ใครสั่งให้มาฆ่าโป๊ป?
จรุง ผาสุวรรณ เขียน
...
ในช่วงบ่ายของวันพุธที่ 13 พฤษภาคม 1983 ผู้คนนับหมื่นได้มาคอยชมบารมีขององค์สันตะปาปา จอหน์ ปอลที่ 2 ซึ่งมีเชื้อสายโปแลนด์กันเนืองแน่น ณ ปลาซ่า เซนต์ ปีเตอร์ ไปหมด จนทางการวาติกันต้องใช้รั้วเหล็กมาวางกั้นเป็นทาง สำหรับให้รถที่ท่านประทับมาสามารถวิ่งผ่านไปยังเวทีที่ท่านใช้สำหรับกล่าวคำปราศรัยกับประชาชนประจำสัปดาห์ได้
เวลา บ่าย 4 โมง โป๊ปได้ทรงเปลี่ยนฉลองพระองค์เป็นชุดสีขาวความจริงชุดนี้ วิลเลี่ยม โคซี่ หัวหน้าซีไอเอได้แนะนำให้ช่างประจำพระองค์ได้ทำพิเศษ สำหรับให้ท่านได้สวมเสื้อเกราะกันกระสุนไว้ภายในด้วย แต่พอถึงเวลาที่ท่านจะต้องใส่ ท่านกลับปฏิเสธที่จะใส่เสื้อเกราะ หัวหน้าซีไอเอได้เตือนท่านว่า
“ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้ แม้แต่โป๊ปก็ไม่ได้ยกเว้นที่จะไม่ถูกโจมตี เราได้รับข่าวที่ไม่มีการยืนยันมาว่าท่านกำลังอยู่ในอันตราย”
แต่โป๊ป จอหน์ ปอล ได้ปฏิเสธที่จะใส่มัน ท่านได้ลงมายังสนามหน้าอาคารซาน ดามาสโว ภายในพระราชวังอโพสโตลิคเมื่อเวลา 04.50 น.
หัวหน้ารักษาความปลอดภัยของวาติกัน คามิลโล ชีบิน ได้จดความเคลื่อนไหวแทบจะทุกฝีก้าวของโป๊ปลงในสมุดบันทึกของเขาในกระเป๋าของเขานั้นมีวิทยุ ที่พร้อมสำหรับติดต่อกับสำนักงานใหญ่ตำรวจของกรุงโรม ส่วนการรักษาความปลอดภัยส่วนตัวของโป๊ปนั้นขึ้นอยู่กับหน่วยไวจีรี ซึ่งแต่งกายด้วยสูทสีน้ำเงิน เป็นหน่วยเล็กๆที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีและอยู่ข้างหลังทหารการ์ดชาวสวิส ซึ่งแต่งกายแบบโบราณยืนรักษาการณ์อยู่ตามที่ต่างๆ ทั่วไปใน เซนต์ปีเตอร์ สแควร์
ประชาชนยิ่งมากขึ้น เมื่อใกล้เวลาที่โป๊ปจะออกมากล่าวสุนทรพจน์ ในขณะเดียวกันนั้นมีชายคนหนึ่งที่ไม่ต้องการจะเข้ามาชมบารมีหรือมาฟังสิ่งที่โป๊ปพูด เขามาเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่างที่ไม่มีใครรู้เขาเป็นหนุ่มชาวเตอร์ก ชื่อว่า เมห์ เมท อาลี อัคกา มาถึงจัตุรัสเมื่อเวลาเริ่มจะบ่าย และพยายามแทรกตัวเข้ามายืนอยู่ติดกับรั้วเหล็กที่กั้นเพื่อให้รถของโป๊ปผ่านได้สะดวกและรอเวลาสำคัญ
