** สปา และ ชาเขียว **
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ยุคนี้นอกจากบอกว่าเป็นยุคหลุดโลก โดยเทคโนโลยี่ ที่ล้ำหน้า แบบ พุงหลามของ พี่มาดาลิ่ง กับพี่โจ อนาคอนด้า แล้ว
หนูสังเกตว่า ยังเป็น ยุค สปา กับ ชาเขียว พอดีพี่สาวคนสวยท่านหนึ่ง อยากสำรวจข้อมูล ในการเขียนบทความ
หนูขันอาสา หาข้อมูล นิวมานาพิจารณ์ ว่า เราๆชาวนิวมานา บ้าจี้กับเรื่อง สปา และชาเขียวมากน้อยแค่ไหน ฮะ
ด้วยจิตคารวะ ( ยิ้ม พี่คีเดส ของพันทิป มาฮะ )
หนูสังเกตว่า ยังเป็น ยุค สปา กับ ชาเขียว พอดีพี่สาวคนสวยท่านหนึ่ง อยากสำรวจข้อมูล ในการเขียนบทความ
หนูขันอาสา หาข้อมูล นิวมานาพิจารณ์ ว่า เราๆชาวนิวมานา บ้าจี้กับเรื่อง สปา และชาเขียวมากน้อยแค่ไหน ฮะ
ด้วยจิตคารวะ ( ยิ้ม พี่คีเดส ของพันทิป มาฮะ )
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
เออ คุ้น ๆ ว่าจะมีคนเขียนบทความเรื่องนี้ แล้วนะ หรือแค่ได้ยิน เขาว่าจะเขียนป่าวหว่า
อันว่าสปากับชาเขียวนั้น ข้าพเจ้าก็นิยมอยู่พอประมาณ เนื่องด้วยว่า นาน จะเข้าไปให้เขาปรนนิบัติพัดวี ที ก็สบายดีเหมิอนกัน แต่ไม่ถึงขั้นบ้าคลั่งไคล้ ต้องไปมันทุกเดือน หรือไล่ล่าหาความแปลกใหม่ราคาแพง
ส่วนชาเขียว ถ้าได้ ดื่มกินในที่สงบ สะอาด มีบรรยากาศ ของหนังสือ แสงแดด สายลม และหญ้าเขียว ๆ ก็จะดีนักแล แต่ไอ้ที่บรรจุใส่ขวดขาย ๆ สารพัดรสนี้ ไม่ค่อยจะดีนัก เนื่องจากมีส่วนผสมของคาเฟอินสูงมาก เหมาะแก่พวกที่ต้องใช้แรงงานหามรุ่งหามค่ำ และพลขับรถบรรทุกทั้งหลาย ดื่มกินมาก ๆไม่ดีนะจ้ะ เด็ก ๆ
อันว่าสปากับชาเขียวนั้น ข้าพเจ้าก็นิยมอยู่พอประมาณ เนื่องด้วยว่า นาน จะเข้าไปให้เขาปรนนิบัติพัดวี ที ก็สบายดีเหมิอนกัน แต่ไม่ถึงขั้นบ้าคลั่งไคล้ ต้องไปมันทุกเดือน หรือไล่ล่าหาความแปลกใหม่ราคาแพง
ส่วนชาเขียว ถ้าได้ ดื่มกินในที่สงบ สะอาด มีบรรยากาศ ของหนังสือ แสงแดด สายลม และหญ้าเขียว ๆ ก็จะดีนักแล แต่ไอ้ที่บรรจุใส่ขวดขาย ๆ สารพัดรสนี้ ไม่ค่อยจะดีนัก เนื่องจากมีส่วนผสมของคาเฟอินสูงมาก เหมาะแก่พวกที่ต้องใช้แรงงานหามรุ่งหามค่ำ และพลขับรถบรรทุกทั้งหลาย ดื่มกินมาก ๆไม่ดีนะจ้ะ เด็ก ๆ
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
เปงเด็ก เปงเล็ก ร่ำแอลกอฮอลล์มาก ๆไม่ดีนะจ้ะ เรื่องพรรค์นี้ ยกให้พี่เหอะsabachthani เขียน: ของหนูนิยมไวน์กระชายดำ หรือไม่ก็ สาโท ค่ะ ร่ำแล้วมันเริงใจ อิ อิ
- Good Nanny
- ~@
- โพสต์: 227
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 13, 2005 10:32 pm
- ที่อยู่: BKK
ชาเขียว....ก็ยังชอบกินอยู่นะ
ส่วนสปา....ก็ชอบนะสบายดีแต่มันเปลืองแค่นวดแผนไทยธรรมดาก็โอเคจ้า
ส่วนสปา....ก็ชอบนะสบายดีแต่มันเปลืองแค่นวดแผนไทยธรรมดาก็โอเคจ้า
-
- โพสต์: 45
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 7:03 pm
- ที่อยู่: SomewherE
ชอบชาเขียวค่ะ แต่ก็ไม่ได้ชอบมากสักเท่าไหร่
ส่วนสปา...เฉย ๆ
ส่วนสปา...เฉย ๆ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ชาเขียว เบื่อแล้ว ตอนนี้กินเฉพาะเวลาไปร้านอาหารญี่ปุ่นเท่านั้น
