เพื่อพี่น้องที่ยังไม่เคยอ่านนะครับ เด๋วผมจะร่ายตั้งแต่ต้นเลยนะครับ
" สารของพระบิดา
ส่วนที่ 1
1 กรกฎาคม ค.ศ. 1932
วันฉลองพระโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูคริสตเจ้า
ในที่สุด ก็มาถึงวันนี้ ซึ่งพระบิดาเจ้าสวรรค์ทรงสัญญาไว้
วันนี้การเตรียมการอันยาวนานได้สิ้นสุดลงแล้ว และข้าพเจ้ารู้สึกว่าการเสด็จมาของพระบิดาของข้าพเจ้า และพระบิดาของมวลมนุษย์ใกล้เข้ามามาก
หลังการสวดภาวนาชั่วครู่ และความปลื้มปิติยิ่งใหญ่ในวิญญาณ ข้าพเจ้ารู้สึกว่าถูกรุมเร้าด้วยความปรารถนาที่จะได้เห็น และได้ยินพระองค์
ดวงใจที่ร้อนรุ่มด้วยความรักของข้าพเจ้าเปิดออกด้วยความเชื่อมั่นอันยิ่งใหญ่
จนข้าพเจ้าตระหนักได้ว่า ข้าพเจ้าไม่เคยวางใจในบุคคลใดมากเพียงนี้มาก่อนเลย
การคำนึงถึงพระบิดาทำให้ข้าพเจ้ามีความสุขเหลือล้น
ในที่สุด ข้าพเจ้าเริ่มได้ยินเสียงขับร้อง นิกรเทวดาลงมาประกาศถึงการเสด็จมาอันน่ายินดีครั้งนี้ บทเพลงของท่านไพเราะมากจนข้าพเจ้าตั้งใจว่าจะจดบันทึกไว้ทันทีที่ทำได้"
สารของพระบิดา (ต่อนะครับ) ถึงลูกๆทุกคน
เสียงเพลงหยุดลง จากนั้นก็มีขบวนของผู้ได้รับเลือกสรรทั้งเชรูบิม และเซราฟิม พร้อมกับพระเป็นเจ้า พระผู้สร้าง และพระบิดาของเรา
ข้าพเจ้าหมอบฟุบหน้ากับพื้น จมอยู่ในความเปล่าของตนเอง ข้าพเจ้าสวดบทสรรเสริญของพระนางมารีอา (Magnificat) หลังจากนั้น พระบิดาทรงให้ข้าพเจ้านั่งใกล้พระองค์ และบันทึกสิ่งที่พระองค์ประสงค์จะกล่าวกับมนุษย์
ข้าราชบริพารสวรรค์ซึ่งตามเสด็จพระองค์อันตรธานไป เหลือเพียงพระบิดาอยู่กับข้าพเจ้า และก่อนจะทรงประทับนั่ง พระองค์ตรัสว่า :
" เราได้บอกลูกแล้ว และขอย้ำอีกว่า เราไม่อาจยอมให้พระบุตรสุดที่รักของเรา พิสูจน์ความรักที่เรามีต่อมนุษย์อีกครั้งหนึ่งได้! บัดนี้ เรามาท่ามกลางพวกเขาเพื่อที่จะรักเขา และทำให้เขารู้จักความรักนี้ ด้วยการสวมใส่ทั้งภาพลักษณ์ และความยากไร้ของพวกเขา บัดนี้ เราได้ถอดมงกุฏของเราพร้อมกับสิริรุ่งโรจน์ของเรา เพื่อสวมสภาพมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง "
หลังจากทรงแสดงพระองค์เยี่ยงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งโดยทรงวางมงกุฏ และพระสิริรุ่งโรจน์ไว้แทบพระบาทของพระองค์แล้ว พระองค์ทรงถือลูกโลกไว้แนบพระหทัยด้วยพระหัตถ์ซ้าย แล้วทรงประทับนั่งลงข้างข้าพเจ้า
ข้าพเจ้ากล่าวได้เพียงเล็กน้อยถึงการเสด็จมา สภาพที่พระองค์ทรงโปรดให้ปรากฎ และความรักของพระองค์ ความโง่เขลาทำให้ข้าพเจ้าไม่อาจสรรหาคำพูดมาบรรยายสิ่งที่พระองค์ทรงเผยแสดงต่อข้าพเจ้าได้
