เชิญร่วมงานเสกวัด อัสสัมชัญ พัทยา ในวันเสาร์ที่19 พ.ย.2011
ไปงานเสกวัดใหม่มาแล้วครับ มีคนมาร่วมงานเยอะมาก พิธีเสกเป็นไปอย่างเรียบร้อย
ผู้ออกแบบได้ออกแบบได้แปลกคือ ที่พระแท่น ในส่วนไม้กางเขนที่อยู่หลังพระแท่น เป็นกางเขนเปล่าอันใหญ่สีแดง ที่น่าแปกใจก็คือ ไม่มีพระเยซูบนไม้กางเขนเหมือนวัดทั่วไป
กางเขนจะตั้งอยู่นอกตัวโบสถ์(อยู่ด้านนอกกระจกด้านหลังพระแท่น) อยู่ในสวนย่อมขนาดเล็ก โดนแดดโดนฝนเต็มๆ
ผู้ออกแบบได้ออกแบบได้แปลกคือ ที่พระแท่น ในส่วนไม้กางเขนที่อยู่หลังพระแท่น เป็นกางเขนเปล่าอันใหญ่สีแดง ที่น่าแปกใจก็คือ ไม่มีพระเยซูบนไม้กางเขนเหมือนวัดทั่วไป
กางเขนจะตั้งอยู่นอกตัวโบสถ์(อยู่ด้านนอกกระจกด้านหลังพระแท่น) อยู่ในสวนย่อมขนาดเล็ก โดนแดดโดนฝนเต็มๆ
กางเขนแดงดูจะเป็นสัญลักษณ์ของคริสเตียนไปแลวครับ ในวัดไม่มีรูปนักบุญหรือรูปพระเลยครับ มีแต่กางเขนแดงอันเดียวครับ ออกแบบได้สวยมากครับ ตู้ศีลก็สวยมากครับทำเป็นกล่องกลมสีขาวมีกางเขนแดงติดไฟอยู่ตรงกลางตู้ ก็ทำเป็นไฟรอบตู้สีแดงสวยมากครับ ห้องแก้บาปก็อยู่หลังวัดดูแล้วเป็นมุมที่สงบดีครับ ของแจกจากการทำบุญ มีพวงกุญแจด้วยหรอครับผมได้แต่รูปแม่พระยกขึ้นสวรรค์สีขาวสวยมากครับ เหมือนกับรูปใหญ่ที่ตั้งหน้าวัด เสียดายไม่รู้จักกันครับจะได้เข้าไปทักครับ
จริงครับ ผิดหวังกับเรื่องกางเขนอยู่เหมือนกัน ทั้งวัดหาองค์พระเยซูเจ้าไม่มีเลยสักองค์ ไม่มีแม้แต่รูปภาพของพระองค์ท่าน ถ้าไม่มีรูปแม่พระอยู่หน้าวัดนี่คงเข้าใจผิดว่าเป็นโบสถ์คริสเตียนเป็นแน่แท้
การออกแบบเน้นหนักในทางรูปทรงภายนอกและตัวอาคารที่ทันสมัยมากไปหน่อย ห้องน้ำห้องส้วมสวยหรูกว่าของสนามบินสุวรรณภูมิซะอีก สวนหญ้าสวนย่อมสวยงาม หลงเข้าใจผิดคิดว่าเดินอยู่ในสนามกอลฟ์ซะอีก แต่ขาดความใส่ใจกับรายละเอียดทางความเชื่อ อ่างน้ำเสกก็ไม่มีไว้ให้จุ่ม (หรือผมหาไม่เจอเอง) ไม่มีหอระฆัง
อีกอย่าง รู้สึกเจ็บแปล๊บๆที่ใจ ที่เห็นชื่อของตัวอาคารบ้านพักพระสงฆ์ ที่ใช้ชื่อว่า "อาคาร สยามกลการ 60 ปี" ตัวหนังสือตัวใหญ่เด่นเป็นสง่าติดอยู่ที่ตัวอาคาร ซึ่งชื่อที่ควรจะเป็นมันน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับศาสนาบ้าง เช่นอาคารแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์อะไรก็ว่าไป แต่นี่ไม่
ผมเข้าใจดีว่าทางวัดคงให้เกียรติบริษัทสยามกลการที่บริจาคที่ดินแปลงนี้ แต่ผมก็อดคิดไม่ได้ว่ามันแฝงเรื่องการโฆษณาเอาไว้ด้วยอะครับ ถ้าบริจาคอย่างบริสุทใจถวายแด่พระเจ้าจริง ทำไมต้องตั้งชื่ออาคารแบบนี้ มีชื่อตั้งมากมายที่สื่อว่าคุณเป็นคนบริจาค เช่นใช้ชื่อนักบุญอุปถัมภ์ก็ได้ ให้มันเกี่ยวข้องกับศาสนาบ้าง หรือถ้าบริสุทใจจริงก็ไม่ต้องโชวพาวเลยว่าใครบริจาค ผู้ที่รู้ว่าใครบริจาคมีแค่องค์พระผู้เป็นเจ้าแต่เพียงผู้เดียว ทำอย่างนี้ไม่สุขใจกว่าหรือ
หรือว่าแค่ต้องการโชว์พาวเวอร์ สร้างวัดเพื่อประดับบารมีของตัวเอง ถ้าอย่างนั้น ควรจะตั้งชื่อวัดนี้ว่า วัดอัญสัมชัญสยามกลการพัทยา จำกัดมหาชน ไปเลยดีกว่ามั้ย
มธ.6:2 เหตุฉะนั้น เมื่อท่านทำทาน อย่าเป่าแตรข้างหน้าท่านเหมือนคนหน้าซื่อใจคดกระทำในธรรมศาลาและตามถนน เพื่อจะได้รับการสรรเสริญจากมนุษย์ เราบอกความจริงแก่ท่านว่า เขาได้รับบำเหน็จของเขาแล้ว
การออกแบบเน้นหนักในทางรูปทรงภายนอกและตัวอาคารที่ทันสมัยมากไปหน่อย ห้องน้ำห้องส้วมสวยหรูกว่าของสนามบินสุวรรณภูมิซะอีก สวนหญ้าสวนย่อมสวยงาม หลงเข้าใจผิดคิดว่าเดินอยู่ในสนามกอลฟ์ซะอีก แต่ขาดความใส่ใจกับรายละเอียดทางความเชื่อ อ่างน้ำเสกก็ไม่มีไว้ให้จุ่ม (หรือผมหาไม่เจอเอง) ไม่มีหอระฆัง
