ช่วยด้วย ดูแล้วทำให้ผมเริ่มสูญศรัทธา

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Cherval
โพสต์: 566
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 30, 2011 7:17 pm
ที่อยู่: เชียงราย

เสาร์ มี.ค. 12, 2011 2:02 pm

++++++++++++++++++++++++แอดมินเอาคลิปออกครับ++++++++++++++++++++

อธิบายทีครับ มันทำให้ผมเริ่มสิ้นศรัทธาเข้าไป
โอย คิดไม่ออก

สะเทือนตรง ในนาทีที่ 3.42 , 4.03 และ 4.35
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ มี.ค. 12, 2011 2:52 pm

เรื่องโกหกทั้งนั้นครับ

แต่ในอีกแง่หนึ่ง ต้องพิจารณานะครับว่าทำไมเราเชื่อคนง่าย หรืออีกนัยยะคือ ทำไมเราตกหลุมพรางของมารซาตานง่ายนัก

เบื้องต้นผมเอาคลิปออกก่อนนะครับ เพราะสารเลวจริงอะไรจริง โกหกใส่ความคนอื่นได้ทั้งคลิป คนที่เชื่อพระเจ้าจริงๆเขาไม่ทำกิจการของซาตานหน้าตาเฉยแบบนี้หรอกครับ งานนี้สัตว์ร้ายคงคือคนทำคลิปเองนี่แหละ เพราะพ่นคำมุสาออกมาเหมือนสำรอกของโสมมซะขนาดนั้น

2ปต 2:11
ผู้สอนผิดเหล่านี้ก้าวร้าว หยิ่งยโส ไม่เกรงกลัวที่จะล่วงเกินบรรดาจิตที่ทรงสิริรุ่งโรจน์ แม้แต่ทูตสวรรค์ผู้ทรงพลังและอำนาจมากกว่ายังไม่กล่าวหาพวกเขาเฉพาะพระพักตร์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า แต่คนเหล่านี้ประพฤติเหมือนกับสัตว์เดียรัจฉานประเภทที่ตามธรรมชาติเกิดมาเพื่อถูกจับไปฆ่า เขาล่วงเกินสิ่งที่เขาไม่เข้าใจ เขาจะถูกทำลายเช่นเดียวกับสัตว์เดียรัจฉาน จะถูกลงโทษเป็นการตอบแทนความอธรรมของเขา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ มี.ค. 12, 2011 2:58 pm

ผมดูมานานว่า อันนี้นี่มันของใครทำ พอเจอเรื่องยกเลิกวันสะบาโต รู้เลยว่า คนทำคือพวกพยานพระยะโฮวา กลุ่มที่แม้แต่โปรแตสแตนท์ยังเรียกว่าพวกเทียมเท็จ


การใช้คำโกหกหลอกลวงว่ายกเลิกวันสะบาโต ที่จริงเราไม่ได้เลิกวันสะบาโตนะครับ แต่เราใช้วันอาทิตย์เป็นวันศักดิ์สิทธิ์ เพราะพระเยซูกลับคืนชีพวันนั้น แล้วคนสมัยก่อนกับคนสมัยนี้นับวันหยุดไม่เหมือนกัน สมัยก่อนคนหยุดวันเสาร์ สมัยนี้คนหยุดวันอาทิตย์นะครับ

เพราะทุกวันนี้ โปรแตสแตนท์เองก็ใช้วันนมัสการวันอาทิตย์ มีเพียงลัทธิเทียมเท็จ(เราไม่ได้เรียกคำนี้นะครับ คำนี้โปรแตสแตนท์เองใช้เรียกนิกายใหม่ๆที่สอนผิดๆที่แตกออกจากโปรแตสแตนท์อีกที) บางแห่งเท่านั้นที่ใช้วันเสาร์

ถ้าคุณเอามาจากเวบใจสมาน ต้องแจ้งทางใจสมานแล้วนะครับว่า โดนพวก พยานพระยะโฮวา แทรกซึมแล้ว พวกนี้แย่งลูกแกะเป็นอาชีพ ลองถามทางใจสมานดูก็ได้ครับว่าเขานมัสการวันไหน วันอาทิตย์หรือเสาร์
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ มี.ค. 12, 2011 3:14 pm

ส่วนเรื่องที่โกหกว่าคาทอลิกเริ่มใช้รูปปั้นในวัด ลองอ่านพระธรรมเดิมนะครับ ก่อนพระเยซูเกิดมีการสร้างพระวิหาร โดยอิงจากนิมิตในสวรรค์ และมันมีรูปปั้นครับ

Ezekiel 41:16
ห้องโถงของพระนิเวศนั้นและห้องชั้นในและมุขชั้นนอกบุด้วยไม้และทั้งสามนั้นมีหน้าต่างรอบซึ่งมีกรอบฝังลึก ตรงข้ามธรณีประตูบุไม้โดยรอบ ตั้งแต่พื้นถึงหน้าต่าง (หน้าต่างนี้มีม่านคลุม) ทั้งช่องว่างที่อยู่เหนือประตูถึงแม้เป็นห้องชั้นใน และข้างนอกและบนผนังโดยรอบที่ห้องชั้นในและ ห้องโถงก็มีรูปแกะไว้ เป็นรูปเครูบ รูปต้นอินทผลัม และรูปต้นอินทผลัมระหว่างเครูบทุกรูป เครูบทุกตนมีสองหน้า หน้าของผู้ชายตรงต้นอินทผลัมที่อยู่ข้างหนึ่ง และหน้าของสิงห์หนุ่มตรงต้นอินทผลัมที่อยู่อีกข้างหนึ่ง มีรูปอย่างนี้แกะไว้รอบพระนิเวศ จากพื้นถึงที่เหนือประตู มีรูปเครูบและ รูปต้นอินทผลัมแกะอยู่ที่ผนัง
ฝ่ายเสาประตูของห้องโถงนั้นสี่เหลี่ยม ข้างหน้าวิสุทธิสถานก็มีอะไรเหมือนกับแท่นบูชาทำด้วยไม้ สูงสามศอกยาวสองศอก และกว้างสองศอก ที่มุม ที่ฐาน และที่ผนังทำด้วยไม้ ท่านบอกข้าพเจ้าว่า “นี่เป็นโต๊ะซึ่งอยู่ต่อพระพักตร์ของพระเจ้า” ห้องโถงคือวิสุทธิสถาน มีประตูคู่แห่งละคู่ ประตูนั้นมีสองบาน ประตูหนึ่งมีบานเหวี่ยงสองบาน และบนประตูของห้องโถง มีเครูบและต้นอินทผลัมแกะไว้ เช่นเดียวกับที่แกะไว้บนผนัง มีปะรำไม้อยู่ที่หน้ามุขข้างนอก มีหน้าต่างที่มีกรอบฝังลึกและมีต้นอินทผลัมอยู่ ทั้งสองข้างที่บนผนังด้านข้างมุข ทั้งห้องระเบียงพระนิเวศและปะรำ

