ว่าด้วยเรื่องการรักเพศเดียวกันและมีความสัมพันธ์

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
realkoki
โพสต์: 6
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ธ.ค. 07, 2007 8:37 pm

อาทิตย์ ธ.ค. 09, 2007 3:27 pm

ครับตามหัวข้อเลย ครับ
ถ้าเกิดเรามีคนรักแล้วคนรักเป็นเพศเดียวกันจะผิดไหมครับ
แล้วหากมีเพสศสัมพันธ์จะผิดไหมครับไม่ว่าจะเป็น ชาย-ชาย หรือหญิง-หญิง
ผมขอแยกเป็นกรณีอยากถามพี่ๆๆช่วยตอบด้วยน่ะครับ
ทุกกรณี่เป็นพวกรักเพศเดียวกัน
กรีณีที่1 รักกันเฉยๆๆไม่ได้มีอะไรกัน
        2 รักกัน แต่อาจจะมีจูบกัน หอมแก้มกันเล็กน้อย
        3 รักกันแล้วมีอะไรกัน
        4 เป็นแบบพวกมีไปทั่วทั้งคนรู้จักและไม่รู้จัก
พิเศษสำหรับ ช-ญ
1  รักกันมีความสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน
2  มีไปทั่วโดยทั้งรู้จักและไม่รู้จัก
ตอบกันเยอะๆๆน่ะครับ
สงสัยเพราะดูหนังฝรั่งเยอะ และมีพฤติกรรมอย่างว่า กับ เรื่องรักแห่งสยาม
ขอบคุณครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ ธ.ค. 09, 2007 8:36 pm

ทุกกรณี่เป็นพวกรักเพศเดียวกัน
กรีณีที่1 รักกันเฉยๆๆไม่ได้มีอะไรกัน----------------ไม่บาป
         2 รักกัน แต่อาจจะมีจูบกัน หอมแก้มกันเล็กน้อย----------------สามารถนำไปสู่บาป
         3 รักกันแล้วมีอะไรกัน----------------บาป
         4 เป็นแบบพวกมีไปทั่วทั้งคนรู้จักและไม่รู้จัก----------------บาป





พิเศษสำหรับ ช-ญ
1  รักกันมีความสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน----------------บาป
2  มีไปทั่วโดยทั้งรู้จักและไม่รู้จัก----------------บาป



---------คาทอลิคไม่สนับสนุนการมีเพศสัมพันธ์นอกสมรสทุกกรณีไม่ว่าจะเพศเดียวกันหรือต่างเพศ และคาทอลิคจัดเป้นบาปในกรณีมีพฤติกรรมเท่านั้น ส่วนโปรฯตีความแตกต่างกัน บางคริสตจักรมองคล้ายคาทอลิค แต่บางคริสตจักรถือว่าแค่เป็นโฮโม หรือไบ แม้ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ก็ถือว่าบาปแล้ว ต้องกลับมาชอบเพศตรงข้ามให้ได้
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ ธ.ค. 09, 2007 8:39 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

อาทิตย์ ธ.ค. 09, 2007 8:39 pm

กรีณีที่1 รักกันเฉยๆๆไม่ได้มีอะไรกัน
         --> ไม่เป็นไรค่ะ  ความรักสวยงาม

        2 รักกัน แต่อาจจะมีจูบกัน หอมแก้มกันเล็กน้อย
        --> ขึ้นอยู่กับคนค่ะ  สามารถทำได้ถ้าทำแล้วไม่ต้องไปช่วยตัวเองต่อ  ถ้าทำแล้วเรารู้สึกแบบนั้นขึ้นมาก็สามารถนำเราไปสู่บาปได้  แต่ถ้าทำแล้วไม่รู้สึกอะไร  แค่แสดงความรักกันก็คงไม่เป็นไร  แต่ถ้ามันไปรบกวนคนอื่น  (เห็นแล้วขัดลูกตา  น่าถีบ)  ก็ไม่ควรทำค่ะ

