มีใครชอบเเม่พระฟาติมามั่งคับ
ผมชอบมากเลยคับไปวัดเซนจอหน์ก็จะไปไหว้มันสบายใจอะคับ
ท่านเเบบเเต่งตัวเต็มยศเลยราชินีสวรรค์ผมรักพระเเม่ฟาติมามากที่สุดคับ
เพราะรู้ว่าท่านจะช่วยระงับความโกรธของพระบิดาบนสวรรค์ได้เเละช่วยเรา
ให้รอดได้เช่นเดียวกัน ;)
เเล้วอีกอย่างคับพระเเม่นิจจานุเคราะห์หมายความว่าไงอะคับอธิบายที ???
ท่านเเบบเเต่งตัวเต็มยศเลยราชินีสวรรค์ผมรักพระเเม่ฟาติมามากที่สุดคับ
เพราะรู้ว่าท่านจะช่วยระงับความโกรธของพระบิดาบนสวรรค์ได้เเละช่วยเรา
ให้รอดได้เช่นเดียวกัน ;)
เเล้วอีกอย่างคับพระเเม่นิจจานุเคราะห์หมายความว่าไงอะคับอธิบายที ???
ชอบ ตรง มงกุฎของแม่ครับ :)
ที่แม่เคยชี้ บอกว่า มาตามประสงค์ของกางเขน :D
ที่แม่เคยชี้ บอกว่า มาตามประสงค์ของกางเขน :D
แม่พระแห่งฟาติมา
13 พฤษภาคม
ชาวคาทอลิกศรัทธาต่อพระนางมารีย์ ผู้เป็นมารดาของพระเยซูคริสตเจ้า และยกพฤษภาคมเป็นเดือนของพระนาง ที่จะภาวนาสายประคำและรำพึงถึงพระางเป็นพิเศษ นอกจากนี้วันที่ 13 พฤษภาคม เป็นวันระลึกถึง " แม่พระแห่งฟาติมา " คาทอลิกส่วนมากทราบว่า พระนางมารีย์ได้ประจักษ์มาแก่เด็กเลี้ยงแกะสามคน ที่ตำบลฟาติมา ประเทศโปรตุเกส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 1917
ขณะที่สงครามโลกครั้งแรกใกล้จะสิ้นสุดลง เด็กทั้งสามคือ ด.ญ. ลูซีอา ซันโทส อายุ 10 ขวบ ( ยังมีชีวิตอยู่จนกระทั่งทุกวันนี้ ) และสองพี่น้องคือ ด.ช. ฟรังซิสโก มาร์โต อายุ 9 ขวบ และน้องสาวชื่อ ยาชินทา มาร์โต อายุ 7 ขวบ ทั้งสองครอบคัวเป็นญาติกัน อาศัยอยู่ในหมู่บ้านอัลยุสเตรล เป็นหมู่บ้านชาวนา - ชาวสวน รวมทั้งเลี้ยงสัตว์ ตามประวัติ แม้จะมีการเบียดเบียนศาสนาคริสต์ในประเทศนั้น โดยพรรคคอมมิวนิสต์ แต่ครอบครัวของเด็กทั้งสาม พ่อแม่เป็นคนศรัทธา สอนคำสอนแก่ลูกให้สวดภาวนา สวดสายประคำ มีความศรัทธาต่อพระเป็นเจ้า แม่พระและนักบุญ เด็กทั้งสามจึงเป็นเด็กศรัทธาน่ารัก เป็นเด็กซื่อๆ
แม้จะมีปัญหาการเมืองและสังคม แต่พระเป็นเจ้าและพระนางมารีย์ต้องการช่วยเหลือให้มนุษย์มีความเชื่อมั่นคง และให้โลกมีสันติภาพยุติสงคราม เลิกรบราฆ่าฟัน จึงโปรดให้ทูตแห่งสันติภาพได้ประจักษ์มาสามครั้ง ในปีค.ศ. 1916 แก่เด็กทั้งสาม
ครั้งแรกเทวดาประจักษ์มาในฤดูใบไม้ผลิ 1916 กล่าวว่า " อย่ากลัวเลย ฉันเป็นเทวดาแห่งสันติ จงสวดพร้อมกับฉัน ( แล้วเทวดาสวดบทสวด ) " ข้าแต่พระเจ้า , หนูชื่อ , หนูขอนมัสการ , หนูไว้วางใจและรักพระองค์ หนูขอโทษพระองค์สำหรับผู้ที่ไม่เชื่อ , ที่ไม่นมัสการ , ไม่ไว้วางใจ และไม่รักพระองค์ "
"สวดอย่างนี้นะ แล้วดวงพระทัยของพระเยซูเจ้าและแม่พระจะโอนอ่อนลงตามคำสวดของหนู "
