นอกเรื่องแต่ไม่นอกลู่ครับ
ผมอยากให้พี่ๆช่วยแนะนำการศึกษาต่อมหาลัยหน่อยจะได้ปะครับ พี่คนไหนมีคณะอะไรที่น่าสนใจหรือว่าพี่เรียนอยู่ก็ช่วยมาเล่าให้น้องๆฟังหน่อยนะครับ เพื่อน้องๆจะได้เปิดหูเปิดตามากขึ้น ส่วนผมกำลังเรียนอยู่ชั้นม.5ครับ แต่ต้องการคำแนะนำก่อนการตัดสินใจครับ กลัวว่าขึ้นม.6ไปแล้วมันจะเตรียมตัวไม่ทัน ผมอยู่แผนหนึ่งแต่ว่าอยากเรียนนิเทศครับ พี่ๆว่ามันเป็นยังไงบ้าง ถ้าจบมาแล้วจะมีงานทำปะครับ ช่วยแนะนำหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ
-
- โพสต์: 960
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm
พี่ว่า น้องลองถามใจลองน้องดูเองดีกว่า ว่าน้องอยากเรียนอะไร แต่ถ้าอยากเรียนนิเทศ จิงๆ พี่ขอแนะนำให้เรียน ของเอกชน จะดีกว่า เพราะว่า มีอุปกรณื และเราสามารถ ได้สัมผัสจิงๆ ไม่ใช่ว่าของรัด ไม่ดีนะ แต่ส่วนน้อยเท่านั้นที่มีอุกรณ์ หรือว่า ถ้าจะคิดแบบที่ก็ คือ เรียนที่ไหนก็ได้แล้ว ค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเอง ถ้าน้องเรียนนิเทศ ก็อาจจะได้มีส่วนร่วมกับหนังที่พี่กำลังจะก็ได้ครับ ส่วนเรื่องมหาลัยนะหรอกครับ เรียนที่ไหนก็ได้เรียนไปเถอะ อย่างที่ ก็เรียน ม คริสเตียน เรื่องงานตอน พี่ไม่รับประกัน ขึ้นอยู่กับฝีมือของน้องเองมากกว่า แต่จะมาทำงานร่วมกะพี่ก็ได้นะ พี่กำลังทำภาพยนตร์เรื่อง มรณสักขีทั้ง7อยุ่
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
พูดยากนะครับ มันอยู่ที่ความชอบส่วนตัว
ผมอยากเรียนนิเทศจุฬาอะครับ ไม่งั้นก็วารสารธรรมศาสตร์ ว่าแต่ว่าพี่ที่กำลังทำหนังอยู่ ผมว่ากว่าผมจะจบพี่ทำเสร็จไปหลายสิบเรื่องแล้วครับ อิอิ
อันนี้ก็สุดแล้วแต่ตัวเราล่ะครับว่าชอบเส้นทางสายไหน
หลายๆ ครั้งที่มีคนเลือกตามเพื่อน พ่อ แม่ แฟน หรือตามกระแส หรือตามตลาด
แต่สุดท้ายแล้วเมื่อมันไม่ใช่สิ่งที่ชอบ มันก็มักจะไม่อยากเข้าเรียน อ่านหนังสือไม่มีความสุข
และส่งผลให้ผลการเรียนล้มเหลว จนอนาคตจบได้ง่าย ๆ เลยล่ะครับ
อืมมม
พี่เรียนนิติศาสตร์ อยู่ ม.ธรรมศาสตร์ รหัส 49 (เทียบกับคณะอื่นก็ปีสองอ่ะ) ฮะ ((มีอะไรปรึกษาได้))
วิชาชีพนิติศาสตร์เองก็สามารถประกอบอาชีพได้หลาย ๆ ด้าน
นอกจากสายตรง เช่น ตุลาการศาลทั้งหลาย (ยุติธรรม ปกครอง รัฐธรรมนูญ เด็ก ครอบครัว แพ่ง อาญา ฯลฯ) เจ้าพนักงานอัยการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าพนักงานพัศดี ทนายความ นิติกร ที่ปรึกษากฎหมายในบริษัทเอกชน นักการเมือง เจ้าหน้าที่กฎษฎีกา (ร่างกฎหมาย) เป็นต้น
สายรอง เช่น อาจารย์ ปลัดอำเภอ (งานสายปกครอง) นักการฑูต (ทำงานได้เหมือนรัฐศาสตร์) นักสังคมสังเคราะห์ นักสังคมวิทยา นักมนุษยวิทยา
หลายๆ คนจบไปทำงานไม่เกี่ยวกับนิติศาสตร์ แต่เอากระบวนการอย่างมีเหตุผลจากการเรียนในคณะไปประยุกต์ใช้
ที่ดังๆ ก็มี เช่น พี่ตูน บอดี้สแลม (นิติ จุฬา) หรือพี่ป้อ ที่แสดงเป็นครูฝึกเขาชนไก่ รายนี้ไปเป็นมาร์เก็ตติ้ง (นิติ มธ.)
