อดข้าวกลางวันเพื่อเงิน
ตอนนี้วอประสบปัญหาทางการเงินมากมาย
วอมีเงินไม่พอใช้ วอขัดสนทางเงิน ขอที่บ้านไม่ได้ เพราะเงินที่ให้ไปแต่ละวันมันก็เยอะแล้ว (60 บ.) และไม่อยากรบกวนทางบ้าน ถ้ารบกวนเขาจะบ่น ว่าจะใช้อะไรมากมาย
คราวนี้วอเห็นคนอื่นๆ เขาไม่กินข้าวกัน อ่านนิยายแทนอาหารเที่ยง
วอเอามั่งอ่านพระคัมภีร์แทนอาหารกลางวันซะเลย เพราะมนุษย์ใช่ว่าจะอยู่ด้วยอาหารอย่างเดียวซะที่ไหน ต้องพระวาจาด้วย
แต่ความจริงที่วออยากอดเพราะวอชอบกินขนม ถ้าวอไม่กินคงมีเงินพอ แต่ว่าเงินมันต้องใช้จ่ายเยอะ ถ้าเราเก็บวันละ 20 (กลับบ้านต้องซื้อเครื่องเขียนที่หายได้ทุกวัน) ก็จะพอมีเงินให้ที่วัด และค่ารถ ในกรณีที่ไม่ไปวัดแถวบ้าน (บางทีถ้าไม่มีเงินมากๆ ไม่ไปวัดไกลๆ ไปแถวบ้านที่ไปวัดไกลๆ เพราะอยากเปลี่ยนบรรยากาศหลายๆ ที่ )
เหตุผลที่ต้องใช้เงินมากจนต้องอดข้าว (ไม่จำเป็น)
1. อยากไปเที่ยว
2. อยากได้ของต่างๆ พันอัพ
เหตุผลแสนจำเป็น
1. เครื่องเขียนที่หายได้ทุกวัน พังได้ทุกวัน เพราะวอเป็นบุคคลที่ถูกยืมของจากคนในห้องมากที่สุด เครื่องเขียน ปากกา 4 อันยังไม่พอเลย บางทีก็มีไม่ใช้อ้างว่าหยิบยาก ต้องมายืม ไม่เอามาไม่ซื้อตลอด บางคน เอาไปทำลายทิ้งอุตสาห์ให้ยืม (ในห้องมีประมาณเกือบ 10 คนเลยล่ะ )
2. ต้องมาซื้อเครื่องเขียนให้พวกที่ชอบยืมของ แถมให้ไปทำหาย+ทำลายอีกอีก เลย ต้องเก็บไว้กับตัวและอีกไม่นานมันก็หายและถูกทำลายอีกจนได้
3. ทำรายงาน วอ ออกคนเดียว วอทำมากที่สุด พวกมันไม่ยอมจ่าย
*** หมายเหตุที่ฟ้องครูไม่ได้เพราะ
หากฟ้องครูพวกมันจะหาว่าขี้ฟ้องว่ะ แค่ไม่จ่ายเงินแค่เนี้ย (หมดหลายร้อย) เดี๋ยวค่อยจ่ายไง หากทวง มันก็รำคาญไล่วอไป ไม่ยอม พอจะไม่ให้เข้ากลุมสุดท้ายมันก็เข้ามาจนได้ เพราะเหลือแต่กลุ่มกาฝากปรสิตพวกนี้ ส่วนเรื่องของพวหมันทำหาย มันก็บอกว่างกไปได้ ราคาไม่กี่บาท ช่วงนี้ผมทำตารางของซื้อของหาย ของได้คืน หายทุกวัน เพราะพวกมัน แต่พวกมันหาว่า ราคาแค่นี้เอง ส่วนทำลายข้าวของเป็นสันดานของมัน มีแกะชื่อด้วย ยังดีหน่อยที่มีแค่คนเดียว คนอื่นๆ แค่ยืมของทำหาย บอกชื่อหน่อยล่ะกัน คนเดียวที่ทำลายข้าวของคือ "ยอด" (นามสมติอยู่ดี ) ปกติผมไปวัดทุกทีจ่ายแบงก์ 20 ตลอด
วอมีเงินไม่พอใช้ วอขัดสนทางเงิน ขอที่บ้านไม่ได้ เพราะเงินที่ให้ไปแต่ละวันมันก็เยอะแล้ว (60 บ.) และไม่อยากรบกวนทางบ้าน ถ้ารบกวนเขาจะบ่น ว่าจะใช้อะไรมากมาย
คราวนี้วอเห็นคนอื่นๆ เขาไม่กินข้าวกัน อ่านนิยายแทนอาหารเที่ยง
