อยากรู้เรื่องนิกายมอรมอน

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
P
.
.
โพสต์: 1383
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 10:10 pm
ที่อยู่: เมืองไทย

อาทิตย์ มิ.ย. 26, 2005 2:08 pm

เรื่องคริสตจักรทั้งหลายไม่ใช้ไม้กางเขน ผมไม่สามารถตอบแทนคนอื่นได้ครับ แต่สำหรับมอร์มอนแล้ว ที่ไม่ใช้ไม้กางเขน เพราะเราต้องการที่จะระลึกถึงพระองค์ว่าพระองค์เป็น The Living Christ ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
P
.
.
โพสต์: 1383
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 10:10 pm
ที่อยู่: เมืองไทย

อาทิตย์ มิ.ย. 26, 2005 2:49 pm

สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ ต้องขอบอกกับคุณ Wasu นะครับว่าคำสอนของมอร์มอนแตกต่างจากคริสต์สายหลัก (Mainstream Christianity = Catholicism, Protestantism) มาก หลักๆคือดังนี้ครับ

1. พระเจ้ามีสามองค์ คือ พระบิดา พระเยซู และพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเจ้าทั้งสามแยกกันต่างหาก (แบบคนสามคน) ไม่ได้เป็นในแบบที่บรรยายในหลักพระตรีเอกานุภาพ พระเจ้า สำหรับมอร์มอนแล้ว มีสามองค์ แต่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในทางความคิด ความประสงค์ ฯลฯ

2. พระบิดากับพระบุตรมีร่างกาย นั่นคือ มีเนื้อหนัง แต่แตกต่างจากของมนุษย์ คือ เป็นอะไรที่ perfect ไม่มีอะไรเสียหาย บุบสลายได้ และเป็นร่างกายที่ประกอบไปด้วย เนื้อ และกระดูก (เป็น relative term นะครับ ไม่ใช่เนื้อแบบเรา กระดูกแบบเรา) และ quickened โดยวิญญาณ ในขณะที่ร่างกายของคน เป็นเนื้อและกระดูกที่ไม่สมบูรณ์ บุบสลายได้ อะไรได้ และมีเลือดเป็นตัวหล่อเลี้ยง

และร่างกายของพระเจ้ามี glory มากเกินกว่าที่จะใช้อะไรมาบรรยายได้ครับ

3. เรามีตัวตนก่อนมาเกิด นั่นคือ เป็นวิญญาณมาก่อน ไม่ใช่ไม่มีตัวตนมาก่อนแบบความเชื่อสายหลัก

4. เราเป็นลูกๆที่แท้จริงของพระเจ้า ไม่ใช่สิ่งที่พระองค์สร้างมา แล้วรับเป็นเสมือนลูก แบบในความเชื่อคริสต์สายหลัก

5. เรามีทางที่จะพัฒนาต่อไปได้อย่างพระองค์ นั่นคือ หากเราทำในสิ่งที่ควรทำแล้ว สักวันหนึ่ง เราก็จะเป็นได้อย่างพระองค์ คือเป็น god เอง (แต่ God ก็ยังเป็น God ของเราอยู่นะครับ ไม่ใช่การล้มหรือแย่งชิงอำนาจ เหมือนคุณเป็นเด็ก วันหนึ่งก็โตเป็นผู้ใหญ่ แต่พ่อแม่ของคุณก็ยังเป็นพ่อแม่ของคุณวันยังค่ำ)

6. คนทุกๆคนที่เกิดมาในโลก มีสิทธิที่จะรับหรือปฏิเสธพระเยซูทุกคน ไม่มีใครที่จะไม่ได้เข้าอาณาจักรของพระเจ้าเพียงเพราะเกิดมาในป่าในเขา หรือไม่เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพระเยซู หากเขาไม่มีโอกาสเลือกระหว่างมีชีวิตอยู่ ก็มีโอกาสที่จะได้เลือกหลังจากตายไปแล้ว (ระหว่างที่อยู่ในแดนของวิญญาณ รอวันพิพากษา)