หรือพี่โต๊ะพี่คนหนึ่งไปเป็น PR ที่อเมริกา เป็นต้น
หรือบางคนก็จบไปเป็นเมียผู้พิพากษา (น่าน ใหญ่กว่าอีก) เจ๊ของพี่คนนึงก็จบไปเป็นแอร์โฮสเตส
วิชาชีพนิติศาสตร์เป็นวิชาชีพ ไม่ใช่วิชา หรืออาชีพครับ เพราะเมื่อเรียนแล้วจะฝังไว้ในตัวและจิตสำนึกตลอดกาลครับ
ที่อื่นไม่ทราบนะ แต่ที่ มธ. จะสอนให้รู้จักใช้เหตุ และผล คิด วิเคราะห์ เขียน (เถียง) อภิปราย สัมมนา
เช่นการสัมมนาเป็นรายบุคคล เป็นรายคดี หรือรายตัวบท หรือรายมาตรา หรือการเล่นศาลจำลอง (ให้นศ. จำลองบทบาทต่างๆ ในชั้นศาล)
การอ่านหนังสือมีน้อยมาก ที่คนชอบพูดการว่าเรียนกฎหมายต้องชอบอ่าน พี่คิดว่าไม่เกี่ยวกันนะ เรียนวิชาอะไรก็ต้องอ่าน เรียนหมอก็ต้องอ่าน text เรียนวิศวะก็ต้องอ่านหนังสือ แม้แต่นิเทศศาสตร์ เองก็ต้องอ่าน
โดยเฉพาะนิติศาสตร์เอง ถ้าอ่านหนังสืออย่างเดียวไม่ได้อะไรหรอกครับ
ชีวิตในเส้นทางวิชาชีพจบเลย เพราะเราจะไม่สามารถเผชิญโลกความจริงได้
โดยเฉพาะสายนิติศาสตร์ มหาชน ที่พี่เลือกยิ่งจะเน้นการลงภาคสนาม มากกว่าอ่านหนังสือ หรือการสอบ
สำหรับการสอบของเราจะมีภาคการศึกษาละ 1 ครั้ง ต่อ 1 วิชา คะแนนเต็ม 100 คะแนน ข้อสอบ 5 ข้อข้อละ 20 คะแนน ตัดตกที่ 60 ครับ
ไม่มีเกรดในแต่ละวิชา มีแต่ผ่านหรือไม่ผ่าน เกียรติยมคิดเฉลี่ยที่ 85 คะแนน ขึ้นไปครับ
สำหรับการทำหนัง ตอนนี้พวกพี่ๆ ก็ทำกับเพื่อนในคณะ พี่เป็นคนเขียนบท ทำมาแล้วหลายเรื่องมาก ทั้งหนังใบ้(ไม่มีบทพูด) แต่มีเพลงประกอบ
หรือหนังสั้นที่มีบทพูด หรือ Music Video มีคนล้อเลียนว่า "นิติศาสตร์และการละคอน"
และละคอนเวทีของคณะเราก็เยี่ยมจนมีเสียงลือเสียงเล่าขานออกไปนอกคณะ
เพราะการเรียนอย่างเดียวมันไม่ได้อะไรอ่ะครับ
ตอนนี้สมาคมนิติศาสตร์ มธ. ก็ซื้อเวลาก่อนข่าวภาคค่ำช่อง 5 ให้เรา 5 นาที ให้ทำซิทคอมเกี่ยวกับกฎหมายเสนอชาวบ้าน
แต่ยังไม่ออกอากาศครับ กำลังทำเดโมอยู่
สนใจจะคุยรายละเอียดกับพี่ add MSN มาได้ครับ
พอมีความรู้เกี่ยวกับคณะอื่นบ้างอยู่ แต่อาจจะไม่กระจ่างนัก....แต่ก็พอให้ได้ เพราะเป็นฝ่ายแนะแนวของมหาวิทยาลัยครับ
ปล.
