โบสถ์กลายเป็นห้างเทสโก้....ร้าว.... T-T
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ห้างเทสโก้ในอังกฤษ เปิดสาขาล่าสุดในโบสถ์เก่าแก่แห่งหนึ่ง ใกล้กับเมืองบอร์นเมาธ์
ภาพบุคคลในพระคัมภีร์ไบเบิลซึ่งวาดไว้บนกระจกสี ที่เคยทอดสายตามายังเหล่าศาสนิกชนผู้ศรัทธา กลับกลายเป็นการแลมองไปยังบรรดาผู้บริโภคที่เดินทอดน่องเลือกซื้อของกินของ ใช้
ผู้คนมีความเห็นแตกต่างกัน หลังได้ยินข่าวว่าโบสถ์เวสต์เบิร์นของนิกายเมธอดิสต์แห่งนี้ได้กลายเป็นซูเปอร์สโตร์ไปแล้ว
ชาวคริสต์ที่ไม่เห็นด้วยพากันอ้างอิงถึงข้อความในคัมภีร์ไบเบิลตอนที่บรรยายว่า พระเยซูต่อต้านวิหารของกษัตริย์เฮโรด "อย่าไปซื้อสินค้าในบ้านของพระบิดา" หลายคนว่าอย่างนั้น
โฆษกของห้างเทสโก้ปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่า ทางบริษัทมีแผนที่จะไล่ซื้อโบสถ์เก่าทั่วอังกฤษเอามาทำเป็นสาขาใหม่ ๆ หรือเปล่า
แต่ เขาบอกว่า ห้างเทสโก้สาขาเวสต์เบิร์นเป็นที่นิยมของลูกค้ามาก มีคนไปจับจ่ายข้าวของเครื่องใช้กันเยอะแยะ คณะกรรมการบริหารเมืองเบิร์นเมาธ์ได้ออกใบอนุญาตให้เปิดร้านได้ เป็นการ "เปลี่ยนแปลงลักษณะการใช้งาน" ของอาคารให้เป็นสถานที่ค้าปลีก
แซนดรา โจนส์ ผู้จัดการของหน่วยงานการกุศลด้านการสงเคราะห์คนชรา Help The Aged ซึ่งตั้งอยู่ใกล้โบสถ์แห่งนี้ บอกว่า โบสถ์ได้รับการทำความสะอาดจนดูสวยงาม แต่ก็ยังไม่ชอบใจอยู่ดีที่โบสถ์ได้กลายเป็นร้านค้า
บาทหลวง ดร.บ็อบ แม็กคินลีย์ ซึ่งเคยอยู่ที่โบสถ์ดังกล่าวได้ถูกปล่อยร้างมานาน 3 ปี บอกว่า ตัวเองก็รู้สึกเศร้าใจ
"เป็นเรื่องไม่เหมาะสมที่จะมีร้านเทสโก้เอ็กซเพรสผุดขึ้นมาในโบสถ์ แต่เมื่ออาคารได้ถูกขายไปแล้ว เราก็ทำอะไรไม่ได้"
แต่บรรดาร้านค้าย่อยในละแวกใกล้เคียงเห็นด้วย เพราะเชื่อว่าจะมีคนมาซื้อของในย่านนั้นมากขึ้น
(ไทยโพสต์)
..............................................................