7. สวรรค์มีสามระดับ(ใหญ่ๆ แบบเอาเป็น concept รายละเอียดไม่จำเป็นสำหรับเราที่ต้องรู้) คือ

- Celestial Kingdom เป็นสวรรค์ชั้นสูงสุด คนที่อยู่ในสวรรค์ชั้นนี้ จะมี glory สูงสุด ดุจดั่งพระอาทิตย์ และจะได้อยู่กับพระบิดาอย่างเต็มๆ และมีโอกาสพัฒนาต่อไปได้อย่างพระเจ้า หากอยู่ในขั้นสูงสุดของชั้นนี้ (มีขั้นต่างๆในชั้นนี้อีก)
- Terrestrial Kingdom เป็นสวรรค์ชั้นรองลงมา คนที่อยู่ในสวรรค์ชั้นนี้ เทียบแล้วก็เหมือนกับพระจันทร์ คือมี glory น้อยลงมา คนในสวรรค์ชั้นนี้ลงไป จะไม่มีโอกาสได้พัฒนาต่อไปอีก และจะไม่ได้รับ fulness ของพระบิดา แต่อย่างน้อย สามารถได้อยู่กับพระบุตรอย่างเต็มที่
- Telestial Kingdom เป็นสวรรค์ชั้นต่ำสุดครับ เทียบ glory ได้ดั่งดวงดาว

คนส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะชั่วแค่ไหน ก็ไม่มีวันตกต่ำลงไปได้มากกว่าชั้นสุดท้ายแล้ว มีเพียงไม่กี่คนที่จะถูกส่งไปอยู่ใน Outer Darkness กับซาตาน คนเหล่านั้นต้องหมดทางช่วยจริงๆ แบบว่า พระเจ้าลงมายืนต่อหน้า จับมือกัน อะไรกันแบบนี้แล้ว ยังปฏิเสธพระองค์ บอกว่า ไม่เอา ไม่อยากอยู่ด้วย อะไรแบบนี้

คือ คนส่วนใหญ่ปฏิเสธพระเจ้าก็จริง แต่ไม่เคยทราบว่าพระองค์มีจริงหรือไม่มีจริง เป็นการไม่เชื่อมากกว่า (คือ คนที่เชื่อพระเจ้า จะยังไงก็คือเชื่อ ไม่ว่าจะมากแค่ไหนก็คือเชื่อ ไม่มีใครรู้ชัดเจน 100% ว่าพระองค์มีจริง ไม่ว่าเค้าจะพูดยังไงก็ตาม) ดังนั้น ไม่เชื่อว่าพระองค์มีจริง ยังพอเข้าใจกันได้ แต่ถ้าพระองค์มาเอง ไม่มี doubt เหลือ แล้วยังไม่เอาอีก พระเจ้าก็ฝืนใจคุณไม่ได้

สรุปคือ เราเป็นลูกๆของพระองค์ เราเลือกลงมาเกิดเพื่อที่จะได้เรียนรู้ที่จะพัฒนาต่อไปให้ใกล้เคียงกับพระองค์มากขึ้น (คนไม่ได้มาเกิดก็มี แต่คือไปอยู่กับซาตาน หยุดการพัฒนาตั้งแต่ในชาติที่แล้ว ในขณะทีเราบางคนจะหยุดการพัฒนาในชาตินี้ เพราะอยู่สวรรค์สองชั้นล่าง)

แต่ยังไงๆพระองค์ก็อยากให้คุณได้ดีมากขึ้น ยังไงๆคุณก็ต้องได้ขึ้นสวรรค์ คืออยู่ในสภาพที่ดีกว่าปัจจุบันนี้ แต่ถ้าคุณจะไม่เอาจริงๆ เชิญยังไงก็ไม่มา ก็สุดแล้วแต่คุณครับ