ห้ามถามคำถามว่า นิติ จุฬา กับ นิติ มธ. อันไหนดีกว่ากัน
นิเทศน์ จุฬา กับ วารสารฯ มธ. อันไหนดีกว่ากัน
หรือ จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ อันไหนดีกว่ากัน
เป็นต้น
เพราะว่าพี่เรียนธรรมศาสตร์ ก็ต้องตอบ ธรรมศาสตร์ เพราะพี่ไม่เคยเรียนจุฬาฯ ครับ
(ขอเตือนเพราะโดนถามบ่อยมากๆๆๆ)
หลายๆ ครั้งที่มีคนเลือกตามเพื่อน พ่อ แม่ แฟน หรือตามกระแส หรือตามตลาด
แต่สุดท้ายแล้วเมื่อมันไม่ใช่สิ่งที่ชอบ มันก็มักจะไม่อยากเข้าเรียน อ่านหนังสือไม่มีความสุข
และส่งผลให้ผลการเรียนล้มเหลว จนอนาคตจบได้ง่าย ๆ เลยล่ะครับ
อืมมม
พี่เรียนนิติศาสตร์ อยู่ ม.ธรรมศาสตร์ รหัส 49 (เทียบกับคณะอื่นก็ปีสองอ่ะ) ฮะ ((มีอะไรปรึกษาได้))
วิชาชีพนิติศาสตร์เองก็สามารถประกอบอาชีพได้หลาย ๆ ด้าน
นอกจากสายตรง เช่น ตุลาการศาลทั้งหลาย (ยุติธรรม ปกครอง รัฐธรรมนูญ เด็ก ครอบครัว แพ่ง อาญา ฯลฯ) เจ้าพนักงานอัยการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าพนักงานพัศดี ทนายความ นิติกร ที่ปรึกษากฎหมายในบริษัทเอกชน นักการเมือง เจ้าหน้าที่กฎษฎีกา (ร่างกฎหมาย) เป็นต้น
สายรอง เช่น อาจารย์ ปลัดอำเภอ (งานสายปกครอง) นักการฑูต (ทำงานได้เหมือนรัฐศาสตร์) นักสังคมสังเคราะห์ นักสังคมวิทยา นักมนุษยวิทยา
หลายๆ คนจบไปทำงานไม่เกี่ยวกับนิติศาสตร์ แต่เอากระบวนการอย่างมีเหตุผลจากการเรียนในคณะไปประยุกต์ใช้
ที่ดังๆ ก็มี เช่น พี่ตูน บอดี้สแลม (นิติ จุฬา) หรือพี่ป้อ ที่แสดงเป็นครูฝึกเขาชนไก่ รายนี้ไปเป็นมาร์เก็ตติ้ง (นิติ มธ.)
