ผู้ชายคาทอลิก

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
yingnoi
โพสต์: 57
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 27, 2008 11:51 am
ที่อยู่: thailand

จันทร์ ก.ค. 14, 2008 10:09 pm

          : emo027 : ถามดูอ่ะค่ะ  เคยมีประสบการณ์แย่ๆเรื่องผู้ชายมาเยอะ แต่เห็นว่า ที่นี่สอนให้รักภรรยา ไม่นอกใจ ไม่มีอะไรกะผู้หญิงอื่น

:huh: อันนี้ขอถามผู้ชายที่เป็นคาทอลิก หรือกะลังจาเป็นเลยนะคะ (ผู้หญิงที่คบแฟนคาทอลิกก็ตอบได้นะคะ) ว่ามันเป็นแบบนั้นจริงป่ะคะ

ไม่เลยเหรอ ไม่คิดเลยเหรอ ไม่นอกใจเลยเหรอ ไม่นอนกะคนอื่นจิงๆเหรอ ถามจิงๆนะคะ ขอร้อง อย่าโกหก ถ้าโกหกเรื่องนี้เรื่องเดียว

เราคงหมดความเชื่อถือแล้วล่ะค่ะ : emo031 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
ignatius
.
.
โพสต์: 2597
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2008 12:48 pm

จันทร์ ก.ค. 14, 2008 10:17 pm

เอ่อ..เข้ามาอ่านคะ
รอให้ผู้ชายคาทอลิก...เค้าเข้ามาตอบล่ะกัน  :grin:
yingnoi
โพสต์: 57
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 27, 2008 11:51 am
ที่อยู่: thailand

จันทร์ ก.ค. 14, 2008 10:19 pm

: emo036 : เอ่อ ไม่น่าเชื่อ กระทู้นิ่งสนิท ทุกครั้งที่ตั้ง ผ่านไปไม่ถึง 3 นาที มีคนตอบแระ ดีใจแทบตาย ::007:: หรือว่า....
ภาพประจำตัวสมาชิก
ignatius
.
.
โพสต์: 2597
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2008 12:48 pm

จันทร์ ก.ค. 14, 2008 10:23 pm

yingnoi เขียน: : emo036 : เอ่อ ไม่น่าเชื่อ กระทู้นิ่งสนิท ทุกครั้งที่ตั้ง ผ่านไปไม่ถึง 3 นาที มีคนตอบแระ ดีใจแทบตาย ::007:: หรือว่า....
อย่าเพิ่งคิดมากคะ
ดึกๆกว่านี้ อีกนิด
อีกอย่างเรื่องนี้ไม่่ค่อยด่วนไง  :tongue:
Dis volentibus

จันทร์ ก.ค. 14, 2008 10:33 pm

ผู้ชายกับผู้หญิงหลายคนเเถวนี้ถือโสด ด้วยเเหล่ะค่ะ เหอะๆๆๆ :grin:

ตามหลักการเเล้วก็เป็นอย่างที่ว่าไว้เเหล่ะค่ะ...ห้ามมีเพศสัมพันธ์นอกสมรส, ห้ามหย่า ไม่งั้นก็เป็นบาปหนัก
ดังนั้นคาทอลิกเวลาจะเเต่งงาน จะต้องดูใจกันนานพอสมควร เเละผ่านการอบรมคู่เเต่งงานมาเเล้ว

ชายที่กล้าประกาศตนเองว่าเป็นคาทอลิก ก็ต้องยอมรับในกฎนี้อ่าค่ะ

อย่างไรก็ตาม การอยู่ด้วยกันอย่างสามี ภรรยา ต้องอาศัยความรัก การให้เกียรติซึ่งกันเเละกัน หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ทำตามนั้น
มันก็จะรวนไปทั้งระบบ...เเละเป็นทางนำไปสู่บาปได้........>>>>

ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ
yingnoi
โพสต์: 57
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 27, 2008 11:51 am
ที่อยู่: thailand

จันทร์ ก.ค. 14, 2008 10:35 pm

::011:: เค้ายังมะคิดไรเรย ใครกานแน่ที่คิด แหมๆๆๆๆๆ เข้ามาดูตลอดเรยน้า  : emo031 : ว่าไปแล้วก็สลด เงียบยังกะป่าช้า กลายเป็นทู้แชทกัน 2 คนแระ เฮ้อ
yingnoi
โพสต์: 57
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 27, 2008 11:51 am
ที่อยู่: thailand

จันทร์ ก.ค. 14, 2008 10:37 pm

yingnoi เขียน: ::011:: เค้ายังมะคิดไรเรย ใครกานแน่ที่คิด แหมๆๆๆๆๆ เข้ามาดูตลอดเรยน้า  : emo031 : ว่าไปแล้วก็สลด เงียบยังกะป่าช้า กลายเป็นทู้แชทกัน 2 คนแระ เฮ้อ
: xemo016 : แต่ที่รู้ ที่เห็นมา ยังมะมีแบบที่บอกเลยนะคะ  ::008::
ภาพประจำตัวสมาชิก
blue_sky
โพสต์: 83
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 20, 2006 2:04 pm
ที่อยู่: Chonburi,Thailand

จันทร์ ก.ค. 14, 2008 10:38 pm

กระทู้ฮ๊อตฮิตจิงๆน๊อ แป๊บเดียวมีคนพิมพ์แซงผมไป 2 ช่วงแล้วอ่ะ ตอบไม่ทันเรย  ::011::

ปล.อาวุธประจำกายเธอสาวโสดคือ คานทองแท้บริสุทธิ์ 99.999 เปอร์เซ็นต์ ใครริจีบเด๋วแม่เพ่นกาบาลให้...ผู้ชายไม่กล้าหยาม โฮะๆ  ::020::
แก้ไขล่าสุดโดย blue_sky เมื่อ จันทร์ ก.ค. 14, 2008 10:41 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Dis volentibus

จันทร์ ก.ค. 14, 2008 10:40 pm

yingnoi เขียน:
yingnoi เขียน: ::011:: เค้ายังมะคิดไรเรย ใครกานแน่ที่คิด แหมๆๆๆๆๆ เข้ามาดูตลอดเรยน้า  : emo031 : ว่าไปแล้วก็สลด เงียบยังกะป่าช้า กลายเป็นทู้แชทกัน 2 คนแระ เฮ้อ
: xemo016 : แต่ที่รู้ ที่เห็นมา ยังมะมีแบบที่บอกเลยนะคะ  ::008::
ผู้ที่เชื่อเเต่ไม่เห็น ก็เป็นสุข...
เชื่อเถอะค่ะ มันก็มีเหมือนกัน...
ภาพประจำตัวสมาชิก
blue_sky
โพสต์: 83
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 20, 2006 2:04 pm
ที่อยู่: Chonburi,Thailand

จันทร์ ก.ค. 14, 2008 10:43 pm

จิงม๊ะ ที่ว่าเลือกมากมักได้แร่...แล้วปกติจะได้แร่อะไรกันคร๊าปปป  เด็กอยากรู้...
ภาพประจำตัวสมาชิก
~KaThaRoS~
โพสต์: 792
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 06, 2007 12:07 am
ที่อยู่: Bkk
ติดต่อ:

จันทร์ ก.ค. 14, 2008 10:52 pm

มีความรักที่ผูกพันเรา2คนไว้ด้วยกัน
และความเชื่อใจซึ่งกันและกัน
เราเชื่อว่าความรักที่เรามีให้กันมันก็ทำให้เราเกรงใจกันมากๆ เชื่อใจในอีกฝ่านนึง
และก็ให้เกีรยติกันและกันค่ะ
อันนี้ตอนในส่วนของแค่แฟนกันนะค่ะ รอแต่งงานจิงๆจังๆเด๋วมาตอบอีกทีค่ะ
แต่สังเกตแฟนเรามันก็ไม่เคยมองคนอื่นนะ เค้าให้เกีรยติเรามากๆเลย เราก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง
เราก็ฝากไว้กับพระ
Dis volentibus

จันทร์ ก.ค. 14, 2008 10:59 pm

~KaThaRoS~ เขียน: เค้าให้เกีรยติเรามากๆเลย เราก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง
เราก็ฝากไว้กับพระ

เพลง หนทางใหม่ / อ.ประจงกิจ (สรรเสริญสดุดีหน้า186)

อนาคต จะเป็นเช่นไร ในชีวิตเรา
จะโศกเศร้า หรือสุขสำราญ เบิกบานเพียงไหน
จะสุขสม หรือทุกข์ระทม ขื่นขมเพียงใด
หนทางใหม่ จะเป็นอย่างไร เราไม่เคยเดิน

เเต่ทุกวัน เราเชื่อวางใจ ในองค์พระเจ้า
ทรงรักษา ไม่พาให้เรา ระหกระเหิน
ฟังพระวาจา พระองค์เเนะนำ เเล้วดำเนิน
ในทางเดิน มุ่งสู่สวรรค์ พลัน สุข ใจ

เเม้บางที หนทางนี้ ต้องข้ามนํ้า
อันลึกลํ้า อ้างว้าง ทั้งกว้างใหญ่
ภูเขาสูง ยอดเสียดฟ้า กล้าขึ้นไป
เพราะพระทรงชัย ดำเนินชิด เป็น มิตร ทาง

ความรักพระองค์มั่นคง ไม่มีผันเเปร
ช่วยเรา ด้วยความรักเเท้ เเละอยู่เคียงข้าง
เดิน เคียงคู่เราไป ไม่มีเหินห่าง
เรา ก้าวเดินทาง อย่างปลอดภัยในพระองค์....
แก้ไขล่าสุดโดย Dis volentibus เมื่อ จันทร์ ก.ค. 14, 2008 11:02 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
yingnoi
โพสต์: 57
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 27, 2008 11:51 am
ที่อยู่: thailand

จันทร์ ก.ค. 14, 2008 11:07 pm

::007:: แล้วทามมาย ม่ายมี ผู้ชาย เข้ามาตอบเรยล่ะคะ ไม่รุย่อมเป็นสุข ถูกแล้ว แต่ทำไมต้องแอบทำให้เราเป็นทุกข์ล่ะคะ เราไม่ชอบเลย แม่เราก็สอนว่า ผู้ชายไม่ชอบผู้หญิงรู้ทัน ต้องแกล้งโง่ โห ::008::ไม่มีทางค่ะ เพราะว่าโง่จิงๆ ไม่เคยแกล้ง เราไม่อยากให้ใครที่มีแฟนอยู่มาอ่านทู้เรานะคะ เพราะเราเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ที่เจอผู้ชาย 99.99 % แบบนิสัยสุดดดดดดดดดดดดดดดดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
Domonic
โพสต์: 88
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มิ.ย. 28, 2008 11:34 am

จันทร์ ก.ค. 14, 2008 11:09 pm

Nong Ying เชือพี่เถอะครับ มี จริง ๆ และมีมาก ๆ ด้วย แต่คนเหล่านี้เป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะไม่ประกาศเรื่องนี้เเก่ คนอื่น คนที่พยายามรักภรรยา หรือเเฟนตัวเองทุกอย่างก็ไม่ได้หมายความว่าคู่ของเขาจะเป็นคู่ที่ราบรื่นเสมอไป เพราะบางครั้งปัญหาก็เกิดจากฝ่ายหญิงด้วย อย่างไรก็ตาม เพราะว่าพระเป็นเจ้ารักเราและไม่ว่าเรา(ที่เป็นสามีภรรยา)จะทำผิดมากมายเพียง พระเมตตาของพระองค์ก็ยิ่งใหญ่(ใหญ่กว่าบาปของเรามาก)และพร้อมที่จะให้อภัยเขาเสมอหากเขาเหล่านั้นต้องการเริ่มใหม่กับพระองค์ โลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์เเบบหรอกครับ เรามนุษย์ต่างมีความโน้มเอียงในทางบาป แต่คนที่รู้ตัวว่าทำผิดหรือทำบาป(โดยเฉพาะบาปนอกใจ) ได้เสียใจและปรับปรุงตัวเองให้หลีกหนีโอกาศเหล่านั้น พระเป็นเจ้าก็พอพระทัย พระองค์ตรัสว่า เรามาตามหาลูกเเกะที่หายไป
ถ้าน้องมีพระคัมภีร์อยากเเนะนำให้น้องอ่าน 1โครินทร์ : 13 ดูนะ

ไม่รู้ตอบครงคำถามหรือเปล่า
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

จันทร์ ก.ค. 14, 2008 11:11 pm

ผู้ชายคาทอลิกที่เคยเห็นแล้วประทับใจมากๆคือ  ความรักมั่นคงยาวนาน  แบบพระเป็นเจ้า  และการให้อภัยถึงแม้จะผิดมากๆ  ที่เคยเห็นคือ  ภรรยา (ต่างศาสนา) มีชู้  มารู้ทีหลัง  ก็ยังให้อภัย  และบอกว่า  ยังรักอยู่  ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม (เค้าเจ็บปวดนะคะ  แต่ความรักทำให้ทนได้ทุกอย่างจริงๆ) ผู้ชายคนอื่นอาจว่า  "โง่" นะ  (และผู้หญิงก็ไม่ควรพิสูจน์ความรักแบบนี้)  แต่ความรักที่ให้ได้แบบนี้  คือความรักแบบคริสตชนจริงๆ ที่สะท้อนความรักพระเป็นเจ้า  และผู้ชายเองก็ยังให้โอกาส  ให้อิสระ  ไม่เก็บไว้  ขนาดผู้หญิงจะหนีตามชู้ไป  โดยอ้างหน้าที่การงาน  ผู้ชายก็ยังให้ไป บอกว่า  ถ้าไม่ให้ก็เหมือนเห็นแก่ตัว  ...  เรารักเค้า  เราก็อยากให้เค้ามีความสุข  ให้อิสระกับเค้ามากที่สุด

สุดท้าย Happy Ending นะคะ  มาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม  เพราะความรักแบบพระเป็นเจ้าที่เค้ามีให้กับภรรยานี่แหละ   ::001::
Hannah
.
.
โพสต์: 60
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ธ.ค. 20, 2005 11:28 pm
ที่อยู่: พระนิเวศน์