------------------------------------------------------------------------

รูปแกะสลักในวิหารพระเจ้าสร้างโดยกษัตริย์โซโลมอน

II Chronicles 3:13
แล้วซาโลมอนทรงเริ่มสร้างพระนิเวศของพระเจ้า ที่กรุงเยรูซาเล็มบนภูเขาโมริยาห์ ที่ซึ่งพระเจ้าทรงปรากฏแก่ดาวิดราชบิดาของพระองค์ ตรงที่ซึ่งดาวิดทรงกำหนดไว้ที่ลานนวดข้าวของโอรนัน คนเยบุส พระองค์ทรงเริ่มสร้างในวันที่สองเดือนที่สองของปีที่สี่ แห่งรัชกาลของพระองค์ ต่อไปนี้เป็นรากฐานซึ่งซาโลมอน ทรงวางเพื่อสร้างพระนิเวศของพระเจ้า ส่วนยาวตามศอกโบราณ หกสิบศอก และกว้างยี่สิบศอก มุขด้านหน้าของพระนิเวศนั้นยาวยี่สิบศอก เท่ากับด้านกว้างของพระนิเวศ และส่วนสูงหนึ่งร้อยยี่สิบ พระองค์ทรงบุด้านในด้วยทองคำบริสุทธิ์ ห้องโถงพระองค์ทรงบุด้วยไม้สนสามใบ และบุด้วยทองคำเนื้อนพคุณ และทำต้นอินทผลัมและลูกโซ่ประดับไว้บนนั้น พระองค์ทรงแต่งพระนิเวศด้วยฝังเพชรพลอย ทองคำนั้นเป็นทองคำเมืองพารวายิม พระองค์จึงทรงบุพระนิเวศนั้นด้วยทองคำคือที่คาน ธรณีประตู ผนัง ประตู กับสลักรูปเครูบไว้บนผนัง
และพระองค์ทรงสร้างอภิสุทธิสถาน คือความยาวของที่นั้นตามความกว้างของพระนิเวศ เป็นยี่สิบศอกและกว้างยี่สิบศอก พระองค์ทรงบุด้วยทองคำนพคุณหนักหกร้อยตะลันต์ น้ำหนักของตะปูห้าสิบเชเขลทองคำ และพระองค์ทรงบุห้องชั้นบนด้วยทองคำ
ในอภิสุทธิสถานนั้น พระองค์ทรงสร้างเครูบไว้สองรูปด้วยไม้บุทองคำ ปีกของเครูบทั้งสองนั้นกางออกยี่สิบศอก ปีกข้างหนึ่งของเครูบรูปหนึ่งยาวห้าศอกจดผนังพระนิเวศ และอีกปีกหนึ่งยาวห้าศอกจดปีกของเครูบอีกรูปหนึ่ง และรูปนี้ ปีกข้างหนึ่งห้าศอกจดผนังพระนิเวศ และอีกปีกหนึ่งห้าศอกด้วยติดต่อกับปีกของเครูบอีกรูปหนึ่ง ปีกของเครูบเหล่านี้กางออกยี่สิบศอก เครูบทั้งสองนั้นยืนหันหน้าไปทางห้องโถง และพระองค์ทรงสร้างม่านด้วยผ้าสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้ม และผ้าป่าน และปักรูปเครูบไว้บนนั้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ มี.ค. 12, 2011 3:19 pm

+++++++++++++++++++++


รูปภาพ

ความจริงเรื่องนี้เราต้องทำความเข้าใจร่วมกันในสิ่งที่เราเรียกว่า

บัญญัติ10ประการ

กันก่อน

ว่าที่จริงแล้ว แต่ไหนแต่ไรมา มันไม่ได้บอกว่ามี10ข้อ และไม่ได้บอกด้วยว่าให้แบ่งเป็น10ข้อ ที่จริงพระบัญญัติประทานมาเป็นข้อความยาวเหยียด มีทั้งส่วนสำคัญและส่วนขยาย ดังนี้

มาดูบทพระคัมภีร์บทดังกล่าวกัน

เฉลยธรรมบัญญัติ5:5

ครั้งนั้นข้าพเจ้ายืนอยู่ระหว่างพระเจ้ากับท่านทั้งหลาย เพื่อจะประกาศพระวจนะของพระเจ้าแก่ท่านทั้งหลาย เพราะท่านทั้งหลายกลัวเพลิง จึงมิได้ขึ้นไปบนภูเขา พระองค์ตรัสว่า
6“ 'เราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า ผู้ได้นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ออกจากแดนทาส
7“ 'อย่ามีพระเจ้าอื่นนอกเหนือจากเรา
8“ 'อย่าทำรูปเคารพสำหรับตนเป็นรูปสิ่งหนึ่งสิ่งใด ซึ่งมีอยู่ในฟ้าเบื้องบน หรือซึ่งมีอยู่ที่แผ่นดินเบื้องล่าง หรือซึ่งมีอยู่ในน้ำใต้แผ่นดิน
9อย่ากราบไหว้หรือปรนนิบัติรูปเหล่า นั้นด้วยเราคือ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าเป็นพระเจ้าหวงแหน ให้โทษบิดาตกทอดไปถึงลูกหลานของผู้ที่ชัง เรากระทั่งสามชั่วสี่ชั่วอายุ
10แต่แสดงความรักมั่นคงต่อคนที่รักเราและปฏิบัติ ตามบัญญัติของเรากระทั่งพันชั่ว อายุ
11“ 'อย่าออกพระนามพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า อย่างไม่สมควร ด้วยผู้ที่กล่าวพระนามของพระองค์อย่างไม่สมควรนั้น พระเจ้าจะทรงถือว่าไม่มีโทษหามิได้
12“ 'จงถือวันสะบาโต ถือเป็นวันบริสุทธิ์ ดังที่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทรงบัญชา ไว้แก่เจ้า
13จงทำการงานทั้งสิ้นของเจ้าหกวัน
14แต่วันที่เจ็ดนั้นเป็นสะบาโต(แปลว่า หยุด หยุดพัก (งาน)) แห่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า ในวันนั้นอย่ากระทำงานสิ่ง ใดๆ คือเจ้าเอง หรือบุตราบุตรีของเจ้า หรือทาสทาสีของเจ้า หรือโคของเจ้า หรือลาของเจ้า หรือสัตว์ใช้ใดๆของเจ้า หรือแขกที่อยู่ในเมืองของเจ้า เพื่อทาสทาสีของเจ้าจะได้หยุดพักอย่างเจ้า
15จงระลึกว่าเจ้าเคยเป็นทาสอยู่ในแผ่นดินอียิปต์ และพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าได้พาเจ้าออกมาจากที่นั่น ด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์และด้วยพระกรที่เหยียดออก เหตุฉะนี้พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าได้ทรงบัญชาให้เจ้ารักษาวันสะบาโต
16“ 'จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของ เจ้า ดังที่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทรงบัญชาเจ้าไว้ เพื่อเจ้าจะมีชีวิตยืนนาน และเจ้าจะไปดีมาดีในแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้า ของเจ้าประทานให้แก่เจ้า
17“ 'อย่าฆ่าคน
18“ 'อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา
19“ 'อย่าลัก ทรัพย์
20“ 'อย่าเป็นพยานเท็จใส่ร้ายเพื่อนบ้าน
21“ 'อย่าโลภภรรยาของเพื่อนบ้าน และอย่าอยากได้บ้านของเพื่อนคือไร่นา ทาส ทาสี วัว ลา หรือสิ่งใดๆซึ่งเป็นของของเพื่อนบ้าน'

22“พระวจนะเหล่านี้พระเจ้า ได้ตรัสแก่ชุมนุมชนทั้งปวงของท่านที่ภูเขา ออกมาจากท่ามกลางเพลิงเมฆ และความมืดคลุ้มหนาทึบ ด้วยพระสุรเสียงอันดัง และมิได้ทรงเพิ่มเติมสิ่งใดอีก

------------------------------------------------------------------------------------
ส่วนที่ทำสีไว้ คือส่วนของบัญญัติทั้งหมด ซึ่งเอาเข้าจริง จะเรียกว่าบัญญัติหลายสิบประการเลยก็ได้นะครับ




ทีนี้เรามาดูบัญญัติแต่ละส่วน ผมขอเน้นส่วนของพระเจ้า ซึ่งแยกได้3คอนเซปหลักๆคือ

1-เรื่องการนับถือพระเจ้าองค์เดียวตั้งแต่ข้อ7-10
2-เรื่องการระวังการออกพระนามพระเจ้าในข้อ11
3-เรื่องถือวันสะบาโตตั้งแต่ข้อ12-15