หรือพี่โต๊ะพี่คนหนึ่งไปเป็น PR ที่อเมริกา เป็นต้น
หรือบางคนก็จบไปเป็นเมียผู้พิพากษา (น่าน ใหญ่กว่าอีก) เจ๊ของพี่คนนึงก็จบไปเป็นแอร์โฮสเตส
วิชาชีพนิติศาสตร์เป็นวิชาชีพ ไม่ใช่วิชา หรืออาชีพครับ เพราะเมื่อเรียนแล้วจะฝังไว้ในตัวและจิตสำนึกตลอดกาลครับ
ที่อื่นไม่ทราบนะ แต่ที่ มธ. จะสอนให้รู้จักใช้เหตุ และผล คิด วิเคราะห์ เขียน (เถียง) อภิปราย สัมมนา
เช่นการสัมมนาเป็นรายบุคคล เป็นรายคดี หรือรายตัวบท หรือรายมาตรา หรือการเล่นศาลจำลอง (ให้นศ. จำลองบทบาทต่างๆ ในชั้นศาล)
การอ่านหนังสือมีน้อยมาก ที่คนชอบพูดการว่าเรียนกฎหมายต้องชอบอ่าน พี่คิดว่าไม่เกี่ยวกันนะ เรียนวิชาอะไรก็ต้องอ่าน เรียนหมอก็ต้องอ่าน text เรียนวิศวะก็ต้องอ่านหนังสือ แม้แต่นิเทศศาสตร์ เองก็ต้องอ่าน
โดยเฉพาะนิติศาสตร์เอง ถ้าอ่านหนังสืออย่างเดียวไม่ได้อะไรหรอกครับ
ชีวิตในเส้นทางวิชาชีพจบเลย เพราะเราจะไม่สามารถเผชิญโลกความจริงได้
โดยเฉพาะสายนิติศาสตร์ มหาชน ที่พี่เลือกยิ่งจะเน้นการลงภาคสนาม มากกว่าอ่านหนังสือ หรือการสอบ
สำหรับการสอบของเราจะมีภาคการศึกษาละ 1 ครั้ง ต่อ 1 วิชา คะแนนเต็ม 100 คะแนน ข้อสอบ 5 ข้อข้อละ 20 คะแนน ตัดตกที่ 60 ครับ
ไม่มีเกรดในแต่ละวิชา มีแต่ผ่านหรือไม่ผ่าน เกียรติยมคิดเฉลี่ยที่ 85 คะแนน ขึ้นไปครับ
สำหรับการทำหนัง ตอนนี้พวกพี่ๆ ก็ทำกับเพื่อนในคณะ พี่เป็นคนเขียนบท ทำมาแล้วหลายเรื่องมาก ทั้งหนังใบ้(ไม่มีบทพูด) แต่มีเพลงประกอบ
หรือหนังสั้นที่มีบทพูด หรือ Music Video มีคนล้อเลียนว่า "นิติศาสตร์และการละคอน"
และละคอนเวทีของคณะเราก็เยี่ยมจนมีเสียงลือเสียงเล่าขานออกไปนอกคณะ
เพราะการเรียนอย่างเดียวมันไม่ได้อะไรอ่ะครับ
ตอนนี้สมาคมนิติศาสตร์ มธ. ก็ซื้อเวลาก่อนข่าวภาคค่ำช่อง 5 ให้เรา 5 นาที ให้ทำซิทคอมเกี่ยวกับกฎหมายเสนอชาวบ้าน
แต่ยังไม่ออกอากาศครับ กำลังทำเดโมอยู่
สนใจจะคุยรายละเอียดกับพี่ add MSN มาได้ครับ
พอมีความรู้เกี่ยวกับคณะอื่นบ้างอยู่ แต่อาจจะไม่กระจ่างนัก....แต่ก็พอให้ได้ เพราะเป็นฝ่ายแนะแนวของมหาวิทยาลัยครับ
ปล.
