พระเยโฮวาห์กับพระยาเวห์ทำไหมแตกต่างกันครับ

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
^_^Matthew^_^
โพสต์: 354
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ค. 10, 2008 2:03 am
ที่อยู่: 125 ม.7 ถ.ชัยภูมิ-สีคิ้ว ต.หนองนาแซง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ 36000
ติดต่อ:

จันทร์ ก.ค. 13, 2009 10:34 pm

คือผมไม่เข้าใจลักษณะการแปลจากภาษาเดิมมาเป็นไทยครับ
ขอผู้รู้ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยนะครับ

ขอบพระคุณมากๆครับ


พระเจ้าอวยพร
ภาพประจำตัวสมาชิก
Léon
โพสต์: 766
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มิ.ย. 13, 2009 8:43 pm
ที่อยู่: แผ่นดินโลก
ติดต่อ:

จันทร์ ก.ค. 13, 2009 10:56 pm

การถอดเสียงภาษาไทย ก็ถูกละครับ ไม่ใช่ปัญหา

ปัญหามาจากการอ่านของคนต่างชาติ

อักษรแทนพระนามพระเจ้ามาจากภาษาตระกูลที่ไม่มีสระครับ

คิดสภาพนี้สิครับ  YHWH  บ้างอ่าน Jehovah/Yehowah บ้างอ่าน Yahweh/Jahveh  ไปตามธรรมชาติของภาษาประจำท้องถิ่น

ก็เติมสระเข้าไปเพื่อให้อ่านได้เป็นคำที่ดูเป็นธรรมชาติ

ดังนั้น ในพระคัมภีร์ภาษาไทยเราจึงมีทั้งพระนาม เยโฮวา และ ยาห์เวห์ แต่ อ่านแบบหลังจะตรงกับการอ่านแบบออริจินอลมากกว่า


---- พี่น้องโปรเตสแตนท์ คุ้นเคย และรักที่จะเอ่ยพระนามพระองค์ว่าพระเยโฮวาห์ มากกว่าพระยาห์เวห์
      แต่ชาวคาทอลิกเรา ก็อ่านว่าพระยาห์เวห์ มาแต่นมนาน
แก้ไขล่าสุดโดย Léon เมื่อ อังคาร ก.ค. 14, 2009 1:39 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ ก.ค. 13, 2009 11:07 pm

คำว่าJehovah มาจากคำว่า YHWH

จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชาวยิวพยายามที่จะใส่สระจากคำฮีบรูว่า adonai(องค์พระผู้เป็นเจ้า) ใส่ลงในชื่อ YHWH ผลของการผสมนี้กลายเป็น YaHoWaH

โดยหลักฐานบ่งชี้ว่าคำที่ถูกสร้างขึ้นใหม่นี้มีวัตถุประสงค์ให้ผู้อ่านระลึกว่าพระนามของพระผู้เป็นเจ้านั้นศักดิ์สิทธิ์เกินกว่าจะเปล่งเป็นเสียงพูดออกมาได้ ดังนั้นจึงนำคำว่า adonai มาใช้แทนที่เข้าไป และเมื่อคำว่า YaHoWah ถูกเปลี่ยนเป็นรูปภาษาลาติน ตัว “Y” “W” ถูกแทนที่ด้วยตัว “J” และ “V” จนกลายเป็น Jehovah นั่นเอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Léon
โพสต์: 766
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มิ.ย. 13, 2009 8:43 pm
ที่อยู่: แผ่นดินโลก
ติดต่อ:

จันทร์ ก.ค. 13, 2009 11:13 pm

ขอบพระคุณพี่ HOLY ช่วยเพิ่มเติมข้อมูลครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Deo Gratias
โพสต์: 1100
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm

อังคาร ก.ค. 14, 2009 2:55 am

พระคัมภีร์เบญจบรรณฉบับแปลใหม่ของสมาคมพระคริสตธรรมเรียกพระนามพระเจ้าว่า 
ภาพประจำตัวสมาชิก
(⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙)
โพสต์: 892
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 12:38 am