ผมขออ้างอิงกรณีวันสะบาโตก่อน เพราะเราคงจำได้ว่าพะรเยซูเจ้าพิพาทกับฟาริสีเรื่องนี้โดดเด่นหลายหนที่สุด เราจำได้ไหมครับว่าฟาริสีถืออเคร่งมากว่า ห้ามทำอะไรเลยที่จัดว่าเป็นงานในวันสะบาโตโดยเน้นอ้างที่ข้อ13-14 แต่หัวข้อของประเด็นนี้อยู่ที่ข้อ12 คือ"'จงถือวันสะบาโต ถือเป็นวันบริสุทธิ์" ทีนี้ทำให้ศักดิ์สิทธิ์ยังไง ก็ด้วยตามที่บอกไว้ในข้อ13-14ว่าห้ามทำงานโน่นนี่ ส่วนข้อ15เป็นการบอกเหตุผลว่าทำไมควรถือวันนี้

นี่คือโครงสร้างของบทบัญญัติข้อนี้นะครับ คือมีหัวข้อ มีการอธิบายวิธีการ และมีเหตุผล

แต่ฟาริสีเน้นการปฎิบัติตามตัวอักษรจนเขาลืมเหตุผลแท้จริงว่าพระเจ้ากำหนดวันนี้ทำไม ซึ่งเราตอบได้เลยว่า

ไม่ใช่ว่าพระเจ้าต้องการให้ว่างงานวันนั้น แต่ที่จริงต้องการให้เราสละ1วันไปนมัสการพระเจ้าในวิหารหรือศาลาธรรม เจตนาที่ห้ามทำงานเพื่อให้ว่าง ไม่ใช่เพราะพระองค์ไม่อยากเห็นใครทำงาน ที่ขนาดแบกแคร่กลับบ้าน หรือรักษาคน ไล่ผีวันนั้นก็ไม่ได้

พระเยซูเจ้าที่น่ารักตอบพวกนั้นชัดเจน2เรื่องคือ 1วันสะบาโตควรทำดีหรือทำชั่ว และ2พระบิดาทำงานทุกวันแหละ (ไม่งั้นพืชคงไม่งอกวันสะบาโต ดวงอาทิตย์คงงดฉายแสงวันนั้น และฝนคงไม่ตกวันนั้นจริงไม๊)

นี่คือสาระสำคัญของบทบัญญัติข้อนี้ และนี่คือวิธีที่พระเยซูสอนให้เราตีความพระคัมภีร์ นั่นคือ ที่จริงพระเจ้าต้องการอะไรกันแน่ ไม่ใช่แค่ทำตามตัวอักษรแล้วพระเจ้าจะพอพระทัย

จำคำพูดของพระองค์ได้ไม๊ที่ว่า (ลก 13:15)องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสตอบว่า ‘เจ้าคนหน้าซื่อใจคด เจ้าแต่ละคนมิได้แก้โคหรือลาจากรางหญ้า พาไปกินน้ำในวันสับบาโตดอกหรือ หญิงผู้นี้เป็นบุตรหญิงของอับราฮัม ซึ่งซาตานล่ามไว้เป็นเวลาสิบแปดปีแล้ว ไม่สมควรที่จะถูกแก้จากพันธนาการนี้ในวันสับบาโตด้วยหรือ’

เห็นไม๊ครับ ว่าพระเยซูตีความพระคัมภีร์ด้วยเหตุผลของความรัก

เรากลับมาดูข้อแรก อันเป็นข้อที่พิพาทกันระหว่างนิกายเสมอมา

7“ 'อย่ามีพระเจ้าอื่นนอกเหนือจากเรา
8“ 'อย่าทำรูปเคารพสำหรับตนเป็นรูปสิ่งหนึ่งสิ่งใด ซึ่งมีอยู่ในฟ้าเบื้องบน หรือซึ่งมีอยู่ที่แผ่นดินเบื้องล่าง หรือซึ่งมีอยู่ในน้ำใต้แผ่นดิน
9อย่ากราบไหว้หรือปรนนิบัติรูปเหล่า นั้นด้วยเราคือ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าเป็นพระเจ้าหวงแหน ให้โทษบิดาตกทอดไปถึงลูกหลานของผู้ที่ชัง เรากระทั่งสามชั่วสี่ชั่วอายุ
10แต่แสดงความรักมั่นคงต่อคนที่รักเราและปฏิบัติ ตามบัญญัติของเรากระทั่งพันชั่ว อายุ


เห็นไม๊ครับว่า โครงสร้างข้อนี้คือ

1-มีพระเจ้าสูงสุดแต่ผู้เดียวในข้อ7
2-โดยอย่านมัสการรูปเคารพในข้อ8-9
3-เพราะเหตุผลคือพระเจ้าหวงแหนเราไม่อยากให้เราไปนมัสการพระอื่นเป็นพระเจ้าในข้อ9 และยังพ่วงบทลงโทษและอวยพรไว้ในข้อ9-10

---ดังนั้นหลักใหญ่ใจความไม่ใช่เรื่องการมีรูปหรือไม่มีรูป แต่เป็นเรื่องการนมัสการพระเจ้าสูงสุดแต่ผุ้เดียว

---เราคงจำได้ว่าหินบัญญัติแผ่นแรกถูกทุ่มแตกตั้งแต่ตอนโมเสสเห็นอิสราเอลนมัสการรูปวัวทอง ดังนั้น แน่ใจได้เลยว่าการห้ามทำรูปเคารพในที่นี้ พระเจ้าหมายถึงรูปเคารพในศาสนาอื่นหรือรูปเคารพของพระเจ้าที่ไม่มีจริงเช่นในกรณีวัวทองคำนั้น และหมายถึงรูปที่เอามานมัสการเทียบเท่าพระเจ้า เหมือนในศาสนาโบราณสมัยก่อนที่มีการบูชายัญต่อเทวรูปไม่ได้หมายถึงรูปของพระองค์หรือเหล่าช่าวสวรรค์เลย เพราะพระเจ้าเองทรงสั่งให้สร้างหีบพันธสัญญาที่มีรูปเครูป(เทวดาชั้นหนึ่งในสวรรค์)กางปีกอย่างชัดเจน

Exodus 25:18
พระโอวาทที่เราจะให้แก่เจ้าจงเก็บไว้ในหีบนั้น แล้วจงทำพระที่นั่งกรุณา(หรือ ฝา (หีบ)) ด้วยทองคำบริสุทธิ์ยาวสองศอกคืบ กว้างศอกคืบ จงทำเครูบทองคำสองรูป โดยใช้ฝีค้อนทำตั้งไว้ที่ปลายพระที่นั่งกรุณาทั้งสองข้าง ทำเครูบไว้ที่ปลายพระที่นั่งกรุณาข้างละรูป ทำเครูบนั้น และให้ตอนปลายทั้งสองข้างติดเป็นเนื้อเดียวกับพระที่นั่งกรุณา ให้เครูบกางปีกออกไว้เบื้องบนปกพระที่นั่งกรุณา ไว้ด้วยปีก และให้หันหน้าเข้าหากัน ให้เครูบหันหน้ามาตรงพระที่นั่งกรุณา แล้วจงตั้งพระที่นั่งกรุณานั้นไว้บนหีบ จงบรรจุพระโอวาทซึ่งเราจะให้ไว้แก่เจ้าไว้ในหีบนั้น ณ ที่นั้น เราจะอยู่ให้เจ้าเข้าเฝ้า และจะสนทนากับเจ้า จากเหนือพระที่นั่งกรุณาระหว่างกลางเครูบ ซึ่งตั้งอยู่บน หีบพระโอวาท เราจะสนทนากับเจ้าทุกเรื่อง

รูปภาพ

---นั่นชัดเจนว่า ทั้งโมเสส อาโรน รวมทั้งอิสราเอลทั้งหมด ก็ต้องก้มหน้านมัสการไปที่หีบที่มีรูปปั้นเทวดาทำด้วยทอง

