สารจากพระบิดาถึงคุณพ่อมิเชล ตอนที่ (13-24)

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6036
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ พ.ค. 03, 2024 9:50 pm

🌼~ Why Fr. Michael Rodrigue? สารจากพระบิดา ถึง คุณพ่อมิเชล  โรดริกย์
และคำเตือนแห่งยุคสุดท้าย ~🌼
👉 ตอนที่ (13)👈
🔥--- คำเตือน ช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก และศาสนจักรที่กำลังจะกลายเป็นหลุมศพ (1) ---🔥
          ประมาณสองอาทิตย์ก่อนเทศกาลคริสต์มาส พ่อพูดกับพระเจ้าว่า
"พระบิดา หากพระองค์อยากส่งสารมาให้ลูกในปีนี้ ลูกพร้อมที่จะรับฟัง และทำตามพระประสงค์
ของพระองค์" ในวันที่ 3 มกราคม ค.ศ. 2019 พ่อได้รับสารตอนที่พ่อกำลังเดินกลับบ้านพัก สารของ
พระองค์ส่งมาถึงพ่อเหมือนกับสายฟ้าที่พุ่งผ่านในดวงใจของพ่อ พระบิดาเจ้าตรัสว่า
"ลูกเอ๋ย ลูกจะได้รับสารในปีนี้ แต่ไม่ได้รับจากเรา เราให้ทูตสวรรค์ มีคาแอล ส่งสารให้แก่ลูก"

พ่อรู้สึกได้ถึงความเมตตากรุณาในคำพูดของพระองค์ที่ใช้สื่อสารกับพ่อ ซึ่งเป็นเรื่องที่หนักพระทัย
พระองค์อย่างยิ่ง ที่จะเอ่ยถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น อัครเทวดามีอาแอลกล่าวแก่พ่อว่า

มิเชล ท่านได้ใช้นามของเราตั้งแต่วันที่ท่านรับศีลล้าง ซึ่งท่านได้ทำพิธีที่โบสถ์อัครเทวดามีคาแอล
ของเขตชุมชนวัด (the parish church of St. Michael) เราและท่านจึงผูกสัมพันธ์ตามพระประสงค์ของ
พระบิดา และพระโลหิตอันล้ำค่าของพระเยซูเจ้า ผู้ช่วยโลกให้รอดพ้นจากบาปร้าย โดยอาศัยพระกาย
ของพระเยซูคริสตเจ้า อันเป็นพระศาสนาจักรของชาวคาทอลิก พวกเรารับใช้พระผู้ไถ่เพียงพระองค์เดียว

ในตอนนั้น พ่อเห็นต้นไม้ซึ่งเป็นตัวแทนของศาสนจักร ที่แตกกิ่งก้านของคริสตชนนิกายต่างๆ ที่แบ่งแยก
ออกไป ส่วนลำต้นของต้นไม้นี้คือศาสนจักรคาทอลิก

เรามาหาท่านในฐานะผู้ส่งสารจากพระบิดาผู้ทรงพระชนมชีพอันเป็นนิรันดร ถึงภราดาแห่งคณะธรรมทูต
นักบุญโยเซฟ เบเนดิกต์ ลาแบร์ และทุกคนที่ได้ยินเสียงเรียกนี้

จากนั้นอัครเทวดามีอาแอลก็ได้ถ่ายทอดสารจากพระบิดาว่า

ที่ผ่านมาพระชนนีของพระเป็นเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งได้เชิญชวนเราหลายครั้ง ให้มนุษย์กลับตัวกลับใจ
เข้าหาพระเยซูคริสต์เจ้า พระบุตรของพระแม่

พระแม่มารีย์ได้ประจักษ์บนโลกมนุษย์หลายครั้ง โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันของศาสนจักร ได้แก่ เมืองฟาติมา
(Fatima) เมืองลูร์ด (Lourdes) เมืองปองต์แมน (Pontmain) ในประเทศฝรั่งเศส เมืองโบแรงก์ (Beauraing)
และเมืองบันเนอ (Banneux) ในประเทศเบลเยี่ยม และในเมืองเมดจูกอเรย์ (Medjugore) ซึ่งเป็นสถานที่
ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อย้ำเตือนให้มนุษย์กลับมาหาพระเยซูคริสตเจ้า พระแม่ของเรายังทรงประจักษ์ในเมืองการาบันดัล
(Garabandal) และตัวคุณพ่อเองก็ขอเชิญชวนให้พวกลูกอ่านสารที่พระแม่มอบให้ที่นั่น

การประจักษ์องค์ตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก ได้เปิดเผยว่าการกลับใจเข้าสู่พระศาสนจักรโดยอาศัยการ
รับศีลอภัยบาป สวดสายประคำ และการรับศีลมหาสนิทด้วยเจตจำนงอันซื่อตรงนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ สารมาก
มายหลายฉบับได้ส่งต่อไปยังมนุษย์ เพื่อเตือนถึงลัทธิคอมมิวนิสต์ และการกระทำอันต่ำช้าที่รุกรานสังคมและโลก

ในประวัติศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกาได้ประกาศว่า ลัทธิคอมมิวนิสต์เป็นอำนาจทางการเมืองที่ชั่วร้าย
ในปัจจุบันปีศาจไม่ได้ปะทะกันตัวต่อตัวในการต่อสู้ทางการเมืองเหมือนแต่ก่อน แต่ค่อยๆ นำอุดมการณ์ลัทธิ
คอมมิวนิสต์แทรกซึมในทุกๆ สังคม ทำให้มีกฎหมายสำหรับการทำการุญฆาต ผู้นำจะบอกให้พวกเราเก็บเงิน
แต่จริงๆ แล้ว ความคิดนี้มาจากแนวความคิดลัทธิคอมมิวนิสต์ที่ไม่ได้มองมนุษย์เป็นมนุษย์ แต่เป็นอุปกรณ์
ที่มีประโยชน์ต่อเครือจักรภพ และเมื่อพวกเขาหมดประโยชน์ก็จะถูกโยนทิ้ง

การทำผิดศีลธรรม และการดูหมิ่นของมนุษย์ที่ต่อต้านพระผู้เป็นเจ้า และชีวิตในทุกรูปแบบได้ทวีคูณ
เพิ่มมากขึ้น จนถึงขั้นที่ต้องมีการชำระล้าง

เป็นเรื่องยากสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้าที่จะบอกพ่อและทั่วโลก

จงอุทิศตนต่อพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระเยซูเจ้า และดวง
หทัยอันนิรมลของพระแม่มารีย์ใหม่อีกครั้ง ผู้ใดที่มีครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ และถ้ำประสูติของพระคริสตเจ้า
ในบ้านจะได้รับการปกป้อง จงรักษาดวงใจของเราให้มีชีวิตด้วยความทราบซึ้งในสิ่งอัศจรรย์ที่พระเป็นเจ้า
ประทานแก่เราในช่วงชีวิตนี้
ความมืดมนปกคลุมไปทั่วโลก และสายตาเด็กๆ ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะมองเห็นว่าบาปร้ายทำให้โลก
เป็นอย่างไรในเร็ววัน ดวงวิญญาณจะล่วงหล่นสู่นรก และพระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จลงมาหาประชากรของพระองค์
ผู้ที่อยู่ในสถานะพระหรรษทานจะได้รับการไถ่บาป ขอให้ผู้ที่ไม่ได้รับพิธีล้างร้องขอศีลล้างบาป เพื่อให้
พวกเขารอดพ้นอย่างที่ปรารถนา ขอให้ผู้ที่รับพิธีล้างได้กลับมามีสถานะพระหรรษทานอีกครั้ง หากพวกเขา
ไม่หลงทางอยู่ในบาปของตน จงมั่นใจว่าในปีนี้ท่านได้สารภาพบาปในสิ่งที่ท่านทำมาในช่วงชีวิต โดยการ
นำพระบัญญัติ 10 ประการเป็นแนวทางในการใช้ชีวิต และสารภาพบาปต่างๆ ที่ท่านได้ก่อ และได้ละเลยไป
จงอย่าหยุดสวดสายประคำ จงอธิษฐานตามพระวาจาของพระเจ้า จงถือศีลอดอาหาร หากท่านสามารถ
ทำได้ในวันพฤหัสบดี และวันศุกร์ เพื่อไถ่บาปให้กับเหล่าคนบาปทั้งหลาย เราขอย้ำเตือนพวกท่านในภราดร
แห่งคณะธรรมทูตโยเซฟ เบเนดิกต์ ลาแบร์ ว่า พระพรพิเศษในการเยียวยา และการปลดปล่อยต้องฝึกฝนจาก
การถือศีลอด และสวดภาวนาเป็นอย่างแรก
ถึงทุกคนเราขอกล่าวว่า "จงเชื่อฟังพระเป็นเจ้า" จงอย่าอ่อนไหวไปกับคำสอนเท็จเทียมของปีศาจ จงสวด
บทภาวนาให้เทวดาอารักขาผู้เป็นผู้พิทักษ์ และผู้ปกป้องของท่าน ในเวลานี้จงร้องขอความช่วยเหลือจากกองทัพ
ทูตสวรรค์ของท่าน ท่านจะได้เห็นอำนาจของพระเป็นเจ้าในยามอ่อนแอ เราและเหล่าเทวดาอยู่ที่นี่ เพื่อปกป้อง
และคุ้มครองท่านจากการผจญของของปีศาจ
พระพรจากพระบิดาและพระบุตรและพระจิตสถิตอยู่กับท่าน
ตั้งแต่วันนี้ไป วันเวลาแห่งการไถ่บาปของพระผู้เป็นเจ้ากำลังใกล้เข้ามา จงตื่นตัวเถิด ตอนนี้เราต้อง
สวดภาวนาพร้อมกับพระแม่มารีย์ให้มากขึ้น ให้เหล่าอัครสาวกยุคสุดท้ายที่จะเพิ่มขึ้น
ขอบคุณที่ตอบรับเสียงเรียกของพระเป็นเจ้า
อัครเทวดามีคาแอล

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6036
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ พ.ค. 03, 2024 10:02 pm

🌼~ Why Fr. Michael Rodrigue? สารจากพระบิดา ถึง คุณพ่อมิเชล  โรดริกย์
และคำเตือนแห่งยุคสุดท้าย ~🌼
👉 ตอนที่ (14)👈
🔥--- คำเตือน ช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก และศาสนจักรที่กำลังจะกลายเป็นหลุมศพ (2) ---🔥
          ช่วงเวลาที่ใกล้เข้ามาไม่ใช่จุดจบของโลกใบนี้ ได้โปรดจดจำเอาไว้ว่า วันที่กำลังใกล้เข้ามาคือ
จุดจบของยุคแห่งความวุ่นวายที่เราจะเผชิญ (คุณพ่อมิเชลเรียกยุคก่อนคำเตือนนี้ว่า
"ยุคเริ่มแห่งความทุกข์ยาก" และช่วงเวลาหลังคำเตือนเรียกว่า "ยุคแห่งความทุกข์ยาก") ยุคแห่งความ
วุ่นวายนี้จะจบสิ้นด้วยชัยชนะอันรุ่งโรจน์ของพระแม่มารีย์ และความสงบสุขจะรุ่งเรืองบนแผ่นดิน
ดังที่พระแม่มารีย์ได้ให้คำสัญญากับเราที่เมืองฟาติมา

"ในที่สุดดวงหทัยอันนิรมลของพระแม่จะได้รับชัยชนะ และยุคแห่งความสงบสุขจะเกิดขึ้นบนแผ่นดิน"

พระบิดาได้อธิบายแก่พ่อว่า ครั้งที่พระเยซูคริสตเจ้าสิ้นพระชนม์ พระองค์ไม่ได้พลีพระชนม์เพื่อไถ่บาป
เราเพียงอย่างเดียว แต่พระองค์ทรงปรับเปลี่ยนทุกสรรพสิ่ง เราจะได้เห็นอาณาจักรสวรรค์ และแผ่นดินที่สร้าง
ขึ้นใหม่ด้วยพระพรแห่งการกอบกู้ของพระเยซูคริสตเจ้า ในยุคแห่งความสงบสุขที่จะมาถึง พระองค์จะทรงชำระ
ล้างโลกใบนี้ และสิ่งสร้างทุกสรรพสิ่งจะอยู่ภายใต้พระนามอันประเสริฐของพระองค์

แต่ปีศาจจะกลับมาเช่นกัน (คุณพ่อมิเชลกล่าวว่าจะเกิดขึ้นหลังจากผ่านไปสามช่วงอายุคน) มีเพียงการ
เสด็จกลับมาของพระองค์เท่านั้นที่จะเป็นจุดจบของโลกใบนี้ นั่นคือ การพิพากษาครั้งสุดท้าย และการเสด็จกลับ
มาครั้งที่สองของพระองค์ วันที่ชัยชนะแห่งพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า กษัตริย์แห่งสากลจักรวาลจะทรงประจักษ์
ต่อหน้าเรา

เวลานั้นกำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว วันแห่งชัยชนะกำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้ เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาฉุกเฉิน
ในตอนที่พระบิดาได้มอบหมายภารกิจให้พ่อสร้างอาราม พระบิดาให้พ่อรีบสร้างขึ้น เพราะสถานที่นี้จะเป็นที่หลบ
ภัยของเหล่าพระสงฆ์ที่กำลังจะมาเยือน ลูกจะได้เป็นประจักษ์พยานในสิ่งต่างๆ มากมายที่ลูกจะได้เห็นจากการ
บงการของปีศาจ ลูกจะเห็นผู้คนหันมาต่อสู้กันเองด้วยเหตุผลทางการเมือง การข่มเหงเหล่า คริสตชนที่เกิดขึ้น
จากการเยาะเย้ย และการใส่ร้ายจากมนุษย์ด้วยกันเองจะเกิดจากกฎหมายที่ไม่ชอบธรรม ลูกจะไม่สามารถปฏิบัติ
ตามกฎหมายเหล่านี้ด้วยจิตสำนึกที่ดี ดังนั้น การข่มเหงรังแกจะอยู่ภายใต้อำนาจของพลเรือน

พิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างคริสตศาสนา จะถูกนำเสนอต่อศาสนจักรซึ่งจะ
ก่อตั้งขึ้นจากผู้นำศาสนาต่างๆ ขั้นแรกคือจัดตั้งคณะกรรมการ และขั้นสุดท้ายคือนำเสนอขึ้นต่อกรุงโรมไปยัง
พระสันตะปาปา เอกสารที่เขียนโดยองค์สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสชื่อ Magnum Principium ที่ได้นำม
าใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 2017 ซึ่งมอบอำนาจให้กับสภาพระสังฆราชระดับชาติให้สามารถนำกฎเกณฑ์
และบทภาวนาแบบใหม่ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในพิธีประกอบมิสซาบูชาขอบพระคุณของประเทศตนเอง ตอนนี้
หลายประเทศพัวพันกับการทุราจารศีลสมรส และได้เดินออกนอกเส้นทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า ถ้าหากสภา
สังฆราชในประเทศเหล่านี้มีอำนาจในการปรับเปลี่ยนพิธีกรรมในการประกอบพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ
ท่านจงรู้ไว้เลยว่า พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้รายงานสิ่งที่ถูกต้องต่อพระสันตะปาปาอย่างแน่นอน ถ้าหาก
พระสันตะปาปาไม่เซ็นยินยอมตามข้อเสนอ เท่ากับว่าท่านปฏิเสธในสิ่งที่ท่านมอบอำนาจให้พวกเขา สิ่งที่จะเ
กิดขึ้นตามมาคือ เกิดการแตกแยกซึ่งเป็นหนึ่งในหลายๆ เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในพระศาสนจักร

กรุงโรมจะเซ็นอนุมัติกระดาษแผ่นนั้นเพราะรู้ว่า อำนาจทุกอย่างที่ได้มอบให้พระสังฆราชนั้น พวกเขา
จะเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์และบทภาวนาในประเทศของพวกเขา แต่ไม่ได้หมายความว่าพระสันตะปาปาจะเ
ป็นผู้อนุมัติเอกสารนี้

ท่านจะรู้ว่าพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันเป็นหนึ่งเดียวระหว่างคริสตศาสนา
นิกายต่างๆ เพราะบทอุทิศตนจะเปลี่ยนไป ท่านไม่จำเป็นต้องร่วมพิธีนี้ที่จะเรียกกันว่า มิสซา แผ่นปังในพิธีจะ
เป็นเพียงแค่ขนมปังธรรมดาเพราะไม่ได้รับการเสก ดังนั้น กินโซดา แครกเกอร์ คงจะดีกว่า เหตุการณ์นี้จะเป็น
สัญญาณเตือนอย่างแรกที่เกิดกับพิธีกรรมในโบสถ์ พระศาสนจักรกำลังจะกลายเป็นสุสาน และจะดำเนินไป
ตามเส้นทางที่พระเยซูเจ้าทรงพบเจอ เราไม่ได้ประเสริฐไปกว่าผู้เป็นนาย เราเป็นเพียงผู้ติดตามของพระองค์

ตอนนี้กลุ่มปฏิปักษ์ของพระคริสต์เจ้าปะปนอยู่ในลำดับชั้นปกครองของศาสนจักร พวกเขาต้องการจะ
เข้ามาดำรงตำแหน่งสันตะปาปามาโดยตลอด พระสันตะปาปาฟรานซิสจะทำผิดพลาดเหมือนนักบุญเปโตร
ท่านจะตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวท่าน และพยายามรวบรวมศาสนจักรให้กลับมาอยู่ภายใต้อำนาจ
ของพระคริสตเจ้า แต่ท่านจะไม่สามารถทำได้ ท่านจะถูกทรมานในการเป็นพยานแห่งพระคริสต์ พระสันตะปาปา
กิตติคุณ เบเนดิกต์ ที่ 16 ผู้ที่ยังสวมใส่แหวนชาวประมง (แหวนประจำตัวของสมเด็จพระสันตะปาปา) จะเข้าร่วม
การประชุมสังคายนาเพื่อพยายามที่จะรักษาคริสตจักรเอาไว้ พ่อเห็นท่านที่อ่อนแอและอ่อนล้า ถูกประคองโดย
ทหารสวิสทั้งสองข้าง ลี้ภัยออกจากกรุงโรมที่เต็มไปด้วยการทำลายล้าง ท่านหลบซ่อนตัว แต่ก็ถูกพบเจอ
พ่อเห็นท่านเสียชีวิตจากการเป็นพยานแห่งพระคริสต์เช่นกัน

พ่อเพิ่งเข้าพบพระสังฆราชไม่นานมานี้ มีพระสงฆ์อีกคนอยู่ที่นั่นด้วย และพ่อก็คุยกับเขาเรื่องเครื่องหมาย
ยุคสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นในช่วงยุคของเรา พระสงฆ์คนนั้นบอกว่า "ไม่หรอกๆๆ ในศตวรรษที่ 13 ก็มีเหตุการณ์ไม่ดี
เกิดขึ้นอย่างนั้น ในศตวรรษที่ 18 ก็มีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นอย่างนี้..."

"ใช่ครับผมก็รู้เหมือนกัน เรื่องไม่ดีมักเกิดขึ้นตลอด แต่ผมไม่ได้พูดถึงเหตุการณ์ในศตวรรษที่ 13 หรือ
ศตวรรษที่ 18 แต่ผมกำลังพูดถึงเครื่องหมายแห่งจักรวาล เครื่องหมายแห่งยุคสุดท้าย" เวลาที่พ่อพูดถึงการ
สิ้นสุดยุคเพียงเล็กน้อย ผู้คนมักจะมุ่งประเด็นไปตอนที่ศาสนจักรพบเจอกับความยากลำบาก ใช่แล้ว ในตอนนั้น
มีเรื่องที่ยากลำบากเกิดขึ้นในประเทศหนึ่ง แต่ไม่เกิดในอีกประเทศหนึ่ง ทว่าในตอนนี้สิ่งต่างๆ ยิ่งเลวร้ายขึ้น
ไม่ใช่เพียงแต่ประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เกิดขึ้นกับทุกๆ ที่ทั่วโลก

พระศาสนจักรก้าวผ่านช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายอันใหญ่หลวงในอดีตกาลมาแล้ว แต่เรายังไม่เคย
เห็นเหตุการณ์อันมืดมนที่สุดในศาสนจักรคาทอลิกมาก่อน ศาสนจักรของชาวโปรแตสแตนท์จะกลายเป็น
สุสานเช่นกัน เพราะพวกเขาคือคริสตชน และตอนนี้ปีศาจกำลังทำกิจการของมัน เพื่อสังหารและทำลายผู้มี
ความเชื่อในทุกๆ ที่ และนี่คือความแตกต่างที่ไม่เหมือนในอดีต นี่คือสัญญาณเตือนในช่วงเวลาของเรา ผู้ใด
ก็ตามที่มีใบหู จงฟังเสีย ผู้ใดก็ตามที่มี ดวงตา จงมองเถิด

ความสับสนจะเข้ามาครอบงำ เราจะได้ยินข่าวลือการก่อสงคราม แต่สงครามจะยังไม่เกิดขึ้น แผ่นดินไหว
อุทกภัย พายุเฮอริเคน โรคภัยไข้เจ็บ และโรคระบาด จะมาเยือนยังสถานที่ต่างๆ ในช่วงเวลาเดียวกัน สภาพภูมิ
อากาศและอุณหภูมิบนโลกจะเปลี่ยนไป เหตุการณ์เหล่านี้คือส่วนหนึ่งใน "ความทุกข์เริ่มต้น" (birth pangs)
ความอดอยากแห้งแล้งจะเกิดขึ้น พระเยซูเจ้าได้แสดงให้พ่อดูเมื่อไม่นานมานี้ ในตอนที่พ่อนั่งอยู่ในห้องพัก
กำลังเตรียมตัวเข้านอน พ่อเห็นอัศวินสีดำบนหลังม้ากำลังมุ่งตรงมา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความอดอยาก
แห้งแล้ง พ่อได้ยินเขาพูดว่า "พวกเขาจะมีเงินทอง แต่พวกเขาจะไม่มีขนมปังรับประทาน" หมายถึง ลูกจะมี
เงินทองซื้ออาหารแต่จะไม่มีอาหารให้ซื้อ

ค่าเงินต่างๆ จะไม่มีค่า ดังนั้นการละทิ้งเงินของลูกในตอนนี้จะเป็น
การดี เพราะมันจะไม่มีค่าอะไร จะมีเหตุการณ์ก่อจลาจร ลูกจะได้เห็นการปฏิวัติเกิดขึ้นบนท้องถนน
ผู้คนจะต่อสู้กันเองอย่างโจ่งแจ้ง รัฐบาลจะทำอะไรไม่ได้นอกจากออกกฎอัยการศึก และเมื่อใดที่กฎอัยการศึก
ได้นำมาใช้ เมื่อนั้นสงครามจะเกิดขึ้น จากนั้นการเตือนจะเกิดขึ้น พ่อเห็นเหตุการณ์นี้ พระอาทิตย์ พระจันทร์
และดวงดาว จะดับแสงเหลือเพียงแต่ความมืดมน ทันใดนั้น เครื่องหมายแห่งองค์พระเยซูคริสตเจ้าจะปรากฏ
ขึ้นบนท้องฟ้า และส่องแสงลงมายังโลกมนุษย์ พระองค์จะประทับบนไม้กางเขนอย่างรุ่งโรจน์ไร้ซึ่งความเจ็บปวด
และด้านหลังของพระองค์ เราจะได้พบพระพักตร์ของพระบิดาเจ้า ผู้เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ในแสงสว่างอันเรืองรอง

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6036
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ พ.ค. 03, 2024 10:09 pm

🌼~ Why Fr. Michael Rodrigue? สารจากพระบิดา ถึง คุณพ่อมิเชล  โรดริกย์
และคำเตือนแห่งยุคสุดท้าย ~🌼
👉 ตอนที่ (15)👈
🔥--- คำเตือน ช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก และศาสนจักรที่กำลังจะกลายเป็นหลุมศพ (3) ---🔥
        
  แสงสว่างจากรอยบาดแผลบนพระหัตถ์ พระบาท และสีข้างของพระเยซู จะฉายแสงแห่งความรัก
และความเมตตามายังผืนแผ่นดินทุกหนแห่ง และทุกสิ่งจะหยุดนิ่ง ถ้าหากลูกอยู่บนเครื่องบิน เครื่องบิน
จะหยุด ถ้าหากลูกขับรถก็ไม่ต้องกังวล รถทุกคันก็จะหยุดนิ่งเช่นกัน ถ้าหากลูกถามพ่อว่ามันเป็นไปได้ยังไง
พ่อจะตอบว่า "พระเจ้าก็คือพระเจ้า พระองค์คือพระเป็นเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ ผู้สร้างสวรรค์และแผ่นดิน
ถ้าหากพระเป็นเจ้านำพ่อออกสู่นอกจักรวาลเหมือนกับฝุ่นละอองเล็กๆ ได้ ลูกคิดว่าพระองค์จะหยุดวัตถุต่างๆ
ไม่ได้หรือ" ลูกคิดหรือว่าเครื่องบินเล็กๆ จะเป็นปัญหาสำหรับพระองค์ ไม่เลยล่ะ นี่คือสิ่งที่พระเป็นเจ้าตรัส
แก่พ่อ และพระองค์ยังทรงบอกผู้อื่นเช่นกัน ดังเช่น เหตุการณ์ในเมืองการาบันดัล ซึ่งนักบุญปีโอก็เชื่อ
ในพระวาจาของพระองค์

ทุกๆ สรรพสิ่งจะได้รับการแก้ไขได้ทันเวลา และเปลวไฟของพระจิตเจ้าจะชี้นำหนทางแก่ทุกๆ ชีวิต
บนโลก ลำแสงที่เหมือนกับลิ้นไฟที่ส่องสว่างจากรอยบาดแผลของพระเยซูเจ้า จะบาดลึกไปยังดวงใจของ
ทุกคน และเราจะได้เห็นกายของเราตรงหน้าเหมือนเงาในกระจก เราจะเห็นดวงวิญญาณของเรา และรับรู้ว่า
เรามีค่าต่อองค์พระบิดาเจ้าแค่ไหน ปีศาจในกายของเราแต่ละคนจะถูกเปิดเผย เหตุการณ์นี้เป็นหนึ่ง
ในสัญญาณอันยิ่งใหญ่ที่โลกได้รับ ตั้งแต่การกลับคืนชีพขององค์พระเยซูคริสตเจ้า

ในตอนที่พระสันตะปาปายอห์น ที่ 23 สวดภาวนาปิดการประชุมสังคายนาวาติกันครั้งที่ 2 เรื่อง
วันเพนเตกอสแบบใหม่ที่จะเกิดขึ้น และฟื้นฟูมนุษยชาติ ท่านไม่ได้สวดภาวนาเพื่อศาสนจักรเพียงอย่างเดียว
เพราะพระจิตในวันเพนเทคอสเตสถิตอยู่กับพระศาสนจักรอยู่แล้ว ท่านยังสวดภาวนาเพื่อขอให้พระจิตเสด็จ
ลงมาสถิตอยู่กับมนุษยชาติ คำขอของพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 23 จะเป็นจริง เพราะพระเยซูเจ้ากำลัง
ตอบรับคำภาวนาของท่าน

การส่องสว่างในมโนธรรมจะเกิดขึ้นเป็นเวลา 15 นาที เป็นการพิพากษาล่วงหน้าด้วยความเมตตา
พวกลูกจะได้เห็นสถานที่ที่ลูกจะได้ไปเมื่อลูกตาย ได้แก่ สวรรค์ แดนชำระ หรือว่านรก นอกจากนี้ พวกเขา
จะรู้สึกเจ็บปวดจากผลแห่งการทำบาป ผู้ที่จะไปแดนชำระจะได้เห็น และเจ็บปวดจากความผิดบาป และการ
ชำระล้างให้บริสุทธิ์ พวกเขาจะจดจำความผิดที่ได้กระทำลงไปได้ และรู้ว่าตนเองต้องแก้ไขสิ่งใด ส่วนผู้ที่
ใกล้ชิดกับองค์พระเยซูเจ้า จะรับรู้ว่าตนต้องทำสิ่งใดเพื่อให้มีชีวิตเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์

พระบิดาอยากให้พ่อป่าวประกาศแก่ลูกว่า จงอย่าได้ตื่นกลัว วันนั้นจะเป็นวันแห่งความรักและความยินดี
สำหรับผู้ที่เชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า ลูกจะได้เห็นสิ่งที่ลูกต้องแก้ไขให้ถูกต้อง เพื่อบรรลุพระประสงค์ขององค์
พระผู้เป็นเจ้าให้มากขึ้น และเพื่อเชื่อฟังพระหรรษทานที่พระเป็นเจ้าได้ประทานให้เราทำภารกิจบนโลก
ผู้ที่ต้องตกนรกจะมอดไหม้ ร่างกายของเขาจะไม่ถูกทำลาย แต่จะรู้ว่านรกจริงๆ เป็นเช่นไร เพราะพวกเขา
ได้เข้าไปอยู่ในนั้นแล้ว มีสิ่งเดียวที่พวกเขาโดนพรากไปคือความรู้สึก พ่อพูดได้เต็มปากว่า พวกเขาจะได้ลิ้มรส
การโดนทุบตีจากปีศาจ และพวกเขาส่วนมากจะไม่รอดเพราะบาปอันใหญ่หลวงของพวกเขา แต่ก็ถือว่าเป็น
พรของพวกเขา เพราะพวกเขาจะร้องขอการให้อภัยอันเป็นหนทางรอดของพวกเขา

มีหลายคนที่ไม่เข้าใจพระวรสารของนักบุญแมทธิว บทที่ 24

เมื่อความทุกขเวทนาในวันเหล่านั้นผ่านพ้นไปแล้ว ดวงอาทิตย์จะมืดทันที ดวงจันทร์จะไม่ส่องแสง
ดวงดาวจะตกจากท้องฟ้า และอานุภาพบนท้องฟ้าจะสั่นสะเทือน เวลานั้น เครื่องหมายของบุตรแห่งมนุษย์
จะปรากฏบนท้องฟ้า มนุษย์ทุกเผ่าพันธุ์บนแผ่นดินจะข้อนอก และจะเห็นบุตรแห่งมนุษย์เสด็จมาในเมฆบน
ท้องฟ้า ทรงพระอานุภาพและพระสิริรุ่งโรจน์อันยิ่งใหญ่ พระองค์จะทรงใช้บรรดาทูตสวรรค์ให้เป่าแตรเสียง
ดังรวบรวมผู้ที่ทรงเลือกสรรจากทั้งสี่ทิศ จากปลายหนึ่งจนถึงอีกปลายหนึ่งของท้องฟ้า (แมทธิว 24:29-31)

เสียงร่ำร้องจะดังขึ้น เมื่อผู้คนได้สัมผัสความผิดพลาดและความเจ็บปวดจากการทำบาปของพวกเขา พวกเขา
จะสารภาพความรู้สึกผิดในสิ่งที่พวกเขากระทำลงไปอย่างเปิดเผยโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง เพราะหวาดกลัว
และจมจ่ออยู่กับสิ่งที่เคยทำ เหมือนที่เกิดขึ้นในเมืองฟาติมา ขณะที่พระอาทิตย์เคลื่อนตัวและฉายแสงต่อหน้า
ผู้คน 100,000 คนที่กำลังคุกเข่าและสารภาพบาป ณ ที่ตรงนั้น เพราะกลัวความตาย