เรื่องสวรรค์อะไรเนี่ย ผมว่า คล้ายๆคาทอลิกบ้างนิดหน่อยนะครับ แบบว่า
- คาทอลิก มีไฟชำระ ให้คนที่ตายแล้วยังมีโอกาสกลับใจได้ และเท่าที่ฟัง Little Lamb บ่อยๆ รู้สึกว่า คนดีๆที่ไม่เชื่อในพระเจ้า ก็ยังได้อยู่ในที่ดีๆ (แต่อาจจะไม่ใช่กับพระเจ้า) คนไม่ดี ก็ลงนรกไป

- มอร์มอน ไม่เชื่อ ก็ยังกลับใจได้หลังจากที่ตาย ( concept คล้ายๆกับไฟชำระมั้งครับ ผมว่า คือให้คนที่ตายแล้ว ยังมีโอกาสอยู่) คนที่ดีๆ ไม่เชื่อในพระเจ้า ก็ยังได้อยู่ที่ดีๆ (Terrestrial Kingdom) แต่สำหรับคนไม่ดี อย่างทั่วไปก็ยังขึ้นสวรรค์(ชั้นล่างสุด) ถ้าไม่เกินช่วยเหลือจริงๆนะครับ

- โปรแตสแตนต์ เชื่อก็ดีไป ไม่เชื่อก็... ตัวใครตัวมัน (Burn baby burn!)


8. จะเห็นว่า ความรอดมีสองระดับ นั่นคือ รอดแบบ ขึ้นสวรรค์ ซึ่งแทบทุกคนจะได้รับ (ยกเว้นสองสามคน อะไรแบบนี้ ที่ไม่เอาจริงๆ) และรอดแบบ ขึ้นสวรรค์ และมีโอกาสพัฒนาต่อไป (เรียกว่า Exaltation) ซึ่งไม่กี่คนจะมีโอกาสนี้ครับ

และ Resurrection ถือว่าเป็น free gift ที่ทุกคนจะได้รับ เพราะพระเยซูได้เอาชนะความตายให้พวกเราแล้ว แต่ eternal life คือการได้ไปอยู่กับพระเจ้า (live forever with God) เป็นอะไรที่ไม่จำเป็นว่าคุณจะได้ ขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง

9. เรื่องความรอด จะคล้ายๆกับคาทอลิก คือ ต้องอาศัยความเชื่อและการกระทำด้วยกัน คือ จะว่าไปแล้วผมว่าอยู่กลางๆระหว่างทั้งสอง คือ
- คาทอลิก อาศัย พิธีศักดิ์สิทธิ์ การกระทำ และความเชื่อ
- มอร์มอน อาศัย การกระทำ และ ความเชื่อ
- โปรแตสแตนต์ เชื่ออย่างเดียว

อันนี้เป็นหลักๆนะครับ แบบว่า เท่าที่ผมนึกออกตอนนี้ มีอีกมากมายเยอะแยะ แต่วันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะครับ มีคำถามอะไรถามได้ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
P
.
.
โพสต์: 1383
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 10:10 pm
ที่อยู่: เมืองไทย

อาทิตย์ มิ.ย. 26, 2005 9:40 pm

สำหรับเรืองความเห็นเกี่ยวกับพระเจ้าของมอร์มอนที่แตกต่างจากคริสต์สายหลักมาก ลองอ่านกระทู้นี้ดูประกอบนะครับ ว่าคริสต์สายหลักเชื่ออย่างไร บังเอิญพี่พีพีโพสต์ไว้พอดี

;)

http://www.newmana.com/yabb/http://newm ... eadid=1305
Wasu

จันทร์ มิ.ย. 27, 2005 9:04 am

ขอบคุณมากๆครับคุณ P หายข้องใจไปเยอะเลยครับ :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
P
.
.
โพสต์: 1383
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 10:10 pm
ที่อยู่: เมืองไทย

จันทร์ มิ.ย. 27, 2005 11:08 am

มีคำถามอะไร เชิญได้เลยนะครับ ผมยินดีที่จะตอบ

แต่คอนเซ็ปหนึ่งที่ต้องการให้คุณ Wasu เข้าใจ ก็คือ มอร์มอน ไม่ได้เป็นโปรแตสแตนต์นะครับ คือ มอร์มอนเป็นคริสเตียน แต่ไม่ได้เป็นโปรแตสแตนต์