แล้วถามว่า มันต่างกับวัวทองตรงไหน ต่างกันก็ตรงที่

1.การนมัสการวัวทองนั้นชัดแจ้งว่า นมัสการพระเท็จเทียม เป็นพระเจ้าอื่นที่สร้างขึ้นเอง จิตนาการขึ้นเองไม่มีจริง แล้วยกขึ้นแทนที่พระเจ้า
2.แต่การนมัสการพระเจ้าในจุดที่มีรูปปั้นเครูปนั้น แม้จะมีรูปปั้นเครูปกางปีกทนโท่เราก็รู้อยู่ดีวว่าเรากำลังคุยกับใคร และพระเจ้าของเราคือใคร พระเจ้าคือพระจิตที่ลงมาตรงจุดนั้นไม่ใช่ตัวรูปปั้นหรือตัวหีบนั้น เรารู้ดีว่าเครูบคือชาวสวรรค์ที่รับใช้พระเจ้า

รูปภาพ
(อิสราเอลเดินแห่หีบ แถมถวายกำยานให้ด้วย ทั้งที่หีบ เครูบ หรือแผ่นบัญญัติ โดยตัวมันเองก็ไม่ใช่พระเจ้าซะหน่อย)

---ดังนั้น แปลง่ายๆว่า ถ้าเราไหว้กางเขน หรือไหว้ไปทางรูปพระเยซู เราไม่ได้ไหว้วัสดุนั้น เรารู้ตัวว่าเราไหว้พระเยซูเจ้าผู้มีตัวตนจริงและเป็นพระเจ้า เหล่าเทวดานักบุญก็เช่นกัน ต่อให้เรายกมือไหว้รูปพวกท่าน ถามว่า"เราคิดว่าท่านเป็นพระเจ้าหรือเปล่า" ถ้าเรารู้แก่ใจว่าเราไหว้ท่านในฐานะไหนแล้วมันจะเป็นการผิดบัญญัติข้อ1นี้ได้ยังไง

ในเมื่อมันชัดเจนในเหตุผลว่า ที่พระเจ้าห้ามในสมัยนั้นเพราะไม่อยากให้เราไหว้พระเท็จเทียม(ซึ่งในสมัยนั้นคือลัทธิบูชาเทวรูปต่างๆที่สร้างจินตนาการเป็นเทวนิยายเอาเองไม่มีจริง) เพราะพระองค์หวงแหนเรา ไม่ใช่เพราะพระองค์เกลียดงานศิลปะ จิตกรรม และปะติมากรรม

ดังนั้นการสร้างเทวรูปบูชาสมัยโบราณ คมันคนละเรื่องกันโดยสิ้นเชิง กับการวาดรูปไอคอนในออโธอดอค หรือการมีรูปศักดิ์สิทธิ์ในคาทอลิค

ดังนั้น ถ้าต้องการเส้นแบ่งที่"รูปแบบการกระทำ" คุณจะหลงทางทันทีเหมือนกรณีไม่ทำงานอะไรเลยในวันสะบาโตในสมัยพระเยซู
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ มี.ค. 12, 2011 3:25 pm

ตอนนาทีที่ 4.35 ที่คุณว่าแย่ๆ คือตอนที่อ้างวิวรณ์บทที่13 ลองอ่านดูไหมว่าวิวรณ์บทที่12 ที่อยู่ก่อนหน้า13 จริงๆเขียนว่้ายังไง และสัตว์ร้ายคืออะไร

-----------------------------------------------------------------------

วว 12:1-17 นิมิตเรื่องสตรีและมังกร

รูปภาพ

เครื่องหมายยิ่งใหญ่ปรากฏในสวรรค์ คือสตรีผู้หนึ่งมีดวงอาทิตย์เป็นอาภรณ์ มีดวงจันทร์อยู่ใต้เท้า มีมงกุฎดาวสิบสองดวงประดับศีรษะ นางมีครรภ์แก่ กำลังร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดจะคลอดบุตร เครื่องหมายอีกประการหนึ่งปรากฏในสวรรค์ คือมังกรใหญ่สีแดง มีเจ็ดหัวและสิบเขา แต่ละหัวสวมมงกุฎ หางของมันตวัดดวงดาวหนึ่งในสามบนท้องฟ้าให้ตกลงมาบนแผ่นดิน มังกรยืนอยู่ตรงหน้าสตรีที่กำลังจะคลอดบุตรเพื่อจะกินบุตรของนางทันทีที่คลอด นางคลอดบุตรเป็นชาย ซึ่งจะต้องปกครองชาติทั้งหลายด้วยคทาเหล็ก แต่บุตรของนางถูกคว้าตัวขึ้นไปเฝ้าพระเจ้ายังพระบัลลังก์ของพระองค์ ส่วนสตรีนั้นหลบหนีไปในถิ่นทุรกันดาร ที่นั่นนางมีที่พำนักซึ่งพระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ให้ เพื่อนางจะได้รับการเลี้ยงดูเป็นเวลาหนึ่งพันสองร้อยหกสิบวัน สงครามเกิดขึ้นในสวรรค์ มีคาเอลกับเหล่าทูตสวรรค์ของเขาต่อสู้กับมังกร มังกรพร้อมกับบริวารของมันก็ต่อสู้ด้วย แต่มันพ่ายแพ้และไม่มีที่พำนักในสวรรค์อีกต่อไป มังกรใหญ่ คืองูดึกดำบรรพ์ที่มีชื่อว่าปีศาจและซาตาน ผู้ล่อลวงผู้อาศัยอยู่ทั่วแผ่นดินให้หลงไป ถูกโยนลงมาบนแผ่นดิน บริวารของมันก็ถูกโยนลงมาด้วย ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังจากสวรรค์ว่า “บัดนี้ ความรอดพ้น พระอานุภาพและพระราชอาณาจักรเป็นของพระเจ้าของเราแล้ว และอำนาจเป็นของพระคริสต์ของพระองค์ เพราะผู้กล่าวหาบรรดาพี่น้องของเรา คือผู้ที่กล่าวหาเขาทั้งกลางวันกลางคืนเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้าของเราก็ถูกโยนลงไปแล้ว บรรดาพี่น้องของเราชนะผู้กล่าวหา เดชะพระโลหิตของลูกแกะและอาศัยคำพยานของตน เพราะเขาไม่หวงแหนชีวิตแม้เมื่อเผชิญความตาย ดังนั้น สวรรค์และท่านทั้งหลายที่อาศัยอยู่ในสวรรค์ จงชื่นชมเถิด วิบัติจงเกิดแก่แผ่นดินและทะเล เพราะปีศาจลงมายังแผ่นดินและทะเลด้วยความโกรธอย่างรุนแรง เพราะมันรู้ว่ามีเวลาเหลือน้อยแล้ว เมื่อมังกรหรืองูเห็นว่าตนถูกโยนลงมาบนแผ่นดิน ก็เริ่มเบียดเบียนสตรีที่คลอดบุตรชาย แต่สตรีนั้นรับปีกนกอินทรีใหญ่สองปีกเพื่อจะได้บินไปยังถิ่นทุรกันดารที่พำนักของนาง ที่นั่นนางจะได้รับการเลี้ยงดูพ้นสายตาของงูเป็นเวลาสามปีครึ่ง งูพ่นน้ำออกจากปากเหมือนแม่น้ำตามหลังสตรี เพื่อให้นางถูกกระแสน้ำพัดไป แต่แผ่นดินช่วยนางไว้ แผ่นดินอ้าปากออกและดื่มแม่น้ำที่มังกรพ่นออกมาจากปากของมัน มังกรโกรธสตรี และออกไปทำสงครามกับเผ่าพันธุ์ที่เหลือของนาง คือผู้ที่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระเจ้า และยึดมั่นในคำพยานถึงพระเยซูเจ้า

