ว่าด้วยเรื่องของกิ๊ก (ชื่อผมเอง)

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Kichinto
โพสต์: 532
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 17, 2007 7:34 pm
ติดต่อ:

อังคาร พ.ย. 20, 2007 9:42 am

วันนี้เอาบทความฝ่ายโลกมาให้ดูกัน ... ว่าความคิดเด็กๆ และผู้ใหญ่สมัยนี้ของสังคมเป็นอย่างนี้(ตั้งนาน)กันแล้วนะครับ ... พออีกซัก 4-5 ปีมันจะมากขึ้นกว่านี้แน่ๆ
เรื่องของเรื่องที่เอามาให้อ่านก็เพราะอยากให้พูด ให้คิดว่าอะไร...ที่ใช่ก็ให้พูดว่า "ใช่" อะไรที่ไม่ใช่ก็ให้พูดว่า "ไม่ใช่" เพราะคำเสริมอื่นนอกนั้นเป็นคำจากซาตาน(ผมจำข้อพระคัมภีร์ได้ประมาณแบบ อาจจะไม่ค่อยตรงแต่ความหมายตรงครับ...ถ้าใครว่างก็ช่วยหาให้หน่อยจะดีมากเลย(ไม่เก่งพระคัมภีร์ : xemo031 :))

และพอดีก็ชื่อกิ๊กด้วย เศร้าเลย  :cry: เพราะชื่อนี้สมัยที่พ่อแม่ตั้งให้มันเป็นความหมายว่า กุ๊กกิ๊ก น่ารักน่าหยิก(ตอนเด็กๆน่าหยิก) แต่สมัยนี้เป็นความหมายว่าไปกุ๊กกิ๊กกัน เหอๆๆ : emo010 :

กิ๊ก กับ แฟน
จะเลือกใคร


รูปภาพ

" ต้องเลือกแฟนอยู่แล้ว กิ๊กนี่มีไว้ยังงั้นๆ แหละ เวลาเหงาๆ ไม่มีแฟนคุยด้วยก็คุยกับกิ๊กแทน เพราะบางเรื่องก็พูดกับแฟนไม่ได้เหมือนกัน แต่กับกิ๊กนี่พูดกันได้ทุกเรื่อง ปรึกษาได้เรื่องได้ราวมากกว่า แต่ก็ไม่คิดจะเอากิ๊กมาเป็นแฟนหรอกนะ"




" ยังไม่มีแฟนหรอกค่ะ แค่มีกิ๊กอยู่ 2-3 คนเท่านั้น ไม่ได้มีพันธะผูกพันอะไรกันมากนัก นอกจากเป็นคนสนิทเท่านั้นเอง เดี๋ยวนี้ไม่อยากจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตน เพราะต้องเสียเวลาเอาอกเอาใจ ต้องรับผิดชอบความรู้สึกและอารมณ์ของแฟน แถมมีแฟนของเพื่อนหลายต่อหลายคน ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของจนไม่เป็นตัวของตัวเอง



" มีกิ๊กดีกว่าเยอะ มาสั่งให้เราทำโน่นทำนี่ไม่ได้ และเราก็ไม่ต้องคอยไปเอาอกเอาใจด้วย มีใจเมื่อไหร่ก็มาพูดคุยกัน ไปเที่ยวกัน แค่ระวังไม่ให้อะไรต่อมิอะไรเกินเลยไป จนควบคุมไม่ได้ก็พอ"




" มีแฟนแล้วครับ แต่แฟนเล่นตัวมากและงอนเก่ง จนบางครั้งหงุดหงิด และคิดว่าในอนาคตบางทีก็อาจจะไปด้วยกันไม่ได้ เลยต้องแอบหากิ๊กเอาไว้อีกคนหนึ่งไม่ให้แฟนรู้ พอเลิกรากับแฟนไป อย่างน้อยก็ยังมีกิ๊กเป็นตัวสำรองอยู่"




" แฟนหนุ่มนะคะ ได้แล้วก็ทำเฉยๆ ไม่ค่อยอินังขังขอบเหมือนก่อนที่จะได้เราเท่าไหร่ เลยเกิดความไม่แน่ใจว่าจะโดนเขาทิ้งไปหลังจากได้เราหรือเปล่า เพราะเพื่อนๆ ก็โดนกันบ่อย เลยคิดว่าถ้าแอบมีกิ๊กไว้อีกคน เอาไว้กุ๊กกิ๊กกันเล่นๆ บ้าง



" อย่างกิ๊กนี่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร น่าจะดี เราก็ไม่ต้องไปเอาใจเขา เขาก็ไม่มีข้อผูกพันอะไรกับเรา แค่มีความสุขและสนุกด้วยกันก็น่าจะพอใจแล้วจริงไหมคะ อย่างน้อยเวลาที่แฟนเลิกไปก็จะได้บอกเขาว่า ฉันก็ยังมีคนที่รอคอยฉันอยู่เหมือนกัน มันทำให้รู้สึกดีขึ้น และมั่นใจขึ้นน่ะค่ะ ไม่ใช่เป็นคนหลายใจหรอก แค่ทำให้เกิดความมั่นใจขึ้นเท่านั้นเอง"




" ที่จริงก็ไม่อยากจะทำเหมือนคนหลายใจ ที่มีนอกมีในแบบที่คนเขาว่ากันหรอกนะครับ ถึงผมจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตน แบบว่าจะแต่งงานกันในอนาคตแล้ว แต่ตามประสาหนุ่มๆ น่ะ ถ้ามีโอกาสแล้วผู้หญิงเขาสมยอม ว่าจะเป็นกิ๊กของเราโดยไม่มีอะไรผูกพัน ผมว่าผู้ชายคนไหนไม่โอเคก็คงจะโง่บัดซบจริงไหมครับ



" แน่นอนครับ ผมไม่มีทางบอกให้แฟนผมรู้หรอก เพราะเธอไม่มีทางรับได้ ถ้าเธอรู้จะทำอย่างไรหรือครับ อ๋อ ก็คงจะบอกไปว่าไม่มีอะไรหรอก แค่คบเล่นๆ เท่านั้น หวังว่าเธอคงจะเข้าใจ แต่ถ้าไม่เข้าใจแล้วจะเลิกกันไป ผมก็ไม่ว่าอะไรหรอก ผู้หญิงไม่ได้มีคนเดียวสักหน่อย"