พระบิดาเจ้ามอบสารแด่พ่อเรื่อง คำเตือน ในวันที่ 6 เมษายน ค.ศ. 2018

ลูกเอ๋ย
จงฟังเสียงของเรา จงรับฟังคำของเราที่พระเยซู พระบุตรสุดที่รักของเราได้กล่าวออกไป พระบุตรคือ
สารของเราที่คอยปลอบโยน รักษา และปกป้อง จงอย่าได้ตื่นกลัวต่อเวลาที่จะมาถึงนี้ เราคือพระเป็นเจ้า
และเราจะไม่ยอมให้ผมของลูกร่วงจากศีรษะหากเราไม่อนุญาต
ลูกหลายคนกำลังหวาดกลัว และตามหาช่วงเวลาที่เราจะเข้ามาแทรกแซงโลกใบนี้ พระบุตรของเรา
คือผู้เดียวที่จะแสดงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์เมื่อเวลานั้นได้มาถึง ในพระองค์ทุกสิ่งจะสำเร็จไป คำภาวนา
และการอุทิศตนของลูกที่ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับคำภาวนาและการอุทิศตนของมารีย์ ลูกสาวของเรา และร่วม
เป็นเครื่องบูชาชดเชยบาปร่วมกับพระเยซูเจ้าจะช่วยโลกนี้ เพียงแค่คำภาวนาธรรมดาที่นอบน้อมก็จัดการ
ปีศาจได้ จงอย่าให้หัวใจของลูกเป็นทุกข์ เพราะเราได้ยินคำภาวนาของลูก
เราบอกความจริงแก่ลูก ความรักอันเปี่ยมด้วยความเมตตาของเรา จะกระทำในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการ
ไถ่บาปของพระบุตรสุดที่รักของเรา เราไม่ต้องการให้ความตายและการสาปแช่งเกิดกับพวกลูก ในตอนนี้
โลกที่เราสร้างขึ้นเต็มไปด้วยความทุกข์ทน ความรุนแรง และบาปอันมากมาย เราได้ยินเสียงร่ำไห้ของ
เด็กทารก และเด็กที่ถูกปลิดชีวิตจากความผิดบาปของลูกๆ ของเราที่ตกอยู่ในอำนาจของซาตาน ลูกไม่ควร
ฆ่าใคร! (คุณพ่อฟรานซิสกล่าวว่า พระองค์ทรงพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดและหนักแน่น)
จงสวดภาวนาและเชื่อมั่น เราไม่อยากให้ลูกเป็นเหมือนผู้ที่ไร้ความเชื่อ และสั่นกลัวในยามที่บุตรแห่ง
มนุษย์เสด็จลงมา แต่เราอยากให้ลูกจงอธิษฐานพร้อมทั้งปีติยินดี และจงรับความสงบสุขจากพระเยซู พระบุตร
ของเรา
เรารับรู้เรื่องราวของลูก ลูกหลานของลูก และครอบครัวของลูก เรายังได้ยินถึงความต้องการที่ร่ำร้องอยู่
ในใจของลูก จงสวดภาวนาถึงวันแห่งความรักที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาของเรา ซึ่งจะหลั่งไหลออกมาผ่าน
ทางการประจักษ์ของพระเยซู พระบุตรของเรา
ช่างน่าเศร้าที่เราต้องเคารพเจตจำนงอิสระ จึงต้องมอบคำเตือนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความเมตตาจากเรา
จงเตรียมพร้อมและตื่นตัวต่อช่วงเวลาแห่งความเมตตาของเรา
เราอวยพรลูก

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6036
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ พ.ค. 04, 2024 10:28 pm

🌼~ Why Fr. Michael Rodrigue? สารจากพระบิดา ถึง คุณพ่อมิเชล  โรดริกย์
และคำเตือนแห่งยุคสุดท้าย ~🌼
👉 ตอนที่ (16)👈
🔥--- พระวรสารนักบุญมัทธิว บทที่ 24 กล่าวถึงยุคของเรา (1) ---🔥
         
คุณพ่อมิเซลได้แบ่งปันความหมายของข้อความในพระวรสารนักบุญมัทธิว บทที่ 24 ที่เชื่อมโยงเรื่องราว
ของยุคเรากับยุคสุดท้าย

มัทธิว 24:1-2
ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงออกจากพระวิหาร บรรดาศิษย์เข้ามาใกล้ ชี้ให้พระองค์ทอดพระเนตรอาคารต่าง ๆ
ของพระวิหาร พระองค์ตรัสแก่เขาว่า "ท่านทั้งหลายเห็นสิ่งเหล่านี้ไหม เราบอกความจริงแก่ท่านว่า จะไม่มี
ก้อนหินเหลือซ้อนกันอยู่เลย ทุกสิ่งจะถูกทำลาย"

เหตุการณ์ที่พระเยซูตรัสแก่เขานั้น คือเครื่องหมายที่พระองค์ได้ทำนายไว้ ทั้งพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็ม
และพระวิหารอันเป็นพระกายของพระองค์ พระศาสนจักรของเราจะก้าวเดินตามรหัสธรรมนี้ เช่นเดียวกับที่
พระเยซูคริสต์เจ้าได้พบเจอ นั่นหมายถึงศาสนจักรจะถูกตรึงกางเขน และในตอนนี้เรากำลังเข้าใกล้วันแห่ง
การตรึงกางเขน พระศาสนจักรจะกลายเป็นสุสาน พระศาสนจักรจะไม่มีเสียงบนเวทีประชาชาติ
ไร้ความเชื่อถือ ไม่มีใครได้ยิน และประชาชาติจะไม่สนใจสารที่ได้รับ

ก้อนหินเหล่านั้นเป็นตัวแทนของคำสอนของพระศาสนจักร ก้อนหินในศาสนจักรจะถูกทำลายในช่วง
สุดท้ายของยุคนี้ เป็นครั้งแรกที่คำสอนของศาสนาจักรจะถูกโจมตี ศีลศักดิ์สิทธิ์จะถูกทำลาย เมื่อใดที่เรา
หมดความเชื่อในศีลศักดิ์สิทธิ์ ยามใดที่เรารู้สึกว่า การสวดสายประคำเพื่อให้เป็นที่พอพระทัยต่อ
พระเยซูคริสตเจ้าไม่ใช่เรื่องจำเป็น นี่แหละคือเครื่องหมายแห่งวันสิ้นพิภพ

เครื่องหมายนี้กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อลูกลองหันไปมองรอบๆ ตัวลูก จะเห็นว่าคำสอนเทียมเท็จได้เผย
แพร่ไปในหลายที่ เช่น ในโรงเรียนสามเณร มหาวิทยาลัย ครอบครัวของเรา ซึ่งจากสื่อและคำนายเท็จเทียม
รูปแบบต่างๆ เหตุการณ์นี้กำลังเกิดขึ้นบนโลกใบนี้

มัทธิว 24:3
เมื่อพระองค์ประทับบนภูเขามะกอกเทศ บรรดาศิษย์เข้ามาเฝ้า ทูลถามเป็นการส่วนตัวว่า
"โปรดบอกเราเถิดว่า เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อใด และจะมีเครื่องหมายใดบอกให้รู้ถึงการเสด็จมา
ของพระองค์และการสิ้นพิภพ"

พระเยซูเจ้าตรัสขึ้นในตอนที่พระองค์กำลังนั่งภาวนาบนเนินเขามะกอก ซึ่งเป็นเนินเขาแห่งความ
ทุกข์ระทมของพระองค์ พระองค์ประทับอยู่กับบรรดาอัครสาวกที่เดินเข้ามาหาพระองค์แล้วถามว่า
"จะมีเครื่องหมายใดบอกให้รู้ถึงการเสด็จมาของพระองค์และการสิ้นพิภพ" ซึ่งหมายถึง พระเยซูเจ้าได้
ทรงปรึกษากับบรรดาศิษย์ของพระองค์เกี่ยวกับพระวิหาร การสิ้นยุคแห่งความวุ่นวาย (ความทุกขเวทนา)
และการสิ้นพิภพ คำถามของพวกเขาทำให้เรื่องเหล่านี้ถูกเปิดเผย เรามักรีบอ่านข้อความนี้ในพิธีมิสซา
ในวันอาทิตย์ไปอย่างรวดเร็วและไม่อยากพูดถึง เพราะว่าผู้คนไม่อยากรับรู้เรื่องนี้ เพราะพวกเขารู้สึกกลัว

สานุศิษย์ถามพระองค์ว่า "โปรดบอกเราเถิดว่า เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อใด และจะมีเครื่องหมาย
ใดบอกให้รู้ถึงการเสด็จมาของพระองค์และการสิ้นพิภพ" พวกเขารู้ว่าพระองค์จะจากพวกเขาไป บรรดาศิษย์
จึงถามพระองค์สามคำถาม
คำถามแรก : เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อใด
คำถามที่สอง : เครื่องหมายใดบอกให้รู้ถึงการเสด็จมาของพระองค์
และคำถามที่สาม : เครื่องหมายใดบอกให้รู้ถึงการสิ้นพิภพ

เครื่องหมายแรกที่บ่งบอกถึงการเสด็จมาของพระคริสตเจ้า คือการประจักษ์ของพระองค์ที่ไม่มีใคร
สามารถหลบเลี่ยงได้ในอนาคต นั่นคือ การส่องสว่างในมโนธรรม เครื่องหมายที่สองคือ พระองค์จะเสด็จ
มาในวันสิ้นพิภพ พ่ออ่านเจอข้อความแบบนี้เช่นเดียวกันในหนังสือการเปิดเผยนิมิตของมาเรีย วาลทอร์ทา
เกี่ยวกับวันสิ้นพิภพ (บราเดอร์ฟิลิป ที่อยู่ในคณะภราดา ให้คุณพ่อมิเชลอ่านข้อความจากหนังสือ
ที่อาจเป็นข้อความที่พระเยซูเจ้าตรัสไว้)

เป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นอีกครั้ง : ซาตานต้องการคัดกรองพวกท่าน และการคัดกรองนี้พิสูจน์ให้เรา
เห็นว่า ความเสื่อมทรามที่เคยเกิดขึ้นในตอนน้ำท่วมโลกเป็นอย่างไร และครั้งนั้นเลวร้ายกว่า เพราะในยุค
ของโนอาห์ไม่มีพระคริสตเจ้าและพระศาสนจักรเหมือนกับยุคของเรา

นี่จะเป็นวิธีการหนึ่งในการคัดเลือกเผ่าพันธุ์มนุษย์ครั้งแรกที่ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว เพื่อแยกผลผลิตที่
ถูกเลือกออกจากผลผลิตที่เน่าเสีย แต่ทว่า ผลผลิตที่ถูกเลือกมีขนาดเล็กกว่า - การเปิดเผยเหตุการณ์ยุค
สุดท้ายของมาเรีย วาลทอร์ทา (The End Times As Revealed to Maria Valtorta)
ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ Editions Paulines หน้า 8

มัทธิว 24:4-5
พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า "จงระวังอย่าให้ใครหลอกลวงท่านได้ หลายคนจะอ้างนามของเรา กล่าวว่า
ข้าพเจ้าเป็นพระคริสต์ และจะหลอกลวงคนจำนวนมากให้หลงผิด

ในตอนนี้การแอบอ้างได้เกิดขึ้นแล้ว ลูกจะเห็นว่ามีบางคนอ้างว่า ตัวเขาคือพระเมสซิยาห์องค์ใหม่
ลูกจะเห็นการแอบอ้างนี้ตามสื่ออินเทอร์เน็ต มีเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นในเมือง Montreal (มอนทรีออล)
เขามาหาพ่อแล้วกล่าวว่า "เราคือพระเยซู" พ่อตอบกลับไปว่า "ไม่ใช่หรอก ท่านดูไม่เหมือนคนที่ฟื้นคืนชีพ
มานะ" (คุณพ่อหัวเราะ) ยิ่งคุณบ้ามากเท่าไหร่ ก็จะมีคนติดตามคุณเยอะขึ้นเท่านั้น คนเหล่านี้จะนำไปสู่
หนทางที่ผิดเพี้ยน ตอนนี้ผู้คนเริ่มรู้สึกเบื่อจนต้องการหาสิ่งแปลกใหม่

มัทธิว 24:6
ท่านทั้งหลายจะได้ยินข่าวลือเรื่องสงครามทั้งใกล้และไกล จงระมัดระวัง อย่าตกใจ เหตุการณ์
เหล่านี้จำเป็นต้องเกิดขึ้น แต่ยังไม่ถึงวาระสุดท้าย

ข้อความนี้สำคัญมาก จงจำเอาไว้ว่าวาระสุดท้ายของโลกยังมาไม่ถึง แต่นี่คือการชำระล้างโลก
ใบนี้ต่างหาก ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของทุกสิ่งแต่อย่างใด

มัทธิว 24:7-9
ชนชาติหนึ่งจะถูกขึ้นต่อสู้กับอีกชนชาติหนึ่ง อาณาจักรหนึ่งจะลุกขึ้นต่อสู้กับอีกอาณาจักรหนึ่ง
ความอดอยากแและแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นหลายแห่ง ทั้งหมดนี้จะเปรียบเหมือนความทุกข์ที่เริ่มต้นในการ
คลอดบุตร ต่อจากนั้น ท่านจะถูกจับไปทรมานและถูกประหาร ชนทุกชาติจะเกลียดชังท่านเพราะนามของเรา

เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้น พ่อไม่อยากปิดบังเรื่องนี้ แต่พ่อต้องบอกว่าเราบางคนจะได้เป็นมรณสักขี
ลูกหลายคนจะอยู่ในที่หลบภัย และบางคนก็มีเครื่องหมายกางเขนแห่งการเป็นมรณสักขีบนหน้าผาก
พ่อยืนยันได้เลยว่าจะมีบางคนได้เป็นมรณสักขี แต่เมื่อลูกรู้ว่าตนจะได้เป็นมรณสักขี ลูกจะรู้สึกยินดีมากๆ
ลูกรู้ไหมเมื่อถึงเวลานั้น ลูกจะไม่รู้สึกกลัวอะไรเลย ลูกอาจจะลำบากในตอนที่พวกมันตามรังควานลูก แต่เมื่อ
ถึงเวลาที่ลูกต้องพลีชีพเป็นมรณสักขี ลูกจะรู้ว่านี่คือพระพรจากพระองค์ และพระพรนี้แหละที่ทำให้ลูกยอมรับ
และซื่อสัตย์ต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยท่าทีที่เปี่ยมด้วยความสุข เพราะพระองค์จะทำให้ลูกไม่รู้สึกเจ็บปวด
จากการทรมานในการยืนยันความเชื่อ นี่แหละคือพระพรอันยิ่งใหญ่ นักบุญโพลิคาร์ป กล่าวขอบพระคุณ
พระผู้เป็นเจ้าด้วยเสียงดังกังวาน ขณะที่ท่านตายพร้อมกับการยืนยันความเชื่อของท่าน

มัทธิว 24:10-12
ในเวลานั้น หลายคนจะละทิ้งความเชื่อ จะทรยศและเกลียดชังกัน ประกาศกเทียมจำนวนมากจะต้องเกิด
และจะหลอกลวงคนมากมาย เพราะความอธรรมจะเพิ่มมากขึ้น ความรักของคนจำนวนมากจะเย็นลง