ห้ามถามคำถามว่า นิติ จุฬา กับ นิติ มธ. อันไหนดีกว่ากัน
นิเทศน์ จุฬา กับ วารสารฯ มธ. อันไหนดีกว่ากัน
หรือ จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ อันไหนดีกว่ากัน
เป็นต้น
เพราะว่าพี่เรียนธรรมศาสตร์ ก็ต้องตอบ ธรรมศาสตร์ เพราะพี่ไม่เคยเรียนจุฬาฯ ครับ
(ขอเตือนเพราะโดนถามบ่อยมากๆๆๆ)
แก้ไขล่าสุดโดย Alphonse เมื่อ อังคาร ก.ย. 04, 2007 10:47 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ทำสิ่งที่ตนเองรักที่จะทำค่ะ เวลาเลือกคณะ อย่าเลือกคณะที่ตนอยากเรียน เเต่ให้เลือกว่าคณะไหน ที่ไม่ได้เรียนเเล้วเสียดายที่สุด
-
- โพสต์: 960
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm
แนะนำมหาวิทยาลัยของผมบ้าง www.Christian.ac.th ผมรหัส49นะ ก็คือปี2นั่นแหละ อยากจะบอกว่า เรียนไปเถอะครับ อะไรก็ได้ที่ชอบ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
อย่าลืมเข้าห้องประชุม วันที่ 7 นมัสการพระเจ้านะคร้าบ :cheesy: อาจจะได้เสียงเพลงจากเจี๊ยบ ที่ถวายเสียงในวันนั้น :shocked:490537 เขียน: แนะนำมหาวิทยาลัยของผมบ้าง www.Christian.ac.th ผมรหัส49นะ ก็คือปี2นั่นแหละ อยากจะบอกว่า เรียนไปเถอะครับ อะไรก็ได้ที่ชอบ
เมื่อวันจันทร์ ที่ 3 เราได้ไปเยี่ยมมหาวิทยาลัยของท่าน ร่วมฟัง ท่านองคมนตรี ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย
ท่านปฐกถาดีมากๆ ชอบฟัง ไม่ง่วง :afro:
ครับ แต่ผมไม่ค่อยแน่ใจเลยว่าอยากเรียนอะไรกันแน่ เอาเป็นว่าพี่ๆช่วยเล่าถึงคณะที่พี่ๆเรียนกันหน่อยนะครับ หรือว่าถ้าพี่บางคนทำงานแล้วก็เล่าประสบการณ์ให้ฟังหน่อยนะครับ
- langfanvhin
- โพสต์: 33
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ค. 31, 2007 7:46 pm
ผมเรียนมาทางสายอาชีพ
ปวช.บัญชี
ปวส.คอมฯ
ป.ตรี คอมฯ ต่อ เอกชน 2 ปีต่อเนื่อง
ตอนจบ ปวส. ก็ทำงานเลยเป็นเวลา เกือบ 10 ปี ออกมาทำงานประกอบอาชีพ ส่วนตัวแล้วครับ
ก็ ทำร้านเน็ต ร้านเกมส์ คอม นี่แหละครับ ทำงานมีเงินเหลือเก็บ ก็มาเปิดร้านเองครับ
ตอนทำงานก็เรียน ต่อภาคสมทบ เสาร์-อาทิตย์ หรือตอนเย็นบางวันนะครับ
คอมฯก็ไม่ได้เก่ง เพียงแต่พอไปได้เท่านั้น ครับ
หากเรียน คอมฯ คิดเอาความรู้แน่นๆ ทำงานดี น่าจะเรียนไป แบบ 4 ปี ต่อเนื่อง
จาก จบ ม.6 แล้วไป ต่อ วิทยาการคอมพิวเตอร์ เพราะจบมา แล้วจะมีโอกาส
