27 มิย 2010 สมโภชนักบุญเปโตรและเปาโล อัครสาวก

[Holy]

วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน 2010
สมโภชนักบุญเปโตรและเปาโล อัครสาวก


บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก กจ 12:1-11

เวลานั้น กษัตริย์เฮโรดทรงเริ่มเบียดเบียนสมาชิกบางคนของพระศาสนจักร พระองค์ทรงประหารยากอบพี่ชายของยอห์น โดยตัดศีรษะ เมื่อทรงเห็นว่าชาวยิวพอใจ จึงทรงจับกุมเปโตรด้วย –ขณะนั้น อยู่ในระหว่างเทศกาลขนมปังไร้เชื้อ- เมื่อทรงจับกุมเปโตรแล้ว ก็ทรงจองจำเขาไว้ในคุก ให้ทหารสี่หมู่ หมู่ละสี่คนควบคุมไว้ ตั้งพระทัยว่าเมื่อสิ้นเทศกาลปัสกาแล้วจะทรงนำไปพิจารณคดีต่อหน้าประชาชน ขณะที่เปโตรถูกจองจำอยู่ในคุก พระศาสนจักรอธิษฐานภาวนาต่อพระเจ้าสำหรับเขาตลอดเวลา

คืนก่อนที่กษัตริย์ เฮโรดจะทรงนำเปโตรไปพิจารณาคดี เปโตรนอนหลับอยู่ระหว่างทหารสองคน มีโซ่สองเส้นล่ามไว้ และมีทหารยามเฝ้าหน้าประตูคุก ทันใดนั้น ทูตสวรรค์องค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้าเข้ามาใกล้ มีแสงสว่างจ้าในห้องขัง ทูตสวรรค์สะกิดข้างกายเปโตรปลุกให้ตื่นขึ้น แล้วกล่าวว่า “เร็วเข้า ลุกขึ้นเถอะ!” โซ่ก็หลุดไปจากมือของเปโตร

ทูตสวรรค์จึงบอกเปโต รว่า “จงคาดสะเอวและสวมรองเท้า” เปโตรก็ทำตาม ทูตสวรรค์บอกอีกว่า “จงสวมเสื้อคลุม แล้วตามข้าพเจ้ามาเถิด” เปโตรจึงตามทูตสวรรค์ออกไป ไม่รู้สึกตัวว่าสิ่งที่ทูตสวรรค์กำลังทำให้ตนนั้นเกิดขึ้นจริง คิดว่ากำลังเห็นนิมิต ทูตสวรรค์และเปโตรผ่านยามชั้นที่หนึ่ง ชั้นที่สอง มาถึงประตูเหล็กที่เป็นทางผ่านเข้าไปในเมือง ประตูนั้นก็เปิดได้เอง ทั้งสองจึงออกไปเดินตามถนนสายหนึ่ง แล้วทูตสวรรค์ก็อันตรธานไปในทันทีเปโตรจึงรู้สึกตัว กล่าวว่า “บัดนี้ ข้าพเจ้าทราบแน่แล้วว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งทูตสวรรค์มาช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากเงื้อมมือของ กษัตริย์เฮโรดและจากความมุ่งร้ายทั้งหลายของประชาชนชาวยิว”

เพลงสดุดี สดด 34:1-2,3-4,5-7,8-10

ก) ข้าพระองค์จะขอบคุณพระเป็นเจ้า และจะเฝ้าสดุดีมิรู้สิ้น
จะสรรเสริญสม นาเป็นอาจิณ ให้ยลยินพระคุณการุญรัก
ถึงสิ่ง ที่พระองค์ทรงกระทำ ประเสริฐล้ำน้ำพระทัยได้ประจักษ์
เหล่าคนถูกกดขี่ที่ช้ำนัก จงตระหนักด้วยยินดีชื่นปรีดา

ข) แล้วให้เราประกาศความยิ่งใหญ่ น้ำพระทัยแห่งพระประเสริฐค่า
จง สรรเสริญพระนามเลิศเทิดบูชา สมนารำลึกนึกพระคุณ
ข้า พระองค์อธิษฐานทูลพระเจ้า โปรดตอบเราสนองเอื้อทรงเกื้อหนุน
ขอพระโปรดช่วยข้าฯด้วยการุญ ให้เลิกวุ่นหวั่นกลัวสิ่งทั่วไป