ข้าพเจ้าหมอบฟุบหน้ากับพื้น จมอยู่ในความเปล่าของตนเอง ข้าพเจ้าสวดบทสรรเสริญของพระนางมารีอา (Magnificat) หลังจากนั้น พระบิดาทรงให้ข้าพเจ้านั่งใกล้พระองค์ และบันทึกสิ่งที่พระองค์ประสงค์จะกล่าวกับมนุษย์
ข้าราชบริพารสวรรค์ซึ่งตามเสด็จพระองค์อันตรธานไป เหลือเพียงพระบิดาอยู่กับข้าพเจ้า และก่อนจะทรงประทับนั่ง พระองค์ตรัสว่า :
" เราได้บอกลูกแล้ว และขอย้ำอีกว่า เราไม่อาจยอมให้พระบุตรสุดที่รักของเรา พิสูจน์ความรักที่เรามีต่อมนุษย์อีกครั้งหนึ่งได้! บัดนี้ เรามาท่ามกลางพวกเขาเพื่อที่จะรักเขา และทำให้เขารู้จักความรักนี้ ด้วยการสวมใส่ทั้งภาพลักษณ์ และความยากไร้ของพวกเขา บัดนี้ เราได้ถอดมงกุฏของเราพร้อมกับสิริรุ่งโรจน์ของเรา เพื่อสวมสภาพมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง "
หลังจากทรงแสดงพระองค์เยี่ยงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งโดยทรงวางมงกุฏ และพระสิริรุ่งโรจน์ไว้แทบพระบาทของพระองค์แล้ว พระองค์ทรงถือลูกโลกไว้แนบพระหทัยด้วยพระหัตถ์ซ้าย แล้วทรงประทับนั่งลงข้างข้าพเจ้า
ข้าพเจ้ากล่าวได้เพียงเล็กน้อยถึงการเสด็จมา สภาพที่พระองค์ทรงโปรดให้ปรากฎ และความรักของพระองค์ ความโง่เขลาทำให้ข้าพเจ้าไม่อาจสรรหาคำพูดมาบรรยายสิ่งที่พระองค์ทรงเผยแสดงต่อข้าพเจ้าได้
พระองค์ตรัสว่า :
" สันติสุข และความรอดจงมีแด่บ้านหลังนี้ และทั่วทั้งโลก ขอให้ฤทธานุภาพของเรา ความรักของเรา และพระจิตของเราจงสัมผัสดวงใจมนุษย์ เพื่อมนุษยชาติจะได้หันกลับมาสู่ความรอดและมาหาพระบิดาของพวกเขา ผู้แสวงหาพวกเขา เพื่อจะรัก และช่วยพวกเขาให้รอด
ขอให้ผู้แทนของเราคือ ปีโอที่ 11 จงเข้าใจว่า นี่คือวันเวลาแห่งความรอด และพระพรพิเศษ ขอให้เขาอย่าพลาดโอกาสนี้ที่จะเรียกลูกทั้งหลายให้หันไปหาพระบิดาของเขา ผู้กำลังมาหาพวกเขาในชีวิตนี้ เพื่อช่วยเขา และจัดเตรียมความสุขนิรันดร์ไว้ให้เขา
เราเลือกวันนี้เพื่อเริ่มต้นงานของเราท่ามกลางมนุษย์ เพราะวันนี้เป็นวันฉลองพระโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู พระบุตรของเรา เราตั้งใจจะชุบงานที่เรากำลังเริ่มต้นในพระโลหิตนี้ เพื่อให้เกิดผลอย่างอุดม บริบูรณ์ท่ามกลางมนุษยชาติ "
" สันติสุข และความรอดจงมีแด่บ้านหลังนี้ และทั่วทั้งโลก ขอให้ฤทธานุภาพของเรา ความรักของเรา และพระจิตของเราจงสัมผัสดวงใจมนุษย์ เพื่อมนุษยชาติจะได้หันกลับมาสู่ความรอดและมาหาพระบิดาของพวกเขา ผู้แสวงหาพวกเขา เพื่อจะรัก และช่วยพวกเขาให้รอด
