อัศจรรย์ศีลมหาสนิทที่อาร์เจนตินา
-
- โพสต์: 1413
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
- ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
อัศจรรย์ศีลมหาสนิทที่อาร์เจนตินา
Miracle of Eucharist in Argentina
พระคาร์ดินัลแห่ง 'บูเอนอสไอเรส' ได้เรียกผมไปพบ
ผมเป็นผู้ที่ศึกษาตรวจสอบเรื่องนี้มาหลายปี และพระคาร์ดินัลก็พึงพอใจในการทำงานของผม ดังนั้น ผมจึงถูกเรียกตัวไป เวลานั้นที่ 'บูเอนอสไอเรส' มีแนวโน้มของการรับศีลมหาสนิทด้วยมือ ครั้งหนึ่ง มีบางคนได้ทำแผ่นศีลหล่นลงพื้น เมื่อศีลเปื้อนฝุ่นพวกเขาก็ไม่หยิบ แต่ได้แจ้งต่อพระสงฆ์ พระสงฆ์จึงหยิบแผ่นศีลนั้นขึ้นมาแล้วนำไปใส่ในถ้วยน้ำเพื่อให้แผ่นศีลละลายเป็นน้ำแป้ง แล้วจึงนำไปรดต้นไม้ต่อไป(เป็นวิธีที่อนุญาตให้ทำได้) แก้วน้ำที่ใส่แผ่นศีลถูกนำไปวางในตู้ศีล หลังจากนั้น 5-6 วัน พระสงฆ์เปิดตู้ศีลดูก็สังเกตว่า แผ่นศีลไม่ได้ละลายแต่กลับมีรอยสีแดงปรากฏอยู่บนแผ่นศีลนั้น และรูปร่างเปลี่ยนไปจากเดิม วันต่อมารอยสีแดงมีขนาดใหญ่ขึ้น พระสงฆ์ได้รายงานเรื่องนี้ไปยังพระคาร์ดินัล และผมก็ถูกเรียกตัวไปพบเพื่อขอให้เอาตัวอย่างชิ้นส่วนแผ่นศีลไปพิสูจน์ว่าเป็นอะไรกันแน่ ผมไปที่นั่นหลายครั้งและได้นำตัวอย่างมา 2 ตัวอย่าง ตัวอย่างชิ้นหนึ่งมีลักษณะเหมือนเจลาติน นี่เป็นตัวอย่างจากแผ่นศีลแผ่นแรก เพราะยังมีแผ่นศีลอีกแผ่นหนึ่งซึ่งก็เป็นแบบเดียวกัน มีแผ่นศีลทั้งหมด 2 แผ่นซึ่งผมต้องทำการตรวจสอบวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ แผ่นศีลอีกอันหนึ่งถูกทำให้แห้งกลายเป็นสะเก็ดแป้ง ผมได้นำตัวอย่างเหล่านี้ไปที่ห้องวิเคราะห์ในอเมริกา ที่แคลิฟฟอร์เนีย โดยไม่ได้บอกเขาว่า ตัวอย่างนี้มาจากแผ่นศีล และพวกเขาได้ทำการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่าง
"ผลลัพธ์ที่ได้เป็นอย่างไรครับ ด็อกเตอร์?" ผมถาม Dr. Frederick Zugibe ท่านเป็นผู้มีชื่อเสียงทางด้านCradiology
"ตัวอย่างที่คุณนำมาให้ผมนั้นคือกล้ามเนื้อหัวใจ จากหัวใจห้องล่างซ้าย" ด็อกเตอร์ตอบ
นั่นเป็นผลลัพธ์ครั้งแรก แต่ยังมีสิ่งอื่นอีกมากที่ถูกค้นพบ
เราทำการศึกษาเรื่องนี้ในปี 1999 แต่ 2-3 เดือนก่อนหน้านี้ Dr. Frederick Zugibe ได้พบวิธีการใหม่ๆในการระบุสาเหตุการตายของคนที่หัวใจได้รับบาดเจ็บ ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ด้านหัวใจและพยาธิวิทยา Dr. Zugibe บอกกับเราว่า "คนที่เป็นเจ้าของตัวอย่างเนื้อเยื่อหัวใจนี้ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส เพราะจากตัวอย่างเนื้อเยื่อแสดงว่า เขาต้องถูกโบยตีอย่างหนักทีเดียว เขาถูกทรมานจนตาย" นายแพทย์ยังไม่รู้ว่าตัวอย่างนี้มาจากแผ่นศีลมหาสนิท
Dr. Zugibe พูดต่อว่า "แต่มีบางอย่างที่คุณต้องอธิบายให้ผมรู้" "เป็นไปได้อย่างไรที่ในขณะที่ผมตรวจสอบตัวอย่างเนื้อเยื่อนี้ ตัวอย่างมีการเคลื่อนไหว เซลล์มีการเต้น (เหมือนหัวใจเต้น)?"
"คุณต้องอธิบายให้ผมรู้ว่า คุณได้เอาตัวอย่างเนื้อเยื่อหัวใจจากคนที่ตายแล้ว แต่ทำไมจึงกลับมีชีวิตอยู่อีกได้เมื่อนำมาให้ผมที่นิวยอร์ก มันเป็นไปได้อย่างไร?"
