2 หญิงเฮติรอดตายปาฏิหาริย์ ติดใต้ซากตึก 7วัน
2หญิงเฮติรอดตายปาฏิหาริย์ ติดใต้ซากตึก 7วัน สนามบินปอร์โตแปรงซ์ป่วน เครื่องบินขนเวชภัณฑ์ลงไม่ได้
หน่วยกู้ภัยช่วย 2 สาวเฮติรอดตาย ติดใต้ซากปรักหักพังนาน 7 วัน ขณะที่สนามบินปอร์โตแปรงซ์ป่วน เครื่องบินขนเวชภัณฑ์ไม่ได้รับอนุญาตให้ลงจอด ทำคนไข้ตายไปอย่างน้อย 5 คน เพราะขาดเครื่องมือรักษา
ปฏิบัติการช่วยเหลือชาวเฮติที่ประสบภัยแผ่นดินไหวยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา มีรายงานพบผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของเฮติ ถึง 2 ราย รายแรกเป็นหญิงสูงวัย อายุ 69 ปี ที่ติดอยู่ใต้ซากโบสถ์โรมันคาธอลิคแห่งหนึ่ง ส่วนอีกรายเป็นหญิงวัย 26 ปี ที่ถูกช่วยออกมาจากศูนย์การค้าที่พังถล่มลงมา
หญิงวัย 69 ปีที่ได้รับการช่วยเหลืออกมา ชื่อนางเอนา ซีซี ที่เปิดเผยหลังได้รับการช่วยเหลือออกมาว่า วันแรกๆนางได้พูดคุยกับพระคริสต์ที่ติดอยู่ด้วยกัน ก่อนที่เสียงของฝ่ายชายจะหายไปในอีกไม่กี่วันต่อมา นางจึงใช้เวลาที่เหลือไปกับการสวดมนต์ และพูดคุยกับพระเจ้า ที่สุดแล้วเจ้าหน้าที่กู้ภัยเม็กซิโกก็สามารถนำนางออกมาได้อย่างปลอดภัย ในสภาพร่างกายขาดน้ำ สะโพกเคลื่อนและขาหัก โดยตอนที่ซีซีถูกดึงตัวออกจากซากปรักหักพังนั้น นางยังสามารถร้องเพลงได้ ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยฝรั่งเศสสามารถช่วยเหลือเด็กหญิงโลซามา ฮอตเตลีเน วัย 26 ปี ออกจากซากปรักหักพังของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง โดยโลซามาอยู่ในสภาพยิ้มแย้มหลังได้รับการช่วยเหลือ
ขณะที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) รายงานเมื่อวันที่ 20 มกราคมว่า จำนวนผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือจากทีมกู้ภัยนานาชาตินับตั้งแต่วันเกิดเหตุมีจำนวนทั้งสิ้น 121 คน ขณะที่ทางการเฮติแจ้งว่าจำนวนผู้เสียชีวิตเบื้องต้นอยู่ที่ 75,000 คน แต่เชื่อว่าอาจจะเพิ่มขึ้นถึง 200,000 คน
ข่าวระบุว่า จากการระดมกำลังเข้าไปช่วยเหลือเหยื่อแผ่นดินไหวในเฮติจากนานาประเทศ ส่งผลให้สนามบินเล็กๆในกรุงปอร์โตแปรงซ์มีการจราจรที่คับคั่ง โดยกลุ่มเมดีซินส์ ซานส์ ฟรอนเทียร์ส (เอ็มเอสเอฟ) ของแพทย์ไร้พรมแดนที่ก่อตั้งในประเทศฝรั่งเศส ระบุว่า เครื่องบินของเอ็มเอสเอฟที่บรรทุกเครื่องเวชภัณฑ์ไปช่วยเหลือเหยื่อแผ่นดินไหวในเฮติ ไม่ได้รับอนุญาตให้ลงจอดที่กรุงปอร์โตแปรงซ์ถึง 3 ครั้งนับตั้งแต่วันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ทั้งที่เครื่องบินดังกล่าว มีทั้งยา เครื่องมือผ่าตัดและเครื่องมือแพทย์ โดยนับตั้งแต่วันที่ 14 มกราคมเป็นต้นมา มีเครื่องบินของเอ็มเอสเอฟ 5 ลำที่ต้องเปลี่ยนจุดหมายปลายทางจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ไปลงที่สาธารณรัฐโดมินิกันที่อยู่ติดกันแทน แต่ในแถลงการณ์ไม่ได้แจ้งถึงเหตุผลที่เครื่องบินต้องบินกลับหรือใครเป็นผู้สั่งห้ามไม่ให้เครื่องบินลงจอด