ความรักของเราจะเย็นชาเพราะการกระทำผิดกฎหมายที่เพิ่มมากขึ้น เราจะไม่ใส่ใจต่อผู้อื่น ต่อเด็กน้อย
ต่อผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ต่อผู้ป่วย และผู้พิการอันเป็นชายหญิงผู้ไม่สมบูรณ์แบบอีกต่อไป มนุษย์เรามีวิธี
มากมายที่จะขับไล่และปลิดชีวิตพวกเขา กฎหมายจะไร้ความเห็นใจ ความเย็นชาและความไร้หัวใจคือเครื่อง
หมายของปีศาจ มันอยู่ในนรกที่ร้อนรุ่มและเผาไหม้อยู่ในนั้น แต่เมื่อมันอยู่บนโลกมนุษย์มันชอบความ
เย็นยะเยือก (และนี่คือเหตุผลของความเย็นชา) เมื่อปีศาจมาหาลูกจะรู้สึกถึงความเยือกเย็นแห่งความมืดมิด

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6036
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ พ.ค. 05, 2024 8:30 pm

🌼~ Why Fr. Michael Rodrigue? สารจากพระบิดา ถึง คุณพ่อมิเชล  โรดริกย์
และคำเตือนแห่งยุคสุดท้าย ~🌼
👉 ตอนที่ ( 17 )👈
🔥--- พระวรสารนักบุญมัทธิว บทที่ 24 กล่าวถึงยุคของเรา (2) ---🔥
มัทธิว 24:13-14
แต่ผู้ใดยืนหยัดอยู่จนถึงวาระสุดท้าย ผู้นั้นก็จะรอดพ้น ข่าวดีเรื่องพระอาณาจักรนี้
จะประกาศไปทั่วโลก เพื่อเป็นพยานสำหรับนานาชาติ เมื่อนั้น วาระสุดท้ายจะมาถึง

พระสันตะปาปาปอลที่ 6 พระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 และพระสันตะปาปาฟรานซิส เคย
เสด็จไปเยี่ยมองค์กรสหประชาชาติที่เป็นตัวแทนของชาติต่างๆ และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตนี้ ทำให้
ข่าวดีของพระเยซูคริสตเจ้าเข้าถึงทุกที่ ช่องทางนี้ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือของปีศาจเพียงอย่างเดียว
แต่อินเทอร์เน็ตก็เป็นเครื่องมือในการทำกิจการของศาสนจักรเช่นกัน

มัทธิว 24:1
เมื่อใดที่ท่านทั้งหลายเห็นผู้ทำลายที่น่ารังเกียจยืนอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ตามที่ประกาศกดาเนียล
ได้กล่าวไว้

พระเยซูเจ้าประสงค์ให้เรารับรู้สิ่งใด พระสันตะปาปาปอลที่ 11 กล่าวไว้ว่า "ควันแห่งซาตานจะ
เข้าสู่พระศาสนจักรผ่านรอยแยก" เรามักจะข้ามคำ "ผ่านรอยแยก" ไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งหมายถึงลำดับ
การปกครองในพระศาสนจักร

ในตอนนี้ผู้ต่อต้านพระคริสตเจ้ามีศาสนศักดิ์อยู่ในพระศาสนจักร ผู้นั้นปรารถนาที่จะนั่งบนบัลลังก์
ของนักบุญเปโตรมาโดยตลอด ตั้งแต่ศาสนจักรได้ก่อตั้งขึ้น ปีศาจจะสมหวังเพียงช่วงเวลาหนึ่ง ผู้เป็นป
ฏิปักษ์ต่อศาสนจักรจะปรากฏตัวออกมา และทำการปกครองอย่างกับพระผู้ไถ่ของโลกใบนี้ เขาจะเป็นผู้นำ
3 ด้าน ด้านที่หนึ่งคือศาสนา นั่นคือการเป็นพระสันตะปาปา ด้านที่สองคือการเมือง และด้านที่สามคือการเงิน
ผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อพระคริสตเจ้าที่ปฏิบัติเสมือนเป็นพระผู้ไถ่ จะได้เป็นผู้นำด้านการเมืองและด้านการเงิน
และเขาจะได้ครอบครองทั้งสามด้าน ขึ้นอยู่กับว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่

หลังจากการปรากฏตัวของผู้ต่อต้านจะเกิดการหลบหลู่ศาสนาขึ้น พวกเขาจะหมิ่นเกียรติและกล่าวหาว่า
ศีลมหาสนิทเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ธรรมดาๆ พวกเขาจะทำพิธีมิสซารูปแบบใหม่ เพื่อให้เป็นที่พึงพอใจกับทุกๆ
นิกาย และจะยกเลิกมิสซาวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันของพระผู้เป็นเจ้า พระสงฆ์จะกลายเป็นเหมือนหมอผี พระสงฆ์
และสังฆานุกรหญิงที่แต่งงานจะไม่เป็นเหมือนอย่างเก่า พวกเขาจะเป็นผู้ที่ไม่รู้อะไรเลย และสนใจแต่พระแม่
แห่งโลก แล้วการปฏิเสธสามครั้งของนักบุญเปโตรจะเกิดขึ้นอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้พวกเขาจะปฏิเสธต่อ
พระกายอันแท้จริงของศีลมหาสนิท ปฏิเสธการใช้ชีวิตนักบวช และปฏิเสธการแต่งงาน

มัทธิว 24:16-19
เมื่อนั้น ผู้ที่อยู่ในแคว้นยูเดียจงหนีไปยังภูเขา ผู้ที่อยู่บนดาดฟ้าก็อย่าลงมาเก็บข้าวของในบ้าน
ผู้ที่อยู่ในทุ่งนาจงอย่ากลับไปเอาเสื้อคลุมที่บ้าน น่าสงสารหญิงมีครรภ์และหญิงแม่ลูกอ่อนในวันนั้น

เมื่อถึงเวลาที่เราต้องเข้าที่หลบภัย จงตามดวงไฟที่นำทางลูก อย่าหันหลังกลับ จงตามดวงไฟนั้นไป
จงทำตามซะ ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องลูกๆ และครอบครัวของลูก ทุกคนที่มีเครื่องหมายกางเขนจะมีดวงไฟ
และเทวดานำทาง เมื่อใดที่ลูกหันหลังกลับไปมองแปลว่าลูกไม่เชื่อใจในองค์พระเยซู ลูกไม่ต้องเป็นกังวล
ที่จะจับมือคนรอบข้างลูกอีกแล้ว หน้าที่ของลูกคือเดินตามดวงไฟและเทวดาที่จะนำลูกไปขังที่หลบภัย
หรือนำลูกไปรอบๆ บ้านเพื่อทำเครื่องหมายว่าบ้านของลูกเป็นที่หลบภัยแห่งสุดท้ายของลูก

มัทธิว 24:20-21
จงอธิษฐานภาวนาอย่าให้ท่านต้องหนีในฤดูหนาว หรือในวันสับบาโต เพราะในเวลานั้น จะมี
ทุกขเวทนาใหญ่หลวงอย่างที่ไม่เคยมี ตั้งแต่พระเจ้าทรงสร้างโลกจนบัดนี้ และจะไม่มีต่อไปอีกเลย

ข้อความนี้หมายความว่าลูกจะต้องสวดภาวนาเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม เพราะถ้าหากลูกไม่
พร้อมแล้ว ลูกจะไม่รู้อะไรเลย และลูกจะต้องพบเจอกับความเจ็บปวด

มัทธิว 24:23-24
เวลานั้น ถ้าผู้ใดบอกท่านว่า "พระคริสต์อยู่ที่นี่" หรือ "พระคริสต์อยู่ที่นั่น" จงอย่าเชื่อ เพราะจะ
มีพระคริสต์เทียม และประกาศกเทียมหลายคนเกิดขึ้น จะทำเครื่องหมายและปาฏิหาริย์ยิ่งใหญ่
ถ้าเป็นไปได้จะหลอกลวงแม้แต่ผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรรไว้

เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ถ้ามีคนมาบอกกับลูกว่า "ดูนั่น เขาอยู่ตรงนั้นไง" จงอย่าได้เชื่อเชียว
ซาตานจะปรากฏตัวพร้อมทั้งทำเครื่องหมาย และลางบอกเหตุที่จะชักจูงผู้ที่หลงผิด รวมไปถึงผู้ที่
พระเป็นเจ้าได้ทรงเลือก ปีศาจสามารถสร้างเครื่องหมายอันยิ่งใหญ่ อย่างเช่น ทำให้คนลอยตัวได้
พ่อมักเจอการลอยตัวแบบนี้บ่อยๆ ตอนที่พ่อทำพิธีไล่ปีศาจ มันไม่ใช่ปัญหาสำหรับพ่อเลย ปีศาจ
สามารถเลียนแบบร่องรอยแผลอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้าได้เช่นกัน พวกมันยังเลียนแบบการ
ปรากฏตัวของพระแม่มารีย์ และการปรากฏตัวอีก 13 ครั้งที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกับการประจักษ์
ของแม่พระที่เมืองฟาติมา ทำให้ทางพระศาสนจักรต้องทำการพิจารณาเหตุการณ์การประจักษ์เหล่านี้

ปีศาจไม่สามารถเลียนแบบพระเจ้าเพื่อสร้างสิ่งสวยงาม พวกมันไม่สามารถสร้างสิ่งที่สมบูรณ์แบบ
ขึ้นมาได้ แม้ว่าพวกมันทำให้คนตายฟื้นขึ้นมา หรือลุกขึ้นมาเดินได้ เพราะพวกมันนำวิญญาณดวงอื่นเข้า
มาอยู่ในร่างนั้น แต่ร่างกายนั้นจะอยู่ได้ไม่เกินสองวัน เพราะว่าเกิดการเน่าเปื่อย จงจำสิ่งที่พ่อได้บอกลูกไป
ปีศาจไม่มีพลังอำนาจในการสรรสร้าง พวกมันไม่มีพลังในการกู้คืนสิ่งต่างๆ ดังนั้น พวกมันจึงทำให้ร่าง
คนตายเดินได้เพียงไม่กี่วันเท่านั้น ผู้ที่ถูกปีศาจครอบงำจะเป็นผู้ทำสิ่งนี้ คนพวกนั้นพยายามแสดงเครื่อง
หมายต่างๆ เพื่อเลียนแบบพระเยซูเจ้า แต่ท่านจะรู้ว่า เครื่องหมายนี้ไม่ได้เกิดจากพระเยซูเจ้า
เพราะผลที่เขาทำจะไม่ยืนยง

และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน ลูกจะเห็นเรื่องราวมากมายทางโทรทัศน์ สิ่งแรกที่พวกปีศาจ
ชอบมากๆ ก็คือ ได้ปรากฏตัวอยู่ในรายการโทรทัศน์ พวกมันจะรู้สึกดี พวกมันจะทำเครื่องหมายเพื่อใ
ห้คนพูดว่า "คุณเห็นนี้หรือยัง คุณเห็นนั่นหรือยัง" จงอย่าได้ดู หรือทำให้มันรู้สึกดีใจไป มันเคยเป็นหนึ่ง
ในเทวดาที่งดงามที่สุดบนสวรรค์ มันเคยได้รับของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่พระเป็นเจ้าประทานให้กับเหล่า
เทวดา มันใช้ของขวัญจากพระเป็นเจ้านี่แหละในการควบคุมและทำลายเหล่าเทวดาที่เคยอยู่กับเขา
เทวดาหนึ่งในสามจะตามมันลงไปที่นรก

มัทธิว 24:25-27
ท่านทั้งหลายจงฟังเถิด เราได้กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ให้ฟังไว้ก่อนแล้ว "เพราะจะนั้น ถ้าใครบอกท่านว่า
'ดูซิ พระคริสต์อยู่ในถิ่นทุรกันดาร' ท่านอย่าไปที่นั่น ถ้าผู้ใดบอกว่า 'ดูซิ พระคริสต์ซ่อนอยู่ที่นี่' ท่านก็อย่าเชื่อ
สายฟ้าแลบจากทิศตะวันออกถึงทิศตะวันตกฉันใด บุตรแห่งมนุษย์ก็จะเสด็จมาฉันนั้น

มนุษย์จะหลบอยู่ในที่หลบภัยเป็นเวลากว่าสามปีครึ่ง (พ่อรู้ว่าพระเยซูเจ้าจะร่นเวลาให้สั้นลง เพราะ
พระมารดาของพระองค์ทรงร้องขอไว้) จากนั้น วันแห่งความมืดมิดจะปกคลุมโลกเป็นเวลาอีกสามวัน ก่อนที่
ยุคแห่งความรุ่งโรจน์และสันติสุขจะมาถึง ในยามที่ดวงใจของทุกคนสัมผัสถึงองค์พระเยซูเจ้า

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6036
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ พ.ค. 06, 2024 8:11 pm

🌼~ Why Fr. Michael Rodrigue? สารจากพระบิดา ถึง คุณพ่อมิเชล  โรดริกย์
และคำเตือนแห่งยุคสุดท้าย ~🌼
👉 ตอนที่ (18)👈
🔥--- หนังสือวิวรณ์ในเทศกาลเตรียมรับเสด็จอธิบายถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะมาถึง ---🔥

สารจากพระบิดาเจ้าถึงคุณพ่อ วันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2018
ลูกเอ๋ย
          ลูกจะเข้าสู่ช่วงเวลาเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า เทศกาลแห่งการกลับใจ และการเตรียมตัว
สำหรับการฉลองการบังเกิดของเยซู พระบุตรของเรา เป็นช่วงเวลาแห่งความชื่นชมยินดีของลูกๆ
ผู้เปี่ยมด้วยความเชื่อ สำหรับผู้อื่นเทศกาลนี้อาจเป็นช่วงเวลาที่น่าปวดหัว และต้องใช้เงินด้วยจิต
วิญญาณของปีศาจแห่งความโลภที่ต้องการล้มล้างวันคริสต์มาส

สำหรับพวกลูกนั้น เราประสงค์ที่จะประทานพระหรรษทานแห่งความรักของเราให้ครอบครัว
ของลูก ๆ ทั่วหน้ากัน จงเตรียมรางหญ้าไว้กลางบ้านของลูก ในที่ที่ทุกคนสามารถมองเห็น คำอวยพร
ในการกลับใจสำหรับเด็ก ๆ ของลูกจะมาจากถ้ำประสูติของพระเยซูคริสตเจ้า

คริสต์มาสยังเป็นเวลาที่เรามอบความรักให้แก่ดวงวิญญาณในแดนชำระให้เข้าสู่อาณาจักรสวรรค์
จงอธิษฐานให้แก่ญาติพี่น้อง และดวงวิญญาณที่ไม่มีใครนึกถึง เราได้เลือกประเทศของลูก
(ประเทศสหรัฐอเมริกา) สำหรับภารกิจอันยิ่งใหญ่บนโลกใบนี้ เราเคารพการ กลับใจของคนในประเทศ
ของลูก ที่นำโดยประธานาธิบดีคนแรกของพวกลูก พระพรมากมายสถิตอยู่กับลูกตั้งแต่ช่วงเวลาเตรียมรับ
เสด็จไปจนถึงตลอดช่วงเทศกาลพระคริสตสมภพ เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า และช่วงเวลาแห่ง
การเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู พระบุตรสุดที่รักของเราที่จะถึงนี้จะบอกเหตุช่วงเวลาล่วงหน้า

จงอ่านบทอ่านและพระวรสารประจำวัน แล้วลูกจะเข้าใจการกระทำของเรา และเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น

พระพรของเรา ความรักของพระเยซู พระบุตรของเรา และความสันติสุขของพระจิตเจ้าแห่ง
ความรักสถิตอยู่กับลูก

พระบิดาของลูก

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6036
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ พ.ค. 15, 2024 8:47 pm