ผมตอบว่า "Dr. Zugibe มันไม่เป็นอย่างที่คุณคิด ... นี่เป็นตัวอย่างที่มาจากแผ่นศีลมหาสนิทที่ได้หลั่งโลหิตออกมาครับ"
Dr. Zugibe ถึงกับตกตะลึง เขาตื่นเต้นและกลัวจนขนลุก พวกคุณลองจินตนาการถึงสภาพของเขาขณะที่ผมบอกความจริงให้เขารู้ว่า แผ่นศีลมหาสนิทที่ทำจากข้าวสาลีได้กลายสภาพเป็นโลหิต และได้แข็งตัวแล้วกลายเป็นเนื้อเยื่อหัวใจ.
แต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เขาถามผมว่า "แล้วมันกลับมีชีวิตขึ้นมาอีกได้อย่างไร?"
ผมทำการศึกษาเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 1999 เป็นเวลา 5 ปีมาแล้วที่ผมได้รับตัวอย่างมา ตอนแรกผมนำตัวอย่างไปที่ห้องวิเคราะห์ใน 'บูเอนอสไอเรส' ก่อน ผมได้ดูเอกสารการตรวจวิเคราะห์ครั้งแรกที่ 'บูเอนอสไอเรส' นี้ ซึ่งเขียนว่า "สังเกตเห็นของเหลวคล้ายเซลล์เม็ดเลือดแดง, เซลล์เม็ดเลือดขาว, เฮโมโกลบิน ..." สิ่งที่ทำให้ผมสนใจที่สุดก็คือข้อความที่ว่า "เซลล์เหล่านั้นมีการเคลื่อนไหวและมีการเต้น" อีกหลายวันต่อมา เซลล์เม็ดเลือดเหล่านั้นก็ตายไปภายใน 15 นาที
ดังนั้นผมจึงสนใจมากในหัวข้อเรื่องหัวใจ
ผมได้พบว่าที่เมืองเล็กๆชื่อ 'ลานซีอาโน' อยู่ทางตอนใต้ของอิตาลี พระสงฆ์องค์หนึ่งซึ่งกำลังประกอบพิธีมิสซาอยู่ เกิดสงสัยว่าพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในแผ่นศีลจริงหรือ? ในขณะที่เขาสงสัยอยู่นั้นเอง แผ่นศีลได้หลั่งโลหิตและได้กลายสภาพเป็นชิ้นเนื้อ ถ้าคุณมีโอกาสไปที่ 'ลานซีอาโน' คุณก็จะได้เห็น และผมคิดว่าพวกคุณบางคนคงได้ไปมาแล้ว ส่วนเหล้าองุ่นในจากกาลิกษ์ได้กลายสภาพเป็นก้อนโลหิต 5 ก้อน ดูเหมือนก้อนสำลี ทั้ง 5 ก้อนนี้มีขนาดต่างกัน แต่มีน้ำหนักเท่ากัน นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในศตวรรษที 8 เขายังคงเก็บรักษาศีลมหาสนิทและก้อนโลหิตนั้นจนถึงปัจจุบันนี้ ในสมัยนี้, Dr. Linolli ได้ถูกเขิญให้ไปพิสูจน์ศีลมหาสินทและก้อนโลหิตนั้น Dr. Linolli เป็นผู้เชื่ยวชาญสาขา Biochemistry และ Pathology ท่านได้รายงานว่า "เป็นเนื้อเยื่อจากกล้ามเนื้อหัวใจ" เหมือนตัวอย่างที่ผมได้รับมานั่นเลย
ดังนั้น ตัวอย่างที่ผมมีจาก 'บูเอนอสไอเรส' ในศตวรรษที่ 20 ก็เหมือนกับตัวอย่างที่ 'ลานซีอาโน' และมาจากเจ้าของคนเดียวกัน
คุณล่ะ คิดอย่างไร? คุณเชื่อไหม? ผมกำลังบอกคุณว่าผมเชื่อในอัศจรรย์นี้ ผมสามารถพิสูจน์ได้ไหมว่าพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในศีลมหาสนิทจริง? ผมคงพูดไม่ได้หรอก เท่าที่ผมทำได้คือนำเสนอเรื่องนี้ให้แก่พวกคุณถึงโต๊ะ แล้วนั่นก็ขึ้นกับพวกคุณที่จะตัดสินใจว่าจะเชื่อหรือไม่? และพระเยซูเจ้าทรงมีพระประสงค์จะบอกอะไรแก่เราด้วยเครื่องหมายนี้?