" เดี๋ยวนี้ผู้หญิงผู้ชายเท่าเทียมกันนะคะ ผู้ชายแอบมีแฟนทีเดียว 2 คน ทำไมผู้หญิงเราจะแอบมีกิ๊กบ้างไม่ได้ ก็ไม่ได้มีความผูกพันหรือผูกมัดอะไรกันสักหน่อย คบกันเฉยๆ แบบว่าเป็นคนที่รู้ใจมากกว่าเพื่อนเท่านั้น



" อ๋อ เรื่องนั้นน่ะหรือคะ ก็ถ้ามันจะต้องมีบ้างเพื่อรักษาความสัมพันธ์เอาไว้ คงจะต้องยอมบ้างเหมือนกัน ก็คนสนิทรู้ใจกันนี่นา แล้วเดี๋ยวนี้ใครๆ เขาก็ไม่ได้ซีเรียสในเรื่องแบบนั้นกันมาก แค่รักกันก็พอ จะมาถามหาพรหมจารีบ้าบออะไรกันอีก"



...นั่นก็คงจะเป็นหลากหลายความคิดเห็น เท่าที่ลองสอบถามคนที่ยอมรับว่ามี 'กิ๊ก' แล้วดู



บางความเห็นก็น่ากลัวเหมือนกันว่า ถ้านี่เป็นความคิดของคนรุ่นใหม่แล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับสังคมของเรา บางคนก็มองว่า ท่ามันจะไปไกลกันหนักหนาแล้ว!!




แม้กระทั่งการสำรวจพฤติกรรมทางเพศของคนทั่วโลกที่กระทำกันทุกปี ก็มีข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมหลายใจ หรือมีหลายรัก โดยเมื่อถามว่า



" คุณมีพฤติกรรมที่มีคนรักแล้ว แต่ไปมีความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นโดยไม่ยอมบอกให้คนรักรู้ตัวบ้างไหม"

...จะเรียกว่า พฤติกรรมนอกใจหรือหลายรักก็คิดเอาเอง

แต่ก็คล้ายๆ กับถามว่า คุณมี 'กิ๊ก' ไหมนั่นแหละ!!




ผลออกมาน่าตกใจตรงที่ หญิงสาวอายุ 20-25 ปี ชาวไทยครองแชมป์ชนะเลิศในกรณีนี้ ...ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเป็นความจริง เพราะการสำรวจในครั้งนั้นทำการสำรวจผ่านอินเทอร์เน็ต โดยไม่ต้องเจอกันระหว่างคนถามกับคนตอบ

ก็แปลว่า ถ้าให้เกียรติคนตอบว่า ...ตอบตามความจริง

ข้อมูลที่ได้ก็น่าจะพอยอมรับได้ในระดับหนึ่ง... ว่าผู้หญิงกับผู้ชายนั้นเท่าเทียมกันแล้ว ในเรื่องของการมีหลายรัก หรือมีรักเผื่อเลือก... รักสำรอง



...ไม่ว่าจะเรียกอะไร 'กิ๊ก' หรือไม่ใช่ 'กิ๊ก' ก็ตาม

แต่ห้ามเรียกว่าเป็น... แฟนฉัน


ก็เลยต้องมาเขียนให้อ่านกันว่า ในยุคที่ไม่มีทางรู้ว่าตัวเองนั้นเป็น 'แฟน' หรือเป็น 'กิ๊ก' กันแน่ๆ แบบนี้จะทำอย่างไรดี

ก่อนอื่นก็ต้องรู้ก่อนว่า กิ๊กนั้นหมายถึงใครสักคนที่ลึกซึ้งกว่าคำว่าเป็น 'เพื่อน' แต่ยังไม่ซาบซึ้งขนาดยอมรับว่าเป็นคนรักหรือ 'แฟน'

แล้ว 'กิ๊ก' นี้จะมีพร้อมๆ กับมีแฟนตัวจริงก็ได้

หรือจะมีแต่ 'กิ๊ก' หลายๆ คนก็ได้

จะมีความสัมพันธ์แค่เป็นเพื่อนผู้รู้ใจไว้คุยกัน ปรับทุกข์กัน หรือปรึกษาหารือกันในเรื่องราวต่างๆ ที่อยากจะปรึกษากัน ...หรือจะมีความสัมพันธ์ที่ซาบซึ้งทางกายด้วยเพียงภายนอกก็ได้

แน่นอนว่า อาจจะถึงขั้นมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งประเภทเนื้อแนบเนื้อ และทุกสัดส่วนหลอมรวมกันเลยก็ได้ เช่นเดียวกับที่มีกับคนรักหรือแฟน


แต่ห้ามโดย!!!

ห้ามแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ห้ามมีความผูกพันที่ลึกซึ้งเกินไป และห้ามคิดครอบครองอย่างเด็ดขาด

เพราะมีไว้แค่เป็น... ตัวสำรอง ไว้เผื่อเลือก

หรือแค่มีไว้ปลอบใจเวลาโดนแฟนทิ้งก็ไม่รู้!!


การจะมีชีวิตอย่างมีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในยุคที่อะไรต่อมิอะไรก็ไม่แน่นอนเช่นยุคนี้ จึงเป็นศาสตร์และศิลป์ที่จะต้องเรียนรู้

ถึงเป็นแฟนกัน ก็อาจจะไม่ได้แต่งงานกันในอนาคต อาจจะต้องเลิกรากันไปก่อนเวลานั้นก็ย่อมได้ และจะเชื่อบ้างไหมว่า เดี๋ยวนี้ผู้หญิงยุคใหม่บอกเลิกกับผู้ชายก่อนแล้ว ถ้าไม่ถูกใจหรือไม่ตรงสเปค


ถึงเป็นแฟนกัน ก็ไม่แน่ที่แต่ละคนอาจจะมี 'กิ๊ก' อยู่ด้วย โดยไม่ยอมเปิดปากออกมาให้รับรู้ เพราะในยุคที่การติดต่อสื่อสารไร้พรมแดนแบบนี้ ความก้าวไกลทางข้อมูลก็เกิดขึ้นง่าย การปกปิดก็จะถูกค้นพบได้ยากขึ้น