อังคาร ก.ค. 14, 2009 3:23 am

แบบนี้นี่เอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Edwardius
โพสต์: 1392
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 3:02 pm
ที่อยู่: Lamphun, Thailand

อังคาร ก.ค. 14, 2009 8:41 am

ปกติแล้ว ตามธรรมเนียมชาวยิว จะไม่ออกพระนามของพระเจ้าครับ ด้วยเหตุผล 2 ประการ

1. พระบัญญัติ

2. ปัญหาการออกเสียง YHWH ด้วยเหตุว่าภาษาฮีบรูนั้น อักษรออกเสียงได้ด้วยตนเอง และไม่ออกเสียงด้วยตนเอง
    คืิอ อักษรมันจะมีสิ่งที่เรียกว่า vowel point ที่เป็นตัวบังคับเสียง แต่โดยหลักแล้ว มันไม่ออกเสียงด้วยตนเอง
    เวลาอ่านพระคัมภีร์ในศาลาธรรมชาวยิวจึงใช้คำว่า "Adonai" ซึ่งในยุคต่อมาก็มีการถกเถียงเรื่องการใช้คำนี้
    คำว่า "Elohim" จึงเข้ามา

สำหรับฝั่งคริสตชนแล้ว คำว่า เยโฮวาห์ (แม้จะเขียน Jehovah แต่ไม่ออกเสียง J=จ แต่การประสมอักษรละตินโบราณ I+E จะคล้ายๆ เย มากกว่า)
มีพัีฒนาการอย่างนี้ "Iehouah" (1530), "Iehovah" (1611), or "Jehovah" (1671)

บางสายเชื่อว่า เมื่อการออกเสียง YHWH แบบโบราณหายไป การออกเสียงโดยอนุมานจากชื่ออื่นๆ ในพระคัมภีร์ก็เกิดขึ้น

เช่นการอนุมานจากชื่อ  Joshua, Isaiah หรือ Jesus เป็นต้น

(ขอบคุณ wiki)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Léon
โพสต์: 766
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มิ.ย. 13, 2009 8:43 pm
ที่อยู่: แผ่นดินโลก
ติดต่อ:

อังคาร ก.ค. 14, 2009 10:25 am

พระคัมภีร์เบญจบรรณฉบับแปลใหม่ของสมาคมพระคริสตธรรมเรียกพระนามพระเจ้าว่า “พระยาเวห์” แล้วค่ะ : emo045 :
ใช่ครับ ตั้งแต่มีการแปลพระธรรมเดิมอีกครั้ง (เบญจบรรณ)
ได้มีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงภาษาให้ทันสมัยขึ้น
และการใช้พระนามพระเจ้าว่า พระยาห์เวห์
ภาพประจำตัวสมาชิก
dark-kanita
โพสต์: 317
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 18, 2007 2:37 pm

อังคาร ก.ค. 14, 2009 1:19 pm

: emo045 :โห เป็นประโยชน์ยิ่งคะ ขอบคุณมากๆเลยคะ แค่มาแอบอ่านก้ได้ส่วนบุญส่วนกุศล (ความรู้ : xemo017 :)คิคิ พี่ๆในเวปนิวเนี่ย เก่งภาษากันจังเลยนะคะ ขอบคุณทุกคนมากๆเลยค่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

อังคาร ก.ค. 14, 2009 7:42 pm

YWHW บางครั้งก็เรียกกันว่า Tetragrammaton ใช่ไหมคะ เคยอ่านในการ์ตูนญี่ปุ่นแนวเอกโซซิสต์เก่า ๆ เล่มหนึ่งนานแล้ว เห็นบอกว่ามีไว้เพื่อเป็นคำแทนในการเรียกพระเจ้า เพราะชาวยิวไม่ให้มีการสร้างรูปแทนพระผู้เป็นเจ้า