----------------------------------------------------------------

นี่คือบทอ่านประจำวันสมโภชพระมารดามารีย์เสด็จขึ้นสวรรค์ของพระศาสนจักร ที่คริสตชนคาทอลิคคงคุ้นเคยเป็นอย่างดี ด้วยความที่เป็นภาษาสัญลักษณ์จึงมีหลายคณะและหลายนิกายที่ตีความพระวาจาบทนี้แตกต่างออกไป แต่สำหรับพระศาสนจักรคาทอลิค และออธอดอค ที่เน้นการตีความตามแบบปิตาจารย์ของพระศาสนจักรยุคเริ่มแรก ได้นำบทนี้เป้นบทอ่านของวันฉลองพระมารดามารีย์ และดูเหมือนว่า สวรรค์เองจะยืนยันการตีความนี้ด้วยการเปิดเผยและไขแสดงจากเบื้องบน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ มี.ค. 12, 2011 3:26 pm

ในวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 1531 ชาวอินเอียนแดงผู้หนึ่งชื่อ ยวง ดิเอโก ได้รับการประจักษ์จากสตรีที่บอกว่าเธอคือ "มารีอา ผู้เป็นพรหมจารี และมารดาพระเจ้าเที่ยงแท้ผู้ทรงผู้สร้างสรรพสิ่งและสถิตย์อยู่ทุกหนทุกแห่ง"

และสิ่งหนึ่งที่สตรีผู้นี้ได้มอบให้ในการประจักษ์ คือภาพที่ปรากฎขึ้นเองอย่างอัศจรรย์บนผ้าคลุมของชายยากจนผู้นี้ และแม้ทุกวันนี้วิทยาศาสตร์ยังอธิบายไม่ได้ว่า ภาพนี้ปรากฎขึ้นมาได้อย่างไร

รูปภาพ

ภาพที่ปรากฏขึ้นอย่างอธิบายไม่ได้บนวัสดุหยาบๆ ของเสื้อคลุมนั้น เป็นอัศจรรย์อย่างแท้จริง

พระฉายาลักษณ์มีรังสีของดวงอาทิตย์ล้อมรอบและภายใต้พระบาทแม่พระ มีเสี้ยวดวงจันทร์กับมีเทวดาองค์หนึ่งค้ำจุนอยู่ข้างล่าง ปีกของเทวดาประดับด้วยขนนกสีแดง สีขาวและสีเขียว รูปทรงเหมือนปีกนกอินทรี แม่พระสวมเสื้อคลุมชั้นนอกคลุมจากศีรษะจรดเท้าสีเขียวอมสีน้ำเงิน มีดาวสีทองปกคลุมผ้าคลุมศีรษะนี้ เสื้อคลุมชั้นในเป็นแบบรัดเอว มีเข็มขัดมัดสูงลักษณะที่บ่งบอกว่ากำลังตั้งครรภ์

เมื่อพระสังฆราชซูมาร์รากา ผู้ไม่เชื่อในเรื่องที่ว่า ยวงได้เห็นภาพนิมิตของแม่พระ ได้เห้นภาพนี้ ท่านก็ตกตะลึงคุกเข่าต่อหน้าภาพจากสวรรค์ ที่บรรยายลักษณะของสตรีในพระวิวรณ์บทที่12นี้ทันที และสิ่งที่ตามมาคือ

ในถิ่นทุรกันดารอันไกลโพ้น ที่ชาวอินเดียนแดง แมกซิโก นับถือศาสนาแห่งการบูชายัญ เด็ก ผู้หญิง และชีวิตศัตรู ต่อเหล่าเทพเจ้าของพวกเขา และต่อต้านการยอมรับนับถือคริสตศาสนา ได้กลับเป็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์ที่ภาพนี้สามารถทำให้ประชาชนชาวเม็กซิกันนับถือคริสตศาสนาได้ทั้งประเทศ คือ ทั้ง 8 ล้านคน ภายใน 7 ปี

ไม่เคยมีมิชชันารีคนใด ตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน จะสามารถโอ้อวดความสำเร็จในการประกาศพระนามพระคริสต์ได้อย่างยิ่งใหญ่เท่าพระมารดาของชายที่จะปกครองโลกด้วยคฑาเหล็กผู้นี้ได้เลย
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ มี.ค. 12, 2011 3:28 pm

ถิ่นทุรกันดาร

น่าแปลกใจที่ในการประจักษ์ของแม่พระ โดยเฉพาะการประจักษ์ครั้งสำคัญหลายแห่งที่พระศาสนจักรรับรอง มารดาพระเจ้าได้เสด็จมาในที่ๆคนทั่วไปเรียกว่า ถิ่นทุรกันดาร เพื่อนำพระเยซูคริสต์ประจักษ์แก่ชาวโลก เหมือนที่เธอเคยทำเมื่อ2000ปีก่อนในถ้ำเลี้ยงสัตว์อันต่ำต้อยที่เบธเลแฮม และหลายๆที่อันแสนกันดารนั้น มารดาพระเจ้าได้ขอให้สร้างโบสถ์ หรือสักการะสถาน เพื่อถวายเกียรติแด่พระบุตรของพระนาง เพื่อพระองค์ผู้จะปกครองโลกนี้ จะได้เสด็จไปครองราชย์ในดวงใจของผู้ต่ำต้อยยากไร้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพงษ์พันธุ์ของพระมารดาของพระองค์

รูปภาพ


อาเว มารีอา

เมื่อแรกเริ่ม ชายคืออาดัม และหญิงคือเอวา ร่วมกันทำผิด และเมื่อเริ่มประวัติศาสตร์แห่งความรอด พระเจ้าก็ทรงใช้สตรีผู้ร่วมงานทรงไถ่คือพระมารดามารีย์ เป็นเอวาคนใหม่

นักบุญ อีเรเนอุสเกิดที่เมืองสมีร์นา ประมาณปี ค.ศ. 130 และได้รับการศึกษาอบรมจากนักบุญ โปลีการ์ป ซึ่งเป็นศิษย์ของนักบุญ ยอห์น อัครสาวก ผู้รับพระมารดามารีย์เป็นมารดาของตน โดยนัยนี้ท่านจึงได้รับการยอมรับว่าเป็นบุคคลสุดท้ายในแวดวงของบรรดาอัครสาวก และสืบทอดแนวคิดของพระวรสาร น. ยอห์นอย่างลึกซึ้ง ท่านได้ประกาศว่า พระคริสตเจ้าทรงเป็นพระบุคคลในประวัติศาสตร์จริงๆ เป็นผู้ไขแสดงสูงสุดของพระบิดาเจ้าทรงเป็นพระผู้ไถ่ และพระศาสนจักรเองก็ได้เจริญชีวิตพระคริสตเจ้าและได้สืบทอดเจตนารมณ์ของพระองค์ ทุกสิ่งทุกอย่างมุ่งไปหาพระคริสตเจ้า และจะต้องได้รับการปฏิรูปปรับปรุงในพระองค์ซึ่งเป็นอาดัมคนใหม่ และพระนางมารีอาทรงเป็นเอวาคนใหม่

ไม่น่าแปลกใจถ้าท่านจะเข้าใจลึกซึ้งว่า คำว่า "สตรี" ที่ท่านยอห์นผู้บันทึกพระวรสาร ใช้เรียกพระมารดามารีย์ถึง3ครั้ง 2ครั้งในพระวรสาร และอีกครั้งในพระวิวรณ์บทนี้ ก็เพื่อยืนยันบทบาทของ สตรี แห่งคำทำนายจากพระโอษฐ์ของพระเจ้าแต่แรกเริ่มตั้งแต่ปฐมกาล