บังเอิญว่า คนไทย ใช้คำว่าคริสเตียนในการเรียกโปรแตสแตนต์ จึงเกิดความสับสนขึ้นเล็กน้อยตรงนี้ คือ หากคุณ Wasu ถามมิชชั่นนารี เค้าก็จะบอกว่า มอร์มอนเป็นคริสเตียน เดี๋ยวคุณ Wasu จะเข้าใจผิดว่า เค้าหมายความว่าเราเป็นคณะหนึ่งในโปรแตสแตนต์

อันนี้สงสัยผมต้องเริ่มอธิบายให้เหล่ามิชชั่นนารีเข้าใจแล้วว่า คนไทยใช้คำว่าคริสเตียนอย่างไร จะได้ไม่งงทีหลัง

ที่ต้องนำมาพูด เพราะต้องการให้คุณ Wasu เข้าใจว่า ประวัติของมอร์มอนไม่เหมือนกับโปรแตสแตนต์ โปรแตสแตนต์มีรากฐานมาจากคาทอลิกทั้งสิ้นครับ นั่นคือ หากคุณ trace ไป คุณจะเห็นว่า เป็นคณะที่แยกออกมาจากคาทอลิก แต่มอร์มอนไม่ได้แยกออกมาจากคาทอลิก เพราะโดยประวัติแล้ว ได้รับการตั้งขึ้นมาจากพระเจ้า มีพระคัมภีร์ของตัวเอง มีพันธสัญญาใหม่กับพระเจ้า ฯลฯ ไม่ได้เกิดขึ้นโดยการนำเอา materials ที่มีอยู่แล้วของคาทอลิก มาตีความใหม่ แล้วมาคัดค้านกับคาทอลิก อะไรแบบนี้นะครับ (คือ โอเค เรายังใช้ไบเบิ้ลอยู่ แต่ว่าเรามีพระคัมภีร์ใหม่ของตัวเองด้วย เหมือนกับคริสต์ที่ใช้พระคัมภีร์เดิมของยิว แต่ก็มีพระคัมภีร์ของตัวเองเพิ่มขึ้นมา)
Wasu

จันทร์ มิ.ย. 27, 2005 2:00 pm

ขอบคุณครับคุณ P แต่ถึงอย่างไรผมก็ศรัทราในคาทอลิกแล้วครับไม่เปลี่ยนแน่นอน แต่ได้ความรู้ จากคุณมากจริงๆ ขอบคุณครับ :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
P
.
.
โพสต์: 1383
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 10:10 pm
ที่อยู่: เมืองไทย

จันทร์ มิ.ย. 27, 2005 3:45 pm

ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผมก็แค่อธิบายเท่านั้นเองครับ ไม่ได้ชวนเข้าศาสนาผมซักหน่อย ;D
spirit

อังคาร มิ.ย. 28, 2005 11:15 am

เอาจริงเอาจังเชียวนะทั่นเอี๊ย
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

พฤหัสฯ. มิ.ย. 30, 2005 10:45 am

นาน ๆ จะเข้าฝั่งสักที
ภาพประจำตัวสมาชิก
เจนจิรา
โพสต์: 1168
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ธ.ค. 21, 2008 12:13 am

พุธ พ.ย. 18, 2009 12:35 pm

ส่งเสริม ชาตินิยมให้ I มะกัน  นะสิ ถึงแม้เขาไม่รีดจาก ประชาชนแต่เขาก็ไปรีด กะนัก ธุรกิจที่ส่งเสริมกัน อยู่ดี เงินในองค์กร นี้ไม่รู่สะพัดเท่าใหร่ ทหารที่ไม่อยากไปรบก็เขาโมม่อน ก็จะได้ไม่ไป รบ เพราะถือว่าออกตัวเป็น มิสชั่นนารี สำหรับเรื่อง ที่กล่าวหา ยังไง orthodox ไม่เกี่ยว เด๊อะค่ะ  : emo038 : เราอยู่อย่างเงียบๆและสงบ สงครามครูเสด เรายังไม่เข้าร่วมกันโดนตัด ญาติขาดมิตรเลย
ภาพประจำตัวสมาชิก
7Sin
โพสต์: 29
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ย. 16, 2009 1:15 pm