(นานแล้วแหละ แต่เรื่องที่ว่านับว่าดีกว่าหลายเรื่องในปัจจุบัน ที่เรื่องนี้คนเขียนทำการบ้านเกี่ยวกับคาทอลิกมาบ้าง (แต่เราอ่านไม่จบ) ไม่เหมือนสมัยนี้ที่เอามาได้โดยไม่ยอมศึกษาให้ดี ๆ หรือรู้ทั้งรู้แต่อยากยัดแนวคิดศาสนาตัวเองไปปนให้ได้ไม่สนใจเหตุผล โดยเฉพาะมุขเวียนว่ายตายเกิดทั้งหลาย)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ก.ค. 14, 2009 9:11 pm

Pegasus Valkyrie เขียน: YWHW บางครั้งก็เรียกกันว่า Tetragrammaton ใช่ไหมคะ เคยอ่านในการ์ตูนญี่ปุ่นแนวเอกโซซิสต์เก่า ๆ เล่มหนึ่งนานแล้ว เห็นบอกว่ามีไว้เพื่อเป็นคำแทนในการเรียกพระเจ้า เพราะชาวยิวไม่ให้มีการสร้างรูปแทนพระผู้เป็นเจ้า

(นานแล้วแหละ แต่เรื่องที่ว่านับว่าดีกว่าหลายเรื่องในปัจจุบัน ที่เรื่องนี้คนเขียนทำการบ้านเกี่ยวกับคาทอลิกมาบ้าง (แต่เราอ่านไม่จบ) ไม่เหมือนสมัยนี้ที่เอามาได้โดยไม่ยอมศึกษาให้ดี ๆ หรือรู้ทั้งรู้แต่อยากยัดแนวคิดศาสนาตัวเองไปปนให้ได้ไม่สนใจเหตุผล โดยเฉพาะมุขเวียนว่ายตายเกิดทั้งหลาย)


ไม่ได้มีที่มาจากการตั้งเองครับ

โมเสส เมื่อพบพระเจ้าที่พุ่มไม้ไฟ ถามว่า พระองค์คือใคร พระเจ้าทรงตอบว่า "เราเป็น" (อพยพ 3.14) ในภาษาฮิบรู มีแค่ตัวอักษร "ยฮวห" คำนี้คือคำที่ในพระบัญญัติ10ประการบอกว่า ห้ามเอ่ยโดยไม่สมเหตุ จึงมีการสร้างคำใหม่คือ อะโดนาย ซึ่งแปลว่าองค์พระผู้เป้นเจ้า มาเรียกแทน


จริงๆมีการเล่าเหตุการณ์ในพระธรรมใหม่ เมื่อพระเยซูตรัสคำนี้ ทำให้คนถึงกับกระเด็นไป


ยน 18:1
18 (1)พระเยซูเจ้าตรัสดังนี้แล้ว ก็เสด็จไปพร้อมกับบรรดาศิษย์ ข้ามห้วยขิดโรน ที่นั่นมีสวนแห่งหนึ่ง พระองค์เสด็จเข้าไปพร้อมกับบรรดาศิษย์ (2)ยูดาสผู้ทรยศรู้จักสถานที่นั้นด้วย เพราะพระองค์เคยทรงพบกับบรรดาศิษย์ที่นั่นบ่อย ๆ (3)ยูดาสนำกองทหารและยามรักษาพระวิหารที่บรรดาหัวหน้าสมณะ และชาวฟาริสีจัดหาให้ มาที่นั่น ถือตะเกียง ไต้ และอาวุธไปด้วย (4)พระเยซูเจ้าทรงทราบทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับพระองค์ จึงเสด็จออกไปตรัสถามเขาเหล่านั้นว่า “ท่านทั้งหลายเสาะหาใคร” (5)เขาตอบว่า “หาเยซู ชาวนาซาเร็ธ” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราเป็น” ยูดาสผู้ทรยศพระองค์ก็ยืนอยู่กับพวกเขาด้วย (6)แต่เมื่อพระองค์ตรัสว่า “เราเป็น” เขาเหล่านั้นก็ถอยหลัง ล้มลงกับพื้นดิน (7)พระองค์ตรัสถามอีกว่า “ท่านทั้งหลายเสาะหาใคร” เขาตอบว่า “หาเยซู ชาวนาซาเร็ธ” (8)พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เราบอกท่านทั้งหลายแล้วว่า เราเป็น ถ้าท่านเสาะหาเรา ก็จงปล่อยคนเหล่านี้ไป”