รูปภาพ

พระนางมารีย์คือมารดาของมนุษย์ทุกคน และของผู้ที่เชื่อในคำพยานของพระเยซูเจ้า

ในปฐมกาล………..
นางเอวา ผู้เป็นมารดาของเหล่ามนุษย์คนบาป

1)หญิงคนหนึ่ง เกิดจากชาย(เพียงคนเดียว)คนหนึ่ง
2)หญิงคนนั้นเชื่องูและจองหอง
ผล-->มนุษย์ทั้งหมด พลัดพรากจากพระเจ้า

ในหน้าแรกของพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่…………..
หญิงพรหมจารีย์ชื่อมารีย์ ผู้ถูกเลือกเป็นมารดาพระผู้ไถ่

1)หญิงคนนั้นเชื่อทูตสวรรค์ และนบนอบ
2)ชายคนหนึ่ง เกิดจากหญิงพรหมจารี(เพียงคนเดียว)คนหนึ่ง
ผล--->มนุษย์ทั้งมวลได้รับความรอดพ้นผ่านทางพระเยซูคริสต์ได้กลับไปหาพระบิดา

1คร 15: 22
มนุษย์ทุกคนตายเพราะอาดัมฉันใด มนุษย์ทุกคนก็จะกลับมีชีวิตเพราะพระคริสตเจ้าฉันนั้น


-----อาดัมร่วมทำพลาดกับนางเอวาเพราะเชื่องูฉันใด พระเยซูได้ทำการทรงไถ่โดยมีพระนางมารีย์ผู้นบนอบร่วมแผนการฉันนั้น

ท่าน น.ออกัสติน ปิตาจารย์คนสำคัญในยุคแรกเริ่มของพระศานสนจักร จึงได้บันทึกไว้สั้นๆว่า "ตายทางเอวา รอดทางมารีย์"

น่าอัศจรรย์พระเจ้าได้ย้อนกลับขบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาในสมัยปฐมกาล ผลของบาปคือความตาย กลับใช้การตายไถ่บาป แบบหนามยอกเอาหนามบ่ง ก็เห็นเด่นชัดอยู่ แล้วยังใช้การกลับสมการนี้ กับนางเอวาและพระนางมารีย์ด้วย

Genesis 3:15
I shall put enmity between you and the woman, and between your offspring and hers; it will bruise your head and you will strike its heel.'

เราจะให้เจ้ากับ “สตรี” เป็นศัตรูกัน และระหว่างพงศ์พันธุ์ของเจ้ากับนางด้วย นาง(และพวกพงศ์พันธุ์ของนาง)จะบดขยี้หัวเจ้า และเจ้าจะฉกกันส้นเท้าของนาง(และพวกพงศ์พันธุ์ของนาง)


วว 12:17
มังกรโกรธสตรี และออกไปทำสงครามกับเผ่าพันธุ์ที่เหลือของนาง คือผู้ที่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระเจ้า และยึดมั่นในคำพยานถึงพระเยซูเจ้า


----ดังนั้นผู้เชื่อพระเยซูทุกคนคือลูกหลานของพระมารดามารีย์ ผู้แก้ไขความผิดของนางเอวา

แม้มังกรร้ายจะพยายามพ่นน้ำเพื่อทำลายหญิงนั้น สิ่งที่ออกมาจากปาก นั่นคือคำพูดนั่นเอง และในพระธรรมเดิม ถือว่าของเหลวที่ออกมาจากร่างกายถ้าไปกระเด็นหรือรดโดนคนอื่น จะทำให้คนนั้นมีมลทิน ดังนั้นน้ำที่ออกมาจากปากมังกร คือคำพูดใส่ร้ายต่างๆที่มันพยายามทำให้แม่พระมีมลทิน นี่คือวิธีที่ซาตานใช้ทำลายพระมารดาพรหมจารีย์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ไม่ว่าคำพูดโสโครกอันเต็มไปด้วยมลทินนั้นจะถูกพ่นออกมามากเท่าใด พระเจ้าจะทรงให้แผ่นดินอ้าปากสูบน้ำเหล่านั้นไปหมด ไม่ให้ความบริสุทธิ์ของสตรีที่ทรงโปรดปรานผู้นี้ต้องแปดเปื้อนได้เลย

ที่น่าอัศจรรย์ใจที่สตรีผู้นี้ ไม่ใช้กำลังหรือออกแรงต่อสู้ใดๆกับมังกรร้าย เพียงแค่ความสุภาพ นบนอบเชื่อฟังพระเจ้า และความเชื่อความศรัทธาอันล้นพ้น กลับกลายเป็นแส้ที่พระเจ้าทรงใช้หวดซาตานลงยังเหวลึกของความพ่ายแพ้ที่หัวของมันถูกบดขยี้แหลกเหลวตลอดกาล

เราทั้งหลายผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์ และเป็นลูกของแม่ด้วย เราจึงมีแบบอย่างแห่งชัยชนะเหนือซาตาน ที่เป็นความหวังและกำลังใจของเรา เคียงข้างพระบุตรสุดที่รักของพระนาง

ดังนั้น เมื่อพระบุตรประทานของขวัญวิเศษสุดนี้แก่เราแล้วที่เชิงกางเขน เราทั้งหลาย ผู้เป็นศิษย์ที่พระองค์ทรงรัก จะไม่นำพระมารดาของพระองค์กลับไปอยู่กับเราในฐานะแม่ของเราด้วยหรือ

ขอพระนามพระเจ้าได้รับการสรรเสริญ อาแมน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ มี.ค. 12, 2011 3:40 pm

อ่านมาถึงตอนนี้ คุณ Cherval ตีพระคัมภีร์ออกหรือยังว่า สัตว์นรก ที่พยายามโจมตี พระมารดา ลบหลู่เกียรติ์ของพระมารดา โจมตีพระศาสนจักรของพระเยซู เพราะที่จริงเป้าหมายของมันคือทำลายพระเยซูเอง มันตั้งใจจะกินบุตรของหญิงผู้เป็นมารดาพระเจ้านั้น แต่ทำไม่ได้ ก็หันมาหาเรื่องมารดาพระเจ้าและลูกหลานของพระนางแทน

สัตว์นรกตัวนั้นคือใคร เป็นพระศาสนจักรที่พระเยซูตั้งขึ้นหรือคนทำคลิปครับ

จงจำไว้ครับว่า พระคัมภีร์ระบุชัด ถึง คุณสมบัติสำคัญที่สุดอันหนึ่งของซาตานคือ เกลียดแม่พระ ดังนั้นใครบอกรักพระเยซูแต่เกลียดแม่พระ ต่อให้อ้างพระเจ้าอ้างพระคัมภีร์ ก็อย่าเชื่อว่ามาจากพระเจ้า เพราะแม่พระคือผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน และเป็นแม่ที่พระเยซูรักมาก

พระคัมภีร์เขียนไว้ชัด แต่พวกบิดเบือนก็เอามาใส่ความพระศาสนจักรของพระเยซูได้

ถามว่าถ้าคุณ Cherval ไขว้เขวเพราะมันหลอก จะผิดบาปมากไหม ก็ไม่หรอกครับ เพราะถ้าอ่านบทที่12 มังกรมันตวัดดาวตกจากฟ้าถึง1ใน3 พระธรรมเดิมเปรียบทูตสวรรค์คือดวงดาวอยู่แล้ว คิดดูว่า ซาตานถึงขนาดเคยหลอกทูตสวรรค์ที่เป็นจิตที่ฉลาดและทรงอำนาจกว่ามนุษย์จนตกสวรรค์ถึง 1 ใน 3 แล้วผู้เชื่อใหม่จะไขว้เขวหรือสับสนเพราะมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะงานของมารซาตาน ย่อมมีประสิทธิภาพขนาดนี้ ไม่เช่นนั้น มันคงไม่เป้นเจ้านรกล่อลวงคนตกนรกตามมันจนทุกวันนี้ได้