ร้าว สะเทือนใจ
ภาพบุคคลในพระคัมภีร์ไบเบิลซึ่งวาดไว้บนกระจกสี ที่เคยทอดสายตามายังเหล่าศาสนิกชนผู้ศรัทธา กลับกลายเป็นการแลมองไปยังบรรดาผู้บริโภคที่เดินทอดน่องเลือกซื้อของกินของ ใช้
ผู้คนมีความเห็นแตกต่างกัน หลังได้ยินข่าวว่าโบสถ์เวสต์เบิร์นของนิกายเมธอดิสต์แห่งนี้ได้กลายเป็นซูเปอร์สโตร์ไปแล้ว
ชาวคริสต์ที่ไม่เห็นด้วยพากันอ้างอิงถึงข้อความในคัมภีร์ไบเบิลตอนที่บรรยายว่า พระเยซูต่อต้านวิหารของกษัตริย์เฮโรด "อย่าไปซื้อสินค้าในบ้านของพระบิดา" หลายคนว่าอย่างนั้น
โฆษกของห้างเทสโก้ปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่า ทางบริษัทมีแผนที่จะไล่ซื้อโบสถ์เก่าทั่วอังกฤษเอามาทำเป็นสาขาใหม่ ๆ หรือเปล่า
แต่ เขาบอกว่า ห้างเทสโก้สาขาเวสต์เบิร์นเป็นที่นิยมของลูกค้ามาก มีคนไปจับจ่ายข้าวของเครื่องใช้กันเยอะแยะ คณะกรรมการบริหารเมืองเบิร์นเมาธ์ได้ออกใบอนุญาตให้เปิดร้านได้ เป็นการ "เปลี่ยนแปลงลักษณะการใช้งาน" ของอาคารให้เป็นสถานที่ค้าปลีก
แซนดรา โจนส์ ผู้จัดการของหน่วยงานการกุศลด้านการสงเคราะห์คนชรา Help The Aged ซึ่งตั้งอยู่ใกล้โบสถ์แห่งนี้ บอกว่า โบสถ์ได้รับการทำความสะอาดจนดูสวยงาม แต่ก็ยังไม่ชอบใจอยู่ดีที่โบสถ์ได้กลายเป็นร้านค้า
บาทหลวง ดร.บ็อบ แม็กคินลีย์ ซึ่งเคยอยู่ที่โบสถ์ดังกล่าวได้ถูกปล่อยร้างมานาน 3 ปี บอกว่า ตัวเองก็รู้สึกเศร้าใจ
"เป็นเรื่องไม่เหมาะสมที่จะมีร้านเทสโก้เอ็กซเพรสผุดขึ้นมาในโบสถ์ แต่เมื่ออาคารได้ถูกขายไปแล้ว เราก็ทำอะไรไม่ได้"
แต่บรรดาร้านค้าย่อยในละแวกใกล้เคียงเห็นด้วย เพราะเชื่อว่าจะมีคนมาซื้อของในย่านนั้นมากขึ้น
(ไทยโพสต์)
..............................................................
ร้าว สะเทือนใจ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
นี่คือสัจจธรรมครับ ถ้าไม่มีคนเข้าโบสถ์ สถานที่ก็ต้องขายทอดตลาด
ในออสเตรเลีย เจี๊ยบเคยเห็นเขานำไปทำร้านอาหาร โบสถ์เก่า ยุค โกธิค เรอเนซอง บาร็อค
คลาสสิกจะตาย....ในสหรัฐ ฯก็เริ่มเป็นแบบนั้น เยอะเหมือนกัน
ในออสเตรเลีย เจี๊ยบเคยเห็นเขานำไปทำร้านอาหาร โบสถ์เก่า ยุค โกธิค เรอเนซอง บาร็อค
คลาสสิกจะตาย....ในสหรัฐ ฯก็เริ่มเป็นแบบนั้น เยอะเหมือนกัน
yack เขียน:อยากเห็นรูป จัง เเต่ไม่รู้ว่าควรจะดูหรือเปล่า
ทำมัยเขาทำแบบนี้นะ
ภาพภายนอก
ภาพภายใน
ขอบคุณที่เอารุปมาให้ดุครับAndreas เขียน:yack เขียน:อยากเห็นรูป จัง เเต่ไม่รู้ว่าควรจะดูหรือเปล่า
ทำมัยเขาทำแบบนี้นะ
ภาพภายนอก
ภาพภายใน
ดูเเล้วมันแปล๊บ ๆ นะ เเต่ก็พูดไม่ถูก
เเต่ว่า ทำให้นึกถึงคำที่ เราไม่เคยเชื่อว่า มันจะเป็นจริงได้ เเต่ ตอนนี้เริ่มไม่เเน่ใจเเล้ว
นั้นคือคำพูดที่ว่า เงินคือพระเจ้า ตอนนี้มันยังเป็นเป็นพระเจ้าหรอก เเต่ในอนาคตข้างหน้า มันอาจจะมาเเทนที่พระเจ้าเเน่ ๆ เลย
ยังใงก็ต้องสวด ให้พวกทุนนิยมมีความคิดขึ้นมาบ้างเเล้วละ
ที่ประเทศสิงคโปร์ใกล้ ๆ บ้านเรา เค้าก็เอาโบสถ์คาทอลิกมาทำเป็นอย่างอื่นแล้ว เช่นร้านอาหาร ห้องจัดงานเลี้ยง