วอเอามั่งอ่านพระคัมภีร์แทนอาหารกลางวันซะเลย เพราะมนุษย์ใช่ว่าจะอยู่ด้วยอาหารอย่างเดียวซะที่ไหน ต้องพระวาจาด้วย
แต่ความจริงที่วออยากอดเพราะวอชอบกินขนม ถ้าวอไม่กินคงมีเงินพอ แต่ว่าเงินมันต้องใช้จ่ายเยอะ ถ้าเราเก็บวันละ 20 (กลับบ้านต้องซื้อเครื่องเขียนที่หายได้ทุกวัน) ก็จะพอมีเงินให้ที่วัด และค่ารถ ในกรณีที่ไม่ไปวัดแถวบ้าน (บางทีถ้าไม่มีเงินมากๆ ไม่ไปวัดไกลๆ ไปแถวบ้านที่ไปวัดไกลๆ เพราะอยากเปลี่ยนบรรยากาศหลายๆ ที่ )
เหตุผลที่ต้องใช้เงินมากจนต้องอดข้าว (ไม่จำเป็น)
1. อยากไปเที่ยว
2. อยากได้ของต่างๆ พันอัพ
เหตุผลแสนจำเป็น
1. เครื่องเขียนที่หายได้ทุกวัน พังได้ทุกวัน เพราะวอเป็นบุคคลที่ถูกยืมของจากคนในห้องมากที่สุด เครื่องเขียน ปากกา 4 อันยังไม่พอเลย บางทีก็มีไม่ใช้อ้างว่าหยิบยาก ต้องมายืม ไม่เอามาไม่ซื้อตลอด บางคน เอาไปทำลายทิ้งอุตสาห์ให้ยืม (ในห้องมีประมาณเกือบ 10 คนเลยล่ะ )
2. ต้องมาซื้อเครื่องเขียนให้พวกที่ชอบยืมของ แถมให้ไปทำหาย+ทำลายอีกอีก เลย ต้องเก็บไว้กับตัวและอีกไม่นานมันก็หายและถูกทำลายอีกจนได้
3. ทำรายงาน วอ ออกคนเดียว วอทำมากที่สุด พวกมันไม่ยอมจ่าย
*** หมายเหตุที่ฟ้องครูไม่ได้เพราะ
หากฟ้องครูพวกมันจะหาว่าขี้ฟ้องว่ะ แค่ไม่จ่ายเงินแค่เนี้ย (หมดหลายร้อย) เดี๋ยวค่อยจ่ายไง หากทวง มันก็รำคาญไล่วอไป ไม่ยอม พอจะไม่ให้เข้ากลุมสุดท้ายมันก็เข้ามาจนได้ เพราะเหลือแต่กลุ่มกาฝากปรสิตพวกนี้ ส่วนเรื่องของพวหมันทำหาย มันก็บอกว่างกไปได้ ราคาไม่กี่บาท ช่วงนี้ผมทำตารางของซื้อของหาย ของได้คืน หายทุกวัน เพราะพวกมัน แต่พวกมันหาว่า ราคาแค่นี้เอง ส่วนทำลายข้าวของเป็นสันดานของมัน มีแกะชื่อด้วย ยังดีหน่อยที่มีแค่คนเดียว คนอื่นๆ แค่ยืมของทำหาย บอกชื่อหน่อยล่ะกัน คนเดียวที่ทำลายข้าวของคือ "ยอด" (นามสมติอยู่ดี ) ปกติผมไปวัดทุกทีจ่ายแบงก์ 20 ตลอด
ยังไงก็ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
เดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะ
เอาเป็นว่า
ลองเอาอาหารจากบ้านไปกินที่โรงเรียน
เรื่องรายงาย ก็คุยกับเพื่อนตรงๆ ไม่งั้นก็ไม่ทำเลย จนกว่าจะได้เงิน - -"
เครื่องเขียนก็เอาไปเท่าที่จะใช้จริงๆ
ลองหารายได้พิเศษดูมั๊ยคะ
อะไรที่ง่ายๆ เช่น ทำการบ้านให้เพื่อน
เดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะ
เอาเป็นว่า
ลองเอาอาหารจากบ้านไปกินที่โรงเรียน
เรื่องรายงาย ก็คุยกับเพื่อนตรงๆ ไม่งั้นก็ไม่ทำเลย จนกว่าจะได้เงิน - -"