ดังนั้นคลิปนั้นทำคุณเขวได้ขนาดไหน ก็แปลว่ามารซาตานทำงานในคลิปนั้น และกับคริสตจักรเทียมเท็จที่สร้างคลิปนั้นขนาดนั้นแหละครับ


พระคัมภีร์บอกไว้ว่า แม่พระกับลูกของแม่พระทุกคนต้องโดนมารผจญครับ แต่ไม่ต้องกลัวครับ พระบิดาตรัสประกาศิตไว้ตั้งแต่พระธรรมเดิมแล้วว่า แม่ของเรา และพระเยซูของเรา จะกระทืบหัวของพวกมันจนแหลกเหลว

กท 1:6-10 คำเตือน
ข้าพเจ้าประหลาดใจที่ท่านทั้งหลายหันเหอย่างรวดเร็วจากพระบิดาผู้ทรงเรียกท่านด้วยพระหรรษทานของพระคริสตเจ้า ไปเชื่อข่าวดีอื่น อันที่จริงแล้ว ข่าวดีอื่นนั้นไม่มี แต่มีบางคนก่อความวุ่นวายในหมู่ท่านทั้งหลาย และประสงค์จะบิดเบือนข่าวดีของพระคริสตเจ้า แต่ถ้าเรา หรือทูตสวรรค์ประกาศข่าวดีขัดแย้งกับที่เราเคยประกาศแก่ท่าน ขอให้ผู้นั้นถูกสาปแช่งเถิด บัดนี้ ข้าพเจ้าขอพูดย้ำสิ่งที่ข้าพเจ้าเคยพูดไว้ก่อนอีกครั้งหนึ่งว่า ถ้าใครประกาศข่าวดีแก่ท่านขัดแย้งกับข่าวดีที่ท่านเคยรับไว้ ก็ขอให้ผู้นั้นถูกสาปแช่งเถิด



---ขอพระเยซูเจ้า และพระมารดามารีย์ผู้ที่พระเจ้ากำหนดให้เป็นศัตรูของซาตานและมารดาของผู้เชื่อพระเยซูทุกคน ทรงประทานพระพร ลูกของแม่ทุกคน ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Cherval
โพสต์: 566
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 30, 2011 7:17 pm
ที่อยู่: เชียงราย

เสาร์ มี.ค. 12, 2011 5:19 pm

ตายล่ะ นี่เราอ่อนแอขนาดหลอกได้ง่ายดายเลยหรือเนี่ย

โอ ทำไงดี กลัวๆจริงๆ อธิษฐานเพื่อผมด้วยครับ
ให้มั่นคงในพระเจ้า ฮือ
littleseal
โพสต์: 1029
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm

เสาร์ มี.ค. 12, 2011 6:39 pm

เห็นกระทู้นี้สุ่มได้บทนี้พอดีเลยค่ะ >.<

จงหลีกเลี่ยงคำพูดเพ้อเจ้อไร้สาระเพราะจะทำให้ห่างพระเจ้ามากขึ้น 2ทธ2:16

วันทามารีย์ เปี่ยมด้วยพระหรรษทาน พระเจ้าสถิตกับท่าน
ผู้ได้รับพระพรกว่าสตรีใด ๆ และพระเยซูโอรสของท่าน ทรงได้รับพระพรยิ่งนัก
สันตะมารีย์ พระมารดาพระเจ้า โปรดภาวนาเพื่อลูกทั้งหลายผู้เป็นคนบาป
บัดนี้และเมื่อจะตาย อาแมน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Kichinto
โพสต์: 532
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 17, 2007 7:34 pm
ติดต่อ:

เสาร์ มี.ค. 12, 2011 8:42 pm

ขอบคุณคุณ Holy มากๆ สาระแน่น ทำการบ้านมาดี เก็บเข้าคลังสาระได้
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

อาทิตย์ มี.ค. 13, 2011 10:53 am

ขอบคุณพี่โฮลี่ค่ะ

ถึงเรามาไม่ทันเห็นคลิปนั้น แต่เราก็รู้สึกว่าเหมือนเพิ่งเจออะไรที่คล้ายกันมาอยู่บ้าง

I should be more careful.
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

อาทิตย์ มี.ค. 13, 2011 12:20 pm

รู้สึกว่าคุณ Cherval ข้องเกี่ยวกับเว็บพวกนี้บ่อยจริง ระวังหน่อย ถึงบอกว่า ถ้ารู้ว่าตัวเองยังไม่เข้มแข็งพออย่าพยายามยุ่งกับมันเลย ถ้าวันนึงจะเข็มแข็งแล้วก็น่าจะเอาเวลาไปเสริมศรัทธาเรื่องอื่นจะดีกว่านะจ๊ะ
s.gabriel
โพสต์: 1011
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 2:21 pm

อาทิตย์ มี.ค. 13, 2011 12:50 pm

ชัดเจนมากครับพี่โฮลี่ แต่มาไม่ทันดูคลิป
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ มี.ค. 13, 2011 7:15 pm

Cherval เขียน:ตายล่ะ นี่เราอ่อนแอขนาดหลอกได้ง่ายดายเลยหรือเนี่ย

โอ ทำไงดี กลัวๆจริงๆ อธิษฐานเพื่อผมด้วยครับ
ให้มั่นคงในพระเจ้า ฮือ
คุณ Cherval เองมีความรักในพระเจ้า และรักพระมารดาของพระองค์ และศรัทธาในพระศาสนจักรหรือพูดง่ายๆมีความคิดทางบวกต่อคาทอลิก พอดูคลิปนี้ยังไขว้เขว แล้วลองคิดดูว่า ถ้าโปรแตสแตนท์ที่ไม่ชอบคาทอลิก หรือออกทางลบกับคาทอลิกอยู่แล้ว หรือคนที่มีอคติกับคาทอลิกมาดู จะเป็นอย่างไร ก็คงถูกล้างสมองด้วยประวัติศาสตร์โกหก จนเกลียดคาทอลิกแบบสุดเขต เสลดห่านไปเลย

ดังนั้นมีคนน่าเป็นห่วงกว่า คุณ Cherval อีกมากมายครับและ คุณ Cherval ต้องสวดให้พวกเขาด้วย เพื่อพวกเขาจะไม่ตกเป็นทาสคำลวงของซาตานจนหลงผิดไปจากความจริง

ที่จริงกลุ่มนี้คือพวกนักทำลายมืออาชีพนะครับ คุณต้องแยกให้ออกระหว่างลูกแกะหลงทาง และหมาป่าห่มหนังแกะ

แกะหลงทางเราคุย เราสนทนา และทำความเข้าใจให้เขากลับมาได้ แต่หมาป่าพวกนี้ มันจ้องฆ่าอย่างเดียว ไม่ได้ต้องการสนทนา ไม่ได้ต้องการกลับใจ ไม่ได้ต้องการความเข้าใจที่ถูก แต่ถูกจ้างมาทำลายล้างอย่างเดียว ดูจากคลิปก็น่าจะดูออกนะครับว่าทำมาตั้งแต่เมืองนอก ดังนั้น องค์กรเทียมเท็จข้ามประเทศแบบนี้ ไม่ใช่ว่าจะต่อกรแบบคนธรรมดาได้ เพราะพวกนี้ไม่ได้ต่างจากมิฉฉาชีพหรือมาเฟียทางศาสนาเลย

มธ 7:15
จงระวังประกาศกเทียมซึ่งมาพบท่าน นุ่งห่มเหมือนแกะ แต่ภายในคือสุนัขป่าดุร้าย


