King Zadin
โพสต์: 419
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 13, 2005 3:53 am
ติดต่อ:

จันทร์ เม.ย. 24, 2006 2:27 pm

งานของมารแรงขึ้นเรื่อยๆเลยนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

อังคาร เม.ย. 25, 2006 8:59 am

ตอนนั้นดูข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางคนที่เอาเรื่องขึ้นนี้มาเขาบอกว่าต้องการให้คนยอมรับข้อมูลในเอกสารนี้ เพราะว่าจะได้ทำให้คนเลิกเกลียดชาวยิว เพราะคิดว่ายูดาสเป็นคนยิวที่ทรยศพระเยซูเจ้า แต่ในเอกสารนี้นำเสนอภาพของยูดาสในอีกด้านหนึ่งซึ่งตรงข้ามกันเลย ผมจึงคิดว่าพวกยิวในอเมริกาต้องให้การสนับสนุนเรื่องนี้แน่ ๆ เลย พวกนี้คิดได้ไงว่าชาวคริสต์จะเกลียดชาวยิวเพราะชาวยิวทำให้พระเยซูเจ้าต้องตาย คนที่เป็นคริสต์จริง ๆ เรารู้ดีว่าใครทำให้พระเยซูเจ้าต้องงตายแบบนั้น จะใครหละ ก็ข้ามพเจ้าเองนี่แหละคนนึง ที่เป็นต้นเหตุใพระเยซูต้องรับทรมานและสิ้นพระชนม์บนกางเขน ไม่ใช่พวกยิวในสมัยนั้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร เม.ย. 25, 2006 3:31 pm

Awake and Live เขียน: ตอนนั้นดูข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางคนที่เอาเรื่องขึ้นนี้มาเขาบอกว่าต้องการให้คนยอมรับข้อมูลในเอกสารนี้ เพราะว่าจะได้ทำให้คนเลิกเกลียดชาวยิว เพราะคิดว่ายูดาสเป็นคนยิวที่ทรยศพระเยซูเจ้า แต่ในเอกสารนี้นำเสนอภาพของยูดาสในอีกด้านหนึ่งซึ่งตรงข้ามกันเลย ผมจึงคิดว่าพวกยิวในอเมริกาต้องให้การสนับสนุนเรื่องนี้แน่ ๆ เลย พวกนี้คิดได้ไงว่าชาวคริสต์จะเกลียดชาวยิวเพราะชาวยิวทำให้พระเยซูเจ้าต้องตาย คนที่เป็นคริสต์จริง ๆ เรารู้ดีว่าใครทำให้พระเยซูเจ้าต้องงตายแบบนั้น จะใครหละ ก็ข้ามพเจ้าเองนี่แหละคนนึง ที่เป็นต้นเหตุใพระเยซูต้องรับทรมานและสิ้นพระชนม์บนกางเขน ไม่ใช่พวกยิวในสมัยนั้น
ผมว่ามันเป้นแนวคิดติงต๊องของยิวในอเมริกานะ เพราะที่จริง ถ้านับยูดาสว่าเป็นยิวเลวแล้วเกลียดยิว แล้วคณะสาวกอีก11คน รวมทั้งคนที่เขียนพระคัมภีร์ให้เราอ่าน และแม้แต่ตัวพระเยซูเองก็คือยิวแท้ๆไม่ใช่เหรอ ถ้าคนเราจะเกลียดชนชาติไหนมันไม่ใช่เพราะเหตุผลงี่เง่าแค่นี้แน่นอน ถ้าชาวยิวยังหลงทางอยู่อย่างนี้จะไม่มีวันรู้เลยว่าคนในอดีต(และปัจจุบัน)บางคนไม่ชอบยิวเพราะอะไร
superjan
.
.
โพสต์: 127
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:13 pm

อังคาร เม.ย. 25, 2006 4:12 pm

ไม่รู้สิ คิดว่ายังไงยูดาสก็ยังเป็นคนทรยศ แถมเอกสารที่ไปหามานั้น อาจจะไม่ตรงและถูกทั้งหมดก็ได้
ภาพประจำตัวสมาชิก
-Rei-
โพสต์: 1015
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 8:31 pm
ติดต่อ:

