ความจริง
สู้เพื่อแม่พระหรือพระแม่ค่ะ
รักแม่พระเสมอ และจะรักตลอดไป
จนกว่าจะได้พบแม่พระบนสวรรค์
เรารักแม่พระ เรากแม่พระ เรารักแม่พระ
เรารักแม่พระ เรารักแม่พระ เรารักแม่พระ
เรารักแม่พระ เรารักแม่พระ เรารักแม่พระ
เรารักแม่พระ เรารักแม่พระ เรารักแม่พระ
รักแม่พระเสมอ และจะรักตลอดไป
จนกว่าจะได้พบแม่พระบนสวรรค์
เรารักแม่พระ เรากแม่พระ เรารักแม่พระ
เรารักแม่พระ เรารักแม่พระ เรารักแม่พระ
เรารักแม่พระ เรารักแม่พระ เรารักแม่พระ
เรารักแม่พระ เรารักแม่พระ เรารักแม่พระ
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
ครั้นพระองค์ตรัสดังนั้นแล้วจึงทรงระบายลมหายใจออกเหนือเขาตรัสกับเขาว่าจงรับพระวิญญาณบริสุทธิ์เถิด ถ้าท่านจะยกความผิดบาปของผู้ใดความผิดบาปนั้นก็จะถูกยกเสียและถ้าท่านจะให้ความผิดบาปติดอยู่กับผู้ใดความผิดบาปก็จะติดอยู่กับผู้นั้น (ยอหน 20:22-23)vpjkmesivp เขียน:
สรุป
เท่าที่ผมอ่านพระคัมภีร์ ในสมัยของ การประกาศ ในหนังสือกิจการ ใน จดหมายต่างๆ ของท่านเปาโล
ผมไม่เห็นประเพณี ที่ต้อง มีบาทหลวง ล้าง บาป หรือประเพณี ที่ต้องมีโบสถ์ มีผู้ทำงาน แม่ชี
การ ให้บาทหลวงอยู๋ใน ตู้ และ ให้ คน มาสารภาพ แล้วการ ใช้เครื่องดนตรีในการนมัสการพระเจ้า
นี่แหละครับอำนาจของบาทหลวงในการโปรดศีลอภัยบาป เพราะบาทหลวงในพระศาสนจักรคาธอลิค เราได้รับอำนาจนี้สืบต่อกันมาจากอัครสาวกครับ แม้ว่าจะไม่มีการเขียนว่าให้ผู้โปรดศีลนั่งอยุ่ในตู้ แต่ก็จะเป็นการดีกว่าใช่ไหมครับที่จะให้ผู้สารภาพบาปอยู่ในที่ปิดมิดชิดดีกว่าที่โล่งแจ้ง ถ้าชอบขนาดประเภทที่ว่าจะทำอะไรต้องมีเขียนไว้ทุกอย่าง ก็ลองไปอ่าน ป.วิธีพิจารณาความแพ่งและอาญาดูก็ได้ครับ เหอๆ
คุณไม่ใช่คาทอลิก และคุณอ้างว่ามิใช่โปรเตสแตนต์
พูดไปก็สองไพเบี้ยครับ หากการเสวนาไม่ได้ทำให้ทวีความเข้าใจต่อกันและความเชื่อ
แต่นี่คืออีโก้ที่เราต้อง กำจัด ให้ออกไปจากกมลสันดานของเราๆ ครับ
พูดไปก็สองไพเบี้ยครับ หากการเสวนาไม่ได้ทำให้ทวีความเข้าใจต่อกันและความเชื่อ
แต่นี่คืออีโก้ที่เราต้อง กำจัด ให้ออกไปจากกมลสันดานของเราๆ ครับ
-
- โพสต์: 37
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มี.ค. 18, 2008 1:13 am
และก็ไม่มีเขียนไว้ด้วยว่า ไครได้อำนาจนั้นมาบ้างImmanuel (MichaelPaul) เขียน:ครั้นพระองค์ตรัสดังนั้นแล้วจึงทรงระบายลมหายใจออกเหนือเขาตรัสกับเขาว่าจงรับพระวิญญาณบริสุทธิ์เถิด ถ้าท่านจะยกความผิดบาปของผู้ใดความผิดบาปนั้นก็จะถูกยกเสียและถ้าท่านจะให้ความผิดบาปติดอยู่กับผู้ใดความผิดบาปก็จะติดอยู่กับผู้นั้น (ยอหน 20:22-23)vpjkmesivp เขียน:
สรุป
เท่าที่ผมอ่านพระคัมภีร์ ในสมัยของ การประกาศ ในหนังสือกิจการ ใน จดหมายต่างๆ ของท่านเปาโล
ผมไม่เห็นประเพณี ที่ต้อง มีบาทหลวง ล้าง บาป หรือประเพณี ที่ต้องมีโบสถ์ มีผู้ทำงาน แม่ชี
การ ให้บาทหลวงอยู๋ใน ตู้ และ ให้ คน มาสารภาพ แล้วการ ใช้เครื่องดนตรีในการนมัสการพระเจ้า
นี่แหละครับอำนาจของบาทหลวงในการโปรดศีลอภัยบาป เพราะบาทหลวงในพระศาสนจักรคาธอลิค เราได้รับอำนาจนี้สืบต่อกันมาจากอัครสาวกครับ แม้ว่าจะไม่มีการเขียนว่าให้ผู้โปรดศีลนั่งอยุ่ในตู้ แต่ก็จะเป็นการดีกว่าใช่ไหมครับที่จะให้ผู้สารภาพบาปอยู่ในที่ปิดมิดชิดดีกว่าที่โล่งแจ้ง ถ้าชอบขนาดประเภทที่ว่าจะทำอะไรต้องมีเขียนไว้ทุกอย่าง ก็ลองไปอ่าน ป.วิธีพิจารณาความแพ่งและอาญาดูก็ได้ครับ เหอๆ
และในสมัยอัครสาวก มีการให้ผู้ที่รับบัพติสมาแล้ว ไปสารภาพ บาปอีกครั้งหนึ่งหรอครับ
และถ้ามีการวางมือสืบทอดกันมาแต่อัครสาวก มาถึง ท่านทั้งหลาย ก็น่าจะมีหนังสือเขียนไว้ หน่อยนะครับ
พวกเลวียังไม่หนังสือ วงญาติบุโรหิตเลย พวกท่านสูงกว่าปุโรหิตอีก พระเจ้า เท่านั้นที่จะ ยกโทษให้ได้
และพระเจ้าอยู๋ใน ตัวท่านแล้ว การที่ท่ารับบัพติสมาไม่ไช่ท่านเป็นคนบริสุทธิ์แล้วหรือ (ที่ให้ทำเป็งพงศาวดาร
ผู้ถูกวางมือจากอัครสาวกน่ะพูดเล่นครับ)
ส่วนข้อพระคัมภีร์ ที่ท่านยกมานั้น มันเป็น การยกโทษบาป ฝ่ายโลกนี้ คือ ถ้าเราทำบาปก็ต้องได้รับผลของมันในโลกนี้ ครับ เช่น เปาโลทำการอัศจรรย์ ให้คนง่อยหาย นั้นแหละคืออำนาจการยกบาปในโลกนี้ครับ
-
- โพสต์: 37