ไม่เคยซื้อแบบขวดกินอีกเลย เบื่อมาก ๆ หลายยี่ห้อขยันออก ขยันแต่งสารพัดรส
ตอนนี้มาบ้าผลไม้ปั่นของ Squeeze แหละ อิอิ
ส่วนสปา สบายดี แต่นาน และ ต้องเปลี่ยนผ้า อาบน้ำ นุ่นนี่
เอาแค่นวดฝ่าเท้าก็โอเคแล้ว สำหรับ LL
ไม่เคยซื้อแบบขวดกินอีกเลย เบื่อมาก ๆ หลายยี่ห้อขยันออก ขยันแต่งสารพัดรส
ตอนนี้มาบ้าผลไม้ปั่นของ Squeeze แหละ อิอิ
ส่วนสปา สบายดี แต่นาน และ ต้องเปลี่ยนผ้า อาบน้ำ นุ่นนี่
เอาแค่นวดฝ่าเท้าก็โอเคแล้ว สำหรับ LL
พูดถึงชาเขียวผมชอบดิ่มมากๆเลยแหละครับ แต่ไม่ใช้แค่ชาเขียวนะที่มีเดียวนี้ยังมีชาดำฝรั่งกับข้าวบาเล่อีกด้วยรสชาติอร่อยมากๆเลย ใครเคยดื่มมาแล้วมั่ง
ส่วนสปาผมเคยอาบน้ำแบบสปาให้ น้องหมา ของผมครับ
ส่วนสปาผมเคยอาบน้ำแบบสปาให้ น้องหมา ของผมครับ
หนูเห็นด้วยกับพี่LLตรงที่ จะดื่มตอนไปกินอาหารญี่ปุ่นค่ะ เพราะเบิ้ลได้ อย่างที่ฟูจิ ถ้าหนูจำไม่ผิด สั่งมาแก้วหนึ่ง ชาเขียวเย็น แก้วละ 30 บาท ดื่มจนพุงกางเลยค่ะ~@Little lamb@~ เขียน: ชาเขียว เบื่อแล้ว ตอนนี้กินเฉพาะเวลาไปร้านอาหารญี่ปุ่นเท่านั้น
ไม่เคยซื้อแบบขวดกินอีกเลย เบื่อมาก ๆ หลายยี่ห้อขยันออก ขยันแต่งสารพัดรส
ตอนนี้มาบ้าผลไม้ปั่นของ Squeeze แหละ อิอิ
ส่วนสปา สบายดี แต่นาน และ ต้องเปลี่ยนผ้า อาบน้ำ นุ่นนี่
เอาแค่นวดฝ่าเท้าก็โอเคแล้ว สำหรับ LL
ชาดำฝรั่งนั่น หนูก็เคยดื่มค่ะ อร่อยม้ากกกกกกมากMaNoi-Nae เขียน: พูดถึงชาเขียวผมชอบดิ่มมากๆเลยแหละครับ แต่ไม่ใช้แค่ชาเขียวนะที่มีเดียวนี้ยังมีชาดำฝรั่งกับข้าวบาเล่อีกด้วยรสชาติอร่อยมากๆเลย ใครเคยดื่มมาแล้วมั่ง
ส่วนสปาผมเคยอาบน้ำแบบสปาให้ น้องหมา ของผมครับ
หนูว่าพี่ต้องเป็นไฮโซแห่งไฮโซทั้งหลาย เพราะขนาดหมาพี่ยังสปาเลย สงสัยบ้านพี่ต้องอลังการงานสร้าง เป็นฮาเล็มแน่ๆเลย ใช่ไหมคะ
สมัยก่อนตอนพี่อายุ 12 พี่เปิดรายการทีวี ช่อง 11 ซึ่งเป็นสถานนีใหม่ที่สุดเป็นช่องที่ 5 ของเมืองไทยตอนนั้น พี่ชอบดูสารคดี วันหนึ่งพี่ดูสารคดีญี่ปุ่นเรื่องวิธีชงชาเขียว นะครับซึ่งเขาจะมีพิธีเป็นขันตอนมากเลยดูเรียบร้อยสงบดี เริ่มต้นด้วยการตักชาผงสีเขียวๆ ที่เรียกว่ามักฉะ ใส่ลงไปในถ้วยชา จากนั้นนำกระบวยสำหรับตักน้ำร้อนในพิธีชงชาเขียวนะครับ ใส่ลงไป จากนั่นก็ใช้ที่คนชาคน เมื่อเรียบร้อยแล้วก็คำนับจับชามือขวามาวางที่มือซ้าย ใช้มือขวาหมุ่นถ้วยชาไปทางขวา 3 ครั้ง เมื่อดื่มเสร็จใช้มือขวาเช็ดขอบถ้วยตรงที่ตนใช้ดื่ม แล้วหมุ่มถ้วยชากลับไปทางซ้าย 3 ครั้ง พิธีดูเรียบร้อยน่าดื่มด้วย ตั้งแต่นั้นมาพี่ก็อยากดื่มชาเขียวมัทฉะมาตลอด แต่ไม่มีโอกาส
พอพวกชาขวดออกวางตลาดพี่ก็ซื้อดื่มแต่ชอบสู้ชาในพิธีชงชาไม่ได้ ขานั้นมันสีเขียวจริงๆ ไม่ใช้สีเหลืองอย่างที่เขาขาย ชาเขียวจริงๆเป็นชาผง พี่ไปดื่มที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งขาเขียวที่ร้านนั้นนะใช้สีเขียวจริงๆ แต่ชาเขาไม่หวานนะครับ ถ้าจะให้หวานต้องสั่งน้ำเชื่มมาเติมเองเพิ่มเงินอีก พี่ชอบทานชาที่ร้านอาหารญี่ปุ่นมากว่า
แต่ชาขวดก็ซื้อมาเก็บไว้ทานที่บ้านไม่ใช้ชอบอะไรมากแต่เวลาเล่นคอมฯ นานๆ ก็ยิบมาเปิดมันทำให้สดชื่นดับกระหายได้ดีแล้วก็ไม่ง่วง ไม่จำเป็นต้องเป็นชาเขียวขอให้มันดื่มง่ายๆ ไม่ยุ่งยากพอ หรือไปวัดมีกิจกรรมจนบ่ายๆ หิวน้ำก็เข้า 7 หาดื่มแก้กระหาย