ขอให้ผู้แทนของเราคือ ปีโอที่ 11 จงเข้าใจว่า นี่คือวันเวลาแห่งความรอด และพระพรพิเศษ ขอให้เขาอย่าพลาดโอกาสนี้ที่จะเรียกลูกทั้งหลายให้หันไปหาพระบิดาของเขา ผู้กำลังมาหาพวกเขาในชีวิตนี้ เพื่อช่วยเขา และจัดเตรียมความสุขนิรันดร์ไว้ให้เขา
เราเลือกวันนี้เพื่อเริ่มต้นงานของเราท่ามกลางมนุษย์ เพราะวันนี้เป็นวันฉลองพระโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู พระบุตรของเรา เราตั้งใจจะชุบงานที่เรากำลังเริ่มต้นในพระโลหิตนี้ เพื่อให้เกิดผลอย่างอุดม บริบูรณ์ท่ามกลางมนุษยชาติ "
" นี่คือจุดประสงค์แท้จริงของการมาเยือนของเรา :
1. เรามาเพื่อกำจัดความกลัวเกินขนาดที่สิ่งสร้างของเรามีต่อเราและเพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นว่าความปิติยินดีของเราคือการที่ลูกๆ ของเรารู้จัก และรักเรา ลูกๆซึ่งหมายถึงมนุษยชาติทั้งในปัจจุบัน และอนาคต
2. เรามาเพื่อนำความหวังมาสู่มนุษย์ และชนชาติทั้งหลาย ซึ่งพวกเขาได้สูญเสียไปเป็นเวลานานแล้ว ความหวังนี้จะทำให้พวกเขาดำรงอยู่ในสันติสุข และความมั่นคงปลอดภัย เพื่อความรอดของเขา
3. เรามาเพื่อแสดงตัวของเราให้เป็นที่รู้จักอย่างที่เราเป็นอยู่จริง เพื่อว่ามนุษย์จะเพิ่มพูนความวางใจ และความรักในตัวเรา ผู้เป็นพระบิดาของพวกเขา ความห่วงใยเพียงประการเดียวของเราคือ การเฝ้าปกป้องมวลมนุษย์ และรักเขาเยี่ยงบุตร
จิตรกรย่อมชื่นชอบที่จะเพ่งพิศภาพวาดจากฝีมือของตน ในทำนองเดียวกัน เราก็ยินดี และชื่นชอบที่จะมาอยู่ท่ามกลางมวลมนุษย์ ซึ่งเป็นผลงานสร้างสรรค์
ชิ้นเอกของเรา
เวลามีน้อย เราปรารถนาให้มนุษย์รู้โดยเร็วที่สุดว่า เรารักพวกเขา และเรามีความสุขมากที่สุดเมื่อเราอยู่ท่ามกลางพวกเขา และพูดคุยกับเขาเหมือนบิดาพูดกับลูกๆ ของตน "
1. เรามาเพื่อกำจัดความกลัวเกินขนาดที่สิ่งสร้างของเรามีต่อเราและเพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นว่าความปิติยินดีของเราคือการที่ลูกๆ ของเรารู้จัก และรักเรา ลูกๆซึ่งหมายถึงมนุษยชาติทั้งในปัจจุบัน และอนาคต
2. เรามาเพื่อนำความหวังมาสู่มนุษย์ และชนชาติทั้งหลาย ซึ่งพวกเขาได้สูญเสียไปเป็นเวลานานแล้ว ความหวังนี้จะทำให้พวกเขาดำรงอยู่ในสันติสุข และความมั่นคงปลอดภัย เพื่อความรอดของเขา
3. เรามาเพื่อแสดงตัวของเราให้เป็นที่รู้จักอย่างที่เราเป็นอยู่จริง เพื่อว่ามนุษย์จะเพิ่มพูนความวางใจ และความรักในตัวเรา ผู้เป็นพระบิดาของพวกเขา ความห่วงใยเพียงประการเดียวของเราคือ การเฝ้าปกป้องมวลมนุษย์ และรักเขาเยี่ยงบุตร
จิตรกรย่อมชื่นชอบที่จะเพ่งพิศภาพวาดจากฝีมือของตน ในทำนองเดียวกัน เราก็ยินดี และชื่นชอบที่จะมาอยู่ท่ามกลางมวลมนุษย์ ซึ่งเป็นผลงานสร้างสรรค์