ร้านกระต่ายขาว เคยเป็นวัดน้อยมาก่อน ตอนนี้กลายเป็นร้านอาหารสุดโรแมนติกไปแล้ว
CHIJMES จากอดีตเป็นอารามของซิสเตอร์คณะพระกุมารเยซู
ร้านกระต่ายขาว เคยเป็นวัดน้อยมาก่อน ตอนนี้กลายเป็นร้านอาหารสุดโรแมนติกไปแล้ว
CHIJMES จากอดีตเป็นอารามของซิสเตอร์คณะพระกุมารเยซู
แอบบถามนิดหนึ่งได้มั้ยครับ ว่าทำมัย ถึงได้ยอมขายทอดตลาดกันอย่างงี้อ่าครับ พื้น ที่ พวกนี้Andreas เขียน:ที่ประเทศสิงคโปร์ใกล้ ๆ บ้านเรา เค้าก็เอาโบสถ์คาทอลิกมาทำเป็นอย่างอื่นแล้ว เช่นร้านอาหาร ห้องจัดงานเลี้ยง
ร้านกระต่ายขาว เคยเป็นวัดน้อยมาก่อน ตอนนี้กลายเป็นร้านอาหารสุดโรแมนติกไปแล้ว
CHIJMES จากอดีตเป็นอารามของซิสเตอร์คณะพระกุมารเยซู
ก็เป็น สถานที่ทางศาสนา เพราะไม่มีคน เข้าโบสถ์หรือ เเล้วพวกคุณพ่อ กะ ซิสเตอร์อ่าครับจะไปอยู่ใหน
เล้วบ้านเขาไม่อนุลักษณ์ สถาปัตยกรรมกันหรือ สงสัยอ่า
อย่างที่สิงคโปร์ ผมทราบมาว่ารัฐบาลบังคับ หรือว่า "เวนคืน" เอาตัวอาคารและที่ดินของพระศาสนจักรไป ให้บริษัทเอกชนเข้ามาบริหารจัดการรายได้ พระศาสนจักรที่นั่นก็ไม่สามารถทำอะไรได้ครับ น่าสงสาร แล้วในอีกไม่เกิน 10 ปี ก็จะถูกเวนคืนอีกโบสถ์หนึ่ง เป็นโบสถ์ที่ใหญ่และสวยงามมาก ชื่อวัดนักบุญโยเซฟ บนถนนวิคตอเรีย อยู่ตรงข้ามหอสมุดแห่งชาติสิงคโปร์
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
^
กม.สิงคโปร์ เขาเข้มแข็งครับ
seminary ที่พี่พีพีคนสวยเคยเรียน อยู่ถนนออชาร์ด ก็โดนเวนคืนเอาไปทำสถานีรถไฟฟ้า
ต้องไปหาที่ใหม่ เกือบข้ามไปฝั่งมาเลย์โน่น แหละ
กม.สิงคโปร์ เขาเข้มแข็งครับ
seminary ที่พี่พีพีคนสวยเคยเรียน อยู่ถนนออชาร์ด ก็โดนเวนคืนเอาไปทำสถานีรถไฟฟ้า
ต้องไปหาที่ใหม่ เกือบข้ามไปฝั่งมาเลย์โน่น แหละ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
แต่ถ้าคิดทางเทววิทยา (Theology) พระเจ้าไม่ได้ประทับอยู่ที่นั่นแล้ว ก็เป็นแค่อาคารที่rosa เขียน:เห็นแล้วหดหู่ใจจริงๆ พระบิดาทำไมเขาทำกับบ้านของพระองด์แบบนี้ เศร้า........
เคยใช้ ถึงเวลาอนิจจังของมนุษย์ ก็โอเคล่ะ
-
- โพสต์: 48
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ย. 17, 2010 5:06 pm
ต้องเข้าใจนะครับว่ากระแสเรียกการเป็นนักบวช พระสงฆ์ ซิสเตอร์ ลดลงมากๆ โดยเฉพาะในทวีปยุโรปและอเมริกา ในประเทศเหล่านี้ต้องนำเข้าพระสงฆ์นักบวชจากอัฟริกาและเอเซีย ที่เป็นเช่นนี้เพราะคนไม่เข้าวัด คนประกาศตนไม่มีศาสนามกขึ้น โบสถ์บางแห่งถูกซื้อกลายเป็นมัสยิด ถึงจะเศร้าแต่ก็ต้องเข้าใจในบริบทความจริงที่เกิดขึ้น ส่วนจะทำอย่างไรนั้น ผมเข้าใจว่าศาสนจักรคงต้องมีการเปลี่ยนแปลงกฎกติกามรรยาทสำหรับนักบวชและพระสงฆ์ไม่มากก็น้อย มิฉนั้นคงหลีกเลี่ยงกระแสเรียกที่ลดลงไม่ได้ แต่นี่เป็นความคิดเห็นเล๊กๆของผมเท่านั้น
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ก็เหมือนที่เวียดนามอ่ะ รัฐบาลมันอยากจะยึดก็ยึด
ท้งพระสงฆ์ ทั้งคริสตชน โดนซ้อมกันเป็นว่าเล่น
ท้งพระสงฆ์ ทั้งคริสตชน โดนซ้อมกันเป็นว่าเล่น