ควรทำตัวเป็นคนไม่ยึดมั่นถือมั่นมากนัก คิดเสียว่าถ้าเป็นเนื้อคู่แล้วย่อมไม่แคล้วกัน ถ้าเป็นคู่กรรมก็ขอให้ล้มหายตายจากไปแต่เร็วไว ใครเป็นคู่แท้ก็ขอให้เจอกันเร็วๆ หน่อยก่อนที่จะสิ้นหวังไป


การมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งถึงขนาดที่ว่าเป็นเพศสัมพันธ์นั้น ไม่ได้หมายความว่า ความรักจะยั่งยืน และอวัยวะบางสิ่งบางอย่างก็อย่านึกว่าเป็นของใช้ส่วนตัว เพราะอาจจะเป็นของสาธารณะที่ใช้ร่วมกันก็ได้ใครจะรู้


การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่สุด ถ้าคิดจะร่วมรักกับใครสักคน ชวนกันไปตรวจเลือดก่อนดีกว่าว่า มีโรคภัยไข้เจ็บที่จะถ่ายทอดถึงกันไหม การตรวจก่อนแต่งไม่พอแล้วในยุคนี้ ต้องตรวจก่อนมีเซ็กซ์กัน ถ้ายังไม่แน่ใจ ให้คิดถึงความปลอดภัยไว้ก่อนการแสวงหาความสุขทางกายเสมอๆ จำไว้เลยว่า ครั้งเดียวก็เหลือจะพอที่จะติดเอดส์... เตือนแล้วนะไม่เชื่อก็ตัวใครตัวมัน




การอยู่เป็นโสด จึงกลายเป็นเรื่องที่ทันสมัยขึ้นมาอีกครั้ง เพราะในยุคที่ไม่สามารถจะมั่นใจอะไรๆ ได้แบบนี้ การเรียนรู้ที่จะรักตัวเองและมีความสุขในความเป็นตัวของตัวเอง น่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสมและปลอดภัย

และไม่ว่าอย่างไร... รักแท้ยังรอคุณอยู่เสมอ

ถ้าคุณรู้จัก...รอบ้าง

จะทำอะไรอย่าใจร้อน... จะได้ไม่เป็นแค่กิ๊ก

...หรือตัวสำรอง ไม่ว่าจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม



ที่มา...เนชั่นสุดสัปดาห์
แก้ไขล่าสุดโดย Kichinto เมื่อ อังคาร พ.ย. 20, 2007 9:47 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Marie Antoinette
โพสต์: 626
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 8:07 pm
ที่อยู่: bkk

อังคาร พ.ย. 20, 2007 11:55 am

ถ้าจะให้เลือก ระหว่างกิ๊กกะแฟน

ต้องดูว่านิสัยดีกว่ากัน ::020:: ::020:: ::020::

แต่ว่า..............ทำไมหนูมะเคยมีกิ๊กกะเค้าเลยนะ  ฮึ่มมมม ::019::
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร พ.ย. 20, 2007 12:20 pm

จริง ๆ ถ้ามีแฟนแล้ว ก็ไม่ควรมีกิ๊กนะครับ ::016::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Kichinto
โพสต์: 532
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 17, 2007 7:34 pm
ติดต่อ:

อังคาร พ.ย. 20, 2007 12:27 pm

เอ้... ไม่รู้ว่าความคิดเห็นของคุณนี้เป็นการพูดเล่นๆ ขำๆ หรือว่าอยากได้กิ๊ก และกำลังหากิ๊กจริงๆ

ถ้าไม่จริงก็ขำๆ 555  : xemo017 :

... แต่ถ้าจริงก็ขอตำหนิว่า อย่าหลายใจเลยเน้อ มันเป็นกระแสแฟชั่นวงจรอุบาทว์ รักคนเดียวนั่นแหละไม่ว่า เค้าจะดีจะชั่วยังไงก็รักให้ตลอดรอดฝั่ง ("เพราะว่ารักนั้นอดทนนาน") ถ้าหากเป็นแผนการที่พระเจ้าลองใจก็จะได้พิสูจน์ตัวเองนั้นได้ปฏิบัติตามที่พระคัมภีร์ได้บอก เช่น"จงรักศัตรูของท่าน อย่าได้รักเฉพาะคนที่รักท่านเลย" "จงให้อภัยซึ่งกันและกัน" "หากเจ้ากระทำสิ่งใดกับผู้ที่ต่ำต้อยกว่าก็เหมือนได้กระทำกับเราเอง" (ป.ล.ผมแค่เขียนสรุปที่เข้าใจ อาจจะไม่ตรงตามอักษรพระคัมภีร์เป๊ะแต่ก็คงเคยได้อ่านกันนะ)

... ซึ่งการรักศัตรูของท่านก็พิสูจน์ได้ว่าเรารักคนที่ไม่รักเราได้ เราให้อภัยเค้าได้...ลองสมมุติดูว่า ถ้าหากวันหนึ่งคนรักของคุณที่ปฏิบัติตัวดีมาตลอดแต่วันหนึ่งพลาดพลั้งอย่างร้ายแรงขั้นสาหัสมากๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม คุณสามารถให้อภัยได้ไหม ...แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะตกใจ โกรธ หรือเครียด ซึ่งแม้แต่ผมก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าจะไม่รู้สึกอย่างนั้น... แต่ถ้าหากว่าเราใจเย็นๆ ใช้คำภาวนา และเวลาเป็นการขอให้พระองค์ช่วยเหลือในการหาทางออกก็จะดีเอง