อีกอย่าง รู้สึกเจ็บแปล๊บๆที่ใจ ที่เห็นชื่อของตัวอาคารบ้านพักพระสงฆ์ ที่ใช้ชื่อว่า "อาคาร สยามกลการ 60 ปี" ตัวหนังสือตัวใหญ่เด่นเป็นสง่าติดอยู่ที่ตัวอาคาร ซึ่งชื่อที่ควรจะเป็นมันน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับศาสนาบ้าง เช่นอาคารแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์อะไรก็ว่าไป แต่นี่ไม่
ผมเข้าใจดีว่าทางวัดคงให้เกียรติบริษัทสยามกลการที่บริจาคที่ดินแปลงนี้ แต่ผมก็อดคิดไม่ได้ว่ามันแฝงเรื่องการโฆษณาเอาไว้ด้วยอะครับ ถ้าบริจาคอย่างบริสุทใจถวายแด่พระเจ้าจริง ทำไมต้องตั้งชื่ออาคารแบบนี้ มีชื่อตั้งมากมายที่สื่อว่าคุณเป็นคนบริจาค เช่นใช้ชื่อนักบุญอุปถัมภ์ก็ได้ ให้มันเกี่ยวข้องกับศาสนาบ้าง หรือถ้าบริสุทใจจริงก็ไม่ต้องโชวพาวเลยว่าใครบริจาค ผู้ที่รู้ว่าใครบริจาคมีแค่องค์พระผู้เป็นเจ้าแต่เพียงผู้เดียว ทำอย่างนี้ไม่สุขใจกว่าหรือ
หรือว่าแค่ต้องการโชว์พาวเวอร์ สร้างวัดเพื่อประดับบารมีของตัวเอง ถ้าอย่างนั้น ควรจะตั้งชื่อวัดนี้ว่า วัดอัญสัมชัญสยามกลการพัทยา จำกัดมหาชน ไปเลยดีกว่ามั้ย
มธ.6:2 เหตุฉะนั้น เมื่อท่านทำทาน อย่าเป่าแตรข้างหน้าท่านเหมือนคนหน้าซื่อใจคดกระทำในธรรมศาลาและตามถนน เพื่อจะได้รับการสรรเสริญจากมนุษย์ เราบอกความจริงแก่ท่านว่า เขาได้รับบำเหน็จของเขาแล้ว
แก้ไขล่าสุดโดย Kenneth เมื่อ จันทร์ พ.ย. 21, 2011 6:25 am, แก้ไขไปแล้ว 4 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
วัดนี้ พี่น้องคริสเตียนอาจจะแวะไปร่วม (นมัสการ)มิสซาบ้าง
ในเว็บข่าวคริสเตียนมีบทความเกี่ยวกับวัดแห่งนี้ด้วยครับ ไม่ขอก็อปปี้มา เพราะยาวมากครับ ลองอ่านดูแล้วจะเข้าใจแนวคิดการออกแบบวัดแห่งนี้ครับ
http://www.kaochristian.com/2011/06/3_22.html
สำหรับผมเอง ก็ติดตามข่าวการสร้างวัดแห่งนี้มาบ้าง เพราะรู้จักผู้ใหญ่บางท่านที่ให้คำปรึกษาแก่ทีมออกแบบของวัดแห่งนี้ ผมจึงเข้าใจว่าทำไมวัดนี้จึงออกมาในแบบนี้
สำหรับคำถามที่ว่า "ทำไมมีมีรูปพระเลย"... ผมคิดว่าหน้าที่หลักของวัดคือ ใช้ประกอบพิธีบูชาขอพระคุณ ส่วนประกอบหรือเครื่องใช้สำหรับพิธีบูชาขอบพระคุณก็มีเพียง พระแท่น บรรณฐาน(ที่อ่านบทอ่านจากพระคัมภีร์) รูปปั้นหรือรูปภาพต่าง ๆ ไม่ได้ใช้ในพิธีบูชาขอบพระคุณ ก็อย่างที่แนวคิดการออกแบบของวัดแห่งนี้เป็นแบบสมัยใหม่ ซึ่งต้องการความเรียบ ๆ รูปปั้นจึงไม่ได้เข้ามาอยู่ในองค์ประกอบของวัดแห่งนี้ ส่วนกางเขนสีแดงนั้น ก็อยู่ด้านนอก มีกระจกใสกั้น จึงไม่ได้อยู่ในส่วนของสักการสถาน เมื่อประกอบพิธีกรรมก็จึงจะต้องมีกางเขนอีก 1 อันซึ่งมีองค์พระเยซูถูกตรึงอยู่ตั้งอยู่บนหรือใกล้ ๆ พระแท่น
ไม่ทราบว่าที่วัดมีรูป 14 ภาค สำหรับใช้เดินรูปหรือเปล่า ถ้ายังก็เดาได้ 2 กรณี คือ ยังไม่ได้เอามาติดเพราะช่างยังทำไม่เสร็จ หรือ อาจจะตั้งใจไม่ติดไว้ในวัด บางทีอาจจะมีโครงการทำไว้ภายนอกสำหรับเดินรูปข้างนอกตัววัด เพราะว่ามีบริเวณรอบๆ เหลืออยู่มาก จริง ๆ แล้วการเดินรูป 14 ภาคก็ไม่ใช่พิธีกรรม แต่เป็นกิจศรัทธาเช่นเดียวกับการสวดสายประคำ ซึ่งจะทำที่ไหนก็ได้ ที่จริงการเดินรูปข้างนอกวัด สัตบุรุษจะได้มีส่วนร่วมเดินไปด้วย ดีกว่าทำในวัดที่ทำได้แค่ยืนและคุกเข่าในที่ของตนเอง
http://www.kaochristian.com/2011/06/3_22.html