ดังนั้นในบริบทนี้ ได้แสดงว่า พระเยซูทรงบอกเป้นนัยว่า พระองค์คือ พระยาห์เวห์ เพราะเมื่อบอกว่า "เราเป็น" ไม่ได้เป็นคำตอบธรรมดา แต่เป็นคำทรงอานุภาพ แปลว่าตรัสในฐานะที่เป็นพระนามพระเจ้า ในบทนี้ การยืนยันสถานะพระเจ้าว่าทรงเป็นพระยาห์เวห์ ถึง3ครั้ง


3ครั้งคือรหัสธรรม หมายถึง การยืนยันครั้งแรกโดยพระบิดา ครั้งที่สองโดยพระบุตร และครั้งที่3โดยพระจิต

เป็นการยืนยันจากพระเจ้าพระตรีเอกภาพว่าทรงเป็นพระเจ้าแท้จริง
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อังคาร ก.ค. 14, 2009 9:14 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
^_^Matthew^_^
โพสต์: 354
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ค. 10, 2008 2:03 am
ที่อยู่: 125 ม.7 ถ.ชัยภูมิ-สีคิ้ว ต.หนองนาแซง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ 36000
ติดต่อ:

อังคาร ก.ค. 14, 2009 9:25 pm

ขอบคุณพี่ๆทุกท่านครับ
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ ก.ค. 15, 2009 11:53 pm

มีหนังสือ คริสเตียนเล่มหนึ่งคือ
พระนามพระเจ้า ( My Father’s Name )
by Elmer L.Towns

เมื่อเราดิ้นรนที่จะเข้าใจพระเจ้า เรารู้ว่าพระองค์ ทรงอยู่ที่นั่น แต่ในช่วงที่ชีวิตมืดมน เราไม่สามารถมองเห็นพระองค์ได้ จากนั้นมีแสงสว่างเปิดออกให้เห็นพระองค์

-การทรงสร้าง…..การอัศจรรย์…บัญญัติ สิบประการ….การปรากฏของพระองค์ในจิตใจของเรา
-แต่ยังมีแสงสว่างอีกแบบหนึ่งที่มักถูกมองข้ามไป เราสามารถรู้จักพระเจ้าผ่านพระนามของพระองค์
-ทำไมพระเจ้าจึงทรงมีหลายพระนาม คำบรรยายตำแหน่งและพระนามต่างๆของพระเจ้า ที่ให้ไว้ในพระคัมภีร์ เป็นเหมือน แสงฟ้าแลบ ในคืนวันหนึ่งของช่วงฤดูร้อน เปิดเผยให้เห็นถึงธรรมชาติและพระราชกิจของพระองค์
ดังนั้นเราจำเป็นต้องตรวจสอบเอกลักษณ์ของพระเจ้าแต่ละอย่างเพื่อเราเข้าใจพระองค์ได้มากขึ้น