...และถ้าอยากดูว่า ใครคนไหนนิสัยดีอย่างไรนั้นก็ดูง่ายๆแค่ดูที่ การกระทำของเขากับผู้ต่ำต้อยกว่าคล้ายคำที่ว่า "อยากรู้ว่าเจ้านายเป็นอย่างไรให้ถามลูกน้อง" "ดูนางให้ดูแม่" และถ้าอยากรู้อย่างรวดเร็วว่าแฟนเป็นคนอย่างไรก็ขอให้ดูการพูดจากับพ่อแม่ (แบบไม่ให้เค้ารู้ตัวนะ ..แอบดู) ก็จะดีมาก และการเป็นคนดูแลตัวเองดีก็ช่วยบอกได้ระดับหนึ่งว่าขนาดตัวเองยังดูแลดีแสดงว่าคนอื่นต้องดูแลได้ ห้องส่วนตัวก็เหมือนกันถ้าดูดีสะอาดพอใช้ได้ก็โอเคแล้ว (แต่ต้องแอบดูนะ...เผื่อว่าเค้าจัดเอาไว้แบบผักชีโรยหน้า)

...แฟนบางคนออกลายตอนคบกันไปนานแล้ว แบบว่าเริ่มเบื่อๆกันแล้ว ..ทำให้หลายคนอาจจะคิดว่าแฟนเปลี่ยนไปแล้วมั้ง ...แต่ผมคิดว่าแฟนคุณไม่ได้เพิ่งเปลี่ยนไปหรอก เพียงแต่ว่าเค้าเปลี่ยนไปหลังจากอยากได้คุณเป็นแฟนตังหาก ก็เลยเปลี่ยนแปลงนิสัย(สันดาน)ตนเองเพื่อทำให้ตนเองนั้นดูดีในสายตาของคนรัก พูดง่ายๆก็คือไม่ได้เปลี่ยนไปหลังจากที่คบกันนานๆ แต่เปลี่ยนตั้งแต่เริ่มต้นแล้วหล่ะ และที่นิสัย(สันดาน)ออกก็เพราะว่าสถานะนิสัยของเขากำลังปรับเป็นแบบที่เค้าเป็นแหละ คือกลับเข้าสู่จุดเดิมหลังจากที่เปลี่ยนตัวเองเพื่อนคนรัก แต่พอได้สมหวังได้ใจปรารถนาแล้วก็คิดว่าได้แล้ว ได้ลิ้มรสแล้วก็เบื่อ ไม่ค่อยเห็นคุณค่าเท่าไหร่ ... นิสัยนี้จะดูง่ายๆจากคนที่ชอบช๊อปปิ้งแล้วไม่ค่อยสนใจของที่ซื้อมา หลังจากที่เห่อได้สักพักแหล่ะครับ

...พัฒนาการของนิสัย
- ชอบรังแกสัตว์ ดูการกีฬาที่ใช้ความรุนแรง และซาดิสม์ เคยฆ่าสัตว์ใหญ่น้อย ก็สามารถพัฒนาไปสู่การฆาตกรรมมนุษย์ได้หากมีความโกรธและขาดสติมาแทรกแซง
- ชอบความอุลามก ดูหนังโป๊ ดูการ์ตูนลามกทะลึ่ง ก็พัฒนาไปสู่ การหลายใจ คบหลายคน เป็นเอดส์ได้
- ชอบด่าพ่อแม่ ด่าน้อง พี่ เพื่อนแบบคำหยายคาย ก็สามารถพัฒนา ไปใช้กับคนรักได้

... สิ่งเล็กๆน้อยๆของนิสัยอย่ามองข้ามเพราะมันพัฒนาการได้ เพราะฉะนั้นถ้ารู้ว่าตนเองอ่อนแอก็เข้าวัด สวด และฟังเพลงเทเซ่บ่อยๆก็จะทำให้เราคิดไปในทิศทางที่ดีของพระเจ้า และเชื่อฟังพระบรมโชวาทขององค์ในหลวงเรื่องการอยู่อย่างพอเพียง (ฟังเพลงวัยรุ่นบ่อยๆก็ไม่ดีนะ เพราะมันปั่นหัวเราให้คิดแบบมันอ่ะ เพลงอกหักเงี่ย เฮ้อ)

สุดท้ายนี้ก็ภาวนาขอให้แฟนที่ตนเองคบนั้นมีนิสัยที่ดีในสายตาพระเจ้า และต่อเราด้วย ตอนนี้เค้าเป็นอย่างไรช่างเค้า เพียงแต่เรารักษาจุดยืนของเราว่าเรารักเค้าไม่รักใครเพิ่มเพื่อเผื่อ เพราะมันเป็นการไม่ให้เกียรติแฟนตัวเองอย่างหนึ่งเหมือนกัน ภาวนา อดทน ภาวนา อดทน และก็อดทน ถ้าหากเค้าใช่เนื้อคู่ของเราจริงๆเค้าก็จะอยู่รอดกับเรา แต่ถ้าไม่พระก็จะให้เค้าไปจากเราเอง

เอ๋อ ทำไมเขียนยาวจัง เอาไว้แค่นี้ก่อน อย่าว่ากันนะถ้าบางประโยคมันดูไม่ต่อเนื่อง เพราะความคิดมันพลุ๊บๆโผล่ๆ จับไว้ไม่ทัน อิอิ

จากคนชื่อ "กิ๊ก"
แก้ไขล่าสุดโดย Kichinto เมื่อ อังคาร พ.ย. 20, 2007 12:57 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Marie Antoinette
โพสต์: 626
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 8:07 pm
ที่อยู่: bkk

อังคาร พ.ย. 20, 2007 1:58 pm

ข้อคิดเห็นส่วนตัว
บุคคลที่สมควรที่จะมีกิ๊กได้ ควรจะ
- มีการมีงานที่จะยังชีพตัวเองได้และที่สำคัญ ต้องบรรลุนิติภาวะด้วยนะ
- มีความรับผิดชอบต่อตัวเองพอสมควร
- แยกแยะความผิดชอบชั่วดีได้
- และเมื่อคุณยังไม่ได้แต่งงาน

::014:: ::014:: ::014:: ::014::

