ผมอยากเป็นคนไม่มีศาสนาครับบบ

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ยอด

พุธ ธ.ค. 19, 2007 7:07 pm

เพราะผมคิดว่า ไม่มีใครช่วยเราได้นอกจากตัวเอง

ความพยายามของตัวเองทั้งนั้นที่ได้มา ส่วนครอบครัวและคนรอบข้าง คือกำลังใจที่ผลักดันให้ผมก้าวมาถึงทุกวันนนี้

เวลาผมเสียใจ ครอบครัว และคนรอบข้าง คือสิ่งที่ผมต้องการมากที่สุด

แต่ผมคิดว่า การไม่มีศาสนาน่าจะเป้นทางออกที่ดีสำหรับผม

แต่ผมอยากรู้ว่าการเป็นคนไม่มีศาสนาในประเทศไทยเป้นเรื่องที่ผิดรึป่าวครับ แต่ทำไมคนเกาหลีถึงทำกันได้ ส่วนตัวผมแล้วการวัดว่าคนจะดีหรือไม่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับศาสนาแต่อยู่กับการปฎิบัติตนและใช้ชีวิตมากกว่าครับ


ขอบคุณครับ
Marie Antoinette
โพสต์: 626
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 8:07 pm
ที่อยู่: bkk

พุธ ธ.ค. 19, 2007 7:12 pm

UP TO YOU !!!!!  : emo031 : : emo031 : : emo031 :
Geserviathan
โพสต์: 9
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ย. 04, 2007 6:54 pm

พุธ ธ.ค. 19, 2007 7:27 pm

แน่ใจเหรอครับ ว่าจะใช้ชีวิตได้โดยไม่มีผู้นำทาง ไม่มีที่พึ่ง ไม่มีผู้ที่คอยช่วยเหลือ  ที่ทำได้มากกว่าคนทั่วไป?

ไว้เจอกับปัญหาใหญ่ของชีวิต แล้วค่อยคิดดูอีกทีครับ

ผมเชื่อว่าพระองค์ยังรอคอยให้ผู้หลงทางกลับไปหาพระองค์ครับ เพราะฉะนั้นควรคิดให้ดีก่อนนะครับ :angel:
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ ธ.ค. 19, 2007 8:21 pm

ทำไมบอกว่าคนเกาหลีทำได้ล่ะ :huh: เมื่อคุณตัดสินใจไม่ไม่เชื่อ "ลัทธิ ความเชื่อใดๆ หรือศาสนาใด" นั่นคือการไม่มีศาสนา :cool:

เราอยากจะถาม กลับ ง่ายๆ เมื่อคุณเลือกจะไม่ศาสนา ถ้าวันไหนคุณตายไป จะให้ญาติ เขาทำพิธีศพ แบบใด แล้วจะบอกให้ญาติมิตร หรือเพื่อนฝูง ไปร่วมสวดไว้อาลัย ด้วยศาสนพิธีใด
holy holy holy
โพสต์: 548
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 07, 2007 8:07 pm

พุธ ธ.ค. 19, 2007 8:30 pm

ตามน้ำพระทัย
mapisit
โพสต์: 107
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ย. 19, 2007 9:49 pm
ที่อยู่: ปากปล่องเหวแห่งไฟ
ติดต่อ:

พุธ ธ.ค. 19, 2007 9:08 pm

ประเทศไทย ไม่นับถือศาสนาก้ได้ครับ

เพราะเป็นเสรีภาพของคนในการนับถือศาสนา

ส่วนจะนับถืออะไร หรือไม่นั้น ผมว่า เรื่องนั้นคงแล้วแต่คุณ

แต่ที่คุณมาโพสในกระทู้นี้ คุณคงต้องการคำแนะนำ และความเห็น

สำหรับผม เห็นว่า การนับถือศาสนาเป็นเรื่องที่ดี คุณจะนับถือศาสนาไหนก็ได้

เพราะอย่างน้อยก็เอาคำสอนของศาสนานั้นๆ มาเตือนสติ เวลาที่เราหลงทาง ....