ค) ผู้ที่ถูกกดขี่ยินดีนัก มองพระพักตร์จะสมคิดจิตสดใส
คน ที่หมดทางดิ้นแทบสิ้นใจ ทูลขอให้พระองค์ทรงช่วยที
พระ จะช่วยให้เขาพ้นทุกข์ร้อน ที่กัดกร่อนกายใจมลายหนี
ทูต สวรรค์จะขจัดปัดไพรี จากผู้ที่คารวะในพระองค์

บท อ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงทิโมธี ฉบับที่สอง 2 ทธ 4:6-8,17-18

พี่น้อง ชีวิตของข้าพเจ้านั้นกำลังจะถูกถวายเป็นเครื่องบูชาอยู่แล้ว ถึงเวลาแล้วที่ข้าพเจ้าจะต้องจากไป ข้าพเจ้าได้ต่อสู้มาอย่างดีแล้ว ข้าพเจ้าได้วิ่งมาถึงเส้นชัยแล้ว ข้าพเจ้าได้รักษาความเชื่อไว้แล้ว ยังเหลืออยู่ก็แต่มงกุฎแห่งความชอบธรรม ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพิพากษาอย่างเที่ยงธรรมจะประทานให้แก่ข้าพเจ้า ในวันนั้น และไม่ใช่เพียงแก่ข้าพเจ้าเท่านั้น แต่จะประทานแก่ทุกคนที่เฝ้ารอคอยด้วยความรักต่อการสำแดงพระองค์ด้วยเช่น เดียวกัน

มีแต่องค์พระผู้เป็น เจ้า ทรงยืนอยู่เคียงข้างและประทานกำลังแก่ข้าพเจ้า เพื่อการประกาศข่าวดีจะได้สำเร็จไปโดยทางข้าพเจ้า และคนต่างชาติทั้งสิ้นจะได้ฟังข่าวดี ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงถูกฉุดให้พ้นจากปากสิงโตมาได้ องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากการประทุษร้ายทั้งสิ้น และจะทรงนำข้าพเจ้าไปสู่พระอาณาจักรสวรรค์ของพระองค์อย่างปลอดภัย ขอพระสิริรุ่งโรจน์จงมีแด่พระองค์ตลอดนิรันดรเทอญ อาเมน

พระวรสารนักบุญมัทธิว มธ 16:13-19

เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเขตเมืองซีซารียาแห่งฟิลิปและตรัสถามบรรดาศิษย์ว่า ‘คนทั้งหลายกล่าวว่าบุตรแห่งมนุษย์เป็นใคร?’ เขาทูลตอบว่า ‘บ้างกล่าวว่าเป็นยอห์นผู้ทำพิธีล้าง บ้างกล่าวว่าเป็นประกาศกเอลียาห์บ้างกล่าวว่าเป็นประกาศก เยเรมีย์หรือประกาศกองค์ใดองค์หนึ่ง’พระองค์ตรัสกับเขาว่า ‘ท่านล่ะคิดว่าเราเป็นใคร?’
ซีโมน เปโตรทูลตอบว่า ‘พระองค์คือพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต’
พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า ‘ซีโมน บุตรของยอห์น ท่านมีสุข! เพราะว่า ไม่ใช่มนุษย์ที่เปิดเผยให้ท่านทราบ แต่พระบิดาเจ้าของ เราผู้ทรงสถิตในสวรรค์ทรงเปิดเผย เรากล่าวแก่ท่านว่า ท่านคือศิลาและบนศิลานี้ เราจะตั้งพระศาสนจักรของเรา ประตูนรกจะ ไม่มีวันชนะพระศาสนจักรได้ เรามอบกุญแจอาณาจักรสวรรค์ให้ ทุกสิ่งที่ท่านจะผูกบนแผ่นดินนี้ จะผูกไว้ในสวรรค์ด้วย ทุกสิ่งที่ท่านจะแก้บนแผ่นดินนี้ ก็จะแก้ในสวรรค์ด้วย”