อันนี้พูดถึงคนที่โตเป็นผู้ใหญ่และคนโสดนะคะ แต่ถ้าเด็กในวัยเรียนก็ไม่สนับสนุนเหมือนกัน สาเหตุที่ยกมาว่าทำไมต้องเป็นผู้ใหญ่เท่านั้น เหตุผลก็อย่างที่กล่าวข้างต้น และเมื่อคุณเป็นผู้ใหญ่และเป็นสัตว์สังคม การคบบุคคลต่างเพศจึงไม่เป็นเรื่องแปลก การมีกิ๊กสำหรับบุคคลเหล่านี้ในสายตาเมลิสสา  ก็เป็นเรื่องที่โอเคถ้าเราคบอย่างถูกต้องไม่ปล่อยตัว เพื่อว่าเราจะได้ศึกษานิสัยของแต่ละคนได้ บางคนอาจจะบอกว่า คบทีละคนก็ได้นี่ ได้แน่นอนค่ะ ถ้าคุณไม่เสียดายเวลา แต่เท่าที่สังเกตนะ น้อยมากเลยนะที่จะคบคนคนเดียว แต่งงาน อยู่จนถึงแก่เฒ่า (พูดถึงปัจจุบัน) ในฐานะคนในสังคมคนนึง ขอบอกได้เลยว่า คนเรานะพอคบกันไปนานๆ ความเป็นตัวตนแต่ละคนก็เริ่มเผยออกมา ถ้าเจอคนเสมอต้นเสมอปลายก็ฟลุคไปนะขอบอก การคบคนทีละหลายคน เป็นการช่วยให้เราสามารถเลือกได้ว่า คนไหนเหมาะกับคุณ คนไหนเป็นคนที่คุณพร้อมที่จะลงเอยด้วย แต่จะคบกันทีละกี่คนนั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถในการแยกแยะก็แล้วกันค่ะ   

 
แก้ไขล่าสุดโดย Marie Antoinette เมื่อ อังคาร พ.ย. 20, 2007 2:22 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Edwardius
โพสต์: 1392
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 3:02 pm
ที่อยู่: Lamphun, Thailand

อังคาร พ.ย. 20, 2007 3:14 pm

สวัสดีพี่กิ๊ก!!
555+
Nativity
โพสต์: 766
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 15, 2005 3:31 pm
ที่อยู่: Peace in sinner

อังคาร พ.ย. 20, 2007 5:27 pm

ไม่เคยมีกิ๊กไม่เคยมีเเฟน    :police:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Kichinto
โพสต์: 532
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 17, 2007 7:34 pm
ติดต่อ:

อังคาร พ.ย. 20, 2007 5:35 pm

นานาจิตตัง แล้วแต่ใครจะคิดเน้อ...แต่ขอให้ยึดหลักพระคัมภีร์และในหลวงพอแย้ว เอิ๊กๆๆๆ  :grin:

สวัสดีครับ เอ็ดดี้ผีน่ารัก เอ้ย เอ็ดดี้หมูน้อยเทวดา ...คนละปูนเน้อ
แก้ไขล่าสุดโดย Kichinto เมื่อ อังคาร พ.ย. 20, 2007 5:39 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

อังคาร พ.ย. 20, 2007 9:40 pm

ถ้าให้เลือกระหว่างกิ๊ก กะ  แฟน 
เลือก พระเจ้าค่ะ  ::005::
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

อังคาร พ.ย. 20, 2007 11:40 pm

ความรักแบบคริสตชนคือ  ความรัก  มั่นคง  ยาวนาน  ไม่ฉาบฉวยและไม่ครอบครอง  เป็นความรักของพระเป็นเจ้าที่เราต้องแสดงให้กับผู้อื่น

ความคิดมีกิ๊กน่าจะเกิดจากการไม่อยากรับผิดชอบ  และไม่อยากรับความทุกข์จากความรักรึเปล่า  ... 

แต่จริงๆการมีกิ๊กมีข้อดีข้อเสียนะคะ  ในแง่ความรักนะ   ::001::

ข้อดีคือ  เราสามารถรักใครโดยไม่หวังผล  ทำสิ่งดีๆให้กันได้โดยไม่คิดอะไรตอบแทน  กิ๊กถึงไม่เรื่องมากไง  ไม่เรียกร้อง   ::001::  ซึ่งการจะมีความสัมพันธ์ที่ดี  ก็ต้องเรียนรู้ตรงนี้เหมือนกัน  รู้ที่จะปล่อย  และรู้ที่จะรักโดยไม่หวังผล  ไม่เป็นเจ้าข้าวเจ้าของ   ::001::  บางทีกิ๊กทำไปเพราะไม่ได้รัก  แต่เราสามารถรัก  แต่ทำอย่างกิ๊กได้  คือไม่เป็นเจ้าข้าวเจ้าของ    ::001::

แต่ข้อเสียก็อย่างที่รู้ๆ  คือไม่มี  fidelity ก็ infidelity  นั่นแหละ    ภาษาไทยน่าจะเป็นรักมั่นคงยาวนานปะ คือ ในการที่เราจะมีความรัก  ความสัมพันธ์  เราต้องอดทนและต้องยอมเจ็บปวด  ทนกับความผิดหวังได้  อันนี้ทุกความสัมพันธ์นะ  มีผิดหวังทั้งนั้นแหละ...   กับพระเหมือนกัน  บางทีเรามีทุกข์  วอนขอแล้วไม่ได้  เราก็ผิดหวัง  บางคนไปหาเจ้าพ่อเจ้าแม่อะไรแทน  ก็เหมือนไปมีกิ๊กนั่นแหละ  บอกว่า  ไม่ได้จริงจังอะไร  แต่ก็ไปหา   ::009:: .... เหมือนกัน  มีแฟน  พอแฟนงอน  ก็รำคาญ  แทนที่จะใช้ตรงนั้นเรียนรู้กันว่า  เค้าเป็นคนแบบนี้นะ  อันนี้เค้าไม่ชอบนะ  เรียนรู้วิธีง้อ  วิธีเอาใจ  และเราก็จะเรียนรู้ความรักมากขึ้น  เปลี่ยนตัวเองดีขึ้น  ฝ่ายที่งอนซ้ำซาก  ก็ปรัีบตัว (เพราะเวลาเค้าง้อ  เราจะเห็นความพยายามเค้านะ  ตรงนั้นแหละมันก็ทำให้ปรับได้เช่นกัน  ซึ่งถ้าปรับไม่ได้  ความสัมพันธ์ก็คงต้องมีเลิกรานะ)  ....  ถ้าเป็นกับพระ  สวดขอแล้วไม่ได้  แทนที่จะไปหาเจ้าพ่อเจ้าแม่ (กิ๊ก)  ก็มาเรียนรู้ว่า  พระจะสอนอะไรเรา  อย่างแรกก็อดทนก่อน  ต่อมาก็ค่อยๆเรียนรู้ว่า  เราควรสวดแบบไหน  นี่สิ  ถึงเป็นความรัก  เป็นการเรียนรู้ทางแห่งรัก  เป็นการสร้างความสัมพันธ์แบบคริสตชน   ::001::