ผมว่าคุยกะที่บ้านก่อนไหมครับ เพราะท่าทางคุณเป็นคนรักครอบครัว และแคร์คนรอบข้าง
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดานุ้งพุงระเบิด
โพสต์: 518
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 31, 2006 3:57 pm
ที่อยู่: อุบลราชธานี

พุธ ธ.ค. 19, 2007 9:49 pm

ผมเห็นคนที่เขาบอกว่าเขาไม่ถือศาสนาส่วนมากกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวไปเลยนะครับ
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

พุธ ธ.ค. 19, 2007 9:59 pm

ผมว่าคุณลองดูก่อนมั๊ยครับ ว่าการมีศาสนาเป็นยังไง

ดูหลักคำสอนของแต่ละศาสนาก่อนครับ แล้วลองปฏิบัติดู

ผมว่า คนที่ไม่มีศาสนาไม่ผิด แต่อย่างน้อยศาสนานี่แหละครับ ที่จะสามารถช่วยเราได้นะครับ

พระเจ้าอวยพรครับ
Rakkypoko!
โพสต์: 960
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm

พุธ ธ.ค. 19, 2007 11:23 pm

เปนงั้นกันไป
Alphonse
โพสต์: 1792
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 23, 2006 10:45 pm
ที่อยู่: Thailand

พุธ ธ.ค. 19, 2007 11:33 pm

Danung เขียน: ผมเห็นคนที่เขาบอกว่าเขาไม่ถือศาสนาส่วนมากกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวไปเลยนะครับ
???
Dis volentibus

พุธ ธ.ค. 19, 2007 11:49 pm

ในห้องคำสอนเคยมีการสาธิตเรื่องหนึ่งๆนะคะ

ในห้องมีคนอยู่ประมาณสิบกว่าคน

ครั้งเเรกครูคำสอนให้นาย ก. มายืนหน้าห้อง เเละบอกให้เดินไปหานาย ข. ที่หลังห้อง โดยที่ครูคำสอนนำผ้ามาปิดตานาย ก. ...
เเละเเล้ว นาย ก. ก็สามารถไปหานาย ข. ได้จริง
เเต่ระหว่างที่ไปนั้น นาย ก. ได้สะดุดเก้าอี้ ได้คลานกับพื้น ได้จับขาใครก็ไม่ทราบ หลายขา คนในห้องต่างหัวเราะนาย ก.

พอมาครั้งที่สอง นาย ก. ยังมีผ้าปิดตาอยู่เหมือนเดิม เเต่ครูคำสอน ให้นาย. ค ช่วยจูงนาย ก. ไปหานาย ข.
ระหว่างนั้น นาย ก. เดินอย่างง่ายดาย ถึงในเวลาอึดใจเดียว เเละไม่มีใครหัวเราะนาย ก. อีกต่อไป...


...........................................................................................

ป.ล. คุณว่า "การวัดว่าคนจะดีหรือไม่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับศาสนาแต่อยู่กับการปฎิบัติตนและใช้ชีวิตมากกว่าครับ"

ข้อนี้ เเอบค้านเจ้าค่ะ เพราะว่า บางที คนเราคิดว่า เราปฏิบัติตนดีเเล้วนะ ดีมากเลย.............. เเต่สิ่งที่เราคิดว่า ดีเเล้ว สำหรับคนอื่น มันอาจจะยังไม่พอ หรืออาจจะไม่ดีด้วยซํา การนับถือศาสนา สำหรับข้าพเจ้าเเล้ว เป็นการเเนะเเนวทาง ที่จะปฏิบัติตนดี (ซึ่งเเน่นอน คนส่วนใหญ่ ยอมรับอีกด้วย)
การนับถือศาสนา ทำให้เรา "ไม่เขว" ที่จะทำความดี...