เครื่องเขียนก็เอาไปเท่าที่จะใช้จริงๆ
ลองหารายได้พิเศษดูมั๊ยคะ
อะไรที่ง่ายๆ เช่น ทำการบ้านให้เพื่อน
โห.. น้องวอจ๋า ชีวิตอารายจาปานนั้น ก็เอาข้าวใส่กล่องไปทานแบบที่พี่โฮลีบอก
เวิร์คสุด ชีวิตพอเพียง ไงน้อง ส่วนเรื่องเพื่อนยืมของแล้วไม่คืนน่ะ
น่าจะบอกเขาตรง ตรงว่า เราไม่มีตังซื้อเครื่องเขียนให้เพื่อนยืมแล้ว
ให้เค้าดูแลตัวเองหน่อย อย่าเป็นคนดีเกินไป จนตัวเองต้องลำบาก
ต้องรู้จักปฏิเสธบ้าง ไม่ผิดหรอก อันนี้อ่ะเคยโดนกับตัวเอง
แล้วถามพ่อที่วัด พ่อก็บอกอย่างงี้แหละ ว่าอย่าดีเกิน
ให้ทำเท่าที่ทำได้ ถ้าไม่ไหวก็ให้รู้จักปฏิเสธ เราไม่ได้เห็นแกตัวนะคับ
แต่มันไม่ไหวแล้ว พยายามสู้นะคับ เป็นกำลังใจให้นะ
เวิร์คสุด ชีวิตพอเพียง ไงน้อง ส่วนเรื่องเพื่อนยืมของแล้วไม่คืนน่ะ
น่าจะบอกเขาตรง ตรงว่า เราไม่มีตังซื้อเครื่องเขียนให้เพื่อนยืมแล้ว
ให้เค้าดูแลตัวเองหน่อย อย่าเป็นคนดีเกินไป จนตัวเองต้องลำบาก
ต้องรู้จักปฏิเสธบ้าง ไม่ผิดหรอก อันนี้อ่ะเคยโดนกับตัวเอง
แล้วถามพ่อที่วัด พ่อก็บอกอย่างงี้แหละ ว่าอย่าดีเกิน
ให้ทำเท่าที่ทำได้ ถ้าไม่ไหวก็ให้รู้จักปฏิเสธ เราไม่ได้เห็นแกตัวนะคับ
แต่มันไม่ไหวแล้ว พยายามสู้นะคับ เป็นกำลังใจให้นะ
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
เพื่อนเกรียนๆแบบนั้นอย่าไปสนใจมัน ฟ้องครูไปเหอะ
ลองแบบนี้ดูไหมครับ
1) เอาอาหารกลางวันไปกินเอง (กินต่อหน้าให้เพื่อนเห็นด้วยก็ได้)
2) ติดเงินไปเรียนเท่าที่จำเป็น ให้ที่บ้านให้เงินค่าขนมประจำวันให้เราลดลง (หรือบอกที่บ้านว่าให้เงินค่าขนมประจำวันลดลง แต่ให้เอาเงินอีกส่วนฝากออมทรัพย์ในชื่อเราแทน) แล้วบอกเพื่อนที่โรงเรียน หากถูกขอแล้วเราให้ของหรือเงินไม่ได้ว่า ที่บ้านให้เงินค่าขนมลดลง เพราะให้ประหยัด และนี่เรายังต้องเอาอาหารกลางวันติดจากบ้านมากินเองด้วย (ไม่ได้โกหกนะครับ เพราะได้เงินสดติดมาจากที่บ้านน้อยลงจริงๆ จากการที่เรายินยอมโดยสมัครใจบอกกับที่บ้านว่าขอเงินติดตัวลดลง)
3) ซื้อวัสดุดินสอ ยางลบ ฯลฯ ราคาถูกๆ พอใช้ได้มาใช้ อย่าให้แพงนัก และอย่ามีคุณภาพดีนัก คนที่ยืมจะได้ยืมเพราะจำเป็นจริงๆ เพราะคงทนใช้ของแย่ๆ ร่วมกับเราไม่ได้