        3 รักกันแล้วมีอะไรกัน
        4 เป็นแบบพวกมีไปทั่วทั้งคนรู้จักและไม่รู้จัก
        --> บาปทั้งสองกรณีค่ะ

พิเศษสำหรับ ช-ญ
1  รักกันมีความสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน
2  มีไปทั่วโดยทั้งรู้จักและไม่รู้จัก
-->  บาปทั้งสองกรณีค่ะ
anakin
โพสต์: 81
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ธ.ค. 04, 2007 1:30 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ ธ.ค. 09, 2007 9:43 pm

แล้วมันเปง แบหนัก หรือ บาป เบา อะครับผมท อยากรู้ อะ  ::008::
anakin
โพสต์: 81
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ธ.ค. 04, 2007 1:30 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ ธ.ค. 09, 2007 11:29 pm

บาปหนักเนี่ย ชดใช้ยังไง เหรอ  ::005::
Dis volentibus

อาทิตย์ ธ.ค. 09, 2007 11:36 pm

ไปที่แก้บาปค่ะ...
เชื่อว่า ถ้าไปด้วยจิตใจสำนึกในบาปที่ได้ทำจริงๆเเล้ว (เน้น สำนึกในบาป)
บาปก็จะถูกยก...
เเละที่สำคัญ อย่าปล่อยให้เกิดขึ้นอีกเจ้าค่ะ  ::001::
ภาพประจำตัวสมาชิก
sasuke
~@
โพสต์: 1120
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 06, 2006 12:00 am
ที่อยู่: ใต้เสื้อคลุมของแม่

อาทิตย์ ธ.ค. 09, 2007 11:36 pm

Aukake เขียน: บาปหนักเนี่ย ชดใช้ยังไง เหรอ  ::005::
ทุกบาปชดใช้ได้ด้วย"ใจ"ครับ : xemo026 :
ต็อตติ

จันทร์ ธ.ค. 10, 2007 12:28 am

งั้นขอถามหน่อยว่า ทำไมคนยุโรปส่วนมาก ท้องก่อนแต่ง แต่พระสงฆ์ยังประกอบพิธีมิสซาแต่งงานให้ได้ล่ะครับ  ตัวอย่างคือ ฟรานเชสโก้ ต็อตติ นักบอลทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์โลก ที่แต่งงานกับ อิลารี่ บลาซี่ ตอนท้องแล้ว 3 เดือน เค้าแต่งที่โบสถ์ ซานตา มารีอา ในกรุงโรม แต่คุณพ่อคาทอลิกวัดนี้ ประกอบพิธีให้อะครับ

ที่งงก็คือ ทำไมเค้าท้องก่อนแต่งแล้ว ได้แต่งงานในโบสถ์ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ ธ.ค. 10, 2007 12:32 am

คำว่าบาปไม่ได้แปลว่าถ้าเขาอยากจะทำให้มันถูกต้องขึ้นมาจะทำไม่ได้นะครับ

สถานภาพบาปจะคงอยู่จนกว่าเขาจะสำนึกผิดและสารภาพบาป

ดังนั้น หากเขาต้องการแต่งงานให้มันถูกต้อง เขาก็มาหาพระสงฆ์ สำนึกผิดและสารภาพบาป การที่เขาต้องการแต่งงาน นั่นแปลว่าเขาต้องการที่จะทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับคนรักถูกต้องขึ้นมา ซึ่งพระศาสนจักรจะยินดีมากครับ
taiyo
โพสต์: 658
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 22, 2006 12:01 am

จันทร์ ธ.ค. 10, 2007 12:47 am

ต็อตติ เขียน: งั้นขอถามหน่อยว่า ทำไมคนยุโรปส่วนมาก ท้องก่อนแต่ง แต่พระสงฆ์ยังประกอบพิธีมิสซาแต่งงานให้ได้ล่ะครับ  ตัวอย่างคือ ฟรานเชสโก้ ต็อตติ นักบอลทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์โลก ที่แต่งงานกับ อิลารี่ บลาซี่ ตอนท้องแล้ว 3 เดือน เค้าแต่งที่โบสถ์ ซานตา มารีอา ในกรุงโรม แต่คุณพ่อคาทอลิกวัดนี้ ประกอบพิธีให้อะครับ