จันทร์ ก.ค. 14, 2008 11:14 pm

เข้ามาแปะ ยังแอบอ่านอยู่ แต่ไม่มีไรคุย ::018::  : xemo033 :
Dis volentibus

จันทร์ ก.ค. 14, 2008 11:20 pm

หน้าที่ของคริสตชนในชีวิตสมรส 1เปรโต 3:1-7

ฝ่ายท่านทั้งหลายที่เป็นภรรยาก็เช่นกัน จงเชื่อฟังสามีของท่าน เพื่อว่าแม้สามีบางคนจะไม่เชื่อฟังพระวจนะ แต่ความประพฤติของภรรยาก็อาจจะจูงใจเขาได้ด้วยโดยไม่ต้องใช้พระวจนะนั้น คือเมื่อเขาเห็นการประพฤติอันบริสุทธิ์ของท่านทั้งหลาย ผู้เป็นภรรยา  ประกอบกับความยำเกรง การประดับกายของท่านนั้น อย่าให้เป็นการประดับภายนอก คือการถักผม ประดับด้วยเครื่องทองคำ และนุ่งห่มเสื้อผ้าสวยงาม แต่จงให้เป็นอย่างคนที่ซ่อนไว้ในจิตใจ ด้วยสิ่งที่ไม่รู้เสื่อมสลาย คือเครื่องประดับแห่งจิตใจที่อ่อนสุภาพและสงบเสงี่ยม ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่ามากในสายพระเนตรพระเจ้า บรรดาสตรีบริสุทธิ์ในครั้งโบราณนั้นเช่นกัน ผู้ซึ่งวางใจในพระเจ้า ก็ได้ประดับกายเช่นกันและเชื่อฟังสามีของตน เช่นนางซาราห์เชื่อฟังอับราฮัมและเรียกท่านว่านาย ถ้าท่านทั้งหลายประพฤติดี และไม่มีความหวาดกลัวด้วยตกตะลึงสิ่งใด ท่านก็เป็นลูกหลานของนาง

ฝ่ายท่านทั้งหลายที่เป็นสามีก็เหมือนกัน จงอยู่กินกับภรรยาโดยใช้ความรู้ จงให้เกียรติแก่ภรรยาเหมือนหนึ่งเป็นภาชนะที่อ่อนแอกว่า และเหมือนเป็นคู่รับมรดกพระคุณแห่งชีวิตด้วยกัน เพื่อจะได้ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดขัดขวางคำอธิษฐานของท่าน
แก้ไขล่าสุดโดย Dis volentibus เมื่อ จันทร์ ก.ค. 14, 2008 11:23 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
yingnoi
โพสต์: 57
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 27, 2008 11:51 am
ที่อยู่: thailand

จันทร์ ก.ค. 14, 2008 11:27 pm

: emo018 : จะบอกว่า

เริ่ม ผิด ประเด็นแล้วค่ะ

ทำไม กลายเป็น ว่าผู้หญิง ล่ะคะ

เราถามถึงเรื่อง ผุ้ชายคาทอลิก เป็นแบบคำสอนที่เราเรียนจิงรึป่าว

: xemo031 : ไม่ได้ให้มา ถามกลับ ว่าผู้หญิงก็เป็น มันถูกเหรอคะ ก็ในเมื่อเราเป็นผู้หญิง เราคบผุ้ชาย ก็ต้องเจอแต่ผุ้ชาย แต่ไม่เคยได้เจอแบบที่บอกกันเลย

::008:: หรือ จะให้เรา ไปชอบ ผู้หญิง ดีกว่าคะ ถ้าจะต้องมา ทำใจ กับ การโดนตอกกลับมาอีก


มีไร แอด hi5 มาคุยได้นะคะ ไม่คุยทางเอ็มแล้วค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ ::008::

http://jennying.hi5.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

จันทร์ ก.ค. 14, 2008 11:59 pm

เอ๊า...เจ้าคณะ อธิคานริณี เข้ามาตอบให้แล้วจ้า


ถ้าพูดถึงผู้ชายคาทอลิก ที่มีพระเจ้าในหัวใจ  ไปวัดเสมอไม่เคยขาด   ดำรงตนอยู่ในคำสอน
สามารถวางใจได้ในระดับนึง  ว่าไม่มีเรื่องแบบนี้   เพราะเรามีกฏอย่างชัดเจนในเรื่องนี้

อย่างการมีเพศสัมผัส  ต้องมีเฉพาะกับสามีที่แต่งด้วยเท่านั้น
ประเภท คนรักที่ยังไม่ได้เข้าพิธี  แฟน กิ๊ก คู่ขา  ต่างเพศ และ เพศเดียวกัน 
********ห้ามในทุกกรณี และเป็นบาปหนัก********
เป็นกฏคำสอน และ ข้อบังคับ ที่รับรู้โดยทั่วกัน

โดยเฉพาะหากแต่งงานกันแบบเป็นคาทอลิกทั้งคู่ 
จะกลายเป็นศีลสมรส  เป็นศีลศักดิ์สิทธิ์  หากไม่ว่าฝ่ายใดมีชู้  ก็ถึงขั้นขับออก 
ต่อให้ไปวัด ก็ไปรับศีลไม่ได้เลย 

และถึงแม้ว่า จะแยกทางกันจริง ๆ ต่างฝ่ายต่างก็ไม่สามารถมีคนใหม่ได้ 
จนกว่าจะตายกันไปข้างนึง  ถึงจะแต่งใหม่ได้ 

เราจะถูกปลูกฝั่งไว้เลยว่า  มีคู่เดียว ผัวเดียว เมียเดียว
แม้แต่บางครั้งซวยแต่งไปเจอคู่เวร คู่กรรม ก็ต้องอดทน  เอาความดีเข้าสู้
เว้นแต่มันซาดิสม์ หรือ เลวเกินรับได้  อันนี้สามารถขออนุญาตพระศาสนจักร
ตัดสินให้เป็นโมฆะได้  แต่การเลิกลากัน  ยากกว่าคนทั่วไป ที่นึกจะแต่งก็แต่ง นึกจะหย่าก็หย่า
และอย่างที่บอก  ถึงหย่าแล้ว  การแต่งงานใหม่ก็ยากอยู่ดี
ยกเว้นจะไปแต่งกันเอง หรือ จะวิหารเหาะ แต่ไม่ได้การยอมรับจากพระศาสนจักร


ก่อนแต่ง  เราก็ต้องมีอบรมชีวิตคู่กัน  ระยะเวลาก็แล้วแต่ความเหมาะสม 
และก่อนแต่งก็ต้องมีประกาศที่วัด 3-4 อาทิตย์
ว่าหากใครทราบว่ามีข้อขัดขวาง ที่จะทำให้ทั้งคู่ไม่อาจสมรสกันได้
เช่นผู้ชายแต่งงานแล้ว  ผู้หญิงมีแฟนอยู่แล้ว  หรือ ถูกบังคับให้มาแต่ง  ฯลฯ
ให้แจ้งทันที  เพราะการแต่งจะถูกยกเลิกทันที


แต่คุณต้องเข้าใจอยู่อย่างว่า  ศาสนานั้นสอนดี  แต่ศานุศิษย์ไม่ใช่ดีทุกคน
มันก็มีไอ้พวกเกเร  พวกนับถือแต่ทะเบียนบ้าน  ไม่ได้นับถือในชีวิตจริง
ไอ้พวกนั้น ก็เหมือนกับผู้ชายทั่วไปค่ะ  ผู้ชายถุย ๆ ดาษดื่น  ไม่แตกต่าง   




