คิดว่า "ปีศาจ" หน้าตาเป็นยังไงครับ??
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
ก็พอรู้ๆอยู่แล้วว่า "ทูตสวรรค์" กับ "ปีศาจ" :evil: มันเป็นจิต แต่พอลองมองย้อนดูดีๆ พวกนี้มีฤทธิ์อำนาจที่จะสร้างรูปลักษณ์ในมิติโลกมนุษย์ใช่มั้ยครับ(สังเกตที่จากที่ในประวัติศาสตร์โผล่หัวออกมากันให้สลอน)อืม.....ดูๆแล้วพวกทูตสวรรค์เป็นเผ่าพันธุ์ที่เจ๋งดีแฮะ
เลยชวนให้นึกว่า "รูปแท้ๆของปีศาจ" มันหน้าตาเป็นยังไง ตัวดำขนดกเขางอกรึเปล่า(คลาสสิก) หรือว่าผิวซีดหัวล้านสวมผ้าคลุมดำ(Passion) หรือจะหน้าหล่อมาดเข้มสวมเเจ๊คเก็ตหนัง?(หาชมได้ตามภาพยนตร์ทั่วไป ปีศาจจำแลงเผลอๆหล่อกว่าพระเอกอีก)
คงไม่เกี่ยวกับความรอดของเราเท่าไหร่ แค่เป็นกระทู้ถามความเห็นน่ะครับ ใครมีก็ช่วยแบ่งปันหน่อยละกัน หรือใครเคยเจอกับตัวได้ยิ่งดี
เลยชวนให้นึกว่า "รูปแท้ๆของปีศาจ" มันหน้าตาเป็นยังไง ตัวดำขนดกเขางอกรึเปล่า(คลาสสิก) หรือว่าผิวซีดหัวล้านสวมผ้าคลุมดำ(Passion) หรือจะหน้าหล่อมาดเข้มสวมเเจ๊คเก็ตหนัง?(หาชมได้ตามภาพยนตร์ทั่วไป ปีศาจจำแลงเผลอๆหล่อกว่าพระเอกอีก)
คงไม่เกี่ยวกับความรอดของเราเท่าไหร่ แค่เป็นกระทู้ถามความเห็นน่ะครับ ใครมีก็ช่วยแบ่งปันหน่อยละกัน หรือใครเคยเจอกับตัวได้ยิ่งดี
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ไม่เคยเห็น แล้วก็ไม่อยากเห็นด้วยครับ
ลอก คำตอบนะครับ แหะ แหะBatholomew เขียน: ไม่เคยเห็น แล้วก็ไม่อยากเห็นด้วยครับ
- BloodyCross
- โพสต์: 413
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มิ.ย. 10, 2008 9:49 pm
- ที่อยู่: หน้าจอคอม
ComboKuRapiKa เขียน:ลอก คำตอบนะครับ แหะ แหะBatholomew เขียน: ไม่เคยเห็น แล้วก็ไม่อยากเห็นด้วยครับ
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
แหม ก็อยากลอกคำตอบชาวบ้านเขาเหมือนกันนะ แต่สงสารเจ้าของกระทู้ หุหุ
ประสบการณ์ของตัวเองไม่มี งั้นเอาประสบการณ์ของคนอื่นแล้วกันนะคะ
ขอคัดข้อความตอนที่ นักบุญเยมมา กัลกานี (St.Gemma Galgani) กำลังจะเสียชีวิต มาให้อ่านนะคะ
Meanwhile she went through a spiritual martyrdom as she experienced aridity and no consolation in her spiritual exercises. To add to that her enemy the devil multiplied his attacks on the young Virgin of Lucca.
Satan redoubled his war on Gemma as he knew the end was near. He strove to persuade her that she was entirely abandoned by God. He used hellish apparitions and even rained physical blows on her fragile body.
An eyewitness who was nursing Gemma said:
ประสบการณ์ของตัวเองไม่มี งั้นเอาประสบการณ์ของคนอื่นแล้วกันนะคะ
ขอคัดข้อความตอนที่ นักบุญเยมมา กัลกานี (St.Gemma Galgani) กำลังจะเสียชีวิต มาให้อ่านนะคะ
Meanwhile she went through a spiritual martyrdom as she experienced aridity and no consolation in her spiritual exercises. To add to that her enemy the devil multiplied his attacks on the young Virgin of Lucca.
Satan redoubled his war on Gemma as he knew the end was near. He strove to persuade her that she was entirely abandoned by God. He used hellish apparitions and even rained physical blows on her fragile body.
An eyewitness who was nursing Gemma said:
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
ส่องกระจกดูสิ 555+
คิดว่าคงสวยงามราวกับทูตสวรรค์ ไม่งั้นคงไม่มีใครโดนหลอกหลงผิดไปหรอก
คิดว่าคงสวยงามราวกับทูตสวรรค์ ไม่งั้นคงไม่มีใครโดนหลอกหลงผิดไปหรอก
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
ล่อไป 8 เรปกว่าจะมีที่พอฟังเข้าเค้าบ้างพระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ เขียน: ส่องกระจกดูสิ 555+
คิดว่าคงสวยงามราวกับทูตสวรรค์ ไม่งั้นคงไม่มีใครโดนหลอกหลงผิดไปหรอก