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มี.ค. 18, 2008 1:13 am
ในที่สุด ก็โดนเรื่อง ตัวเองไม่มีรากฐานที่แท้จริง
ผมคิดว่าความเชื่อในเรื่องของพระเยซู ตรีเอกานุภาพ แม่มารีย์ไม่ต่างกับโปรแตสแตน
แต่การประพฤติในการดำเนิน ชีวิต ในการ นมัสการเราต่างจากโปรแตสแตน ครับ
ฉะนั้น ผมก็ไม่ ต่างจากโปรที่จะพูดในเรื่อง นี้ครับ เพราะเหมือนกัน
ผมคิดว่าความเชื่อในเรื่องของพระเยซู ตรีเอกานุภาพ แม่มารีย์ไม่ต่างกับโปรแตสแตน
แต่การประพฤติในการดำเนิน ชีวิต ในการ นมัสการเราต่างจากโปรแตสแตน ครับ
ฉะนั้น ผมก็ไม่ ต่างจากโปรที่จะพูดในเรื่อง นี้ครับ เพราะเหมือนกัน
vpjkmesivp เขียน:และในสมัยอัครสาวก มีการให้ผู้ที่รับบัพติสมาแล้ว ไปสารภาพ บาปอีกครั้งหนึ่งหรอครับImmanuel (MichaelPaul) เขียน:ครั้นพระองค์ตรัสดังนั้นแล้วจึงทรงระบายลมหายใจออกเหนือเขาตรัสกับเขาว่าจงรับพระวิญญาณบริสุทธิ์เถิด ถ้าท่านจะยกความผิดบาปของผู้ใดความผิดบาปนั้นก็จะถูกยกเสียและถ้าท่านจะให้ความผิดบาปติดอยู่กับผู้ใดความผิดบาปก็จะติดอยู่กับผู้นั้น (ยอหน 20:22-23)vpjkmesivp เขียน:
สรุป
เท่าที่ผมอ่านพระคัมภีร์ ในสมัยของ การประกาศ ในหนังสือกิจการ ใน จดหมายต่างๆ ของท่านเปาโล
ผมไม่เห็นประเพณี ที่ต้อง มีบาทหลวง ล้าง บาป หรือประเพณี ที่ต้องมีโบสถ์ มีผู้ทำงาน แม่ชี
การ ให้บาทหลวงอยู๋ใน ตู้ และ ให้ คน มาสารภาพ แล้วการ ใช้เครื่องดนตรีในการนมัสการพระเจ้า
นี่แหละครับอำนาจของบาทหลวงในการโปรดศีลอภัยบาป เพราะบาทหลวงในพระศาสนจักรคาธอลิค เราได้รับอำนาจนี้สืบต่อกันมาจากอัครสาวกครับ แม้ว่าจะไม่มีการเขียนว่าให้ผู้โปรดศีลนั่งอยุ่ในตู้ แต่ก็จะเป็นการดีกว่าใช่ไหมครับที่จะให้ผู้สารภาพบาปอยู่ในที่ปิดมิดชิดดีกว่าที่โล่งแจ้ง ถ้าชอบขนาดประเภทที่ว่าจะทำอะไรต้องมีเขียนไว้ทุกอย่าง ก็ลองไปอ่าน ป.วิธีพิจารณาความแพ่งและอาญาดูก็ได้ครับ เหอๆ
และถ้ามีการวางมือสืบทอดกันมาแต่อัครสาวก มาถึง ท่านทั้งหลาย ก็น่าจะมีหนังสือเขียนไว้ หน่อยนะครับ
นั่นสินะครับ
ท่านใดเจ็บป่วย จงเชิญบรรดาผู้อาวุโสของพระศาสนจักรให้มาอธิษฐานภาวนาเพื่อผู้ป่วย เจิมน้ำมันผู้นั้นในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า
คำอธิษฐานภาวนาด้วยความเชื่อจะช่วยผู้ป่วยให้รอดชีวิต องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงโปรดให้ผู้ป่วยลุกขึ้น และถ้าเขาเคยกระทำบาป เขาก็จะได้รับการอภัย
ดังนั้น จงสารภาพบาปแก่กัน และจงอธิษฐานให้กันเพื่อท่านจะหายจากโรค คำอ้อนวอนของผู้ชอบธรรมมีพลังทำให้เกิดผลมากมาย
ยากอบ 5:14-16
ถ้าสงสัยว่า กลุ่มผู้อาวุโสมาจากไหน ก็ดูต่อที่นี่ครับ
เปาโลและบารนาบัสแต่งตั้งผู้อาวุโสnในกลุ่มคริสตชนแต่ละกลุ่ม
เขาอธิษฐานภาวนาพร้อมกับจำศีลอดอาหาร แล้วฝากบรรดาผู้อาวุโสเหล่านี้ไว้กับองค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งเขาทั้งหลายมีความเชื่อ
กจ 14:23
และ
ข้าพเจ้าทิ้งท่านไว้ที่เกาะครีต เพื่อท่านจะได้จัดการเรื่องที่ยังค้างอยู่ให้เรียบร้อย และเพื่อแต่งตั้งกลุ่มผู้อาวุโสทุกเมืองตามวิธีการที่ข้าพเจ้าบอกไว้
นี่แสดงให้เห็นว่ามีการสืบทอดอำนาจมาจากอัครสาวกผ่านบุคคลต่อบุคคล ในคริสตจักรยุคแรกแล้ว
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ ส.ค. 12, 2009 9:23 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
เจี๊ยบถอดรหัสพี่ ชื่อ "อย่าทำหรอย" พี่เป็นคริสต์กลุ่ม "the Church fo Christ" "คริสตจักรพระคริสต์" ใช่ไหมครับvpjkmesivp เขียน: ในที่สุด ก็โดนเรื่อง ตัวเองไม่มีรากฐานที่แท้จริง
ผมคิดว่าความเชื่อในเรื่องของพระเยซู ตรีเอกานุภาพ แม่มารีย์ไม่ต่างกับโปรแตสแตน
แต่การประพฤติในการดำเนิน ชีวิต ในการ นมัสการเราต่างจากโปรแตสแตน ครับ
ฉะนั้น ผมก็ไม่ ต่างจากโปรที่จะพูดในเรื่อง นี้ครับ เพราะเหมือนกัน
ถ้าพี่เป็นกลุ่มนี้ มันตั้งอยู่ตรงฐานของความเชื่อที่ต่างกัน ถ้าจะคุยกันต้องเป็นหลักของการสานเสวนา
การเสวนา คือการยอมรับคนอื่นตามที่เขาเป็น....ไม่ใช่บังคับคนอื่นให้เป็นอย่างที่เราเป็น
เพราะถ้าสานเสวนาไม่เป็น คุยกันกี่ศตวรรษ ก็เข้าใจกันไม่ได้