ผมยังได้พบอีกว่า ในศตวรรษที่13 พระสงฆ์องค์หนึ่งในเมือง Orvieto, Italy ก็เกิดความสงสัยในเรื่องการปรากฏอยู่ของพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท ในขณะที่ท่านกำลังทำพิธีมิสซาอยู่ ขณะที่สงสัยนั้นเอง, เสื้อคลุมที่ท่านสวมอยู่ก็เปื้อนซึมจากโลหิตที่หลั่งออกมาจากศีลมหาสนิทที่ท่านถืออยู่ในมือ ด้วยความตกใจท่านวางแผ่นศีลบนพระแท่น โลหิตได้ไหลจากพระแท่นลงมาบนพื้น ถ้าคุณไปที่ Orvieto คุณก็จะได้เห็นรอยโลหิตที่ซึมติดอยู่กับกระเบื้องหินอ่อน เรื่องนี้เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 13
เวลานั้น พระสันตะปาปาอูรบาโนที่ 4 ทรงประทับอยู่ใกล้เมือง Orvieto ทรงได้ทราบข่าวนี้จึงเสด็จไปที่โบสถ์เพื่อทอดพระเนตรสิ่งมหัศจรรย์ พระองค์ทรงขอให้นักบุญโทมัส อควินาส เป็นผู้นิพนธ์บทสวดและบทเพลงสำหรับการเฉลิมฉลองพระกายาพระคริสตเจ้า (Corpus Christi)
ดังนั้นการฉลองพระกายาพระคริสตเจ้าจึงมีจุดเริ่มต้นจากอัศจรรย์แห่งศีลมหาสนิทนี้เอง
http://www.youtube.com/watch?v=qbg_dhI4 ... r_embedded
Here I Am Lord
http://www.youtube.com/watch?v=GINNh15c ... r_embedded#
http://uk.geocities.com/palangjai2004/e ... ntina.html
Miracle of Eucharist in Argentina
พระคาร์ดินัลแห่ง 'บูเอนอสไอเรส' ได้เรียกผมไปพบ
ผมเป็นผู้ที่ศึกษาตรวจสอบเรื่องนี้มาหลายปี และพระคาร์ดินัลก็พึงพอใจในการทำงานของผม ดังนั้น ผมจึงถูกเรียกตัวไป เวลานั้นที่ 'บูเอนอสไอเรส' มีแนวโน้มของการรับศีลมหาสนิทด้วยมือ ครั้งหนึ่ง มีบางคนได้ทำแผ่นศีลหล่นลงพื้น เมื่อศีลเปื้อนฝุ่นพวกเขาก็ไม่หยิบ แต่ได้แจ้งต่อพระสงฆ์ พระสงฆ์จึงหยิบแผ่นศีลนั้นขึ้นมาแล้วนำไปใส่ในถ้วยน้ำเพื่อให้แผ่นศีลละลายเป็นน้ำแป้ง แล้วจึงนำไปรดต้นไม้ต่อไป(เป็นวิธีที่อนุญาตให้ทำได้) แก้วน้ำที่ใส่แผ่นศีลถูกนำไปวางในตู้ศีล หลังจากนั้น 5-6 วัน พระสงฆ์เปิดตู้ศีลดูก็สังเกตว่า แผ่นศีลไม่ได้ละลายแต่กลับมีรอยสีแดงปรากฏอยู่บนแผ่นศีลนั้น และรูปร่างเปลี่ยนไปจากเดิม วันต่อมารอยสีแดงมีขนาดใหญ่ขึ้น พระสงฆ์ได้รายงานเรื่องนี้ไปยังพระคาร์ดินัล และผมก็ถูกเรียกตัวไปพบเพื่อขอให้เอาตัวอย่างชิ้นส่วนแผ่นศีลไปพิสูจน์ว่าเป็นอะไรกันแน่ ผมไปที่นั่นหลายครั้งและได้นำตัวอย่างมา 2 ตัวอย่าง ตัวอย่างชิ้นหนึ่งมีลักษณะเหมือนเจลาติน นี่เป็นตัวอย่างจากแผ่นศีลแผ่นแรก เพราะยังมีแผ่นศีลอีกแผ่นหนึ่งซึ่งก็เป็นแบบเดียวกัน มีแผ่นศีลทั้งหมด 2 แผ่นซึ่งผมต้องทำการตรวจสอบวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ แผ่นศีลอีกอันหนึ่งถูกทำให้แห้งกลายเป็นสะเก็ดแป้ง ผมได้นำตัวอย่างเหล่านี้ไปที่ห้องวิเคราะห์ในอเมริกา ที่แคลิฟฟอร์เนีย โดยไม่ได้บอกเขาว่า ตัวอย่างนี้มาจากแผ่นศีล และพวกเขาได้ทำการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่าง
"ผลลัพธ์ที่ได้เป็นอย่างไรครับ ด็อกเตอร์?" ผมถาม Dr. Frederick Zugibe ท่านเป็นผู้มีชื่อเสียงทางด้านCradiology
"ตัวอย่างที่คุณนำมาให้ผมนั้นคือกล้ามเนื้อหัวใจ จากหัวใจห้องล่างซ้าย" ด็อกเตอร์ตอบ
นั่นเป็นผลลัพธ์ครั้งแรก แต่ยังมีสิ่งอื่นอีกมากที่ถูกค้นพบ
เราทำการศึกษาเรื่องนี้ในปี 1999 แต่ 2-3 เดือนก่อนหน้านี้ Dr. Frederick Zugibe ได้พบวิธีการใหม่ๆในการระบุสาเหตุการตายของคนที่หัวใจได้รับบาดเจ็บ ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ด้านหัวใจและพยาธิวิทยา Dr. Zugibe บอกกับเราว่า "คนที่เป็นเจ้าของตัวอย่างเนื้อเยื่อหัวใจนี้ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส เพราะจากตัวอย่างเนื้อเยื่อแสดงว่า เขาต้องถูกโบยตีอย่างหนักทีเดียว เขาถูกทรมานจนตาย" นายแพทย์ยังไม่รู้ว่าตัวอย่างนี้มาจากแผ่นศีลมหาสนิท
Dr. Zugibe พูดต่อว่า "แต่มีบางอย่างที่คุณต้องอธิบายให้ผมรู้" "เป็นไปได้อย่างไรที่ในขณะที่ผมตรวจสอบตัวอย่างเนื้อเยื่อนี้ ตัวอย่างมีการเคลื่อนไหว เซลล์มีการเต้น (เหมือนหัวใจเต้น)?"