ขณะที่มีรายงานจากผู้ประสานงานของเอ็มเอสเอฟในเฮติแจ้งว่า มีผู้ป่วยอย่างน้อย 5 คนที่โรงพยาบาลคอสคาลของเอ็มเอสเอฟที่ต้องเสียชีวิตเพราะขาดเครื่องมือแพทย์ที่มาพร้อมกับเครื่องบินเหล่านี้ ทั้งนี้ ความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลฝรั่งเศสและสหรัฐจากเหตุแผ่นดินไหวในเฮติเริ่มมีมากขึ้นหลังจากนายอแล็ง โฌยองเดต์ รัฐมนตรีฝ่ายพัฒนาของฝรั่งเศส ออกมาเรียกร้องให้ยูเอ็นชี้แจงถึงบทบาทของสหรัฐในเฮติว่า เป็นการเข้าไปช่วยเหลือหรือเข้าไปครอบครองเฮติ แต่นายนิโกลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้ออกมาคลี่คลายสถานการณ์ด้วยการกล่าวว่า สองประเทศจะร่วมมือกันช่วยเหลือประเทศเฮติที่ประสบภัยแผ่นดินไหวอย่างเต็มที่ โดยขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ของเอ็มเอสเอฟราว 700 คนที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือด้านการแพทย์แก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเฮติ
ด้านกองทัพสหรัฐซึ่งทำหน้าที่ควบคุมสนามบินปอร์โตแปรงซ์นับตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหวชี้แจงว่า ได้ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้วเพื่อให้เครื่องบินทุกลำได้ลงจอดที่สนามบินที่หอควบคุมถูกทำลายไปจากเหตุแผ่นดินไหว แต่รันเวย์ของสนามบินสามารถรองรับเครื่องบินได้ 100 ลำต่อวันเท่านั้น ส่งผลให้สนามบินเล็กๆแห่งนี้ ไม่สามารถรองรับเครื่องบินได้ทุกลำ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1263990597&grpid=01&catid=
หน่วยกู้ภัยช่วย 2 สาวเฮติรอดตาย ติดใต้ซากปรักหักพังนาน 7 วัน ขณะที่สนามบินปอร์โตแปรงซ์ป่วน เครื่องบินขนเวชภัณฑ์ไม่ได้รับอนุญาตให้ลงจอด ทำคนไข้ตายไปอย่างน้อย 5 คน เพราะขาดเครื่องมือรักษา
ปฏิบัติการช่วยเหลือชาวเฮติที่ประสบภัยแผ่นดินไหวยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา มีรายงานพบผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของเฮติ ถึง 2 ราย รายแรกเป็นหญิงสูงวัย อายุ 69 ปี ที่ติดอยู่ใต้ซากโบสถ์โรมันคาธอลิคแห่งหนึ่ง ส่วนอีกรายเป็นหญิงวัย 26 ปี ที่ถูกช่วยออกมาจากศูนย์การค้าที่พังถล่มลงมา
หญิงวัย 69 ปีที่ได้รับการช่วยเหลืออกมา ชื่อนางเอนา ซีซี ที่เปิดเผยหลังได้รับการช่วยเหลือออกมาว่า วันแรกๆนางได้พูดคุยกับพระคริสต์ที่ติดอยู่ด้วยกัน ก่อนที่เสียงของฝ่ายชายจะหายไปในอีกไม่กี่วันต่อมา นางจึงใช้เวลาที่เหลือไปกับการสวดมนต์ และพูดคุยกับพระเจ้า ที่สุดแล้วเจ้าหน้าที่กู้ภัยเม็กซิโกก็สามารถนำนางออกมาได้อย่างปลอดภัย ในสภาพร่างกายขาดน้ำ สะโพกเคลื่อนและขาหัก โดยตอนที่ซีซีถูกดึงตัวออกจากซากปรักหักพังนั้น นางยังสามารถร้องเพลงได้ ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยฝรั่งเศสสามารถช่วยเหลือเด็กหญิงโลซามา ฮอตเตลีเน วัย 26 ปี ออกจากซากปรักหักพังของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง โดยโลซามาอยู่ในสภาพยิ้มแย้มหลังได้รับการช่วยเหลือ
ขณะที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) รายงานเมื่อวันที่ 20 มกราคมว่า จำนวนผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือจากทีมกู้ภัยนานาชาตินับตั้งแต่วันเกิดเหตุมีจำนวนทั้งสิ้น 121 คน ขณะที่ทางการเฮติแจ้งว่าจำนวนผู้เสียชีวิตเบื้องต้นอยู่ที่ 75,000 คน แต่เชื่อว่าอาจจะเพิ่มขึ้นถึง 200,000 คน