4) (ลองทำดูนะครับ) ไหนๆ ก็ไหนๆ ลด ละ (เลิกได้ยิ่งดี) การซื้อขนมกิน หรือการซื้อของราคาแพงที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้นอกจากเป็นเพียงเครื่องประดับ เช่นมือถือราคาแพงที่ใช้ฟังก์ชันไม่มีวันครบ (ถ้าของนั้นแพงแต่ใช้ประโยชน์ได้จริง และจำเป็น ก็ซื้อได้นะครับ) ถือเป็นพลีกรรม ถ้านึกไม่ออกว่าทำพลีกรรมให้ใคร ก็อาจจะทำให้ตนเอง ทำให้พ่อแม่ ให้เพื่อนที่มายืมเราหรือมาแกล้งเรา หรือให้วิญญาณในไฟชำระ(อันนี้ลองอ่านกระทู้เกี่ยวกับวิญญาณในไฟชำระดูนะครับ เผื่อจะเป็นแรงกระตุ้นที่ดี)
ปล. ผมเป็นคนหนึ่งที่เด็กๆ ชอบเอาเงินไปซื้อขนมมาก แต่พอโตขึ้นมาหน่อย เอาเงินไปซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์มาต่อเล่น ทำโน่นทำนี่ (จนตอนนี้พัฒนามากลายเป็นทำอาชีพที่เกี่ยวเนื่องกับคอมพิวเตอร์และัอิเล็กทรอนิคส์ไปแล้ว) ปัจจุบันผมจะไม่ชอบกินขนมก็ด้วยสาเหตุที่ไม่มีเงินเหลือมาซื้อขนมกินเลยครับ...
1) เอาอาหารกลางวันไปกินเอง (กินต่อหน้าให้เพื่อนเห็นด้วยก็ได้)
2) ติดเงินไปเรียนเท่าที่จำเป็น ให้ที่บ้านให้เงินค่าขนมประจำวันให้เราลดลง (หรือบอกที่บ้านว่าให้เงินค่าขนมประจำวันลดลง แต่ให้เอาเงินอีกส่วนฝากออมทรัพย์ในชื่อเราแทน) แล้วบอกเพื่อนที่โรงเรียน หากถูกขอแล้วเราให้ของหรือเงินไม่ได้ว่า ที่บ้านให้เงินค่าขนมลดลง เพราะให้ประหยัด และนี่เรายังต้องเอาอาหารกลางวันติดจากบ้านมากินเองด้วย (ไม่ได้โกหกนะครับ เพราะได้เงินสดติดมาจากที่บ้านน้อยลงจริงๆ จากการที่เรายินยอมโดยสมัครใจบอกกับที่บ้านว่าขอเงินติดตัวลดลง)
3) ซื้อวัสดุดินสอ ยางลบ ฯลฯ ราคาถูกๆ พอใช้ได้มาใช้ อย่าให้แพงนัก และอย่ามีคุณภาพดีนัก คนที่ยืมจะได้ยืมเพราะจำเป็นจริงๆ เพราะคงทนใช้ของแย่ๆ ร่วมกับเราไม่ได้
4) (ลองทำดูนะครับ) ไหนๆ ก็ไหนๆ ลด ละ (เลิกได้ยิ่งดี) การซื้อขนมกิน หรือการซื้อของราคาแพงที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้นอกจากเป็นเพียงเครื่องประดับ เช่นมือถือราคาแพงที่ใช้ฟังก์ชันไม่มีวันครบ (ถ้าของนั้นแพงแต่ใช้ประโยชน์ได้จริง และจำเป็น ก็ซื้อได้นะครับ) ถือเป็นพลีกรรม ถ้านึกไม่ออกว่าทำพลีกรรมให้ใคร ก็อาจจะทำให้ตนเอง ทำให้พ่อแม่ ให้เพื่อนที่มายืมเราหรือมาแกล้งเรา หรือให้วิญญาณในไฟชำระ(อันนี้ลองอ่านกระทู้เกี่ยวกับวิญญาณในไฟชำระดูนะครับ เผื่อจะเป็นแรงกระตุ้นที่ดี)
ปล. ผมเป็นคนหนึ่งที่เด็กๆ ชอบเอาเงินไปซื้อขนมมาก แต่พอโตขึ้นมาหน่อย เอาเงินไปซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์มาต่อเล่น ทำโน่นทำนี่ (จนตอนนี้พัฒนามากลายเป็นทำอาชีพที่เกี่ยวเนื่องกับคอมพิวเตอร์และัอิเล็กทรอนิคส์ไปแล้ว) ปัจจุบันผมจะไม่ชอบกินขนมก็ด้วยสาเหตุที่ไม่มีเงินเหลือมาซื้อขนมกินเลยครับ...