ถ้าอยากเห็นภาพชาและพิธีชงชาก็ไปดูสเปซที่พี่โพสให้ดูนะครับ เพราะพี่จะเก็บอะไรที่พี่ชอบไว้ที่นี้นไม่ใช้ค่านิยมแต่เป็นความรู้สึกที่พี่ชอบมานตั้งแต่วัยเด็กครับทุกๆ เรื่องในนั้น
พอพวกชาขวดออกวางตลาดพี่ก็ซื้อดื่มแต่ชอบสู้ชาในพิธีชงชาไม่ได้ ขานั้นมันสีเขียวจริงๆ ไม่ใช้สีเหลืองอย่างที่เขาขาย ชาเขียวจริงๆเป็นชาผง พี่ไปดื่มที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งขาเขียวที่ร้านนั้นนะใช้สีเขียวจริงๆ แต่ชาเขาไม่หวานนะครับ ถ้าจะให้หวานต้องสั่งน้ำเชื่มมาเติมเองเพิ่มเงินอีก พี่ชอบทานชาที่ร้านอาหารญี่ปุ่นมากว่า
แต่ชาขวดก็ซื้อมาเก็บไว้ทานที่บ้านไม่ใช้ชอบอะไรมากแต่เวลาเล่นคอมฯ นานๆ ก็ยิบมาเปิดมันทำให้สดชื่นดับกระหายได้ดีแล้วก็ไม่ง่วง ไม่จำเป็นต้องเป็นชาเขียวขอให้มันดื่มง่ายๆ ไม่ยุ่งยากพอ หรือไปวัดมีกิจกรรมจนบ่ายๆ หิวน้ำก็เข้า 7 หาดื่มแก้กระหาย
ถ้าอยากเห็นภาพชาและพิธีชงชาก็ไปดูสเปซที่พี่โพสให้ดูนะครับ เพราะพี่จะเก็บอะไรที่พี่ชอบไว้ที่นี้นไม่ใช้ค่านิยมแต่เป็นความรู้สึกที่พี่ชอบมานตั้งแต่วัยเด็กครับทุกๆ เรื่องในนั้น
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ พุธ ส.ค. 23, 2006 6:54 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ลืมตอบเรื่องสปาของน้องเจี๊ยบเลย สปามันก็ดีนะครับแต่ดูแล้วเหมาะสำหรับพวกสาวๆ ที่มีเงินมากๆ อย่างพวกไฮโซหรือน้องจิงจิง เพราะราคาค่าอบสมุนไพรมันแพง แต่ช่วยให้ผิวดีๆ และสุขภาพดี นอกจากบำรุงผิวแล้วยังมีบริการนวดไปในตัวด้วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย พี่ไม่เคยเข้าครับฟังมาอีกที หุหุ
ทุกวันนี้นอกจากมีสปาแล้วยังมีพวกซาวน่าอีกครับซึ่งเป็นห้องอบไฮน้ำไม้เล็กๆ ชาวบ้านทั่วไปก็ใช้บริการได้เพราะราคาไม่แพง มักจะอยู่ตามฟิตเนส โรงแรมมีระดับ หรือสถานบริการสปาบางแห่ง แต่มันร้อนมากเลยครับยิ่งตักน้ำราดหินมันยิ้งร้อนมีกลิ่นน้ำยาด้วยพี่จะนั่งให้นานหน่อยจะลดไขมัน แต่นานมากๆ ก็ไม่ไหวร้อนครับแสบตาด้วยต้องออกจากห้องอบมาอาบน้ำเย็นแต่ก็ดีกว่านรกหุหุ
นี่เป็นห้องอบซาวน่านะครับพี่ค้นหาภาพจากเว็บนอกมาให้ดู ที่พี่เข้าห้องก็ไม่ใหญ่มากประมาณ 4 - 5 คนเข้าได้ ใหญ่กว่าในภาพหน่อยครับ ที่จริงก็ไม่เหมาะกับบ้านเราเพราะเป็นเมืองร้อนอยู่แล้ว
ทุกวันนี้นอกจากมีสปาแล้วยังมีพวกซาวน่าอีกครับซึ่งเป็นห้องอบไฮน้ำไม้เล็กๆ ชาวบ้านทั่วไปก็ใช้บริการได้เพราะราคาไม่แพง มักจะอยู่ตามฟิตเนส โรงแรมมีระดับ หรือสถานบริการสปาบางแห่ง แต่มันร้อนมากเลยครับยิ่งตักน้ำราดหินมันยิ้งร้อนมีกลิ่นน้ำยาด้วยพี่จะนั่งให้นานหน่อยจะลดไขมัน แต่นานมากๆ ก็ไม่ไหวร้อนครับแสบตาด้วยต้องออกจากห้องอบมาอาบน้ำเย็นแต่ก็ดีกว่านรกหุหุ
นี่เป็นห้องอบซาวน่านะครับพี่ค้นหาภาพจากเว็บนอกมาให้ดู ที่พี่เข้าห้องก็ไม่ใหญ่มากประมาณ 4 - 5 คนเข้าได้ ใหญ่กว่าในภาพหน่อยครับ ที่จริงก็ไม่เหมาะกับบ้านเราเพราะเป็นเมืองร้อนอยู่แล้ว
