
ที่มา : คณะพระเมตตาแห่งประเทศไทย http://www.thai-divinemercy.com/index_divine_13.html

“จงพากเพียรพยายาม...ป่าวประกาศพระเมตตาของเราไปยังทุกคน
โลกเหลือเวลาอีกเพียงน้อยนิด
ดังนั้น ห้วงเวลาแห่งกิจศรัทธานี้จักสิ้นสุดลงในเร็ววัน”
พระเยซูคริสตเจ้าตรัสผ่านสแตนเล่ย์ วิลลาวีเซนซีโอ
มัมบาลิงก์ นครเซบู ฟิลิปปินส์
เมษายน 1996
ในห้วงเวลาที่มนุษยชาติตกอยู่ในภยันตรายก่อนจะถึงวันมหาวิปโยคนั้น ทั้งพระเยซูเจ้าและแม่พระ
(สหพันธ์พระหฤทัยคู่) กำลังทรงเร่งเรียกมนุษยชาติให้สำนึกกลับใจ และพึ่งพาพระเมตตาของพระองค์ด้วย
พระองค์เอง พระเยซูเจ้าทรงมอบหมายให้ สแตนเล่ย์ วิลลาวีเซนซีโอ จากฟิลิปปินส์ เร่งมือส่งเสริมและ
เผยแพร่กิจศรัทธาต่อพระเมตตาของพระองค์
วิธีเรียกขององค์พระผู้เป็นเจ้านั้นน่าพิศวงนัก ตอนที่พระองค์ทรงเรียกสแตนเล่ย์ นักบินของอเวียชั่น
ซีคิวริตี้คอมแมนด์จากนครเซบูในปี 1993 นั้น พระองค์ทรงทำให้เขามีอาการโคม่าเฉียดตาย! ในระหว่างห้วง
เวลานั้นเมื่อแพทย์ชี้ชัดว่าเขา ‘เสียชีวิตแล้ว’ สแตนเล่ย์ได้พบกับพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า องค์ความเมตตา
ในสวรรค์ ทรงรับสั่งกับเขาว่า “จงกลับไปยังโลกเพื่อทำภารกิจหนึ่ง”
สแตนเล่ย์ได้รับคำยินยอมและการสนับสนุนจากจิตตาธิการทั้งสองของเขา คือ คาร์ดินัลริคาร์โด วีดัล

และ มองซินญอร์คริสโทบัล การ์เซีย แห่งนครเซบู

และด้วยการรับรองจากสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่ง
ฟิลิปปินส์ ให้เขาเป็นพยานถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตเขาครั้งนั้น เขาเผยแพร่สารพระเมตตาของพระเยซู
เจ้าไปทั่วโลก
และต่อไปนี้คือเรื่องราวต่างๆจากประสบการณ์ของสแตนเล่ย์...

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++