แก้ไขล่าสุดโดย thanwa เมื่อ พฤหัสฯ. ส.ค. 20, 2009 12:45 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
นิยายนิ ไม่ต้องพูดถึงครับ โดยเฉพาะผู้หญิง หุหุ นิยายแบบหน้าปกเป็นการ์ตูนอะครับ เพื่อนผมอ่านหนังสือมากจนกลายเป็นหนอนหนังสือไปละ แต่หนังสือที่แบบชอบมากๆ ก็นิยายพวกนั้นละครับ ผมก็เอาไปอ่านนะครับ แต่เป็นพวกนิยายclassic ที่เป็นภาษาอังกฤษ เช่นพวกเรื่อง Great Expectation(กำลังอ่านอยู่เลยพึ่งซื้อมาจากงานBook fairที่โรงเรียน) หรือไม่ก็ Jane Eyre เป็นต้นครับ จริงๆถ้าอยากเก็บตังก็ทำอย่างที่พี่โฮลี่บอกนั้นแหละครับ ดีที่สุดแล้ว เพื่อนผมก็เอาเวลาช่วงพักกลางวัน เก็บตัวอยู่ในห้องสมุดอะครับ ข้าวกลางวันก็ไม่ได้กิน
ไม่ทราบว่าจะรู้จักกันไหม
ไม่ทราบว่าจะรู้จักกันไหม
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. ส.ค. 20, 2009 7:19 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
บางครั้งเราต้องปฏิเสธให้เป็นนะคับ
อย่างถ้าเพื่อนยืมแล้วทำหายบ่อย ๆ ครั้งหน้าพอมายืม
เราก็ลองทวงของเดิมจากเค้า ว่าทำหายไปไหน หรือไม่ก็ไม่ต้องซื้อเผื่อแผ่คนอื่นหรอกคับ
ใครมาขอยืม(ที่ชอบทำหายทำลายของ) ก็บอกว่ามีแค่ของตัวเองใช้ ไม่มีให้แล้ว ให้ไปยืมจากคนอื่นละกัน
ต้องใจแข็งนิดนึงอ่ะคับ เพราะเรายังไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง
ไม่จำเป็นต้องไปเป็นภาระเจียดเงินของตัวเองให้คนอื่นที่ไม่รู้จักค่าของของใช้หรอกคับ
อย่างถ้าเพื่อนยืมแล้วทำหายบ่อย ๆ ครั้งหน้าพอมายืม
เราก็ลองทวงของเดิมจากเค้า ว่าทำหายไปไหน หรือไม่ก็ไม่ต้องซื้อเผื่อแผ่คนอื่นหรอกคับ
ใครมาขอยืม(ที่ชอบทำหายทำลายของ) ก็บอกว่ามีแค่ของตัวเองใช้ ไม่มีให้แล้ว ให้ไปยืมจากคนอื่นละกัน
ต้องใจแข็งนิดนึงอ่ะคับ เพราะเรายังไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง
ไม่จำเป็นต้องไปเป็นภาระเจียดเงินของตัวเองให้คนอื่นที่ไม่รู้จักค่าของของใช้หรอกคับ
-
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm
อือ ใช่ๆๆ ทำไมล่ะ ในเคสของเรานะวอ ถ้าเกิดว่าพ่อกะแม่รู้ว่าเราเอาเข้าไปกินโรงเรียน เขาจะลดจำนวนเงินประจำสัปดาห์ เพราะว่าเราเอาข้าวไปกินจากบ้านไม่ต้องเสียเงินsinner เขียน:ทำไมเอาอาหารไปกินที่โรงเรียนไม่ได้ล่ะ โดนห้ามเหรอวอ แปลกจังวอ เขียน: อ่ะ แย่เลย เพราะว่าวอเอาอาหารไปกิน ที่ รร. ไม่ได้