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ ศุกร์ ธ.ค. 01, 2006 11:53 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
sabachthani เขียน:ชาดำฝรั่งนั่น หนูก็เคยดื่มค่ะ อร่อยม้ากกกกกกมากMaNoi-Nae เขียน: พูดถึงชาเขียวผมชอบดิ่มมากๆเลยแหละครับ แต่ไม่ใช้แค่ชาเขียวนะที่มีเดียวนี้ยังมีชาดำฝรั่งกับข้าวบาเล่อีกด้วยรสชาติอร่อยมากๆเลย ใครเคยดื่มมาแล้วมั่ง
ส่วนสปาผมเคยอาบน้ำแบบสปาให้ น้องหมา ของผมครับ
หนูว่าพี่ต้องเป็นไฮโซแห่งไฮโซทั้งหลาย เพราะขนาดหมาพี่ยังสปาเลย สงสัยบ้านพี่ต้องอลังการงานสร้าง เป็นฮาเล็มแน่ๆเลย ใช่ไหมคะ
ไม่ถึงขนาดน้าน~ หรอก อิอิ
ผมเป็นคนติดชาครับ ไม่ชอบกินชาขวด แต่ว่าจะชาประเภทไหน พันธุ์ไหนก็กินได้หมด ขอให้เป็น pure tea ครับ ไม่ใช่ชาอบมะลิ ชาอบกุหลาบ ชาอบกลิ่นแอ็ปเปิ้ล เพราะว่า เรากินชา เพราะเราชอบที่จะกินชาใช่มั้ยครับ เราก็ควรที่จะได้รับรสของชาเต็มแบบเต็มๆ ไม่มีการผสมแม้แต่ น้ำตาล
ชาทำให้เราถ่ายปัสสาวะบ่อยครับ แต่ผมว่าดีนะ มันเหมือนระบายความร้อน ระบายของเสียออกจากร่างกาย แต่ก็ต้องทานตอนที่ท้องไม่ว่าง และที่สำคัญไม่ควรเกิน สามถ้วยต่อวัน ตามขนาดถ้วย ถ้าถ้วยชาญี่ปุ่น ก็ทานได้หลายถ้วยหน่อย เพราะถ้วยเล็กมาก และการชงชาแบบญี่ปุ่นเค้าจะเทชาใส่แค่ครึ่งแก้ว เพราะถือว่า สวย (((ก็จริงแหละครับ มองแล้วดูดีกว่า การรินเยอะๆ)))
อีกอย่างเมื่อเวลากินชาก็คือ ทำให้สดชื่นครับ ยิ่งถ้าได้ทานกับขนมหวาน หรือขนมไทยๆ เนี่ยกับ ชาร้อนๆ หอมๆ จะเป็นอะไรที่ผ่อนคลายมากเลยครับ
ชาชั้นดี เก็บเมื่อตอนตีห้า เป็นยอดใบแรก ของต้น ของอายุการเก็บมีราคาขีดละ 20,000 - 30,000 เลยครับ เพราะฉนั้น ในโฆษณาอ่ะครับที่ว่า ผลิตจากยอดใบชาแท้ยอดแรก ตอนตีห้า แล้วนำมาบรรจุขวดขาย เป็นโฆษณาชวนเชื่อครับ อาจจะยอดแรกแหละครับ แต่ต้นชาต้นนั้นคงจะปลูกมาหลายเดือนแล้วก็ได้...
รสชาติชาที่ดี ต้องดมแล้วไม่เหม็นอับ ไม่กวาด ไม่ขมจนเกินไป ทานแล้วเหมือนกับน้ำฝนบริสุทธิ์เดือนห้า หรือน้ำหิมะเดือนสิบสองละลาย ผสมกับใบไม้วิเศษแห้ง อ่ะครับ จะหอมมากๆ ครับ ผมเคยดมชาราคาแพง แล้วก็อยากครอบครองมาเป็นเจ้าของ แต่ว่า เห็นราคาแล้วก็โอ้ว.... กินชาตลาดดีกว่าครับ ชงให้ถูกวิธี ก็อร่อยผ่อนคลายแล้วครับ
ใครชอบกินชามาแลกเปลี่ยนกันนะครับ
ชาทำให้เราถ่ายปัสสาวะบ่อยครับ แต่ผมว่าดีนะ มันเหมือนระบายความร้อน ระบายของเสียออกจากร่างกาย แต่ก็ต้องทานตอนที่ท้องไม่ว่าง และที่สำคัญไม่ควรเกิน สามถ้วยต่อวัน ตามขนาดถ้วย ถ้าถ้วยชาญี่ปุ่น ก็ทานได้หลายถ้วยหน่อย เพราะถ้วยเล็กมาก และการชงชาแบบญี่ปุ่นเค้าจะเทชาใส่แค่ครึ่งแก้ว เพราะถือว่า สวย (((ก็จริงแหละครับ มองแล้วดูดีกว่า การรินเยอะๆ)))
อีกอย่างเมื่อเวลากินชาก็คือ ทำให้สดชื่นครับ ยิ่งถ้าได้ทานกับขนมหวาน หรือขนมไทยๆ เนี่ยกับ ชาร้อนๆ หอมๆ จะเป็นอะไรที่ผ่อนคลายมากเลยครับ
ชาชั้นดี เก็บเมื่อตอนตีห้า เป็นยอดใบแรก ของต้น ของอายุการเก็บมีราคาขีดละ 20,000 - 30,000 เลยครับ เพราะฉนั้น ในโฆษณาอ่ะครับที่ว่า ผลิตจากยอดใบชาแท้ยอดแรก ตอนตีห้า แล้วนำมาบรรจุขวดขาย เป็นโฆษณาชวนเชื่อครับ อาจจะยอดแรกแหละครับ แต่ต้นชาต้นนั้นคงจะปลูกมาหลายเดือนแล้วก็ได้...