ทำไมเราจึงต้องศึกษาพระนามพระเจ้า

เราเริ่มเข้าใจคนโดยชื่อและตำแหน่งของพวกเขา เช่นดาวิดชายที่อยู่ในพระทัยพระเจ้า
-เรารู้จักและเข้าใจเขาดีมากขึ้นโดยการศึกษาชื่อ และตำแหน่งต่างๆของเขา การบรรยายถึงดาวิด ทำให้เรารู้ว่าเขาเป็นคนเลี้ยงแกะ เป็นนักรบ เป็นกษัตริย์ เป็นนักกวี และเป็นนักดนตรี ช่วยให้เราเข้าใจลักษณะของเขาและให้เราเข้าใจชายหนุ่มที่ชื่อดาวิด เขาเป็นบุตรชายของเจสซี และเป็นหลานของโบอัส ดาวิดสืบเชื้อสายจากยูดา ซึ่งสืบเนื่องมาเป็นกษัตริย์หลายพระองค์ และพระเยซูคริสต์ ก็ทรงบังเกิดในเชื้อสายของดาวิด

ที่ยกตัวอย่างเช่นนี้ ก็ในทำนองเดียวกัน เมื่อเราศึกษาพระนามของพระเจ้า ซึ่งทรงเปิดเผยให้เราเห็นพระลักษณะของพระองค์มากขึ้น เช่น ในบรรดาพระนามต่างๆ ทำให้เรารู้ได้ว่าพระองค์ทรงเป็นพระผู้สร้าง ทรงเป็นผู้พิพากษา ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด และทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ เราได้รับความเข้าใจในธรรมชาติของพระองค์ และเข้าใจมากขึ้นว่าพระองค์ทรงกระทำกิจในชีวิตเราอย่างไรในการไตร่ตรองพระนามต่างๆ

ขณะที่คนธรรมดาไม่สามารถ เข้าใจธรรมชาติของพระองค์ได้อย่างสมบูรณ์ พระเจ้าทรงเปิดเผยพระองค์เองผ่านพระวาจาของพระองค์ และทรงประทานผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์ ( พระจิต )แก่เราเพื่อนำเราให้รู้จักพระองค์ เพราะในขณะที่เราเป็นมนุษย์ ก็สามารถที่จะรู้เพียงส่วนหนึ่ง ( 1 คร.13.12 )เท่านั้น เนื่องจากความเข้าใจอันจำกัดของเรา เราไม่สามารถเข้าใจอย่างซาบซึ้งในความไม่จำกัดของพระเจ้า….แต่ถ้าเราได้เรียนรู้จักพระนามของพระองค์ จะทำให้เรารู้จัก และเข้าใจพระเจ้ามากขึ้นแน่นอน

ดูเหมือนว่าอับราฮัม ได้เรียนรู้จักพระนามของพระเจ้า ทำไม ก็เพราะอับราฮัมเป็นผู้บุกเบิกความเชื่อ แต่ละครั้ง พระเจ้าทรงปรารถนาให้อับราฮัมก้าวสูงขึ้น โดยทรงเปิดเผยพระนามใหม่ของพระองค์ เช่น อับราฮัมรู้จักว่าพระองค์ทรงเป็นพระผู้เป็นเจ้า ( เยโฮวาห์ หรือยาเวห์ – ปฐก.13.4 ) เมื่อท่านถวายสิบลดแก่มัลคีเซเดค อับราฮัม ก็ได้เรียนรู้พระนามใหม่ คือ “เอลเอลยอน” พระเจ้าผู้สูงสุด ทรงครอบครองฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ( ปฐก.14.18,19 )

เมื่ออับราฮัมบ่นในคำอธิษฐานว่า ท่านไม่มีผู้สืบทอดมรดก ตามพระสัญญา พระองค์ก็ทรงเปิดเผยอีกพระนามหนึ่งของพระองค์ คือ “อโดนาย” องค์เจ้านาย หรือองค์พระผู้เป็นเจ้า ( ปฐก.15.2 )

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ ทรงเอาใจใส่อับราฮัม ในความสัมพันธ์แบบนาย-บ่าว หลังจากนั้นอับราฮัมได้เรียนรู้ว่าพระเจ้าผู้เลี้ยงดู และค้ำจุนท่านด้วยเต็มกำลัง