สำหรับผมเอง ก็ติดตามข่าวการสร้างวัดแห่งนี้มาบ้าง เพราะรู้จักผู้ใหญ่บางท่านที่ให้คำปรึกษาแก่ทีมออกแบบของวัดแห่งนี้ ผมจึงเข้าใจว่าทำไมวัดนี้จึงออกมาในแบบนี้
สำหรับคำถามที่ว่า "ทำไมมีมีรูปพระเลย"... ผมคิดว่าหน้าที่หลักของวัดคือ ใช้ประกอบพิธีบูชาขอพระคุณ ส่วนประกอบหรือเครื่องใช้สำหรับพิธีบูชาขอบพระคุณก็มีเพียง พระแท่น บรรณฐาน(ที่อ่านบทอ่านจากพระคัมภีร์) รูปปั้นหรือรูปภาพต่าง ๆ ไม่ได้ใช้ในพิธีบูชาขอบพระคุณ ก็อย่างที่แนวคิดการออกแบบของวัดแห่งนี้เป็นแบบสมัยใหม่ ซึ่งต้องการความเรียบ ๆ รูปปั้นจึงไม่ได้เข้ามาอยู่ในองค์ประกอบของวัดแห่งนี้ ส่วนกางเขนสีแดงนั้น ก็อยู่ด้านนอก มีกระจกใสกั้น จึงไม่ได้อยู่ในส่วนของสักการสถาน เมื่อประกอบพิธีกรรมก็จึงจะต้องมีกางเขนอีก 1 อันซึ่งมีองค์พระเยซูถูกตรึงอยู่ตั้งอยู่บนหรือใกล้ ๆ พระแท่น
ไม่ทราบว่าที่วัดมีรูป 14 ภาค สำหรับใช้เดินรูปหรือเปล่า ถ้ายังก็เดาได้ 2 กรณี คือ ยังไม่ได้เอามาติดเพราะช่างยังทำไม่เสร็จ หรือ อาจจะตั้งใจไม่ติดไว้ในวัด บางทีอาจจะมีโครงการทำไว้ภายนอกสำหรับเดินรูปข้างนอกตัววัด เพราะว่ามีบริเวณรอบๆ เหลืออยู่มาก จริง ๆ แล้วการเดินรูป 14 ภาคก็ไม่ใช่พิธีกรรม แต่เป็นกิจศรัทธาเช่นเดียวกับการสวดสายประคำ ซึ่งจะทำที่ไหนก็ได้ ที่จริงการเดินรูปข้างนอกวัด สัตบุรุษจะได้มีส่วนร่วมเดินไปด้วย ดีกว่าทำในวัดที่ทำได้แค่ยืนและคุกเข่าในที่ของตนเอง
ถึงจะไม่มีรูปพระและนักบุญต่างๆ แต่ผมว่าที่สำคัญที่สุด มันอยู่ที่จิตใจและความรักในการร่วมถวายบูชามิสซามากกว่า ชื่ออาคารหรือสิ่งก่อสร้างทางโลกครับ การเขียนชื่อบุคคลที่บริจาคที่อาคารต่างๆ
(ถามว่าถ้าสักวันคุณมีโอกาสทำบุญบริจาคสร้างวัดได้คุณก็อาจ อยากจะบันทึกชื่อคุณให้ลูกหลานคุณเห็นเป็นตัวอย่างที่ดีก็เป็นได้ครับ)
ผู้ที่บริจาคเงินสร้างวัด มุมมองอาจจะมองต่างจากเราครับ แต่ละคนก็มีมุมมองต่างกันไปครับ
ถ้ามองเป็นการให้คนอื่นเอาเป็นตัวอย่าง แข่งกันสร้างวัดแข่งกันทำความดี ผมว่าก็ดีนะครับ การที่มีคนทำบุญสร้างวัดก็ดี มีคนบริจาคที่ก็ดี ล้วนเป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้น อย่าไปพ้อ หรือต่อว่ากันเลยครับ
รักกันไว้ดีกว่าครับ ผลงานหรือกิจการที่ดีทุกอย่างล้วนมาจากพระพร ของพระเจ้าทั้งนั้นครับ
(ถามว่าถ้าสักวันคุณมีโอกาสทำบุญบริจาคสร้างวัดได้คุณก็อาจ อยากจะบันทึกชื่อคุณให้ลูกหลานคุณเห็นเป็นตัวอย่างที่ดีก็เป็นได้ครับ)
ผู้ที่บริจาคเงินสร้างวัด มุมมองอาจจะมองต่างจากเราครับ แต่ละคนก็มีมุมมองต่างกันไปครับ
ถ้ามองเป็นการให้คนอื่นเอาเป็นตัวอย่าง แข่งกันสร้างวัดแข่งกันทำความดี ผมว่าก็ดีนะครับ การที่มีคนทำบุญสร้างวัดก็ดี มีคนบริจาคที่ก็ดี ล้วนเป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้น อย่าไปพ้อ หรือต่อว่ากันเลยครับ
รักกันไว้ดีกว่าครับ ผลงานหรือกิจการที่ดีทุกอย่างล้วนมาจากพระพร ของพระเจ้าทั้งนั้นครับ
รูปพระรูปนักบุญต่างๆที่ไม่มีผมก็ว่าไม่เห็นเป็นไร แต่อย่างน้อยวัดคาทอลิก บนไม้กางเขนควรจะมีองค์พระเยซูประทับอยู่บนนั้น ถ้ากางเขนอันใหญ่ไม่มีองค์พระเยซูบนไม้กางเขน ก็ควรมีอันเล็กขนาดเท่าฝ่ามือก็ยังดี มีไว้แขวนฝนั่งด้านใดด้านหนึ่งบนพระแท่น แต่วัดนี้ไม่มีเลยครับ และก็ควรมีอ่างจุ่มน้ำเสกตรงประตูทางเข้าs.gabriel เขียน:ถึงจะไม่มีรูปพระและนักบุญต่างๆ แต่ผมว่าที่สำคัญที่สุด มันอยู่ที่จิตใจและความรักในการร่วมถวายบูชามิสซามากกว่า ชื่ออาคารหรือสิ่งก่อสร้างทางโลกครับ การเขียนชื่อบุคคลที่บริจาคที่อาคารต่างๆ