ที่งงก็คือ ทำไมเค้าท้องก่อนแต่งแล้ว ได้แต่งงานในโบสถ์ครับ
แล้วเค้า2คนไปสารภาพบาปกับพระสงฆ์ก่อนแต่งงานยังครับ ถ้าทำแล้ว ก็แต่งได้นี่
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jack Sparrow
โพสต์: 353
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am

จันทร์ ธ.ค. 10, 2007 1:52 am

Holy เขียน: ทุกกรณี่เป็นพวกรักเพศเดียวกัน
กรีณีที่1 รักกันเฉยๆๆไม่ได้มีอะไรกัน----------------ไม่บาป
         2 รักกัน แต่อาจจะมีจูบกัน หอมแก้มกันเล็กน้อย----------------สามารถนำไปสู่บาป
         3 รักกันแล้วมีอะไรกัน----------------บาป
         4 เป็นแบบพวกมีไปทั่วทั้งคนรู้จักและไม่รู้จัก----------------บาป





พิเศษสำหรับ ช-ญ
1  รักกันมีความสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน----------------บาป
2  มีไปทั่วโดยทั้งรู้จักและไม่รู้จัก----------------บาป



---------คาทอลิคไม่สนับสนุนการมีเพศสัมพันธ์นอกสมรสทุกกรณีไม่ว่าจะเพศเดียวกันหรือต่างเพศ และคาทอลิคจัดเป้นบาปในกรณีมีพฤติกรรมเท่านั้น ส่วนโปรฯตีความแตกต่างกัน บางคริสตจักรมองคล้ายคาทอลิค แต่บางคริสตจักรถือว่าแค่เป็นโฮโม หรือไบ แม้ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ก็ถือว่าบาปแล้ว ต้องกลับมาชอบเพศตรงข้ามให้ได้
ตามข้อนี้เลยถูกต้อง
mapisit
โพสต์: 107
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ย. 19, 2007 9:49 pm
ที่อยู่: ปากปล่องเหวแห่งไฟ
ติดต่อ:

จันทร์ ธ.ค. 10, 2007 10:35 am

ว่าด้วยรักคนที่เป็นเพสเดียวกันเหรอ

เราว่า คงไม่บาปหรอก เพราะอย่างน้อย เขาก็ไม่ได้เกลียดกัน
realkoki
โพสต์: 6
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ธ.ค. 07, 2007 8:37 pm

จันทร์ ธ.ค. 10, 2007 5:00 pm

ในความคิดของผมน้า การเป็นเกย์หรือเลสเบี้ยนเนี่ยถ้าตามหลักวิทยาศาสตร์ มันเกิดจากดครโมโซม กับโฮโมนที่เกินมา
ถ้าพระเจ้าท่านเป็นคนสร้างเรามา แล้วเราก็เดินตามทางที่พระเจ้านำพาก็คงไม่ผิดป่ะครับ
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ ธ.ค. 10, 2007 11:43 pm

realkoki เขียน: ในความคิดของผมน้า การเป็นเกย์หรือเลสเบี้ยนเนี่ยถ้าตามหลักวิทยาศาสตร์ มันเกิดจากดครโมโซม กับโฮโมนที่เกินมา
ถ้าพระเจ้าท่านเป็นคนสร้างเรามา แล้วเราก็เดินตามทางที่พระเจ้านำพาก็คงไม่ผิดป่ะครับ
ตอบอย่างนี้ ภาษาที่เจี๊ยบใช้คือ "เรามีข้อแก้ตัวเพื่อหาความชอบธรรมให้ตัวเองคร้าบ" : emo038 :

ซึ่งตัวอย่างแบบนี้ในหลายๆเรื่องที่เราทำบาปกัน ก็เพราะหาข้อแก้ตัวให้ตัวเอง ว่าไม่ผิด ไม่บาป อะไรทำนองนี้ แหละ : emo027 :
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