ครั้งที่ 2 ในฤดูร้อน ปี 1916 " หนูจงสวดมาก ๆ ! ดวงพระทัยของพระเยซูเจ้าและแม่พระ มีโครงการมหากรุณาสำหรับหนู
13 พฤษภาคม
ชาวคาทอลิกศรัทธาต่อพระนางมารีย์ ผู้เป็นมารดาของพระเยซูคริสตเจ้า และยกพฤษภาคมเป็นเดือนของพระนาง ที่จะภาวนาสายประคำและรำพึงถึงพระางเป็นพิเศษ นอกจากนี้วันที่ 13 พฤษภาคม เป็นวันระลึกถึง " แม่พระแห่งฟาติมา " คาทอลิกส่วนมากทราบว่า พระนางมารีย์ได้ประจักษ์มาแก่เด็กเลี้ยงแกะสามคน ที่ตำบลฟาติมา ประเทศโปรตุเกส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 1917
ขณะที่สงครามโลกครั้งแรกใกล้จะสิ้นสุดลง เด็กทั้งสามคือ ด.ญ. ลูซีอา ซันโทส อายุ 10 ขวบ ( ยังมีชีวิตอยู่จนกระทั่งทุกวันนี้ ) และสองพี่น้องคือ ด.ช. ฟรังซิสโก มาร์โต อายุ 9 ขวบ และน้องสาวชื่อ ยาชินทา มาร์โต อายุ 7 ขวบ ทั้งสองครอบคัวเป็นญาติกัน อาศัยอยู่ในหมู่บ้านอัลยุสเตรล เป็นหมู่บ้านชาวนา - ชาวสวน รวมทั้งเลี้ยงสัตว์ ตามประวัติ แม้จะมีการเบียดเบียนศาสนาคริสต์ในประเทศนั้น โดยพรรคคอมมิวนิสต์ แต่ครอบครัวของเด็กทั้งสาม พ่อแม่เป็นคนศรัทธา สอนคำสอนแก่ลูกให้สวดภาวนา สวดสายประคำ มีความศรัทธาต่อพระเป็นเจ้า แม่พระและนักบุญ เด็กทั้งสามจึงเป็นเด็กศรัทธาน่ารัก เป็นเด็กซื่อๆ
แม้จะมีปัญหาการเมืองและสังคม แต่พระเป็นเจ้าและพระนางมารีย์ต้องการช่วยเหลือให้มนุษย์มีความเชื่อมั่นคง และให้โลกมีสันติภาพยุติสงคราม เลิกรบราฆ่าฟัน จึงโปรดให้ทูตแห่งสันติภาพได้ประจักษ์มาสามครั้ง ในปีค.ศ. 1916 แก่เด็กทั้งสาม
ครั้งแรกเทวดาประจักษ์มาในฤดูใบไม้ผลิ 1916 กล่าวว่า " อย่ากลัวเลย ฉันเป็นเทวดาแห่งสันติ จงสวดพร้อมกับฉัน ( แล้วเทวดาสวดบทสวด ) " ข้าแต่พระเจ้า , หนูชื่อ , หนูขอนมัสการ , หนูไว้วางใจและรักพระองค์ หนูขอโทษพระองค์สำหรับผู้ที่ไม่เชื่อ , ที่ไม่นมัสการ , ไม่ไว้วางใจ และไม่รักพระองค์ "
"สวดอย่างนี้นะ แล้วดวงพระทัยของพระเยซูเจ้าและแม่พระจะโอนอ่อนลงตามคำสวดของหนู "
ครั้งที่ 2 ในฤดูร้อน ปี 1916 " หนูจงสวดมาก ๆ ! ดวงพระทัยของพระเยซูเจ้าและแม่พระ มีโครงการมหากรุณาสำหรับหนู
คล้ายบทภาวนาพระเมตตาที่นักบุญซิสเตอร์โฟสตินาได้รับจากพระเยซูเจ้าเองเป็นอย่างมาก สิ่งนี้ชี้ชัดว่า นี่คือการร่วมแผนการทรงไถ่ของพระแม่กับพระบุตรของแม่อีกครั้งครั้งที่ 3 ฤดูใบไม้ร่วง ปี 1916 เทวดานำศีลมหาสนิทมาให้เด็กทั้งสาม ก่อนจะรับได้สอนให้สวดบทต่อไปนี้ 3 จบ " ข้าแต่พระตรีเอกภาพ พระบิดา พระบุตร และพระจิต หนูขอนมัสการพระองค์อย่างสุดซึ้งและขอถวายพระกาย พระโลหิต พระวิญญาณ และพระเทวภาพของพระเยซูคริสตเจ้าผู้สถิตในตู้ศีลทั่วสากลโลก เพื่อชดเชยการสบประมาท การทุราจาร และความเฉยเมยของผู้ทำผิดแสลงพระทัยของพระองค์ เดชะพระบารมีหาขอบเขตมิได้ แห่งดวงพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระเยซูเจ้า และดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์ ขอให้คนบาปกลับใจด้วยเถิด "