สำหรับน้องเจี๊ยบขอบาย เรื่องการเสวนาแบบนี้ เพราะเสียเวลา บางทีก็เสียอารมณ์ ฮะ ( พอดีการบ้านเยอะ เหอ เหอ เหอ )
น้องเจี๊ยบพูดได้น่ารัก น่ากินมากกกกก
จับทอดเลย กร๊ากกกกก
เห็นด้วยตามนั้น
จับทอดเลย กร๊ากกกกก
เห็นด้วยตามนั้น
คุณเจี๊ยบพูดถูกค่ะ กลุ่มนี้บางคน ย้ำว่า บางคนนะ
กรูถูกต้องที่สุด คนอื่นผิดหมด ด่าพี่น้องทุกนิกาย
แต่ตัวเองถูกที่สุด เคยคุยกันหลายครั้ง แอบเซ็ง
แถมบทสอนทางไปรษณีย์ก็ว่าคนอื่นผิดหมด
เขียนว่าคำสอนผิดของนิกายต่างๆ
สรุปแล้วในโลกนี้กลุ่มของฉันถูกที่สุด
แล้วความคิดอย่างนี้ไม่ใช่เหรอคะที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง
แล้วในที่สุดก็กลายเป็นพวกใครพวกมัน ฉันไม่เข้ากับใคร
ฉันจะอยู่เฉพาะกับคนที่คิดเหมือนฉัน คล้อยตามฉัน
กล่าวหา แบ่งแยก หรือในที่สุดก็อาจจะทำลายล้างผู้อื่น
แล้วมันเป็นความรักตรงไหนกันคะ
พระเยซูสอนให้เรารักกันไม่ใช่หรือคะ
การรักผู้อื่นหมายถึงรักแม้เค้าจะมีความคิดที่แตกต่าง
รักแม้เขาจะเป็นคนบาป รักพร้อมทั้งความบาปของเขา
การที่จะรักผู้อื่นไม่จำเป็นต้องใช้สมองหาความผิดของผู้อื่น
แต่ใช้หัวใจค่ะ พระเยซูเจ้าและแม่พระมีหัวใจรักที่ศักดิ์สิทธิ์ค่ะ
พร้อมที่จะยอมเจ็บปวดเพราะรักผู้อื่น
"แม้ข้าพเจ้าจะประกาศพระวาจา เข้าใจธรรมล้ำลึกทุกข้อ
และมีความรู้ทุกอย่าง หรือมีความเชื่อพอที่จะเคลื่อนภูเขาได้
ถ้าไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่มีความสำคัญแต่อย่างใด" 1คร:2
"ความรักย่อมอดทน มีใจเอื้อเฟื้อ ไม่อิจฉา ไม่โอ้อวดตนเอง ไม่จองหอง
ไม่หยาบคาย ไม่เห็นแก่ตัว ความรักไม่ฉุนเฉียว ไม่จดจำความผิดที่ได้รับ
ไม่ยินดีในความชั่ว แต่ร่วมยินดีในความถูกต้อง ความรักให้อภัยทุกอย่าง
เชื่อทุกอย่าง หวังทุกอย่าง อดทนทุกอย่าง" 1คร:4-7
เราจะรักคุณแม้ว่าคุณจะไม่รักเราค่ะ
ขอพระเจ้าอวยพรให้คุณสามารถนำพระวาจาไปปฏิบัติได้ค่ะ
กรูถูกต้องที่สุด คนอื่นผิดหมด ด่าพี่น้องทุกนิกาย
แต่ตัวเองถูกที่สุด เคยคุยกันหลายครั้ง แอบเซ็ง
แถมบทสอนทางไปรษณีย์ก็ว่าคนอื่นผิดหมด
เขียนว่าคำสอนผิดของนิกายต่างๆ
สรุปแล้วในโลกนี้กลุ่มของฉันถูกที่สุด
แล้วความคิดอย่างนี้ไม่ใช่เหรอคะที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง
แล้วในที่สุดก็กลายเป็นพวกใครพวกมัน ฉันไม่เข้ากับใคร
ฉันจะอยู่เฉพาะกับคนที่คิดเหมือนฉัน คล้อยตามฉัน
กล่าวหา แบ่งแยก หรือในที่สุดก็อาจจะทำลายล้างผู้อื่น
แล้วมันเป็นความรักตรงไหนกันคะ
พระเยซูสอนให้เรารักกันไม่ใช่หรือคะ
การรักผู้อื่นหมายถึงรักแม้เค้าจะมีความคิดที่แตกต่าง
รักแม้เขาจะเป็นคนบาป รักพร้อมทั้งความบาปของเขา
การที่จะรักผู้อื่นไม่จำเป็นต้องใช้สมองหาความผิดของผู้อื่น
แต่ใช้หัวใจค่ะ พระเยซูเจ้าและแม่พระมีหัวใจรักที่ศักดิ์สิทธิ์ค่ะ
พร้อมที่จะยอมเจ็บปวดเพราะรักผู้อื่น
"แม้ข้าพเจ้าจะประกาศพระวาจา เข้าใจธรรมล้ำลึกทุกข้อ
และมีความรู้ทุกอย่าง หรือมีความเชื่อพอที่จะเคลื่อนภูเขาได้
ถ้าไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่มีความสำคัญแต่อย่างใด" 1คร:2
"ความรักย่อมอดทน มีใจเอื้อเฟื้อ ไม่อิจฉา ไม่โอ้อวดตนเอง ไม่จองหอง
ไม่หยาบคาย ไม่เห็นแก่ตัว ความรักไม่ฉุนเฉียว ไม่จดจำความผิดที่ได้รับ
ไม่ยินดีในความชั่ว แต่ร่วมยินดีในความถูกต้อง ความรักให้อภัยทุกอย่าง
เชื่อทุกอย่าง หวังทุกอย่าง อดทนทุกอย่าง" 1คร:4-7
เราจะรักคุณแม้ว่าคุณจะไม่รักเราค่ะ
ขอพระเจ้าอวยพรให้คุณสามารถนำพระวาจาไปปฏิบัติได้ค่ะ
ทำไมเวลามีกระทู้ที่มีความคิดเห็นต่างกัน
รีพลายของบางท่านถึงดู "ห้วนๆและอ่านดูรู้สึกว่าไม่มีความอ่อนโยนแบบพี่น้องเลย"
ไอ้เรื่องรุปเคารพอ่ะ ผมก็สงสัยเหมือนกันคับ
อ่านรีพลายแล้วด้วย แต่ไม่ว่ายังไงก็ยังงงอยู่ดี
"ถ้าคนพุทธคนนึง กราบรุปปั้นพระ แล้วบอกว่า คิดถึงพระพุทธ เป็นสิ่งที่ผิดป่ะครับ เหมือนๆเวลาเรามีรูปปู่ย่าที่เสียไปแล้ว เราไหว้เนี่ยผิดไหม เหมือนรุปปั้นพระแม่เลย"
ที่พูดมานั่นผมไม่ได้ไหว้พระ แล้วก็รุปคนมานานแล้ว แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้
ขอความกรุณา ทำคนโง่ๆแบบผมเข้าใจด้วยคับ
รีพลายของบางท่านถึงดู "ห้วนๆและอ่านดูรู้สึกว่าไม่มีความอ่อนโยนแบบพี่น้องเลย"