อังคาร ธ.ค. 11, 2007 1:20 am

ยศิโยน:ผู้ยำเกรงพระเจ้า เขียน:
realkoki เขียน: ในความคิดของผมน้า การเป็นเกย์หรือเลสเบี้ยนเนี่ยถ้าตามหลักวิทยาศาสตร์ มันเกิดจากดครโมโซม กับโฮโมนที่เกินมา
ถ้าพระเจ้าท่านเป็นคนสร้างเรามา แล้วเราก็เดินตามทางที่พระเจ้านำพาก็คงไม่ผิดป่ะครับ
ครับ
ไม่ผิดค่ะ  เดินตามนั้น  หมายถึงทางที่ไม่ต้องมีเพศสัมพันธ์เลยนะคะ  ยอมรับว่า  พระองค์สร้างเรามาแบบนั้น  แบบที่ไม่ต้องมีเพศสัมพันธ์น่ะค่ะ  ::001::
Marie Antoinette
โพสต์: 626
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 8:07 pm
ที่อยู่: bkk

อังคาร ธ.ค. 11, 2007 2:51 pm

Jeab Agape เขียน:
realkoki เขียน: ในความคิดของผมน้า การเป็นเกย์หรือเลสเบี้ยนเนี่ยถ้าตามหลักวิทยาศาสตร์ มันเกิดจากดครโมโซม กับโฮโมนที่เกินมา
ถ้าพระเจ้าท่านเป็นคนสร้างเรามา แล้วเราก็เดินตามทางที่พระเจ้านำพาก็คงไม่ผิดป่ะครับ
ตอบอย่างนี้ ภาษาที่เจี๊ยบใช้คือ "เรามีข้อแก้ตัวเพื่อหาความชอบธรรมให้ตัวเองคร้าบ" : emo038 :

ซึ่งตัวอย่างแบบนี้ในหลายๆเรื่องที่เราทำบาปกัน ก็เพราะหาข้อแก้ตัวให้ตัวเอง ว่าไม่ผิด ไม่บาป อะไรทำนองนี้ แหละ : emo027 :
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเด้อออออออ
แต่.....
ถ้าพลาดแล้ว เพราะความไม่รู้  ก็อย่ามีครั้งที่2
และถ้ารู้แล้ว ก็สมควรที่จะหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง

ที่เห็นในหนังหรือคนอื่นๆเขาทำกันน่ะ ให้คิดกลับกัน ว่าถ้าเราเห็นพวกเขาอยู่ในไฟชำระแล้ว เราก็คงไม่อยากจะไปอยู่เหมือนพวกเขาหรอก จิงมะ  ::014::
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

อังคาร ธ.ค. 11, 2007 6:46 pm

รัก"ร่วมเพศ" บาปครับ ถ้ายังไม่ได้รับศีลสมรส
เพราะฉะนั้นรีบศีลสมรสเสียก่อนครับแล้วค่อยทำมัน ส่วนจะรับได้ไม่ได้นั้นบอกไม่ได้ครับ ต้องว่ากันเป็นรายๆไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
antoinetty*
โพสต์: 451
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 04, 2007 9:39 pm

อังคาร ธ.ค. 11, 2007 7:11 pm

แล้วถ้าเคยมีแฟนเป็นผู้หญิง .. กำลังจะมีแฟนเป็นผู้ชาย

จะกลับมีแฟนเป็นผู้หญิงได้อะปะครับ ?

( นอกเรื่องนิดนึง อยากถามผุ้รู้ทุกท่าน 55 )

............................................................................

รักร่วมเพศ กับ เกลียดเพื่อนร่วมโลก

อะไรไม่ควรทำ น้อยกว่ากัน อะครับ ?
Marie Antoinette
โพสต์: 626
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 8:07 pm
ที่อยู่: bkk

อังคาร ธ.ค. 11, 2007 7:50 pm

-AnToiNetty- เขียน: แล้วถ้าเคยมีแฟนเป็นผู้หญิง .. กำลังจะมีแฟนเป็นผู้ชาย

จะกลับมีแฟนเป็นผู้หญิงได้อะปะครับ ?