รสชาติชาที่ดี ต้องดมแล้วไม่เหม็นอับ ไม่กวาด ไม่ขมจนเกินไป ทานแล้วเหมือนกับน้ำฝนบริสุทธิ์เดือนห้า หรือน้ำหิมะเดือนสิบสองละลาย ผสมกับใบไม้วิเศษแห้ง อ่ะครับ จะหอมมากๆ ครับ ผมเคยดมชาราคาแพง แล้วก็อยากครอบครองมาเป็นเจ้าของ แต่ว่า เห็นราคาแล้วก็โอ้ว.... กินชาตลาดดีกว่าครับ ชงให้ถูกวิธี ก็อร่อยผ่อนคลายแล้วครับ
ใครชอบกินชามาแลกเปลี่ยนกันนะครับ
หนูชอบกินชาดำเย็นค่ะpar l'amour de dieu เขียน: ผมเป็นคนติดชาครับ ไม่ชอบกินชาขวด แต่ว่าจะชาประเภทไหน พันธุ์ไหนก็กินได้หมด ขอให้เป็น pure tea ครับ ไม่ใช่ชาอบมะลิ ชาอบกุหลาบ ชาอบกลิ่นแอ็ปเปิ้ล เพราะว่า เรากินชา เพราะเราชอบที่จะกินชาใช่มั้ยครับ เราก็ควรที่จะได้รับรสของชาเต็มแบบเต็มๆ ไม่มีการผสมแม้แต่ น้ำตาล
ชาทำให้เราถ่ายปัสสาวะบ่อยครับ แต่ผมว่าดีนะ มันเหมือนระบายความร้อน ระบายของเสียออกจากร่างกาย แต่ก็ต้องทานตอนที่ท้องไม่ว่าง และที่สำคัญไม่ควรเกิน สามถ้วยต่อวัน ตามขนาดถ้วย ถ้าถ้วยชาญี่ปุ่น ก็ทานได้หลายถ้วยหน่อย เพราะถ้วยเล็กมาก และการชงชาแบบญี่ปุ่นเค้าจะเทชาใส่แค่ครึ่งแก้ว เพราะถือว่า สวย (((ก็จริงแหละครับ มองแล้วดูดีกว่า การรินเยอะๆ)))
อีกอย่างเมื่อเวลากินชาก็คือ ทำให้สดชื่นครับ ยิ่งถ้าได้ทานกับขนมหวาน หรือขนมไทยๆ เนี่ยกับ ชาร้อนๆ หอมๆ จะเป็นอะไรที่ผ่อนคลายมากเลยครับ
ชาชั้นดี เก็บเมื่อตอนตีห้า เป็นยอดใบแรก ของต้น ของอายุการเก็บมีราคาขีดละ 20,000 - 30,000 เลยครับ เพราะฉนั้น ในโฆษณาอ่ะครับที่ว่า ผลิตจากยอดใบชาแท้ยอดแรก ตอนตีห้า แล้วนำมาบรรจุขวดขาย เป็นโฆษณาชวนเชื่อครับ อาจจะยอดแรกแหละครับ แต่ต้นชาต้นนั้นคงจะปลูกมาหลายเดือนแล้วก็ได้...
รสชาติชาที่ดี ต้องดมแล้วไม่เหม็นอับ ไม่กวาด ไม่ขมจนเกินไป ทานแล้วเหมือนกับน้ำฝนบริสุทธิ์เดือนห้า หรือน้ำหิมะเดือนสิบสองละลาย ผสมกับใบไม้วิเศษแห้ง อ่ะครับ จะหอมมากๆ ครับ ผมเคยดมชาราคาแพง แล้วก็อยากครอบครองมาเป็นเจ้าของ แต่ว่า เห็นราคาแล้วก็โอ้ว.... กินชาตลาดดีกว่าครับ ชงให้ถูกวิธี ก็อร่อยผ่อนคลายแล้วครับ
ใครชอบกินชามาแลกเปลี่ยนกันนะครับ
ที่จริงชาทุกชนิดไม่ว่าชาจีน ชาญี่ปุ่น หรือชาฝรั่งก็มีส่วนทำให้ชุ่มชื่นนะครับพี่ก็ชอบทานหมดนะครับ ทานแล้วสดชื่นดับกระหายดี ไม่ง่วงด้วย แต่ผลดีหรือไม่ดียังไงพี่ยังไม่ทราบ แต่พ่อพี่มาจากเมืองจีนเขาก็ทานแต่ชาจีนร้อนๆ มาตลาด ตอนหลังเป็นนิ่วที่ถุงน้ำดีเลยต้องตัดทิ้ง ตั้งแต่นั้นมาเลยเลิก
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ จันทร์ ส.ค. 21, 2006 3:44 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ขอบคุณทุกๆคำตอบฮะ เพราะเท่าที่สังเกต ดู ชาเขียวแทรกซึมอยู่ทุก สินค้าก็ว่าได้
เช่น ถุงยางรส( หรือกลิ่น )ชาเขียว ผ้าอนามัยชาเขียว ยาสีฟันชาเขียว มาม่ารสชาเขียว ไอติม และฯลฯ
ส่วนสปา อะไรๆ ก็ทำสปา เช่น ทำสปาผม ( ผ่านระบบแชมพู) สปา ผ่านสบู่ หลายยี่ห้อ เป็นต้น
เช่น ถุงยางรส( หรือกลิ่น )ชาเขียว ผ้าอนามัยชาเขียว ยาสีฟันชาเขียว มาม่ารสชาเขียว ไอติม และฯลฯ