ไอ้เรื่องรุปเคารพอ่ะ ผมก็สงสัยเหมือนกันคับ
อ่านรีพลายแล้วด้วย แต่ไม่ว่ายังไงก็ยังงงอยู่ดี
"ถ้าคนพุทธคนนึง กราบรุปปั้นพระ แล้วบอกว่า คิดถึงพระพุทธ เป็นสิ่งที่ผิดป่ะครับ เหมือนๆเวลาเรามีรูปปู่ย่าที่เสียไปแล้ว เราไหว้เนี่ยผิดไหม เหมือนรุปปั้นพระแม่เลย"
ที่พูดมานั่นผมไม่ได้ไหว้พระ แล้วก็รุปคนมานานแล้ว แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้
ขอความกรุณา ทำคนโง่ๆแบบผมเข้าใจด้วยคับ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
เพราะเวลาขัดแย้ง อีกฝ่ายมักจะโจมตี ข่มคอ ให้คนอื่นเชื่อ หรือทำตามแบบเขา พร้อมทั้งบอกแต่อีกฝ่ายหนึ่งผิด
ความเห็นของเจี๊ยบ คนที่ไม่ได้ เป็นคริสต์ ไม่ว่านิกายใด เช่นคนที่เป็นพุทธ คนที่เป็นฮินดู เป็นต้น ถ้าเขาไหว้รูปเคารพของเขา
ตามความเชื่อของเขา เราไม่แตะต้อง ที่จะไปโจมตีเขา เพราะว่า เราอยู่คนละพื้นฐานของความเชื่อ
เราพูดเรื่องไหว้รูปเคารพ ในความหมายคนคริสต์ ที่ต้องไม่มีพระอื่นใด นอกเหนือจากพระเจ้า
รูปเคารพ ที่เราใช้คือ "สิ่งใด รูปใด ที่มาขวางกั้น ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า"
ความเห็นของเจี๊ยบ คนที่ไม่ได้ เป็นคริสต์ ไม่ว่านิกายใด เช่นคนที่เป็นพุทธ คนที่เป็นฮินดู เป็นต้น ถ้าเขาไหว้รูปเคารพของเขา
ตามความเชื่อของเขา เราไม่แตะต้อง ที่จะไปโจมตีเขา เพราะว่า เราอยู่คนละพื้นฐานของความเชื่อ
เราพูดเรื่องไหว้รูปเคารพ ในความหมายคนคริสต์ ที่ต้องไม่มีพระอื่นใด นอกเหนือจากพระเจ้า
รูปเคารพ ที่เราใช้คือ "สิ่งใด รูปใด ที่มาขวางกั้น ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า"
รูปเคารพคืออะไรก็ตามที่นำเราออกห่างพระเจ้า ถ้าสิ่งใดช่วยสื่อให้เราเข้าถึงพระเจ้ามากขึ้นไม่จัดเป็นรูปเคารพครับHappiiloo เขียน: ทำไมเวลามีกระทู้ที่มีความคิดเห็นต่างกัน
รีพลายของบางท่านถึงดู "ห้วนๆและอ่านดูรู้สึกว่าไม่มีความอ่อนโยนแบบพี่น้องเลย"
ไอ้เรื่องรุปเคารพอ่ะ ผมก็สงสัยเหมือนกันคับ
อ่านรีพลายแล้วด้วย แต่ไม่ว่ายังไงก็ยังงงอยู่ดี
"ถ้าคนพุทธคนนึง กราบรุปปั้นพระ แล้วบอกว่า คิดถึงพระพุทธ เป็นสิ่งที่ผิดป่ะครับ เหมือนๆเวลาเรามีรูปปู่ย่าที่เสียไปแล้ว เราไหว้เนี่ยผิดไหม เหมือนรุปปั้นพระแม่เลย"
ที่พูดมานั่นผมไม่ได้ไหว้พระ แล้วก็รุปคนมานานแล้ว แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้
ขอความกรุณา ทำคนโง่ๆแบบผมเข้าใจด้วยคับ
คุณเข้าใจแก่นแท้ของคำสอนเรื่อง การห้ามสร้างรูปเคารพ ไหม คุณคิดว่าพระเจ้าบัญญัติขึ้นเพราะเกลียดงานศิลปะหรือ? หรือเพราะแท้จริงจุดประสงค์หลักคือ ไม่ต้องการให้เราหันเหออกจากพระองค์
จำได้ไหมครับ พระเยซูตอนสรุปบัญญัติส่วนแรก(รวมเรื่องรูปเคารพด้วย) ว่า เป็นการ จงรักพระเจ้าด้วยสิ้นสุดจิตใจ
รูปแม่พระ รูปพระเยซู รูปเครูปกางปีกที่หีบพันธสัญญา หรืองูสัมฤทธิที่โมเสสทำขึ้น จุดจบก็พาคุณไปที่ รักพระเจ้ามากขึ้น แต่รูปพระในศาสนาอื่น ช่วยให้คุณรักพระเจ้าด้วยสิ้นสุดจิตใจไหม หรือการเซ่นไหว้รูปหรือแม้แต่ป้ายชื่อ(ไม่มีภาพอะไรเลย)ของบรรพบุรุษ ทำให้คุณหันเหสับสนความเชื่อไหมว่า พระเจ้าเท่านั้นที่นำความรอดและสันติสุขแก่วิญญาณ ไม่ใช่ธูปหรือส้ม หรือหัวหมู
รูปงูสัมฤทธิ์บนเสา และ หีบพันธสัญญา ไม่เหมือน กับรูปวัวทองคำครับ
ส่วนคำถามที่ว่าหลายครั้งกระทู้ทำนองนี้นำความเซ็งจิตมาให้ผู้ตอบ
คุณเข้าใจผิดอยู่อย่างว่า "เวลามีกระทู้ที่มีความคิดเห็นต่างกัน" อันที่จริง แค่ความเห้นต่างไม่เคยเป็นปัญหา แต่ "กระทู้ตัดสินกล่าวหาคนอื่น อธิบายจนปากฉีกก็อคติไม่เลิก" ต่างหาก ที่ความจริงไม่เฉพาะเรื่องศาสนา แต่มันน่าเกลียดในทางมารยาทสังคมพื้นฐานด้วยซ้ำ
ผมขอถามคุณหน่อยครับ พระเยซูเจ้าเคยหงุดหงิด หรือด่าแรงกับ หญิงโสเภณี คนเก็บภาษี หรือแม้แต่มหาโจรไหมครับ
แต่พระเยซู ทรงตำหนิรุนแรงมาก กับฟาริสี และธรรมาจารรย์ และนักกฎหมาย ที่คิดว่าตัวเองเชี่ยวชาญพระคัมภีร์ แล้วชอบเอาพระคัมภีร์ มาตัดสินพระองค์และคนอื่น
พระเยซูไม่เคยใช้คำว่าวิบัติแก่ท่าน กับคนบาปทั่วไป และแม้แต่กับคนต่างศาสนาที่เขาไหว้รูปเคารพ และมีพระเจ้าอื่น เมื่อเขาเข้ามาขอความช่วยเหลือก็ยังไม่เคยทรงประนามเรื่องหลักความเชื่อเขา ตรงข้ามทรงอ่อนโยนกับพวกเขามาก