แต่ก็จริง ถ้ามันอัปลักษณ์คนคงไม่โดนหลอก(ง่ายๆ)แบบนี้
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
เทพบุตรลูซิเฟอร์ หรืออีกในหนึ่ง"ซาตาน"
ถ้าเอ่ยถึง "ซาตาน" ทุกคนย่อมนึกถึงเจ้าแห่งความชั่วร้ายผู้น่าชิงชังและดูเหมือนจะเป็นศัตรูกับมวลมนุษย์ รวมทั้งความดีงามทั้งปวง แต่จะมีใครรู้บ้างว่า ในอดีต "ซาตาน" หรือ เซตั้น ผู้นี้เคยเป็นเทพบุตรอยู่บนสรวงสวรรค์
ความเป็นมา
เดิมนั้นซาตานหาใช่หัวหน้าปีศาจหรือเจ้าแห่งอสูรกาย อย่าง ในปัจจุบัน แต่คือเทพบุตร ลูซิเฟอร์ เทพบุตรรูปนี้มีรูปร่าง หน้าตางดงามที่สุดในบรรดาทูตสวรรค์ทั้งปวง อีกทั้งยังมี แสงสุกใสเรืองรองออกมาจากร่างจนได้ชื่อว่าเป็น โอรสแห่ง รุ่งอรุณ และเป็นที่โปรดปรานของพระผู้เป็นเจ้ายิ่งนัก แต่ดูเหมือนว่า ลูซิเฟอร์ จะเป็นเทพประเภทรูปหล่อ เอาแต่ใจ เพราะอยู่มาวันหนึ่ง เมื่อพระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างโลกและมนุษย์ขึ้น ลูซิเฟอร์เห็นว่ามนุษย์ที่ส้รางขึ้นมานั้น พระผู้เป็นเจ้าเลียบแบบ หน้าตาจทูติสวรรค์ จึงเกิดความไม่พอใจ กล่าวว่า
" เมื่อพระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมาให้เหมือนกันพวกหม่อมฉันได้ หม่อมฉันนี่แหละจะเป็นผู้ทำลายมันให้ย่อยยับไปกับมือ "
-พระผู้เป็นเจ้าได้เห็นธาตุแท้ของเทพบุตรผู้เคยโปรดปราน จึงบันดาลโทสะ " อุเหม่.. คิดจะหล่ออยู่ คนดียวหรือไงยะ" ว่าแล้วก็ขับไล่ลูซิเฟอร์ไปจากสวรรค์ ไปออยู่ในนรก
เปลี่ยนจากเทพบุตรเป็นซาตาน
- เมื่อเทพบุตรถูกขับลงมาอยู่ในนรกจึงเกิดความคลั่งแค้น ตั้งตนเป็นหัวหน้าปีศาจ อสูรกาย เปลี่ยนฐานะจาก "โอรสแห่งรุ่งอรุณ " เป็น " เจ้าชายแห่งความมืดและความชั่วร้าย" นำกองทัพปีศาจบุกไปยังสวรรค์อาละวาด ต่อสู้กับเหล่าเทพบนสวรรค์
- ผลสรุปท่านเองคงจะพอเดาได้ ระหว่างทั้งสองฝ่าย ผู้เขียนคงไม่อยากโดนรุม ถ้าจะให้ฝ่ายปีศาจชนะฝ่ายธรรมะ ดังนั้นกองทัพปีศาจเลยแพ้ไป
- แต่ความซ่า ของท่านซาตานก็ยังไม่ลดน้อยลงไป ในพระคัมภีร์นี่แหละ ก็จะทราบว่าท่านซาตานนี่เองที่ปลอมเป็นงู หลอกให้อดัม กับ อีฟ กินแอ๊ปเปิ้ลในสวนอีเดนของพระผู้เป็นเจ้า และยังครอบงำจิตใจของมนุษย์ ให้มีโทสะจริต หากใครหลงใหลไปกับ โลภ โกรธหลง ก็จะตกอยู่ภายใต้อำนาจของ ซาตาน
รูปลักษณ์ของซาตาน
- สมัยเป็นเทพอยู่บนสวรรค์ ได้ชื่อว่าเป็นเทพบุตรที่มีรูปร่างหน้าตางดงาม จนได้ฉายาว่า "โอรสแห่งรุ่งอรุณ" แต่เมื่อถุกขับไล่ออกมายังนรก ก็มีรูปร่างต่างไปราวฟ้ากับดิน คือ กลายเป็นจอมอสูรกายที่มีปีก เจ้าเล่ห์น่าเกลียด น่ากลัว สุดแท้แต่จิตกรจะวาดให้มันน่ากลัวเพียงไหน แถมบนหัวยังมีเขางอกออกมา ข้างหนึ่งบ้างสองข้างบ้าง ส่วนขา็มีลักษณะคล้ายกับขาของแพะ ปีกทั้งสองข้างดูเหมือนกันค้างคาว หรือค้างคาวผี มีหางงอกออกมายาวเฟื้อย ปลายหางนั้นหยักออกมาเป็นลูกศรแหลมอีกต่างหาก
- สัญลักษณ์ที่ลัทธิบูชาซาตานนับถือกันคือ ไม้กางเขนกลับหัว
อิทฤทธิ์ของซาตาน
- อาวุธของซาตานคือ สามง่ามแบบมีด้ามถือทำจากเหล้กแหลม ใช้ได้สารพัดประโยชน์แล้วแต่ผู้แต่งจะจินตนาการ ให้ปล่อยแสงหรือทิ่มแทงรบรากับคู่ต่อสู้ได้ทั้งนั้น และมีตพแหน่งเป็นหัวหน้าอสูรกาย นำกำลังบุกขึ้นสวรรค์ ไปอาละวาดต่อสู้กับเทพเจ้าบนสวรรค์ นอกจากนั้นยังแปลงกายได้สารพัด หายตัวล่องหน รวมทั้ง เหาะเหิน เดินอากาศ
วิธีป้องกันและจัดการกับซาตาน
- ซาตานเป็นถึงเจ้าแห่งอสูรกาย คนธรรมดาคงไม่สามารถต่อกรกับมันได้ ต้องยกให้เป็นหน้าที่ของเหล่าเทพบน สวรรค แต่สำหรับวิธีป้องกันนั้นไม่ยาก เพราะซาตานจะครอบงำได้เฉพาะผู้ที่อยู่ใน รัก โลภ โกรธ หลง เท่านั้น เมื่อใดที่ท่านอยู่ในอารมณ์ที่ชั่วร้าย ซาตานก็จะมาสิงทำให้ทำอะไรผิดทำนองครองธรรม
- และเนื่องจาก ซาตาน สามารถแปลงกายได้สารพัด เวลานี้อาจจะมาอยู่ใกล้ๆท่านก็ได้ ลองดูตนเองในกระจกเงา เวลาที่อารมณ์เสีย มีจิตใจอาฆาตร พยาบาทแล้สท่านจะได้พบกับตัวจริงของซาตาน