🌼~ Why Fr. Michael Rodrigue? สารจากพระบิดา ถึง คุณพ่อมิเชล  โรดริกย์
และคำเตือนแห่งยุคสุดท้าย ~🌼
👉 ตอนที่ (19)👈

🔥--- ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ผู้ปกป้องเราจากดวงไฟที่ร่วงหล่นจากท้องฟ้า (1) ---🔥
          วันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ. 2018 พ่อได้รับสารนี้จากพระบิดาเจ้าให้จัดเตรียมวันพระคริสตสมภพ
ตอนนั้นพ่อประหลาดใจมากที่พระองค์มอบสารนี้ให้พ่อ เพราะอีกนานกว่าจะถึงเทศกาล พระองค์
ตรัส แก่พ่อว่า ลูกเอ๋ย
จงฟังและจดบันทึกเอาไว้ เราต้องการให้สารนี้เป็นที่กล่าวถึงโดยทั่วกัน และในทุกพื้นที่ที่ลูก
เทศน์ สั่งสอนพวกเขา ทั้งในแคนาดา และสหรัฐอเมริกา

ลูกจำคืนที่นักบุญปีโอพาลูกมายังสวรรค์ เพื่อเข้าพบครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ได้หรือไม่ นั่นคือ
คำสอนของลูกและผู้ที่ฟังลูก และยังเป็นเครื่องหมายในการระลึกถึงคืนที่พระเยซูคริสตเจ้า
พระบุตรสุดที่รัก ของเราได้ลงมาบังเกิดบนโลกมนุษย์

ลูกจำที่นักบุญมัทธิวนิพนธ์พระวรสารจากการดลใจจากพระจิตได้หรือไม่ ว่าทำไมดวงดาว
ถึงส่องสว่างอยู่เหนือสถานที่ที่พระบุตรของเรา พระเยซูบังเกิดบนรางหญ้า นี่แหละคือเครื่องหมาย
นำทางของเหล่านักปราชญ์ทั้งสาม เหตุการณ์นี้คือเครื่องหมายของลูกและชาวคริสตชน
รวมทั้งบรรดานานาชาติในเวลานี้

ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์คือเครื่องหมายที่เป็นแบบอย่างของทุก ๆ ครอบครัว เราอยากให้ทุก ๆ
ครอบครัวที่ได้รับสารนี้มีตัวแทนของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ในบ้านของพวกเขา อาจจะเป็นสัญลักษณ์
หรือรูปปั้นครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ หรือว่าจะเป็นถ้ำพระกุมารที่ตั้งไว้ถาวรบริเวณศูนย์กลางของบ้าน
แต่ว่าภาพแทนเหล่านี้ต้องได้รับการอุทิศและเสกโดยพระสงฆ์

ดังที่ดวงดาวนำทางเหล่านักปราชญ์ทั้งสามมายังรางหญ้า การลงโทษจากเบื้องบนจะไม่ทำ
อันตรายครอบครัวคริสตชนที่อุทิศตน และได้รับการคุ้มครองจากครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ดวงไฟจะร่วง
หล่นจากฟากฟ้าเพื่อลงโทษผู้ที่ทำผิดร้ายแรง อย่างการทำแท้งบุตร และการฝ่าฝืนความตายแบบ
ธรรมชาติ วิปริตในกาม และอยากที่จะมีรูปลักษณ์เป็นหญิงหรือชาย ลูกของเรายอมแสวงหาหนทาง
การทำบาปมากว่าการมีชีวิตนิรันดร มีคนของเรากระทำการดูหมิ่นและเบียดเบียนมากขึ้น ทำให้เรา
ขุ่นเคืองพระทัย พลทหารของเราจะลงมาเบื้องล่างเพราะพวกเขาจะไม่ได้ยินเสียงพระเมตตาของเรา
เราจึงต้องให้มีโรคระบาดเกิดขึ้น เพื่อที่จะช่วยคนของเราให้พ้นจากการเป็นทาสของปีศาจ

จงส่งสารนี้ให้อ่านโดยทั่วกัน เราได้มอบอำนาจแก่นักบุญโยเซฟ ผู้เป็นตัวแทนของเรา ในการ
ดูแลคุ้มครองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์บนโลกมนุษย์ และปกป้องพระศาสนจักรอันเป็นพระกายของ
พระคริสตเจ้า โยเซฟ จะเป็นผู้คุ้มครองในช่วงเวลาแห่งการทดสอบนี้ ดวงหทัยอันนิรมลของพระแม่มารีย์
ลูกสาวของเรา และพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระเยซูคริสตเจ้า และนักบุญโยเซฟผู้มีใจบริสุทธิ์จะเป็น
โล่ป้องกันบ้านของลูก เป็นครอบครัวและที่หลบภัยระหว่างช่วงเวลาแห่งการทดสอบที่จะมาถึง

พระวาจาของเราคือคำอวยพรของลูกทุกคน ผู้ใดก็ตามที่ปฏิบัติตามพระประสงค์ของเรา
จะปลอดภัย พลังความรักอันยิ่งใหญ่ของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์จะปรากฏต่อสายตาลูก

เราคือพระบิดาของลูก

สารนี้มาจากเรา
พระองค์เริ่มต้นประโยคด้วยคำว่า "ลูกเอ๋ย จงฟังและจดบันทึก เราต้องการให้....
" มีหลายคนที่ติดใจกับคำว่า "ต้องการ" ที่พ่อได้รับมา พ่อไม่รู้ว่าต้องได้รับการเรียกจากพระองค์อีก
กี่ร้อยครั้งเพื่อยืนยันว่า นี่เป็นสารที่ดีหรือไม่ คนอื่นๆ มาบ่นกับพ่อว่า "พระบิดาสั่งเราไม่ได้ นี่ไม่ใช่
สารจากพระเป็นเจ้า พระบิดาต้องพูดเพียงคำว่า "เราแนะนำว่า..." มีบางคนเลือกที่จะเปลี่ยนคำของ
พระองค์ในตอนที่พวกเขานำสารของพระองค์ไปบอกเล่า

พ่อตอบกลับคนที่ถามพ่อไปว่า "ครั้งที่พระองค์ได้มอบพระบัญญัติ 10 ประการให้แก่โมเสส
พระองค์ได้ถามเขาหรือเปล่าว่า "ลูกชอบหรือไม่" เพราะพระองค์เป็นผู้เดียวที่มีอำนาจในการสั่งการต่าง ๆ

นี่คือสารที่พระบิดามอบให้พ่อ

"เราต้องการให้สารนี้เป็นที่กล่าวถึงโดยทั่วกันและในทุกพื้นที่ที่ลูกเทศน์สั่งสอนพวกเขา ทั้งใน
แคนาดาและสหรัฐอเมริกา"

ข้อความนี้สำคัญเพราะว่า พระองค์อยากให้สารนี้เข้าถึงคนทุกๆ กลุ่ม ที่พ่อกล่าวถึงเพื่อสานภารกิจ
ที่พระองค์ไว้ใจมอบให้พ่อให้ทำสำเร็จลุล่วง จากนั้นพระบิดาค่อย ๆ กระตุ้นความทรงจำและความรู้สึกของพ่อ

"ลูกจำคืนที่นักบุญปีโอพาลูกมายังสวรรค์เพื่อเข้าพบครอบครัวศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ นั่นคือคำสอนของลูก
และผู้ที่ฟังลูก และยังเป็นเครื่องหมายในการระลึกถึงคืนที่พระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรสุดที่รักของเราได้ลงมา
บังเกิดบนโลกมนุษย์"

อาจต้องใช้เวลาเล่าเรื่องคืนที่พ่อขึ้นสวรรค์ไปกับนักบุญปีโอจนหมดเวลาการประชุม แต่พ่อจะเล่า
รายละเอียดคร่าว ๆ ให้ฟัง นักบุญปีโอได้มาหาพ่อนั้นเป็นเรื่องจริง แต่จริง ๆ แล้วน่าจะเป็นพ่อมากกว่าที่
ไปหาท่าน ตอนนั้นที่พ่อนอนเล่นอยู่บนเตียง อยู่ดี ๆ พ่อก็โผล่มาอยู่บริเวณด้านนอกประตูสวรรค์ พ่อเห็น
ประกาศกเอลียาห์ ยอห์นผู้ทำพิธีล้าง และนักบุญปีโอ และพ่อได้เห็นเปลวไฟแห่งพระจิตปรากฏเป็นลักษณะ
ของพวกท่านทั้งสาม

นักบุญปีโอส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้พ่อตอนที่พบกัน ท่านเป็นคนน่ารัก ท่านพูดพร้อมกับสบตาพ่อ
และพ่อก็เข้าใจในสิ่งที่ท่านกำลังจะบอก ท่านบอกให้พ่อตามท่านไป แต่พ่อไม่อยากไป เพราะทางที่เรา
จะไปต้องข้ามประตูสวรรค์เข้าไป พ่อเลยรู้ว่าเราต้องเข้าไปในสวรรค์

พ่อกล่าวกับท่านว่า "ถ้าผมเข้าสู่สวรรค์ ผมคงต้องตาย"

ท่านหัวเราะและตอบว่า "ท่านได้ตายมาสี่ครั้งแล้ว" เหมือนกับพูดว่า "ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนี่"
ท่านพูดต่อว่า "อย่าห่วงเอย ยื่นมือมาเถิด เราจะเข้าไปด้วยกัน"

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6036
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ พ.ค. 15, 2024 9:00 pm

🌼~ Why Fr. Michael Rodrigue? สารจากพระบิดา ถึง คุณพ่อมิเชล  โรดริกย์
และคำเตือนแห่งยุคสุดท้าย ~🌼
👉 ตอนที่ (20)👈

🔥--- ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ผู้ปกป้องเราจากดวงไฟที่ร่วงหล่นจากท้องฟ้า (2) ---🔥
 
        พ่อเห็นทางเดินที่อยู่ตรงหน้ามีลักษณะคล้ายกับระเบียงรอบโบสถ์ทรงโบราณที่ทำจากทองคำ
แวววาวบริสุทธิ์ไม่เหมือนที่ไหนบนโลก มีประตูบานใหญ่สองบานปรากฏอยู่ตรงหน้าพ่อ และมีเซราฟิม
อยู่ด้านข้างประตูทั้งสองบาน พ่อเดินเข้าประตูนั้น มันช่างงดงามเหลือเกิน พ่อเห็นดอกไม้ต่าง ๆ ซึ่ง
ส่วนใหญ่เป็นดอกกุหลาบที่ออกดอกงดงาม แต่ละดอกเป็นตัวแทนถึงจิตวิญญาณที่เปี่ยมด้วยความเชื่อ
บนโลกมนุษย์ พ่อจึงเข้าใจว่า ถ้าหากจิตวิญญาณมนุษย์เปี่ยมด้วยความเชื่อ และปฏิบัติตามพระประสงค์
ของพระบิดาเจ้า ดวงวิญญาณเหล่านี้จะกลายเป็นดอกกุหลาบ เมื่อพวกเขาได้เข้าสู่อาณาจักรสวรรค์
หนึ่งในนั้นคือลูกนั่นเอง

ดอกไม้ที่เบ่งบานเยอะไม่แพ้กันคือดอกเดซี่ซึ่งพ่อก็รู้ว่าเป็นดอกไม้จากพระบิดา ดอกไม้พวกนี้มัน
สวยงามและสว่างไสว แล้วพ่อก็สังเกตเห็นสัตว์ตัวเล็ก ๆ พ่อประหลาดใจที่เห็นสุนัขกำลังดมกลิ่นอยู่รอบ ๆ
แถวนั้น พ่อจึงถามว่า "ทำไมมีสุนัขบนนี้ด้วย" นักบุญปีโออธิบายให้พ่อฟังว่า ในตอนที่พระเยซูคริสต์เจ้า
สิ้นพระชนม์ พระองค์ไม่ได้ทรงกระทำเพื่อไถ่บาปมนุษย์เพียงอย่างเดียว แต่พระองค์ยังทรงกอบกู้ทุกสรรพสิ่ง
แม้แต่สัตว์ต่าง ๆ ก็ได้รับการกอบกู้จากการไถ่บาปของพระเยซูคริสตเจ้า
และเราก็จะมีสวรรค์และโลกมนุษย์แห่งใหม่

พ่อรู้สึกว่าพ่อไม่ควรที่จะออกนอกเส้นทางที่นักบุญปีโอเดินอยู่ พ่อก็เลยเดินตามต่อไปเรื่อย ๆ ที่นั่น
สวยงามเป็นอย่างมาก พ่อเห็นก้อนหินสวยงามลักษณะต่าง ๆ อย่างที่อธิบายในหนังสือวิวรณ์ ก้อนหินนั้น
มีพลังแห่งความรักและการรักษา

จู่ ๆ เส้นทางนั้นก็เปลี่ยนไป และเราก็มาอยู่ที่พลับพลาศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นที่ประทับสำหรับพระตรีเอกภาพ
บนสวรรค์ สถานที่แห่งนี้มีความงดงามเกินกว่าจะบรรยายเป็นคำพูดได้ เมื่อเราเดินเข้าไปข้างใน ก็มีกำแเพง
อันสูงใหญ่ ที่ทำจากหินสีเขียว ที่แสงสามารถลอดผ่านได้ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเรา นักบุญปีโอ กล่าวกับ
พ่อว่า "มีหินลักษณะเช่นนี้ทางตอนเหนือของควิเบก ลูกต้องสร้างรางหญ้าจากหินนี้" ซึ่งเป็นเรื่องจริงอย่างที่
ท่านว่า บราเดอร์ฟิลิปเป็นผู้พบหินเขียวนี้ (สมาชิกในคณะภราดานักบุญโยเซฟ เบเนดิกต์ ของคุณพ่อมิเชล)
ไม่นานเราก็สร้างรางหญ้าที่ทำจากหินสีเขียวนี้ขึ้นมา

พ่อรู้สึกได้ว่าเรามารออะไรบางอย่าง นักบุญปีโอกล่าวขึ้นมาว่า "พระองค์กำลังเสด็จมาหาท่าน"

"ใครหรือ"

ไม่นานนักบุญโยเซฟก็ปรากฏกายขึ้น ท่านดูเหมือนก้อนหินแห่งความเชื่อ ท่านดูใจดี งดงาม และสูงกว่า
พ่อเล็กน้อย รูปลักษณ์ของท่านดูอายุไม่เกิน 40 ปี ท่านส่งยิ้มให้พ่อ ท่านไม่ได้มีรูปร่างที่ผอมบาง ท่านเป็นชาย
หนุ่มที่แข็งแรงมากๆ แต่ก็ดูอ่อนโยนอย่างที่สุด ที่แผ่มาจากร่างกายของท่าน นั่นคือเสน่ห์ของท่าน นักบุญโยเซฟ
ยังได้รับอำนาจจากพระบิดาอีกด้วย พ่อรับรู้ถึงความแข็งแกร่งที่แผ่ออกมาจากตัวท่าน จึงเข้าใจแล้วว่าทำไม
ถึงเรียกท่านว่า "ความหวาดหวั่นของปีศาจ" ในความคิดของพ่อ ท่านคือต้นแบบของบิดาที่พ่อทุกคนควรเอา
เป็นเยี่ยงอย่าง ท่านไม่ได้เอ่ยปากพูดกับพ่อโดยตรง แต่สื่อสารกับพ่อด้วยการมองตา พ่อได้ยินคำพูด และ
ความคิดของท่านด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลและหนักแน่นในเวลาเดียวกัน ท่านยังมอบคำสอนให้พ่ออีกด้วย
ท่านช่างบริสุทธิ์ พลังของพระจิตในตัวของท่านนั้นแข็งแกร่งมาก และผิวพรรณของท่านก็ผ่องใส แต่ไม่
เหมือนกับพระแม่มารีย์ เพราะพระนางบริสุทธิ์ยิ่งกว่าเทวดาทั้งหลาย