แต่พระองค์ตรัสว่าวิบัติ แก่คน3กลุ่ม คือ ฟาริสี ธรรมาจารย์ และพวกเลวี
พวกที่คิดว่าตัวเองดีและถูกต้องกว่าคนอื่น เพราะคิดว่ารู้พระคัมภีร์มากกว่า แล้วชอบอ้างพระคัมภีร์มาด่าและตัดสินคนอื่นนี่แหละ
ครั้งหนึ่งคนพวกนี้เคยกางพระคัมภีร์บอกว่าพระเยซูไม่ได้มาจากพระเจ้า เพราะทรงละเมิดวันสะบาโต และไล่ชายตาบอดคนนั้นออกจากศาลาธรรม เพราะตรวจสอบแล้วพบว่าคนที่ทำการอัศจรรย์ นั้น ไม่ได้มาจากพระเจ้าเพราะไม่เคารพบัญญัติของโมเสส
เขาไม่สนการอัศจรรย์เหลือเชื่อ และรวมถึงความดีที่พระองค์ทำ เขากล่าวหาว่าพระองค์ทำได้เพราะใช้อำนาจปีศาจอาเบลเซบู เขาตัดสินพระองค์ เพียงเพราะทรงละเมิดพระคัมภีร์ที่โมเสสเขียน สำหรับเขาแล้วการทำถูกต้องตามพระคัมภีร์ที่เขียนไว้นาน2000ปี จะต้องมากกว่าความดี ความรักเมตตา และมาก่อนการอัศจรรย์
ประเด็นก็คือ ทุกวันนี้ คนที่ชอบประพฤติดังกล่าวนั้น ยังไม่หมดไปแม้ผ่านมา2000ปีแล้ว
สมัยก่อนนั้น เขาอ่านแต่พระธรรมเดิม กระทำผิดจนโดนบันทึกมาสอนคนรุ่นหลัง ก็พอเข้าใจ แต่คนสมัยนี้เขาอ้างว่าอ่านพระคัมภีร์พระธรรมใหม่ด้วยนะ แต่ทำไมเขายังทำแบบนี้ เขารู้พระคัมภีร์ แต่เขาไม่ปฎิบัติตามน้ำพระทัยของพระเจ้า พระคัมภีร์ กลายเป็นเพียงธรรมบัญญัติที่ต้องทำตามไม่งั้นตกนรก เขาอ้างว่าเขารอดทางความเชื่ออย่างเดียวไม่ใช่การทำตามธรรมบัญญัติ(พระคัมภีร์ของโมเสส) แต่เขากลับตัดสินการกระทำของคนอื่นโดยยึดตามตัวอักษรในพระคัมภีร์ใหม่แทน
นี่คือเหล้าเก่าในถุงหนังใหม่แท้ๆ
อ่านพระคัมภีร์แล้ว รู้จักพระเยซูเจ้ากันบ้างไหม หรือเจอแต่กฎที่ต้องทำให้ตามนั้นเป๊ะ ไม่งั้นตกนรก
ผมขอถามคุณกลับครับว่า เมื่อไหร่ พฤติกรรมแบบนี้จะหมดซะที
การกางพระคัมภีร์ แล้วว่าคนอื่นผิดๆๆๆๆ กูถูกโบสถ์เดียว โดยไม่เคยมองสิ่งดี การอัศจรรย์ และความรักในพระศาสนจักรเลย
ทำยังไงถึงจะหมดครับ ตอบที
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 4:44 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
พี่ holy ตอบได้เคลียร์มากๆแล้วครับ ใครมีตาก็จงอ่านเถิด ใครมีสมองก็จงเข้าใจเถิด
ตรงนี้ชอบมากเลยครับ!!! พี่holyอ่านพระคัมภีร์แล้ว รู้จักพระเยซูเจ้ากันบ้างไหม หรือเจอแต่กฎที่ต้องทำให้ตามนั้นเป๊ะ ไม่งั้นตกนรก
-
- โพสต์: 300
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am
เมื่อผมได้อ่านที่หลาย ๆ ท่าน ได้ตอบเกี่ยวกับพระนางพรหมจารีมารีย์ พระชนนีพระเจ้า แล้ว ผมขอสารภาพว่า ผมคนหนึ่งแหละครับ ที่เคยที่จะกำจัดบทบาทของพระนางพรหมจารีมารีย์ออกไปจากความเชื่อของผมเอง ผมเองเป็นคนหนึ่งที่เคยปฏิเสธพระนาง ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยดูหมิ่นพระนาง ถึงขั้นที่กล่าวว่าการประจักษ์ของพระนางเป็นกิจการของปิศาจ
แต่วันนี้ ผมเสียใจที่ได้ทำและคิดเช่นนั้น ผมเสียใจอย่างที่สุดที่ได้หมิ่นประมาทผู้ศักดิ์สิทธิ์อย่างเช่นพระนาง
ผมขอโทษ และขอพึ่งความโอบอ้อมอารีย์ของพระนาง ขอพระนางพรหมจารีมารีย์ พระชนนีพระเจ้า วิงวอนเพื่อข้าพเจ้าผู้เป็นคนบาปด้วยเทอญ อาเมน
แต่วันนี้ ผมเสียใจที่ได้ทำและคิดเช่นนั้น ผมเสียใจอย่างที่สุดที่ได้หมิ่นประมาทผู้ศักดิ์สิทธิ์อย่างเช่นพระนาง
ผมขอโทษ และขอพึ่งความโอบอ้อมอารีย์ของพระนาง ขอพระนางพรหมจารีมารีย์ พระชนนีพระเจ้า วิงวอนเพื่อข้าพเจ้าผู้เป็นคนบาปด้วยเทอญ อาเมน
ช่างเถอะ อายุยังแค่ 14 เองนี่ ใช่มั้ยคะ
กลับไปคิดใหม่ซะด้วยนะน้องนะ
น้องยังมีสมองและยังเติบโตได้อีกนะ
สิ่งที่น้องโพสมา สมอายุมากๆค่ะ
แต่อายุของน้อง(โอเค ห่างจากเราแค่นิดเดียว ยังไงก็น้องนะแหละ)
โพสเรื่องแบบนี้ถือว่าโอเค เรื่องศาสนา ในวัยเราเนี่ยมันมีน้อยคนที่จะโพสนะ
แต่ไม่ว่าด้วยเจตนาอะไรก็แล้วแต่ เราไม่รู้หรอกนะว่าน้องโพสเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่ออะไร
แต่ช่วยคิดก่อนโพสนิดนึง น้องจะนับถืออะไรก็ตาม คาทอลิก โปรแตสแตนท์ ออร์ธอดอกซ์ มุสลิม พุทธ อะไรก็ตาม
รู้ไว้ซักนิดนะว่าน้องกำลังดูหมิ่นศาสนา หลายศาสนาพร้อมกันเลยทีเดียว ซึ่งถ้าน้องสงสัยสุดชีวิต น้องไปถามที่วัดเอาดีกว่า
บอร์ดนี้ไม่ได้มีแต่คาทอลิก โปรก็มี พุทธก็มี มีกันหลากหลายศาสนานะ เวลาจะโพสอะไรก็ช่วยเรียบเรียงคำนิดนึง
