หากพูดถึงโรงมหรสพหลวง ศาลาเฉลิมกรุง หรือ "เฉลิมกรุง" คงไม่มีใครในรุ่นพ่อของเราในพระนครที่จะ
ปฏิเสธว่าไม่รู้จัก เฉลิมกรุงเปิดฉายภาพยนตร์มาตั้งแต่พ.ศ.2476 (สมัยรัชกาลที่ 7) ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
พ.ศ. 2485-2488 (รัชกาลที่ 8) ได้ใช้เป็นที่แสดงละครและดนตรี เนื่องจากไม่มีภาพยนตร์ฉาย ต่อมาใน พ.ศ.
2536 ได้มีการปรับปรุงศาลาเฉลิมกรุงให้สามารถใช้ทั้งฉายภาพยนตร์และแสดงนาฎยศิลป์ จึงมีละครแสดงที่ศาลา
เฉลิมกรุงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ไฟล์:Bkk-Salachalermkrung-bythenight-0802.jpg
ในสมัยนั้นเป็นสถานที่ๆ หนุ่มสาวมักจะไปพบปะพูดคุย และเดทกันครั้งแรกนี่ที่จะว่าไปในสมัยนั้นเท่าที่ผมได้ฟังจากผู้ใหญ่เล่ามา เปรียบได้กับสยามในยุคนี้เลยทีเดียว เราจะพาคุณย้อนไปสู่ความทรงจำอันสุดแสนโรแมนติกของผู้คนในยุคก่อนกัน
ประวัติ
ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ภาพยนตร์เป็น มหรสพและ การสื่อสารมวลชนที่มีบทบาทสำคัญยิ่ง สามารถเทียบได้กับการโทรทัศน์ในปัจจุบัน โรงภาพยนตร์ในสยามสมัยรัชกาลที่ 7 นั้นมีประมาณ 20 โรง กระจายอยู่ทั่วเขตพระนครและธนบุรี จัดฉายภาพยนตร์นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งนั้นเป็นภาพยนตร์จากสหรัฐ หรือจาก ฮอลลีวู้ดนั่น เองโรงภาพยนตร์สยามในสมัยนั้น มักเป็นโรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก ลักษณะคล้ายอาคารโรงไม้ หลังคามุงสังกะสี ไม้มีโรงขนาดใหญ่และหรูหรา จนกระทั่ง พ.ศ. 2475 ปีแห่งมหามงคลสมัยเฉลิมฉลองพระนครมีอายุครบ 150 ปี พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้จัดสร้างโรงมหรสพขนาดใหญ่ขึ้น เนื่องด้วย พระองค์ทรงโปรดภาพยนตร์เป็นพิเศษ โรงภาพยนตร์แห่งใหม่ที่ทันสมัยและโอ่โถงหรูหรา ขนาดจุผู้ชมได้มากว่า 2,000 คน และนับเป็น โรงมหรสพ โรงแรกในเอเชียที่มีเครื่องปรับอากาศระบบไอน้ำ (Chilled Water System) ถูกสร้างขึ้นบริเวณหัวถนนเจริญกรุงตัดกับถนนตรีเพชร มีหม่อมเจ้าสมัยเฉลิม กฤดากร เป็นสถาปนิกออกแบบและควบคุมงานก่อสร้าง นายนารถ โพธิปราสาท เป็นวิศวกร ใช้สถาปัตยกรรมแบบเรียบง่าย ระหว่างตะวันตกผสมผสานกับไทย และได้รับพระราชทานนามว่า "ศาลาเฉลิมกรุง" เปิดฉายปฐมฤกษ์ครั้งแรกเมื่อ วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2476 ภาพยนตร์เรื่องแรกที่จัดฉาย คือ "เรื่องมหาภัยใต้ทะเล"
ปัจจุบัน ศาลาเฉลิมกรุงยังคงเปิดดำเนินการอยู่ ภายใต้การบริหารของบริษัท เฉลิมกรุงมณีทัศน์ จำกัด แต่มิได้ฉายภาพยนตร์เหมือนโรงภาพยนตร์ทั่วไปในยุคปัจจุบัน แต่ถูกยกระดับให้เป็นโรงมหรสพแห่งชาติ จัดฉายภาพยนตร์และเปิดการแสดงมหรสพสำคัญ ๆ ในโอกาสต่าง ๆ โดยเหตุการณ์สำคัญครั้งหนึ่งคือ การฉายรอบปฐมทัศน์โลกของภาพยนตร์เรื่อง สุริโยไท โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรภาพยนตร์ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2544
สังเกตได้ ว่าโรงภาพยนต์นี้มีประวัติความเป็นมาน่าสนใจและยาวนานไม่น้อยเลยทีเดียว ในยุคที่ไม่ถูกวัฒนธรรมต่างชาติดูดกลืนไปจนหมด ในยุคที่คนยังมีจิตสำนึกแห่งความดีงาม ไม่ถูกครอบงำด้วยสิ่งชั่วร้าย ในยุคที่ผู้คนฟังเพลง ลูกกรุง หรือเอสวิส เฉลิมกรุงนั้นไม่เพียงแต่เป็นโรงภาพยนต์เท่านั่น แต่มันยังเป็นทั้งสถานที่แห่งความทรงจำอันงดงาม รักแรกพบ ความผูกพันธ์แนบแน่นใกล้ชิดโดยไม่เลยเถิด เพียงแค่สองเราจับมือ รู้สึกถึงความรู้สึกซึ่งกันและกัน สัมผัสถึงไอรัก และความเข้าใจอย่างแท้จริง
สถานที่หนึ่งในหลายๆสถานที่ ที่สุดแสนจะโรแมนติกร่วมสมัยทั้งตะวันตกและำไทยได้อย่างกลม
กลืน
นั่นคือเฉลิมกรุงนี่เอง
ขออภัยที่ภาพไม่ขึ้นครับ ลองเข้าไปดูบล็อกที่ลิ้งเพิ่มได้ครับ
ขอบคุณข้อมูลจากบล็อก : http://teenthailand.exteen.com/