ป.ล.2 ประเทศเกาหลีทำได้หรือเปล่า ข้าพเจ้าไม่ทราบเหมือนกัน เเต่ว่า อะไรทำให้คุณเเน่ใจ ว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องเเล้ว? เกาหลี ไม่จำเป็นต้อง "ดี"
เสมอไปหรอก เจ้าค่ะ
Alphonse
โพสต์: 1792
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 23, 2006 10:45 pm
ที่อยู่: Thailand

พฤหัสฯ. ธ.ค. 20, 2007 12:20 am

อันนี้ในมุมมองของกฎหมาย
ตามกฎหมายแล้ว
การเป็นศาสนิกชนเป็นสิทธิมนุษยชน และสิทธิพลเมือง ที่สามารถเป็นได้ ถ้าการนับถือศาสนา ความเชื่อ ลัทธิ หรือคำสอนนั้นๆ
ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เป็นไปโดยสุจริต และไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีงามของประชาชน หรือกฎหมายอื่นใด

ดังนั้นการนับถือศาสนาจึงกล่าวได้ว่าเป็ร "เสรีภาพ" ที่ได้รับติดตัวมาตั้งแต่เกิด โดยกฎหมายบ้านเมืองให้การยอมรับ
ทั้งนี้ไม่ได้ถือเป็น "หน้าที่" หรือ "กฎหมาย" บังคับให้พลเมืองมีศาสนา ครับ

ด้วยเหตุดังกล่าวหากใครจะไม่นับถือศาสนา และประสงค์จะให้ปรากฎบนเอกสารราชการก็ทำได้
เช่น

ศาสนา : -

เป็นต้น

ส่วนในมุมมองอื่นๆ ก็สุดแล้วแต่คุณเอง มันไม่ใช่ธุระอะไรของใครที่ไหนหรอกครับ
มันเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนโดยแท้ บุคคลอื่นมีสิทธิเพียงชี้แนะ หรือให้คำปรึกษา
แต่ไม่มีสิทธิมามีอำนาจเหนือร่างกายและจิตใจของใครๆ
Like a Heaven
.
.
โพสต์: 1739
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
ที่อยู่: In the Christ

พฤหัสฯ. ธ.ค. 20, 2007 3:36 am

สำหรับผมนะครับ(ท่านอื่นหรือท่านเจ้าของกระทู้จะเห็นอย่างไรผมไม่ทราบนะครับ)

ผมมองว่า...ชีวิตนี้ไม่ใช่ของผม แต่เป็นของพระเป็นเจ้าครับ ถ้าไม่มีพระองค์ผมเองก้อเป็นแค่เพียง "เศษดิน" ไร้ค่าก้อนนึงเท่านั้น พระเจ้าปั้นผมมาสวยงามและปราณีตบรรจง ดังนั้น ผมจึงภูมิใจในสิ่งที่ผมเป็นอยู่ครับ ไม่คิดเสริมเติมแต่งใดๆเพราะผมตระหนักรู้ว่าผู้ที่ปั้นผมมายิ่งใหญ่เพียงไร ให้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผมมากเพียงไร มันทำให้ผมรักผู้อื่นมากด้วยครับ เพราะพระองค์ก็ปั้นเขามาได้สวยงามเช่นเดียวกัน แม้ค่านิยมทางโลกจะมีการตัดสินกันว่าใครสวยใครไม่สวย แต่สำหรับผมทุกคนสวยงามหมดเพราะมีพระผู้สร้างองค์เดียวกันครับ พระผู้สร้างองค์นี้ สร้างทุกคนมาดีเท่ากันครับ

พระเป็นเจ้ารู้จักผมดีที่สุด และรักผมมากที่สุดเลยครับ แม้แต่เส้นผมทุกเส้นบนศีรษะผมเอง พระองค์ก็นับไว้แล้วทุกเส้น พระเป็นเจ้ายอมสละชีวิตที่แสนจะมีค่าของพระองค์เพื่อไถ่ผมกลับมาหาพระองค์อีกครั้ง ผมเองนั้นบาปหนักหนา ไม่สมควรเลยที่จะรับการไถ่นี้ แต่พระเจ้ารักผมมากครับ ยอมรับสภาพมนุษย์และตายแทนคนบาปหนาอย่างผมได้