"คุณต้องอธิบายให้ผมรู้ว่า คุณได้เอาตัวอย่างเนื้อเยื่อหัวใจจากคนที่ตายแล้ว แต่ทำไมจึงกลับมีชีวิตอยู่อีกได้เมื่อนำมาให้ผมที่นิวยอร์ก มันเป็นไปได้อย่างไร?"
ผมตอบว่า "Dr. Zugibe มันไม่เป็นอย่างที่คุณคิด ... นี่เป็นตัวอย่างที่มาจากแผ่นศีลมหาสนิทที่ได้หลั่งโลหิตออกมาครับ"
Dr. Zugibe ถึงกับตกตะลึง เขาตื่นเต้นและกลัวจนขนลุก พวกคุณลองจินตนาการถึงสภาพของเขาขณะที่ผมบอกความจริงให้เขารู้ว่า แผ่นศีลมหาสนิทที่ทำจากข้าวสาลีได้กลายสภาพเป็นโลหิต และได้แข็งตัวแล้วกลายเป็นเนื้อเยื่อหัวใจ.
แต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เขาถามผมว่า "แล้วมันกลับมีชีวิตขึ้นมาอีกได้อย่างไร?"
ผมทำการศึกษาเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 1999 เป็นเวลา 5 ปีมาแล้วที่ผมได้รับตัวอย่างมา ตอนแรกผมนำตัวอย่างไปที่ห้องวิเคราะห์ใน 'บูเอนอสไอเรส' ก่อน ผมได้ดูเอกสารการตรวจวิเคราะห์ครั้งแรกที่ 'บูเอนอสไอเรส' นี้ ซึ่งเขียนว่า "สังเกตเห็นของเหลวคล้ายเซลล์เม็ดเลือดแดง, เซลล์เม็ดเลือดขาว, เฮโมโกลบิน ..." สิ่งที่ทำให้ผมสนใจที่สุดก็คือข้อความที่ว่า "เซลล์เหล่านั้นมีการเคลื่อนไหวและมีการเต้น" อีกหลายวันต่อมา เซลล์เม็ดเลือดเหล่านั้นก็ตายไปภายใน 15 นาที
ดังนั้นผมจึงสนใจมากในหัวข้อเรื่องหัวใจ
ผมได้พบว่าที่เมืองเล็กๆชื่อ 'ลานซีอาโน' อยู่ทางตอนใต้ของอิตาลี พระสงฆ์องค์หนึ่งซึ่งกำลังประกอบพิธีมิสซาอยู่ เกิดสงสัยว่าพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในแผ่นศีลจริงหรือ? ในขณะที่เขาสงสัยอยู่นั้นเอง แผ่นศีลได้หลั่งโลหิตและได้กลายสภาพเป็นชิ้นเนื้อ ถ้าคุณมีโอกาสไปที่ 'ลานซีอาโน' คุณก็จะได้เห็น และผมคิดว่าพวกคุณบางคนคงได้ไปมาแล้ว ส่วนเหล้าองุ่นในจากกาลิกษ์ได้กลายสภาพเป็นก้อนโลหิต 5 ก้อน ดูเหมือนก้อนสำลี ทั้ง 5 ก้อนนี้มีขนาดต่างกัน แต่มีน้ำหนักเท่ากัน นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในศตวรรษที 8 เขายังคงเก็บรักษาศีลมหาสนิทและก้อนโลหิตนั้นจนถึงปัจจุบันนี้ ในสมัยนี้, Dr. Linolli ได้ถูกเขิญให้ไปพิสูจน์ศีลมหาสินทและก้อนโลหิตนั้น Dr. Linolli เป็นผู้เชื่ยวชาญสาขา Biochemistry และ Pathology ท่านได้รายงานว่า "เป็นเนื้อเยื่อจากกล้ามเนื้อหัวใจ" เหมือนตัวอย่างที่ผมได้รับมานั่นเลย
ดังนั้น ตัวอย่างที่ผมมีจาก 'บูเอนอสไอเรส' ในศตวรรษที่ 20 ก็เหมือนกับตัวอย่างที่ 'ลานซีอาโน' และมาจากเจ้าของคนเดียวกัน
คุณล่ะ คิดอย่างไร? คุณเชื่อไหม? ผมกำลังบอกคุณว่าผมเชื่อในอัศจรรย์นี้ ผมสามารถพิสูจน์ได้ไหมว่าพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในศีลมหาสนิทจริง? ผมคงพูดไม่ได้หรอก เท่าที่ผมทำได้คือนำเสนอเรื่องนี้ให้แก่พวกคุณถึงโต๊ะ แล้วนั่นก็ขึ้นกับพวกคุณที่จะตัดสินใจว่าจะเชื่อหรือไม่? และพระเยซูเจ้าทรงมีพระประสงค์จะบอกอะไรแก่เราด้วยเครื่องหมายนี้?