อังคาร เม.ย. 25, 2006 9:44 pm

Holy เขียน:
Awake and Live เขียน: ตอนนั้นดูข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางคนที่เอาเรื่องขึ้นนี้มาเขาบอกว่าต้องการให้คนยอมรับข้อมูลในเอกสารนี้ เพราะว่าจะได้ทำให้คนเลิกเกลียดชาวยิว เพราะคิดว่ายูดาสเป็นคนยิวที่ทรยศพระเยซูเจ้า แต่ในเอกสารนี้นำเสนอภาพของยูดาสในอีกด้านหนึ่งซึ่งตรงข้ามกันเลย ผมจึงคิดว่าพวกยิวในอเมริกาต้องให้การสนับสนุนเรื่องนี้แน่ ๆ เลย พวกนี้คิดได้ไงว่าชาวคริสต์จะเกลียดชาวยิวเพราะชาวยิวทำให้พระเยซูเจ้าต้องตาย คนที่เป็นคริสต์จริง ๆ เรารู้ดีว่าใครทำให้พระเยซูเจ้าต้องงตายแบบนั้น จะใครหละ ก็ข้ามพเจ้าเองนี่แหละคนนึง ที่เป็นต้นเหตุใพระเยซูต้องรับทรมานและสิ้นพระชนม์บนกางเขน ไม่ใช่พวกยิวในสมัยนั้น
ผมว่ามันเป้นแนวคิดติงต๊องของยิวในอเมริกานะ เพราะที่จริง ถ้านับยูดาสว่าเป็นยิวเลวแล้วเกลียดยิว แล้วคณะสาวกอีก11คน รวมทั้งคนที่เขียนพระคัมภีร์ให้เราอ่าน และแม้แต่ตัวพระเยซูเองก็คือยิวแท้ๆไม่ใช่เหรอ ถ้าคนเราจะเกลียดชนชาติไหนมันไม่ใช่เพราะเหตุผลงี่เง่าแค่นี้แน่นอน ถ้าชาวยิวยังหลงทางอยู่อย่างนี้จะไม่มีวันรู้เลยว่าคนในอดีต(และปัจจุบัน)บางคนไม่ชอบยิวเพราะอะไร

เห็นด้วยงับ ถ้าคนเราเกลียดยิว เพราะยูดาสทรยศพระเยซู ก็ต้องเกลียดท่านยอห์น ท่านเปาโล รวมทั้ง แม่พระของพวกเราก็เป็นยิวไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเราถึงรักพวกท่านล่ะ ไม่ได้เกี่ยวกับยิวหรือไม่ยิวซะหน่อย
เรารักยิวตั้งหลายคนอ้ะ

การที่ทำให้ยูดาสดูเหมือนไม่ได้ทรยศ แล้วจะทำให้คนเลิกเกลียดยิว มันคนละเรื่องกันเลยอ้ะ
และถ้าหนังสือนั่นพูดแค่ยูดาสไม่ได้ทรยศ มันก็พอรับได้อ่ะ
แต่เล่นพูดว่าการไถ่และการคืนพระชนม์ไม่สำคัญ
นี่มันออกจะหลุดโลกไปแล้วอ้ะงับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
NKL
โพสต์: 189
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 01, 2005 7:32 pm
ติดต่อ:

อังคาร เม.ย. 25, 2006 11:49 pm

ยิวยังไม่รู้ตัวถึงตอนที่ภูเขาไซไนล่ะมั้งครับ ว่าทำอะไรไปบ้าง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พุธ เม.ย. 26, 2006 8:33 am

นี่แหละ ชาวยิว เราก็ต้องภาวนาให้ชาวยิวต่อไปเพื่อพวกเขาจะได้พบความสว่างแท้ สงสัยวันที่ชาวยิวกลับใจคงเป็นวันสุดท้ายของโลก
ตอบกลับโพส