เดิมพันกับซาตาน

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ย. 12, 2008 11:26 am

เดิมพันกับซาตาน

โดย นรา

รูปภาพ

วันนี้ผมมีนิทานจะมาเล่าสู่กันฟัง

เป็นเรื่องสั้นที่ผมเคยอ่านเจอในนิตยสารฉบับหนึ่ง เมื่อประมาณ 20 กว่าปีที่แล้ว

ผมจำไม่ได้ทั้งชื่อเรื่อง ผู้เขียน และคนแปล ตลอดจนรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ก็ออกจะเลือนรางเต็มที แต่ก็ยังจำเค้าโครงคร่าวๆ และเนื้อหาแง่คิดของเรื่องนี้ได้ขึ้นใจ

ผมจึงถือวิสาสะ นำเรื่องนี้มาเล่าตามกรรมวิธีของผมเอง (พูดให้ฟังดูเลว คือ ผมลอกไอเดียเขามาทั้งหมด แต่พูดแบบลำเอียงเข้าข้างตัวเอง นี่เป็นการเขียนขึ้นใหม่ โดยมีเรื่องสั้นฝรั่งเป็นแรงบันดาลใจ) แน่นอนครับว่า คงมีรายละเอียดปลีกย่อยผิดเพี้ยนคลาดเคลื่อนจากเดิมอยู่เยอะพอสมควร

ถ้าจะมีตรงไหนที่ใดสามารถสร้างความพึงพอใจแก่ท่านผู้อ่าน ความดีงามล้วนมาจากการสร้างสรรค์โดยนักเขียนผู้เป็นเจ้าของเรื่องเดิมทั้งสิ้น ส่วนข้อบกพร่องเป็นความอ่อนด้อยของผมเองเพียงลำพัง

--------------------------------------------------------------------

เรื่องนั้นมีอยู่ว่า ชายหนุ่มวัยสามสิบคนหนึ่งชื่อแฟรงค์ เป็นคนซื่อ ปราศจากเล่ห์เหลี่ยม จิตใจดีงาม โอบอ้อมอารี หลังจากร่ำเรียนจบ แฟรงค์ก็ยึดอาชีพเป็นเซลส์แมนขายรถยนต์ แม้จะไม่เฟื่องฟูมั่งคั่ง แต่ก็สามารถดำรงชีพอย่างพอมีพอกินเรื่อยมา

จนกระทั่งเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำไปทั่วสหรัฐอเมริกาในต้นทศวรรษ 1930 ชีวิตของแฟรงค์ก็พลิกผัน เขาตกงาน มิหนำซ้ำยังมีหนี้สินเป็นเงินก้อนโต

แฟรงค์อับจนสิ้นไร้หนทางแก้ไขวิกฤติต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามาในชีวิต เขาจึงร่ำสุราราดรดความทุกข์ไปวันๆ กระทั่งทุกอย่างดูย่ำแย่เลวร้ายกว่าเดิม ชายหนุ่มกลายเป็นไอ้ขี้เมาที่แทบไม่มีเงินหลงเหลือติดกระเป๋า

ค่ำคืนวันหนึ่ง หลังจากใช้เงินหนึ่งดอลลาร์สุดท้ายที่มีอยู่หมดไปกับเหล้าแก้วสุดท้าย แฟรงค์ในสภาพเมาหยำเป เดินโซเซท่ามกลางฝนตกหนักและความมืดมิด ลัดเลาะผ่านซอกตึกต่างๆ อย่างไร้จุดหมาย จนกระทั่งมาพบกับบาร์เหล้าเล็กแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในมุมเปลี่ยวร้างไร้ผู้คนสัญจร

ภายในว่างเปล่าปราศจากผู้คน มีเพียงบาร์เทนเดอร์ชายชราร่างผอมสูงแก้มตอบ ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์

“แฟรงค์ ผมรอคุณอยู่นานแล้ว” ชายชราเอ่ยทัก

“คุณรู้จักชื่อผมได้ยังไง” แฟรงค์ย้อนถามด้วยความสงสัย

“ผมรู้อะไรเกี่ยวกับคุณอีกเยอะ บางทีอาจจะรู้มากกว่าที่ตัวคุณรู้เสียด้วยซ้ำ คุณกำลังตกงาน สิ้นเนื้อประดาตัว และยอมแลกทุกอย่างที่มีอยู่เพื่อเหล้าแก้วเดียว” ชายชรากล่าวช้าๆ ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

แฟรงค์ฟังคำพูดของชายชราอย่างสงบนิ่ง ทั้งแปลกใจและร่ำๆ ว่าจะสร่างเมา

“ฟังนะ แฟรงค์ ผมขอยื่นข้อเสนอบางอย่าง ที่นี่มีเหล้าสิบสามแก้วให้ดื่มฟรีๆ ถ้าหากคุณจะกล้าพอ แต่ คุณต้องเสี่ยงดวงบ้างนิดๆ หน่อยๆ เพราะหนึ่งในจำนวนนี้มียาพิษ ถ้าคุณเป็นฝ่ายชนะพนันในการดื่ม เอ้อ! ผมหมายถึงรอดตายนะ คุณจะได้เงิน 1000 ดอลลาร์ และทุกๆ แก้วต่อไปเงินเดิมพันก็จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว” ชายชรากล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง ปราศจากวี่แววว่าล้อเล่น