(ถามว่าถ้าสักวันคุณมีโอกาสทำบุญบริจาคสร้างวัดได้คุณก็อาจ อยากจะบันทึกชื่อคุณให้ลูกหลานคุณเห็นเป็นตัวอย่างที่ดีก็เป็นได้ครับ)
ผู้ที่บริจาคเงินสร้างวัด มุมมองอาจจะมองต่างจากเราครับ แต่ละคนก็มีมุมมองต่างกันไปครับ
ถ้ามองเป็นการให้คนอื่นเอาเป็นตัวอย่าง แข่งกันสร้างวัดแข่งกันทำความดี ผมว่าก็ดีนะครับ การที่มีคนทำบุญสร้างวัดก็ดี มีคนบริจาคที่ก็ดี ล้วนเป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้น อย่าไปพ้อ หรือต่อว่ากันเลยครับ
รักกันไว้ดีกว่าครับ ผลงานหรือกิจการที่ดีทุกอย่างล้วนมาจากพระพร ของพระเจ้าทั้งนั้นครับ
ผมเข้าใจว่าคนออกแบบต้องการออกแบบให้เป็นสมัยใหม่ และก็เข้าใจอีกด้วยว่า รูปปั้นรูปนักบุญไม่จำเป็นต้องมีเพื่อใช้ทำพิธีสักการะ จริงๆแล้วไม่ต้องสร้างกางเขนขึ้นมาเลยก็ได้ แต่เมื่อสร้างวัดขึ้นมาแล้ว สร้างกางเขนขึ้นมาแล้ว ก็สร้างให้มันถูกต้องตามธรรมเนียมคาทอลิกหน่อยไม่ได้เชียวหรือ
อาจจะเป็นเพราะเราเห็นวัดหลักของเรา(เซนต์นิโคลัสพัทยา) มีรูปพระรูปแม่พระและนักบุญห้อมล้อม รู้สึกอบอุ่นเมื่อได้มาวัด แต่วัดใหม่เรา ในส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่างเปล่า เหงา โดดเดี่ยว ไม่อบอุ่นเหมือนที่วัดหลักหรือวัดแห่งอื่น ผมคงยังคงปรับตัวไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลงผิดแปลกแวกแนวกับวัดแห่งใหม่นี้ แต่คงจะชินไปเองในไม่ช้า
เรื่องติดชื่อผู้บริจาคบนตัวอาคาร ผมแค่รู้สึกว่า วัดคาทอลิกเราแห่งใหม่หลังนี้ มันเหมือนวัดพุทธมากไปหน่อย คุณนึกภาพออกมั้ย เวลาคุณเดินเข้าไปวัดพุทธ คุณจะเห็นรายนามผู้บริจาคสร้างถวายตัวใหญ่ติดอยู่ตามต้นเสา ประตูหน้าต่างของศาลาวัด ไม่เว้นแม้แต่หม้อ จาน ชาม ช้อน แก้วน้ำ ล้วนแล้วแต่มีรายนามผู้บริจาคติดอยู่ทั่วเต็มไปหมด เพื่อประกาศให้โลกรู้ว่า นี่ข้าบริจาคเองนะ อารมณ์ของผมประมาณนั้นเลย เพราะวัดคาทอลิก บอกตามตรงว่าผมยังไม่เคยเห็นที่ไหนประกาศโจ่งแจ้งขนาดเอาชื่อบริษัทตัวเองมาตั้งเป็นชื่ออาคาร
ถ้าคุณถามผมว่า ถ้ามีโอกาศทำบุญบริจาคแบบนี้ ผมจะเขียนชื่อตัวเองลงไปมั้ย ผมขอตอบคุณอย่างหนักแน่นว่า ไม่มีวันครับ เพราะผมเป็นคริสต์ ผมเลือกที่จะทำตามพระวาจาของพระเจ้าครับ
มธ.6:2 เหตุฉะนั้น เมื่อท่านทำทาน อย่าเป่าแตรข้างหน้าท่านเหมือนคนหน้าซื่อใจคดกระทำในธรรมศาลาและตามถนน เพื่อจะได้รับการสรรเสริญจากมนุษย์ เราบอกความจริงแก่ท่านว่า เขาได้รับบำเหน็จของเขาแล้ว
ผมไม่ได้เกลียดแค้นชิงชังผู้สร้างหรือผู้บริจาคท่านไหนเป็นการส่วนตัว ตรงกันข้ามผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีผู้สนใจสร้างวัดให้เราชาวคริสต์ แต่กระนั้น ต้องอยู่บนความถูกต้องและความเหมาะสมของวัดคาทอลิกต้นแบบ
ในฐานะผมเป็นคนพื้นที่ของวัดนี้ (อยู่ซอยเนินพลับหวาน) ตื่นเต้นดีใจที่มีวัดใหม่ใกล้บ้าน และจะใช้วัดแห่งนี้แทนวัดหลักไปอีกนานแสนนาน การที่ผมติติงและวิจารย์ก็เป็นเพียงความเห็นและคำแนะนำผู้ที่จะใช้วัดแห่งนี้ไปตลอดชีวิตก็เท่านั้น ผมติเพื่อก่อครับ
แต่ก็เอาเถอะ เสียงบ่นของผมคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอก ต่อไปนี้ก็คงจะปรับตัวให้ชินกับวัดใหม่ให้ได้ อาจจะใช้เวลาหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไร
แก้ไขล่าสุดโดย Kenneth เมื่อ จันทร์ พ.ย. 21, 2011 7:08 pm, แก้ไขไปแล้ว 3 ครั้ง.