พี่ว่า  เราต้องเรียนรู้สิ่งดีๆจากกิ๊กด้วย  อย่างที่บอก  อย่างที่พระสอนเราเรื่อง dishonest steward อ่ะ (ลก 16:1-10)  คนชั่วแค่ไหนก็มีข้อดีในตัวให้เราเรียนจากเค้าได้  เราเรียนจากเค้า  แต่เราทำด้วยจิตใจอย่างพระ  (เทียบ ลก 16:8-9) ::001::   กรณีนี้คือ เราเรียนรู้ที่จะปล่อย  แต่ไม่ใช่เราเล่นๆ  หรือไม่จริงจัง  เพราะกลัวผิดหวัง  หรืออะไร แต่เราปล่อยเพื่อให้เค้ามีอิสระ  มีความเป็นส่วนตัว  และเราเรียนรู้ที่จะรักโดยไม่ครอบครอง   ::001::
แก้ไขล่าสุดโดย Buddy เมื่อ พุธ พ.ย. 21, 2007 12:14 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

พุธ พ.ย. 21, 2007 12:09 am

kichinto เขียน:
... แต่ถ้าจริงก็ขอตำหนิว่า อย่าหลายใจเลยเน้อ มันเป็นกระแสแฟชั่นวงจรอุบาทว์ รักคนเดียวนั่นแหละไม่ว่า เค้าจะดีจะชั่วยังไงก็รักให้ตลอดรอดฝั่ง ("เพราะว่ารักนั้นอดทนนาน") ถ้าหากเป็นแผนการที่พระเจ้าลองใจก็จะได้พิสูจน์ตัวเองนั้นได้ปฏิบัติตามที่พระคัมภีร์ได้บอก เช่น"จงรักศัตรูของท่าน อย่าได้รักเฉพาะคนที่รักท่านเลย" "จงให้อภัยซึ่งกันและกัน" "หากเจ้ากระทำสิ่งใดกับผู้ที่ต่ำต้อยกว่าก็เหมือนได้กระทำกับเราเอง" (ป.ล.ผมแค่เขียนสรุปที่เข้าใจ อาจจะไม่ตรงตามอักษรพระคัมภีร์เป๊ะแต่ก็คงเคยได้อ่านกันนะ)

... ซึ่งการรักศัตรูของท่านก็พิสูจน์ได้ว่าเรารักคนที่ไม่รักเราได้ เราให้อภัยเค้าได้...ลองสมมุติดูว่า ถ้าหากวันหนึ่งคนรักของคุณที่ปฏิบัติตัวดีมาตลอดแต่วันหนึ่งพลาดพลั้งอย่างร้ายแรงขั้นสาหัสมากๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม คุณสามารถให้อภัยได้ไหม ...แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะตกใจ โกรธ หรือเครียด ซึ่งแม้แต่ผมก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าจะไม่รู้สึกอย่างนั้น... แต่ถ้าหากว่าเราใจเย็นๆ ใช้คำภาวนา และเวลาเป็นการขอให้พระองค์ช่วยเหลือในการหาทางออกก็จะดีเอง

...และถ้าอยากดูว่า ใครคนไหนนิสัยดีอย่างไรนั้นก็ดูง่ายๆแค่ดูที่ การกระทำของเขากับผู้ต่ำต้อยกว่าคล้ายคำที่ว่า "อยากรู้ว่าเจ้านายเป็นอย่างไรให้ถามลูกน้อง" "ดูนางให้ดูแม่" และถ้าอยากรู้อย่างรวดเร็วว่าแฟนเป็นคนอย่างไรก็ขอให้ดูการพูดจากับพ่อแม่ (แบบไม่ให้เค้ารู้ตัวนะ ..แอบดู) ก็จะดีมาก และการเป็นคนดูแลตัวเองดีก็ช่วยบอกได้ระดับหนึ่งว่าขนาดตัวเองยังดูแลดีแสดงว่าคนอื่นต้องดูแลได้ ห้องส่วนตัวก็เหมือนกันถ้าดูดีสะอาดพอใช้ได้ก็โอเคแล้ว (แต่ต้องแอบดูนะ...เผื่อว่าเค้าจัดเอาไว้แบบผักชีโรยหน้า)

...แฟนบางคนออกลายตอนคบกันไปนานแล้ว แบบว่าเริ่มเบื่อๆกันแล้ว ..ทำให้หลายคนอาจจะคิดว่าแฟนเปลี่ยนไปแล้วมั้ง ...แต่ผมคิดว่าแฟนคุณไม่ได้เพิ่งเปลี่ยนไปหรอก เพียงแต่ว่าเค้าเปลี่ยนไปหลังจากอยากได้คุณเป็นแฟนตังหาก ก็เลยเปลี่ยนแปลงนิสัย(สันดาน)ตนเองเพื่อทำให้ตนเองนั้นดูดีในสายตาของคนรัก พูดง่ายๆก็คือไม่ได้เปลี่ยนไปหลังจากที่คบกันนานๆ แต่เปลี่ยนตั้งแต่เริ่มต้นแล้วหล่ะ และที่นิสัย(สันดาน)ออกก็เพราะว่าสถานะนิสัยของเขากำลังปรับเป็นแบบที่เค้าเป็นแหละ คือกลับเข้าสู่จุดเดิมหลังจากที่เปลี่ยนตัวเองเพื่อนคนรัก แต่พอได้สมหวังได้ใจปรารถนาแล้วก็คิดว่าได้แล้ว ได้ลิ้มรสแล้วก็เบื่อ ไม่ค่อยเห็นคุณค่าเท่าไหร่ ... นิสัยนี้จะดูง่ายๆจากคนที่ชอบช๊อปปิ้งแล้วไม่ค่อยสนใจของที่ซื้อมา หลังจากที่เห่อได้สักพักแหล่ะครับ