ที่มา http://www.arunsawat.com/board/index.ph ... 7.msg26792
ถ้าเอ่ยถึง "ซาตาน" ทุกคนย่อมนึกถึงเจ้าแห่งความชั่วร้ายผู้น่าชิงชังและดูเหมือนจะเป็นศัตรูกับมวลมนุษย์ รวมทั้งความดีงามทั้งปวง แต่จะมีใครรู้บ้างว่า ในอดีต "ซาตาน" หรือ เซตั้น ผู้นี้เคยเป็นเทพบุตรอยู่บนสรวงสวรรค์
ความเป็นมา
เดิมนั้นซาตานหาใช่หัวหน้าปีศาจหรือเจ้าแห่งอสูรกาย อย่าง ในปัจจุบัน แต่คือเทพบุตร ลูซิเฟอร์ เทพบุตรรูปนี้มีรูปร่าง หน้าตางดงามที่สุดในบรรดาทูตสวรรค์ทั้งปวง อีกทั้งยังมี แสงสุกใสเรืองรองออกมาจากร่างจนได้ชื่อว่าเป็น โอรสแห่ง รุ่งอรุณ และเป็นที่โปรดปรานของพระผู้เป็นเจ้ายิ่งนัก แต่ดูเหมือนว่า ลูซิเฟอร์ จะเป็นเทพประเภทรูปหล่อ เอาแต่ใจ เพราะอยู่มาวันหนึ่ง เมื่อพระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างโลกและมนุษย์ขึ้น ลูซิเฟอร์เห็นว่ามนุษย์ที่ส้รางขึ้นมานั้น พระผู้เป็นเจ้าเลียบแบบ หน้าตาจทูติสวรรค์ จึงเกิดความไม่พอใจ กล่าวว่า
" เมื่อพระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมาให้เหมือนกันพวกหม่อมฉันได้ หม่อมฉันนี่แหละจะเป็นผู้ทำลายมันให้ย่อยยับไปกับมือ "
-พระผู้เป็นเจ้าได้เห็นธาตุแท้ของเทพบุตรผู้เคยโปรดปราน จึงบันดาลโทสะ " อุเหม่.. คิดจะหล่ออยู่ คนดียวหรือไงยะ" ว่าแล้วก็ขับไล่ลูซิเฟอร์ไปจากสวรรค์ ไปออยู่ในนรก
เปลี่ยนจากเทพบุตรเป็นซาตาน
- เมื่อเทพบุตรถูกขับลงมาอยู่ในนรกจึงเกิดความคลั่งแค้น ตั้งตนเป็นหัวหน้าปีศาจ อสูรกาย เปลี่ยนฐานะจาก "โอรสแห่งรุ่งอรุณ " เป็น " เจ้าชายแห่งความมืดและความชั่วร้าย" นำกองทัพปีศาจบุกไปยังสวรรค์อาละวาด ต่อสู้กับเหล่าเทพบนสวรรค์
- ผลสรุปท่านเองคงจะพอเดาได้ ระหว่างทั้งสองฝ่าย ผู้เขียนคงไม่อยากโดนรุม ถ้าจะให้ฝ่ายปีศาจชนะฝ่ายธรรมะ ดังนั้นกองทัพปีศาจเลยแพ้ไป
- แต่ความซ่า ของท่านซาตานก็ยังไม่ลดน้อยลงไป ในพระคัมภีร์นี่แหละ ก็จะทราบว่าท่านซาตานนี่เองที่ปลอมเป็นงู หลอกให้อดัม กับ อีฟ กินแอ๊ปเปิ้ลในสวนอีเดนของพระผู้เป็นเจ้า และยังครอบงำจิตใจของมนุษย์ ให้มีโทสะจริต หากใครหลงใหลไปกับ โลภ โกรธหลง ก็จะตกอยู่ภายใต้อำนาจของ ซาตาน
รูปลักษณ์ของซาตาน
- สมัยเป็นเทพอยู่บนสวรรค์ ได้ชื่อว่าเป็นเทพบุตรที่มีรูปร่างหน้าตางดงาม จนได้ฉายาว่า "โอรสแห่งรุ่งอรุณ" แต่เมื่อถุกขับไล่ออกมายังนรก ก็มีรูปร่างต่างไปราวฟ้ากับดิน คือ กลายเป็นจอมอสูรกายที่มีปีก เจ้าเล่ห์น่าเกลียด น่ากลัว สุดแท้แต่จิตกรจะวาดให้มันน่ากลัวเพียงไหน แถมบนหัวยังมีเขางอกออกมา ข้างหนึ่งบ้างสองข้างบ้าง ส่วนขา็มีลักษณะคล้ายกับขาของแพะ ปีกทั้งสองข้างดูเหมือนกันค้างคาว หรือค้างคาวผี มีหางงอกออกมายาวเฟื้อย ปลายหางนั้นหยักออกมาเป็นลูกศรแหลมอีกต่างหาก
- สัญลักษณ์ที่ลัทธิบูชาซาตานนับถือกันคือ ไม้กางเขนกลับหัว
อิทฤทธิ์ของซาตาน
- อาวุธของซาตานคือ สามง่ามแบบมีด้ามถือทำจากเหล้กแหลม ใช้ได้สารพัดประโยชน์แล้วแต่ผู้แต่งจะจินตนาการ ให้ปล่อยแสงหรือทิ่มแทงรบรากับคู่ต่อสู้ได้ทั้งนั้น และมีตพแหน่งเป็นหัวหน้าอสูรกาย นำกำลังบุกขึ้นสวรรค์ ไปอาละวาดต่อสู้กับเทพเจ้าบนสวรรค์ นอกจากนั้นยังแปลงกายได้สารพัด หายตัวล่องหน รวมทั้ง เหาะเหิน เดินอากาศ
วิธีป้องกันและจัดการกับซาตาน
- ซาตานเป็นถึงเจ้าแห่งอสูรกาย คนธรรมดาคงไม่สามารถต่อกรกับมันได้ ต้องยกให้เป็นหน้าที่ของเหล่าเทพบน สวรรค แต่สำหรับวิธีป้องกันนั้นไม่ยาก เพราะซาตานจะครอบงำได้เฉพาะผู้ที่อยู่ใน รัก โลภ โกรธ หลง เท่านั้น เมื่อใดที่ท่านอยู่ในอารมณ์ที่ชั่วร้าย ซาตานก็จะมาสิงทำให้ทำอะไรผิดทำนองครองธรรม
- และเนื่องจาก ซาตาน สามารถแปลงกายได้สารพัด เวลานี้อาจจะมาอยู่ใกล้ๆท่านก็ได้ ลองดูตนเองในกระจกเงา เวลาที่อารมณ์เสีย มีจิตใจอาฆาตร พยาบาทแล้สท่านจะได้พบกับตัวจริงของซาตาน
ที่มา http://www.arunsawat.com/board/index.ph ... 7.msg26792
ขอบคุณท่านพี่มากครับBatholomew เขียน: เทพบุตรลูซิเฟอร์ หรืออีกในหนึ่ง"ซาตาน"