ดังนั้น  จะเลือกแต่งงานกับใคร ให้ดูใจดี ๆ ศึกษากันนาน ๆ


 
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร ก.ค. 15, 2008 12:02 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

อังคาร ก.ค. 15, 2008 1:26 am

yingnoi เขียน: : emo018 : จะบอกว่า

เริ่ม ผิด ประเด็นแล้วค่ะ

ทำไม กลายเป็น ว่าผู้หญิง ล่ะคะ

เราถามถึงเรื่อง ผุ้ชายคาทอลิก เป็นแบบคำสอนที่เราเรียนจิงรึป่าว

: xemo031 : ไม่ได้ให้มา ถามกลับ ว่าผู้หญิงก็เป็น มันถูกเหรอคะ ก็ในเมื่อเราเป็นผู้หญิง เราคบผุ้ชาย ก็ต้องเจอแต่ผุ้ชาย แต่ไม่เคยได้เจอแบบที่บอกกันเลย

::008:: หรือ จะให้เรา ไปชอบ ผู้หญิง ดีกว่าคะ ถ้าจะต้องมา ทำใจ กับ การโดนตอกกลับมาอีก


มีไร แอด hi5 มาคุยได้นะคะ ไม่คุยทางเอ็มแล้วค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ ::008::

http://jennying.hi5.com

ว่าผู้หญิงยังไงคะ  โอ้โห  อุตส่าห์ยกตัวอย่างพ่อพระให้เห็นนะ  ยังไม่เห็นอีกเหรอจ้ะ   ::001::

ยกตัวอย่างผู้ชายที่สะท้อนภาพลักษณ์ของพระเป็นเจ้าให้เห็น  ยังไม่เห็นอีกเหรอจ้ะ   ::001::

รึว่า  ตอบไม่ตรงคำถามเอ่ย  จะเอาเรื่องความซื่อสัตย์ของผู้ชายใช่มั้ยคะ ...  งั้นเล่าอีกนิด  ผู้ชายคาทอลิกคนนี้  นอกจากจะไม่นอกใจภรรยาแล้ว   ตอนที่เป็นทุกข์เสียใจมากๆ  เค้าก็คุมตัวเองสุดๆ  เพราะกลัวว่า  จะไปเห็นผู้หญิงอื่นดีกว่าภรรยาตัวเองที่นอกใจ  และกลัวว่า  จะห้ามตัวเองไม่อยู่  อาจแก้แค้นโดยมีกิ๊ก  หรืออีกสารพัดที่จะทำได้  ท่ามกลางความกดดันจากทุกด้าน  เค้าก็ไม่เคยซักครั้งที่จะนอกใจภรรยา  ทั้งกาย  วาจา  ใจ  ระวังตัวสุดๆ  ทั้งกลัวผู้หญิงอื่นจะเห็นว่า  ตัวเองดี  รักเดียวใจเดียว  และก็จะพยายามมาคว้าไปเป็นเจ้าของ  ซื่อสัตย์อย่างที่สุดแม้ในสถานการณ์ที่ลำบากที่สุด  และทำให้เขวได้มากที่สุดว่า  เราไม่เห็นต้องซื่อสัตย์เลย  เป็นคนดีไปทำไม  เป็นไปก็เจ็บ  แต่เค้าก็ทำได้จริงๆ ...  นี่แหละ  ความรักมั่นคงแบบคริสตชนล่ะค่ะ  ทั้งซื่อสัตย์อย่างที่สุด  และให้อภัยได้อย่างที่สุด  ให้อภัยอย่างไม่มีเงื่อนไข  ก่อนที่ภรรยาจะมาขอโทษเค้าซะอีก  ....  ที่เคยเห็นมานะคะ  ::001::  บอกตรงๆนะคะ  ไม่เคยเห็นผู้ชายศาสนาอื่นให้อภัยได้ขนาดนี้  ::001::  ทั้งรัก  ทั้งซื่อสัตย์  ในระดับที่ไม่ธรรมดา้เลยจริงๆ  ::001::

การที่เค้าทำได้แบบนี้  เพราะความรักที่มีในใจ  ความรักพระเป็นเจ้า  ไม่ใช่เพราะแค่เรียนมาในชั่วโมงคำสอน  ที่เคยเห็นมา  คนอื่นจะแค่หยุดความซื่อสัตย์ไว้  เท่าที่ตัวเองไม่เจ็บ  ... เมื่อเจ็บแล้วก็เลิก  ไม่ได้มีความรักมั่นคงยาวนาน  (อันนี้ที่เคยเห็นนะคะ)  ::001::

ความรัก  ความสัมพันธ์  มันต้องมีผิดหวัง  มีพลาด  มีขอโทษ  มีให้อภัยนะคะ  ไม่งั้นก็คงไม่ต้องมีศีลอภัยบาป   ::001::  ไม่ใครก็ใครแหละที่ผิด  แต่สุดท้าย  เราต้องหันหน้าเข้าหากัน  คุยกัน  และให้อภัยกัน   ::001::

ที่คุณไม่เจอคนดีๆ  บางที  อาจจะเป็นกระแสเรียกให้คุณต้องได้ให้อภัยผู้ชายที่ทำไม่ดีกับเราก็ได้  ความศักดิ์สิทธิ์ของคุณอาจจะพัฒนาได้ด้วยการให้อภัยเป็นร้อยเป็นพันครั้งก็ได้นะคะ   ::001::  เราทุกคนเกิดมา  เพื่อที่จะฝึกให้ได้รักอย่างพระเป็นเจ้า  และการให้อภัยอย่างไม่รู้จักจบสิ้นนี่แหละ  ก็เป็นการฝึกให้มีความรักแบบพระเป็นเจ้าอย่างนึง   ::001::

มีความรัก  ความสัมพันธ์  อย่าไปมอง  หรือ  จดจำความผิดกันมากค่ะ  และก็อย่าไปคิดว่า  จะต้องสมหวังเหมือนเทพนิยาย  ทุกความสัมพันธ์จะมีผิดหวังเสมอ  กับพระเรายังผิดหวังเลย  พระองค์ก็ผิดหวังกับเรา  แต่สุดท้ายก็ต้องหันหน้าเข้าหากัน  ให้อภัย และไม่จดจำความผิด   ::001::

และที่ผู้ชายไม่เข้ามาตอบก็เพราะ  คนเรามันไม่แน่ว่า  จะพลาดได้มั้ย  เหมือนเราอ่ะค่ะ  สัญญากับพระในห้องแก้บาปว่า  จะไม่ทำ  ไม่ทำ  แต่สุดท้ายก็ทำ  จริงมั้ย  เค้าก็เป็นมนุษย์คนนึง  เหมือนเรา  ไม่ได้สมบูรณ์อะไร  แต่ก็พยายามที่จะทำให้ดีที่สุด   ::001::

ถ้าเราไม่มองแบบนี้  วันนึงเราจะอยู่แต่กับโลกของเรา  และเราจะรักใครไม่ได้เลย  เพราะกลัวผิดหวัง  และไม่มีใครดี  เหมือนผู้ชายคนนึงที่ซื้อตุ๊กตายางไว้เต็มบ้านน่ะค่ะ  (ไม่รู้เคยอ่านข่าวมั้ย)  เค้าบอกว่า  อยู่แบบนี้สบายใจ  เพราะผู้หญิงมีหักอกเค้า  ทรยศเค้า  ทำให้เค้าเสียใจ  ดังนั้น  อยู่กับตุ๊กตายางดีกว่า  ...  อันนี้คือ  ตัวอย่างของการอยู่ในโลกของตัวเองนะคะ  ::001::