ผมยังได้พบอีกว่า ในศตวรรษที่13 พระสงฆ์องค์หนึ่งในเมือง Orvieto, Italy ก็เกิดความสงสัยในเรื่องการปรากฏอยู่ของพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท ในขณะที่ท่านกำลังทำพิธีมิสซาอยู่ ขณะที่สงสัยนั้นเอง, เสื้อคลุมที่ท่านสวมอยู่ก็เปื้อนซึมจากโลหิตที่หลั่งออกมาจากศีลมหาสนิทที่ท่านถืออยู่ในมือ ด้วยความตกใจท่านวางแผ่นศีลบนพระแท่น โลหิตได้ไหลจากพระแท่นลงมาบนพื้น ถ้าคุณไปที่ Orvieto คุณก็จะได้เห็นรอยโลหิตที่ซึมติดอยู่กับกระเบื้องหินอ่อน เรื่องนี้เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 13
เวลานั้น พระสันตะปาปาอูรบาโนที่ 4 ทรงประทับอยู่ใกล้เมือง Orvieto ทรงได้ทราบข่าวนี้จึงเสด็จไปที่โบสถ์เพื่อทอดพระเนตรสิ่งมหัศจรรย์ พระองค์ทรงขอให้นักบุญโทมัส อควินาส เป็นผู้นิพนธ์บทสวดและบทเพลงสำหรับการเฉลิมฉลองพระกายาพระคริสตเจ้า (Corpus Christi)
ดังนั้นการฉลองพระกายาพระคริสตเจ้าจึงมีจุดเริ่มต้นจากอัศจรรย์แห่งศีลมหาสนิทนี้เอง
http://www.youtube.com/watch?v=qbg_dhI4 ... r_embedded
Here I Am Lord
http://www.youtube.com/watch?v=GINNh15c ... r_embedded#
http://uk.geocities.com/palangjai2004/e ... ntina.html
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. ต.ค. 08, 2009 12:42 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 1653
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 10, 2007 9:22 pm
- ที่อยู่: ไม่ใกล้ไม่ใกล้จากวัดอัสสัม-0-
ขนลุกดีแท้- -;
สุดยอด ว่าแต่ทางโปรเตสแตนท์คงไม่สามารถ เป็นแบบนี้ได้น่ะสิเพระเป็นแผ่นปังระลึกนี่
งืม พี่ชายของเราบอกว่า ไปโบสถ์ได้กินไวน์ไหม เราตอบไปว่าเขาไม่ให้คนต่างศาสนากิน เพราะถือว่าเป็นเลือด ของพระเยซูห้ามคนต่างศาสนากิน พี่ก็ตอบว่า เชื่อเหรอ
พูดแล้วแม้แต่คนต่างศาสนาที่ไม่รู้เรื่องก็เผลอไปรับศีลมหาสนิท บางคนติดใจ พวกเหล้าองุ่น กะขนมปังสุด
งืม พี่ชายของเราบอกว่า ไปโบสถ์ได้กินไวน์ไหม เราตอบไปว่าเขาไม่ให้คนต่างศาสนากิน เพราะถือว่าเป็นเลือด ของพระเยซูห้ามคนต่างศาสนากิน พี่ก็ตอบว่า เชื่อเหรอ
พูดแล้วแม้แต่คนต่างศาสนาที่ไม่รู้เรื่องก็เผลอไปรับศีลมหาสนิท บางคนติดใจ พวกเหล้าองุ่น กะขนมปังสุด
ยน 6:51
พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราเป็นปังทรงชีวิตที่ลงมาจากสวรรค์ ใครที่กินปังนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป และปังที่เราจะให้นี้คือเนื้อของเราเพื่อให้โลกมีชีวิต”
ยน 6:54
“ผู้ที่กินเนื้อของเรา และดื่มโลหิตของเรา ก็มีชีวิตนิรันดร เราจะทำให้เขากลับคืนชีพในวันสุดท้าย”
มก 14:22-24
ขณะที่ทุกคนกำลังรับประทานอาหารอยู่นั้น พระองค์ทรงหยิบขนมปัง กล่าวถวายพระพร ทรงบิออก ยื่นให้เขาเหล่านั้น ตรัสว่า ‘จงรับเถิด นี่คือกายของเรา’ แล้วพระองค์ทรงหยิบถ้วย กล่าวขอบพระคุณ ทรงยื่นให้เขาและทุกคนได้ดื่มจากถ้วยนั้น พระองค์ตรัสแก่เขาว่า ‘นี่คือโลหิตของเรา โลหิตแห่งพันธสัญญาที่หลั่งออกเพื่อคนจำนวนมาก
พระองค์ตรัสไว้เป็นความจริงทุกอย่าง
เสริมศรัทธามากคะ
โอ ต้องทิ้งวัดเพื่อมาอ่านโดยตรงเลยเหรอจ๊ะ†Ecclēsia เขียน: อยากให้เพื่อนทิ้งวัดมาอ่านจังเลย...