ถ้าเอ่ยถึง "ซาตาน" ทุกคนย่อมนึกถึงเจ้าแห่งความชั่วร้ายผู้น่าชิงชังและดูเหมือนจะเป็นศัตรูกับมวลมนุษย์ รวมทั้งความดีงามทั้งปวง แต่จะมีใครรู้บ้างว่า ในอดีต "ซาตาน" หรือ เซตั้น ผู้นี้เคยเป็นเทพบุตรอยู่บนสรวงสวรรค์
ความเป็นมา
เดิมนั้นซาตานหาใช่หัวหน้าปีศาจหรือเจ้าแห่งอสูรกาย อย่าง ในปัจจุบัน แต่คือเทพบุตร ลูซิเฟอร์ เทพบุตรรูปนี้มีรูปร่าง หน้าตางดงามที่สุดในบรรดาทูตสวรรค์ทั้งปวง อีกทั้งยังมี แสงสุกใสเรืองรองออกมาจากร่างจนได้ชื่อว่าเป็น โอรสแห่ง รุ่งอรุณ และเป็นที่โปรดปรานของพระผู้เป็นเจ้ายิ่งนัก แต่ดูเหมือนว่า ลูซิเฟอร์ จะเป็นเทพประเภทรูปหล่อ เอาแต่ใจ เพราะอยู่มาวันหนึ่ง เมื่อพระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างโลกและมนุษย์ขึ้น ลูซิเฟอร์เห็นว่ามนุษย์ที่ส้รางขึ้นมานั้น พระผู้เป็นเจ้าเลียบแบบ หน้าตาจทูติสวรรค์ จึงเกิดความไม่พอใจ กล่าวว่า
" เมื่อพระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมาให้เหมือนกันพวกหม่อมฉันได้ หม่อมฉันนี่แหละจะเป็นผู้ทำลายมันให้ย่อยยับไปกับมือ "
-พระผู้เป็นเจ้าได้เห็นธาตุแท้ของเทพบุตรผู้เคยโปรดปราน จึงบันดาลโทสะ " อุเหม่.. คิดจะหล่ออยู่ คนดียวหรือไงยะ" ว่าแล้วก็ขับไล่ลูซิเฟอร์ไปจากสวรรค์ ไปออยู่ในนรก
เปลี่ยนจากเทพบุตรเป็นซาตาน
- เมื่อเทพบุตรถูกขับลงมาอยู่ในนรกจึงเกิดความคลั่งแค้น ตั้งตนเป็นหัวหน้าปีศาจ อสูรกาย เปลี่ยนฐานะจาก "โอรสแห่งรุ่งอรุณ " เป็น " เจ้าชายแห่งความมืดและความชั่วร้าย" นำกองทัพปีศาจบุกไปยังสวรรค์อาละวาด ต่อสู้กับเหล่าเทพบนสวรรค์
- ผลสรุปท่านเองคงจะพอเดาได้ ระหว่างทั้งสองฝ่าย ผู้เขียนคงไม่อยากโดนรุม ถ้าจะให้ฝ่ายปีศาจชนะฝ่ายธรรมะ ดังนั้นกองทัพปีศาจเลยแพ้ไป
- แต่ความซ่า ของท่านซาตานก็ยังไม่ลดน้อยลงไป ในพระคัมภีร์นี่แหละ ก็จะทราบว่าท่านซาตานนี่เองที่ปลอมเป็นงู หลอกให้อดัม กับ อีฟ กินแอ๊ปเปิ้ลในสวนอีเดนของพระผู้เป็นเจ้า และยังครอบงำจิตใจของมนุษย์ ให้มีโทสะจริต หากใครหลงใหลไปกับ โลภ โกรธหลง ก็จะตกอยู่ภายใต้อำนาจของ ซาตาน
รูปลักษณ์ของซาตาน
- สมัยเป็นเทพอยู่บนสวรรค์ ได้ชื่อว่าเป็นเทพบุตรที่มีรูปร่างหน้าตางดงาม จนได้ฉายาว่า "โอรสแห่งรุ่งอรุณ" แต่เมื่อถุกขับไล่ออกมายังนรก ก็มีรูปร่างต่างไปราวฟ้ากับดิน คือ กลายเป็นจอมอสูรกายที่มีปีก เจ้าเล่ห์น่าเกลียด น่ากลัว สุดแท้แต่จิตกรจะวาดให้มันน่ากลัวเพียงไหน แถมบนหัวยังมีเขางอกออกมา ข้างหนึ่งบ้างสองข้างบ้าง ส่วนขา็มีลักษณะคล้ายกับขาของแพะ ปีกทั้งสองข้างดูเหมือนกันค้างคาว หรือค้างคาวผี มีหางงอกออกมายาวเฟื้อย ปลายหางนั้นหยักออกมาเป็นลูกศรแหลมอีกต่างหาก
- สัญลักษณ์ที่ลัทธิบูชาซาตานนับถือกันคือ ไม้กางเขนกลับหัว
อิทฤทธิ์ของซาตาน
- อาวุธของซาตานคือ สามง่ามแบบมีด้ามถือทำจากเหล้กแหลม ใช้ได้สารพัดประโยชน์แล้วแต่ผู้แต่งจะจินตนาการ ให้ปล่อยแสงหรือทิ่มแทงรบรากับคู่ต่อสู้ได้ทั้งนั้น และมีตพแหน่งเป็นหัวหน้าอสูรกาย นำกำลังบุกขึ้นสวรรค์ ไปอาละวาดต่อสู้กับเทพเจ้าบนสวรรค์ นอกจากนั้นยังแปลงกายได้สารพัด หายตัวล่องหน รวมทั้ง เหาะเหิน เดินอากาศ
วิธีป้องกันและจัดการกับซาตาน
- ซาตานเป็นถึงเจ้าแห่งอสูรกาย คนธรรมดาคงไม่สามารถต่อกรกับมันได้ ต้องยกให้เป็นหน้าที่ของเหล่าเทพบน สวรรค แต่สำหรับวิธีป้องกันนั้นไม่ยาก เพราะซาตานจะครอบงำได้เฉพาะผู้ที่อยู่ใน รัก โลภ โกรธ หลง เท่านั้น เมื่อใดที่ท่านอยู่ในอารมณ์ที่ชั่วร้าย ซาตานก็จะมาสิงทำให้ทำอะไรผิดทำนองครองธรรม
- และเนื่องจาก ซาตาน สามารถแปลงกายได้สารพัด เวลานี้อาจจะมาอยู่ใกล้ๆท่านก็ได้ ลองดูตนเองในกระจกเงา เวลาที่อารมณ์เสีย มีจิตใจอาฆาตร พยาบาทแล้สท่านจะได้พบกับตัวจริงของซาตาน
ที่มา http://www.arunsawat.com/board/index.ph ... 7.msg26792
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
Batholomew เขียน: เทพบุตรลูซิเฟอร์ หรืออีกในหนึ่ง"ซาตาน"
