เปลี่ยนชื่อจริง มันไม่มีผลมากใช่ไหมหะ กับชีวิต

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
_Tetsuka_
โพสต์: 96
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ เม.ย. 20, 2008 9:43 pm

พุธ มี.ค. 25, 2009 8:12 pm

พอดีจะไปเปลี่ยนชื่อจริง รู้สึกชอบชื่อนี้มากกว่า  เลยจะไปเปลี่ยนชื่อ    พวกความเชื่อทางพุทธ  หรือพราหม์ไม่สามารถทำไรได้ใช่ไหมหะ

เช่น  เปลี่ยนชื่อแล้วแย่ลง  ประมาณนี้นะหะ 
Dis volentibus

พุธ มี.ค. 25, 2009 8:17 pm

เปลี่ยนชื่อเเล้วเเย่ลง หรือเปลี่ยนชื่อเพื่อเสริมสิริมงคลของตน
ไม่ใช่ความเชื่อของคริสตชนอ่าค่ะ ไม่มีผลตั้งเเต่เเรกเเล้ว...
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

พุธ มี.ค. 25, 2009 9:59 pm

แนะนำว่า ลองอ่านที่ีนี่ดูค่ะ

http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=9319.0
Dark Life
โพสต์: 53
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 01, 2009 7:42 pm

พุธ มี.ค. 25, 2009 10:37 pm

แค่ตัวหนังสือ ไม่มีชีวิตทำไรคุณมะได้ร็อก ตัวคุรเองตะหากล่ะที่จะทำให้ดีหรือไม่ดีได้ แล้วถ้าเป็นคริสต์ชนด้วยละก็ลืมเรื่องนี้ได้เลย
Cecilia_PEAR
โพสต์: 202
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 11:23 pm
ที่อยู่: 1506/504 ซ.7/ม.สราลี เทพารักษ์ สป. // อาสนวิหาอัสสัมชัญ
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. มี.ค. 26, 2009 1:06 am

ชื่อนั้นสำคัญไฉนคะ........ : emo045 :

พระองค์จำคุณอย่างที่คุณเป็น ชื่อไม่ได้เป็นตัวบ่งบอก หรือกำหนด หรือมีผลกระทบว่าชีวิตคุณจะเป็นยังไง

นี่คะ.......  : emo027 :

พระอวยพรค่ะ  : emo038 :
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

พฤหัสฯ. มี.ค. 26, 2009 10:24 pm

รูปภาพ

นักบุญเปโตร เดิมชื่อ " ซีโมน " เป็นชาวประมงคนหนึ่งของตำบลเบธไซดา (ลก. 5 : 3) แต่ต่อมาได้ย้ายมาตั้งหลักแหล่งที่เมืองคาเปอร์นาอุม (มก. 1 : 21,29) นักบุญอันดรูว์น้องชายของท่านได้เป็นคนแนะนำมาให้ติดตามพระเยซูเจ้า " ผมพบท่าน ผู้ที่พระเจ้าทรงแต่งตั้งมาเป็นกษัตริย์แล้ว" (ยน. 1 : 41)
     พระเยซูเจ้าทรงได้เปลี่ยนชื่อท่านใหม่และทรงเรียกว่า " เปโตร " ซึ่งแปลว่า " ศิลา" (มธ. 16 : 17-19) ครั้งหนึ่งพระเยซูตรัสถามท่านว่า " ท่านคิดว่าเราเป็นใคร " และเปโตรได้ทูลว่า" พระองค์คือพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเป็นเจ้า " พระเยซูจึงตรัสว่า " เราจะตั้งท่านเป็นหัวหน้าแทนเรา ทั้งจะมอบกุญแจอาณาจักรแห่งเมืองสวรรค์"(มธ. 16 : 15-19) สัญญลักษณ์ที่เห็นเด่นชัดในภาพคือ มือของท่านมีลูกกุญแจ
     นักบุญเปโตรเป็นพระสัตปาปาองค์แรกของพระศาสนจักร ท่านได้ถูกจับตรึงกางเขน และท่านได้ขอร้องให้เอาศีรษะทิ่มลงหิน โดยกล่าวว่า ท่านไม่สมควรที่จะตายในลักษณะเดียวกับพระเยซูเจ้าพระอาจารย์