ชิ้นเอกของเรา
เวลามีน้อย เราปรารถนาให้มนุษย์รู้โดยเร็วที่สุดว่า เรารักพวกเขา และเรามีความสุขมากที่สุดเมื่อเราอยู่ท่ามกลางพวกเขา และพูดคุยกับเขาเหมือนบิดาพูดกับลูกๆ ของตน "
" เราคือผู้เป็นนิรันดร์ และเมื่อครั้งที่เราดำรงอยู่แต่เพียงผู้เดียวนั้น เราก็ได้คิดแล้วถึงการใช้พลานุภาพของเราสร้างสรรค์สิ่งมีชีวิตให้เหมือนกับเรา แต่สิ่งสร้างทางวัตถุจำต้องเกิดขึ้นก่อน เพื่อสิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะดำรงชีพอยู่ได้ เราจึงสร้างโลกขึ้นเมื่อนั้น เราแต่งเติมโลกด้วยสิ่งทั้งปวงที่เรารู้ว่าจำเป็นสำหรับมนุษย์ ทั้งอากาศ ดวงอาทิตย์ และฝน และสิ่งอื่นอีกมากมายที่เรารู้ว่าจำเป็นต่อชีวิตพวกเขา
ท้ายที่สุด มนุษย์ก็ถูกสร้างขึ้น! เราพอใจในผลงานของเรา มนุษย์ได้ทำบาป แต่เมื่อนั้นเองที่ความกรุณาอันไร้ขีดจำกัดของเราได้แสดงออกให้ปรากฏ
ในพันธสัญญาเดิม เราได้สร้าง และคัดเลือกประกาศกให้มีชีวิตอยู่ท่ามกลางมวลมนุษย์ เราบอกพวกเขาถึงความปรารถนาของเรา ความโศกเศร้า และความยินดีของเรา เพื่อให้เขาถ่ายทอดต่อไปให้ทุกคนได้รู้
ยิ่งความชั่วทวีขึ้น ความดีของเราก็ยิ่งกระตุ้นให้เราติดต่อกับวิญญาณที่มีคุณธรรม เพื่อให้พวกเขาถ่ายทอดคำสั่งของเราไปยังบรรดาคนที่กำลังสร้างความปั่นป่วน ดังนั้นบางครั้งเราจึงจำเป็นต้องเข้มงวดเพื่อจะปรามพวกเขา มิใช่เพื่อลงโทษ- ซึ่งรังแต่จะทำอันตราย - แต่เพื่อดึงพวกเขาให้ออกห่างจากอบายมุข และนำพวกเขาไปหาพระบิดา และพระผู้สร้างของพวกเขา ที่พวกเขาทั้งลืม และทอดทิ้งด้วยความอกตัญญู ต่อมาภายหลัง ความชั่วได้ท่วมท้นดวงใจมนุษย์ จนเราจำเป็นต้องส่งภัยพิบัติลงมายังโลก เพื่อชำระพวกเขาให้บริสุทธิ์ผ่านทางความทุกข์ยาก การทำลายล้างทรัพย์สมบัติของพวกเขา หรือแม้กระทั่งความตาย สิ่งเหล่านี้คือน้ำท่วมมหาวินาศ การทำลายล้างเมืองโซดอม และกอมเมอราห์ สงครามระหว่างมนุษย์ และอื่นๆ "
ท้ายที่สุด มนุษย์ก็ถูกสร้างขึ้น! เราพอใจในผลงานของเรา มนุษย์ได้ทำบาป แต่เมื่อนั้นเองที่ความกรุณาอันไร้ขีดจำกัดของเราได้แสดงออกให้ปรากฏ
ในพันธสัญญาเดิม เราได้สร้าง และคัดเลือกประกาศกให้มีชีวิตอยู่ท่ามกลางมวลมนุษย์ เราบอกพวกเขาถึงความปรารถนาของเรา ความโศกเศร้า และความยินดีของเรา เพื่อให้เขาถ่ายทอดต่อไปให้ทุกคนได้รู้