“นี่คุณเล่นตลกห่าเหวอะไรอยู่วะ” แฟรงค์ตะคอกอย่างหงุดหงิด

“ผมไม่ได้ล้อเล่น” ชายชรากล่าวพร้อมทั้งหยิบแบงค์ 100 ดอลลาร์วางลงบนเคาน์เตอร์

“แล้วคุณจะได้อะไรจากการเล่นเกมนี้กับผม” ชายหนุ่มถามด้วยทีท่าน้ำเสียงอ่อนลง

“ขออนุญาตให้ผมได้แนะนำตัวกับคุณอย่างตรงไปตรงมาดีกว่า ผมคือซาตาน ถ้าคุณแพ้พนัน ดื่มเหล้าแก้วที่มียาพิษ ชีวิตและวิญญาณของคุณ จะต้องเป็นของผม” ซาตานพูดด้วยน้ำเสียงยะเยือกวังเวง

แฟรงค์ลังเลไตร่ตรองว่า เขาควรเชื่อถือคำพูดของชายชรา หรือยึดถือมันเป็นเพียงเรื่องเหลวไหลไร้สาระ

“คุณไม่มีอะไรต้องสูญเสียมากไปกว่านี้อีกแล้วนะพ่อหนุ่ม” ซาตานพูดรุกคืบโน้มน้าว

รูปภาพ

ท้ายที่สุด แฟรงค์จึงเลือกหยิบเหล้าแก้วหนึ่งบนเคาน์เตอร์ด้วยมืออันสั่นเทา รวบรวมความกล้าดื่มมันเข้าไป หลับตาเตรียมใจรอรับพิษร้ายที่จะแผ่ซ่านเข้าสู่ร่างกาย จนชั่วครู่หนึ่งผ่านพ้น ก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ

“ยินดีด้วยนะ แฟรงค์ เงินนี้เป็นของคุณ” ชายชราหยิบแบงค์ 1000 ดอลลาร์ยื่นให้ชายหนุ่ม “ยังมีเหล้าเหลืออยู่อีกสิบสองแก้ว คุณมาพบผมได้ตลอดเวลา เมื่อใดก็ตามที่ต้องการเงิน”

แฟรงค์ใช้เงิน 1000 ดอลลาร์ไปกับการกินดื่มและจับจ่ายซื้อสิ่งฟุ่มเฟือยจนหนำใจ และหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว คืนวันรุ่งขึ้นเขาจึงหวนกลับมาพบชายชราอีกครั้ง และชนะเดิมพันเงิน 2000 ดอลลาร์

คราวนี้ชายหนุ่มไม่ได้หมดเงินกับการเมามาย แฟรงค์เริ่มคิดวางแผนสร้างเนื้อสร้างตัว ทำธุรกิจของตนเอง แต่ 2000 ดอลลาร์นั้นยังไม่เพียงพอต่อการลงทุน สัปดาห์ต่อมาเขาจึงไปวัดดวงกับซาตาน และเป็นฝ่ายชนะได้เงินมาอีก 4000 ดอลลาร์

ธุรกิจร้านขายรองเท้าของชายหนุ่มจึงเริ่มต้นขึ้น และค่อยๆ เติบโตอย่างช้าๆ มั่นคงตามลำดับ จนกระทั่งวันหนึ่งแฟรงค์เกิดไปพบและรู้จักสาวสวยชื่อพาเมลา ทั้งคู่ต่างพึงพอใจในตัวอีกฝ่าย ความรักผลิบานงอกงามอย่างรวดเร็ว

เพื่อที่จะหาเงินก้อนมาจับจ่ายใช้สอยในพิธีแต่งงาน แฟรงค์จึงไปหาซาตานอีกครั้ง ชายชรายังคงสภาพเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

“เพื่อนยาก คุณหายหน้าหายตาไปนาน จนทีแรกผมแทบจะจำไม่ได้ ดูสะอาดสะอ้าน แต่งตัวดี ตรงข้ามกับคืนแรกที่เราเจอกัน ผมเดาว่าคุณคงมีชีวิตใกล้จะสุขสบายแล้วสินะ” ชายชรายิ้มนิดๆ อย่างอ่อนโยน ยกเว้นแววตาที่เคลือบแฝงไว้ด้วยความเจ้าเล่ห์

แฟรงค์ไม่สนใจแม้กระทั่งจะเอ่ยทักทายหรือสนทนาด้วย เขาปาดเหงื่อบนหน้าผาก เลือกหยิบเหล้าแก้วหนึ่งขึ้นดื่ม จากนั้นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อพบว่าตนเองปลอดภัย

“8000 ดอลลาร์สำหรับเหล้าแก้วที่สี่เป็นของคุณ แต่ขอโทษนะครับ ผมคิดว่ารวมกับเงินเก็บออมของคุณ ผมเกรงว่ามันอาจจะไม่พอ” ชายชราพูดพร้อมๆ กับผายมือไปยังแก้วเหล้าที่เหลืออยู่