...พัฒนาการของนิสัย
- ชอบรังแกสัตว์ ดูการกีฬาที่ใช้ความรุนแรง และซาดิสม์ เคยฆ่าสัตว์ใหญ่น้อย ก็สามารถพัฒนาไปสู่การฆาตกรรมมนุษย์ได้หากมีความโกรธและขาดสติมาแทรกแซง
- ชอบความอุลามก ดูหนังโป๊ ดูการ์ตูนลามกทะลึ่ง ก็พัฒนาไปสู่ การหลายใจ คบหลายคน เป็นเอดส์ได้
- ชอบด่าพ่อแม่ ด่าน้อง พี่ เพื่อนแบบคำหยายคาย ก็สามารถพัฒนา ไปใช้กับคนรักได้

... สิ่งเล็กๆน้อยๆของนิสัยอย่ามองข้ามเพราะมันพัฒนาการได้ เพราะฉะนั้นถ้ารู้ว่าตนเองอ่อนแอก็เข้าวัด สวด และฟังเพลงเทเซ่บ่อยๆก็จะทำให้เราคิดไปในทิศทางที่ดีของพระเจ้า และเชื่อฟังพระบรมโชวาทขององค์ในหลวงเรื่องการอยู่อย่างพอเพียง (ฟังเพลงวัยรุ่นบ่อยๆก็ไม่ดีนะ เพราะมันปั่นหัวเราให้คิดแบบมันอ่ะ เพลงอกหักเงี่ย เฮ้อ)

สุดท้ายนี้ก็ภาวนาขอให้แฟนที่ตนเองคบนั้นมีนิสัยที่ดีในสายตาพระเจ้า และต่อเราด้วย ตอนนี้เค้าเป็นอย่างไรช่างเค้า เพียงแต่เรารักษาจุดยืนของเราว่าเรารักเค้าไม่รักใครเพิ่มเพื่อเผื่อ เพราะมันเป็นการไม่ให้เกียรติแฟนตัวเองอย่างหนึ่งเหมือนกัน ภาวนา อดทน ภาวนา อดทน และก็อดทน ถ้าหากเค้าใช่เนื้อคู่ของเราจริงๆเค้าก็จะอยู่รอดกับเรา แต่ถ้าไม่พระก็จะให้เค้าไปจากเราเอง

เอ๋อ ทำไมเขียนยาวจัง เอาไว้แค่นี้ก่อน อย่าว่ากันนะถ้าบางประโยคมันดูไม่ต่อเนื่อง เพราะความคิดมันพลุ๊บๆโผล่ๆ จับไว้ไม่ทัน อิอิ

จากคนชื่อ "กิ๊ก"
เขียนดีนะคะ  เข้าใจความรัก  ความสัมพันธ์ดี  ::001::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Edwardius
โพสต์: 1392
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 3:02 pm
ที่อยู่: Lamphun, Thailand

พุธ พ.ย. 21, 2007 12:40 am

kichinto เขียน: นานาจิตตัง แล้วแต่ใครจะคิดเน้อ...แต่ขอให้ยึดหลักพระคัมภีร์และในหลวงพอแย้ว เอิ๊กๆๆๆ  :grin:

สวัสดีครับ เอ็ดดี้ผีน่ารัก เอ้ย เอ็ดดี้หมูน้อยเทวดา ...คนละปูนเน้อ
โหพี่ พูดงี้ รักตายเลย
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mobster
โพสต์: 1623
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 30, 2007 8:02 pm
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พุธ พ.ย. 21, 2007 10:21 am

ฮือๆอย่าว่าแต่กิ๊กเลย แฟนยังไม่มีเลยน (First Loveที่แห้วตั้งแต่ไม่ได้จีบเพิ่งผ่านไปไม่กี่เดือนนี่เอง สงสัยคว้าลูกแมวแถวบ้านมาควงดีกว่า)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jack Sparrow
โพสต์: 353
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am

พฤหัสฯ. พ.ย. 22, 2007 3:29 am

หนุ่มสาวสมัยนี้ชอบมีกิ๊กกันแล้วมีอะไรกันอีกด้วย บางรายมีการถ่ายวีดีโอทางมือถือเก็บไว้ ในอีเมล์ผมทุกวันจะมีคนส่งคลิปมือถือมาให้ดูวันละ  6 - 10 คลิปเป็นไฟล์วีดีโอ .3gp เลยได้ดูฟรีๆ ไม่ต้องซื้อหน้งโป๊ดูให้เสียเงินส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาบ้านเราทั้งนั้น มีสาวคนหนึ่งหน้าตาสวยๆ บอกว่า เธอถ่ายแฟนเธอไว้หรือเปล่า ดูแล้วต้องแก้บาป อิ อิ
แก้ไขล่าสุดโดย Jack Sparrow เมื่อ พฤหัสฯ. พ.ย. 22, 2007 3:35 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

พฤหัสฯ. พ.ย. 22, 2007 6:14 am

Jack Sparrow เขียน: หนุ่มสาวสมัยนี้ชอบมีกิ๊กกันแล้วมีอะไรกันอีกด้วย บางรายมีการถ่ายวีดีโอทางมือถือเก็บไว้ ในอีเมล์ผมทุกวันจะมีคนส่งคลิปมือถือมาให้ดูวันละ  6 - 10 คลิปเป็นไฟล์วีดีโอ .3gp เลยได้ดูฟรีๆ ไม่ต้องซื้อหน้งโป๊ดูให้เสียเงินส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาบ้านเราทั้งนั้น มีสาวคนหนึ่งหน้าตาสวยๆ บอกว่า เธอถ่ายแฟนเธอไว้หรือเปล่า ดูแล้วต้องแก้บาป อิ อิ
เฮ้อ ... แล้วอย่างนี้เพศสัมพันธ์ที่เกิดจากความรักจริงๆจะยังมีอีกมั้ยเนี่ย  :undecided:
Marie Antoinette
โพสต์: 626
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 8:07 pm
ที่อยู่: bkk