ข่าวระบุว่า จากการระดมกำลังเข้าไปช่วยเหลือเหยื่อแผ่นดินไหวในเฮติจากนานาประเทศ ส่งผลให้สนามบินเล็กๆในกรุงปอร์โตแปรงซ์มีการจราจรที่คับคั่ง โดยกลุ่มเมดีซินส์ ซานส์ ฟรอนเทียร์ส (เอ็มเอสเอฟ) ของแพทย์ไร้พรมแดนที่ก่อตั้งในประเทศฝรั่งเศส ระบุว่า เครื่องบินของเอ็มเอสเอฟที่บรรทุกเครื่องเวชภัณฑ์ไปช่วยเหลือเหยื่อแผ่นดินไหวในเฮติ ไม่ได้รับอนุญาตให้ลงจอดที่กรุงปอร์โตแปรงซ์ถึง 3 ครั้งนับตั้งแต่วันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ทั้งที่เครื่องบินดังกล่าว มีทั้งยา เครื่องมือผ่าตัดและเครื่องมือแพทย์ โดยนับตั้งแต่วันที่ 14 มกราคมเป็นต้นมา มีเครื่องบินของเอ็มเอสเอฟ 5 ลำที่ต้องเปลี่ยนจุดหมายปลายทางจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ไปลงที่สาธารณรัฐโดมินิกันที่อยู่ติดกันแทน แต่ในแถลงการณ์ไม่ได้แจ้งถึงเหตุผลที่เครื่องบินต้องบินกลับหรือใครเป็นผู้สั่งห้ามไม่ให้เครื่องบินลงจอด
ขณะที่มีรายงานจากผู้ประสานงานของเอ็มเอสเอฟในเฮติแจ้งว่า มีผู้ป่วยอย่างน้อย 5 คนที่โรงพยาบาลคอสคาลของเอ็มเอสเอฟที่ต้องเสียชีวิตเพราะขาดเครื่องมือแพทย์ที่มาพร้อมกับเครื่องบินเหล่านี้ ทั้งนี้ ความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลฝรั่งเศสและสหรัฐจากเหตุแผ่นดินไหวในเฮติเริ่มมีมากขึ้นหลังจากนายอแล็ง โฌยองเดต์ รัฐมนตรีฝ่ายพัฒนาของฝรั่งเศส ออกมาเรียกร้องให้ยูเอ็นชี้แจงถึงบทบาทของสหรัฐในเฮติว่า เป็นการเข้าไปช่วยเหลือหรือเข้าไปครอบครองเฮติ แต่นายนิโกลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้ออกมาคลี่คลายสถานการณ์ด้วยการกล่าวว่า สองประเทศจะร่วมมือกันช่วยเหลือประเทศเฮติที่ประสบภัยแผ่นดินไหวอย่างเต็มที่ โดยขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ของเอ็มเอสเอฟราว 700 คนที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือด้านการแพทย์แก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเฮติ
ด้านกองทัพสหรัฐซึ่งทำหน้าที่ควบคุมสนามบินปอร์โตแปรงซ์นับตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหวชี้แจงว่า ได้ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้วเพื่อให้เครื่องบินทุกลำได้ลงจอดที่สนามบินที่หอควบคุมถูกทำลายไปจากเหตุแผ่นดินไหว แต่รันเวย์ของสนามบินสามารถรองรับเครื่องบินได้ 100 ลำต่อวันเท่านั้น ส่งผลให้สนามบินเล็กๆแห่งนี้ ไม่สามารถรองรับเครื่องบินได้ทุกลำ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1263990597&grpid=01&catid=
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ขอบพระคุณพระเจ้า
-
- โพสต์: 201
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 28, 2007 9:10 am
ขอคุณพระเจ้าที่ทรงโปรดช่วย
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
ขอบคุณพระเจ้าที่เมตตาช่วยชีวิตน้อย ๆ ถึงสองชีวิตด้วยกัน
-
- โพสต์: 740
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 11:36 pm