พุธ พ.ย. 18, 2009 7:50 pm

จะนิกายไหน ศาสนาไหน แก่นแท้ก็เหมือนกันครับ

ท่านพุทธทาสภิกขุ เคยบอกไว้ว่า

ที่พระเยซู สอนให้รักทุกคนเหมือนรักตัวเอง(ถูกผิดขออภัยครับ)

ก็เหมือนที่พระพุทธเจ้า สอนให้เรา ละซึ่ง อัตตา นั่นเองครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

พุธ พ.ย. 18, 2009 7:52 pm

7Sin เขียน: จะนิกายไหน ศาสนาไหน แก่นแท้ก็เหมือนกันครับ

ท่านพุทธทาสภิกขุ เคยบอกไว้ว่า

ที่พระเยซู สอนให้รักทุกคนเหมือนรักตัวเอง(ถูกผิดขออภัยครับ)

ก็เหมือนที่พระพุทธเจ้า สอนให้เรา ละซึ่ง อัตตา นั่นเองครับ
ผิวเผิน หรือ ทิศทางสอนให้เป็นคนดี จะเหมือนๆกันครับ

แต่เชื่อเถอะ มันมีอะไรที่แตกต่างกว่านั้น
Little Boy
โพสต์: 250
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 27, 2009 3:33 am

พฤหัสฯ. พ.ย. 19, 2009 9:20 am

BoYz - The Series เขียน:
7Sin เขียน: จะนิกายไหน ศาสนาไหน แก่นแท้ก็เหมือนกันครับ

ท่านพุทธทาสภิกขุ เคยบอกไว้ว่า

ที่พระเยซู สอนให้รักทุกคนเหมือนรักตัวเอง(ถูกผิดขออภัยครับ)

ก็เหมือนที่พระพุทธเจ้า สอนให้เรา ละซึ่ง อัตตา นั่นเองครับ
ผิวเผิน หรือ ทิศทางสอนให้เป็นคนดี จะเหมือนๆกันครับ

แต่เชื่อเถอะ มันมีอะไรที่แตกต่างกว่านั้น
ขอสนับสนุนละกัน
ผมเคยคิดว่าศาสนาใหนก็เหมือนกันหมดคือสอนให้คนเป็นคนดี
ผมรู้จักศาสนาอื่นจากในแบบเรียนในหลักสูตรภาคบังคับ
ผมถึงไม่นับถือศาสนาอะไรเลยมา 5 ปี

แต่เมื่อผมรู้ว่ามันต่างจากในหนังสือเรียน ผมจึงเริ่มศึกษามันมากขึ้น
และเมื่อผมรู้ความจริง ผมจึงเชื่อในพระเจ้าสุดจิตใจครับ
†tonklakubpom†
โพสต์: 268
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ย. 17, 2009 5:15 pm

พฤหัสฯ. พ.ย. 26, 2009 8:46 pm

เพื่อนแม่ผมที่เป็นคนพาผมไปโบสถ์วันแรกเค้าก็เป็นมอร์มอนเหมือนกันครับ
แต่ผมก็บอกเค้าไปตรงๆว่าผมสนใจคาทอลิก เพราะทันทีที่เค้าบอกว่าเป็นมอร์มอนแล้วจะพาไปโบสถ์มอร์มอนผมก็ไม่กล้าไปอ่ะ เพราะเห็นเขาว่ามอร์มอนเป็นนิกายเทียมเท็จ แต่ไม่รูว่าจริงรึเปล่า  อิอิ
ภาพประจำตัวสมาชิก
إن الدين عندالله
โพสต์: 51
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 30, 2009 8:34 pm
ที่อยู่: สุไหปาดี นราธิวาส

พฤหัสฯ. พ.ย. 26, 2009 9:02 pm

ทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดี  : xemo016 :
ตอบกลับโพส