รูปภาพ

นักบุญเปาโล เดิมชื่อว่า "เซาโล" (ภาษาฮีบรู แปลว่า ที่ปรารถณาที่ต้องการ" ท่านเป็นชาวยิวที่เกลียดชังพวกคริสตชนอย่างยิ่ง ครั้งหนึ่ง ขณะที่ท่านเดินทางไปเมืองดามัสกัส เพื่อจับคริสตชน พระเป็นเจ้าได้ประจักษ์มาหาท่านโดยทำให้เกิดแสงสว่างลงมาจากฟ้าล้อมรอบตัวท่าน จนทำให้ท่านตกลงมาจากหลังม้า และก็มีเสียงถามท่านว่า " เซาโล เซาโล เจ้าเบียดเบียนเราทำไม " เซาโลจึงถามว่า " พระองค์ต้องการให้ข้าพเจ้าทำสิ่งใด " เสียงนั้นก็ว่า " จงเข้าไปในเมืองแล้วเจ้าจะรู้ว่าจะต้องทำอะไร" แต่เนื่องจากขณะนั้นตาของท่านบอด จึงต้องมีคนนำทางท่านเข้าไปในเมือง สามวันให้หลัง ท่านได้พบกับชายคนหนึ่งชื่อ อานาเนีย ซึ่งบอกกับท่านว่า พระเป็นเจ้าได้ส่งเขามาพบท่าน หลังจากนั้นท่านก็ได้เห็นอีกครั้ง พร้อมกับพระหรรษทานจากพระจิตเจ้า ท่านได้กลับใจและรับศีลล้างบาป ทั้งเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น " เปาโล " (เทียบ กจ. 9 : 1-19, กท. 1 : 12-17)
     ท่านเป็นผู้มีจิตใจร้อนรนทั้งจาริกประกาศพระศาสนาจักรไปทั่วแคว้นต่างๆ รวมทั้งเขียนจดหมายถึงคริสตชนเป็นจำนวนมากที่สุด ท่านจึงถูกจำคุกและถูกตัดศีรษะ เป็นมรณสักขี ฉะนั้น จึงเห็นว่า สัญญลักษณ์ที่เห็นในภาพคือ พระคัมภีร์และดาบ.

จากลิงค์นี้ครับ
http://www.geocities.com/Athens/Thebes/3517/saint8.html



จะเห็นว่านักบุญทั่งสองท่านเดิมก็ใช้ชื่อหนึ่งแต่ตอนหลังพระเจ้าก็ให้เปลี่ยนไปเป็นอีกชื่อหนึ่ง แล้วมีคำถามขึ้นในใจไหมครับว่าทำไมพระองค์ถึงให้เปลี่ยน ชื่อเซาโลก็แพร่ธรรมได้ ไม่เห็นจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็น เปาโล ในเมื่อชื่อไหนๆ มันก็เหมือนกัน แล้ว ซีโมน ใช้ชื่อ ซีโมน ก็เป็นผู้นำของพระศาสนจักรได้ทำไมต้องเปลี่ยนเป็น เปโตรด้วย

จากพระคัมภีร์ตั้งแต่หนังสือปฐมกาลลงมาจะเห็นว่า ทุกตัวบุคลในพระคัมภีร์ชื่อของเขาจะตรงกับชีวิตและกิจการที่เขาทำบนโลกใบนี้

(26) ภายหลังน้องของเขาก็คลอดออกมา มือมือของเขาจับซ่นเท้าของเอซาวไว้  เขาจึงตั้งชื่อว่า ยาโคบ (แปลว่าเขาจับซ่นเท้า หรือ เขาหลอก) เมื่อนางคลอดลูกแฝดนั้น อิสอัคมีอายุได้หกสิบปี (ปฐมกาล 25 : 26)

และแล้วในที่สุดชีวิตของยาโคบก็ได้พรจากอิสอัค ด้วยการหลอกให้พ่อเข้าใจว่าตนเป็นเอเซาพี่ชาย แล้วในที่สุดอิสอัคซึ่งเป็นพ่อก็อวยพรยาโคบ ชีวิตของยาโคบในแผนการของพระเจ้าถูกกำหนดโดยชื่อนั้น

ย้อนกลับไปดูอับบราฮัมพระคัมภีร์กล่าวว่า

(5) ชื่อของเจ้ามิใช่ อับราม (แปลว่า บิดาผู้เป็นที่ยกย่อง) อีกต่อไป  เจ้าจะมีชื่อใหม่ คืออับราฮัม (บิดาแห่งมวลชน) เพราะเราให้เจ้าเป็นบิดาของประชาชาติมากมาย (ปฐมกาล 17:5)