จะให้ดีเรียงเรียงความคิดตัวเองใหม่ด้วย โตแล้วนี่ น่าจะอ่านที่ทุกคนในบอร์ดโพสไว้รู้เรื่อง
โพสแบบจืดชืดไม่มีใครตอบก็ยังดีกว่ามาเพิ่มความนิยมให้ตัวเองด้วยวิธีแบบนี้ ถ้าทำแบบนี้เอาเวลาไปตามดูชีวิตของตัวเองไม่ดีกว่าเหรอ
ว่าวันนี้เราทำดีไม่ดีอะไรบ้าง ใครทำอะไรไม่ดีกะเราบ้าง เอาเวลาไปฝึกการให้อภัย แล้วก็ฝึกความมีเมตตาเหอะ
ถ้าความขัดแย้งที่น้องสร้างมันทำให้น้องสนุก ก็ทำไปเหอะ
แต่ช่วยไปทำไกลๆ จากชุมชนคนที่รักสันติแบบนี้
เชื่อว่าน้องโตพอที่จะอ่านออก และรู้เรื่องนะ
กลับไปคิดใหม่ซะด้วยนะน้องนะ
น้องยังมีสมองและยังเติบโตได้อีกนะ
สิ่งที่น้องโพสมา สมอายุมากๆค่ะ
แต่อายุของน้อง(โอเค ห่างจากเราแค่นิดเดียว ยังไงก็น้องนะแหละ)
โพสเรื่องแบบนี้ถือว่าโอเค เรื่องศาสนา ในวัยเราเนี่ยมันมีน้อยคนที่จะโพสนะ
แต่ไม่ว่าด้วยเจตนาอะไรก็แล้วแต่ เราไม่รู้หรอกนะว่าน้องโพสเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่ออะไร
แต่ช่วยคิดก่อนโพสนิดนึง น้องจะนับถืออะไรก็ตาม คาทอลิก โปรแตสแตนท์ ออร์ธอดอกซ์ มุสลิม พุทธ อะไรก็ตาม
รู้ไว้ซักนิดนะว่าน้องกำลังดูหมิ่นศาสนา หลายศาสนาพร้อมกันเลยทีเดียว ซึ่งถ้าน้องสงสัยสุดชีวิต น้องไปถามที่วัดเอาดีกว่า
บอร์ดนี้ไม่ได้มีแต่คาทอลิก โปรก็มี พุทธก็มี มีกันหลากหลายศาสนานะ เวลาจะโพสอะไรก็ช่วยเรียบเรียงคำนิดนึง
จะให้ดีเรียงเรียงความคิดตัวเองใหม่ด้วย โตแล้วนี่ น่าจะอ่านที่ทุกคนในบอร์ดโพสไว้รู้เรื่อง
โพสแบบจืดชืดไม่มีใครตอบก็ยังดีกว่ามาเพิ่มความนิยมให้ตัวเองด้วยวิธีแบบนี้ ถ้าทำแบบนี้เอาเวลาไปตามดูชีวิตของตัวเองไม่ดีกว่าเหรอ
ว่าวันนี้เราทำดีไม่ดีอะไรบ้าง ใครทำอะไรไม่ดีกะเราบ้าง เอาเวลาไปฝึกการให้อภัย แล้วก็ฝึกความมีเมตตาเหอะ
ถ้าความขัดแย้งที่น้องสร้างมันทำให้น้องสนุก ก็ทำไปเหอะ
แต่ช่วยไปทำไกลๆ จากชุมชนคนที่รักสันติแบบนี้
เชื่อว่าน้องโตพอที่จะอ่านออก และรู้เรื่องนะ
น่าเศร้าใจนะครับที่น้องแท้ ๆ ของเรา กลับไม่รักไม่เคารพแม่แท้ ๆ ของตนเอง ขนาดลูกพี่ลูกน้องของเรายังให้ความเคารพและเทิดทูนคุณแม่ของเรามากกว่าน้องในไส้
สำหรับผมแม่พระคือแม่ที่คอยสั่งสอนและเตือนสติลูกๆ ให้ดำเนินอยู่ในทางแห่งความรอด เพราะแม่ก็เคยผ่านทางสายนี้มาก่อน
พูดง่ายๆ ก็คืออาบน้ำร้อนมาก่อน แม่รู้ว่ามันยากลำบาก และพฤติกรรมของลูกๆ ก็มักทำให้แม่ต้องเสียใจ แต่แม่ก็ไม่เคยจะทิ้งลูกๆ ไป
คุณต้องลองมาสัมผัสความรักของแม่ที่มีต่อลูกๆ ดูครับ แม่บนโลกของเรารักเรายังไงคุณก็น่าจะทราบดี แล้วแม่ที่อยู่บนสวรรค์
แม่แท้ๆ ของคริสตชน จะไม่รักเรามากกว่านั้นหรือครับ
ปล.พระเยซูยังไม่เคยจะดูหมิ่นแม่ของตัวเองเลย แม้ว่าพระนางจะเป็นมนุษย์ แต่พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า
เพราะฉะนั้นอย่างน้อยคุณก็น่าจะทำตามสิ่งที่พระเยซูทำคือให้ความเคารพต่อมารดาของพระองค์
พูดง่ายๆ ก็คืออาบน้ำร้อนมาก่อน แม่รู้ว่ามันยากลำบาก และพฤติกรรมของลูกๆ ก็มักทำให้แม่ต้องเสียใจ แต่แม่ก็ไม่เคยจะทิ้งลูกๆ ไป
คุณต้องลองมาสัมผัสความรักของแม่ที่มีต่อลูกๆ ดูครับ แม่บนโลกของเรารักเรายังไงคุณก็น่าจะทราบดี แล้วแม่ที่อยู่บนสวรรค์
แม่แท้ๆ ของคริสตชน จะไม่รักเรามากกว่านั้นหรือครับ
ปล.พระเยซูยังไม่เคยจะดูหมิ่นแม่ของตัวเองเลย แม้ว่าพระนางจะเป็นมนุษย์ แต่พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า
เพราะฉะนั้นอย่างน้อยคุณก็น่าจะทำตามสิ่งที่พระเยซูทำคือให้ความเคารพต่อมารดาของพระองค์
-
- โพสต์: 1042
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 22, 2008 11:37 am
- ที่อยู่: Ether23@hotmail.com
ทำไมจะไม่ให้แล้วศีลมหาสนิทคืออะไร
พระเยซูรักแม่พระคุณไปอ่านตอนที่
พระเยซูถูกตรึงกางเขนสิพระเยซูพูดว่าอะไร
บอกนี่คือแม่ของท่านใช่ไหม
ฉะนั้นพระเเม่มารีย์ จึงเป็นที่พึ่งของเรา
รองลงมาจากพระเยซู
เราไปโบสถ์ เราก็รับพระกายและพระโลหิต
จากพระเจ้าแล้ว
ไม่เหมือนโปร มีมั่งไม่มีมั่ง
ผมก็เคยไปนะโบสถ์โปรนะขอบอกว่า
ความรู้สึกเหมือนไม่มีพระเยซูอยู่ที่โบสถ์นั้นเลย
มันว่างเปล่าชอบกลพอกลับมาคาทอลิกจึงรู้ว่า
พระเยซูท่านอยู่ที่ไหน...