ผ่านทางซิสเตอร์โฟสติน่า พระเยซูเจ้าทรงขอให้สวดสายประคำพระเมตตา โดยเฉพาะดังที่พระองค์ตรัสแก่เธอว่า เพื่อเป็นการระงับพระพิโรธของพระเป็นเจ้า และโดยเฉพาะอย่างยิ่งดูเหมือนจะในยามที่เกิดภัยพิบัติอย่างร้ายแรงจากธรรมชาติ และสงคราม ฯลฯ ซิสเตอร์แจ้งว่า ต้นกำเนิดของสายประคำนี้ มีเหตุการณ์ซึ่งสร้างความตระหนกตกใจให้แก่เธอติดตามมาด้วย
เมื่อวันที่ 13 กันยายน ค.ศ.1935/2478 เธอเห็นเทวดาองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติตามพระพิโรธของพระเป็นเจ้า เทวดาผู้ปฏิบติลงโทษกำลังจะลงอาญา แก่บริเวณหนึ่งของโลก ด้วยการทำลายล้าง ทำให้ซิสเตอร์ต้องสวดภาวนาอย่างเร่าร้อน เธอเริ่มวิงวอนขอความกรุณาจากเทวดา แต่คำภาวนาของเธอดูเหมือนจะได้อำนาจ
ครั้นแล้วพระตรีเอกานุภาพ ทรงประจักษ์มาให้เธอเห็น เธอท่วมท้นไปด้วยพระบรมเดชานุภาพ และความศักดิ์สิทธิ์แห่งพระตรีเอกานุภาพ พร้อมกันนั้นเธอได้ยินถ้อยคำที่พูดอยู่ภายในตัวเธอเอง เธอจึงใช้ถ้อยคำที่ได้ยินนี้ เริ่มวิงวอนขอพระเมตตาจากพระเป็นเจ้า อภิมหัศจรรย์ในบรรดามหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น! ขณะที่เธอสวดภาวนาเช่นนี้เทวดาองค์นั้นหมดฤทธิ์อำนาจที่จะลงโทษ ถ้อยคำภาวนาดังกล่าวได้แก่ ข้าแต่พระบิดานิรันดร ข้าพเจ้าขอถวายแด่พระองค์ซึ่งพระกาย พระโลหิต พระวิญญาณ และพระเทวภาพแห่งพระบุตรสุดที่รักของพระองค์ พระเยซูคริสตเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อชดเชยบาปของข้าพเจ้าและชาวโลกทั้งมวล "
วันรุ่งขึ้น ขณะที่ซิสเตอร์โฟสติน่าเข้าไปในวัดน้อย พระเยซูเจ้าตรัสแก่เธอว่า
" ทุกครั้งที่ลูกเข้ามาในวัดน้อย จงสวดด้วยบทสวดที่เราสอนลูกเมื่อวานนี้ทันที บทสวดนี้ให้ไว้เพื่อระงับพระพิโรธของพระเป็นเจ้า... โอ้ พระหรรษทานซึ่งเราจะประทานให้แก่วิญญาณ ซึ่งจะสวดบทสายประคำนี้ช่างยิ่งใหญ่จริง ๆ ความเมตตาของเราจะคุ้มครองเขา และจะปกป้องเขาในระหว่างที่เขามีชีวิต และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่เขาจะสิ้นใจ พระสงฆ์ จะเสนอแนะบทสวดนี้แก่คนบาป ในฐานะเป็นเครื่องมือชิ้นสุดท้ายที่จะช่วยให้ได้รับความรอด"
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ เสาร์ มี.ค. 26, 2005 2:11 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Holy เขียน:
ที่น่าประหลาดคือ เด็กทั้งสามมิได้เล่าเรียน แต่สามารถเข้าใจบทภาวนาที่เทวดาสอนและจดจำมาสวดอีกบ่อยๆ
ไม่ใช่เพียงแค่ไม่ได้เล่าเรียน อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ แต่ยังเป็นแค่เด็กอีกด้วย แต่สารที่พวกเขาได้รับจากเทวดาจากสวรรค์ ก็ชี้ชัดว่า พระเยซูคือพระเจ้าคือพระบุตรของพระเจ้า ไม่ได้ขัดแย้งกับพระคัมภีร์ไบเบิ้ลแต่อย่างใดเลย และเทวดาก็ใช้ภาษาพื้นเมืองโปรตุเกสพูดกับเด็กๆ และเนื้อหาต่างๆ และบทสวดต่างๆ ก็ไม่ได้ถูกกำชับให้ใช้เป็นภาษาโปรตุเกสเท่านั้นแต่อย่างใด แต่ได้แปลออกมามากมายหลายภาษาทั่วโลกรวมทั้งภาษาไทยด้วย
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ เสาร์ มี.ค. 26, 2005 2:19 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 698
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 5:52 pm
Same answer The name of Mary is sweetness of my life and my soul.Ot@ เขียน: What evry form she came, she is my love, my life and my hope so I have to say I love very form of her equally, not only พระเเม่ฟาติมา or พระเเม่นิจจานุเคราะห์. :-*
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
ชอบ+รัก หมดแหละครับ ขึ้นชื่อว่าแม่พระ ;D
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
http://www.thai.to/diokorat/7sorrows/mother1.htmclaustrophobia เขียน: เเล้วอีกอย่างคับพระเเม่นิจจานุเคราะห์หมายความว่าไงอะคับอธิบายที ???
ที่นี่เลยครับ
ตอนนี้ก้อเข้าวัดแม่พระฟาติมาอยู่ครับ มีแห่พระรูปแม่พระฟาติมาทุกวันที่ 13 ของทุกเดือนครับ เวลา 19.00น.
อ้าว!! คุณ Clair de Lune ไปวัดเดียวกันเลยนะคะ.... ;D
แก้ไขล่าสุดโดย B^o^w เมื่อ ศุกร์ เม.ย. 08, 2005 3:49 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ปกติหากผมอยู่เมืองไทย จะไปร่วมมิซซาที่ฟาติมา ดินแดง หรือไม่ก็วัดพระชนนีของพระเป็นเจ้า(รังสิต) ครับผม แม่พระฟาติมา พูดแล้วคิดถึงเสมอ
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ผมก็ชอบครับ....แต่แม่พระไม่ว่าจะประจักษ์ที่ไหนก็มีแต่ความสง่างามทั้งนั้นครับ ที่สำคัญแม่พระทรงมีพระนามว่า "มารีย์" เพียงแค่ได้ยินพระนาม ความสุขก็มาสู่ผู้ที่เอ่ยพระนามแล้วครับ
ใช่ครับ
หากพูดถึงแม่พระฟาติมา ก็คงนึกถึงรูปแม่พระที่มีใบหน้าที่งดงามอ่อนหวานและเปียมไปด้วยความรัก ความเมตตา เวลาสวดที่ไรนึกถึงเพลง ชื่นอารมณ์ ทุกที " ยามได้อยู่เบื้องหน้าพระมารดาลูกลืมทุกสิ่งทุกอย่างในใจ ........"