พระเจ้าเปลี่ยนชื่อให้อับราม ซึ่งแปลว่าเป็นที่ยกย่อง แต่พระเจ้าไม่ต้องการให้อับรามได้เพียงแค่นั้น แต่ต้องการให้อับรามเป็นบิดาของมวลชนมากมาย เป็นบิดาของสามศาสนาคือ คริสต์ ยิว และมูสลิม ดังนั้นชื่อจึงมีผลต่อวิถีชีวิตและการเจิมตั้งของพระเจ้า ไม่เพียงสองคนที่พี่ยกมาเกือบทุกบุคลในพระคัมภีร์ชื่อของเขาตรงกับกิจการของพระเจ้าที่เขาทำทั้งสิ้น 

คนโบราณไม่ว่าชาติใดเขาให้ตั้งชื่อเป็นมงคลให้ชื่อดีๆ นะถูกแล้ว เพราะชื่อก็เป็นการอวยพรจากพ่อแม่ตามชื่อนั้น หรือพระเจ้าก็อวยพรตามชื่อนั้น ไม่ใช่ดวงชะตา เพราะศาสนาเราไม่ได้เชื่อเรื่องดวงชะตา

ถ้าจะเปลี่ยนชื่อที่เห็นว่าชื่อนั่นน่าจะตรงกับแผนงานและอนาคตที่ดีของเราก็เปลี่ยนได้ครับ แล้วถ้าเป็นชื่อที่ขอให้พระเจ้าเจิมตั้งยิ่งได้ผลใหญ่
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ พฤหัสฯ. มี.ค. 26, 2009 11:17 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

ศุกร์ มี.ค. 27, 2009 1:45 am

พวกความเชื่อทางพุทธ  หรือพราหม์ไม่สามารถทำไรได้ใช่ไหมหะ
ฤทธิ์อำนาจบนโลกนี้มีแค่สองแห่งคือ 1. ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้ากับทูตสวรรค์  2. ฤทธิ์อำนาจของลูซิเฟอร์กับปีศาจ นอนเหนือจากสองแห่งนี้ก็ไม่มี
ภาพประจำตัวสมาชิก
sasuke
~@
โพสต์: 1120
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 06, 2006 12:00 am
ที่อยู่: ใต้เสื้อคลุมของแม่

ศุกร์ มี.ค. 27, 2009 1:58 am

Joseph เขียน:
พวกความเชื่อทางพุทธ  หรือพราหม์ไม่สามารถทำไรได้ใช่ไหมหะ
ฤทธิ์อำนาจบนโลกนี้มีแค่สองแห่งคือ 1. ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้ากับทูตสวรรค์  2. ฤทธิ์อำนาจของลูซิเฟอร์กับปีศาจ นอนเหนือจากสองแห่งนี้ก็ไม่มี

ไม่มีใครมีอำนาจนอกจากพระเจ้าครับ

ทูตสวรรค์ก็ไม่มีอำนาจ เพราะจริงๆแล้วทุกอย่างพระก็เป็นคนให้ทั้งสิ้น
และถ้าเจ้าตัวในข้อสองมันจะทำอะไรเราได้ นั่นก็คือมันได้อำนาจจากพระเจ้า และได้รับอนุญาตจากพระเจ้าแล้วครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ignatius
.
.
โพสต์: 2597
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2008 12:48 pm

ศุกร์ มี.ค. 27, 2009 10:58 am

sasuke เขียน:
Joseph เขียน:
พวกความเชื่อทางพุทธ  หรือพราหม์ไม่สามารถทำไรได้ใช่ไหมหะ
ฤทธิ์อำนาจบนโลกนี้มีแค่สองแห่งคือ 1. ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้ากับทูตสวรรค์  2. ฤทธิ์อำนาจของลูซิเฟอร์กับปีศาจ นอนเหนือจากสองแห่งนี้ก็ไม่มี

ไม่มีใครมีอำนาจนอกจากพระเจ้าครับ

ทูตสวรรค์ก็ไม่มีอำนาจ เพราะจริงๆแล้วทุกอย่างพระก็เป็นคนให้ทั้งสิ้น
และถ้าเจ้าตัวในข้อสองมันจะทำอะไรเราได้ นั่นก็คือมันได้อำนาจจากพระเจ้า และได้รับอนุญาตจากพระเจ้าแล้วครับ

ขอยำ้..สำเนาถูกต้องคะ  ::001::