( นอกเรื่องนิดนึง อยากถามผุ้รู้ทุกท่าน 55 )

............................................................................

รักร่วมเพศ กับ เกลียดเพื่อนร่วมโลก

อะไรไม่ควรทำ น้อยกว่ากัน อะครับ ?
เอ่ออออ ไม่ใช่ผู้รู้เลย บอกตรงๆ แต่ความเห็นส่วนตัวนะ
หนูแยกตัวเองออกหรือยังล่ะคะ ว่าต้องการแบบไหน ถ้าหนูยังสับสน พี่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะถ้าตอบไป หนูก็ยังไม่ได้คำตอบอยู่ดี พี่เกรงว่าจะฝืนตัวน้องเองอะค่ะ  ::011::

พี่ว่านะ อะไรที่มันเป็นธรรมชาติที่สุดเนี่ย ย่อมดีเสมอ พระเจ้าจัดสรรไว้แล้วค่ะ
ส่วนรักร่วมเพศกับเพื่อนร่วมโลกจะเกลียดใครนั้นนะ

ผู้ที่เป็นรักร่วมเพศก็คือมนุษย์ ที่เป็นสิ่งสร้างอันแสนจะโปรดปรานของพระผู้เป็นเจ้า เพราะฉะนั้น ไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะเป็นเยี่ยงไรก็แล้วแต่ คือเพื่อนร่วมโลกของเรานะคะ อย่าเกลียดกันเลย รักกันดีกว่านะค้า : xemo026 : : xemo026 : : xemo026 :
Dis volentibus

อังคาร ธ.ค. 11, 2007 10:39 pm

ความรัก จะเป็นเเบบไหนก็เเล้วเเต่ หากรักเเล้วไม่ผิดพระบัญญัติ ก็สามารถทำได้ทั้งนั้นค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
jimseason
โพสต์: 155
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ธ.ค. 09, 2007 6:43 pm
ที่อยู่: Pattaya

พุธ ธ.ค. 12, 2007 4:46 am

เหอๆ เราว่านะขอไม่ตัดสินดีกว่า
งิงิ
แต่รู้อย่างเดียวรักเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้โลกสดใส และสวยงาม
อันอื่นไม่รู้หรอก แง่มๆ(ถ้าหากผมให้คำพูดที่ผิดก็ช่วยแนะนำด้วยนะครับ)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Edwardius
โพสต์: 1392
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 3:02 pm
ที่อยู่: Lamphun, Thailand

พุธ ธ.ค. 12, 2007 2:23 pm

ต้องถามก่อนว่า ที่ว่า รักกันแต่ไม่มีความสัมพันธ์ทางกายต่อกันนั้น แน่ใจนะครับว่า ใจไม่เคยคิด

เพราะทันทีที่คิด ก็ย่อมผิดแล้วครับ พระคริสตเจ้าได้กล่าวไว้
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

พุธ ธ.ค. 12, 2007 11:03 pm

Oasis_Thai_DeSeRT เขียน: อย่าพูดไปมากกว่านี้เลยครับ ผมจะอ้วก
ขอโทษนะครับ ผมคิดว่า มันเหมือนการไม่ให้เกียรติกันนะครับ ยังไงเค้าก็ลูกพระเหมือนกัน : xemo017 :
Dis volentibus

พุธ ธ.ค. 12, 2007 11:48 pm

Batholomew เขียน:
Oasis_Thai_DeSeRT เขียน: อย่าพูดไปมากกว่านี้เลยครับ ผมจะอ้วก
ขอโทษนะครับ ผมคิดว่า มันเหมือนการไม่ให้เกียรติกันนะครับ ยังไงเค้าก็ลูกพระเหมือนกัน : xemo017 :
เห็นด้วยค่ะๆๆ
ที่สำคัญ เขาอุตส่าห์มา...ถามนะคะ
ถ้าเกิดเขาไม่อยากจะทราบหรือเปิดใจรับฟัง
คงไม่มาถามหรอกค่ะ

สิ่งที่เราควรทำคือ ตอบ...ค่ะ ไม่ใช่ อ้วก :grin:

ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ
anakin
โพสต์: 81
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ธ.ค. 04, 2007 1:30 pm
ที่อยู่: Bangkok

พฤหัสฯ. ธ.ค. 13, 2007 7:45 pm

Oasis_Thai_DeSeRT เขียน: .