-พระผู้เป็นเจ้าได้เห็นธาตุแท้ของเทพบุตรผู้เคยโปรดปราน จึงบันดาลโทสะ " อุเหม่.. คิดจะหล่ออยู่ คนดียวหรือไงยะ" ว่าแล้วก็ขับไล่ลูซิเฟอร์ไปจากสวรรค์ ไปออยู่ในนรก
พระองค์พูดงั้นจริงง่ะ?! รั่วมากเลยพระเจ้าข้า
ว่างๆจะลองส่องกระจกดูตัวเองตอนโกรธละกัน เผื่อจะเห็น(และกลับใจได้ทัน)
มุขตลกนิดหน่อย หุหุIn the name of father เขียน:Batholomew เขียน: เทพบุตรลูซิเฟอร์ หรืออีกในหนึ่ง"ซาตาน"
-พระผู้เป็นเจ้าได้เห็นธาตุแท้ของเทพบุตรผู้เคยโปรดปราน จึงบันดาลโทสะ " อุเหม่.. คิดจะหล่ออยู่ คนดียวหรือไงยะ" ว่าแล้วก็ขับไล่ลูซิเฟอร์ไปจากสวรรค์ ไปออยู่ในนรก
พระองค์พูดงั้นจริงง่ะ?! รั่วมากเลยพระเจ้าข้า
ว่างๆจะลองส่องกระจกดูตัวเองตอนโกรธละกัน เผื่อจะเห็น(และกลับใจได้ทัน)
... แต่ก็ต้องระวัง และชี้แจงกำกับด้วยนะครับว่าเป็นมุข เดี๋ยวคนอื่นเข้าใจผิด
-
- โพสต์: 1042
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 22, 2008 11:37 am
- ที่อยู่: Ether23@hotmail.com
ผมนี่ละ ปะปะปีศาจ เเห่ๆ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
รู้แล้ว บอกทำไมNear to Christmas_ Win เขียน: ผมนี่ละ ปะปะปีศาจ เเห่ๆ
- thanachard
- โพสต์: 134
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 30, 2007 3:00 pm
- ที่อยู่: ฺBangkok, Thailand
กำลังคิดอยู่ว่าปีศาจอาจจะหน้าตาเหมือนคนธรรมดาก็ได้นะ เดาเอานะ
- Jack Sparrow
- โพสต์: 353
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am
น่าจะเหมือนกับที่เขาวาดให้ดูนะ มีเขา มีหาง มีปีกเป็นค้างคาว อย่างเทวดายังมีปีกเป็นนกได้เลย แล้วพิภพมัจจุราชของไทยยังมีเขาเลยแสดงว่าจำมาจากซาตาน
พี่เคยดูรายการ จ้อจี้ ไม่รู้ใครเคยดูตอนนี้มั่งนานแล้ว ก็มีรายก๋วยเตี๋ยวร้านหนึ่ง ขายไม่ค่อยจะดีเลย และแล้วก็มีชายชราคนหนึ่งมาขอกินก๋วยเตี๋ยวฟรี บอกว่าไม่มีเงิยเจ้าของร้านก็เลยให้กินฟรี และแล้ววันต่อมาชายชราผู้นี้ก็มานั่งกินฟรีอีก มาอย่างนี้อยู่หนึ่งเดือน เจ้าของร้านก็ขายไม่ดีแต่ก็ไม่เคยเลยที่จะไม่ยอมให้ชายชราผู้นี้กิน จนกระทั่งวันหนึ่งเจ้าของร้านมานั่งคุยกับลุง บอกว่าลุงครับวันนี้คงเป็นวันสุดท้ายแล้วแหละที่ลุงจะมากินก๋วยเตี๋ยวร้านผมเพราะพรุ่งนี้ผมจะเลิกกิจการ ผมขาดทุน วันๆหนึ่งแทบจะไม่มีลูกค้าเลย แล้วที่พี่จำได้ลุงคนนั้นบอกว่าไม่ต้องปิดไปไหนหรอกพรุ่งนี้จะขายดี และแล้วคำของลุงคนนั้นก็เป็นจริงวันรุ่งขึ้นเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวที่คิดจะปิดร้านกับต้องตกใจเพราะว่ามีลูกค้ามากินมากมายแล้วก็ขายดีมากตลอกนับตั้งแต่วันที่ลุงชราคนนั้นบอก และนับตั้งแต่วันนั้นลุกชราก็ไม่เคยมากินที่ร้านก๋วยเตียวร้านนั้นอีกเลย หลายคนอาจตอบว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแต่งขี้น แต่ผลทีี่ออกมาคือเรื่องนี้ "เป็นเรื่องจริงครับ"
ทำให้พี่นึกถึงคำในพระคัมภีร์ที่บอกว่า "อย่าละเลยที่จะต้อนรับแขกแปลกหน้า เพราะว่าโดยการกระทำเช่นนั้น บางคนก็ได้ต้อนรับทูตสวรรค์โดยไม่รู้ตัว" (ฮีบรู 13:1- 2)
แล้วในพระคัมภีร์หลายต่อหลายครั้งทูตสวรรค์ปรากฏกายมาเหมือนกับที่มนุษยเราๆ จนดูไม่ออก อย่างในสมัยที่เมืองโสโดม
"ทูตสวรรค์สององค์มาถึงเมืองโสโดมในเวลาเย็น โลทได้นั่งอยู่ที่ประตูเมืองโสโดม เมื่อโลทเห็นแล้วก็ลุกขึ้นไปพบทูตเหล่านั้นและได้ก้มหน้าของเขาลงถึงดิน 2แล้วเขากล่าวว่า "ดูเถิด เจ้านายของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอวิงวอนท่านโปรดกรุณาแวะไปบ้านผู้รับใช้ของท่าน ค้างแรมคืนนี้ ล้างเท้าของท่าน แล้วท่านจะได้ตื่นแต่เช้าเดินทางต่อไป" ทูตเหล่านั้นกล่าวว่า "อย่าเลย แต่พวกเราจะค้างแรมที่ถนนในคืนนี้" 3เขาได้รบเร้าทูตเหล่านั้นอย่างมาก ทูตเหล่านั้นจึงแวะเข้าไปในบ้านของเขา และเขาจึงจัดการเลี้ยงทูตเหล่านั้น ทำขนมปังไร้เชื้อและทูตเหล่านั้นจึงรับประทาน 4แต่ก่อนที่ทูตเหล่านั้นเข้านอน พวกผู้ชายเมืองนั้นคือพวกผู้ชายชาวเมืองโสโดม