ที่ผมมีกินมีใช้ได้อย่างสมบูรณ์พูนสุขทุกวันนี้ ไม่ใช่เพราะกำลังของผมเอง แต่เพราะพระเป็นเจ้าทรงเลี้ยงดูครับ พระองค์ไม่ให้ผมขาดสิ่งดีใดๆเลยในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสถาบันอันทรงเกียรติที่ผมกำลังศึกษาอยู่ อาหารการกินครบสามมื้อยามหิว ยารักษาโรคยามป่วยไข้ หรือแม้กระทั่งครอบครัวและพี่น้องที่แสนจะอบอุ่น สิ่งดีๆเหล่านี้ หลั่งไหลเข้ามาในชีวิตผม เพราะพระเป็นเจ้าทรงอำนวยพระพรให้ครับ

ผมไม่เคยกลัวตายครับ ชีวิตนี้ไม่ใช่ของผมอยู่แล้ว จะอาลัยอาวรณ์ไปเพื่ออะไร ถ้าพระองค์จะเอาไปพรุ่งนี้เลย หรืออีกห้านาทีข้างหน้านี้เลย ผมยอมครับ และไม่เสียใจด้วยผมถือว่าชีวิตนี้หากได้อยู่เพื่อพระคริสต์แล้วถ้าหากมันต้องตาย จะไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่....มันก็เป็นการตายที่ได้กำไรเสมอครับ

พิมพ์เสียเยอะเชียว ไม่รู้ว่าท่านเจ้าของกระทู้จะอ่านหมดรึเปล่า? ผมแค่อยากจะสื่อให้ท่านเห็นว่า สิ่งที่ผมเชื่อสิ่งที่ผมตระหนักรู้ มันเป็นอย่างไร ต่างจากท่านอย่างไร

ท่านจะถือเหตุผล มันเป็นสิทธิของท่าน

ท่านไม่อยากมีศาสนา มันเป็นสิทธิของท่าน

คิดดีๆนะครับ...เรื่องนี้สำคัญต่อชีวิตท่านมาก จะถืออะไรก็ถือเถอะครับ แต่อย่าให้เพื่อนมนุษย์เดือดร้อนเลย ^ ^


ทิ้งท้ายไว้ด้วยภาพสวยๆสักภาพละกันนะครับ....ดูสิครับ....สิ่งที่พระเป็นเจ้าสร้างมานั้น สวยงามเพียงไร

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ธ.ค. 20, 2007 4:27 am

เคยดูหนังสารคดีทาง UBC ช่องหนึ่ง
เป็นเรื่องเกี่ยวกับศาสนา และ ศรัทธา  แล้วก็มีอยู่คำพูดหนึ่ง
ที่รู้สึกโดนสุด ๆ และรู้สึกว่านี่แหละ....  ใช่เลย

ชายคนนั้น พูดสรุปท้ายเรื่องประมาณว่า

สำหรับคนไม่มีศาสนา และพยายามพึ่งกำลังของตนเองนั้น  เมื่อถึงช่วงเวลาแห่งความยุ่งยากลำบากในชีวิต 
เขาก็จะกระเสือกกระสนดิ้นรนช่วยตัวเองอย่างโดดเดียวเพียงลำพัง

แต่สำหรับคนที่มีศรัทธา  ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงถึงขีดสุดเพียงใด
แต่พวกเขาก็ยังมีความหวังอยู่เสมอ  มีความหวังว่าคนที่อยู่เบื้องบนจะไม่ทอดทิ้งเขา และพวกเขาจะไม่ท้อแท้ หรือ สิ้นหวัง





ขอพระเจ้าอวยพร
mapisit
โพสต์: 107
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ย. 19, 2007 9:49 pm
ที่อยู่: ปากปล่องเหวแห่งไฟ
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ธ.ค. 20, 2007 9:10 am

necromancer เขียน: อันนี้ในมุมมองของกฎหมาย
ตามกฎหมายแล้ว
การเป็นศาสนิกชนเป็นสิทธิมนุษยชน และสิทธิพลเมือง ที่สามารถเป็นได้ ถ้าการนับถือศาสนา ความเชื่อ ลัทธิ หรือคำสอนนั้นๆ
ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เป็นไปโดยสุจริต และไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีงามของประชาชน หรือกฎหมายอื่นใด