สรรเสริญ พระนามพระเจ้ายิ่งใหญ่
-
- โพสต์: 605
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 05, 2009 3:19 pm
- ที่อยู่: พเนจร
- ติดต่อ:
น่ายินดี
ขอบคุณพระองค์
และขอเสียใจกับผู้ที่ไม่รอด
ขอบคุณพระองค์
และขอเสียใจกับผู้ที่ไม่รอด
- antoinetty*
- โพสต์: 451
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 04, 2007 9:39 pm
เพิ่มเติมครับ
กรมสารสนเทศ กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งว่า มีคนไทยอยู่ในเฮติ 4 คน และทุกคนปลอดภัยดี
ในจำนวนนี้ มีซิสเตอร์คณะคามิลเลียนหญิง 2 ท่าน ได้แก่ ซิสเตอร์ฉวีวรรณ อินทะเสน และซิสเตอร์ทิพยวัลย์ เภาลิ้ม
ทั้งสองอยู่ในวัยประมาณ 40 ปี และ ได้สมัครใจไปทำงานเป็นธรรมทูตอยู่ที่เฮติหลายปีแล้ว เพื่อช่วยเหลืองานของพระสงฆ์คณะคามิลเลียน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานดูแลอภิบาลผู้ป่วยเอดส์
ซิสเตอร์ทั้งสองได้ปฏิเสธที่จะขอเดินทางกลับเมืองไทย แต่ต้องการอยู่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่นั่นต่อ
(จากเว็บของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯครับ)
กรมสารสนเทศ กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งว่า มีคนไทยอยู่ในเฮติ 4 คน และทุกคนปลอดภัยดี
ในจำนวนนี้ มีซิสเตอร์คณะคามิลเลียนหญิง 2 ท่าน ได้แก่ ซิสเตอร์ฉวีวรรณ อินทะเสน และซิสเตอร์ทิพยวัลย์ เภาลิ้ม
ทั้งสองอยู่ในวัยประมาณ 40 ปี และ ได้สมัครใจไปทำงานเป็นธรรมทูตอยู่ที่เฮติหลายปีแล้ว เพื่อช่วยเหลืองานของพระสงฆ์คณะคามิลเลียน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานดูแลอภิบาลผู้ป่วยเอดส์
ซิสเตอร์ทั้งสองได้ปฏิเสธที่จะขอเดินทางกลับเมืองไทย แต่ต้องการอยู่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่นั่นต่อ
(จากเว็บของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯครับ)
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
ประทับใจมากครับ (ผมกำลังลุ้นว่า ซิสเตอร์จะไม่กลับมา)antoinetty* เขียน: เพิ่มเติมครับ
กรมสารสนเทศ กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งว่า มีคนไทยอยู่ในเฮติ 4 คน และทุกคนปลอดภัยดี
ในจำนวนนี้ มีซิสเตอร์คณะคามิลเลียนหญิง 2 ท่าน ได้แก่ ซิสเตอร์ฉวีวรรณ อินทะเสน และซิสเตอร์ทิพยวัลย์ เภาลิ้ม
ทั้งสองอยู่ในวัยประมาณ 40 ปี และ ได้สมัครใจไปทำงานเป็นธรรมทูตอยู่ที่เฮติหลายปีแล้ว เพื่อช่วยเหลืองานของพระสงฆ์คณะคามิลเลียน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานดูแลอภิบาลผู้ป่วยเอดส์
ซิสเตอร์ทั้งสองได้ปฏิเสธที่จะขอเดินทางกลับเมืองไทย แต่ต้องการอยู่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่นั่นต่อ
(จากเว็บของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯครับ)
ขอพระเจ้าสถิตและอวยพรซิสเตอร์ ทั้งสอง ครับ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ขอบคุณพระเจ้า นี่คือการอัศจรรย์ ต่อชีวิตของผู้รอด
ดูข่าวเห็นคนนั่งสวดสายประคำแล้วพลอยน้ำตาซึมไปด้วย