ในการศึกษาพระนามต่างๆของพระเจ้า ก็เพราะว่าพระเจ้าทรงสำแดงพระองค์ว่าทรงเป็นบ่อเกิด และทรงเป็นคำตอบในการแก้ไขปัญหาต่างๆของเราผ่าพระนามต่างๆ ของพระองค์ เมื่ออิสราเอลต่อสู้กับพวกอามาเลขพวกเขาได้เรียนรู้จักพระนาม “เยโฮวาห์ นิสสี” องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นธงชัยของเรา มีความหมายว่าพระเจ้าจะทรงสามารถปกป้องพวกเขาไว้ได้ ( อพย.17.15 )……พระนามมากมายของพระเจ้าสอนเราให้มองที่พระองค์เมื่อมีเหตุการณ์คับขันเกิดขึ้นกับเรา พระเจ้าก็ทรงสำแดงพระองค์เองด้วยพระนามที่แตกต่างกันในภาวะคับขัน การสำแดงของพระองค์เพื่อให้มนุษย์ได้สัมผัสถึงการทรงช่วยเหลือเสมอ และทันเวลา

บางครั้งพระเจ้าทรงอนุญาต ให้มนุษย์ประสบกับปัญหาต่างๆ ด้วยเหตุผลหลายๆอย่างเช่น (1 ) เพื่อทดสอบเราดูว่าเราจะจัดการกับปัญหาด้วยความเชื่อหรือด้วยกำลังของตัวเอง ( 2 ) เพื่อให้มนุษย์สำนึกและกลับมาหาพระองค์ (3 ) เพื่อจะตีสอนเหมือนพ่อสอนลูกที่ดื้อ ผ่านปัญหาต่างๆ เป็นต้น


…สามพระนามแรกของพระเจ้า…

ฮีบรู……….อังกฤษ……….อ้างอิง……….ราก………ความหมาย

Elohim ….God ……. ปฐมกาล 1.1 alah ………พระผู้สร้างที่เข้มแข็ง
เอโลฮิม….พระเจ้า …. ++++++ อาลาห์-สาบาน หรือผูกมัดด้วยคำสาบาน

Johovah …Lord ++++++++ hayah ………….ผู้ทรงดำรงอยู่โดยพระองค์เอง
เยโฮวาห์ ..องค์พระผู้เป็นเจ้า ปฐก.2.4 ..ฮายาห์ เป็น หรือการทรงปรากฏต่อเนื่องของคนคนหนึ่ง

Adonai ….Lord +++++++ปฐมกาล 15.2
อโนนาย …องค์พระผู้เป็นเจ้า …..เป็นเจ้านาย ..เจ้านายของทาสรับใช้

ใหม่ๆเราจะพบว่าคนของพระเจ้าใช้ “เอโลฮิม” เป็นนามแรกสำหรับพระเจ้าผู้ทรงสร้าง ขณะที่เขาเดินไปกับพระองค์ จึงพบว่าพระองค์ ทรงเป็นพระเจ้าด้วย หรือเยโฮวาห์ ทรงเป็นผู้ดำรงอยู่ โดยพระองค์เอง หลังจากนั้นพวกเขาเรียนรู้ว่าพระองค์เป็น “องค์อโดนาย” เป็นจอมเจ้านายของพวกเขา….ต่อไปมาศึกษาทีละชื่อเรียก

“ เอโลฮิม พระผู้สร้างผู้ทรงอำนาจเหนือทุกสิ่ง”

คำแรกที่พระคัมภีร์ใช้ว่า “เอโลฮิม” คือ “ในปฐมกาล พระเจ้า (เอโลฮิม ) ทรงสร้าง…” (ปฐก.1.1 ) พระนามพระเจ้านี้อ้างอิงถึงผู้ทรงพระชนม์อยู่เป็นผู้สูงสุด เป็นผู้เริ่มต้นในการทรงสร้างสรรพสิ่ง เป็นผู้ทรงดำรงอยู่ที่สมบูรณ์แบบ เป็นผู้ดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์…เอโลฮิม เป็นศูนย์รวมของอำนาจของความเข้มแข็งหรือพลังสร้างสรรค์ คำภาษาฮีบรูของเอโลฮิม มาจากคำว่า “เอล องค์ผู้ทรงสร้างเข้มแข็งหรือองค์ผู้ทรงสร้างหรือ อาลาห์ การสาบานหรือการผูกมัด ตัวเองด้วยคำสาบาน ดังนั้นเมื่อเราเรียกพระผู้สร้างว่าพระเจ้า เรากำลังอ้างอิงถึงพระกำลังหรือพลานุภาพอันไพศาลของพระองค์ พระองค์ทรงอำนาจ อยู่เหนือทุกสิ่ง