ทั้งแก่และหนุ่ม ทุกคนจากทุกสารทิศ มาล้อมเรือนนั้นไว้ 5พวกเขาเรียกโลทและพูดกับเขาว่า "ผู้ชายเหล่านั้นซึ่งมาหาท่านคืนนี้อยู่ที่ไหน จงนำเขาเหล่านั้นออกมาให้พวกเราเพื่อพวกเราจะได้สมสู่กับเขา" 6โลทก็ออกทางประตูไปหาพวกนั้นและปิดประตูหลังจากที่เขาออกไปแล้ว 7และกล่าวว่า "พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอวิงวอนท่าน อย่ากระทำชั่วช้าเช่นนี้เลย 8ดูเถิด ข้าพเจ้ามีบุตรสาวสองคนซึ่งไม่เคยสมสู่กับชายเลย ข้าพเจ้าขอวิงวอนท่าน ขอให้ข้าพเจ้านำพวกเธอออกมาให้ท่าน ให้ท่านกระทำแก่พวกเธอตามที่เห็นชอบในสายตาของท่านเถิด เพียงแต่อย่ากระทำอะไรแก่ชายเหล่านี้เลย เพราะเหตุว่าพวกเขาเหล่านี้เข้ามาอยู่ใต้ร่มชายคาของข้าพเจ้า" 9พวกเขาพูดว่า "ถอยไป" และพวกเขาพูดอีกว่า "คนนี้เข้ามาอาศัยอยู่และเขาจะมาตั้งตัวเป็นผู้พิพากษา บัดนี้เราจะทำการชั่วร้ายกับท่านยิ่งกว่าคนเหล่านั้น" พวกเขาจึงผลักคนนั้นโดยแรงคือโลทนั่นเอง และเข้ามาใกล้เพื่อพังประตู" (ปฐก. 19:1-9)
เราจะเห็นว่าทูตสวรรค์คล้ายคนมากจนคนทั้งหมู่บ้านมองไม่ออกเลยว่าเขาคือทูตสวรรค์ อีกตัวอย่างหนึ่ง ยาโคบได้ต่อสู้กับทูตสวรรค์เพราะว่าไม่รู้ว่าชายนั้นคือทูตสวรรค์
"ยาโคบปล้ำสู้กับทูตสวรรค์ของพระเจ้าและชนะ" (ปฐก 32:22)
ทูตสวรรค์เมื่อปรากฏกายจะต่างกับผีครับ เพราะว่าในพระคัมภีร์พระเยซูกล่าวว่า "จงดูมือและเท้าของเราซิ เป็นเราเองจริง ๆ จงคลำตัวเราดูเถิด ผีไม่มีเนื้อ ไม่มีกระดูกอย่างที่ท่านเห็นว่าเรามี" (ลก 24:39)
นั่นก็แสดงว่าผีไม่มีเนื้อไม่มีกระดูกปรากฏกายได้แต่จับต้องไม่ได้ แต่ทูตสวรรค์ในพระคัมภีร์ต่างกับผีคือ เมื่อปรากฏกายแล้วเราดูไม่ออกเลยว่าชายคนนั้นคือทูตสวรรค์คหรือคนทั่วไป แม้กระทั่งซาตานก็ทำได้เช่นกันเพราะว่าเป็นทูตสวรรค์เหมือนกัน
แล้วรูปกลักษณ์ของทูตสวรรค์บนแผ่นดินสวรรค์เป็นเช่นใด ถ้าจากที่เหล่าประกาศกเขียนในพระคัมภีร์หลายท่านก็ตอบมาก็มีปีก แต่ประกาศกเหล่านั้นไม่ได้เห็นด้วยตัวเองเพียงแต่เห็นภาพผ่านนิมิตเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น เซราฟิม เครูบิน ก็เห็นผ่านนิมิตทั้งนั้น
ปีศาจกับทูตสวรรค์จัดว่าเป็นส่ิงสร้างประเภทเดียวกันครับ เหมือนกันอะไรที่ทูตสวรรค์ทำได้ปีศาจก็ทำได้เช่นกัน
ทำให้พี่นึกถึงคำในพระคัมภีร์ที่บอกว่า "อย่าละเลยที่จะต้อนรับแขกแปลกหน้า เพราะว่าโดยการกระทำเช่นนั้น บางคนก็ได้ต้อนรับทูตสวรรค์โดยไม่รู้ตัว" (ฮีบรู 13:1- 2)
แล้วในพระคัมภีร์หลายต่อหลายครั้งทูตสวรรค์ปรากฏกายมาเหมือนกับที่มนุษยเราๆ จนดูไม่ออก อย่างในสมัยที่เมืองโสโดม
"ทูตสวรรค์สององค์มาถึงเมืองโสโดมในเวลาเย็น โลทได้นั่งอยู่ที่ประตูเมืองโสโดม เมื่อโลทเห็นแล้วก็ลุกขึ้นไปพบทูตเหล่านั้นและได้ก้มหน้าของเขาลงถึงดิน 2แล้วเขากล่าวว่า "ดูเถิด เจ้านายของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอวิงวอนท่านโปรดกรุณาแวะไปบ้านผู้รับใช้ของท่าน ค้างแรมคืนนี้ ล้างเท้าของท่าน แล้วท่านจะได้ตื่นแต่เช้าเดินทางต่อไป" ทูตเหล่านั้นกล่าวว่า "อย่าเลย แต่พวกเราจะค้างแรมที่ถนนในคืนนี้" 3เขาได้รบเร้าทูตเหล่านั้นอย่างมาก ทูตเหล่านั้นจึงแวะเข้าไปในบ้านของเขา และเขาจึงจัดการเลี้ยงทูตเหล่านั้น ทำขนมปังไร้เชื้อและทูตเหล่านั้นจึงรับประทาน 4แต่ก่อนที่ทูตเหล่านั้นเข้านอน พวกผู้ชายเมืองนั้นคือพวกผู้ชายชาวเมืองโสโดม ทั้งแก่และหนุ่ม ทุกคนจากทุกสารทิศ มาล้อมเรือนนั้นไว้ 5พวกเขาเรียกโลทและพูดกับเขาว่า "ผู้ชายเหล่านั้นซึ่งมาหาท่านคืนนี้อยู่ที่ไหน จงนำเขาเหล่านั้นออกมาให้พวกเราเพื่อพวกเราจะได้สมสู่กับเขา" 6โลทก็ออกทางประตูไปหาพวกนั้นและปิดประตูหลังจากที่เขาออกไปแล้ว 7และกล่าวว่า "พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอวิงวอนท่าน อย่ากระทำชั่วช้าเช่นนี้เลย 8ดูเถิด ข้าพเจ้ามีบุตรสาวสองคนซึ่งไม่เคยสมสู่กับชายเลย ข้าพเจ้าขอวิงวอนท่าน ขอให้ข้าพเจ้านำพวกเธอออกมาให้ท่าน ให้ท่านกระทำแก่พวกเธอตามที่เห็นชอบในสายตาของท่านเถิด เพียงแต่อย่ากระทำอะไรแก่ชายเหล่านี้เลย เพราะเหตุว่าพวกเขาเหล่านี้เข้ามาอยู่ใต้ร่มชายคาของข้าพเจ้า" 9พวกเขาพูดว่า "ถอยไป" และพวกเขาพูดอีกว่า "คนนี้เข้ามาอาศัยอยู่และเขาจะมาตั้งตัวเป็นผู้พิพากษา บัดนี้เราจะทำการชั่วร้ายกับท่านยิ่งกว่าคนเหล่านั้น" พวกเขาจึงผลักคนนั้นโดยแรงคือโลทนั่นเอง และเข้ามาใกล้เพื่อพังประตู" (ปฐก. 19:1-9)