"ทุกสิ่งทุกอย่างบนท้องฟ้า บนแผ่นดินอยู่ภายใต้อำนาจพระเจ้าองค์เดียว"
(ฟป.2:10-11; อฟ. 1:20-23; อฟ. 3:8-12; วว. 21:22-25)

"พระเจ้าไม่ทรงสร้างสิ่งชั่วหรือจิตชั่ว" (ต่อต้านความคิดที่ว่ามีสองต้นเหตุแห่งสรรพสิ่ง)
(คส. 1:15-18; คส. 2:9-23)
Viridian
โพสต์: 2762
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 11:40 pm

ศุกร์ มี.ค. 27, 2009 2:15 pm

sasuke เขียน:
ทูตสวรรค์ก็ไม่มีอำนาจ เพราะจริงๆแล้วทุกอย่างพระก็เป็นคนให้ทั้งสิ้น
และถ้าเจ้าตัวในข้อสองมันจะทำอะไรเราได้ นั่นก็คือมันได้อำนาจจากพระเจ้า และได้รับอนุญาตจากพระเจ้าแล้วครับ

อยากให้ช่วยอธิบายตรงนี้เพิ่มเติมอีกหน่อยค่ะ :rolleyes:
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

อาทิตย์ มี.ค. 29, 2009 1:10 am

sasuke เขียน:
Joseph เขียน:
พวกความเชื่อทางพุทธ  หรือพราหม์ไม่สามารถทำไรได้ใช่ไหมหะ
ฤทธิ์อำนาจบนโลกนี้มีแค่สองแห่งคือ 1. ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้ากับทูตสวรรค์  2. ฤทธิ์อำนาจของลูซิเฟอร์กับปีศาจ นอนเหนือจากสองแห่งนี้ก็ไม่มี

ไม่มีใครมีอำนาจนอกจากพระเจ้าครับ

ทูตสวรรค์ก็ไม่มีอำนาจ เพราะจริงๆแล้วทุกอย่างพระก็เป็นคนให้ทั้งสิ้น
และถ้าเจ้าตัวในข้อสองมันจะทำอะไรเราได้ นั่นก็คือมันได้อำนาจจากพระเจ้า และได้รับอนุญาตจากพระเจ้าแล้วครับ

พระเจ้าสร้างทุกสิ่งมาไม่ว่าอะไรมันก็ต้องมาจากพระเจ้าเป็นของแน่อยู่แล้วครับ ดูนกที่บินได้ด้วยปีกและอากาศก็มาจากการอวยพรของพระเจ้าให้มันบินได้ ปลาที่ว่ายไปด้วยครีบในน้ำก็อาศัยการอวยพรจากพระเจ้าให้มันว่ายน้ำได้ ส่วนทูตสวรรค์มีอิทธิฤทธิ์ก็อาศัยอารอวยพรจากพระเจ้าให้เขามีอิทธิฤทธิ์ เพราะเขาถูกสร้างมาเพื่อให้มีอิทธิฤทธิ์

ทูตสวรรค์เป็นสิ่งสร้างและทูตสร้างมาเพื่อให้มีฤทธิ์อำนาจคงไม่ใช่ถูกสร้างมาแบบ นก ปลา หรือสัตว์ที่มีลมหายใจ แล้วฤทธิอำนาจของทูตสวรรค์จะมากขึ้นตามตำแหน่งชั้นของทูตสวรรค์ ส่วนลูซิเฟอร์คือผู้ที่ถือว่ามีฤทธิ์อำนาจมากที่สุดรองจากพระเจ้าเลยครับ ถึงแม้มันจะกบฏจึงถูกไล่ออกจาสวรรค์ไปแล้วแต่พระเจ้าก็ยังประทานฤทธิ์อำนาจให้มันเท่าเดิมไม่ได้ลดลงแต่ประการได้
ถ้าเจ้าตัวในข้อสองมันจะทำอะไรเราได้ นั่นก็คือมันได้อำนาจจากพระเจ้า และได้รับอนุญาตจากพระเจ้าแล้วครับ
ก็แน่นอนอยู่แล้วไม่เพียงแต่ทูตสวรรค์คนธรรมดาถ้าเขาเมาเหล้าชกหน้าเราขึ้นมาหน้าแหกก็ต้องเป็นการอนุญาติจากพระเจ้าแน่ๆ ถ้าไม่เช่นนั้นเขาก็คงจะชกหน้าเราไม่ได้จริงไหม ก็น่าจะเป็นอย่างเดียวกัน คนที่เชื่อพระเจ้าแล้วมีสิทธิถูกมนุษย์ด้วยกันต่อยหน้าได้ฉันใด คนที่เชื่อพระเจ้าก็มีสิทธิ์ถูกทูตสวรรค์เลวๆ ทำร้ายเราได้ฉันนั้น ถ้าเราไม่ได้สวดให้ให้พระเจ้าคุ้มครองหรือคุ้มภัย ถ้าเราสวดขอพรให้พระคุ้มครองไม่ว่ามนุษย์หรือทูตสวรรค์ก็ไม่อาจจะมาทำร้ายเราได้ถ้านั่นไม่ได้เป็นน้ำพระทัย
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ อาทิตย์ มี.ค. 29, 2009 1:24 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Dis volentibus