ขอยืนยันว่าไม่มีนะครับ อันเล็กอันใหญ่ก็ไม่มีทั้งนั้นครับ ทั้งวัดนอกจากกางเขนเปล่าสีแดงอันใหญ่ที่อยู่หลังกระจกใสนั่น ก็ไม่มีที่ไหนอีกเลยAndreas เขียน: เมื่อประกอบพิธีกรรมก็จึงจะต้องมีกางเขนอีก 1 อันซึ่งมีองค์พระเยซูถูกตรึงอยู่ตั้งอยู่บนหรือใกล้ ๆ พระแท่น
อ้าวKenneth เขียน:ขอยืนยันว่าไม่มีนะครับ อันเล็กอันใหญ่ก็ไม่มีทั้งนั้นครับ ทั้งวัดนอกจากกางเขนเปล่าสีแดงอันใหญ่ที่อยู่หลังกระจกใสนั่น ก็ไม่มีที่ไหนอีกเลยAndreas เขียน: เมื่อประกอบพิธีกรรมก็จึงจะต้องมีกางเขนอีก 1 อันซึ่งมีองค์พระเยซูถูกตรึงอยู่ตั้งอยู่บนหรือใกล้ ๆ พระแท่น
แนวทางการออกแบบโบสถ์ พระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพิธีกรรม
-กำหนดบุคคล (นายช่าง) และเลือกรูปแบบผลงานศิลปะสำหรับโบสถ์ให้เหมาะสม เพื่อหล่อเลี้ยงความเชื่อและความศรัทธา (กฎทั่วไปสำหรับพิธีบูชาขอบพระคุณ ตามจารีตโรมัน ข้อ 289)
-อาสนวิหารและโบสถ์ จะต้องได้รับการเสกอย่างสง่า (กฎทั่วไปสำหรับพิธีบูชาขอบพระคุณ ตามจารีตโรมัน ข้อ 290)
กางเขนประจำพระแท่นใหญ่ (Altar Cross)
“จะต้องจัดให้มีกางเขนอันหนึ่งที่ประชาสัตบุรุษสามารถมองเห็นได้ชัดเจน อาจจะวางบนพระแท่น หรือใกล้เคียงพระแท่น” (GIRM 270) พระรูปบนกางเขนนั้นจะถ่ายทอดความสัมพันธ์ระหว่างการบูชาบนพระแท่น และการถวายบูชาขององค์พระเยซูเจ้า และเพื่อไม่ให้กางเขนนี้บทบังพิธีบูชาขอบพระคุณ จึงกำชับให้ตั้งกางเขนนี้ไว้นอกพระแท่น หลักเกณฑ์นี้ประยุกต์ใช้กับเชิงเทียนด้วย ซึ่งอาจจัดวางไว้บนพระแท่น หรือเรียงรายรอบพระแท่น โดยมิให้บดบังการมองเห็นพิธีกรรมของผู้ร่วมพิธี (GIRM 269)
ในโบสถ์แห่งใดที่มีกางเขนใหญ่แขวนไว้ ณ ผนังหลังพระแท่น (Apse) หรือแขวนลอยไว้เหนือพระแท่น หรือนำกางเขนแห่มาปักไว้ข้างพระแท่นแล้ว ก็ไม่ต้องมีกางเขนอื่นใดภายในบริเวณพระแท่นอีก (สภาพระสังฆราชฟิลิปปินส์ 65)
ในหนังสือพิธีเสกมีข้อกำชับให้ใช้ไม้เป็นวัสดุทำกางเขนประจำพระแท่นใหญ่ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้เราระลึกถึง “ไม้” ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ได้ถูกตอกตรึงอยู่บนนั้น และยังกำชับให้ยึดองค์พระเยซูติดไว้กับกางเขนด้วย (หนังสือบทเสกและอวยพร บทที่ 28 ข้อ 962) ในสมัยต้นๆ และสมัยกลางมีประเพณีปฏิบัติในการแต่งองค์พระคริสตเจ้าผู้ถูกตรึงกางเขนด้วยอาภรณ์แบบสงฆ์ หรืออาภรณ์อื่นที่แสดงถึงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์
การถือปฏิบัติในการแขวน “องค์พระเยซูเจ้า”ผู้ถูกตรึงโดยไม่มีกางเขนรองรับ เป็นการสูญเสียความหมายของสื่อศิลปกรรม เราพึงต้องระลึกไว้เสมอว่า ประเด็นสำคัญในเรื่องนี้ไม่ใช่ “องค์พระ” แต่ประเด็นหลักสำคัญคือ “กางเขน” พระรูปของพระเยซูผู้กลับคืนพระชนมชีพที่ประดิษฐานไว้บนผนังหลังท่าน (Apse) โดยไม่มีไม้กางเขนอยู่เบื้องหลังหรือด้านข้าง ไม่เป็นการเพียงพอ จำเป็นจะต้องจัดให้มีกางเขนอื่นอีก 1 อันประดิษฐานไว้ในบริเวณพระแท่น
อ่างน้ำเสก (Holy Water Font)
อ่างน้ำเสกเตือนให้ระลึกถึง อ่างล้างบาป และน้ำเสกที่สัตบุรุษใช้ทำเครื่องหมายกางเขนบนตนเองนั้น เป็นการเตือนใจให้ระลึกถึงศีลล้างบาปที่เราได้รับ ด้วยเหตุนี้เองที่อ่างน้ำเสกจึงติดตั้งไว้ตรงทางเข้าโบสถ์ นอกจากนี้ยังกำชับให้ใช้วัสดุเดียวกัน มีรูปแบบและรูปทรงสอดคล้องกับอ่างล้างบาปด้วย