เราจะเห็นว่าทูตสวรรค์คล้ายคนมากจนคนทั้งหมู่บ้านมองไม่ออกเลยว่าเขาคือทูตสวรรค์ อีกตัวอย่างหนึ่ง ยาโคบได้ต่อสู้กับทูตสวรรค์เพราะว่าไม่รู้ว่าชายนั้นคือทูตสวรรค์
"ยาโคบปล้ำสู้กับทูตสวรรค์ของพระเจ้าและชนะ" (ปฐก 32:22)
ทูตสวรรค์เมื่อปรากฏกายจะต่างกับผีครับ เพราะว่าในพระคัมภีร์พระเยซูกล่าวว่า "จงดูมือและเท้าของเราซิ เป็นเราเองจริง ๆ จงคลำตัวเราดูเถิด ผีไม่มีเนื้อ ไม่มีกระดูกอย่างที่ท่านเห็นว่าเรามี" (ลก 24:39)
นั่นก็แสดงว่าผีไม่มีเนื้อไม่มีกระดูกปรากฏกายได้แต่จับต้องไม่ได้ แต่ทูตสวรรค์ในพระคัมภีร์ต่างกับผีคือ เมื่อปรากฏกายแล้วเราดูไม่ออกเลยว่าชายคนนั้นคือทูตสวรรค์คหรือคนทั่วไป แม้กระทั่งซาตานก็ทำได้เช่นกันเพราะว่าเป็นทูตสวรรค์เหมือนกัน
แล้วรูปกลักษณ์ของทูตสวรรค์บนแผ่นดินสวรรค์เป็นเช่นใด ถ้าจากที่เหล่าประกาศกเขียนในพระคัมภีร์หลายท่านก็ตอบมาก็มีปีก แต่ประกาศกเหล่านั้นไม่ได้เห็นด้วยตัวเองเพียงแต่เห็นภาพผ่านนิมิตเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น เซราฟิม เครูบิน ก็เห็นผ่านนิมิตทั้งนั้น
ปีศาจกับทูตสวรรค์จัดว่าเป็นส่ิงสร้างประเภทเดียวกันครับ เหมือนกันอะไรที่ทูตสวรรค์ทำได้ปีศาจก็ทำได้เช่นกัน
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ พฤหัสฯ. ต.ค. 02, 2008 3:44 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
ส่วนตัวคิดว่า เทพ และ ปีศาจ มีสองมิติ (ไม่นับถึงพระเจ้าและซาตาน เพราะขอเรียกว่าระดับผู้นำละกัน กรณีนี้ไม่เกี่ยว) (ย้ำว่าทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัว)
มิติแรก เอามิติที่มนุษย์ยากจะไปถึง ก็คือทูตสวรรค์และปีศาจ ซึ่งเคยอ่านจากในนี้เหมือนกันว่าสามารถเปลี่ยนสลับกันไปมาได้จากการกระทำ คือ
ทูตสวรรค์ทำเลว>>แปลงเป็นปีศาจอัตโนมัติ
ปีศาจกลับใจทำดี>>คืนกลับเป็นทูตสวรรค์
เพราะพวกนี้เป็นจิต เป็นพลังงาน ไม่มีร่างหรือเพศในลักษณะกายหยาบแบบสิ่งมีชีวิตบนโลก
(แต่อย่างที่คุณ Joseph บอก พวกนี้จำแลงกายได้)
มิติสอง คือมิติกายหยาบเรานี่แหละ
อย่างที่คุณว ส ว สฺ ต์ กล่าวนั่นแหละ
ส่องกระจกตัวเองดูสิ
ยอมรับว่าทุกวันนี้ถึงผมจะเป็นคริสเตียน แต่ในใจก็เชื่อว่าตัวเองมีความเป็นปีศาจอยู่ไม่น้อย และหวังว่า พระเจ้าจะทรงชี้นำให้ปีศาจร้ายตนนี้กลับใจทีละนิด ๆ จนสมบูรณ์ในความเชื่อและจิตวิญญาณ
อาเมน
มิติแรก เอามิติที่มนุษย์ยากจะไปถึง ก็คือทูตสวรรค์และปีศาจ ซึ่งเคยอ่านจากในนี้เหมือนกันว่าสามารถเปลี่ยนสลับกันไปมาได้จากการกระทำ คือ
ทูตสวรรค์ทำเลว>>แปลงเป็นปีศาจอัตโนมัติ
ปีศาจกลับใจทำดี>>คืนกลับเป็นทูตสวรรค์
เพราะพวกนี้เป็นจิต เป็นพลังงาน ไม่มีร่างหรือเพศในลักษณะกายหยาบแบบสิ่งมีชีวิตบนโลก
(แต่อย่างที่คุณ Joseph บอก พวกนี้จำแลงกายได้)
มิติสอง คือมิติกายหยาบเรานี่แหละ
อย่างที่คุณว ส ว สฺ ต์ กล่าวนั่นแหละ
ส่องกระจกตัวเองดูสิ
ยอมรับว่าทุกวันนี้ถึงผมจะเป็นคริสเตียน แต่ในใจก็เชื่อว่าตัวเองมีความเป็นปีศาจอยู่ไม่น้อย และหวังว่า พระเจ้าจะทรงชี้นำให้ปีศาจร้ายตนนี้กลับใจทีละนิด ๆ จนสมบูรณ์ในความเชื่อและจิตวิญญาณ
อาเมน
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
มิน่าเชื่อ ปกติเขามีแต่อธิษฐานไล่ปีศาจออกไป แต่คุณพี่มีอธิษฐานเผื่อปีศาจ แบบนี้จะมันดีหรือร้ายล่ะเนี่ย :huh:Pegasus เขียน:
ยอมรับว่าทุกวันนี้ถึงผมจะเป็นคริสเตียน แต่ในใจก็เชื่อว่าตัวเองมีความเป็นปีศาจอยู่ไม่น้อย และหวังว่า พระเจ้าจะทรงชี้นำให้ปีศาจร้ายตนนี้กลับใจทีละนิด ๆ จนสมบูรณ์ในความเชื่อและจิตวิญญาณ