ดังนั้นการนับถือศาสนาจึงกล่าวได้ว่าเป็ร "เสรีภาพ" ที่ได้รับติดตัวมาตั้งแต่เกิด โดยกฎหมายบ้านเมืองให้การยอมรับ
ทั้งนี้ไม่ได้ถือเป็น "หน้าที่" หรือ "กฎหมาย" บังคับให้พลเมืองมีศาสนา ครับ

ด้วยเหตุดังกล่าวหากใครจะไม่นับถือศาสนา และประสงค์จะให้ปรากฎบนเอกสารราชการก็ทำได้
เช่น

ศาสนา : -

เป็นต้น

ส่วนในมุมมองอื่นๆ ก็สุดแล้วแต่คุณเอง มันไม่ใช่ธุระอะไรของใครที่ไหนหรอกครับ
มันเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนโดยแท้ บุคคลอื่นมีสิทธิเพียงชี้แนะ หรือให้คำปรึกษา
แต่ไม่มีสิทธิมามีอำนาจเหนือร่างกายและจิตใจของใครๆ
ดูตอบ ...
เป็นไปโดยสุจริต ไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน ... เป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้

ไม่บอกก็รู้ได้เลยว่า เรียนอะไรมา
555
จอมนางกระบี่เดี่ยว
โพสต์: 1159
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm

พฤหัสฯ. ธ.ค. 20, 2007 2:58 pm

คนที่ประกาศตัวว่า ไม่นับถือศาสนาใด ๆ หรือไม่มีศาสนา ส่วนใหญ่ เขาจะมีจุดยืนบางอย่างในชีวิต มีการยึดถืออุดมคติบางอย่าง ในทางสร้างสรรค์ มีความนักแน่นมั่นคง เข้มแข็ง และอุดมด้วยปัญญา

การยึดถือสิ่งใด ไม่ว่าจะเรียกสิ่งนั้นว่าเป็นศาสนา หรือไม่เป็นศาสนา ย่อมผ่านการแสวงหา ไตร่ตรอง พิเคราะห์ใคร่ครวญแล้วว่าประเสริฐ จึงเลือกถือปฏิบัติเป็นหลักยึดเหนี่ยว ให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเองและผู้อื่น

ลองทบทวนใคร่ครวญตัวเองดู ว่าเราอยู่ในที่มืด หรือว่าที่สว่าง เสียก่อน แล้วค่อยระบุว่าตัวเองมีศาสนา หรือไม่มีศาสนา     
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mobster
โพสต์: 1623
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 30, 2007 8:02 pm
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ธ.ค. 20, 2007 6:54 pm

แล้วแต่


แต่สำหรับเราที่มีศาสนาอยู่ ก็จงทำตัวตามพระเยซูเจ้าสั่งสอนให้เหมาะสมกับการที่เป็นคนที่มีศาสนา ดีกว่า
warlock
โพสต์: 642
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 3:37 am

ศุกร์ ธ.ค. 28, 2007 5:37 pm

จอมนางกระบี่เดี่ยว เขียน: คนที่ประกาศตัวว่า ไม่นับถือศาสนาใด ๆ หรือไม่มีศาสนา ส่วนใหญ่ เขาจะมีจุดยืนบางอย่างในชีวิต มีการยึดถืออุดมคติบางอย่าง ในทางสร้างสรรค์ มีความนักแน่นมั่นคง เข้มแข็ง และอุดมด้วยปัญญา

การยึดถือสิ่งใด ไม่ว่าจะเรียกสิ่งนั้นว่าเป็นศาสนา หรือไม่เป็นศาสนา ย่อมผ่านการแสวงหา ไตร่ตรอง พิเคราะห์ใคร่ครวญแล้วว่าประเสริฐ จึงเลือกถือปฏิบัติเป็นหลักยึดเหนี่ยว ให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเองและผู้อื่น