แต่อ่างน้ำเสกผมก็ไม่เห็นเหมือนกันครับ คิดว่าอาจจะสั่งทำพิเศษหรือสั่งมาจากเมืองนอกรึเปล่า
แล้วยังไม่เสร็จรึเปล่าคิด+นะครับ แต่ถ้าไม่มีจริงๆผมก็ว่าแปลกๆอยู่ครับ โดยปรกติเราคริสต์ชนเวลาเข้าหรือออกจากวัด ต้องจุ่มน้ำเสกทำสำคัญมหากางเขนกันทุกครั้ง ถ้าไม่มีจริงๆคนที่ไปวัดที่นั่นประจำก็บอกคุณพ่อเจ้าวัดเลยครับ
แล้วยังไม่เสร็จรึเปล่าคิด+นะครับ แต่ถ้าไม่มีจริงๆผมก็ว่าแปลกๆอยู่ครับ โดยปรกติเราคริสต์ชนเวลาเข้าหรือออกจากวัด ต้องจุ่มน้ำเสกทำสำคัญมหากางเขนกันทุกครั้ง ถ้าไม่มีจริงๆคนที่ไปวัดที่นั่นประจำก็บอกคุณพ่อเจ้าวัดเลยครับ
ใช่ครับ ผมเดินดูทั่วหมดแล้ว ไม่พบอ่างน้ำเสกจริงๆ วันอาทิตย์หน้าผมจะเข้าไปดูอีกครั้งว่ามีแล้วหรือยังs.gabriel เขียน:แต่อ่างน้ำเสกผมก็ไม่เห็นเหมือนกันครับ คิดว่าอาจจะสั่งทำพิเศษหรือสั่งมาจากเมืองนอกรึเปล่า
แล้วยังไม่เสร็จรึเปล่าคิด+นะครับ แต่ถ้าไม่มีจริงๆผมก็ว่าแปลกๆอยู่ครับ โดยปรกติเราคริสต์ชนเวลาเข้าหรือออกจากวัด ต้องจุ่มน้ำเสกทำสำคัญมหากางเขนกันทุกครั้ง ถ้าไม่มีจริงๆคนที่ไปวัดที่นั่นประจำก็บอกคุณพ่อเจ้าวัดเลยครับ
ถ้าไม่มีอีกจะลองถามคุณพ่อดูว่าสรุปแล้วจะมีไหม
จริงๆแล้วก่อนจะทำพิธีเปิดวัดใหม่ ก็น่าจะเตรียมสิ่งสำคัญเหล่านี้ให้พร้อมก่อน มันเป็นสิ่งเล็กน้อยก็จริง แค่อ่างน้ำเสก แต่มันสำคัญกับชีวิตคริสตัง ไม่งั้นก็คงเรียกว่าวัดคาทอลิกไม่ได้
บางที่สิ่งของต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในวัดอาจจะยังมาไม่ครบ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องน้ำท่วมที่อื่น ก็เหมือน 7/11 สินค้าหลายๆ อย่างก็ขาดหายไป ผมเดาเอานะครับ ที่จริงเดือนนี้จะต้องมีเสกวัดประจำอารามกาปูชิน บ้านโป่ง ก็ยังต้องเลื่อนไปเป็นปีหน้าเลย ยังไงก็สอบถามคุณพ่อเจ้าวัด บางทีสิ่งที่ยังไม่มีอาจจะรอคนมาร่วมถวายให้ก็ได้ครับ
-
- โพสต์: 954
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.พ. 12, 2011 11:04 pm
เพลงนี้ครับ บนไม้กางเขนข้าเห็นพระองค์ทรงพลีชนเพื่อเรา
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
อย่าให้เรื่องพระวิหาร หรือสิ่งที่ประดับประดา เป็นอุปสรรคในการนมัสการพระเจ้า
เพราะว่า "เราต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณ และความจริง"
"พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ และผู้ที่นมัสการพระองค์ ต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณ และความจริง" (ยอห์น 4:24)
******************
คงคล้ายๆศตวรรษที่ 16 ที่ นักบุญอิกญาซิโอ แห่งโลโยล่า (ผู้ก่อตั้งคณะเยสุอิต)
ได้ปรับปรุงศาสนสถาน เพราะช่วงนั้นคริสตชนลุ่มหลงอยู่กับการกราบไหว้ สิ่งอื่นๆ
ไม่ได้นมัสการพระเจ้าองค์เที่ยงแท้ ซึ่งการทำการปรับปรุงของ น.อิกญาซิโอแห่งโลโยล่า
เป็นการปฏิรูปด้านจิตวิญญาณ ....เพราะกระแสตอนนั้น อดีตบาทหลวง มาร์ติน ลูเธอร์
ยื่นข้อประท้วง 95 ข้อเพื่อปฏิรูปพระศาสนจักร จนกลายเป็นปฏิวัติ ไปเลย
เพราะว่า "เราต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณ และความจริง"
"พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ และผู้ที่นมัสการพระองค์ ต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณ และความจริง" (ยอห์น 4:24)
******************
คงคล้ายๆศตวรรษที่ 16 ที่ นักบุญอิกญาซิโอ แห่งโลโยล่า (ผู้ก่อตั้งคณะเยสุอิต)