แฟรงค์ยืนลังเลไตร่ตรอง ในที่สุดก็ตัดสินใจดื่มเหล้าแก้วที่ห้า และได้เงินไปอีก 16000 ดอลลาร์

“ลาก่อน ผมกับคุณคงไม่มีความจำเป็นต้องพบกันอีกตลอดกาล” แฟรงค์เอ่ยลาซาตาน

“นั่นยังไม่แน่นัก แต่ถึงยังไง ผมก็จะรอคุณอยู่ตรงนี้” ชายชรากล่าวทิ้งท้าย

แฟรงค์แต่งงานกับพาเมลา หลายปีผ่านไป ธุรกิจของเขาเติบโตขึ้น จากร้านเล็กๆ กลายเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดปานกลาง มีลูกสามคน ชายหนึ่ง หญิงสอง ครอบครัวอบอุ่นสมบูรณ์แบบ แต่แล้วการเพลี่ยงพล้ำให้กับคู่แข่งทางด้านการค้า ก็ทำให้เงินสดไม่เพียงพอหมุนเวียน แฟรงค์กู้เงินจากธนาคาร โดยเอาบ้านจำนองเป็นหลักประกัน ทว่าแทนที่สถานการณ์จะกระเตื้อง กลับทรุดหนักซวดเซกว่าเดิม

แฟรงค์ในวัยสี่สิบจึงต้องมาดื่มเหล้าแก้วที่หก เพื่อเงิน 32000 ดอลลาร์ และเหล้าแก้วที่เจ็ด เพื่อเงิน 64000 ดอลลาร์ เพื่อนำไปกอบกู้แก้ไขปัญหาทางธุรกิจของตน จนกระทั่งมรสุมชีวิตคลี่คลายไปได้อีกครั้ง

หลังจากนั้นชีวิตของแฟรงค์ก็ก้าวสู่เส้นทาง “ขาขึ้น” กลายเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ ฐานะมั่งคั่งร่ำรวย เขาเริ่มขยับขยายไปยังการลงทุนอื่นๆ โดยเฉพาะการซื้อหุ้น ซึ่งทำกำไรมหาศาล จนกระทั่งวันหนึ่ง หุ้นที่เขาถือไว้ราคาตกดิ่งฮวบ จนต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีเดิมๆ คือ ดื่มเหล้าแก้วที่แปด 128000 ดอลลาร์

รูปภาพ

แฟรงค์ดื่มเหล้าแก้วที่เก้า 256000 ดอลลาร์ ในอีกไม่กี่เดือนต่อมา เพื่อนำเงินไปใช้ปรนเปรอชู้รัก และต้องการปกปิดอำพรางไม่ให้กระทบต่อบัญชีรายได้จากธุรกิจ ซึ่งพาเมลาผู้เป็นภรรยาสามารถตรวจสอบได้

จากนั้นก็ดื่มเหล้าแก้วที่สิบ 512000 ดอลลาร์ เพื่อเลิกรากับชู้รักที่เขาเบื่อหน่าย และโดนเธอเรียกร้องขู่กรรโชกเงินก้อนโต

ดื่มเหล้าแก้วที่สิบเอ็ด 1024000 ดอลลาร์ เพื่อนำเงินไปลงทุนในธุรกิจบ่อนพนัน และยาเสพติด

ส่วนเหล้าแก้วที่สิบสอง แฟรงค์ตัดสินใจดื่มมันด้วยเหตุผลสั้นๆ คือ ความโลภ แม้จะร่ำรวยจนทรัพย์สินที่มีอยู่ ใช้อย่างไรก็ไม่หมด ทว่าเงินเดิมพันจำนวนสองล้านแปดพันดอลลาร์ ก็เย้ายวนกระทั่งแฟรงค์ในวัยห้าสิบ อดใจไว้ไม่ไหว

“เพื่อนรัก คราวนี้คุณหายไปนานมาก จนผมคิดว่าจะไม่ได้เจอคุณอีกซะแล้ว” ชายชราในรูปลักษณ์เดิมๆ คงที่กล่าวทัก

“ผมมาดื่มครั้งสุดท้าย ยังเหลือเหล้าอีกสองแก้วใช่มั้ย อัตราความเสี่ยงสูงหน่อย แต่เดิมพันนั้นโคตรคุ้มเลยวะ” แฟรงค์หัวเราะอย่างก้าวร้าว มองและชั่งน้ำหนักไปยังเหล้าที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ จากนั้นก็ตัดสินใจเลือกแก้วซ้ายมือ

เขายกเหล้าขึ้นดื่มอย่างช้าๆ จนหมด เฝ้ารอดูว่ามันจะก่อให้เกิดปฏิกิริยากับร่างกาย แต่แล้วทุกสิ่งก็ยังคงเป็นปกติ

“ขอเงินให้ผม และลาก่อนตลอดกาล” แฟรงค์พูดด้วยความลิงโลดดีใจ

“อะไรทำให้คุณคิดว่าคุณชนะ” ชายชรายังคงสงบนิ่ง

“ผมบอกไว้แล้วว่าเหล้าแก้วหนึ่งมียาพิษ แต่ดูเหมือนผมจะสะเพร่าไปนิดนึง จึงลืมบอกคุณว่า ยาพิษนั่น ไม่ได้ทำให้ตายทันที แต่ออกฤทธิ์อย่างช้าๆ ทีละน้อย คุณดื่มมันไปตั้งแต่แก้วที่หกแล้ว” ซาตานอธิบายพร้อมๆ กับรอยยิ้มอันชั่วร้าย