แล้วคุณลองไตร่ตรองสิว่า โปรเตสเเต๊นนะ
ออกจากคาทอลิก เพราะลูเทอเรน มีภรรยานะ
แล้วก็คุณไปกรุงวาติกันคุณจะบอกใครว่า
นี่เป็นของคาทอลิกหรือ โปรเตสเเต๊นละ
พระเยซูรักแม่พระคุณไปอ่านตอนที่
พระเยซูถูกตรึงกางเขนสิพระเยซูพูดว่าอะไร
บอกนี่คือแม่ของท่านใช่ไหม
ฉะนั้นพระเเม่มารีย์ จึงเป็นที่พึ่งของเรา
รองลงมาจากพระเยซู
เราไปโบสถ์ เราก็รับพระกายและพระโลหิต
จากพระเจ้าแล้ว
ไม่เหมือนโปร มีมั่งไม่มีมั่ง
ผมก็เคยไปนะโบสถ์โปรนะขอบอกว่า
ความรู้สึกเหมือนไม่มีพระเยซูอยู่ที่โบสถ์นั้นเลย
มันว่างเปล่าชอบกลพอกลับมาคาทอลิกจึงรู้ว่า
พระเยซูท่านอยู่ที่ไหน...
แล้วคุณลองไตร่ตรองสิว่า โปรเตสเเต๊นนะ
ออกจากคาทอลิก เพราะลูเทอเรน มีภรรยานะ
แล้วก็คุณไปกรุงวาติกันคุณจะบอกใครว่า
นี่เป็นของคาทอลิกหรือ โปรเตสเเต๊นละ
ขอพูดตามตรงว่าจับความหมายไม่ค่อยได้ครับ แนะนำให้ไปเรียนการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร<< WIN on the way เขียน: ทำไมจะไม่ให้แล้วศีลมหาสนิทคืออะไร
พระเยซูรักแม่พระคุณไปอ่านตอนที่
พระเยซูถูกตรึงกางเขนสิพระเยซูพูดว่าอะไร
บอกนี่คือแม่ของท่านใช่ไหม
ฉะนั้นพระเเม่มารีย์ จึงเป็นที่พึ่งของเรา
รองลงมาจากพระเยซู
เราไปโบสถ์ เราก็รับพระกายและพระโลหิต
จากพระเจ้าแล้ว
ไม่เหมือนโปร มีมั่งไม่มีมั่ง
ผมก็เคยไปนะโบสถ์โปรนะขอบอกว่า
ความรู้สึกเหมือนไม่มีพระเยซูอยู่ที่โบสถ์นั้นเลย
มันว่างเปล่าชอบกลพอกลับมาคาทอลิกจึงรู้ว่า
พระเยซูท่านอยู่ที่ไหน...
แล้วคุณลองไตร่ตรองสิว่า โปรเตสเเต๊นนะ
ออกจากคาทอลิก เพราะลูเทอเรน มีภรรยานะ
แล้วก็คุณไปกรุงวาติกันคุณจะบอกใครว่า
นี่เป็นของคาทอลิกหรือ โปรเตสเเต๊นละ
และนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อความสะดวกในการสื่อสารกับผู้อื่นครับ
"พระเยซูตรัสว่า ที่ใดมีคนชุมนุมในนามของพระองค์สองถึงสามคน พระองค์อยู่ที่นั่น"
แนะนำว่า เวลาจะพิมพ์อะไรไม่ต้องรีบ ช้าๆ เรียบเรียงความคิด เรียบเรียงคำ แล้วค่อยถ่ายทอดsasuke เขียน:ขอพูดตามตรงว่าจับความหมายไม่ค่อยได้ครับ แนะนำให้ไปเรียนการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร<< WIN on the way เขียน: ทำไมจะไม่ให้แล้วศีลมหาสนิทคืออะไร
พระเยซูรักแม่พระคุณไปอ่านตอนที่
พระเยซูถูกตรึงกางเขนสิพระเยซูพูดว่าอะไร
บอกนี่คือแม่ของท่านใช่ไหม
ฉะนั้นพระเเม่มารีย์ จึงเป็นที่พึ่งของเรา
รองลงมาจากพระเยซู
เราไปโบสถ์ เราก็รับพระกายและพระโลหิต
จากพระเจ้าแล้ว
ไม่เหมือนโปร มีมั่งไม่มีมั่ง
ผมก็เคยไปนะโบสถ์โปรนะขอบอกว่า
ความรู้สึกเหมือนไม่มีพระเยซูอยู่ที่โบสถ์นั้นเลย
มันว่างเปล่าชอบกลพอกลับมาคาทอลิกจึงรู้ว่า
พระเยซูท่านอยู่ที่ไหน...
แล้วคุณลองไตร่ตรองสิว่า โปรเตสเเต๊นนะ
ออกจากคาทอลิก เพราะลูเทอเรน มีภรรยานะ
แล้วก็คุณไปกรุงวาติกันคุณจะบอกใครว่า
นี่เป็นของคาทอลิกหรือ โปรเตสเเต๊นละ
และนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อความสะดวกในการสื่อสารกับผู้อื่นครับ
"พระเยซูตรัสว่า ที่ใดมีคนชุมนุมในนามของพระองค์สองถึงสามคน พระองค์อยู่ที่นั่น"
เพราะนอกจากจะทำให้คนอื่นไม่รู้เรื่องแล้ว ยังจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดด้วยครับ
ถ้าไม่มีคนต่อ มันก็ไม่มีข้อความที่รุนแรงขึ้น
จะเถียงกันทำไมหนอ ไม่ว่าจะนิกายไหนๆ
เราก็มีพระเจ้า พระองค์เดียวกัน
การที่เรามองข้ามไปบ้าง บางทีบุคคลที่พยายามสร้างความแตกแยก
มันเบื่อ มันก็หยุดเอง
ที่โพสขึ้นมาไม่ใช่อะไรนะ
รู้สึกพวกเราจะแตกแยกเพราะคนไม่กี่คน ที่เอาความเห็นของตัวเองเป็นที่ตั้ง
เหมือนเด็กอนุบาลทะเลาะกันไม่มีที่สิ้นสุด
อยากให้ชาวคริสทุกคนรักกันดีกว่า จะินิกายไหนๆ เราก็รักพระเจ้าเหมือนกัน
กำลังใกล้เคียงเสื้อเหลืองเสื้อแดง รู้ไหม???