ยิ่งความชั่วทวีขึ้น ความดีของเราก็ยิ่งกระตุ้นให้เราติดต่อกับวิญญาณที่มีคุณธรรม เพื่อให้พวกเขาถ่ายทอดคำสั่งของเราไปยังบรรดาคนที่กำลังสร้างความปั่นป่วน ดังนั้นบางครั้งเราจึงจำเป็นต้องเข้มงวดเพื่อจะปรามพวกเขา มิใช่เพื่อลงโทษ- ซึ่งรังแต่จะทำอันตราย - แต่เพื่อดึงพวกเขาให้ออกห่างจากอบายมุข และนำพวกเขาไปหาพระบิดา และพระผู้สร้างของพวกเขา ที่พวกเขาทั้งลืม และทอดทิ้งด้วยความอกตัญญู ต่อมาภายหลัง ความชั่วได้ท่วมท้นดวงใจมนุษย์ จนเราจำเป็นต้องส่งภัยพิบัติลงมายังโลก เพื่อชำระพวกเขาให้บริสุทธิ์ผ่านทางความทุกข์ยาก การทำลายล้างทรัพย์สมบัติของพวกเขา หรือแม้กระทั่งความตาย สิ่งเหล่านี้คือน้ำท่วมมหาวินาศ การทำลายล้างเมืองโซดอม และกอมเมอราห์ สงครามระหว่างมนุษย์ และอื่นๆ "
" เราปรารถนาเสมอที่จะอยู่ในโลกนี้ท่ามกลางมนุษย์ ดังนั้นระหว่างน้ำท่วมมหาวินาศ เราจึงอยู่ใกล้ชิดกับโนอาห์ ซึ่งเป็นบุคคลเดียวที่มีคุณธรรมในเวลานั้น ในระหว่างภัยพิบัติครั้งอื่นๆ ก็เช่นกัน เราจะเลือกคนดีสักคนหนึ่งเสมอ ที่เราจะอยู่ด้วยได้ และอาศัยคนผู้นี้ เราได้ดำรงอยู่ท่ามกลางมนุษย์ในเวลานั้นๆ และเหตุการณ์ก็เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด
โลกถูกชำระล้างบ่อยครั้งให้พ้นจากความชั่วร้าย ก็เพราะความดีอันไร้ขอบเขตที่เรามีต่อมนุษยชาติ เรายังคงเลือกวิญญาณบางดวงที่เราพอใจ เพราะอาศัยคนเหล่านี้ เราสามารถมีความสุขร่วมกับสิ่งสร้างของเราคือมนุษย์ได้
เราสัญญากับโลกว่าจะส่งพระเมสซีอาห์มาให้ เราได้กระทำทุกสิ่งที่ทำได้เพื่อจัดเตรียมการเสด็จมาของพระองค์ แสดงตัวของเราในภาพต่างๆ ซึ่งใช้แทนตัวพระองค์ เป็นเวลานับพันปีก่อนการเสด็จมาของพระองค์
พระเมสซีอาห์ นี้ คือ ใคร? พระองค์มาจากที่ใด? พระองค์จะทำสิ่งใดบนโลก?
พระองค์เป็นตัวแทนของใคร?
พระเมสซีอาห์ คือ พระเป็นเจ้า
พระเป็นเจ้า คือ ใคร? พระองค์ คือ พระบิดา พระบุตร และพระจิต
พระองค์มาจากที่ใด? หรือใครส่งให้พระองค์ลงมาท่ามกลางมนุษย์? เป็นเราเอง พระบิดาของพระองค์ ผู้เป็นพระเป็นเจ้า
พระองค์เป็นตัวแทนของผู้ใด? พระบิดาของพระองค์ คือพระเป็นเจ้า
พระองค์จะทรงทำสิ่งอะไรบนโลก? พระองค์จะทรงทำให้พระบิดา ผู้เป็นพระเป็นเจ้า ทรงเป็นที่รู้จัก และได้รับความรัก "
โลกถูกชำระล้างบ่อยครั้งให้พ้นจากความชั่วร้าย ก็เพราะความดีอันไร้ขอบเขตที่เรามีต่อมนุษยชาติ เรายังคงเลือกวิญญาณบางดวงที่เราพอใจ เพราะอาศัยคนเหล่านี้ เราสามารถมีความสุขร่วมกับสิ่งสร้างของเราคือมนุษย์ได้
เราสัญญากับโลกว่าจะส่งพระเมสซีอาห์มาให้ เราได้กระทำทุกสิ่งที่ทำได้เพื่อจัดเตรียมการเสด็จมาของพระองค์ แสดงตัวของเราในภาพต่างๆ ซึ่งใช้แทนตัวพระองค์ เป็นเวลานับพันปีก่อนการเสด็จมาของพระองค์
พระเมสซีอาห์ นี้ คือ ใคร? พระองค์มาจากที่ใด? พระองค์จะทำสิ่งใดบนโลก?