ได้ปรับปรุงศาสนสถาน เพราะช่วงนั้นคริสตชนลุ่มหลงอยู่กับการกราบไหว้ สิ่งอื่นๆ
ไม่ได้นมัสการพระเจ้าองค์เที่ยงแท้ ซึ่งการทำการปรับปรุงของ น.อิกญาซิโอแห่งโลโยล่า
เป็นการปฏิรูปด้านจิตวิญญาณ ....เพราะกระแสตอนนั้น อดีตบาทหลวง มาร์ติน ลูเธอร์
ยื่นข้อประท้วง 95 ข้อเพื่อปฏิรูปพระศาสนจักร จนกลายเป็นปฏิวัติ ไปเลย
ก็มีกางเขนอยู่ข้าง ๆ นะครับKenneth เขียน:ขอยืนยันว่าไม่มีนะครับ อันเล็กอันใหญ่ก็ไม่มีทั้งนั้นครับ ทั้งวัดนอกจากกางเขนเปล่าสีแดงอันใหญ่ที่อยู่หลังกระจกใสนั่น ก็ไม่มีที่ไหนอีกเลยAndreas เขียน: เมื่อประกอบพิธีกรรมก็จึงจะต้องมีกางเขนอีก 1 อันซึ่งมีองค์พระเยซูถูกตรึงอยู่ตั้งอยู่บนหรือใกล้ ๆ พระแท่น
ถูกต้องแล้วครับ กางเขนที่เห็นสำหรับไว้ใช้ในพิธีแห่ พอมิสซาเสร็จก็แห่กลับไปเก็บไว้ ไม่ได้เอาออกมาตั้งไว้ตลอดครับ สำหรับกางเขนที่ประดิษฐานประจำวัด ขอยืนยันว่าไม่มีครับs.gabriel เขียน:กางเขนแห่เข้ามาตอนเริ่มพิธีกรรม แล้วมาเสียบไว้ที่ฐานข้างพระแท่น แต่มิสซาปรกติไม่ได้มีฉลองพิเศษ คาดว่าไม่น่าจะมีกางเขนมาตั้งไว้ตลอดครับ เพราะกางเขนที่มาเสียบไว้ตรงนั้น ปรกติจะใช้เวลามีแห่ครับ
สิ่งที่ผมไม่เห็นด้วย ไม่ใช้เพราะผมต้องการสิ่งกราบไหว้ ไม่ได้ใส่ใจเรื่องความงดงามประดับประดาด้วยเพชรนิลจิลดา ถึงไม่มีพระเยซูบนไม้กางเขนถูกตรึงกางเขน ผมก็ยังต้องไปวัดแห่งนี้เพื่อร่วมมิสซาอยู่ดีJeab Agape เขียน:อย่าให้เรื่องพระวิหาร หรือสิ่งที่ประดับประดา เป็นอุปสรรคในการนมัสการพระเจ้า
เพราะว่า "เราต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณ และความจริง"
"พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ และผู้ที่นมัสการพระองค์ ต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณ และความจริง" (ยอห์น 4:24)
******************
คงคล้ายๆศตวรรษที่ 16 ที่ นักบุญอิกญาซิโอ แห่งโลโยล่า (ผู้ก่อตั้งคณะเยสุอิต)
ได้ปรับปรุงศาสนสถาน เพราะช่วงนั้นคริสตชนลุ่มหลงอยู่กับการกราบไหว้ สิ่งอื่นๆ
ไม่ได้นมัสการพระเจ้าองค์เที่ยงแท้ ซึ่งการทำการปรับปรุงของ น.อิกญาซิโอแห่งโลโยล่า
เป็นการปฏิรูปด้านจิตวิญญาณ ....เพราะกระแสตอนนั้น อดีตบาทหลวง มาร์ติน ลูเธอร์
ยื่นข้อประท้วง 95 ข้อเพื่อปฏิรูปพระศาสนจักร จนกลายเป็นปฏิวัติ ไปเลย
และคาทอลิกทุกคนก็เข้าใจดีว่ารูปพระเยซูถูกตรึงกางเขนไม่ได้เพื่อกราบไว้สักการะ แต่มีไว้เพื่อเตือนใจว่าพระเยซูถูกตรึงกางเขนตายเพื่อเราคนบาป สิ่งที่ประดับประดาไม่ได้เป็นอุปสรรคของพิธีมิสซา หรือมีความหมายต่อเราคาทอลิกมาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่ผมเห็นว่าแปลกคือ วัดนี้ค่อนข้างแปลกไปจากวัดคาทอลิกทั่วโลก สัญลักษ์ของคาทอลิกได้หายไป แม้แต่อ่างน้ำเสกก็หายไป คาทอลิกกำลังจะกลายพันธ์ไปเป็นอย่างอื่น ผมภูมิใจในความเป็นคาทอลิก ผมแค่อยากให้วัดคาทอลิกเป็นคาทอลิกเต็มตัวก็เท่านั้น
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
http://www.chanmedia.net/images/2011/ne ... /index.htm เพิ่มเติมรูปจ้า
-
- โพสต์: 48
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ย. 17, 2010 5:06 pm
ความเชื่อของพวกเราโดยเฉพาะคาทอลิค ปัจจุบันนี้เพี้ยนไปมาก ดั่งเช่นหลายกระทู้ข้างบน ลองไปดูพี่น้องคริสเตียนสิ พวกเขาเน้นปฏิบัติตามพระคัมภีร์มากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก พวกเราอยากเป็น นบ โทมัส หรือ ที่จะเชื่อก็ต่อเมื่อได้เอานิ้วแยงที่สีข้างพระเยซู