พุธ เม.ย. 01, 2009 8:45 pm

หนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ข้อ. 395

อย่างไรก็ตาม อานุภาพของซาตานก็ใช่ว่าจะไม่มีที่สิ้นสุด มันเป็นเเค่สิ่งสร้าง มีอำนาจขึ้นมาก็เพราะมันเป็นจิตบริสุทธิ์
เเต่มันก็ยังเป็นสิ่งสร้างอยู่เสมอ มันไม่สามารถยับยั้งการสถาปนาพระอาณาจักรของพระเจ้าให้สูงส่งขึ้นมา
เเม้ว่าซาตานจะปฏิบัติงานอยู่ในโลก เพราะความเคียดเเค้นที่มีต่อพระเจ้า เเละอาณาจักรของพระองค์ในพระเยซูคริสต์
เเละการกระทำของมันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายเเรงต่อมนุษย์เเต่ละคนเเละต่อสังคม ในวิสัยฝ่ายจิต
เเละเเม้กระทั่งในวิสัยฝ่ายกายภาพในทางอ้อมก็ตามที การกระทำนั้นก็ยังได้รับอนุญาตจากพระญาณที่อาทรของพระเจ้า
ซึ่งคอยเเนะเเนวทางให้แก่ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ เเละของโลกด้วยพลังเเละด้วยความอ่อนโยน

การที่พระเจ้าทรงอนุญาตให้ปีศาจกระทำกิจกรรมได้นี้ นับเป็นธรรมล้ำลึกอันยิ่งใหญ่

เเต่ "เราทราบว่า พระเจ้าทรงบันดาลให้ทุกสิ่งกลับเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่รักพระองค์" (รม 8:28)
Viridian
โพสต์: 2762
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 11:40 pm

พุธ เม.ย. 01, 2009 11:23 pm

Laurentius เขียน: หนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ข้อ. 395

อย่างไรก็ตาม อานุภาพของซาตานก็ใช่ว่าจะไม่มีที่สิ้นสุด มันเป็นเเค่สิ่งสร้าง มีอำนาจขึ้นมาก็เพราะมันเป็นจิตบริสุทธิ์
เเต่มันก็ยังเป็นสิ่งสร้างอยู่เสมอ มันไม่สามารถยับยั้งการสถาปนาพระอาณาจักรของพระเจ้าให้สูงส่งขึ้นมา
เเม้ว่าซาตานจะปฏิบัติงานอยู่ในโลก เพราะความเคียดเเค้นที่มีต่อพระเจ้า เเละอาณาจักรของพระองค์ในพระเยซูคริสต์
เเละการกระทำของมันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายเเรงต่อมนุษย์เเต่ละคนเเละต่อสังคม ในวิสัยฝ่ายจิต
เเละเเม้กระทั่งในวิสัยฝ่ายกายภาพในทางอ้อมก็ตามที การกระทำนั้นก็ยังได้รับอนุญาตจากพระญาณที่อาทรของพระเจ้า
ซึ่งคอยเเนะเเนวทางให้แก่ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ เเละของโลกด้วยพลังเเละด้วยความอ่อนโยน

การที่พระเจ้าทรงอนุญาตให้ปีศาจกระทำกิจกรรมได้นี้ นับเป็นธรรมล้ำลึกอันยิ่งใหญ่

เเต่ "เราทราบว่า พระเจ้าทรงบันดาลให้ทุกสิ่งกลับเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่รักพระองค์" (รม 8:28)
อือมมมมม ขอบใจหลายๆ ::017::
Like a Heaven
.
.
โพสต์: 1739
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
ที่อยู่: In the Christ

จันทร์ เม.ย. 06, 2009 10:17 pm

เปลี่ยนได้ครับ สบายๆ
ตอบกลับโพส