เวลา 05.00 น. รถของโป๊ปก็เคลื่อนออกจากสนามหญ้าหน้าอาคารซาน ดามาสโว ผู้คนส่งเสียงเชียร์ดังลั่นไปหมด องค์โป๊ปนั้นทรงยืนอยู่บนรถ พร้อมทั้งโบกพระหัตถ์ให้กับประชาชนด้วยความเมตตารอบๆ รถนั้นเต็มไปด้วยพระระดับสูงเมื่อรถเข้ามาถึง อาร์ค ออฟ เบลล์ ได้มีตำรวจของกรุงโรมออกมาร่วมขบวนกับพวกไวจีรีด้วย โดยกลุ่มหนึ่งเดินนำขบวน และอีกกลุ่มหนึ่งติดตามขบวนมาอย่างใกล้ชิด ด้วยความเร็ว 2 ไมล์ต่อชั่วโมง โป๊ปหันไปทางซ้ายละขวาพร้อมกับโบกพระหัตถ์กับพระชาชนครั้งหนึ่งโป๊ปได้เข้าไปจูบแก้มเด็กหญิงเล็กๆ คนหนึ่ง ซึ่งพระองค์มักจะปฏิบัติเสมอ แต่ก็ทำให้ ซีบินหัวหน้ารักษาความปลอดภัยถึงกับทำอะไรไม่ถูก
![รูปภาพ](http://i233.photobucket.com/albums/ee15/kjk76_93/baby.jpg)
เวลา05.18 น. ได้มีเสียงปืนนัดแรกดังขึ้น พระองค์ได้ทรงทรุดตัวลงขณะที่ปืนในมือของอัคกาได้แผดเสียงขึ้นอีก 2 นัด โลหิตสีแดงฉานไหลออกมาเปรอะชุดสีขาวที่พระองค์สวมอยู่ ซีบินได้เข้าประชิดตัวโป๊ป เพื่อจะเป็นโล่ป้องกันท่านไว้รถได้เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างเร่งรีบขึ้น คนร้ายวิ่งหนีหนีเข้าไปปะปนในฝูงชนที่กำลังแตกตื่น และสับสนอลหม่านไปหมด เสียงคนตะโกนว่า “โป๊ปถูกยิง!!” ดังขึ้น
![รูปภาพ](http://www.sofiaecho.com/shimg/zx500y290_495089.jpg)
ขณะที่อัคกากำลังหนีหัวซุกหัวซุนอยู่นั้นเขาได้ทิ้งปืน และสะดุดอะไรบางอย่างล้มลง แล้วในที่สุดเขาถูกตำรวจของกรุงโรมคนหนึ่งจับตัวไว้ได้ แม้จะพยายามนำพระองค์ท่านไปยังรถพยาบาลให้เร็วที่สุด แต่ความสับสนของคนจำนวนมากทำให้ไม่สามารถทำความเร็วได้เท่าที่ควร กว่าจะนำพระองค์ไปถึงโรงพยาบาลเยเมลลี ซึ่งอยู่ใกล้กรุงวาติกันได้ก็ทุลักทุเลพอสมควร
โดยการผ่าตัดนั้นกินระยะเวลากว่า 6ชั่วโมง และต้องพักฟื้นอีกหลายเดือน ทำให้ โป๊ป จอหน์ ปอล อยากรู้ว่าใครเป็นคนสั่งให้หนุ่มเตอร์กผู้นี้มาประทุษร้ายท่าน?
![รูปภาพ](http://www.chinadaily.com.cn/english/doc/2006-01/09/xin_23010309085022658792.jpg)
โป๊ปได้เรียกหาข้อมูลการสอบสวนจากตำรวจกรุงโรม รวมทั้งของซีไอเอ, BND ของเยอรมันตะวันตกและหน่วยรักษาความปลอดภัยของเตอร์กีและของออสเตรีย เนื่องจากมีกระดาษเป็นล้านหน้า จึงเป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะอ่านได้หมด และไม่มีเอกสารใดๆ ที่สามารถตอบคำถามของท่านที่ว่า ใครต้องการให้ท่านสิ้นพระชนม์ได้เลย เมห์เมท ลี อัคกา ได้ถูกฟ้องศาลของกรุงโรม และ ศาลได้ตัดสินจำคุกเขาไว้ตลอดชีวิตแต่ถ้าเขาประพฤติตัวดีก็อาจได้ลดหย่อนโทษลงมาออกมาพบอิสรภาพในปี 2009