อย่าพูดไปมากกว่านี้เลยครับ ผมจะอ้วก :huh:



แค่คุณ คิด ก็บาปแล้ว



.
พระเจ้าไม่ได้สอนให้เราใจแคบนะ ครับ
พระองค์สอนให้เรารัก ม่ายช่าย เหรอ ครับ
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

พฤหัสฯ. ธ.ค. 13, 2007 9:08 pm

Oasis_Thai_DeSeRT เขียน:
อย่าพูดไปมากกว่านี้เลยครับ ผมจะอ้วก :huh:
แค่คุณ คิด ก็บาปแล้ว
ถามหน่อยนะครับ

1.ทุกครั้งที่คุณพี่เขียน ชอบ มี 2 จุด บนล่าง สื่อความหมายอะไรไหมคร้าบ

2.ทำไม เป็นอ้วกง่าย จัง เขาพูดเพราะคับข้องใจ ถ้าไม่เห็นด้วย ก็ต้องอธิบายบอกเหตุผล หรือไม่ตอบ ใครก็ไม่ว่าฮะ : emo010 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Edwardius
โพสต์: 1392
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 3:02 pm
ที่อยู่: Lamphun, Thailand

พฤหัสฯ. ธ.ค. 13, 2007 9:45 pm

ในฐานะลูกแห่งพระศาสนจักรคาทอลิกต้องขอบอกว่า
มนุษย์มีจุดสุดท้ายของชีวิตที่ถูกลิขิตไว้แล้วโดยพระผู้เป็นเจ้า เหตุว่าพระองค์ทรงรู้จักเราตั้งแต่ก่อนทรงสร้างเรา
ไม่ใช่เราที่กลับมาสู่อ้อมกอดขององค์พระผู้เป็นเจ้า แต่เป็นพระพรของพระองค์ที่ทรงมอบการกลับใจให้แก่เรา

มนุษย์มีเจตจำนงอิสระ (Free Will: ภาษาทางรัฐศาสตร์ และทางเทววิทยา) ที่จะกรทำสิ่งใดๆ ก็ได้
แต่เพราะว่าพระเป็นเจ้าทรงล่วงรู้ และทรงประทานพระพรนานาประการให้ มนุษย์จึงอยู่ภายในพระหัตถ์ของพระองค์ตลอดเวลา
และพระองค์มิทรงประสงค์ให้ผู้ในพินาศไป พระองค์จึงทรงมอบความรอิดของพระองค์ลงมาสู่มนุษย์ผ่านทางพระเยซู

ความรอด และความพินาศของมนุษย์คนหนึ่งนั้นไม่ได้อยู่นอกเหนือพระหัตถ์ของพระองค์เลย

พ่อองค์หนึ่งเคยบอกว่า "Underworld really is existed, but I think no one (human) is there."

ทันทีที่เราเริ่มอ้วก หรือเริ่มสะอิดสะเอียนต่อคนบาปคนหนึ่ง เมื่อนั้นเราจะเริ่มหันหลังให้เขา
และเมื่อเราเริ่มหันหลังให้เขา เราก็ได้ละเลยพระคริสตเจ้าของเราที่ปรากฎแก่เราในรูปของผู้น่าสงสารนั้น

จงสวดภาวนาเพื่อให้คนบาปคนหนึ่งกลับใจ ดีกว่าสาปแช่งผู้ที่ต้อยต่ำที่สุดของโลกไปสู่นรก
ตอบกลับโพส