แล้วเรื่องไปวัด เราก็ใส่20บาทเหมือนกัน เย้ๆๆ(มีเพื่อนแล้ว) ตอนนี้วอไปวัดยังไง พ่อแม่ไม่รู้หรอ
-
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm
บ้านเราก็อยู่ใกล้วัดเซนต์จอห์น แต่ว่าไม่ชอบเดิน นั่งวินแป๊ปเดียวก็ถึงวอ เขียน: ที่บ้านไม่มีใครรู้เรือ่งไปวัดเลยสักคน เวลาไปเดินไปนะเพราะบ้านอยู่แถววัดนักบุญยอแซฟ ตรอกจันทน์
-
- โพสต์: 1413
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
- ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
เปลี่ยนเป็น "อดข้าวกลางวันเพื่อพลีกรรมถวายแด่พระเพื่อคนยากจน" ก็ได้นะ สู้ๆ
(แอบคิดดังๆ : อืม...ม กลางวันทานข้าวมันไก่ก็อร่อยดีนะ ข้าวขาหมูก็ดี ข้าวหน้าเป็ด หรือผัดซีอิ๊ว ดีนะ 5555+)
(แอบคิดดังๆ : อืม...ม กลางวันทานข้าวมันไก่ก็อร่อยดีนะ ข้าวขาหมูก็ดี ข้าวหน้าเป็ด หรือผัดซีอิ๊ว ดีนะ 5555+)
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
บางอย่าง ตัดปัญหาได้ก็ตัดอ่ะครับ ยิ่งแบบยืมไปแล้วเอาไปทำลายเนี่ย
แต่ว่า..การเอาข้าวไปกินโรงเรียน ไม่น่าเป็นปัญหานะ...สำหรับผมมันเป็นความยุ่งยากมากกว่า อิอิ
สู้ๆคับ
แต่ว่า..การเอาข้าวไปกินโรงเรียน ไม่น่าเป็นปัญหานะ...สำหรับผมมันเป็นความยุ่งยากมากกว่า อิอิ
สู้ๆคับ
-
- โพสต์: 111
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มี.ค. 31, 2009 7:53 am
- ที่อยู่: วันจันทร์-เสาร์ อยูใกล้วัดอัสสัมชัญ
ไหนๆ ห้องมันขาดแคลนซะขนาดนั้น
ให้เหรัญญิก ห้อง เก็บตังค์ทุกคน ซื้ออุปกรณืเครื่องเขียน เลยมั้ยครับ 555
ส่วนเรื่องเครื่องเขียน ของใช้ส่วนตัว สมัยก่อนของผมก็หายบ่อย
แต่พอใช้วิธีการแปะชื่อตัวโตๆ มันก็ไม่หายเลยครับ ลองเอาไปทำดู ไม่สงวนลิขสิทธิ์
ให้เหรัญญิก ห้อง เก็บตังค์ทุกคน ซื้ออุปกรณืเครื่องเขียน เลยมั้ยครับ 555
ส่วนเรื่องเครื่องเขียน ของใช้ส่วนตัว สมัยก่อนของผมก็หายบ่อย
แต่พอใช้วิธีการแปะชื่อตัวโตๆ มันก็ไม่หายเลยครับ ลองเอาไปทำดู ไม่สงวนลิขสิทธิ์
-
- โพสต์: 1653
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 10, 2007 9:22 pm
- ที่อยู่: ไม่ใกล้ไม่ใกล้จากวัดอัสสัม-0-
เลิกใช้กล่องดินสอ แล้วเอาใส่กระเป๋ากางเกงตลอดเวลา ถ้าหายก็ไม่รู้จะว่าไงและ - -
-
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm
ไว้ในกางเกงเดี๋ยวมันก็ทิ่มขาหรอก....มู๋กระป๋อง เขียน: เลิกใช้กล่องดินสอ แล้วเอาใส่กระเป๋ากางเกงตลอดเวลา ถ้าหายก็ไม่รู้จะว่าไงและ - -