“นับตั้งแต่นั้น วิญญาณคุณก็เป็นของผม คุณไม่ได้สังเกตเลยว่า ตัวคุณเองเปลี่ยนไป จากคนซื่อๆ จิตใจดีงาม คุณกลายเป็นพ่อค้าที่เอารัดเอาเปรียบ เป็นนายจ้างที่ขูดรีด เป็นสามีที่ละเลยภรรยา เป็นพ่อผู้ไม่รับผิดชอบใส่ใจต่อลูกๆ คุณค่อยๆ ทรยศหักหลังเพื่อนร่วมงาน บดขยี้คู่แข่งด้วยเล่ห์เหลี่ยมอำมหิต มักมากในกาม ติดการพนัน ละโมบไม่รู้จักพอ ผมขอชื่นชม คุณเลวได้ครบถ้วน ยิ่งกว่าที่คาดคิดเอาไว้เยอะ”

แฟรงค์ตกตะลึง สีหน้าซีดเผือด ร่างกายร้อนผ่าว ปวดแสบเหมือนมีใครมาบิดลำไส้ หายใจกระหืดกระหอบติดขัด

“นับจากดื่มเหล้าแก้วที่หก คุณก็กลายเป็นคนไร้วิญญาณ ดิ้นรนทำทุกอย่างเพื่อปรนเปรอตนเอง แต่ผมเชื่อว่า คุณคงรู้สึกบ้างเหมือนกันว่า ชีวิตคุณว่างเปล่า โหยหาไขว่คว้าต้องการบางสิ่งอยู่ตลอดเวลา และคุณคิดว่าเงินคือคำตอบ ทว่ายิ่งได้มาเท่าไร ก็ยิ่งถมไม่เต็ม นั่นเป็นเพราะว่า คุณไม่มีวิญญาณ และเมื่อคุณปราศจากมัน คุณก็ไม่มีวันรู้จักและเข้าใจได้อีกเลยว่า ความรักเป็นอย่างไร ใช่แล้ว! คุณกลายเป็นชีวิตที่ทำความรักหล่นหาย”

แฟรงค์ตายโดยไม่ทันได้ยินคำพูดประโยคท้ายๆ ของซาตาน

ชายชราหยิบเหล้าแก้วสุดท้ายชูขึ้น “แก้วนี้ผมดื่มให้แก่ชีวิตที่น่าสมเพชของคุณ”

รูปภาพ

--------------------------------------------------------------------



ที่มา ผู้จัดการออนไลน์ 10 พฤศจิกายน 2551 11:36 น.
http://www.manager.co.th/Entertainment/ ... 0000133005

       
       
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ พุธ พ.ย. 12, 2008 11:51 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดานุ้งพุงระเบิด
โพสต์: 518
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 31, 2006 3:57 pm
ที่อยู่: อุบลราชธานี

พุธ พ.ย. 12, 2008 11:35 am

นี่ล่ะหนอ มาร
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

พุธ พ.ย. 12, 2008 12:01 pm

ขอบคุณที่แบ่งปันครับ ::004::
Viridian
โพสต์: 2762
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 11:40 pm

พุธ พ.ย. 12, 2008 12:07 pm

ขอบคุณมากค่ะพี่โฮลี่ ::001::

ชอบมากเลยค่ะ : emo038 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
† Sister of Lucifer†
โพสต์: 94
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 22, 2008 2:25 pm
ติดต่อ:

พุธ พ.ย. 12, 2008 12:13 pm

ชอบมาก ๆ เลยค่ะ ให้แง่คิดดีจัง

ขอบคุณที่แบ่งปันนะค่ะ : emo010 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
ignatius
.
.
โพสต์: 2597
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2008 12:48 pm

พุธ พ.ย. 12, 2008 12:28 pm

ขอบคุณ..คุณโฮลี่มากคะ..ที่แบ่งปันเรื่องดีดี  : emo038 :
สุดท้ายแห่งพงไพร เขียน: นี่ล่ะหนอ มาร
ใช่..นั่นแหละเป็นวิธีของ มาร แต่เราเอง..ก็มีส่วนในการที่ดึงตัวเองลงสู่วังวนนี้..
เรานั่นแหละเป็นคนเปิดโอกาสให้มาร หรือ ซาตานเข้ามาครอบครองจิตใจ..เข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตของเรา
แม้ว่า..วันหนึ่ง เราเคยประกาศ ละทิ้งปีศาจ..แต่..เรานั้นแหละ..ที่อ่อนแอ และพาตัวเองเข้าสู่กลลวงนี้..
อย่าโทษแต่ "ซาตาน" ฝ่ายเดียวเลย..เพราะซาตานย่อมเป็น"ของความมืด" ย่อมทำแต่กิจการของความมืดและชั่วร้าย
แต่...เราซิควรจะวอนขอแสงสว่างจากพระองค์ วอนขอความช่วยเหลือ..วอนขออย่าให้แพ้การประจญ..จากพระองค์