ท่านพูดคุยกับพ่อหลายเรื่อง รวมทั้งความสำคัญของความบริสุทธิ์ ท่านบอกว่า พ่อบนโลกมนุษย์มี
หน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ความบริสุทธิ์ของครอบครัว เพราะทุก ๆ สิ่งในปัจจุบันนี้ทำลายความใสซื่อบริสุทธิ์ของ
ลูกหลานของเรา แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มาจากพระเป็นเจ้า ทุกวันนี้ผู้คนสอนเด็กอนุบาลถึงเรื่องการมีเพศสัมพันธ์
ซึ่งส่งผลกระทบต่อเด็ก ๆ ผู้ปกครองมีสิทธิ์ที่จะเข้าไปพูดคุยกับคนพวกนั้นที่โรงเรียน เพื่อบอกให้พวกเขาหยุด
พูดเรื่องแบบนี้ให้เด็ก ๆ ฟัง ท่านปกป้องเด็ก ๆ เหล่านั้นด้วยการปกป้องความบริสุทธิ์ของพวกเขา

นักบุญโยเซฟกล่าวว่า ท่านคือตัวแทนภาพลักษณ์ของพระบิดาเจ้าให้พระเยซู ท่านต้องมรณภาพ และ
จากโลกมนุษย์ไปก่อนที่พระเยซูเจ้าจะเปิดเผยข่าวดีของพระองค์สู่สาธารณชน เพราะว่าพระเยซูจะเปิดเผย
เรื่องของพระบิดา ด้วยความเป็นมนุษย์ทำให้นักบุญโยเซฟจากโลกมนุษย์ไป เพื่อไม่ให้ผู้คนตีความหมาย
ความเป็นบิดาของท่านที่มีต่อพระเยซูคริสตเจ้าผิดไป

และแล้วพ่อก็พบกับพระแม่มารีย์และพระบุตรของท่านในอ้อมแขน พระนางงดงามอย่างยิ่ง ผิวพรรณ
ของพระนางก็เปล่งแสงผ่องใส ไม่มีอะไรในโลกมนุษย์มาเปรียบเทียบความงดงามของผิวพรรณพระแม่ได้
พระนางมีตัวตนจริง ๆ เพราะพระนางได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ พระนางสอนพ่อหลาย ๆ
เรื่อง และพระนางได้แสดงความรักต่อพ่อ โดยอนุญาตให้พ่ออุ้มพระกุมาร แต่พ่อกลับรู้สึกว่าตนเองนั้นไม่
บริสุทธิ์พอ พ่อเลยกล่าวกับพระแม่มารีย์ว่า "ลูกไม่สมควรจะอุ้มพระกุมารได้" พระนางมองพ่อและเอ็ดพ่อ
เล็กน้อยด้วยความเป็นแม่ว่า "ท่านเป็นพระสงฆ์ไม่ใช่หรือ" "ลูกอุ้มพระกุมารทุกครั้งที่ลูกทำพิธีบูชาขอบ
พระคุณไม่ใช่หรือ แล้วตอนนี้ลูกปฏิเสธทำไม"

พ่อเลยอุ้มพระกุมารไว้ในอ้อมแขน ตอนที่อุ้มพระกุมารหัวใจพ่อเต้นแรงมาก และก็รู้สึกปลื้มปริ่มใจ
จนหมดสติไป พ่อมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่พ่อกลับมาอยู่ที่ห้อง ในใจพ่อมีความสุขมาก ๆ จนเหมือนกับล่อง
ลอยอยู่บนก้อนเมฆ สักพักใหญ่พ่อถึงหายตื่นเต้น (คุณพ่อมิเชลหัวเราะด้วยความสุขตอนที่เล่าช่วงเวลานี้)
และตอนที่พ่อนอนลงบนเตียงอีกครั้งก็ ปุ้ง!..พ่อกลับไปอยู่บนสวรรค์พร้อมกับพระกุมารในอ้อมแขน
พระองค์ทรงน่ารักมาก ๆ (คุณพ่อมิเชลหัวเราะอย่างเบิกบานใจอีกครั้ง) พ่อเห็นพระเยซูทั้งในรูปลักษณ์ของ
พระกุมาร และพระเยซูผู้เป็นกษัตริย์ในเวลาเดียวกัน

พระนางมารีย์กล่าวกับพ่อด้วยความรักว่า "ลูกกลับไปได้แล้ว"

นักบุญปีโอเอ่ย "มากับเราเถิด" และเราก็เดินไปที่ด้านหนึ่งของที่ประทับ "ดูนั่นสิ ท่านเห็นอะไร"
พ่อเห็นรางหญ้าที่ทำจากหินสีเขียว "ลูกต้องมีรางหญ้านี้ในวัดน้อย รางหญ้าที่ทำจากหินสีเขียวที่แสง
ลอดผ่านได้"

ท่านบอกกับพ่อว่า "เงยหน้าดูสิ" พ่อก็เงยหน้าหน้าขึ้นและเห็นมงกุฎของพระแม่มารีย์ ตัวมงกุฎ
ตกแต่งด้วยดอกกุหลาบอันสวยงามที่มีชีวิตและส่องแสง พ่อได้ยินพระนางตรัสว่า "คณะภราดาของลูกอยู่
ในมงกุฎของเรา ดอกกุหลาบนี้หมายถึงคณะภราดรของลูก จะไม่มีใครทำอะไรคณะของลูกได้" พ่อดีใจมาก ๆ
และเรื่องนี้ก็กลายเป็นจริง ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งคณะภราดาในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา เราต้องพบเจอปัญหาต่าง ๆ
มากมาย แต่ทุกครั้งที่เกิดปัญหา พระบิดาเจ้าช่วยพ่อขจัดปัญหา และทำให้เส้นทางของพ่อราบรื่นก่อนที่
พ่อจะเดินต่อไป เป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก ๆ พ่อไม่ค่อยได้ร้องขออะไรมากมาย เพราะคณะภราดรภาพนั้น
อยู่ในมงกุฎของพระแม่มารีย์

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6036
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ พ.ค. 15, 2024 9:06 pm

🌼~ Why Fr. Michael Rodrigue? สารจากพระบิดา ถึง คุณพ่อมิเชล  โรดริกย์
และคำเตือนแห่งยุคสุดท้าย ~🌼
👉 ตอนที่ (21)👈

🔥--- ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ผู้ปกป้องเราจากดวงไฟที่ร่วงหล่นจากท้องฟ้า (3) ---🔥
         
หลังจากนั้นนักบุญปีโอก็พาพ่อไปที่ดินแดนชำระ พ่อเพิ่งรู้ว่าดินแดนชำระมี 7 ชั้น ในชั้นล่างสุด
พ่อเห็นดวงวิญญาณถูกทุบตีจากปีศาจ เพื่อเป็นการชำระล้างตัวพวกเขาให้บริสุทธิ์ ในชั้นนี้พ่อเห็นดวง
วิญญาณลอยขึ้นไปข้างบนอย่างรวดเร็ว พ่อรู้สึกประหลาดใจมาก ดวงวิญญาณเหล่านี้ได้ลอยขึ้นไป
เพราะเราทำมิสซาให้พวกเขา ดวงวิญญาณบางดวงต้องการการขอมิสซาหลายครั้ง เพื่อให้ดวงวิญญาณ
เข้าสู่อาณาจักรสวรรค์เร็วขึ้น บางดวงอาจจะไม่ต้องขอเยอะ แต่บางดวงก็ต้องการจำนวนมาก โดยเฉพาะ
การภาวนาที่มีพลังมากๆ เช่น การสวดสายประคำ หรือการสวดสายประคำพระเมตตา การสวดสายประคำ
พระเมตตาเป็นการภาวนาให้แก่ผู้ที่กำลังจะตายให้ได้รับพระหรรษทานพิเศษ เพื่อให้ดวงวิญญาณของเขา
เข้าใกล้สวรรค์มากขึ้น

          นักบุญปีโอให้พ่อเห็นโต๊ะขนาดใหญ่ และมีชายสวมฮู้ดปิดบังใบหน้านั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะนั้น
คุณพ่อปีโอถามพ่อว่า "ท่านเห็นอะไร"
"มีชายหลายคนนั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะ"
"ดูอีกทีสิ"
ตอนนี้ฮู้ดคลุมหน้าหายไปแล้ว พ่อไม่เห็นหน้าพวกเขา แต่สังเกตเห็นว่า บางคนมีกางเขนอยู่บริเวณอก
"ตอนนี้ท่านเห็นอะไร"
"พวกเขาคือพระสงฆ์ พระสังฆราช...แล้วก็พระสันตะปาปา"

"มิเชล นี่คือพระประสงค์ของพระบิดา ในทุกๆ วันศุกร์ลูกต้องทำพิธีมิสซาให้พวกเขา บางคนก็อยู่ที่นี่มานาน
และรอคอยคำภาวนา เพราะไม่มีใครสวดภาวนาให้พวกเขาเลย ทุกคนคิดว่าเมื่อพระสงฆ์เหล่านี้เสียชีวิต
ดวงวิญญาณพวกเขาจะได้ขึ้นสวรรค์ มีหลายท่านที่ถูกทอดทิ้งไว้ที่นี่ ท่านต้องสวดภาวนาและประกอบ
พิธีมิสซาให้พวกเขา" พ่อสัญญาว่าพ่อจะทำให้ แล้วสักพักพ่อก็เข้าใจได้ว่านี่ไม่ใช่โต๊ะ แต่เป็นแท่นบูชาซึ่ง
หมายถึงพระสงฆ์ที่ยืนอยู่ตรงพระแท่นบูชา
หลังจากนั้น คุณพ่อปีโอจะพาพ่อเดินลงไปข้างล่าง แต่พ่อก็พูดขึ้นมาว่า
"ผมไม่อยากลงไปข้างล่าง ผมพบเจอปีศาจบนโลกมนุษย์มาเยอะพอแล้ว"

          พ่อได้รับคำสอนอีกมากมายแล้วก็กลับมาที่ห้องนอนของพ่อในตอนเช้า ตอนนั้นพ่อเห็นพระอาทิตย์
กำลังขึ้น แต่พ่อกลับไม่รู้สึกเหนื่อยหรือง่วงเลย จริงๆ แล้วพ่อรู้สึกกระปรี้กระเปร่ากว่าตอนที่พ่อได้ขึ้นไป
ข้างบนนั้นอีก และนี่คือเรื่องราวคร่าว ๆ ของคืนที่นักบุญปืโอมาพบพ่อ ซึ่งพระบิดาเจ้าได้กล่าวถึงคืนนั้น
ในสารของพระองค์ที่ต่อจากครั้งที่แล้วว่า
"ลูกจำที่มัทธิวผู้นิพนธ์พระวรสารนิพนธ์พระวรสารจากการดลใจจากพระจิตได้หรือไม่ ว่าทำไมดวงดาว
ถึงส่องสว่างอยู่เหนือสถานที่ที่พระบุตรของเรา พระเยซูบังเกิดบนรางหญ้า นี่แหละคือเครื่องหมายนำทาง
ของเหล่านักปราชญ์ทั้งสาม เหตุการณ์นี้คือเครื่องหมายของลูกและชาวคริสตชน รวมทั้งบรรดานานาชาติ
ในเวลานี้

ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์คือเครื่องหมายที่เป็นแบบอย่างของทุก ๆ ครอบครัว เราอยากให้ทุก ๆ ครอบครัวที่
ได้รับสารนี้มีตัวแทนของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ในบ้านของพวกเขา อาจจะเป็นสัญลักษณ์หรือรูปปั้นครอบครัว
ศักดิ์สิทธิ์ หรือว่าจะเป็นถ้ำพระกุมารที่ตั้งไว้ถาวรบริเวณศูนย์กลางของบ้าน แต่ว่าภาพแทนเหล่านี้ต้องได้
รับการอุทิศและเสกโดยพระสงฆ์"

รูปภาพพระเยซูเจ้าและพระแม่มารีย์ทำให้เราตระหนักได้ว่า นักบุญโยเซฟและพระแม่มารีย์เป็น
ผู้ที่เชื่อฟังต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า การเชื่อฟังนี้มาจากการรับฟัง การสวดภาวนา และการอ่าน และสนใจ
ในเครื่องหมายของพระผู้เป็นเจ้า จำได้ไหมว่านักบุญโยเซฟเชื่อฟังคำของเทวทูตในความฝันของเขา
และพระนางมารีย์ก็ได้รับสารจากพระเป็นเจ้า เพราะการเชื่อฟังนี้ พวกท่านเลยได้รับเลือกให้ทำภารกิจ
ของพระเป็นเจ้าที่พระเยซูเจ้ารับเอากายมาบังเกิดเป็นมนุษย์ ดังนั้น ในเวลานี้ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์คือเครื่อง
หมายของลูก พวกท่านไม่เคยนินทาว่าร้าย พวกท่านแต่ละองค์คือตัวแทนของสมาชิกในครอบครัวศักดิ์สิทธิ์
พวกท่านไม่ต้องมีโทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ หรือรถคันใหม่ แต่เราสามารถเห็นแบบอย่างการใช้ชีวิต
ครอบครัวคริสตชนที่ดีจากพวกท่าน

รูปภาพของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์จะนำพระพรและพระหรรษทานในการกลับใจอันมากมายแก่
ทุกคนที่เข้ามาในบ้านของลูก แต่ต้องตั้งรูปไว้ใจกลางของบ้านในที่ที่ทุกคนสามารถมองเห็นได้ ไม่ได้
ตั้งแค่เฉพาะวันคริสต์มาส หรือแค่เดือนเดียวแล้วเก็บเอาไว้ในตู้เสื้อผ้า ลูกต้องตั้งไว้ตลอด แล้วลูกจะรู้ว่า
ทำไมรูปภาพหรือสัญลักษณ์แทนครอบครัวศักดิ์สิทธ์นี้ต้องได้รับการเสกและอุทิศแล้ว มีพระสงฆ์หลายท่าน
ไม่รู้วิธีการเสกและการอุทิศ บทสวดภาวนาปกติที่พระสงฆ์เสกให้ก็สามารถใช้ได้พร้อมกับน้ำหรือน้ำมันเสก
แล้วกล่าวว่า "ด้วยน้ำมันเสก (น้ำเสก) นี้ ข้าพเจ้าขอถวายรูปภาพนี้ต่อพระบิดา และพระบุตรและพระจิต"
(ตอนที่คุณพ่อทำพิธีเสกน้ำและน้ำมันในการประชุม คุณพ่อใช้น้ำมันเสกไล่ปีศาจ ซึ่งเป็นน้ำมันมะกอกสกัด
เย็นที่ได้รับการเสกสำหรับไล่ปีศาจแล้ว (การสวดทำพิธีเอ็กโซซิส) และคุณพ่อก็แตะไปที่ภาพหรือรูปปั้น
บริเวณพระเศียรของพระเยซู พระแม่มารีย์และนักบุญโยเซฟ คุณพ่อขอให้คนที่เป็นเจ้าของแกะพลาสติกหุ้ม
ออกไป เพื่อที่คุณพ่อจะได้สัมผัสกับรูปโดยตรง)

"ดังที่ดวงดาวนำทางเหล่านักปราชญ์ทั้งสามมายังรางหญ้า การลงโทษจากเบื้องบนจะไม่ทำอันตราย
ครอบครัวคริสตชนที่อุทิศตน และได้รับการคุ้มครองจากครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ดวงไฟจะร่วงหล่นจากฟากฟ้า
เพื่อลงโทษผู้ที่ทำผิดร้ายแรง อย่างการทำแท้งบุตร และการฝ่าฝืนความตายแบบธรรมชาติ วิปริตในกาม
และอยากที่จะมีรูปลักษณ์เป็นหญิงหรือชาย"