บทเทศน์จากพระวาจาของพระเจ้า
ประจำอาทิตย์สมโภชนัก บุญเปโตรและเปาโล

เรื่องราวในชีวิตของ ท่านนักบุญเปโตรและเปาโลที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์เป็นเรื่องราวของ ประสบการณ์ชีวิตของท่านนักบุญทั้งสองที่พระเจ้าได้เข้ามามีส่วนร่วมทำ งานอยู่ในชีวิตของท่าน ทรงประทับอยู่ช่วยเหลือส่งผลให้งานประกาศพระวรสารที่ท่านอุทิศตนบังเกิดผล รวมทั้งคอยช่วยให้ชีวิตของท่านหลุดพ้นจากการปองร้าย เราพบประสบการณ์ดังกล่าวในหนังสือกิจการอัครสาวก จากถ้อยคำของท่านนักบุญเปโตรที่กว่าวว่า “บัดนี้ ข้าพเจ้าทราบแน่แล้วว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งทูตสวรรค์มาช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากเงื้อมมือของ กษัตริย์เฮโรดและจากความมุ่งร้ายทั้งหลายของประชาชนชาวยิว” เช่นเดียวกันจากถ้อยคำของท่านนักบุญเปาโลที่กล่าวในจดหมายของท่านถึงทิโมธี ที่ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงช่วย ข้าพเจ้าให้พ้นจากการประทุษร้ายทั้งสิ้น และจะทรงนำข้าพเจ้าไปสู่พระอาณาจักรสวรรค์ของพระองค์อย่างปลอดภัย”

ในโอกาสปิดปีพระ สงฆ์ พ่อได้มีโอกาสเดินทางไปแสวงบุญที่กรุงโรมและได้ร่วมกิจกรรมปิดปี ศักดิ์สิทธิ์ที่พระวิหารของท่านนักบุญ “เปโตร” และ “เปาโล”ได้ สัมผัสถึงความยิ่งใหญ่สวยงามของพระวิหารดังกล่าว ทำให้เกิดความซาบซึ้งปีติสุข ความยิ่งใหญ่ของตัวพระวิหารทั้งสองแห่ง ที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม เป็นผลงานสะท้อนถึงความศักดิ์สิทธิ์อันสูงส่งยิ่งใหญ่ในชีวิตของท่านทั้ง สอง เป็นแรงบันดาลใจผู้ก่อสร้างพระวิหารทั้งสองแห่งทำการก่อสร้างสร้างพระวิหาร ทั้งสองแห่งอย่างยิ่งใหญ่ถวายเป็น เกียรติแก่ท่านทั้งสอง แต่หากจะย้อนเวลากลับไปดูถึงจุดเริ่มต้นในความยิ่งใหญ่ของท่านักบุญทั้งสอง ก็จะพบว่า มีจุดเริ่มต้นมาจาก “ความ ขาดตกบกพร่อง” และ “ความต่ำต้อย” ที่มีอยู่ในชีวิตของท่านทั้งสองตั้งแต่เริ่มแรก สำหรับท่านนักบุญเปโตร ท่าน เป็นแต่เพียงชาวประมงที่ไม่ได้มีการคศึกษาสูงส่งแต่อย่างใด อีกทั้งยังปฏิเสธพระเยซูเจ้าว่าไม่รู้จักพระองค์ถึงสามครั้งอีกด้วย ตามที่เล่าไว้ในพระวรสาร ส่วนนักบุญเปาโล ท่านคือนักล่าทำลายคริสตชนซึ่งพระเยซูเจ้าทรงยืนยันว่ากิจการของท่านเป็นการ ทำร้ายต่อชีวิตของพระองค์โดยตรง ความพลิกผันที่เกิดขึ้นในชีวิตของท่านทั้งสองมิได้เกิดขึ้นจากน้ำมือหรือบน ความสามารถ ในชีวิตของท่านแต่อย่างใด หากแต่เกิดขึ้นจากพระทัยดีของพระเจ้าที่ยื่นชีวิตของพระองค์เข้า “สัมผัส” ชีวิตของท่านทั้งสอง สำหรับท่านนักบุญเปโตรทรงสัมผัสชีวิตของท่านอีกครั้งหลังจากทรงกลับคืนชีพใน วันที่สามแล้ว ส่วนของท่านนักบุญเปาโล เกิดขึ้นเมื่อท่านล้มลงตาบอดมืดที่เมืองดามัสกัส และต่อจากนั้นเป็นต้นมาบทบาทของพระเจ้าในชีวิตของท่านทั้งสองก็เกิดขึ้น อย่างต่อเนื่อง เป็นทั้งความสัมพันธ์ลึกๆที่ขับเคลื่อนอยู่ภายในชีวิตและการช่วยเหลือให้รอด พ้นจากความเลวร้ายต่างๆที่เกิดขึ้นอย่าง เช่นที่หนังสือกิจการอัครสาวกและในจดหมายของท่านนักบุญเปาโลถึงทิโมธีที่เรา อ่านเป็นบทอ่านที่ 1 และ 2 ในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณประจำอาทิตย์นี้กล่าวถึง