พระอวยพรให้ได้รู้จักและมีความรักที่แท้จริงนะคะ   ::001::
แก้ไขล่าสุดโดย Buddy เมื่อ อังคาร ก.ค. 15, 2008 4:20 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
haru

อังคาร ก.ค. 15, 2008 9:16 am

เป็นผู้ชายคาทอลิคครับ(22) เป็นสมาชิกในนี้ด้วย(แต่ขอใช้ชื่อแขกภายนอกนะ ไม่อยากเปิดเผย) มีความตั้งใจจะเป็นแบบที่ว่าครับ คือไม่เจ้าชู้ และจะไม่นอกใจครับ ถามว่าไม่เคยคิดนอกใจเลยเหรอ ไม่คิดอยากนอนกับผู้หญิงอื่นบ้างเหรอ ตอบนะ คิดครับ แต่ไม่ทำ (ตอนนี้ยังไม่มีแฟนนะ หรือว่ามีแต่ตัวเองไม่รู้ตัวว่ามี ตอนมีแฟนจะทำอย่างที่ตั้งใจไว้ได้เปล่าก็ไม่รู้ )

ถ้าจะถามว่าทำไมถึงผมถึงคิดที่จะจริงใจแบบนี้ ผมว่า มันเป็นที่ครอบครัวผมครับ ครอบครัวผม(เป็นพุทธ ยกเว้นผม) พ่อผมทำให้แม่ผมเสียใจอยู่หลายครั้งต่อหลายครั้งมาแล้ว ทั้งกินเหล้า สูบบุหรี่ เที่ยวผู้หญิง แทงม้า กลับมาก็มาทะเลาะกับแม่ผม ตบตีแม่  ฯลฯ แม่ผมต้องมานั่งร้องไห้กับผมบ่อยๆ

มันทำให้ผมเจ็บไปด้วย และทำให้ผมตั้งใจว่า จะไม่ทำตัวตามพ่อผมอีก จะไม่ทำให้ใครต้องเจ็บช้ำกับเรื่องพวกนี้เหมือนกับแม่ผมครับ และมันก็เหมือนซึบซับไปโดยไม่รู้ตัว เวลาแบบว่ามีเพื่อนจับกลุ่มคุยกันเรื่องที่ตัวเองมีผู้หญิงหลายคน แล้วก็มีเพื่อนชมว่า โห นายนี่ เก่งฉิบหาย แต่ผมกับรู้สึกไม่ชอบและเกลียดคนแบบนั้นครับ ที่รู้สึกแบบนั้น ก็คงจะเป็นเพราะเรื่องครอบครัวผมได้ประสบมา ก็เลยทำให้ไม่ชอบคนประเภทนี้เท่าไรครับ ใครไม่เคยเจอ คงไม่รู้หรอก ว่ามันเจ็บแค่ไหน เจ็บจนจำฝังใจเลยล่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ignatius
.
.
โพสต์: 2597
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2008 12:48 pm

อังคาร ก.ค. 15, 2008 9:27 am

และในที่สุดก็เป็นประเด็น ฮ้อตไปได้...ไงคะน้องหญิง คริ คริ
ทั้งที่ น้อง LL และน้อง Buddy ตอบมาเป็นข้อเท็จจริงคะ
ส่วนที่น้องเจนบอกก็ใช่อีก..ถือโสด

คำว่า "ชีวิตโสด" มีความหมายรวมไปจนถึงสภาพและวิถีชีวิตที่กว้างขวางมาก คำๆนี้ยังหมายถึงคนหนุ่มสาวที่ต้องการศึกษาให้สำเร็จ
หรือมีอาชีพที่มั่นคงก่อนจึงจะแต่งงาน หรืออาจหมายถึงพ่อหม้าย แม่หม้าย รวมถึงผู้ที่หย่าร้างกันด้วย แต่ในตอนนี้เรากำลังพูดถึงแค่มุม
ของ "ชีวิตโสด" ที่คนๆหนึ่งเลือกเป็นทางเดินในชีวิตหรือถือเป็นกระแสเรียกเท่านั้น

"ชีวิตโสดเพราะเลือก"

ชีวิตโสดของคนหนุ่มสาวเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับการเจริญเติบโต และการพัฒนาตัวของบุคคล เป็นเวลาสำหรับ
การสำรวจชีวิต และเรียนรู้เกี่ยวกับตนเองและคนอื่นมากขึ้น เป็นเวลาของอิสรภาพ แต่จะมีจุดหนึ่งของชีวิตที่ต้องมีการเลือกอย่างอิสระ
สำหรับสถานภาพของชีวิตอนาคต

การเลือกที่จะอยู่เป็นโสดตลอดชีวิตไม่จำเป็นต้องหมายความถึงการปฏิเสธการแต่งงาน
อาจจะมีเหตุผล หรือแรงจูงใจที่สมเหตุสมผล ที่ทำให้คนหนึ่งเลือกเป็นโสดชั่วชีวิต หรือ อาจเป็นผลจากสภาพแวดล้อมในชีวิตบางประการก็ได้

        1. ชีวิตโสดเพื่อรับใช้ การเลือกเป็นโสดเพื่อรับใช้คนอื่น เป้นการตัดสินใจที่มีเกียรติ เป็นการเสียสละตนเอง
ที่อาจจะยิ่งใหญ่กว่าการเลือกชีวิตนักบวชเสียอีก ตัวอย่างของการเลือกแบบนี้ เช่น เลือกที่จะอยู่เป็นโสดเพื่อดูแลคนเจ็บป่วย หรือญาติ
ผู้ใหญ่ หรือ ช่วยเหลือน้องๆให้สามารถได้ศึกษาเล่าเรียน และได้รับการอบรมที่ดี


       2. ชีวิตโสดเพราะอาชีพ หนุ่มสาวบางคนเลือกที่จะเลื่อนการแต่งงานออกไปเพราะอาชีพ หรืออาจเลือกเป็นโสด
เพราะเหตุเดียวกัน เช่นกลุ่มที่ทำงานทางด้านการเขียน และวาดภาพ บางคนตัดสินใจครองตัวเป็นโสด อุทิศตนเพื่องานหรืออาชีพอย่างเต็มตัวมากขึ้น การอยู่เป็นโสดประเภทนี้เหมาะสำหรับงานด้านสงเคราะห์ การศึกษา การดูแลคนป่วย และคนชรา เป็นอย่างยิ่ง


       3. เป็นโสดเพราะความอิสรภาพ หนุ่มสาวบางคนให้ความสำคัญกับความสันโดษ และความเป็นอิสรภาพของตนเอง
จนกระทั่งไม่สามารถสละมันได้ เขาต้องการมีชีวิตอยู่อย่างอิสระโดยไม่ต้องขึ้นอยู่กับผู้ใด จึงไม่ต้องการที่จะแต่งงานไปจนตลอดชีวิต