-
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm
ไม่รู้อ่ะ แต่ถ้าเป็นผม ถึงเป็นแผ่นศีลตกพื้นก็จะกินนนน....
- +L.O.V.E-->>JeSuS+
- โพสต์: 85
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ย. 29, 2008 3:44 pm
- ที่อยู่: SilPaKorN
ดีจัง
รักพระเจ้ามากขึ้นเลยมากๆๆๆๆ
รักพระเจ้ามากขึ้นเลยมากๆๆๆๆ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
น้อยๆหน่อย เจ้าวอ เธอไม่รู้จักโปรฯจริงวอ เขียน: สุดยอด ว่าแต่ทางโปรเตสแตนท์คงไม่สามารถ เป็นแบบนี้ได้น่ะสิเพระเป็นแผ่นปังระลึกนี่
น้องวอคะ โปรเตสแตนท์บางสายก็เชื่อว่ามีพระกายในแผ่นปังและพระโลหิตในเหล้าองุ่นจริง ๆ นะคะวอ เขียน: สุดยอด ว่าแต่ทางโปรเตสแตนท์คงไม่สามารถ เป็นแบบนี้ได้น่ะสิเพระเป็นแผ่นปังระลึกนี่
งืม พี่ชายของเราบอกว่า ไปโบสถ์ได้กินไวน์ไหม เราตอบไปว่าเขาไม่ให้คนต่างศาสนากิน เพราะถือว่าเป็นเลือด ของพระเยซูห้ามคนต่างศาสนากิน พี่ก็ตอบว่า เชื่อเหรอ
พูดแล้วแม้แต่คนต่างศาสนาที่ไม่รู้เรื่องก็เผลอไปรับศีลมหาสนิท บางคนติดใจ พวกเหล้าองุ่น กะขนมปังสุด
พี่เป็นคนหนึ่งที่เชื่อค่ะ
Nura เขียน:น้องวอคะ โปรเตสแตนท์บางสายก็เชื่อว่ามีพระกายในแผ่นปังและพระโลหิตในเหล้าองุ่นจริง ๆ นะคะวอ เขียน: สุดยอด ว่าแต่ทางโปรเตสแตนท์คงไม่สามารถ เป็นแบบนี้ได้น่ะสิเพระเป็นแผ่นปังระลึกนี่
งืม พี่ชายของเราบอกว่า ไปโบสถ์ได้กินไวน์ไหม เราตอบไปว่าเขาไม่ให้คนต่างศาสนากิน เพราะถือว่าเป็นเลือด ของพระเยซูห้ามคนต่างศาสนากิน พี่ก็ตอบว่า เชื่อเหรอ
พูดแล้วแม้แต่คนต่างศาสนาที่ไม่รู้เรื่องก็เผลอไปรับศีลมหาสนิท บางคนติดใจ พวกเหล้าองุ่น กะขนมปังสุด
พี่เป็นคนหนึ่งที่เชื่อค่ะ
เห็นด้วยครับ และก็ไม่เกี่ยวว่า จะเป็นคาทอลิก หรือโปร
เพราะขนาดคุณพ่อพระสงฆ์ ที่เราได้อ่านกันในกระทู้นี้ ท่านยังสงสัยเลยว่า พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ในศีลมหาสนิทจริงๆ หรือ
ผู้ที่เข้าใจในพระวาจา ย่อมเชื่อว่าพระองค์สถิตอยู่ในปังอยู่แล้วครับ
อันนี้ขอเถียงนิดหน่อยครับCho เขียน:Nura เขียน:น้องวอคะ โปรเตสแตนท์บางสายก็เชื่อว่ามีพระกายในแผ่นปังและพระโลหิตในเหล้าองุ่นจริง ๆ นะคะวอ เขียน: สุดยอด ว่าแต่ทางโปรเตสแตนท์คงไม่สามารถ เป็นแบบนี้ได้น่ะสิเพระเป็นแผ่นปังระลึกนี่
งืม พี่ชายของเราบอกว่า ไปโบสถ์ได้กินไวน์ไหม เราตอบไปว่าเขาไม่ให้คนต่างศาสนากิน เพราะถือว่าเป็นเลือด ของพระเยซูห้ามคนต่างศาสนากิน พี่ก็ตอบว่า เชื่อเหรอ
พูดแล้วแม้แต่คนต่างศาสนาที่ไม่รู้เรื่องก็เผลอไปรับศีลมหาสนิท บางคนติดใจ พวกเหล้าองุ่น กะขนมปังสุด
พี่เป็นคนหนึ่งที่เชื่อค่ะ
เห็นด้วยครับ และก็ไม่เกี่ยวว่า จะเป็นคาทอลิก หรือโปร
เพราะขนาดคุณพ่อพระสงฆ์ ที่เราได้อ่านกันในกระทู้นี้ ท่านยังสงสัยเลยว่า พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ในศีลมหาสนิทจริงๆ หรือ