ส่วนสปา อะไรๆ ก็ทำสปา เช่น ทำสปาผม ( ผ่านระบบแชมพู) สปา ผ่านสบู่ หลายยี่ห้อ เป็นต้น
ใช่ค่ะ เยอะจนหน้าจะเขียวอยู่รอมร่อแล้วค่ะJeab Agape เขียน:
ขอบคุณทุกๆคำตอบฮะ เพราะเท่าที่สังเกต ดู ชาเขียวแทรกซึมอยู่ทุก สินค้าก็ว่าได้
เช่น ถุงยางรส( หรือกลิ่น )ชาเขียว ผ้าอนามัยชาเขียว ยาสีฟันชาเขียว มาม่ารสชาเขียว ไอติม และฯลฯ
ส่วนสปา อะไรๆ ก็ทำสปา เช่น ทำสปาผม ( ผ่านระบบแชมพู) สปา ผ่านสบู่ หลายยี่ห้อ เป็นต้น
เขียวอย่างนั้นก็ไม่บอก มีแต่คนชอบอะไรๆ เป็นชาเขียว แต่ตาเขียวไม่มีใครชอบ หุหุ พวกสินค้ารถชาเขียวพี่ไม่สนใจเลยไม่ใช่รสนิยมชาเขียวตามค่านิยม ที่พี่สนใจก็มีชามัทฉะเท่านั้นที่พี่แบ่งปันไปแล้วข้างบน แต่ชาขวดพี่ก็ชอบเช่นกันครับ
ส่วนสปาอย่างพวก แซมพู พวกสบู่ พี่ไม่เคยสนใจเลยครับ พี่เป็นผู้ชายปกติก็ไม่สนใจของพวกนี้อยู่แล้วใช้แบบง่ายๆ
ส่วนสปาอย่างพวก แซมพู พวกสบู่ พี่ไม่เคยสนใจเลยครับ พี่เป็นผู้ชายปกติก็ไม่สนใจของพวกนี้อยู่แล้วใช้แบบง่ายๆ
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ ศุกร์ ธ.ค. 01, 2006 11:56 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
พี่ใช้สบู่กรดอาบน้ำแล้วใช้มะกรูดสระผมหรือเปล่าคะJoseph เขียน: เขียวอย่างนั้นก็ไม่บอก มีแต่คนชอบอะไรๆ เป็นชาเขียว แต่ตาเขียวไม่มีใครชอบ พวกสินค้ารถชาเขียวพี่ไม่สนใจเลยไม่ใช่รสนิยมชาเขียวตามค่านิยม ที่พี่สนใจก็มีชามัทฉะเท่านั้นที่พี่แบ่งปันไปแล้วข้างบน
ส่วนสปาอย่างพวก แซพู พวกสบู่ พี่ไม่เคยสนใจเลยครับ พี่เป็นผู้ชายปกติก็ไม่สนใจของพวกนี้อยู่แล้วใช้แบบง่ายๆ
มะกรุดสระผมคนโบราณก็ใช้อย่างนั้นที่จริงก็ดีนะพี่ก็ชอบกลิ่นหอมด้วยได้กลิ่นไม่ได้เป็นชอบ แต่เกิดอยู่ในกรุงสมัยนี้ก็ต้องใช้แซมพู สวนสบูพี่จะใช้สบูน้ำเพราะมันสะดวกกว่าไม่สกปก
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ อังคาร ส.ค. 22, 2006 6:11 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
เมื่อกี้เห็นมีคนบอกว่า ชาเขียวแต่มีสีเหลือง ซึ่งจริงๆ แล้วหน่ะ
ชาเขียวกะชาดำ มันมาจากต้นเดียวกันครับ ผมเคยสงสัยเหมือนกันครับ ทำไมชาสองอันมันมีกลิ่นเหมือนกัน แต่เหมือนกับว่า ชาดำมันผ่านอะไรมาที่ทำให้สีดำ คือมันเป็นความรู้สึกอ่ะครับ พอดื่มแล้วจะรู้ครับว่า มันรสเดียวกัน แต่ก็มีบางอย่างที่ต่างกัน
พอมาวันนึงก็รู้ครับว่า ชาสองอันนี้มาจากชาต้นเดียวกัน แต่ว่า ชาเขียวไม่ผ่านการอบ หรือหมัก หรืออะไรซักอย่างเนี่ยแหละครับ ทำให้น้ำชาออกมามีสีเหลืองอ่อนกว่า บางทีก็ออกเขียวนิดๆ บางอันก็ผ่านกระบวนการอะไรไม่รู้เหมือนกัน แล้วชาก็จะเขียวจ๋องเลยครับ เป็นวิธีการทำแบบญี่ปุ่นมั้งครับ เพราะเห็นชื่อจะเรียกแบบญี่ปุ่นอ่ะ ไม่แน่ใจ
ชาในโลกมีอยู่สองอันครับ คือชาจีน กับชาอินเดีย ไม่มีชาญี่ปุ่นในโลกใบนี้ครับ ชาที่ปลูกอยู่ในญี่ปุ่น มาจากจีน ตอนแรกผมก็เข้าใจผิดเหมือนกันครับว่า ชาญี่ปุ่นมีจริงๆ แต่ว่า ไม่มีครับ ชาอังกฤษก็ไม่มีเหมือนกันครับ ชาอังกฤษก็คือชาอินเดีย ทำไมหน่ะเหรอครับ เพราะอังกฤษเรียนรู้ชามาจากอินเดียตอนครองอินเดียครับ