แก้ไขล่าสุดโดย kyrie เมื่อ ศุกร์ ส.ค. 05, 2005 12:59 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
แม่พระฟาติมาชุดสีขาวลายขอบดอกพิกุลสีทอง สวมมงกุฎ มีดาว 12 ดวงล้อมศรีษะเป็นอาภรณ์ ยืนอยู่บนเมฆขาว
แม่พระเมืองลูร์ด สวมชุดสีขาว รัดประคดสีฟ้า ที่เท้าของพระนางมีดอกกุหลาบสีทอง 2 ดอก รอบล้อมไปด้วยธารน้ำแห่งศรัธทา
แม่พระกัวดาลูปเป้ ผิวของพระนางสีคล้ำ งามสง่าด้วยชุดสีน้ำเงินปักดิ้นทอง แสงสีทองเปล่งประกายโอบล้อม
ไม่ว่าพระนางจะเป็นแม่พระเมืองไหน ลูกอยากบอกให้แม่รู้ว่า ลูกมีความศรัธทาในตัวแม่พระเสมอและตลอดไป
แม่พระเมืองลูร์ด สวมชุดสีขาว รัดประคดสีฟ้า ที่เท้าของพระนางมีดอกกุหลาบสีทอง 2 ดอก รอบล้อมไปด้วยธารน้ำแห่งศรัธทา
แม่พระกัวดาลูปเป้ ผิวของพระนางสีคล้ำ งามสง่าด้วยชุดสีน้ำเงินปักดิ้นทอง แสงสีทองเปล่งประกายโอบล้อม
ไม่ว่าพระนางจะเป็นแม่พระเมืองไหน ลูกอยากบอกให้แม่รู้ว่า ลูกมีความศรัธทาในตัวแม่พระเสมอและตลอดไป
-
- โพสต์: 1413
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
- ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
ข้าเจ้า รักและศรัทธาในแม่พระฟาติมา เจ้าค่ะ
แล้วจี้ห้อยคอที่สวมอยู่ก็เป็นรูปแม่พระฟาติมาด้วยหล่ะ ใส่เป็นประจำทุกวันเลย
เพราะเป็นจี้รูปพระอันแรกที่ได้รับจากม่าม้าของเราหล่ะ
แต่ไม่ว่าแม่มารีย์จะประจักษ์มาในรูปลักษณ์ใด ก็แม่มารีย์ของเราเสมอ
รักแม่มารีย์เสมอค่ะ
(บอกรักแม่มารีย์ทุกวันมานานกว่า 20 ปีแล้ว และยังบอกอยู่ทุกวันนี้ค่ะ)
แล้วจี้ห้อยคอที่สวมอยู่ก็เป็นรูปแม่พระฟาติมาด้วยหล่ะ ใส่เป็นประจำทุกวันเลย
เพราะเป็นจี้รูปพระอันแรกที่ได้รับจากม่าม้าของเราหล่ะ
แต่ไม่ว่าแม่มารีย์จะประจักษ์มาในรูปลักษณ์ใด ก็แม่มารีย์ของเราเสมอ
รักแม่มารีย์เสมอค่ะ
(บอกรักแม่มารีย์ทุกวันมานานกว่า 20 ปีแล้ว และยังบอกอยู่ทุกวันนี้ค่ะ)
- (⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙)
- โพสต์: 892
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 12:38 am
แม่พระท่านก็มีหลายเวอชั่นนะคะ
อีกอย่างเวลาคนเคารพท่านอยู่ในประเทศไหนๆก็จะทำรูปปั้นท่านให้ใส่ตามชุดประจำชาตินั้นๆ
ดูแล้วสวยดีคะ
อีกอย่างเวลาคนเคารพท่านอยู่ในประเทศไหนๆก็จะทำรูปปั้นท่านให้ใส่ตามชุดประจำชาตินั้นๆ