ฟังข่าววันก่อน เขาบอกแต่ว่ามีแม่ชีไทย 2 คน เจี๊ยบก็คิดๆว่า
เป็นแม่ชีพุทธ หรือคริสต์นะ แต่ก็เดาว่าน่าจะเป็นแม่ชีคริสต์ เพราะที่นั่นมีคริสตังเยอะ
ดูข่าวเห็นคนนั่งสวดสายประคำแล้วพลอยน้ำตาซึมไปด้วย
ฟังข่าววันก่อน เขาบอกแต่ว่ามีแม่ชีไทย 2 คน เจี๊ยบก็คิดๆว่า
เป็นแม่ชีพุทธ หรือคริสต์นะ แต่ก็เดาว่าน่าจะเป็นแม่ชีคริสต์ เพราะที่นั่นมีคริสตังเยอะ
-
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm
ขอบคุณพระเจ้าครับ ของคนพุทธก็มีคนบอกว่า"เสด็จเตี่ย"ช่วย
-
- โพสต์: 519
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 27, 2009 10:09 pm
มันเปนความเชื่อส่วนบุคคลครับHoly Bible เขียน: ขอบคุณพระเจ้าครับ ของคนพุทธก็มีคนบอกว่า"เสด็จเตี่ย"ช่วย
ประทับใจมากๆเช่นกัน >< (ซึ้งจนน้ำตาไหล)Ministry Of Men เขียน:ประทับใจมากครับ (ผมกำลังลุ้นว่า ซิสเตอร์จะไม่กลับมา)antoinetty* เขียน: เพิ่มเติมครับ
กรมสารสนเทศ กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งว่า มีคนไทยอยู่ในเฮติ 4 คน และทุกคนปลอดภัยดี
ในจำนวนนี้ มีซิสเตอร์คณะคามิลเลียนหญิง 2 ท่าน ได้แก่ ซิสเตอร์ฉวีวรรณ อินทะเสน และซิสเตอร์ทิพยวัลย์ เภาลิ้ม
ทั้งสองอยู่ในวัยประมาณ 40 ปี และ ได้สมัครใจไปทำงานเป็นธรรมทูตอยู่ที่เฮติหลายปีแล้ว เพื่อช่วยเหลืองานของพระสงฆ์คณะคามิลเลียน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานดูแลอภิบาลผู้ป่วยเอดส์
ซิสเตอร์ทั้งสองได้ปฏิเสธที่จะขอเดินทางกลับเมืองไทย แต่ต้องการอยู่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่นั่นต่อ
(จากเว็บของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯครับ)
ขอพระเจ้าสถิตและอวยพรซิสเตอร์ ทั้งสอง ครับ
แล้วมีคนไทยที่นั่นเป็นอะไรบ้างไหม?ครับ
โอ้ว เป็นพระพรมากครับ ขอพระเจ้าอวยพรซิสเตอร์ทั้งสองท่านครับantoinetty* เขียน: เพิ่มเติมครับ
กรมสารสนเทศ กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งว่า มีคนไทยอยู่ในเฮติ 4 คน และทุกคนปลอดภัยดี
ในจำนวนนี้ มีซิสเตอร์คณะคามิลเลียนหญิง 2 ท่าน ได้แก่ ซิสเตอร์ฉวีวรรณ อินทะเสน และซิสเตอร์ทิพยวัลย์ เภาลิ้ม
ทั้งสองอยู่ในวัยประมาณ 40 ปี และ ได้สมัครใจไปทำงานเป็นธรรมทูตอยู่ที่เฮติหลายปีแล้ว เพื่อช่วยเหลืองานของพระสงฆ์คณะคามิลเลียน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานดูแลอภิบาลผู้ป่วยเอดส์
ซิสเตอร์ทั้งสองได้ปฏิเสธที่จะขอเดินทางกลับเมืองไทย แต่ต้องการอยู่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่นั่นต่อ
(จากเว็บของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯครับ)
- (⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙)
- โพสต์: 892
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 12:38 am
นางออกมาได้อย่างปลอดภัย ในสภาพร่างกายขาดน้ำ สะโพกเคลื่อนและขาหัก โดยตอนที่ซีซีถูกดึงตัวออกจากซากปรักหักพังนั้น นางยังสามารถร้องเพลงได้
โห อ่านแล้วอึ้งค่ะ ขอบคุณพระบิดาเจ้า อัลเลลูยา สรรเสริญพระเจ้า
โห อ่านแล้วอึ้งค่ะ ขอบคุณพระบิดาเจ้า อัลเลลูยา สรรเสริญพระเจ้า