เป็นหัวหน้างาน เงินเดือนดี มากกว่า คนที่ไต่ ระดับไป จาก ปวส. เพราะส่วนใหญ่
เป็น พนักงานระดับปฎิบัติ ครับ ป.ตรี ก็ ทำงานไม่นานก็ได้ เป็น ระดับบังคับบัญชา ครับ
ระบบ บริษัท ส่วนใหญ่เป็นอย่างนั้น ครับ
ที่ สำคัญ ตอนเรียน นั้น ชอบหรือถนัดทางไหน มากกว่า ช่วง ม.ปลาย ก็ ช่วงสำคัญ
เรียกว่า หัวเลี้ยวหัวต่อ เลย นะครับ เพราะ ตอน ม.6 กลับมาเรียน ต่อใน ระดับ ปวส. เป็น 3 ปี ก็ยังได้
หากชอบไปทางสายอาชีพและคิดจะทำงานตั้งแต่เยาววัย แต่โอกาส โตก้าวหน้า ในระยะยาว นั้น
ยากหน่อย ครับ เพราะบริษัท มักจารณา คนที่มีวุฒิสูง กว่า ตั้งเริ่ม เป็นหัวหน้าก่อนครับ และโตเร็ว
ก็ ชอบแบบไหน ถนัดแบบไหน อยาก ทำงานอาชีพ อะไร ก็เรียนไป ตามนั้นก่อนครับ
แต่ ตอนทำงานจริงๆ ก็ อาจไม่ตรง ตามวิชาชีพ ที่เรียนมาก็ได้ ครับ
แต่วุฒิ สูงไว้ก่อน ก็ดี ครับ ผมเอง จบมาทาง คอมฯ ตั้งแต่ ปวส.-ตรี
แต่ทำงาน จริงๆ ไม่เคยทำงานด้าน คอมพิวเตอร์ แค่ปีเดียวตอนเข้างานใหม่ครับ
ตอนยังก็ โยกย้ายตำแหน่งทำงานด้านเป็น ผู้แทนขาย(เซลล์แมน) ตลอดในบริษัท
เพราะในบริษัท สายผุ้แทนขาย หรือสายตลาดก้าวหน้า โตเร็ว กว่า สายคอมฯ เพราะบริษัทไม่ได้
เน้นทางคอมฯ ในการผลิตหรือโปรแกรม อะไร คอมฯเป็นเพียงสิ่งอำนวยความสะดวกภายใน บริษัทเท่านั้น
ก็ ยากเป็นอะไร เรียนอะไร ที่ถนัด ก็เรียนสิ่งนั้น ครับ
รัฐศาสตร์ ก็เป็นผุ้ปกครอง ปลัด นิติ ก็ใช่ ไปทางกฏหมาย ปกครอง ทนาย ผู้พิพากษา
นิเทศ ก็ไป ทาง สื่อสารมวลชน ประชาสัมพันธ์ นักข่าว
ทางคอมฯ ไป ทาง โปรแกรมเมอร์ นักวิเคราะห์วางระบบ
เป็น ตำรวจ ทหาร ไป ทางโรงเรียนเตรียม หากไม่ได้ ก็เรียนไปทาง นิติ รัฐศาสตร์
เยอะครับ ก็ดีครับ ถามมานั้นดี ครับ ลองถามผุ้รู้หลายท่าน อาจารย์ฝ่ายแนะแนว นั้นก็ดี นะครับ
เขามีประสบการณ์ แนะนำเป็นประโยชน์ ดีครับ ผมตอนเรียน ก็ถามบ่อยปรึกษา บ่อยครับ แต่ผมนั้น
ตั้งใจว่า เรียนแค่ ปวส. แล้วจะเรียนสาย ที่สามารถทำงานได้เร็ว เงินได้ ก็สายนี้ ครับ และประสบผล
เพียงแต่ทำระยะยาว(ก้าวหน้า เป็น ผจก. นั้นยาก เพราะอาจความรู้ไม่แน่น ไม่เหมือนคนจบ 4ปี ต่อเนื่องมาครับ
ก็ มีเงิน พอมา ทำธุรกิจส่วนตัว ก็ดีไปอย่างหนึ่งครับ ถือว่า สมหวังครับ
ส่วน ช่างกล ช่างยนต์ อีเล็ค สถาปัตริย์ ไฟฟ้า สายเทคนิค (คงตัดไปเพราะไม่ได้เรียนตั้งแต่ ปวช.)