คุณก็ต้องไปบอกคุณพ่อเจ้าวัดให้เอาไม้กางเขนแห่นี้ มาตั้งไว้ข้างพระแท่น เหมือนกับที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ ก็ใช้กางเขนแห่นี่แหละตั้งไว้ข้างพระแท่นตลอดเวลา แม้ในเวลาที่ไม่มีมิสซาก็ตาม ส่วนอ่างน้ำเสก คุณก็บอกคุณพ่อเจ้าวัดให้ขอบริจาคสิครับ เพราะควรจะต้องมีไว้ที่หน้าประตูKenneth เขียน:ถูกต้องแล้วครับ กางเขนที่เห็นสำหรับไว้ใช้ในพิธีแห่ พอมิสซาเสร็จก็แห่กลับไปเก็บไว้ ไม่ได้เอาออกมาตั้งไว้ตลอดครับ สำหรับกางเขนที่ประดิษฐานประจำวัด ขอยืนยันว่าไม่มีครับs.gabriel เขียน:กางเขนแห่เข้ามาตอนเริ่มพิธีกรรม แล้วมาเสียบไว้ที่ฐานข้างพระแท่น แต่มิสซาปรกติไม่ได้มีฉลองพิเศษ คาดว่าไม่น่าจะมีกางเขนมาตั้งไว้ตลอดครับ เพราะกางเขนที่มาเสียบไว้ตรงนั้น ปรกติจะใช้เวลามีแห่ครับ
ผมกำลังพูดถึงกางเขนแบบประดิษฐานฐาถาวรครับAndreas เขียน:คุณก็ต้องไปบอกคุณพ่อเจ้าวัดให้เอาไม้กางเขนแห่นี้ มาตั้งไว้ข้างพระแท่น เหมือนกับที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ ก็ใช้กางเขนแห่นี่แหละตั้งไว้ข้างพระแท่นตลอดเวลา แม้ในเวลาที่ไม่มีมิสซาก็ตาม ส่วนอ่างน้ำเสก คุณก็บอกคุณพ่อเจ้าวัดให้ขอบริจาคสิครับ เพราะควรจะต้องมีไว้ที่หน้าประตูKenneth เขียน:ถูกต้องแล้วครับ กางเขนที่เห็นสำหรับไว้ใช้ในพิธีแห่ พอมิสซาเสร็จก็แห่กลับไปเก็บไว้ ไม่ได้เอาออกมาตั้งไว้ตลอดครับ สำหรับกางเขนที่ประดิษฐานประจำวัด ขอยืนยันว่าไม่มีครับs.gabriel เขียน:กางเขนแห่เข้ามาตอนเริ่มพิธีกรรม แล้วมาเสียบไว้ที่ฐานข้างพระแท่น แต่มิสซาปรกติไม่ได้มีฉลองพิเศษ คาดว่าไม่น่าจะมีกางเขนมาตั้งไว้ตลอดครับ เพราะกางเขนที่มาเสียบไว้ตรงนั้น ปรกติจะใช้เวลามีแห่ครับ
สิ่งเหล่านี้ผมคงไม่กล้าไปให้คำแนะนำคุณพ่อเจ้าวัดหรอกนะครับ ผมเป็นแค่สัตบุรุสตัวเล็กๆ
เรื่องพวกนี้ คุณพ่อที่เป็นพระสงฆ์ควรจะรู้อยู่แล้วว่าจะทำอะไรหรือไม่ทำอะไร อยู่ที่ว่าจะทำให้มันถูกต้องหรือเปล่าแค่นั้นเอง
เพียนที่ว่า เพียนอย่างไร อธิบายให้เข้าใจ ผมแค่บ่นเรื่องไม้กางเขนไม่มีรูปพระเยซูถูกตรึงกางเขน ก็แค่นั้น โปรดอ่านความเห็นของผมให้ชัดว่าจุดประสงค์ของผมที่บ่นๆอยู่นี่คืออะไร ผมไม่ได้จะเรียกร้องให้ติดองค์พระเยซูบนไม้กางเขนเพื่อเอาไว้กราบไว้บูชา ผมแค่ต้องการให้แสดงสัญลักษ์คาทอลิกออกมาให้หมดguillotine เขียน:ความเชื่อของพวกเราโดยเฉพาะคาทอลิค ปัจจุบันนี้เพี้ยนไปมาก ดั่งเช่นหลายกระทู้ข้างบน ลองไปดูพี่น้องคริสเตียนสิ พวกเขาเน้นปฏิบัติตามพระคัมภีร์มากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก พวกเราอยากเป็น นบ โทมัส หรือ ที่จะเชื่อก็ต่อเมื่อได้เอานิ้วแยงที่สีข้างพระเยซู
จุดประสงค์ของผมคือ ผมต้องการวัดคาทอลิกเต็มตัว ไม่ใช่วัดลูกครึ่ง วัดนี้ต้องเรียกชื่อใหม่ว่า
วัดคาทอแตนส์หรือเปล่า (คาทอลิก+โปรเตสแตนส์) วัดคาทอลิกทั่วไปเป็นอย่างไร ก็ขอให้เป็นแบบนั้นตลอดไป
เราคาทอลิกก็เน้นการปฏิบัติตามพระวาจาในพระคัมภีร์เฉกเช่นพี่น้องคริสเตียนอยู่แล้ว แตกต่างตรงไหน อธิบายมาลองไปดูพี่น้องคริสเตียนสิ พวกเขาเน้นปฏิบัติตามพระคัมภีร์มากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก
แล้วคาทอลิกไม่เชื่อเหรอ ? เราก็เชื่อกันกันทุกคน คุณกำลังพูดเรื่องอะไรที่จะเชื่อก็ต่อเมื่อได้เอานิ้วแยงที่สีข้างพระเยซู