ดูแล้วสวยดีคะ
ผมก็ชอบแม่พระฟาติมาเช่นกันครับ มองแล้วรู้สึกสงบครับ เหมือนเป็นแม่อีกคนถัดจากแม่พระและแม่ที่บ้านเลยครับ
ที่บ้านผมตั้งรูปแม่พระแห่งฟาติมาเอาไว้ที่พระแท่นกลางของบ้านครับ พอดีเพิ่งเสกบ้านเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาครับ
-
- โพสต์: 201
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 28, 2007 9:10 am
ทำไมเอาไม้กางเขนอยู่ต่ำกว่าแม่พระละคับ
ไม้กางเขนต้องสูงกว่าซิคับ
ไม้กางเขนต้องสูงกว่าซิคับ
พอดีตอนนี้มีแต่ไม้กางเขนแบบตั้งโต๊ะ แต่ตั้งใจว่าจะหาไม้กางเขนแบบแขวนผนังที่มีขนาดใหญ่พอสมควร แขวนไว้กระหว่างรูปพระเมตตากับรูปแม่พระครับ ส่วนไม้กางเขนอันนี้เป็นของเก่าแก่ประจำตระกูลได้รับตกทอดมาจากบรรพบุรุษ อายุของไม้กางเขนนี้ก็เกือบร้อยปี เป็นเครื่องหมายของความเชื่อศรัทธาที่ถ่ายทอดมายังลูกหลายเหลนโหลนkohtheboy01 เขียน: ทำไมเอาไม้กางเขนอยู่ต่ำกว่าแม่พระละคับ
ไม้กางเขนต้องสูงกว่าซิคับ
เรื่องความสูงต่ำ บางครั้งเราไม่อาจจะกำหนดได้ เพราะรูปพระแต่ละรูปก็มีขนาดแตกต่างกัน รูปส่วนใหญ่คนให้มา อย่างเช่นรูปพระตรีเอกภาพ คุณพ่อบุญเสริม เนื่องพลีให้มา ส่วนรูปแม่พระฟาติมาคุณพ่อวิจิตรเป็นผู้สั่งทำ คงจะไม่ถามนะครับว่า ในเมื่อพระตรีเอกภาพมีความสำคัญกว่าแม่พระฟาติมา ทำไมรูปแม่พระใหญ่กว่ารูปพระตรีเอกภาพ การจัดรูปพระผมเน้นหลักความสมดุลย์ และความสวยงาม รวมถึงเกียรติที่ควรให้แก่รูปต่าง ๆ ก็พยายามจัดให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Andreas เมื่อ พุธ ส.ค. 12, 2009 2:23 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 201
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 28, 2007 9:10 am
โอ้โหกางเขนร้อยปี
เหอะๆ
สงสัยจะขลังน่าดูเลยเนอะ
บรรพบุรุษเรามะเห็นมีกางเขนร้อยปีเลย
มีแต่ข้อพระคำภีร์สอนลูกหลานให้จำไปตายเท่านั้น
เหอะๆ
เพราะข้อพระคัมภีร์มันฝังรากอยุ่ในจิตใจ
พระเจ้าอวยพรคับพี่น้อง
เหอะๆ
สงสัยจะขลังน่าดูเลยเนอะ
บรรพบุรุษเรามะเห็นมีกางเขนร้อยปีเลย
มีแต่ข้อพระคำภีร์สอนลูกหลานให้จำไปตายเท่านั้น
เหอะๆ
เพราะข้อพระคัมภีร์มันฝังรากอยุ่ในจิตใจ
พระเจ้าอวยพรคับพี่น้อง