ปวช.บัญชี
ปวส.คอมฯ
ป.ตรี คอมฯ ต่อ เอกชน 2 ปีต่อเนื่อง
ตอนจบ ปวส. ก็ทำงานเลยเป็นเวลา เกือบ 10 ปี ออกมาทำงานประกอบอาชีพ ส่วนตัวแล้วครับ
ก็ ทำร้านเน็ต ร้านเกมส์ คอม นี่แหละครับ ทำงานมีเงินเหลือเก็บ ก็มาเปิดร้านเองครับ
ตอนทำงานก็เรียน ต่อภาคสมทบ เสาร์-อาทิตย์ หรือตอนเย็นบางวันนะครับ
คอมฯก็ไม่ได้เก่ง เพียงแต่พอไปได้เท่านั้น ครับ
หากเรียน คอมฯ คิดเอาความรู้แน่นๆ ทำงานดี น่าจะเรียนไป แบบ 4 ปี ต่อเนื่อง
จาก จบ ม.6 แล้วไป ต่อ วิทยาการคอมพิวเตอร์ เพราะจบมา แล้วจะมีโอกาส
เป็นหัวหน้างาน เงินเดือนดี มากกว่า คนที่ไต่ ระดับไป จาก ปวส. เพราะส่วนใหญ่
เป็น พนักงานระดับปฎิบัติ ครับ ป.ตรี ก็ ทำงานไม่นานก็ได้ เป็น ระดับบังคับบัญชา ครับ
ระบบ บริษัท ส่วนใหญ่เป็นอย่างนั้น ครับ
ที่ สำคัญ ตอนเรียน นั้น ชอบหรือถนัดทางไหน มากกว่า ช่วง ม.ปลาย ก็ ช่วงสำคัญ
เรียกว่า หัวเลี้ยวหัวต่อ เลย นะครับ เพราะ ตอน ม.6 กลับมาเรียน ต่อใน ระดับ ปวส. เป็น 3 ปี ก็ยังได้
หากชอบไปทางสายอาชีพและคิดจะทำงานตั้งแต่เยาววัย แต่โอกาส โตก้าวหน้า ในระยะยาว นั้น
ยากหน่อย ครับ เพราะบริษัท มักจารณา คนที่มีวุฒิสูง กว่า ตั้งเริ่ม เป็นหัวหน้าก่อนครับ และโตเร็ว
ก็ ชอบแบบไหน ถนัดแบบไหน อยาก ทำงานอาชีพ อะไร ก็เรียนไป ตามนั้นก่อนครับ
แต่ ตอนทำงานจริงๆ ก็ อาจไม่ตรง ตามวิชาชีพ ที่เรียนมาก็ได้ ครับ
แต่วุฒิ สูงไว้ก่อน ก็ดี ครับ ผมเอง จบมาทาง คอมฯ ตั้งแต่ ปวส.-ตรี
แต่ทำงาน จริงๆ ไม่เคยทำงานด้าน คอมพิวเตอร์ แค่ปีเดียวตอนเข้างานใหม่ครับ
ตอนยังก็ โยกย้ายตำแหน่งทำงานด้านเป็น ผู้แทนขาย(เซลล์แมน) ตลอดในบริษัท
เพราะในบริษัท สายผุ้แทนขาย หรือสายตลาดก้าวหน้า โตเร็ว กว่า สายคอมฯ เพราะบริษัทไม่ได้
เน้นทางคอมฯ ในการผลิตหรือโปรแกรม อะไร คอมฯเป็นเพียงสิ่งอำนวยความสะดวกภายใน บริษัทเท่านั้น
ก็ ยากเป็นอะไร เรียนอะไร ที่ถนัด ก็เรียนสิ่งนั้น ครับ
รัฐศาสตร์ ก็เป็นผุ้ปกครอง ปลัด นิติ ก็ใช่ ไปทางกฏหมาย ปกครอง ทนาย ผู้พิพากษา