เอโลฮิม ปรากฏ ๓๑ ครั้ง ในปฐมกาลเพราะมีการเน้นถึงพลังที่สร้างสรรค์ของพระองค์ “พระเจ้าทรงเห็น” ( ๑.๔ ) “พระเจ้าทรงเรียก” ( ข้อ ๕ ) “พระเจ้าทรงตรัส” (ข้อ๖ ) “พระเจ้าทรงสร้าง” (ข้อ๗) “พระเจ้าทรงอวยพร” (ข้อ๒๒)
และ “พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ตามพระฉายาของพระองค์” ( ข้อ ๒๗ )

พระนามพระเจ้าในพระคัมภีร์ชี้ให้เห็นว่าพระองค์ ทรงเป็นบุคคล พระองค์ทรงพระชนม์อยู่ด้วยพระปัญญา “เพลโต”คิดว่าพระเจ้าก็คือปัญญาอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นมูลเหตุของความดีตามธรรมชาติ “อริสโตเติ้ล”กล่าวว่าพระเจ้าคือฐานของสิ่งมีชีวิตทั้งปวง ส่วน “เฮเกล”นักปรัชญา ชาวเยอรมันกล่าวว่าพระเจ้าคือผู้ทรงพระชนม์อยู่โดยไม่มีตัวตน และ”สปินโนซ่าร์”ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่เชื่อว่าจักรวาลคือพระเจ้า และพระเจ้าคือจักรวาลเรียกว่า “ผู้ทรงสัมบูรณ์ในการค้ำจุนจักรวาล” ซึ่งแปลว่าพระองค์ทรงเป็นเช่นแม่


*******

อยากอ่านทั้งหมด ไปหาซื้อหนังสืออ่านได้ค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jeanne d'Arc
โพสต์: 235
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 12, 2009 12:33 pm

พฤหัสฯ. ก.ค. 23, 2009 8:04 pm

Pegasus Valkyrie เขียน: YWHW บางครั้งก็เรียกกันว่า Tetragrammaton ใช่ไหมคะ เคยอ่านในการ์ตูนญี่ปุ่นแนวเอกโซซิสต์เก่า ๆ เล่มหนึ่งนานแล้ว เห็นบอกว่ามีไว้เพื่อเป็นคำแทนในการเรียกพระเจ้า เพราะชาวยิวไม่ให้มีการสร้างรูปแทนพระผู้เป็นเจ้า

(นานแล้วแหละ แต่เรื่องที่ว่านับว่าดีกว่าหลายเรื่องในปัจจุบัน ที่เรื่องนี้คนเขียนทำการบ้านเกี่ยวกับคาทอลิกมาบ้าง (แต่เราอ่านไม่จบ) ไม่เหมือนสมัยนี้ที่เอามาได้โดยไม่ยอมศึกษาให้ดี ๆ หรือรู้ทั้งรู้แต่อยากยัดแนวคิดศาสนาตัวเองไปปนให้ได้ไม่สนใจเหตุผล โดยเฉพาะมุขเวียนว่ายตายเกิดทั้งหลาย)
Tetra = 4

Grammaton = อักษร(หรือคำนี่แหละครับ)

หมายถึงพระนามของพระเจ้าที่เขียนด้วยอักษร4ตัวมั้งครับ แหะๆ
ตอบกลับโพส