พระเยซูเจ้าทรงสอนให้เราเฝ้าระวังและอธิษฐานภาวนาเพื่อจะไม่ต้องพ่ายแพ้แก่การประจญ (มธ 6:13 ; 26:41)

ข้าแต่พระยาห์เวย์ ข้าพเจ้าเรียกหาพระองค์ โปรดรีบเสด็จมาเถิด
โปรดทรงฟังเสียงข้าพเจ้า เมื่อข้าพเจ้าเรียกหาพระองค์
ขอให้คำภาวนาของข้าพเจ้าเป้นดั่งกำยานเฉพาะพระพักตร์พระองค์
ขอให้มือของข้าพเจ้าที่ชูขึ้นหาพระองค์เป็นดั่งเครื่องบูชาในยามเย็น

ข้าแต่พระยาห์เวย์ ขอทรงวางยามเฝ้าปากข้าพเจ้าไว้
ขอทรงวางยามไว้ตรงประตูริมฝีปากของข้าพเจ้า
ขออย่าทรงปล่อยให้ใจข้าพเจ้าเอนเอียงไปยังความชั่วร้าย
เพื่อจะได้ไม่ต้องกระทำกิจการอธรรมกับบุคคลชั่วร้าย
ข้าพเจ้าจะไม่ยอมลิ้มรสอาหารโอชาของเขา

ผู้ชอบธรรมจะตำหนิข้าพเจ้าก็ได้
ผู้จงรักภักดีต่อพระองค์จะตักเตือนข้าพเจ้าก็ได้
การกระทำเช่นนี้จะเป็นเหมือนนำ้มันหอมบนศีรษะของข้าพเจ้า
ศีรษะของข้าพเจ้าจะไม่ปฏิเสธนำ้มันนี้
แต่ข้าพเจ้าจะอธิษฐานภาวนาต่อสู้การกระทำของคนชั่วร้าย

บรรดาผู้พิพากษาของเขาจะถูกโยนลงหน้าผา
และจะได้ยินถ้อยคำของข้าพเจ้านั้นอ่อนหวาน
"เช่นเดียวกับหินโม่ที่แตกละเอียดอยู่บนพื้นดิน
กระดูกของเขาก็กระจายเกลื่อนอยู่ตรงปากทางสู่แดนมรณะ"

ข้าแต่พระยาห์เวย์ องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าเบนสายตามาหาพระองค์
ข้าพเจ้าลี้ภัยมาพึ่งพระองค์ โปรดอย่าทรงทิ้งข้าพเจ้าไว้ให้ตายเลย
โปรดทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากบ่วงแร้วที่เขาวางไว้
และจากคนชั่วร้ายที่คอยซุ่มทำร้ายข้าพเจ้า
ขอให้คนชั่วร้ายทุกคนตกลงไปติดข่ายของตน
ขณะที่ข้าพเจ้าเดินผ่านไปอย่างปลอดภัย

จากเพลงสดุดีที่ 141 (Vg 140) : คำวอนขออย่าให้แพ้การประจญ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

พุธ พ.ย. 12, 2008 7:55 pm

แค่คิดจับมือกับมาร...

คุณก็อยู่ในอุ้งมือของมันแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

พุธ พ.ย. 12, 2008 10:21 pm

ต้องลองสังเกตดูบ้างแล้วว่าตัวเองเผลอขายวิญญาณให้กับมันไปแล้วหรือยัง

จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม หากลองจับมือกับมาร ก็พร้อมที่จะโดนมันเหยียบหัวตลอดกาลแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
Edwardius
โพสต์: 1392
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 3:02 pm
ที่อยู่: Lamphun, Thailand

พุธ พ.ย. 12, 2008 11:01 pm

พระยาห์ฺเวห์ทรงเป็นผู้กอบกู้ข้าให้รอด อัลเลลูยา
Viridian
โพสต์: 2762
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 11:40 pm

พุธ พ.ย. 12, 2008 11:04 pm

Pegasus เขียน: ต้องลองสังเกตดูบ้างแล้วว่าตัวเองเผลอขายวิญญาณให้กับมันไปแล้วหรือยัง
อือมมม นั่นสิ เราน่าจะหมั่นสังเกตตัวเองอยู่เสมอ :rolleyes:
ignatius เขียน: ข้าแต่พระยาห์เวย์ ขอทรงวางยามเฝ้าปากข้าพเจ้าไว้
ขอทรงวางยามไว้ตรงประตูริมฝีปากของข้าพเจ้า
เฮ้อ แต่บางที ยามก็เผลอหลับได้เหมือนกันนะเจ้าคะ เหๆ ::010::

ก็เหมือนคนเรา มีความอ่อนแอ จึงมักพลาดพลั้งทำบาปอยู่เสมอ...
แต่เมื่อเรารู้ตัวว่าเผลอหลงเข้าไปใน "ด้านมืด" แล้ว ก็ต้องกลับใจไปหา "ความสว่าง"
ไม่เช่นนั้น เราก็จะตกอยู่ใน "ด้านมืด" ตลอดกาล...