นิเทศ ก็ไป ทาง สื่อสารมวลชน ประชาสัมพันธ์ นักข่าว
ทางคอมฯ ไป ทาง โปรแกรมเมอร์ นักวิเคราะห์วางระบบ
เป็น ตำรวจ ทหาร ไป ทางโรงเรียนเตรียม หากไม่ได้ ก็เรียนไปทาง นิติ รัฐศาสตร์
เยอะครับ ก็ดีครับ ถามมานั้นดี ครับ ลองถามผุ้รู้หลายท่าน อาจารย์ฝ่ายแนะแนว นั้นก็ดี นะครับ
เขามีประสบการณ์ แนะนำเป็นประโยชน์ ดีครับ ผมตอนเรียน ก็ถามบ่อยปรึกษา บ่อยครับ แต่ผมนั้น
ตั้งใจว่า เรียนแค่ ปวส. แล้วจะเรียนสาย ที่สามารถทำงานได้เร็ว เงินได้ ก็สายนี้ ครับ และประสบผล
เพียงแต่ทำระยะยาว(ก้าวหน้า เป็น ผจก. นั้นยาก เพราะอาจความรู้ไม่แน่น ไม่เหมือนคนจบ 4ปี ต่อเนื่องมาครับ
ก็ มีเงิน พอมา ทำธุรกิจส่วนตัว ก็ดีไปอย่างหนึ่งครับ ถือว่า สมหวังครับ
ส่วน ช่างกล ช่างยนต์ อีเล็ค สถาปัตริย์ ไฟฟ้า สายเทคนิค (คงตัดไปเพราะไม่ได้เรียนตั้งแต่ ปวช.)
หึๆ...bigect07 เขียน: ขอพระเจ้าทรงนำครับ เป็นทางดีที่สุด อย่างพี่พลาดมาแล้ว ที่ทำเพื่อผู้หญิงคนนึง(นศ.พยาบาล พี่เรียนวิดวะมาสู้กับนายร้อย) แล้วตอนนี้เค้าไม่สนใจ อยากฝากให้เป็นอุทาหรณ์ ไม่อยากให้น้องพลาดแบบพี่นะครับ
พี่ๆคิดว่าม.กรุงเทพเปงงัยบ้างครับ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
พี่คิดว่า มหาวิทยาลัยไหน ไม่ว่ารัฐหรือเอกชนก็เหมือน ๆ กันนะครับKorean_Man เขียน: พี่ๆคิดว่าม.กรุงเทพเปงงัยบ้างครับ
มันอยู่ที่ตัวเรามากกว่าว่าจะยึดติดกับมันหรือเปล่า
เราก็ต้องเลือกสิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุดให้ตัวเราเองด้วยครับ ไม่ใช่ไปตามเพื่อน หรือเอาปัจจัยอื่นที่ไม่เป็นประโยชน์มาคิดBatholomew เขียน:พี่คิดว่า มหาวิทยาลัยไหน ไม่ว่ารัฐหรือเอกชนก็เหมือน ๆ กันนะครับKorean_Man เขียน: พี่ๆคิดว่าม.กรุงเทพเปงงัยบ้างครับ
มันอยู่ที่ตัวเรามากกว่าว่าจะยึดติดกับมันหรือเปล่า
ที่สำคัญที่สุด เข้าไปได้แล้วต้องตั้งใจเรียน พระเจ้าให้เราเอนท์ติด เราจะทำให้พระองคืเสียใจหรือ?