จะเถียงกันทำไมหนอ ไม่ว่าจะนิกายไหนๆ
เราก็มีพระเจ้า พระองค์เดียวกัน
การที่เรามองข้ามไปบ้าง บางทีบุคคลที่พยายามสร้างความแตกแยก
มันเบื่อ มันก็หยุดเอง
ที่โพสขึ้นมาไม่ใช่อะไรนะ
รู้สึกพวกเราจะแตกแยกเพราะคนไม่กี่คน ที่เอาความเห็นของตัวเองเป็นที่ตั้ง
เหมือนเด็กอนุบาลทะเลาะกันไม่มีที่สิ้นสุด
อยากให้ชาวคริสทุกคนรักกันดีกว่า จะินิกายไหนๆ เราก็รักพระเจ้าเหมือนกัน
กำลังใกล้เคียงเสื้อเหลืองเสื้อแดง รู้ไหม???
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
ผมว่ายังห่างไกลกันมากครับ เสื้อเหลือง - เสื้อแดง ไม่ถูกกันเกือบ 90% แต่ชาวคริสต์ มีเพียงไม่กี่คนหรอกครับ ที่หัวรุนแรงถึงขนาดเกลียดอีกฝ่ายChErTaM เขียน: ถ้าไม่มีคนต่อ มันก็ไม่มีข้อความที่รุนแรงขึ้น
จะเถียงกันทำไมหนอ ไม่ว่าจะนิกายไหนๆ
เราก็มีพระเจ้า พระองค์เดียวกัน
การที่เรามองข้ามไปบ้าง บางทีบุคคลที่พยายามสร้างความแตกแยก
มันเบื่อ มันก็หยุดเอง
ที่โพสขึ้นมาไม่ใช่อะไรนะ
รู้สึกพวกเราจะแตกแยกเพราะคนไม่กี่คน ที่เอาความเห็นของตัวเองเป็นที่ตั้ง
เหมือนเด็กอนุบาลทะเลาะกันไม่มีที่สิ้นสุด
อยากให้ชาวคริสทุกคนรักกันดีกว่า จะินิกายไหนๆ เราก็รักพระเจ้าเหมือนกัน
กำลังใกล้เคียงเสื้อเหลืองเสื้อแดง รู้ไหม???
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
แถวบ้านผมเรียกคนประเภทนี้ว่า "ปาก "<< WIN on the way เขียน: ทำไมจะไม่ให้แล้วศีลมหาสนิทคืออะไร
พระเยซูรักแม่พระคุณไปอ่านตอนที่
พระเยซูถูกตรึงกางเขนสิพระเยซูพูดว่าอะไร
บอกนี่คือแม่ของท่านใช่ไหม
ฉะนั้นพระเเม่มารีย์ จึงเป็นที่พึ่งของเรา
รองลงมาจากพระเยซู
เราไปโบสถ์ เราก็รับพระกายและพระโลหิต
จากพระเจ้าแล้ว
ไม่เหมือนโปร มีมั่งไม่มีมั่ง
ผมก็เคยไปนะโบสถ์โปรนะขอบอกว่า
ความรู้สึกเหมือนไม่มีพระเยซูอยู่ที่โบสถ์นั้นเลย
มันว่างเปล่าชอบกลพอกลับมาคาทอลิกจึงรู้ว่า
พระเยซูท่านอยู่ที่ไหน...
แล้วคุณลองไตร่ตรองสิว่า โปรเตสเเต๊นนะ
ออกจากคาทอลิก เพราะลูเทอเรน มีภรรยานะ
แล้วก็คุณไปกรุงวาติกันคุณจะบอกใครว่า
นี่เป็นของคาทอลิกหรือ โปรเตสเเต๊นละ
การรักษาโรค การอัศจรรย์ การกลับใจ การอภัยบาป และการบัพติศมา เกิดขึ้นในคริสตจักร
และที่จริง คุณพ่อลูเทอ ท่านออกจากคาทอลิก มาตั้ง โบสถ์ใหม่ เพราะความผิดบาปของคาทอลิกในยุคนั้นต่างหากละครับ มีหลายข้อ
(และไม่ใช่เพราะคาทอลิกไม่ดี แต่เพราะมันมีเรื่องพวกทำนองความบาป ประการต่างๆแทรกเข้ามาในวัด)
ตามที่พอหาศึกษาได้ในบอร์ดนี้นะครับ ลองศึกษาดู ผมก็ไม่รู้มันอยู่ตรงไหน เซิชทีไร เว็บบอร์ดถึงกับล่มทุกที
ขออีกครั้งนะครับ ระวังปากด้วย เดี๋ยวจะกลายเป็นหมิ่นประมาทพระเจ้า เพียงเพราะคำว่า "โปรฯ"
ผมเป็นโปรเตสแตน และเมื่อสักครู่ ก็เพิ่งสวดแบบคาทอลิกไปครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ ส.ค. 31, 2009 1:30 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
ขออีกนิด
"กรุณาอย่าทำให้ผู้อื่นเข้าใจคาทอลิกไปในทางที่ผิดไปจากน้ำพระทัยพระเจ้า เพราะคุณ!!! เลยนะครับ"
อีกอย่างนะครับ ขอย้ำเลยว่า "พวกคริสเกรียนที่มาปากเสีย วิพากษ์คาทอลิกในทางไม่ดี ขอให้รู้ว่านั้น ไม่ใช่โปรฯทั้งหมด ไม่ใช่ตัวแทนโปรฯด้วย"
"กรุณาอย่าทำให้ผู้อื่นเข้าใจคาทอลิกไปในทางที่ผิดไปจากน้ำพระทัยพระเจ้า เพราะคุณ!!! เลยนะครับ"
อีกอย่างนะครับ ขอย้ำเลยว่า "พวกคริสเกรียนที่มาปากเสีย วิพากษ์คาทอลิกในทางไม่ดี ขอให้รู้ว่านั้น ไม่ใช่โปรฯทั้งหมด ไม่ใช่ตัวแทนโปรฯด้วย"
ช่างเป็นพี่น้องที่น่ารักจริงเชียวค่ะ...เป็นปลื้มคนละคนแล้วครับ เขียน: ขออีกนิด
"กรุณาอย่าทำให้ผู้อื่นเข้าใจคาทอลิกไปในทางที่ผิดไปจากน้ำพระทัยพระเจ้า เพราะคุณ!!! เลยนะครับ"
อีกอย่างนะครับ ขอย้ำเลยว่า "พวกคริสเกรียนที่มาปากเสีย วิพากษ์คาทอลิกในทางไม่ดี ขอให้รู้ว่านั้น ไม่ใช่โปรฯทั้งหมด ไม่ใช่ตัวแทนโปรฯด้วย"
เครียดการเมืองเกินไป แล้วมาลงกับคนที่นี่ChErTaM เขียน: มันไม่ห่างหรอกคะจากคำว่าเสื้อเหลืองเสื้อแดง
หลายๆคน ทำตัวเหมือนจริงๆนะ
ทะเลาะกันเองทั้งๆที่เป็นเลือดคนไทยด้วยกันอะ
มานั่งทะเลาะกันกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
ควรจะหยุดซะทีอะ