       4. เป็นโสดเพราะหาคู่ครองที่เหมาะสมไม่ได้ หนุ่มสาวบางคนใฝ่ฝันที่จะได้คู่ครองที่เหมาะสมครบครัน
จนบางครั้งก็ลืมไปว่าเราเองก็อาจจะไม่สมบูรณ์ แต่ในบางทีข้อบกพร่องบางอย่างที่มีอยู่อย่างเดียวนั้น เราอาจจะรับไม่ได้ก็ได้ จึงละโอกาสที่
ควรจะแต่งงานให้ผ่านไป ด้วยหวังว่าจะได้คู่ครองที่เหมาะสมกว่านี้ และอีกหลายๆคนที่กลัวปัญหาที่จะเกิดขึ้นภายหลังการแต่งงาน
ทั้งกรณีนี้จึงสิ้นสุดลงด้วยการอยู่เป็นโสด


       แง่คิดต่างๆของชีวิตโสด
       ไม่ว่าเหตุผลใดหรือแรงจูงใจสำหรับการไม่แต่งงาน จะเป็นอะไรก็ตาม ผู้ครองโสดจะต้องทำความเข้าใจกับความเป็นจริง
ของสถานะของชีวิตของตน ชีวิตโสดเมื่อเป็นกระแสเรียก เป็นการเรียกให้รักพระเป็นเจ้าและเพื่อนมนุษย์ ผู้ที่เต็มใจเลือกเพราะเป็นกระแสเรียก
จะเจริญขึ้นเป็นบุคคลอย่างเต็มตัว


      1. มิติด้านความเชื่อของชีวิตโสด  ความเชื่อของคริสตชน ทำให้มีมิติที่ลึกซึ้งของชีวิตโสดในฐานะเป็นกระแสเรียกอย่างหนึ่ง คนโสดถูกเรียกให้เป็นคนศักดิ์สิทธิ์โดยทางศีลล้างบาป การตอบสนองกระแสเรียกให้เป็นโสด เป็นการยอมรับการท้าทายให้ดำรงชีวิตถือพรหมจรรย์
ซึ่งลึกซึ้งกว่าความเป็นจริงทางกายแต่เพียงอย่างเดียว เป็นการอุทิศตนทั้งครบแด่พระเจ้า และแก่เพื่อนมนุษย์
      ผู้สนองตอบกระแสเรียกนี้ จะพบพลังที่จะดำเนินชีวิตถือพรหมจรรย์ในความชิดสนิทกับพระเจ้า ความชิดสนิทนี้ที่บรรลุถึงได้โดยทางภาวนา
และทางศีลศักดิ์สิทธิ์ จะนำผู้ถือโสดให้รู้จักรับใช้ และรักผู้อื่นเพิ่มขึ้น ชีวิตโสดเป็นชีวิตที่นำไปสู่พระเป็นเจ้า และความสำเร็จสำหรับผู้ที่รักพระเป็นเจ้า
และทรงเรียกให้ดำเนินชีวิตเช่นนั้น
      2. รางวัลของความเป็นโสด คนโสดมีอิสระกว่าคนแต่งงาน เขาหรือเธอ เป็นอิสระจากข้อผูกมัดในชีวิตแต่งงานและครอบครัวของตนเอง
ความเป็นอิสระนี้กลับกลายเป็นพลังที่มีคุณค่า ถ้าหากว่าเขาใช้เพื่อรับใช้คนอื่นมากขึ้น แต่จะตรงกันข้าม และเป็นการเห็นแก่ตัว ถ้าหากว่า
เขาใช้ความเป็นอิสระจากข้อผูกมัดเพียงเพื่อทำตามใจของตนเอง
      3. การท้าทายของความเป็นโสด ความอ้างว้างโดดเดี่ยวเข้าคุกคามคนโสดมากกว่าคนแต่งงาน ความจริงในข้อนี้คงไม่มีใครเถียงได้
เพราะคนโสดย่อมอยู่คนเดียวบ่อยกว่า อย่างไรก็ตาม ความโดดเดี่ยวไม่เหมือนกับการอยู่คนเดียว การอยู่คนเดียวอาจเป็นรางวัลอย่างหนึ่ง
ในชีวิตโสด เพราะมีโอกาสที่จะเข้าใจตนเอง และคนอื่นได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น หรืออาจทำให้เรารู้คุณค่าของความรักและมิตรภาพของคนอื่นมากขึ้น
และให้โอกาสที่จะอยู่ตามลำพังกับพระเป็นเจ้าในการภาวนาด้วย


      ชีวิตแต่งงาน
พระเป็นเจ้าทรงสร้างมนุษย์เป็นชายและเป็นหญิง ทรงกำหนดให้ชายและหญิงมีหน้าที่พิเศษบางประการ ในแผนการของพระองค์
เขาทั้งสองจะต้องสะท้อนภาพลักษณ์แห่งความเฉลียวฉลาด ความดี และความรักของพระเป็นเจ้าตามแบบเฉพาะของตนเอง นอกนั้น ยังเป็นส่วนหนึ่ง
ในแผนการของพระเป็นเจ้าอีกด้วย ที่ให้ชายและหญิงประกอบกันและกันอย่างสมบูรณ์ และเช่นเดียวกัน...


พระองค์ทรงตั้งพระทัยว่า ชายและหญิงควรได้มีส่วนในงานสร้าง และการไถ่กู้ของพระองค์ โดยการรับใช้พระองค์
ในฐานะคู่แต่งงาน ความรักและการอุปถัมภ์คำ้จุน ที่สามีภรรยามีต่อกัน เป็นพระพรใหญ่หลวงของพระเป็นเจ้าที่ทรงประทานให้มนุษย์ สามีและภรรยา
ถูกเรียกให้ร่วมมือกันเพื่อทำให้แผนการของพระเป็นเจ้าสำหรับพวกเขาในโลกนี้สำเร็จไป พวกเขารู้จักและรักพระเป็นเจ้ามากขึ้น โดยรู้จักและรักซึ่งกัน
และกัน ชีวิตแต่งงาน เป็นหนทางเที่ยงแท้ที่นำไปสู่พระเป็นเจ้าสำหรับสามีและภรรยา


เราจะรู้ได้อย่างไร ? หรือมีเครื่องหมายบางประการที่บอกให้มนุษย์ทราบว่าพระเป็นเจ้าทรงเรียกให้เขาใช้ชีวิตแต่่งงาน มีดังต่อไปนี้
    1. ความชอบชีวิตแต่งงาน เพราะพระเป็นเจ้าทรงปรารถนาให้ทุกคนเป็นสุข กระแสเรียกของพระองคืต้องเป็นการเรียกไปสู่ความสุข
ถ้ามนุษย์มีความเชื่ออย่างจริงใจว่า เขาจะประสบความสำเร็จและความสุขในการแต่งงาน เขาจะรู้สึกว่าตัวเองถูกดึงดูดไปสู่ชีวิตนั้น
    กระแสเรียกที่เรียกมนุษย์ไปสู่สถานภาพชีวิตหนึ่งชีวิตใด ย่อมมีควบคู่ไปกับความปรารถนาอย่างแรงกล้าต่อชีวิตแบบนั้นด้วยเสมอ
    2. ความเต็มใจที่จะร่วมชีวิตกับคนอื่น ความสัมพันธ์ของมนุษย์มักเริ่มจากเสน่ห์ที่ดึงดูดใจ โดยมากจะเป็นเสน่ห์ทางกาย ระหว่างชายและหญิง
แล้วค่อยๆพัฒนาเป็นมิตรภาพอันแกร่งกล้า จนในที่สุดมิตรภาพนี้นำไปสู่ความปรารถนาอันร้อนแรงที่จะใช้ชีวิตร่วมกันด้วยความเต็มใจ และพร้อม
ที่จะอุทิศตนให้กันและกัน จัดวางความสุขของอีกฝ่ายหนึ่งมาก่อนความสุขของตนเอง