พระองค์เป็นตัวแทนของใคร?
พระเมสซีอาห์ คือ พระเป็นเจ้า
พระเป็นเจ้า คือ ใคร? พระองค์ คือ พระบิดา พระบุตร และพระจิต
พระองค์มาจากที่ใด? หรือใครส่งให้พระองค์ลงมาท่ามกลางมนุษย์? เป็นเราเอง พระบิดาของพระองค์ ผู้เป็นพระเป็นเจ้า
พระองค์เป็นตัวแทนของผู้ใด? พระบิดาของพระองค์ คือพระเป็นเจ้า
พระองค์จะทรงทำสิ่งอะไรบนโลก? พระองค์จะทรงทำให้พระบิดา ผู้เป็นพระเป็นเจ้า ทรงเป็นที่รู้จัก และได้รับความรัก "
*thx
-
Batholomew
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ผมว่าใครอยากอ่านก็ให้ติดต่อพี่ Holy สิครับ
-
Buddy.
K. Holy,
Could you please post the picture of the Father? I mean the one like on the cover of the book na ka ... but I want just the picture, not the whole thing... Is it possible? Thanks ka..
P' New Lamb,
I just found that there is none of this book available here too!! And people here seem never heard of this book. They are so interested in the book... I'll print out from the internet for them first.. and try to look from on-line bookstore... By the way, here's the link for your son to read ka..
http://www.circleofprayer.com/the-fathe ... sage1.html
Could you please post the picture of the Father? I mean the one like on the cover of the book na ka ... but I want just the picture, not the whole thing... Is it possible? Thanks ka..
P' New Lamb,
I just found that there is none of this book available here too!! And people here seem never heard of this book. They are so interested in the book... I'll print out from the internet for them first.. and try to look from on-line bookstore... By the way, here's the link for your son to read ka..
http://www.circleofprayer.com/the-fathe ... sage1.html
ขอบคุณค่ะคุณ Buddyลูกพี่ฝากขอบคุณค่ะ :-* หนังสือเล่มนี้หายากค่ะพี่เคยถามคนที่นี่แต่ไม่มีใครรู้จักพี่ชอบรูปหน้าปกค่ะ และสิ่งนีงที่พี่ประหลาดใจมากคือคนอเมริกันส่วนแทบจะสวดสายประคำพระเมตตาไม่เป็น และให้ความสำคัญต่อภาพพระเมตตาน้อยมาก พี่ไม่รู้นะว่ารัฐอื่นเป็นเหมือนที่ฟลอริดาหรือเปล่า
-
Buddy.
P' New Lamb,
At my parish, they know the picture of divine mercy ka.. and they can pray chaplet of divine mercy as well as the rosary.. But rosary is more popular... :)
K. Holy,
Thanks ka... :)
At my parish, they know the picture of divine mercy ka.. and they can pray chaplet of divine mercy as well as the rosary.. But rosary is more popular... :)
K. Holy,
Thanks ka... :)
ผมเจอหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อ "พระวาจาจากพระเจ้า" มาสเตอร์ ชนะ ธนะสมบูรณ์เป็นคนแปล เป็นสาส์นจากพระบิดา และพระเยซูเจ้า ที่ทรงผ่านมาทางเด็กหนุ่มคนหนึ่งในออสเตรเลีย ชื่อ มัทธิว ผมอ่านดูแล้วดีมากเลย เพราะพระองค์ประทานคำตอบหลาย ๆ ประการที่ผมต้องการพอดีเลย ผมรู้สึกว่าสาส์นนี้มุ่งเน้นมาที่เยาวชนหนุ่ม ๆ สาว ๆ เป็นพิเศษ เอาไว้ผมจำคัดมาแบ่งปันนะครับ