ผู้ที่เข้าใจในพระวาจา ย่อมเชื่อว่าพระองค์สถิตอยู่ในปังอยู่แล้วครับ
เรื่องของ Transubstantiation ไม่ได้มีในทุกนิกายนะครับ
เป็นหนึ่งในสาเหตุว่า ทำไมคาทอลิกอนุญาตให้นิกายอื่นบางนิกายเท่านั้นรับศีลมหาสนิทของคาทอลิก
จริงอยู่ที่การประทับอยู่ของพระเยซูคริสต์ ณ ชุมชนของคริสตชนนั้นเป็นความเชื่อแต่ดั้งเดิมของเรา
แต่ไม่ใช่จะทุกนิกายเชื่อว่า ปังและเ้หล้าองุ่นนั้นจะ "เปลี่ยน" เป็นพระโลหิตและพระกายที่แท้จริงของพระองค์ได้
ขอบคุณครับ ได้ความรู้เพิ่มอีกแล้วEdwardius เขียน:อันนี้ขอเถียงนิดหน่อยครับCho เขียน:Nura เขียน: น้องวอคะ โปรเตสแตนท์บางสายก็เชื่อว่ามีพระกายในแผ่นปังและพระโลหิตในเหล้าองุ่นจริง ๆ นะคะ
พี่เป็นคนหนึ่งที่เชื่อค่ะ
เห็นด้วยครับ และก็ไม่เกี่ยวว่า จะเป็นคาทอลิก หรือโปร
เพราะขนาดคุณพ่อพระสงฆ์ ที่เราได้อ่านกันในกระทู้นี้ ท่านยังสงสัยเลยว่า พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ในศีลมหาสนิทจริงๆ หรือ
ผู้ที่เข้าใจในพระวาจา ย่อมเชื่อว่าพระองค์สถิตอยู่ในปังอยู่แล้วครับ
เรื่องของ Transubstantiation ไม่ได้มีในทุกนิกายนะครับ
เป็นหนึ่งในสาเหตุว่า ทำไมคาทอลิกอนุญาตให้นิกายอื่นบางนิกายเท่านั้นรับศีลมหาสนิทของคาทอลิก
จริงอยู่ที่การประทับอยู่ของพระเยซูคริสต์ ณ ชุมชนของคริสตชนนั้นเป็นความเชื่อแต่ดั้งเดิมของเรา
แต่ไม่ใช่จะทุกนิกายเชื่อว่า ปังและเ้หล้าองุ่นนั้นจะ "เปลี่ยน" เป็นพระโลหิตและพระกายที่แท้จริงของพระองค์ได้
- Deo Gratias
- โพสต์: 1100
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm
เช่นเดียวกันค่ะ เป็นโปรฯ ที่เชื่อว่าขนมปังและเหล้าองุ่นเป็นพระกายในพระโลหิตจริงๆNura เขียน:น้องวอคะ โปรเตสแตนท์บางสายก็เชื่อว่ามีพระกายในแผ่นปังและพระโลหิตในเหล้าองุ่นจริง ๆ นะคะ ::001::วอ เขียน: สุดยอด ว่าแต่ทางโปรเตสแตนท์คงไม่สามารถ เป็นแบบนี้ได้น่ะสิเพระเป็นแผ่นปังระลึกนี่
งืม พี่ชายของเราบอกว่า ไปโบสถ์ได้กินไวน์ไหม เราตอบไปว่าเขาไม่ให้คนต่างศาสนากิน เพราะถือว่าเป็นเลือด ของพระเยซูห้ามคนต่างศาสนากิน พี่ก็ตอบว่า เชื่อเหรอ : emo073 :
พูดแล้วแม้แต่คนต่างศาสนาที่ไม่รู้เรื่องก็เผลอไปรับศีลมหาสนิท บางคนติดใจ พวกเหล้าองุ่น กะขนมปังสุด : xemo016 :
พี่เป็นคนหนึ่งที่เชื่อค่ะ
ว่ากันด้วยทฤษฎีเรื่องศีลมหาสนิทมีอยู่ 3 ทฤษฎี
1. ทฤษฎีแปรสาร (Transubstantiation) คือเชื่อว่าขนมปังและเหล้าองุ่น "เปลี่ยน" เป็นพระกายและพระโลหิตจริงๆ เมื่อผ่านการเสก ถือเป็นอาหารฝ่ายวิญญาณคู่กับพระวจนะ สายที่ยึดถือความเชื่อนี้คือ โรมันคาทอลิก และออโธดอกซ์
2. ทฤษฎีร่วมสาร (Consubstantiation) คือเชื่อขนมปังและเหล้าองุ่นเป็นพระกายและพระโลหิตจริงๆ ในแง่ของการทรงสถิต ดังนั้นการรับขนมปังและเหล้าองุ่นจึงเป็นการรับพระกายและพระโลหิตจริงๆ แต่สสารยังคงสถาพเดิม ถือเป็นอาหารฝ่ายวิญญาณคู่กับพระวจนะ สายที่ยึดถือความเชื่อนี้คือ โปรฯ ลูเธอร์แรน