คนเราแต่ละคนล้วนมี อดีต และบ่อยๆครั้งอดีตที่ผ่านมาในชีวิตก็ไม่ค่อยดีนักหลายๆคนอาจคิดคำนวนชีวิต ของตนเหมือนคิดในวิชาคณิตศาสตร์อย่างเป็นเหตุเป็นผลว่า อดีตเริ่มมาอย่างไร อนาคตก็คงต้องจบลงเช่นนั้น เป็นการคำนวณแบบสิ้นหวัง ความจริงก็น่าจะเป็นเช่นนั้นหากไม่มี “พระ เจ้า” เข้ามาเป็นตัวแปรแทรกเข้ามาร่วมชีวิตไปด้วยกันกับเราด้วย เพราะไม่ว่าอดีตในชีวิตของเราจะดีจะร้ายเป็นมาอย่างไร แต่เมื่อชีวิตของเราได้มีบุญเข้าสัมผัสกับชีวิตของพระเจ้าเหมือนที่เกิดกับ ชีวิตของท่านนักบุญเปโตรและเปาโลที่เราสมโภชท่านในอาทิตย์นี้แล้วไซร้ เราทุกคนก็มีสิทธิเป็นนักบุญได้เหมือนท่านเสมอเรามีสิทธิ์ ได้ยินพระเยซูเจ้าตรัสกับเราเหมือนที่ตรัสกับท่านนักบุญเปโตรในพระวรสาร ประจำอาทิตย์นี้ว่า “ท่านคือศิลาและ บนศิลานี้ เราจะตั้งพระศาสนจักรของเราประตูนรกจะไม่มีวันชนะพระศาสนจักรได้”รวม ทั้งมีสิทธิ์จะได้ยินพระองค์ตรัสกับชีวิตของเราอีกเช่นกันว่า “เรามอบกุญแจอาณาจักรสวรรค์ให้ ทุกสิ่งที่ท่านจะผูกบนแผ่นดินนี้ จะผูกไว้ในสวรรค์ด้วย ทุกสิ่งที่ท่านจะแก้บนแผ่นดินนี้ ก็จะแก้ในสวรรค์ด้วย” เพราะงานทั้งหมดนี้เป็นงานของพระเจ้าที่ทรงพระเมตาประทานให้กับเราแต่ละคน โดยไม่ทรงรอให้เราทำตัวให้เหมาะสมเสียก่อน

พี่น้องที่เคารพ ท่ามกลางเส้นทางการดำเนินชีวิตของเราแต่ละคนบนโลกที่ขาดตกบกพร่องนี้ ขอแต่เราได้ยอมให้พระ เจ้าเข้ามาร่วมชีวิตกับเรา คุณความดีอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าก็สามารถเข้ามาทำงานให้บังเกิดผลบนงานประกาศ ข่าวดีในชีวิตของเราได้เสมอ อาทิตย์นี้เมื่อพี่น้องมองเห็นความยิ่งใหญ่บนชีวิตของท่านนักบบุญทั้งสองที่ เราสมโภชในอาทิตย์นี้ ขอให้ชีวิต ของท่านนักบุญทั้งสองเป็นตัวอย่าง เป็นแรงบันดาลใจให้พี่น้องเข้าใกล้กับพระเจ้า เปิดชีวิตให้พระองค์ทรงกระทำกิจการยิ่ง ใญ่ในชีวิตของเรากันเถิด และเมื่อเราเปิดชีวิตให้พระองค์เข้ามาร่วมชีวิตกับเราแล้ว จงมั่นใจได้เสมอว่า พระองค์จะทรงปกป้องคุ้มครองเราให้ปลอดภัยอย่างแน่นอน