ชาก็มีตั้งหลายอย่าง ชาแดง ชาดำหรือชามังกรดำ ชาเขียว ชาขาว
ชาแดง ผ่านการหมัก
ชาดำหรือชามังกรดำ ชาอู่หลง เป็นชากึ่งหมัก
ชาเขียวไม่ผ่านการหมัก
ชาขาวก็เป็นชาทารก อิอิ คือยอดชาที่มันตูมๆ อ่ะ
ปัจจุบันก็มีชาดอกไม้ ซึ่งคนจีนบางส่วนก็ชอบดื่มกันด้วย ชาดอกไม้ วิธีการทำก็จะมีหลายแบบครับ
ผมเคยอ่านหนังสือ บางที่อ่ะครับ เค้าจะปลูกต้นมะลิเหนือลม บังต้นชาไว้ พอลมพัดกลิ่นมะลิกลิ่นก็จะไปติดที่ยอดใบชา ทำให้ได้ชามะลิกลิ่นอ่อนๆครับ แต่ว่าก็มีวิธีที่ง่ายๆ ครับ คือ เค้าจะเอากลิ่นไปอบกับชา ทำให้ได้กลิ่นหอมดอกไม้ด้วยครับ
ชาที่ดีต้องไม่มีกลิ่นอับ ไม่ขมจัด ไม่กวาด ไม่จืด และใบชาก็ต้องไม่แตกหักหรือละเอียดด้วยครับ บางคนชงเพราะอยากได้รสชาติชาเต็มๆ พอชงก็เอาช้อนบี้ๆ ใบชาด้วย มันจะทำให้ชาขมและก็กวาดครับ น้ำก็ไม่ควรร้อนเกินไป ก่อนชงก็ควรจะปลุกใบชาให้ตื่นก่อนด้วยการ นำไปวนกับน้ำร้อนซักห้าวิ แล้วก็เทน้ำออก แล้วก็ใส่น้ำร้อน ทิ้งไว้ซัก หนึ่งนาทีก็จะสามารถดื่มได้ เวลาดื่มก็ควรจิบจะได้รับรสชาติที่ดี ไม่ควรดื่มนะครับ เพราะจะขมเกินไป คำว่าขมเนี่ยหมายความว่า ขมแบบขมนะครับ ไม่ได้ขมแบบชา ถ้าขมแบบชาก็จะอร่อยที่สุดครับเมื่อทานกับของหวาน ภาชนะก็สำคัญเหมือนกันครับ ควรทำภาชนะให้ร้อนก่อนด้วยการลวกด้วยน้ำร้อน หลังจากนั้นค่อยใส่ชาแล้วชงครับ
วิธีการเก็บชา แล้วไม่ให้เกิดกลิ่นอับเนื่องจากความชื่นก็คือ นำกระดาษฟลอยอ่ะคับมาห่อ เมื่อเราจะใช้ก็ควรใช้ของคีบขึ้นมาครับเช่นตระเกียบ ไม่ควรใช้มือหยิบ
แล้วอะไรอีกนะที่ผมรู้เกี่ยวกับชา ไม่รู้เหมือนกันครับ นึกไม่ออกอ่ะครับ
อืม...ต้นกำเนิดของชา ก็คือ มีจักรพรรดิจีนคนนึงอ่ะครับ เค้าต้มน้ำร้อนไว้ แล้วก็มีใบชาแห้ง ปลิวมาตกในกาน้ำร้อน ทำให้เค้าพบว่า ทำไมน้ำพี่ต้มด้วยใบไม้แห้งนี้ถึงหอมนัก จึงไปหาต้น แล้วก็ลองมาต้มดูอีก ทำให้การดื่มชาถือกำเนิด ณ บัดนั้นครับ
อิอิ...
พระเจ้าอวยพรครับ ดื่มชาดีต่อสุขภาพด้วยครับ แต่ว่าดื่มมากไปก็ไม่ดีเหมือนกันครับ
ชาเขียวกะชาดำ มันมาจากต้นเดียวกันครับ ผมเคยสงสัยเหมือนกันครับ ทำไมชาสองอันมันมีกลิ่นเหมือนกัน แต่เหมือนกับว่า ชาดำมันผ่านอะไรมาที่ทำให้สีดำ คือมันเป็นความรู้สึกอ่ะครับ พอดื่มแล้วจะรู้ครับว่า มันรสเดียวกัน แต่ก็มีบางอย่างที่ต่างกัน
พอมาวันนึงก็รู้ครับว่า ชาสองอันนี้มาจากชาต้นเดียวกัน แต่ว่า ชาเขียวไม่ผ่านการอบ หรือหมัก หรืออะไรซักอย่างเนี่ยแหละครับ ทำให้น้ำชาออกมามีสีเหลืองอ่อนกว่า บางทีก็ออกเขียวนิดๆ บางอันก็ผ่านกระบวนการอะไรไม่รู้เหมือนกัน แล้วชาก็จะเขียวจ๋องเลยครับ เป็นวิธีการทำแบบญี่ปุ่นมั้งครับ เพราะเห็นชื่อจะเรียกแบบญี่ปุ่นอ่ะ ไม่แน่ใจ
ชาในโลกมีอยู่สองอันครับ คือชาจีน กับชาอินเดีย ไม่มีชาญี่ปุ่นในโลกใบนี้ครับ ชาที่ปลูกอยู่ในญี่ปุ่น มาจากจีน ตอนแรกผมก็เข้าใจผิดเหมือนกันครับว่า ชาญี่ปุ่นมีจริงๆ แต่ว่า ไม่มีครับ ชาอังกฤษก็ไม่มีเหมือนกันครับ ชาอังกฤษก็คือชาอินเดีย ทำไมหน่ะเหรอครับ เพราะอังกฤษเรียนรู้ชามาจากอินเดียตอนครองอินเดียครับ