ดังนั้น จึงมีคนเคยกล่าวไว้ว่า "ชีวิตคริสตชนต้องการการกลับใจอยู่เสมอ"
จริงไหมขอรับ ท่านพี่โอ๋ ::011::
Edwardius เขียน: พระยาห์ฺเวห์ทรงเป็นผู้กอบกู้ข้าให้รอด อัลเลลูยา
ใช่แล้ว : emo038 : : xemo026 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
ignatius
.
.
โพสต์: 2597
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2008 12:48 pm

พฤหัสฯ. พ.ย. 13, 2008 9:13 am

Viridian เขียน:
Pegasus เขียน: ต้องลองสังเกตดูบ้างแล้วว่าตัวเองเผลอขายวิญญาณให้กับมันไปแล้วหรือยัง
อือมมม นั่นสิ เราน่าจะหมั่นสังเกตตัวเองอยู่เสมอ :rolleyes:
ignatius เขียน: ข้าแต่พระยาห์เวย์ ขอทรงวางยามเฝ้าปากข้าพเจ้าไว้
ขอทรงวางยามไว้ตรงประตูริมฝีปากของข้าพเจ้า
เฮ้อ แต่บางที ยามก็เผลอหลับได้เหมือนกันนะเจ้าคะ เหๆ ::010::

ก็เหมือนคนเรา มีความอ่อนแอ จึงมักพลาดพลั้งทำบาปอยู่เสมอ...
แต่เมื่อเรารู้ตัวว่าเผลอหลงเข้าไปใน "ด้านมืด" แล้ว ก็ต้องกลับใจไปหา "ความสว่าง"
ไม่เช่นนั้น เราก็จะตกอยู่ใน "ด้านมืด" ตลอดกาล...

ดังนั้น จึงมีคนเคยกล่าวไว้ว่า "ชีวิตคริสตชนต้องการการกลับใจอยู่เสมอ"
จริงไหมขอรับ ท่านพี่โอ๋ ::011::
ใช่จ๊ะ สำหรับ ประโยคที่ว่า "ชีวิตคริสตชนต้องการกลับใจอยู่เสมอ" เพราะด้วยเหตุนี้ พระศาสนจักรจึงให้มีศีลอภัยบาปไงจ๊ะ
และประโยคนี้เรียกร้องให้เราใช้มโนธรรมของเรา เข้มงวดกับตัวเราเอง และเป็น"ยาม"ให้ตัวเองด้วย..

ในบอร์ดนี้อาจมีสมาชิกหลายๆคนที่เขียนอธิบายเรื่องมโนธรรมไว้แล้ว แต่พี่ก็อยากเสริมนิดนึง ให้อ่านอีกหน่อยว่า....

มโนธรรม Conscience เป็นต้นตอที่สำคัญสุดท้าย แห่งการตัดสินใจกระทำด้านศีลธรรมของคริสตชนและมนุษย์ทุกคน
ข้อความดังกล่าวคงไม่มีใครคัดค้าน คือ ในกระบวนการตัดสินใจกระทำ ในฐานะเป็นการกระทำส่วนบุคคล Personal Act
ที่บุคคลเป็นผู้กระทำโดย เสรีภาพ Freedom ความรู้สำนึกตน Awareness และความรับผิดชอบ Responsibility

การตัดสินใจในการกระทำด้านศีลธรรมที่เที่ยงแท้ของเขา Authentically moral decision จำต้องออกมาจากมโนธรรมส่วนบุคคลของเขา personal conscience ในฐานะที่เขาเป็นผู้กระทำ moral agent ที่ประกอบด้วย เสรีภาพ ความรู้สำนึกตน และความรับผิดชอบ

ถ้าการกระทำนั้นเป็นการกระทำที่ออกมาจากกระบวนการตัดสินใจของมโนธรรม ในส่วนที่ลึกซึ้งที่สุดแห่งความเป็นตัวตนของเขา..ความเป็นบุคคลของเขา

สำหรับมโนธรรมของคริสตชน ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเชื่อ Faith จึงมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับพระผู้เป็นเจ้า
ในมโนธรรม เราสามารถเปรียบเป็นสถานที่ที่เราจะคุยกับพระองค์ สรรเสริญ ขอบพระคุณ อ้อนวอนขอ และพบความรอดพ้นของตนเองในองค์พระผู้เป็นเจ้า
หรืออีกนัยหนึ่ง.....ความจริงของคริสตจริยศาสตร์ Christian moral truth ก็คือความจริงที่นำความรอดมาให้ Moral truth is the truth of the salvation นอกจากนั้นยังสัมพันธ์ครอบคลุมถึงกับตนเอง กับผู้คนรอบข้าง กับโลกภายนอกอีกด้วย
: xemo026 :
แก้ไขล่าสุดโดย ignatius เมื่อ พฤหัสฯ. พ.ย. 13, 2008 2:52 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. พ.ย. 13, 2008 10:32 pm

ขอเอาไปแบ่งปันต่อนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดานุ้งพุงระเบิด
โพสต์: 518
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 31, 2006 3:57 pm
ที่อยู่: อุบลราชธานี

พฤหัสฯ. พ.ย. 13, 2008 11:50 pm

แค่คิดว่าตัวเองแกร่งมีพลังเหนือมารก็กำลังทำกิจการของมารอยู่
Starry Night
โพสต์: 133
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ย. 25, 2008 11:42 am
ที่อยู่: > <" Xiah Junsu Fightingg g!!!