ลองทบทวนใคร่ครวญตัวเองดู ว่าเราอยู่ในที่มืด หรือว่าที่สว่าง เสียก่อน แล้วค่อยระบุว่าตัวเองมีศาสนา หรือไม่มีศาสนา     
กู๊ดดดดดด...... เพราะถ้าคุณยอดบอกว่าไม่ยึดติดกับศาสนาใดนั้น ถ่องแท้แล้ว ศาสนาเป็นเพียงเครื่องมือที่เราใช้ในการดำเนินชีวิต ถ้าคุณยอดก้าวข้ามพ้นตรงนี้ไปได้เหนือจากศาสนาใดๆ ....ปลายทางที่ท่อทุกเส้น(ทุกศาสนามีแนวทางปฏิบัติที่อาจแตกต่างกันในบางเรื่องหรือคล้ายคลึงกันในบางเรื่อง แต่ก็มุ่งหวังให้ผู้ปฏิบัติตามอย่างเดียวคือมรรคแห่งความดี)มารวมกันก็คือ ศาสนาแห่งสากลจักรวาล พระบิดาเพียงพระองค์เดียว....นับว่าคุณยอดเดินทางมาไกลมากครับ นับถือๆ ::011:: ::011:: ::011:: เพียงแค่ไม่แบ่งเขาแบ่งเรา เราก็เป็นครอบครัวสากลจักรวาลเดียวกันแล้วครับ
กู๊ดดดดดดดดดด ::011:: ::011:: ::011:: ข้าน้อยขอคารวะด้วยใจจริง ::011:: ::011:: ::011::
potawatomi

จันทร์ ธ.ค. 31, 2007 3:19 pm

warlock เขียน:
จอมนางกระบี่เดี่ยว เขียน: คนที่ประกาศตัวว่า ไม่นับถือศาสนาใด ๆ หรือไม่มีศาสนา ส่วนใหญ่ เขาจะมีจุดยืนบางอย่างในชีวิต มีการยึดถืออุดมคติบางอย่าง ในทางสร้างสรรค์ มีความนักแน่นมั่นคง เข้มแข็ง และอุดมด้วยปัญญา

การยึดถือสิ่งใด ไม่ว่าจะเรียกสิ่งนั้นว่าเป็นศาสนา หรือไม่เป็นศาสนา ย่อมผ่านการแสวงหา ไตร่ตรอง พิเคราะห์ใคร่ครวญแล้วว่าประเสริฐ จึงเลือกถือปฏิบัติเป็นหลักยึดเหนี่ยว ให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเองและผู้อื่น

ลองทบทวนใคร่ครวญตัวเองดู ว่าเราอยู่ในที่มืด หรือว่าที่สว่าง เสียก่อน แล้วค่อยระบุว่าตัวเองมีศาสนา หรือไม่มีศาสนา     
กู๊ดดดดดด...... เพราะถ้าคุณยอดบอกว่าไม่ยึดติดกับศาสนาใดนั้น ถ่องแท้แล้ว ศาสนาเป็นเพียงเครื่องมือที่เราใช้ในการดำเนินชีวิต ถ้าคุณยอดก้าวข้ามพ้นตรงนี้ไปได้เหนือจากศาสนาใดๆ ....ปลายทางที่ท่อทุกเส้น(ทุกศาสนามีแนวทางปฏิบัติที่อาจแตกต่างกันในบางเรื่องหรือคล้ายคลึงกันในบางเรื่อง แต่ก็มุ่งหวังให้ผู้ปฏิบัติตามอย่างเดียวคือมรรคแห่งความดี)มารวมกันก็คือ ศาสนาแห่งสากลจักรวาล พระบิดาเพียงพระองค์เดียว....นับว่าคุณยอดเดินทางมาไกลมากครับ นับถือๆ ::011:: ::011:: ::011:: เพียงแค่ไม่แบ่งเขาแบ่งเรา เราก็เป็นครอบครัวสากลจักรวาลเดียวกันแล้วครับ
กู๊ดดดดดดดดดด ::011:: ::011:: ::011:: ข้าน้อยขอคารวะด้วยใจจริง ::011:: ::011:: ::011::
ผมก็ว่าอย่างนั้น
ตอบกลับโพส