(ในตอนที่สัมภาษณ์คุณพ่อมิเชล ท่านกล่าวว่า พระบิดาทรงทำให้คุณพ่อเห็นดาวหางสามดวง ดวงที่ใหญ่
ที่สุดพาดผ่านโลกไปอย่างฉิวเฉียด และอีกสองดวงซึ่งมีขนาดเล็กกว่าตกลงมาบนพื้นโลก พระองค์ยังทรงทำ
ให้คุณพ่อเห็นดวงไฟร่วงหล่นมาจากฟากฟ้าอีกด้วย)

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6036
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ พ.ค. 15, 2024 9:17 pm

🌼~ Why Fr. Michael Rodrigue? สารจากพระบิดา ถึง คุณพ่อมิเชล  โรดริกย์
และคำเตือนแห่งยุคสุดท้าย ~🌼
👉 ตอนที่ (22)👈

🔥--- ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ผู้ปกป้องเราจากดวงไฟที่ร่วงหล่นจากท้องฟ้า (4) ---🔥

          พ่อก็เคยเห็นดาวตกร่วงลงมาตอนที่พ่ออายุ 11 ปี และเห็นอีกครั้งตอนพ่ออายุ 14 ปี พ่อได้เห็น
อุกาบาตที่มีแสงสว่างออกมา พ่อคิดว่ามันเปล่งแสงออกมาเพราะออกซิเจนในอากาศ ถึงว่าทำไมสาร
บางฉบับกล่าวถึงดวงไฟที่ร่วงหล่นมาจากฟากฟ้า แน่นอนว่าพระเป็นเจ้าไม่ทรงใช้สิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น
ให้เกิดไฟ หากถามว่า พระองค์ไม่ทำให้เกิดไม่ได้หรือ อุกาบาตจะล่วงลงมาจากฟ้าในวันสิ้นสุดแห่งความ
ทุกขเวทนา ก่อนจะเข้าสู่ช่วง เวลาสามวันแห่งความมืดมิด ซึ่งจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวและสึนามิ

พ่อได้เห็นดวงไฟตกลงมาจากฟ้า พ่อพูดเรื่องจริงพ่อเห็นบางอย่างตกลงมาจากฟ้า และในตอนนั้น
บ้านทุกหลังที่อุทิศที่พักของตัวเองต่อครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ และมีรูปภาพของพระเยชู พระแม่มารีย์และนักบุญ
โยเซฟจะได้รับการปกป้องด้วยโดมคุ้มภัยล่องหน พระเป็นเจ้าจะทำให้ดวงไฟเหล่านั้นหยุดตก และไม่โดน
บ้านพวกเขาเหล่านั้น

ประมาณ 7 ปีที่แล้ว ตอนนั้นพ่อไปพักที่บ้านหลังเล็กๆ แถบชายฝั่ง รัฐแคลิฟอร์เนีย พ่อได้รู้ว่าเจ็ดปี
ก่อนที่พ่อมาที่นี่ บ้านเรือนและทุกสิ่งในเมืองถูกทำลายด้วยคลื่นพายุเฮอริเคน หนึ่งอาทิตย์ก่อนเกิดคลื่น
พายุ เหล่าคริสตชนที่เคร่งศาสนาที่อยู่ที่นั่น ได้อุทิศบ้านของพวกเขาต่อแม่พระแห่งน็อกค์ คลื่นพายุซัดสาด
บ้านหลายแสนหลังคาเรือน และทำให้สายไฟขาดหลุดร่วงลงน้ำ และแก๊สก็รั่วไหลลงน้ำ กระแสไฟจาก
สายไฟนั้น โดนกับแก๊สทำให้เกิดไฟลุก และน้ำบริเวณนั้นก็ติดไฟ ทุกๆ สิ่งโดนเผาไหม้หมด แต่บ้านของ
พวกเขา ไม่เป็นอะไรแม้แต่รถยนต์ เพราะพวกเขาได้รับการปกป้อง

มีทหารเข้ามาในพื้นที่เพื่อเก็บกวาดความเสียหายให้เรียบร้อย เห็นบ้านเล็กๆ หลังหนึ่งอยู่ท่ามกลาง
ซากปรักหักพัง ทหารเหล่านี้ก็เข้าไปหาเจ้าของบ้านหลังนั้น แล้วพบว่าพวกเขากำลังนั่งกันอยู่ที่โต๊ะอาหาร
แล้วถามคนในบ้านว่า "พวกคุณมาทำอะไรที่นี้" "เราอยู่ที่นี่ บ้านเราปลอดภัย เพราะพระแม่มารีย์ปกป้องเรา"
ทหารเหล่านั้นไม่เชื่อที่เขาพูด ในปัจจุบันบ้านหลังนี้ยังคงอยู่ท่ามกลางตึกรามบ้านช่องที่สร้างขึ้นมาใหม่
ที่มีขนาดใหญ่และแข็งแรงมากขึ้นเพื่อต้านทานภัยธรรมชาติ แต่เจ้าของบ้านหลังเล็กหลังนี้ไม่ได้ปรับเปลี่ยน
อะไรเลย พวกเขากล่าวว่า "โครงสร้างที่แข็งแรงที่สุดคือพระแม่มารีย์"

เรื่องนี้ก็สำคัญ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องราวของเมืองฟาติมา ที่พระแม่มารีย์ประจักษ์องค์
พระแม่ทรงให้คำสัญญาเรื่องเหตุการณ์อัศจรรย์ในวันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. 1917 มีคนประมาณ 70,000 คน
มาอยู่ร่วมกันเพื่อเป็นพยานในเหตุการณ์ครั้งนั้น วันนั้นฝนตกหนักมาก พื้นดินและคนที่นั้นเปียกแฉะไปหมด
พระอาทิตย์เคลื่อนตัวบนท้องฟ้าเหมือนเต้นระบำ และทันใดนั้นพระอาทิตย์ก็โผล่จากเมฆฝนต่อหน้าพวกเขา
ผู้คนที่นั่นคิคว่านี่คงเป็นวันสิ้นโลกแล้วจึงเริ่มสารภาพบาปกันเสียงดังระงม และในตอนนั้นเอง เหตุการณ์
อัศจรรย์สามอย่างเกิดขึ้นตามที่นักข่าวรายงานลงบนหน้าหนังสือพิมพ์

อัศจรรย์แรกคือ ทุกคนในที่แห่งนั้นตัวแห้งทันทีราวกับว่าไม่เคยโดนโคลนหรือน้ำฝนมาก่อน อัศจรรย์
ที่สองคือ กลีบดอกกุหลาบร่วงหล่นลงมาจากสวรรค์และหายไปเมื่อมนุษย์ยื่นมือไปสัมผัส และอัศจรรย์ที่
สามคือ ในตอนที่พระอาทิตย์เคลื่อนตัวกลับมาอยู่ที่เดิม ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า
เหมือนกับว่าพวกท่านกำลังหยุดพระอาทิตย์เอาไว้

ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์จะปกป้องโลกใบนี้ ทำไมถึงเป็นแบบนั้นหรือ เพราะว่าครอบครัวศักดิ์สิทธิ์เคย
ใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์ อาณาจักรสวรรค์นั้นมีเทวดาคุ้มครองอยู่แล้ว ส่วนโลกมนุษย์ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์
และเหล่านักบุญจะเป็นผู้ปกป้องเอง

"ลูกของเรายอมแสวงหาหนทางการทำบาปมากว่าการมีชีวิตนิรันดร์ มีคนของเรากระทำการดูหมิ่นและ
เบียดเบียนมากขึ้นทำให้เราขุ่นเคืองพระทัย"

ผู้คนใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อค้นหาสิ่งต่างๆ พวกเขาค้นหาชมรมเพื่อเข้าไปเป็นสมาชิก ค้นหาสิ่งต่างๆ
เพื่อตอบสนองความพึงพอใจและความชอบแปลกๆ พ่อเห็นบาปที่พวกเขาไม่ได้สารภาพทำให้พวกเขา
ต้องเจ็บป่วย เช่น การทำแท้ง การกระทำของรักร่วมเพศ การร่วมรักแบบวิตถาร การทุจริตในหน้าที่การงาน
การขโมยของ การโกหกคนรักของตน บางครั้งที่มนุษย์ป่วยหนักเพราะว่าบาปเหล่านี้ ไม่ใช่แค่คริสตชน
เท่านั้นที่เห็นด้วยกับความเชื่อนี้ ชาวยิวก็เชื่อเรื่องที่ผลของการทำบาปส่งผลต่อร่างกายเช่นกัน

"พลทหารของเราจะลงมาเบื้องล่าง ณ ตอนนี้"

เป็นครั้งแรกที่พระบิดาบอกกับพ่อว่า ".....จะมา ณ ตอนนี้"

"พวกเขาไม่ได้ยินเสียงพระเมตตาของเรา เราจึงต้องให้มีภัยพิบัติเกิดขึ้น เพื่อที่จะช่วยประชาชนของเรา
ให้พ้นจากการเป็นทาสของปีศาจ"

ภัยพิบัติที่ว่านั้นคือความเจ็บป่วย เมื่อผู้คนไม่สบายพวกเขาจะหันมาพึ่งพระเจ้า เพราะพวกเขารู้ว่า
ตนไม่สามารถช่วยตนเองให้หายได้ แต่พระเป็นเจ้าทำได้ นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพระบิดาสามารถช่วย
พวกเรามากมายจากโรคร้ายต่างๆ ได้

"จงส่งสารนี้ให้อ่านโดยทั่วกัน เราได้มอบอำนาจแก่นักบุญโยเซฟผู้เป็นตัวแทนของเรา ในการดูแล
คุ้มครองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์บนโลกมนุษย์ และปกป้องพระศาสนจักรอันเป็นพระกายของพระคริสตเจ้า
โยเซฟจะเป็นผู้คุ้มครองในช่วงเวลาแห่งการทดสอบนี้"

นักบุญโยเซฟจะปกป้องพระศาสนจักรซึ่งคือพระกายของพระเยซู ดังที่ท่านปกป้องพระกุมาร

"ดวงหทัยอันนิรมลของพระแม่มารีย์ลูกสาวของเรา พระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระเยซูคริสตเจ้า
และนักบุญโยเซฟผู้มีใจบริสุทธิ์จะเป็นโล่ป้องกันบ้านของลูก จะเป็นครอบครัวและที่หลบภัยระหว่าง
ช่วงเวลาแห่งการทดสอบที่จะมาถึงนี้"

เป็นครั้งแรกที่พ่อได้รับสารว่าการชำระล้างนั้นเป็นเรื่องจำเป็น และพระองค์ทรงบอกให้รู้ว่าจะเกิดขึ้น
เร็วๆ นี้ พ่อเชื่อมาเสมอว่าเราหลีกเลี่ยงเหตุการณ์เหล่านั้นได้จนกระทั่งตอนนี้ พ่อไม่เชื่อแบบนั้นอีกแล้ว

"พระวาจาของเราคือคำอวยพรของลูกทุกคน ผู้ใดก็ตามที่ปฏิบัติตามพระประสงค์ของเราจะปลอดภัย
พลังความรักอันยิ่งใหญ่ของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์จะปรากฏต่อสายตาทุกคน"

เราคือพระบิดาของลูก

สารนี่มาจากเรา

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6036
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ พ.ค. 15, 2024 9:22 pm

🌼~ Why Fr. Michael Rodrigue? สารจากพระบิดา ถึง คุณพ่อมิเชล  โรดริกย์
และคำเตือนแห่งยุคสุดท้าย ~🌼
👉 ตอนที่ (23)👈

🔥--- คุณพ่อมิเชล ปะทะ ปีศาจ (1) ---🔥

เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องของคุณพ่อมิเชลปะทะกับปีศาจและโรคร้าย
พ่อต้องเข้ารับการรักษาตัวหลายครั้ง พ่อเข้ารักษาโรคมะเร็ง 3 ครั้ง และโรคหัวใจ 8 ครั้ง ทุกๆ
ครั้งที่เกิดอาการพ่อก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ครั้งสุดท้ายที่พ่อกลับคืนร่าง หลังจากที่คุณหมอพยายาม
ยื้อชีวิตพ่อเป็นเวลาสี่ชั่วโมง "หมอพาผมกลับมาทำไม" สวรรค์สวยงามมาก หลังจากนั้นพ่อก็เป็นมะเร็ง
ดวงตา หมออยากจะให้พ่อผ่าตัดเอาดวงตาออก คุณหมอจะทำการผ่าตัด และพ่อก็จะเสียดวงตาข้างนั้น
ไป พ่อก็ร้อง "โว้วว" แล้วพ่อก็กลับบ้าน พ่อทำที่แปะตาจากน้ำและเกลือเสกเอ็กโซซิส พ่อแปะแผ่นนั้นบน
ดวงตา พ่อรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น พ่อแปะทิ้งไว้เป็นเวลาสามวัน หมอพวกนั้นจะเอาตาของพ่อ
ออกไป พ่อก็เลยอยากได้เหตุผลดีๆ จากคุณหมอในการผ่าตัด

หลังจากผ่านไป 3 วัน พ่อมาหาหมอที่จะผ่าตัดพ่ออีกรอบ พ่อเข้าไปในห้องทำงานของหมอ
แล้วเชิญให้พ่อนั่งบนเก้าอี้

หมอมองตาพ่อแล้วถามว่า "คุณพ่อไปทำอะไรมา"
พ่อบอกว่า "พ่อเอาเกลือและก็น้ำเสกไล่ปีศาจมาทำแผ่นแปะตา"
"ผมไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร แต่ว่าคุณพ่อหายแล้ว คุณพ่อไม่เป็นอะไรแล้ว"
***
หลังจากนั้นพ่อก็รักษาโรคมะเร็งครั้งสุดท้ายที่พ่อเป็น หมอทำการผ่าตัดเอาออกทำให้พ่อต้อง
นอนหันข้างเดียวตลอดทั้งเดือน พ่อไม่สามารถพลิกหรือขยับตัวได้ เพราะว่าตัวพ่อมีเครื่องไม้เครื่องมือ
ติดอยู่เต็มไปหมด พ่อรู้ว่าโรคที่เป็นไม่ได้มาจากพระเจ้า พ่อรู้ตั้งแต่เริ่มเป็นแล้ว ทุกคนก็กลัวแทนพ่อ
แล้วพูดว่า "คุณพ่อจะเสียแล้ว ท่านจะเสียแล้ว" พวกเขามั่นใจมากๆ ว่า พ่อจะไม่รอด บางคนก็วางแผนที่
จะหาคนมาแทนพ่อ แต่พ่อรู้ว่าพ่อต้องทนเจ็บเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อคณะภราดา และเพื่อพระศาสนจักร