อาเมน
ปล.เคยมีเพื่อนบอกผมเหมือนกัน ตอนนั้นผมเล่าเรื่องพระเจ้าให้เขาฟังแล้วเขาถามว่า "งั้นแบบนี้พระเจ้าจะให้อภัยซาตานมั้ย แบบว่าสงสารอ่ะ ถ้าพวกปีศาจต้องตกนรกตลอดไป" อืม....มันจะฟังดูแฟนต้า(ซี)ไปแล้วนะเนี่ย คิดว่าเอาแค่ตัวเราให้พ้นห่วงบาปก็ยากแล้วนะ จะห่วงไอ้จิตที่มันฉุดเราเข้าหาบาปอยู่ตลอดนี่...โอโห
รักศัตรูไงครับIn the name of father เขียน: มิน่าเชื่อ ปกติเขามีแต่อธิษฐานไล่ปีศาจออกไป แต่คุณพี่มีอธิษฐานเผื่อปีศาจ แบบนี้จะมันดีหรือร้ายล่ะเนี่ย :huh:
ปล.เคยมีเพื่อนบอกผมเหมือนกัน ตอนนั้นผมเล่าเรื่องพระเจ้าให้เขาฟังแล้วเขาถามว่า "งั้นแบบนี้พระเจ้าจะให้อภัยซาตานมั้ย แบบว่าสงสารอ่ะ ถ้าพวกปีศาจต้องตกนรกตลอดไป" อืม....มันจะฟังดูแฟนต้า(ซี)ไปแล้วนะเนี่ย คิดว่าเอาแค่ตัวเราให้พ้นห่วงบาปก็ยากแล้วนะ จะห่วงไอ้จิตที่มันฉุดเราเข้าหาบาปอยู่ตลอดนี่...โอโห
แต่ส่วนตัวก็เคยมีความคิดแบบนี้เหมือนกันนะIn the name of father เขียน: มิน่าเชื่อ ปกติเขามีแต่อธิษฐานไล่ปีศาจออกไป แต่คุณพี่มีอธิษฐานเผื่อปีศาจ แบบนี้จะมันดีหรือร้ายล่ะเนี่ย :huh:
ปล.เคยมีเพื่อนบอกผมเหมือนกัน ตอนนั้นผมเล่าเรื่องพระเจ้าให้เขาฟังแล้วเขาถามว่า "งั้นแบบนี้พระเจ้าจะให้อภัยซาตานมั้ย แบบว่าสงสารอ่ะ ถ้าพวกปีศาจต้องตกนรกตลอดไป" อืม....มันจะฟังดูแฟนต้า(ซี)ไปแล้วนะเนี่ย คิดว่าเอาแค่ตัวเราให้พ้นห่วงบาปก็ยากแล้วนะ จะห่วงไอ้จิตที่มันฉุดเราเข้าหาบาปอยู่ตลอดนี่...โอโห
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดแบบนี้มันผิดหรือถูกกันแน่???
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
สงสัยเราคงใช้คำผิดประเด็นไปหน่อย ขออภัยครับ
ที่พูดเมื่อกี๊หมายถึงตัวผมเองน่ะครับ ไม่ได้หมายถึงตัวปีศาจที่มาสิง
เอาเถอะ ผมพูดผิดเองแหละ ต้องพูดว่าขอให้พระเจ้าทรงช่วยดึงตัวผมให้พ้นจากสภาพถูกมารร้ายครอบงำถึงจะถูกสินะครับ
ต้องระวังการพูด(พิมพ์)บ้างแล้วเรา
ที่พูดเมื่อกี๊หมายถึงตัวผมเองน่ะครับ ไม่ได้หมายถึงตัวปีศาจที่มาสิง
เอาเถอะ ผมพูดผิดเองแหละ ต้องพูดว่าขอให้พระเจ้าทรงช่วยดึงตัวผมให้พ้นจากสภาพถูกมารร้ายครอบงำถึงจะถูกสินะครับ
ต้องระวังการพูด(พิมพ์)บ้างแล้วเรา
ชอบความคิดนี้ครับ
ส่วนตัวหลายๆ ครั้งก็สวดให้คนบาป และรวมถึงผู้นำของคนบาปด้วย
ข้าพเจ้าเห็นว่า (ส่วนตัวจริงๆ) บุคคลกลุ่มนี้ควรได้รับความช่วยเหลือมากที่สุด
อีกอย่าง เขาคงไม่เคยสวดให้ตัวเอง
ก็ลองสวดให้เขาด้วย เวลาทำอะไรดีๆ ก็มักคิดถึงความไม่ดีทั้งหลาย
มักจะคิดเองว่า..เผื่อผลของการกระทำดี จะทำให้สิ่งไม่ดีหายไปจากโลก ฮา
ส่วนตัวหลายๆ ครั้งก็สวดให้คนบาป และรวมถึงผู้นำของคนบาปด้วย
ข้าพเจ้าเห็นว่า (ส่วนตัวจริงๆ) บุคคลกลุ่มนี้ควรได้รับความช่วยเหลือมากที่สุด
อีกอย่าง เขาคงไม่เคยสวดให้ตัวเอง
ก็ลองสวดให้เขาด้วย เวลาทำอะไรดีๆ ก็มักคิดถึงความไม่ดีทั้งหลาย
มักจะคิดเองว่า..เผื่อผลของการกระทำดี จะทำให้สิ่งไม่ดีหายไปจากโลก ฮา
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
Pegasus เขียน: สงสัยเราคงใช้คำผิดประเด็นไปหน่อย ขออภัยครับ
ที่พูดเมื่อกี๊หมายถึงตัวผมเองน่ะครับ ไม่ได้หมายถึงตัวปีศาจที่มาสิง
เอาเถอะ ผมพูดผิดเองแหละ ต้องพูดว่าขอให้พระเจ้าทรงช่วยดึงตัวผมให้พ้นจากสภาพถูกมารร้ายครอบงำถึงจะถูกสินะครับ
ต้องระวังการพูด(พิมพ์)บ้างแล้วเรา
ไม่ได้ว่านะครับเนี่ย??? แค่บอกว่าผมก็เคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน (จะสวดซาตาน แต่ก็ลังเล "....อืม เอาไงดีวะ จะบาปมั้ยเนี่ย") แต่ก่อนหน้านั้น สำหรับผมคงต้องเริ่ม ให้อภัยคนบาปก่อน ยากบรรลัยเล้ย!!!~ โดยเฉพาะไอ้กลุ่มที่มันเคยแกล้งเราตอนเด็กๆ (ข้อหา : เชื่อในพระเจ้า หมั่นไส้ แกล้งซะ) เห็นหน้ามันแล้วอยากกระโดดถีบ ทุกวันนี้พยายามสวดให้มันอยู่แต่ก็ทำใจไม่โกรธลำบากจริงๆ