ชีวิตแต่งงานเป็นทางไปสู่พระเจ้า พระเป็นเจ้าเองทรงเป็นผู้คิดให้มีการแต่งงาน พระองค์ทรงตั้งพระทัยให้การแต่งงานนี้มีไว้
เพื่อจุดประสงค์หลายประการ โดยทุกอย่างมีความเกี่ยวข้องกับการสืบเผ่าพันธ์มนุษย์ กับความครบครันส่วนตัวของคู่แต่งงาน และกับสวัสดิภาพ
ของครอบครัว พระเป็นเจ้าทรงมอบศักดิ์ศรีอันสูงส่งแก่การแต่งงานถึงขนาดให้เป็นสัญลักษณ์ของความรักของพระเป็นเจ้าต่อมนุษย์ และการแต่งงาน
ได้กลับเป็นศีลศักดิ์สิทธิ์ของพระคริสตเจ้าในพระศาสนจักร
     
       1. การแต่งงานเป็นการนมัสการ การสมรสระหว่างสามีภรรยาได้รับการบันดาลให้ศักดิ์สิทธิ์โดยทางศีลสมรส และกลับเป็นสัญลักษณ์แสดง
ถึงความรักของพระเป็นเจ้าต่อมนุษย์ การแสดงออกของความรักระหว่างสามีภรรยาเป็นการแสดงความรักของพวกเขาต่อพระเป็นเจ้า ทั้งโดยส่วนตัว
และส่วนรวม ยิ่งพวกเขาสนิทสนมเป็นหนึ่งเดียวกันมากเท่าใด ก็ยิ่งทำให้แผนการของพระเป็นเจ้าสำหรับพวกเขาสมบูรณ์และเป็นการถวายพระเกียรติมงคลแด่พระองค์มากขึ้นเท่านั้น
     2. การแต่งงานเป็นทางเพื่อบรรลุสู่ความครบครัน โดยการแลกเปลี่ยนคำสัญญาในพิธีแต่งงานที่กระทำกันในโบสถ์ สามีภรรยาได้ทำพิธีโปรดศีลแต่งงานให้กันและกัน
ดังนั้นเขาทั้งสองจึงเป็นผู้นำพระคริสตเจ้ามามอบให้กันและกันในแบบพิเศษ
โดยเฉพาะ
และเมื่อพวกเขาดำเนินชีวิตตามคำสัญญาในศีลแต่งงานต่อๆไป ด้วยการมอบตนเองทั้งครบ
แก่กันและกัน โดยไม่เห็นแก่ตัวนั้น พวกเขาก็ได้ตอบสนองพระหรรษาทานของศีลแต่่งงาน เหตุนี้พวกเขาไม่เพียงแต่เพิ่มพูนความรักและมิตรภาพ
ต่อกันและกันเท่านั้น แต่ยังเพิ่มพูนมิตรภาพและความรักต่อพระเป็นเจ้าอีกด้วย


ถ้าอยากอ่านรายละเอียดมากกว่านี้อีก หาได้จากหนังสือ "ทางสู่พระเจ้าของข้าพเจ้า" ซึ่งเป็นหนังสือคำสอนเล่มที่ 4 ในชุดนี้
เล่ม 1. เรื่องน่าทึ่งของพระเยซูเจ้าชาวนาซาเร็ธ
เล่ม 2. ความรักของพระเป็นเจ้ากับประชากรของพระองค์
เล่ม 3. พระคริสตเจ้าและพระศาสนจักรของพระองค์
เล่มนี้เป็น เล่มที่ 4 ทางสู่พระเจ้าของข้าพเจ้า
หาซื้อได้ตามร้านหนังสือคำสอนทั่วไป และที่แน่ ที่วัดอัสสัมชัญและที่บ้านผู้หว่านมีขายคะ  : emo027 :

   
แก้ไขล่าสุดโดย ignatius เมื่อ จันทร์ ก.ค. 21, 2008 8:50 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร ก.ค. 15, 2008 9:55 am

ไม่ตอบดีกว่า เดี๋ยวเข้าตัว ::011::
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

อังคาร ก.ค. 15, 2008 10:26 am

::005:: ไม่ตอบด้วย เดี๋ยวตัวเข้าไป
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

อังคาร ก.ค. 15, 2008 10:31 am

haru เขียน: เป็นผู้ชายคาทอลิคครับ(22) เป็นสมาชิกในนี้ด้วย(แต่ขอใช้ชื่อแขกภายนอกนะ ไม่อยากเปิดเผย) มีความตั้งใจจะเป็นแบบที่ว่าครับ คือไม่เจ้าชู้ และจะไม่นอกใจครับ ถามว่าไม่เคยคิดนอกใจเลยเหรอ ไม่คิดอยากนอนกับผู้หญิงอื่นบ้างเหรอ ตอบนะ คิดครับ แต่ไม่ทำ (ตอนนี้ยังไม่มีแฟนนะ หรือว่ามีแต่ตัวเองไม่รู้ตัวว่ามี ตอนมีแฟนจะทำอย่างที่ตั้งใจไว้ได้เปล่าก็ไม่รู้ )

ถ้าจะถามว่าทำไมถึงผมถึงคิดที่จะจริงใจแบบนี้ ผมว่า มันเป็นที่ครอบครัวผมครับ ครอบครัวผม(เป็นพุทธ ยกเว้นผม) พ่อผมทำให้แม่ผมเสียใจอยู่หลายครั้งต่อหลายครั้งมาแล้ว ทั้งกินเหล้า สูบบุหรี่ เที่ยวผู้หญิง แทงม้า กลับมาก็มาทะเลาะกับแม่ผม ตบตีแม่  ฯลฯ แม่ผมต้องมานั่งร้องไห้กับผมบ่อยๆ

มันทำให้ผมเจ็บไปด้วย และทำให้ผมตั้งใจว่า จะไม่ทำตัวตามพ่อผมอีก จะไม่ทำให้ใครต้องเจ็บช้ำกับเรื่องพวกนี้เหมือนกับแม่ผมครับ และมันก็เหมือนซึบซับไปโดยไม่รู้ตัว เวลาแบบว่ามีเพื่อนจับกลุ่มคุยกันเรื่องที่ตัวเองมีผู้หญิงหลายคน แล้วก็มีเพื่อนชมว่า โห นายนี่ เก่งฉิบหาย แต่ผมกับรู้สึกไม่ชอบและเกลียดคนแบบนั้นครับ ที่รู้สึกแบบนั้น ก็คงจะเป็นเพราะเรื่องครอบครัวผมได้ประสบมา ก็เลยทำให้ไม่ชอบคนประเภทนี้เท่าไรครับ ใครไม่เคยเจอ คงไม่รู้หรอก ว่ามันเจ็บแค่ไหน เจ็บจนจำฝังใจเลยล่ะ
เจ็บนะคะ แต่วันนึง  ต้องให้อภัยพ่อให้ได้นะคะ  เพื่อที่เราจะได้ช่วยวิญญาณพ่อเราด้วย  เค้าทำเราเจ็บ  ทำแม่เจ็บ  แต่วันนึงก็ต้องให้อภัยให้ได้  และผ่านให้ได้  เราจะรู้ว่า เราให้อภัยได้เมื่อไหร่  ก็คือเมื่อเราไม่เกลียดคนที่มีพฤติกรรมเหมือนพ่อเราได้