ศุกร์ พ.ย. 14, 2008 9:03 pm

อย่างว่าอ่าเนอะๆ

ขึ้นชื่อว่า 'ซาตาน' นิ

::017:: ::017:: ::017::
REX
โพสต์: 2
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. พ.ย. 13, 2008 6:47 pm

พุธ พ.ย. 19, 2008 1:42 pm

ชอบมากครับ ให้แง่คิดในการดำเนินชีวิตได้ดีจริงๆ ขอบคุณที่นำเรื่องดีๆแบบนี้มาให้อ่านครับ :angel:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Kichinto
โพสต์: 532
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 17, 2007 7:34 pm
ติดต่อ:

พุธ พ.ย. 19, 2008 8:44 pm

ขอบคุณมากครับผม
ภาพประจำตัวสมาชิก
ชิปโป
โพสต์: 184
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 03, 2006 4:17 am

พุธ พ.ย. 25, 2009 4:28 am

ปีศาจฉลาดกว่าเราเสมอ เราจึงต้องพึ่งพระเจ้าในการเอาชนะมัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Happiness
โพสต์: 345
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ค. 14, 2009 11:23 pm

พุธ พ.ย. 25, 2009 4:58 am

ขอบคุณมากครับ  : emo038 :

จะนำไปเล่าต่อนะครับ เพื่อให้เกิดประโชน์ทางคุณธรรมและจริยธรรมแก่ผู้อื่น ส่วนมารทางพุทธก็ได้แก่ กิเลศมารตัวร้าย ขันธมาร อภิสังขารมาร เทวดามาร มนุษย์มาร และมัจจุมาร  : xemo028 :
แก้ไขล่าสุดโดย Happiness เมื่อ พุธ พ.ย. 25, 2009 5:02 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
ignatius
.
.
โพสต์: 2597
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2008 12:48 pm

พุธ พ.ย. 25, 2009 8:24 am

Happiness เขียน: ขอบคุณมากครับ  : emo038 :

จะนำไปเล่าต่อนะครับ เพื่อให้เกิดประโชน์ทางคุณธรรมและจริยธรรมแก่ผู้อื่น ส่วนมารทางพุทธก็ได้แก่ กิเลศมารตัวร้าย ขันธมาร อภิสังขารมาร เทวดามาร มนุษย์มาร และมัจจุมาร  : xemo028 :
ถ้าจะกรุณาอธิบายต่อให้ทุกคนเข้าใจเพิ่มขึ้นในส่วนของมารทางพุทธ ที่ยกตัวอย่างมาให้ก็จะดีมากนะคะ
จะได้มีความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้น
ขอขอบคุณมาล่วงหน้าเลยคะ และขอพระอวยพรคุณ Happiness และครอบครัวนะคะ::001::
ภาพประจำตัวสมาชิก
godlike
โพสต์: 472
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มิ.ย. 09, 2009 2:21 am

พุธ พ.ย. 25, 2009 9:19 am

เป็นบทความที่เตือนใจเราได้อย่างดีเลยนะเนี่ย วอนขออัครเทวดามีคาแอล โปรดเหยียบมันไว้ใต้ฝ่าเท้า บดขยี้หัวมันให้แหลกคาพื้นปฐพี
ภาพประจำตัวสมาชิก
Léon
โพสต์: 766
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มิ.ย. 13, 2009 8:43 pm
ที่อยู่: แผ่นดินโลก
ติดต่อ:

พุธ พ.ย. 25, 2009 11:16 am

ถาม  ขอให้อธิบายคำว่า มาร โดยละเอียด
ตอบ  มาร
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

พุธ พ.ย. 25, 2009 11:30 am

ชิปโป เขียน: ปีศาจฉลาดกว่าเราเสมอ เราจึงต้องพึ่งพระเจ้าในการเอาชนะมัน
เราจะฉลาดกว่ามัน ถ้าเรามีพระวจนะของพระเจ้าครบทุกคำ (ดังที่ อ.ฟู ศบ.ผู้สอนความจริง แห่งคริสตจักรโปรเตสแตน เตือนไว้)  : emo038 :
Little Boy
โพสต์: 250
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 27, 2009 3:33 am

พุธ พ.ย. 25, 2009 1:21 pm

ดีมากเลยครับ  : emo045 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
yack
โพสต์: 816
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 11:01 am

พุธ พ.ย. 25, 2009 2:17 pm

ขอบคุณครับ
Jesus loves You
โพสต์: 740
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 11:36 pm

พุธ พ.ย. 25, 2009 5:27 pm

ขอบคุณมากๆครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ย. 25, 2009 6:36 pm

BoYz - The Series เขียน:
ชิปโป เขียน: ปีศาจฉลาดกว่าเราเสมอ เราจึงต้องพึ่งพระเจ้าในการเอาชนะมัน
เราจะฉลาดกว่ามัน ถ้าเรามีพระวจนะของพระเจ้าครบทุกคำ (ดังที่ อ.ฟู ศบ.ผู้สอนความจริง แห่งคริสตจักรโปรเตสแตน เตือนไว้)  : emo038 :
จริงๆ ถึงเรารู้พระคัมภีร์ครบทุกคำก็อย่าคิดว่าจะฉลาดกว่ามารได้ครับ เพราะมารมันรู้พระคัมภีร์ทุกข้อแถมเข้าใจมากกว่าเราอีก มันขาดอย่างเดียวที่เรามีคือ ขาดความรัก