พฤหัสฯ. พ.ย. 22, 2007 12:17 pm

Buddy เขียน:
Jack Sparrow เขียน: หนุ่มสาวสมัยนี้ชอบมีกิ๊กกันแล้วมีอะไรกันอีกด้วย บางรายมีการถ่ายวีดีโอทางมือถือเก็บไว้ ในอีเมล์ผมทุกวันจะมีคนส่งคลิปมือถือมาให้ดูวันละ  6 - 10 คลิปเป็นไฟล์วีดีโอ .3gp เลยได้ดูฟรีๆ ไม่ต้องซื้อหน้งโป๊ดูให้เสียเงินส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาบ้านเราทั้งนั้น มีสาวคนหนึ่งหน้าตาสวยๆ บอกว่า เธอถ่ายแฟนเธอไว้หรือเปล่า ดูแล้วต้องแก้บาป อิ อิ
เฮ้อ ... แล้วอย่างนี้เพศสัมพันธ์ที่เกิดจากความรักจริงๆจะยังมีอีกมั้ยเนี่ย  :undecided:
โอ คงจะหายากอะค่ะ พี่บัดดี้ สมัยนี้กิ๊กไม่กิ๊ก ชั้นนอนด้วยก่อน เก็บแต้ม เรื่องยางอายไม่ต้องพูดถึง  : xemo023 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
~*Little`Child*~
~@
โพสต์: 202
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 21, 2007 11:52 pm

พฤหัสฯ. พ.ย. 22, 2007 1:26 pm

~@Little lamb@~ เขียน: ถ้าให้เลือกระหว่างกิ๊ก กะ  แฟน 
เลือก พระเจ้าค่ะ   ::005::
เอเมนนะคะ หม่ามี๋  ::017::
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

ศุกร์ พ.ย. 23, 2007 3:47 am

melis เขียน:
Buddy เขียน:
Jack Sparrow เขียน: หนุ่มสาวสมัยนี้ชอบมีกิ๊กกันแล้วมีอะไรกันอีกด้วย บางรายมีการถ่ายวีดีโอทางมือถือเก็บไว้ ในอีเมล์ผมทุกวันจะมีคนส่งคลิปมือถือมาให้ดูวันละ  6 - 10 คลิปเป็นไฟล์วีดีโอ .3gp เลยได้ดูฟรีๆ ไม่ต้องซื้อหน้งโป๊ดูให้เสียเงินส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาบ้านเราทั้งนั้น มีสาวคนหนึ่งหน้าตาสวยๆ บอกว่า เธอถ่ายแฟนเธอไว้หรือเปล่า ดูแล้วต้องแก้บาป อิ อิ
เฮ้อ ... แล้วอย่างนี้เพศสัมพันธ์ที่เกิดจากความรักจริงๆจะยังมีอีกมั้ยเนี่ย  :undecided:
โอ คงจะหายากอะค่ะ พี่บัดดี้ สมัยนี้กิ๊กไม่กิ๊ก ชั้นนอนด้วยก่อน เก็บแต้ม เรื่องยางอายไม่ต้องพูดถึง  : xemo023 :
ความรักมันคงหายากเนอะ  แถมมีแล้วทุกข์อีก  ก็ไปหาที่สนุกๆดีกว่า  ::001::

พี่ว่า  เค้าก็คงรู้นะว่า  มันชั่วคราว  ก็เลยต้องหาเรื่อยๆไง  ความสุขระยะสั้น  ถ้าอยากให้มันยาว  ก็ต้องหลายๆครั้ง ก็เลยต้องเก็บแต้ม  ไม่รู้คิดแบบนี้กันรึเปล่า  พี่เดานะ  ::001::

... ไม่เป็นไร  เราก็อยู่ของเราไป  เราต้องเชื่อเลยนะว่า  รักแท้มีจริง (พระเป็นเจ้าให้เราสัมผัสแล้วนี่นา  จริงมั้ย) เพราะส่วนใหญ่  คนที่ทำแบบนี้ได้  เค้าไม่เชื่อนะว่า  รักแท้มีจริง  ::001::
วุติ

ศุกร์ มี.ค. 21, 2008 7:11 am

รบกวนช่วยส่งคลิปมาให้ด้วยขอบคุณครับ
goat of God
โพสต์: 127
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 20, 2008 1:18 pm

ศุกร์ มี.ค. 21, 2008 12:08 pm

คำว่ากิ๊ก มักจะเป็นคนไม่ค่อยมีความรับผิดชอบ ถ้ามีกิ๊กสู้มีแฟนทีละคนดีกว่า ศึกษานิสัยกันให้ดี ถ้าไปกันไม่ได้ก็เลิก ในความหมายของไม่มีคำว่าลองนอนด้วยกันก่อนแต่งนะ คนเดี๊ยวนี้สะกดคำว่าอาย กันไม่ถูกแล้วมั้ง
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

ศุกร์ มี.ค. 21, 2008 2:04 pm

goat of God เขียน: คำว่ากิ๊ก มักจะเป็นคนไม่ค่อยมีความรับผิดชอบ ถ้ามีกิ๊กสู้มีแฟนทีละคนดีกว่า ศึกษานิสัยกันให้ดี ถ้าไปกันไม่ได้ก็เลิก ในความหมายของไม่มีคำว่าลองนอนด้วยกันก่อนแต่งนะ คนเดี๊ยวนี้สะกดคำว่าอาย กันไม่ถูกแล้วมั้ง
ตอบได้น่ารักถูกใจทั้งหมด ถ้ามีก๊กมีแฟนดีกว่า คบกันดูถ้าไม่ดีก็เลิกคบทีละคนแล้วไม่ต้องหลับนอนด้วยกันแบบเด็กสมัยนี้ แต่ไม่ใช้คบแฟนหลายคน เช่น แฟนเบอร์ 1 แฟนเบอร์2 แฟนเบอร์3 แล้วเลือกว่าเบอร์ไหนจะไปกันได้ถ้าเบอร์สามไปได้ เบอร์ 2 ก็ตกกระป๋อง บางคนมีถึง 6 เบอร์ เฮ้อๆ เห็นใครน่ารักจีบเป็นแฟนหมดเป็นนักสะสม  :smiley:
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ ศุกร์ มี.ค. 21, 2008 4:32 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ตอบกลับโพส