เหมือนไม่ยุติธรรมนะ  คนถูกกระทำ  ทำไมต้องมาให้อภัย  ต้องมาทรมานด้วย  ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไม  รู้แต่ว่า  ทำแล้วมันดีอ่ะค่ะ  ทำแล้วใกล้พระมากขึ้น   ::001::

คนที่มีพฤติกรรมแบบนั้น  ส่วนใหญ่เท่าที่เห็นคือ  เป็นพวกกลวงๆนะ  เป็นพวก insecured ด้วย พออะไรหายไปจากชีวิต  ก็จะทำอะไรไม่ถูก  สั่นคลอนไปหมด  ก็เลยต้องชดเชยเยอะๆไว้ก่อน ... และมีปมเรื่องแม่ตัวเอง  ตอนเด็กต้องการแม่  แต่ไม่ได้อยู่กับแม่  โตมาก็เลยชดเชยแบบนั้น  พยายามเอาชนะผู้หญิง  หรือไม่ก็หาผู้หญิงมาชดเชยเยอะๆ  จริงๆแล้ว  คนที่เป็นแบบนี้  ก็น่าสงสารเหมือนกัน

การที่คนเรามีพฤติกรรมอะไรที่ไม่ดี  มีสาเหตุทั้งนั้นนะคะ  ส่วนใหญ่จากการเลี้ยงดู  ซึ่งถ้าจะโทษกัน  ก็จะไล่ไปจนถึงมนุษย์คู่แรกนั่นแหละ  นำบาปกำเนิดมาสู่โลก  แต่สิ่งที่เราทำได้คือ  รักและให้อภัย  อาจจะยากหน่อย  แต่ก็ต้องทำ  เพราะเราทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้

พระอวยพรค่ะ   ::001::
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

อังคาร ก.ค. 15, 2008 10:48 am

อย่าโกหก ถ้าโกหกเรื่องนี้เรื่องเดียว

เราคงหมดความเชื่อถือแล้วล่ะค่ะ
ตอบแล้วจะรู้หรือไม่ว่าโกหกหรือไม่โกหก คือมันตัดมิตรเกินไปสำหรับคำพูดทำนองนี้

ผมแต่งงานเรียบร้อย(เรียบร้อยในบริบทศาสนานะครับ ไม่ได้แปลว่าแต่งงานแล้วเฉยๆ) และจำได้มั่นว่ามันเป็นข้อผูกมัดของทั้งชายและหญิงที่จะต้องซื่อสัตย์ต่อกัน เพราะฉะนั้นขอบอกง่ายๆว่า อย่าโยนให้ฝ่ายเดียวครับ ตัวเองต้องรับผิดชอบด้วย ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรับผิดชอบพระก็จะอยู่กับเขา แต่ถ้าใครผิด พระก็ยังอยู่กับเขานั่นแหละ แต่เขาต่างหากละที่ไม่เอาพระเอง

เราต้องอยากสร้างครอบครัวที่ดีครับ ไม่ใช่อยากมีครอบครัวที่ดี เพราะว่าครอบครัวที่ดีไม่ได้เป็นของสำเร็จรูปที่ช๊อปได้จากร้านชำหรือห้างร้าน
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร ก.ค. 15, 2008 12:37 pm

:+: seraphim :+: เขียน: ::005:: ไม่ตอบด้วย เดี๋ยวตัวเข้าไป
ตัวอะไรเข้าไปอ่ะพี่? ::011::
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

อังคาร ก.ค. 15, 2008 1:06 pm

Batholomew เขียน:
:+: seraphim :+: เขียน: ::005:: ไม่ตอบด้วย เดี๋ยวตัวเข้าไป
ตัวอะไรเข้าไปอ่ะพี่? ::011::
::018:: หมายถึงเรื่องของตัวเองย่ะ
ซู้ดหล่อออ

อังคาร ก.ค. 15, 2008 2:21 pm

yingnoi เขียน:            : emo027 : ถามดูอ่ะค่ะ  เคยมีประสบการณ์แย่ๆเรื่องผู้ชายมาเยอะ แต่เห็นว่า ที่นี่สอนให้รักภรรยา ไม่นอกใจ ไม่มีอะไรกะผู้หญิงอื่น

:huh: อันนี้ขอถามผู้ชายที่เป็นคาทอลิก หรือกะลังจาเป็นเลยนะคะ (ผู้หญิงที่คบแฟนคาทอลิกก็ตอบได้นะคะ) ว่ามันเป็นแบบนั้นจริงป่ะคะ

ไม่เลยเหรอ ไม่คิดเลยเหรอ ไม่นอกใจเลยเหรอ ไม่นอนกะคนอื่นจิงๆเหรอ ถามจิงๆนะคะ ขอร้อง อย่าโกหก ถ้าโกหกเรื่องนี้เรื่องเดียว

เราคงหมดความเชื่อถือแล้วล่ะค่ะ : emo031 :
เป็นสมาชิกที่นี่แหละ แต่ไม่กล้าเปิดเผยตัว แต่อยากตอบคุณหญิงน้อย
คำถามนี้ ไม่เลยเหรอ ไม่คิดเลยเหรอ ไม่นอกใจเลยเหรอ ไม่นอนกะคนอื่นจิงๆเหรอ
ตอบจากใจเลยนะ  เวลาต้องตัดใจจากหญิงอื่นทีไม่ใช่เมีย เคยถามตัวเองว่า
ทำไมเราต้องเป็นคาทอลิกด้วยนะ ทำไมต้องไปสัญญากับเมียตอนแต่งงานด้วย
ไปสาบานต่อหน้าพระด้วย
จะรักและซื่อสัตย์ต่อเธอจนกว่าชีวิตจะหาไม่
อำนาจใฝ่ต่ำมันมากนะ อยากจะทำเป็นที่สุด
นี่เมืองไทย เมืองที่เต็มไปด้วยกิเลส หาผู้หญิงได้ง่ายกว่าง่าย
ตอนนี้วิธีแก้คือการพกสายประคำไว้
เฮ้อ เกิดมาหล่อก็อย่างนี้แหละ (แหวะ เองก็ได้)
ตอนนี้พยายามที่สุด กลัวใจตัวเองเหมือนกัน
ขอพระทรงเมตตาด้วย
อย่าให้แพ้การประจญเลย พระเจ้าข้า
ภาพประจำตัวสมาชิก
love.na
โพสต์: 180
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 04, 2008 7:54 pm

อังคาร ก.ค. 15, 2008 4:56 pm

แค่เคยได้ยินมานะ เค้าบอกกันว่า"ถ้าผู้ชายไม่เจ้าชู้  เขาก็ไม่เรียกว่าผู้ชาย" ::010::
รักพระดีที่สุดค่ะ : xemo026 :
ตอบกลับโพส