ชาก็มีตั้งหลายอย่าง ชาแดง ชาดำหรือชามังกรดำ ชาเขียว ชาขาว
ชาแดง ผ่านการหมัก
ชาดำหรือชามังกรดำ ชาอู่หลง เป็นชากึ่งหมัก
ชาเขียวไม่ผ่านการหมัก
ชาขาวก็เป็นชาทารก อิอิ คือยอดชาที่มันตูมๆ อ่ะ
ปัจจุบันก็มีชาดอกไม้ ซึ่งคนจีนบางส่วนก็ชอบดื่มกันด้วย ชาดอกไม้ วิธีการทำก็จะมีหลายแบบครับ
ผมเคยอ่านหนังสือ บางที่อ่ะครับ เค้าจะปลูกต้นมะลิเหนือลม บังต้นชาไว้ พอลมพัดกลิ่นมะลิกลิ่นก็จะไปติดที่ยอดใบชา ทำให้ได้ชามะลิกลิ่นอ่อนๆครับ แต่ว่าก็มีวิธีที่ง่ายๆ ครับ คือ เค้าจะเอากลิ่นไปอบกับชา ทำให้ได้กลิ่นหอมดอกไม้ด้วยครับ
ชาที่ดีต้องไม่มีกลิ่นอับ ไม่ขมจัด ไม่กวาด ไม่จืด และใบชาก็ต้องไม่แตกหักหรือละเอียดด้วยครับ บางคนชงเพราะอยากได้รสชาติชาเต็มๆ พอชงก็เอาช้อนบี้ๆ ใบชาด้วย มันจะทำให้ชาขมและก็กวาดครับ น้ำก็ไม่ควรร้อนเกินไป ก่อนชงก็ควรจะปลุกใบชาให้ตื่นก่อนด้วยการ นำไปวนกับน้ำร้อนซักห้าวิ แล้วก็เทน้ำออก แล้วก็ใส่น้ำร้อน ทิ้งไว้ซัก หนึ่งนาทีก็จะสามารถดื่มได้ เวลาดื่มก็ควรจิบจะได้รับรสชาติที่ดี ไม่ควรดื่มนะครับ เพราะจะขมเกินไป คำว่าขมเนี่ยหมายความว่า ขมแบบขมนะครับ ไม่ได้ขมแบบชา ถ้าขมแบบชาก็จะอร่อยที่สุดครับเมื่อทานกับของหวาน ภาชนะก็สำคัญเหมือนกันครับ ควรทำภาชนะให้ร้อนก่อนด้วยการลวกด้วยน้ำร้อน หลังจากนั้นค่อยใส่ชาแล้วชงครับ
วิธีการเก็บชา แล้วไม่ให้เกิดกลิ่นอับเนื่องจากความชื่นก็คือ นำกระดาษฟลอยอ่ะคับมาห่อ เมื่อเราจะใช้ก็ควรใช้ของคีบขึ้นมาครับเช่นตระเกียบ ไม่ควรใช้มือหยิบ
แล้วอะไรอีกนะที่ผมรู้เกี่ยวกับชา ไม่รู้เหมือนกันครับ นึกไม่ออกอ่ะครับ
อืม...ต้นกำเนิดของชา ก็คือ มีจักรพรรดิจีนคนนึงอ่ะครับ เค้าต้มน้ำร้อนไว้ แล้วก็มีใบชาแห้ง ปลิวมาตกในกาน้ำร้อน ทำให้เค้าพบว่า ทำไมน้ำพี่ต้มด้วยใบไม้แห้งนี้ถึงหอมนัก จึงไปหาต้น แล้วก็ลองมาต้มดูอีก ทำให้การดื่มชาถือกำเนิด ณ บัดนั้นครับ
อิอิ...
พระเจ้าอวยพรครับ ดื่มชาดีต่อสุขภาพด้วยครับ แต่ว่าดื่มมากไปก็ไม่ดีเหมือนกันครับ
อย่างที่น้องpar l'amour de dieu บอกนะครับ โลกนี้ชามี 2 ชนิด ชาเขียวที่แท้จริงเพราะมันเป็นผงเขียวๆ สดๆ อย่างนี้ครับไม่ใช้ชาแห้งสีเหลืองอย่างชาจีน
เมื่อใส่น้ำร้อนแล้วก็จะเป็นอย่างนี้ครับ
เมื่อใส่น้ำร้อนแล้วก็จะเป็นอย่างนี้ครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ พุธ ส.ค. 23, 2006 6:46 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
น้องเจี๊ยบจอมน่ารักตั้งชื่อคล้ายสเปซพี่เลยหุหุ http://dovejesus.spaces.live.com/ UPใหม่แล้วครับ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
อะไรเหรอ พี่โจJoseph เขียน: น้องเจี๊ยบจอมน่ารักตั้งชื่อคล้ายสเปซพี่เลยหุหุ http://dovejesus.spaces.live.com/ UPใหม่แล้วครับ
เห็นแล้วน้ำลายไหล อิอิ ชาแบบนี้เรียกว่า ชาแบบมัทฉะอ้ะเป่าครับ ผมเคยดื่มแค่ไม่กี่ครั้งเองอ่ะครับ ดื่มไปแล้วก็เสียดายตัง เหอๆๆ