3. ทฤษฎีระลึกถึง (จำภาษาอังกฤษไม่ได้) เชื่อว่าพิธีมหาสนิทคือการระลึกถึงการวายพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ เป็นคนละเรื่องกันกับอาหารฝ่ายวิญญาณ สายที่ยึดถือความเชื่อนี้คือ โปรฯ ส่วนใหญ่
ความเห็นส่วนตัวคิดว่า
ทฤษฎีเกิดจากการตีความที่แตกต่างกันของมนุษย์ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะถูกต้องทุกทฤษฎี ความจริงจากพระเจ้าจะต้องมีอย่างเดียว และเหมือนกันในทุกคณะนิกาย เพราะเป็นพระเจ้าองค์เดียวกันที่ทรงสำแดง แต่ที่ต่างกันคือความเชื่อของมนุษย์ในแต่ละกลุ่มแต่ละที่ที่ไม่เหมือนกัน จึงทำให้เห็นไม่เหมือนกันในสิ่งที่พระเจ้าสำแดงเหมือนกัน
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ ศุกร์ ต.ค. 09, 2009 9:20 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
บางนิกาย นี่ หมายถึง ชาว orthodox ใช่ใหม ค่ะEdwardius เขียน:อันนี้ขอเถียงนิดหน่อยครับCho เขียน:Nura เขียน: น้องวอคะ โปรเตสแตนท์บางสายก็เชื่อว่ามีพระกายในแผ่นปังและพระโลหิตในเหล้าองุ่นจริง ๆ นะคะ
พี่เป็นคนหนึ่งที่เชื่อค่ะ
เห็นด้วยครับ และก็ไม่เกี่ยวว่า จะเป็นคาทอลิก หรือโปร
เพราะขนาดคุณพ่อพระสงฆ์ ที่เราได้อ่านกันในกระทู้นี้ ท่านยังสงสัยเลยว่า พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ในศีลมหาสนิทจริงๆ หรือ
ผู้ที่เข้าใจในพระวาจา ย่อมเชื่อว่าพระองค์สถิตอยู่ในปังอยู่แล้วครับ
เรื่องของ Transubstantiation ไม่ได้มีในทุกนิกายนะครับ
เป็นหนึ่งในสาเหตุว่า ทำไมคาทอลิกอนุญาตให้นิกายอื่นบางนิกายเท่านั้นรับศีลมหาสนิทของคาทอลิก
จริงอยู่ที่การประทับอยู่ของพระเยซูคริสต์ ณ ชุมชนของคริสตชนนั้นเป็นความเชื่อแต่ดั้งเดิมของเรา
แต่ไม่ใช่จะทุกนิกายเชื่อว่า ปังและเ้หล้าองุ่นนั้นจะ "เปลี่ยน" เป็นพระโลหิตและพระกายที่แท้จริงของพระองค์ได้
คุณ Deo Gratias ตอบข้างบนแล้วครับjacky เขียน:บางนิกาย นี่ หมายถึง ชาว orthodox ใช่ใหม ค่ะEdwardius เขียน:อันนี้ขอเถียงนิดหน่อยครับCho เขียน:
เห็นด้วยครับ และก็ไม่เกี่ยวว่า จะเป็นคาทอลิก หรือโปร
เพราะขนาดคุณพ่อพระสงฆ์ ที่เราได้อ่านกันในกระทู้นี้ ท่านยังสงสัยเลยว่า พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ในศีลมหาสนิทจริงๆ หรือ
ผู้ที่เข้าใจในพระวาจา ย่อมเชื่อว่าพระองค์สถิตอยู่ในปังอยู่แล้วครับ
เรื่องของ Transubstantiation ไม่ได้มีในทุกนิกายนะครับ
เป็นหนึ่งในสาเหตุว่า ทำไมคาทอลิกอนุญาตให้นิกายอื่นบางนิกายเท่านั้นรับศีลมหาสนิทของคาทอลิก
จริงอยู่ที่การประทับอยู่ของพระเยซูคริสต์ ณ ชุมชนของคริสตชนนั้นเป็นความเชื่อแต่ดั้งเดิมของเรา
แต่ไม่ใช่จะทุกนิกายเชื่อว่า ปังและเ้หล้าองุ่นนั้นจะ "เปลี่ยน" เป็นพระโลหิตและพระกายที่แท้จริงของพระองค์ได้
ขอบคุณ คุณ Deo Gratias มา ณ ที่นี้ครับ