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ขายค่ะ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ขอตั้งวัดน้อยที่เทสโก้เลย แบบสนามบินที่อิสลามมีห้องละมาดได้
-
- โพสต์: 300
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am
เคยเห็นแบบนี้ครั้งแรกในรายการโทรทัศน์ เห็นแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจ เจ็บปวดเหมือนกัน
แต่ก็นั่นแหละครับ มีวาระสำหรับทุกสิ่ง ภายใต้ฟ้านี้
แต่ก็นั่นแหละครับ มีวาระสำหรับทุกสิ่ง ภายใต้ฟ้านี้
- salvation7
- Defender of lawS
- โพสต์: 522
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 31, 2010 1:05 am
- ติดต่อ:
เห็นแล้วปวดใจยิ่งนัก
มีเรื่องให้คิดถึง 2 แง่
1. ถ้าถูกเบียดเบียนทางการเมือง รัฐบาล ก็น่าเห็นใจ
2. กระแสเรียกขาด... ต้องวนมาดูการบริหารงาน ดำเนินชีวิตแบบพระเยซูไหม และมีจิตตารมณ์พระเยซูอยู่หรือไม่??? (หนังสือดี ๆ อย่างเช่น การบริหารงานสไตล์พระเยซู) และการปฎิบัติ ซึ่งเป็นแบบอย่างหรือไม่ เพราะยุคนี้เป็นยุคแห่งการพัฒนา ทันใจ เหมือนการนั่งเล่น Internet กดปุ๊บมาแล้ว.. ทันใจยุค Ditital (ต้องใช้ให้คุ้มค่า ไม่ใช่ฟุ้มเฟ้อ สุรุ่ยสุร่าย ) ไม่ใช่คิดเพียงว่าพระเลี้ยง เป็นคนของพระไม่ต้องกังวล.. ลืมจิตตารมณ์ชั่ววูบ ... พระองค์ก็ทันใจเหมือนกัน..ตีสอนซะเล็กน้อยให้ชวนคิด
วิธีการที่แน่นอนที่สุดในการประสบความสำเร็จ คือ การให้พนักงานและลูกค้ามาเป็นอันดับแรก นั้นคือการทำหน้าทีให้บริการพวกเขา เพื่อสนองความต้องการของพวกเขา จากหนังสือการบริหารงานไตล์พระเยซู ถ้าประยุกต์กับสภาพปัจจุบัน นั้นก็คือ ตามหาลูกแกะดีหรือยัง??? เข้าถึงใจได้หรือยังหรือผิวเผิน...??
อาจจะนอกเรื่องไปบ้าง ดันให้ชวนคิดขึ้นมา..??? สวดภาวนากันต่อ ช่วงนี้ปิศาจต้องการคนงานของพระองค์ อย่างแรง...
มีเรื่องให้คิดถึง 2 แง่
1. ถ้าถูกเบียดเบียนทางการเมือง รัฐบาล ก็น่าเห็นใจ
2. กระแสเรียกขาด... ต้องวนมาดูการบริหารงาน ดำเนินชีวิตแบบพระเยซูไหม และมีจิตตารมณ์พระเยซูอยู่หรือไม่??? (หนังสือดี ๆ อย่างเช่น การบริหารงานสไตล์พระเยซู) และการปฎิบัติ ซึ่งเป็นแบบอย่างหรือไม่ เพราะยุคนี้เป็นยุคแห่งการพัฒนา ทันใจ เหมือนการนั่งเล่น Internet กดปุ๊บมาแล้ว.. ทันใจยุค Ditital (ต้องใช้ให้คุ้มค่า ไม่ใช่ฟุ้มเฟ้อ สุรุ่ยสุร่าย ) ไม่ใช่คิดเพียงว่าพระเลี้ยง เป็นคนของพระไม่ต้องกังวล.. ลืมจิตตารมณ์ชั่ววูบ ... พระองค์ก็ทันใจเหมือนกัน..ตีสอนซะเล็กน้อยให้ชวนคิด
วิธีการที่แน่นอนที่สุดในการประสบความสำเร็จ คือ การให้พนักงานและลูกค้ามาเป็นอันดับแรก นั้นคือการทำหน้าทีให้บริการพวกเขา เพื่อสนองความต้องการของพวกเขา จากหนังสือการบริหารงานไตล์พระเยซู ถ้าประยุกต์กับสภาพปัจจุบัน นั้นก็คือ ตามหาลูกแกะดีหรือยัง??? เข้าถึงใจได้หรือยังหรือผิวเผิน...??
อาจจะนอกเรื่องไปบ้าง ดันให้ชวนคิดขึ้นมา..??? สวดภาวนากันต่อ ช่วงนี้ปิศาจต้องการคนงานของพระองค์ อย่างแรง...