ในคืนที่พ่อรักษาตัว พ่อฝันแต่ก็ไม่เหมือนกับฝันซะทีเดียว แต่เป็นเหมือนภาพนิมิตมากกว่า พระเยซูเจ้า
ปรากฏต่อหน้าพ่อบนกางเขนในฐานะกษัตริย์แห่งสากลจักรวาล พระองค์ดูสง่างามในพระสิริรุ่งโรจน์ไร้ซึ่ง
ความเจ็บปวด พระองค์เดินเข้ามาใกล้พ่อ จนพ่อเห็นอาณาจักรสวรรค์ในพระเนตรของพระองค์ เพราะเมื่อ
พ่อสบตาพระองค์ พ่อรู้สึกเหมือนอยู่บนสรวงสวรรค์ การได้พบพระพักตร์พระองค์ทำให้พ่อได้รับการรักษา
พ่อเดินเข้าไปใกล้พระองค์เพื่อจ้องมองพระพักตร์อันงดงามผ่องใสของพระองค์ พระองค์มองพ่อใกล้ๆ จน
พ่อรู้สึกว่าพระองค์อยู่ในตัวของพ่อ แล้วพ่อกับพระองค์ก็ได้มาอยู่บนเนินเขาโกละโกธา พระองค์ตรัสว่า
"มองลงไปข้างล่างเนินนี้สิ" ทันใดนั้น พ่อก็เห็นพื้นโลกเบื้องล้างเนินเขาที่แยกออกมา เหมือนที่พ่อเคยเห็น
สมัยที่พ่อยังเด็กๆ แล้วมองไปที่ซาตานที่สวมมงกุฎถูกผลักลงไปในนรกอันมืดมิดด้วยแรงมหาศาล แล้ว
ทุกอย่างก็ดับไป จากนั้น พระเยซูทรงมอบรอยยิ้มงดงามให้พ่อ แล้วตรัสกับพ่อบนกางเขนว่า
"เรียบร้อยแล้ว ลูกหายแล้ว"

วันต่อมาพ่อไปหาหมอเชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งที่โรงพยาบาล เขาบอกว่าพ่อต้องทำคีโมแบบทั่ว
ร่างกาย และพวกเขาจะลองใช้วิธีรักษาแบบใหม่รักษาพ่อ พ่อบอกกับหมอว่า "ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก"
"คุณพ่อหมายถึงอะไรครับ"
"พระเยซูบอกว่าพ่อหายแล้ว"
หมอคิดว่าพ่อกำลังโน้มน้าวใจหมอ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเข้ารับการบำบัดคีโม หมอเลยบอกว่า
"เดี๋ยวผมเอาเลือดคุณพ่อไปตรวจอีกรอบนะครับ"
"ได้เลยครับ" หมอเลยเดินออกไป ส่วนพ่อนั่งรอผลตรวจ เขากลับมาเป็นรอบที่สามและพูดว่า
"ผมขอตรวจเลือดอีกรอบนะครับ"
"หมอต้องตรวจอีกกี่รอบหรอ"
หมอพูดว่า "มันสำคัญจริงๆ ครับ"

หมอหายไปเป็นชั่วโมงแล้ว กลับมาที่ห้อง มองพ่อแล้วพูดว่า "เฮ้อ" ตอนนั้นพ่อยังเดินไม่ค่อยได้
เวลาพ่อมาโรงพยาบาลพ่อก็อาศัยรถพยาบาล แล้วให้พ่อนั่งรถเข็นเข้ามา หมออีกสองคนก็เข้ามาในห้อง
แล้วพูดกับพ่อว่า "คุณพ่อครับ ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดี ถ้าในทางศาสนาก็คงต้องบอกว่า เกิดปาฏิหาริย์
กับคุณพ่อ แต่ในทางการแพทย์ ผมคงต้องพูดว่า วิทยาศาสตร์ไม่สามารถอธิบายได้"
พ่อเลยบอกว่า "พ่อบอกแล้ว"
"คุณพ่อหายแล้ว เดี๋ยวผมช่วยพ่อลุกขึ้นมา พ่อต้องเดินนะครับ พ่อกลัวไหม"
"ก็นิดหน่อย พ่อไม่ได้เดินมาเป็นเดือน"
"เดี๋ยวพวกผมช่วยเอง" หมอก็พยุงพ่อขึ้นมา พ่อเดินสองสามก้าวก็ไม่เป็นอะไร
"คุณพ่อนั่งเก้าอี้นี้ได้ไหม" พ่อก็นั่งลง
หมอถาม "คุณพ่อรู้สึกอะไรไหม"
พ่อตอบว่า "พ่อคิดว่าช่วงล่างพ่อมันเปลี่ยนไปนะ"
แล้วพวกเขาก็หัวเราะกัน เราหัวเราะกันจนท้องแข็ง กว่าจะหยุดก็ปาไปสี่สิบนาที เราหัวเราะเสียงดัง
จนพนักงานและคนไข้ที่นั่งรอข้างนอกได้ยินกันหมด "คุณพ่อกลับได้แล้วครับ" หมอพูดทั้งๆ ที่ยังขำอยู่
พยาบาลเข้ามาถามตอนที่พ่อกำลังจะกลับ "เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ หมอไม่เคยหัวเราะแบบนี้ให้เห็นเลย
ทำงานหน้านิ่วคิ้วขมวดตลอด" พ่อบอกว่า "ความลับระหว่างหมอกับคนไข้น่ะ"
***
พ่อเคยเสียชีวิตเพราะโรคหัวใจ พ่อได้ยินเสียงหมอพยายามยื้อชีวิตพ่อ และได้ยินเขาพูดกันว่า
"เราเสียเขาแล้ว เราเสียเขาแล้ว" ทันใดนั้นพ่อก็อยู่บนเตียงคนไข้ พ่อเห็นตัวพ่อและชีวิตของพ่อ ลูกอาจ
จะคิดไม่ออกว่าเป็นยังไง แต่ด้วยพระพรของพระเป็นเจ้า พระองค์ประทานเส้นทางทองคำให้พ่อ พ่อได้รับ
พระหรรษทานเพราะพ่อได้สารภาพบาปทุกอย่างที่พ่อทำ ทำให้พ่อได้รับเส้นทางทองคำ พ่อเคลื่อนตัวไป
ตามทางเส้นทางนั้น แต่พ่อก็ยังเป็นคนบาปเช่นกัน ลูกเชื่อไหม พ่อเห็นญาติพี่น้องของพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว
พ่อยังเห็น เทวทูต และได้ยินบทเพลงสรรเสริญพระเจ้า มันงดงามไร้ที่ติ และแล้วพ่อเดินมาอยู่ตรงหน้า
พระบาทของพระเยซูเจ้า เหมือนกับว่าพระองค์ประทับอยู่บนแท่นบัลลังก์ แต่พ่อไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมอง
เพราะยังไม่ได้รับอนุญาต พ่อไม่กลัว แต่รู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะสมที่จะสบพระพักตร์พระองค์ พระองค์ตรัสว่า

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6036
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ พ.ค. 15, 2024 9:27 pm

🌼~ Why Fr. Michael Rodrigue? สารจากพระบิดา ถึง คุณพ่อมิเชล  โรดริกย์
และคำเตือนแห่งยุคสุดท้าย ~🌼
👉 ตอนที่ (24)👈

🔥--- คุณพ่อมิเชล ปะทะ ปีศาจ (2) ---🔥

"มิเชล ลูกได้มาที่นี่แต่ลูกจะไม่ได้อยู่ที่นี่"
พ่อตอบ "โอ้ พระเยซูเจ้า"
"ลูกจะต้องกลับไป แล้วลูกจะได้เข้าประชุมกับเหล่าพระสงฆ์ เพราะพวกเขากำลังเข้าเงียบ และเราอยาก
ใหัลูกฟื้นฟูจิตใจพวกเขาในเรื่องบทสวดขอบพระคุณแบบที่สอง ลูกต้องอธิบายความหมายของมัน"
พระองค์ได้มอบคำสอนและแง่มุมความคิดต่างๆ ในเรื่องนี้ พ่อรู้สึกดีใจมาก พ่อไม่เคยได้ยินอะไร
แบบนี้มาก่อน

พ่อเดินกลับไปตามเส้นทางทองคำ แล้วดวงจิตของพ่อก็เข้ามาในร่างกายผ่านทางปากแล้วกลับมา
มีชีวิตอีกครั้ง ร่างกายของพ่อมันเจ็บไปหมดจนต้องอ้าปากร้องออกมา แม้แต่เซลล์ในนิ้วของพ่อยังรู้สึก
เจ็บปวด พ่อเพิ่งผ่านประสบการณ์หลังความตายมาสี่ชั่วโมง แล้วได้ยินหมอพูดว่า "คุณพ่อฟื้นแล้ว"

ประสบการณ์นี้ทำให้พ่อเห็นว่าพระเป็นเจ้าอยู่เหนือกาลเวลา ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต ในประสบการณ์
นั้นทุกสิ่งที่แสดงให้พ่อเห็นเป็นช่วงเวลาเดียวกัน เหมือนทุกสิ่งจะปรากฏทับซ้อนกัน ณ ขณะนั้นทุกอย่างเกิด
ขึ้นพร้อมๆ กันแบบ ติ๊ง ติ๊ง นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมลูกต้องอยู่ในสถานะพระหรรษทานในยามที่ลูกต้องประสบ
กับเหตุการณ์แบบนี้ (เหตุการณ์คำเตือน)
***
ตอนที่โรคหัวใจพ่อกำเริบรอบที่ 8 และนอนอยู่ในรถพยาบาล ตอนอยู่บนรถพ่อต้องฉีดขาหลายรอบ
พ่ออยู่ในสภาวะกึ่งหมดสติ พ่อได้ยินเสียงผู้ชายคนหนึ่งก่นด่าใส่พ่อแล้วต่อว่าพ่อด้วยความโกรธ เขาไม่ชอบ
ที่พ่อสวมคอลลาร์ ชายคนนี้อยู่ในทีมหมอกู้ภัย ส่วนคนอื่นๆ ก็บอกให้เขาเงียบ เพราะเขาไม่ควรพูดกับคนไข้
แบบนั้น ชายคนนั้นตอบว่า "ไม่สนหรอก ไอบาทหลวง ฉันเลือกนรกแล้วจะทำไม" เพราะคำพวกนี้ทำให้พ่อ
ได้สติ พ่อหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวไปว่า "ลูกอยากลงนรกงั้นหรือ งั้นลูกก็ต้องมอดไหม้ซะ" แล้วชายคนนั้น
ก็สลบลงไปกับพื้น

ตอนที่พ่อรู้สึกตัว เจ้าหน้าที่พยาบาลก็เล่าเรื่องของชายคนที่ด่าทอพ่อ ตอนแรกพ่อก็ไม่รู้หรอกว่าเขาพูด
เรื่องอะไรกัน แต่สักพักสมองพ่อก็นึกออก เขาบอกว่าชายคนนั้นยังอยู่ในโรงพยาบาล เพราะอวัยวะภายใน
ของเขาโดนลวก คาดว่าน่าจะมาจากไฟ และถามพ่อว่าพ่อช่วยเขาได้หรือไม่
"เป็นอย่างนี้ดีแล้ว" พ่อบอก "ไม่มีอะไรหรอก"
"คุณพ่อได้โปรดไปพบเขาหน่อยจะได้ไหม" พ่อเดินมาในห้องที่หน้าต่างเปิดกว้างหมดทุกบาน ตอนนี้เป็นช่วง
หน้าหนาวของประเทศแคนาดา "เราลองวัดอุณหภูมิเขาแล้วปรอทวัดไข้ขึ้นค่าสูงทะลุ เราไม่เคยเจออะไร
แบบนี้มาก่อน"

ตอนที่พ่อเดินเข้าเข้าไปในห้องของเขา พ่อสัมผัสได้ถึงความร้อนที่แผ่มาจากร่างกายของเขา แม้ว่า
จะมีลมแรงพัดเข้ามาในห้องจนเย็นยะเยือก พยาบาลชายคนหนึ่งกำลังถือผ้าบังร่างของชายที่นอนอยู่
เพราะร่างกายเขาเปลือยเปล่า ไม่สามารถใส่เสื้อผ้าหรือให้อะไรมาโดนผิวเขา

"ร้อนเหลือเกิน ช่วยด้วย ผมจะไหม้แล้ว"
"ลูกบอกพ่อว่านี่คือสิ่งที่ลูกต้องการ ลูกอยากจะมอดไหม้ในนรก แล้วทีนี้ ลูกยังจะอยากไปอยู่ไหม
ลูกไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ลูกพูดออกมานั้นมันเป็นอย่างไร จนกว่าลูกจะได้สัมผัสมัน ลูกยังต้องการไปอีกหรือเปล่า"
"ผมไม่อยากไปแล้ว ไม่เอาแล้ว"
"ลูกพร้อมที่จะสารภาพบาปหรือยัง"
"พร้อม ผมพร้อม"

พ่อฟังคำสารภาพบาปของเขา ณ ตรงนั้น และเมื่อเขาได้รับการอภัย เขาก็กลับมาเป็นปกติ
และกลายเป็นคนใหม่

พ่อต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกสองสามวันให้ร่างกายฟื้นตัว และพ่อก็อยากออกมาเปิดหู
เปิดตาด้วย จึงไปงานเทศกาลดนตรีแจ๊สที่เมือง Montreal (มอนทรีออล) กับบาทหลวงที่ติดตามพ่อมาด้วย
พ่อเล่าเหตุการณ์ของชายที่ถูกไฟนรกเผาระหว่างที่เดินเล่นในงาน บาทหลวงที่ตามพ่อมาบอกว่า
"ปีศาจไม่มีจริงหรอก ท่านคิดไปเองหรือเปล่า"
พ่อตอบ "ผิดแล้ว ปีศาจมีจริง" พ่อหยุดเดิน "พ่อได้ยินคนเรียกพ่อนะ"
เพื่อนพ่อบอกว่า "อะไรกัน เสียงดังขนาดนี้พ่อจะได้ยินได้ยังไง"
"ได้ยินสิ ลองฟังดู พ่อได้ยินชื่อพ่อนะ"
"ผมได้ยินแล้วๆ"

เรามองไปรอบๆ แล้วเห็นชายคนหนึ่งอยู่ไกลๆ รีบเดินเข้ามาหาพ่อ และมีผู้หญิงเดินมากับเขาด้วย
"ผมตามหาคุณพ่อตั้งนาน ผมอยากจะขอบคุณพ่อจริงๆ" เขาบอกพ่อ
"เราเคยเจอกันที่ไหนหรือเปล่า" พ่อถามเขา
"ผมคือเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เคยพูดไม่ดีกับคุณพ่อ ตอนที่คุณพ่อเข้าโรงพยาบาลเพราะโรคหัวใจ
พ่อช่วยผมไว้เยอะจริงๆ ตอนที่ผมสารภาพบาป"
"พ่อยินดี" พ่อตอบ

ผู้หญิงที่มากับชายคนนั้นก็พูดขึ้นมาบ้าง เธอคือภรรยาของเขา เธอบอกว่าสามีของเธอเปลี่ยนไป
เป็นคนที่โหดร้ายเมื่อสิบปีก่อน นั่นไม่ใช่สามีที่เธอรู้จักอีกต่อไป เธอสวดภาวนาให้เขากลับใจทุกวัน

"ตอนที่เขากลับบ้านหลังจากสารภาพบาปกับคุณพ่อ เขากลับมาเป็นชายคนเดิมที่ลูกแต่งงานด้วย"
***
วันหนึ่งตอนที่พ่อกำลังทำพิธีไล่ปีศาจ พ่อมากับหมอที่มาช่วยสวดสายประคำ ทุกครั้งที่พ่อทำพิธี
จะต้องมีคนช่วยพ่อสวดสายประคำไปเรื่อยๆ กับพ่อ เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำ ลูกจำวันที่พระแม่มารีย์
ได้มอบสายประคำที่เมืองฟาติมาได้หรือไม่ พระแม่สัญญาว่าสงครามจะยุติลงได้ด้วยสายประคำ ซึ่งเป็น
อาวุธที่ทรงพลัง เหมือนกับตอนที่เดวิดประจันหน้ากับโกลิแอท เขาไม่มีอะไรเข้าไปต่อกร มีเพียงแค่หิน
ก้อนเล็กๆ แต่เมื่อเดวิดปาก้อนหินไปที่โกลิแอท ตัวเขาก็ทรุดร่วงลงทันที ก็เหมือนกับสายประคำที่
ทำให้ปีศาจร่วงลงนรก

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ตอบกลับโพส