ความรักพระเจ้า และเพื่อนมนุษย์ นี่แหละจะเอาชนะมันได้

1คร 13:2
แม้ข้าพเจ้าจะประกาศพระวาจา เข้าใจธรรมล้ำลึกทุกข้อ และมีความรู้ทุกอย่าง หรือมีความเชื่อพอที่จะเคลื่อนภูเขาได้ ถ้าไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่มีความสำคัญแต่อย่างใด 



ยก 2:19
ท่านเชื่อว่ามีพระเจ้าเพียงพระองค์เดียวหรือ ดีแล้ว แม้พวกปีศาจก็เชื่อเช่นนั้นและยังกลัวจนตัวสั่นด้วย
ภาพประจำตัวสมาชิก
เจนจิรา
โพสต์: 1168
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ธ.ค. 21, 2008 12:13 am

พุธ พ.ย. 25, 2009 6:49 pm

Holy เขียน:
BoYz - The Series เขียน:
ชิปโป เขียน: ปีศาจฉลาดกว่าเราเสมอ เราจึงต้องพึ่งพระเจ้าในการเอาชนะมัน
เราจะฉลาดกว่ามัน ถ้าเรามีพระวจนะของพระเจ้าครบทุกคำ (ดังที่ อ.ฟู ศบ.ผู้สอนความจริง แห่งคริสตจักรโปรเตสแตน เตือนไว้)  : emo038 :
จริงๆ ถึงเรารู้พระคัมภีร์ครบทุกคำก็อย่าคิดว่าจะฉลาดกว่ามารได้ครับ เพราะมารมันรู้พระคัมภีร์ทุกข้อแถมเข้าใจมากกว่าเราอีก มันขาดอย่างเดียวที่เรามีคือ ขาดความรัก

ความรักพระเจ้า และเพื่อนมนุษย์ นี่แหละจะเอาชนะมันได้

1คร 13:2
แม้ข้าพเจ้าจะประกาศพระวาจา เข้าใจธรรมล้ำลึกทุกข้อ และมีความรู้ทุกอย่าง หรือมีความเชื่อพอที่จะเคลื่อนภูเขาได้ ถ้าไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่มีความสำคัญแต่อย่างใด 



ยก 2:19
ท่านเชื่อว่ามีพระเจ้าเพียงพระองค์เดียวหรือ ดีแล้ว แม้พวกปีศาจก็เชื่อเช่นนั้นและยังกลัวจนตัวสั่นด้วย
สำเนาถูกต้องค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

พุธ พ.ย. 25, 2009 9:05 pm

jacky เขียน:
Holy เขียน:
BoYz - The Series เขียน: เราจะฉลาดกว่ามัน ถ้าเรามีพระวจนะของพระเจ้าครบทุกคำ (ดังที่ อ.ฟู ศบ.ผู้สอนความจริง แห่งคริสตจักรโปรเตสแตน เตือนไว้)  : emo038 :
จริงๆ ถึงเรารู้พระคัมภีร์ครบทุกคำก็อย่าคิดว่าจะฉลาดกว่ามารได้ครับ เพราะมารมันรู้พระคัมภีร์ทุกข้อแถมเข้าใจมากกว่าเราอีก มันขาดอย่างเดียวที่เรามีคือ ขาดความรัก

ความรักพระเจ้า และเพื่อนมนุษย์ นี่แหละจะเอาชนะมันได้

1คร 13:2
แม้ข้าพเจ้าจะประกาศพระวาจา เข้าใจธรรมล้ำลึกทุกข้อ และมีความรู้ทุกอย่าง หรือมีความเชื่อพอที่จะเคลื่อนภูเขาได้ ถ้าไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่มีความสำคัญแต่อย่างใด  



ยก 2:19
ท่านเชื่อว่ามีพระเจ้าเพียงพระองค์เดียวหรือ ดีแล้ว แม้พวกปีศาจก็เชื่อเช่นนั้นและยังกลัวจนตัวสั่นด้วย
สำเนาถูกต้องค่ะ
มันต่างกันตรงไหนนิ  : emo102 :
รู้ทุกคำก็จะได้มีคำตอบให้ข้อสงสัยได้เสมอๆ
แต่นั่นแหละถูกต้องที่สุด ตามที่ HOLY บอก "ความรัก" มันมิมี  : emo038 :

โรเนียวบาทนึง

ส่วนที่บอกว่าเราจะฉลาดกว่ามัน ถ้าเรามีพระวจนะคำทุกคำ
จริงๆ ก็คือ เราจะโง่มาก ถ้าเราไม่คิดจะรู้สักคำ Ok  ::032::
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ พ.ย. 25, 2009 9:19 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
A Sheep
โพสต์: 1131
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 24, 2008 5:44 pm

พุธ พ.ย. 25, 2009 9:37 pm

ขอบคุณมากค่ะ

อ่านแล้วชอบมากๆค่ะ
ตอบกลับโพส