กจ 20:28
ท่านทั้งหลายจงดูแลตนเองและฝูงแกะที่พระจิตเจ้าทรงแต่งตั้งท่านให้เป็นผู้ดูแล เพื่อเลี้ยงดูพระศาสนจักรของพระเจ้า ที่พระองค์ทรงได้มาด้วยพระโลหิตของพระบุตร ข้าพเจ้ารู้ว่า เมื่อข้าพเจ้าจากไปแล้ว สุนัขป่าดุร้ายจะเข้ามาในกลุ่มของท่านและจะทำร้ายฝูงแกะ แม้ในกลุ่มของท่านก็จะมีบางคนลุกขึ้นกล่าวบิดเบือนความจริงเพื่อโน้มน้าวบรรดาศิษย์ให้ติดตามตน เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังไว้เถิด จงระลึกว่าข้าพเจ้าไม่เคยหยุดเตือนท่านแต่ละคนด้วยน้ำตานองหน้าทั้งกลางวันกลางคืนตลอดเวลาสามปี



---ที่จริงเรื่องคลิปนี้ ผมพบครั้งแรกที่เฟชบุ๊คนะครับ คนๆนี้ไปอาละวาดที่เพจของ คริสเตียนไทย ซึ่งในเพจนั้นมีโปรแตสแตนท์หลายคริสตจักรไปรวมกัน แต่มีคาทอลิกน้อยมากแค่ไม่กี่คน แปลกมากที่คนนี้ เพียรโพสคลิปอุบาว์ทนี้ ขนาดเจ้าของเฟชบุ๊คเขามาลบ สักพักก็มาโพสใหม่ หน้าด้านหน้าทนผิดมนุษย์ แถมเน้นโพสด่้าคาทอลิก ทั้งที่กลุ่มเฟชบุ๊คนั้นมีคาทอลิกไปแจมไม่ถึง5% ดูอย่างกับทำเป็นหน้าที่หรืออาชีพโพสสแปม

ถามว่าจะทำเพื่ออะไร ให้คาทอลิกกลับใจหรือ ถ้าอยากทำ ทำไมไม่ไปเวบบอร์ดคาทอลิกหรือหน้าเพจคาทอลิก มาพูดด่าคาทอลิกที่หน้าเพจโปรฯทำไม

ที่น่าคิดคือ ทุกครั้งที่มีการโพสแขวะคาทอลิก จะมีคนมากด LIke หลายคน ซึ่งก็คงเป็นโปรฯที่มีอคติและเกลียดชังตลอดจนเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับคาทอลิกอยู่แล้ว เข้ามาอวยใหญ่


ที่สำคัญ พอผมแวะไปแฉความจริง คนๆนี้ แถไม่ออก ไม่มีอะไรมาเถียงก็หนีไปเลย ไปเปิดประเด็นใหม่ ไปหาเรื่องอื่นมาด่า แต่ไม่เคยชัดเจนว่าตัวเองเป็นโปรฯคริสตจักรไหนสายไหน (เพราะบอกไปคนคงเลิกคบเพราะโปรฯทั่วไปมองว่าเทียมเท็จ)

เนียนๆนำโปรแตสแตนท์เข้ามาเป็นพวก
โดยใช้วิธีสร้างศัตรูมาเกลียดร่วมกัน


จนสักพักคนนี้เริ่มทำเป็นเสนอแนวคิดหรือโจมตีแนวคิดของโปรฯบางอย่าง ในลักษณะว่าอย่ามาตัดสินคริสตจักรอื่น

อันนี้ผมจึงตีความได้ไม่ยากว่า มันคือวิธี ตีหัวเข้าบ้าน ของพวกนี้นี่เอง

จุดประสงค์คนพวกนี้ จึงไม่ได้อยู่ที่การเสวนาความถูกผิดทางความเชื่อ แต่เป็นการเบี่ยงเป้าของโปรฯอื่นที่โจมตีว่าตัวเองเป็นพวกเทียมเท็จ ให้ไปโจมตีคาทอลิกแทน แล้วตัวเองจะได้ไปแอบเนียนยืนฝั่งเดียวกัน พอสักพักก็ดูดลูกแกะคริสตจักรอื่น

สร้างสถานการณ์ โดยใช้คาทอลิกเป็นเหยื่อ ดังนั้นคนกลุ่มนี้ไม่ต้องการคุย แต่ต้องการฆ่าและทำลายคาทอลิก เพื่อให้ดูเองดูดีดูเป็นฮีโร่ในสายตาโปรฯทั่วไป โดยแอบแทรกแนวคิดของลัทธิตัวเองลงไปในการโจมตีด้วย เพื่อจะบอกว่าหลายอย่างที่โปรฯทั่วไปยึดถือมาจากการเปลี่ยนแปลงของคาทอลิก มุขนี้ยังไงก็โดนสักเรื่อง ก็โปรฯแยกนิกายออกมาจากคาทอลิกจริงๆ ข้อเชื่อ และหลายสิ่งหลายอย่างที่โปรฯยังยึดถือ ทุกวันนี้ หลายข้อมีที่มาจากการประกาศของพระสันตะปาปาก่อนการแยกนิกาย เพียงแต่โปรฯส่วนมากชอบคิดว่าตัวเองยึดพระคัมภีร์อย่างเดียว(ซึ่งสาระบบพระคัมภีร์ก็ประกาศโดยพระสันตะปาปาอยู่ดี) ทั้งที่จริงยังมีข้อเชื่อมากมายที่โปรฯส่วนมาก เชื่อตามธรรมประเพณีคาทอลิกก่อนแยกนิกาย โดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีอะไรบ้าง

ดังนั้นเมื่อเนียนๆไปสักพัก หลังจากหลอกให้โปรฯทั่วไปอ่านหรือรับสื่อชั่วบิดเบือนของตน ลัทธินี้ก็จะประกาศว่าตัวเองเชื่อถูกคนเดียวอย่างแท้จริง แล้วดูดโปรฯหลงทางไปเข้าลัทธิตน

ถ้าคุณ Cherval ยังอยากไปสัมผัสพวกนี้อยู่ แนะนำให้อ่านอันนี้ก่อน หรือจะเอาไปแปะโพสที่นั่นก็ได้นะครับ

http://www.newmana.com/phpbb/viewtopic. ... 06&start=0


จากลิงค์นี้ ลองอ่านที่รีพลายที่3 หัวข้อที่5 เรื่องคริสตจักร ดูซิว่าตรงเป๊ะกับคลิปที่คุณดูเลยไหม
ภาพประจำตัวสมาชิก
Cherval
โพสต์: 566
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 30, 2011 7:17 pm
ที่อยู่: เชียงราย

อาทิตย์ มี.ค. 13, 2011 7:59 pm

พอดีคลิปมันถูกส่งมาทางเฟสของผมครับ
อาจเป็นเพราะว่า เฟสของผมคงแสดงออกถึงความเป็นคริสเตียนอย่างเด่นชัด
ตอนนี้ก็ลบไปแล้วล่ะครับ

มันมาประมาณ 3-4 ครั้ง และก้หายไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
Kichinto
โพสต์: 532
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 17, 2007 7:34 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ มี.ค. 13, 2011 10:57 pm

Cherval เขียน:พอดีคลิปมันถูกส่งมาทางเฟสของผมครับ
อาจเป็นเพราะว่า เฟสของผมคงแสดงออกถึงความเป็นคริสเตียนอย่างเด่นชัด
ตอนนี้ก็ลบไปแล้วล่ะครับ

มันมาประมาณ 3-4 ครั้ง และก้หายไป

แสดงว่ามีผู้ไม่หวังดีมาด่อมๆมองๆ นะซินะ ดีแล้วที่การผจญผ่านไปด้วยดี ขอบคุณพระเจ้า
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

จันทร์ มี.ค. 14, 2011 11:00 am

มาไม่ทันด้วย ต่อไปพยายามระมัดระวังการเสพคลิปพวกนี้นะคะ
ถ้าเรายังไม่แน่น จะทำให้ใจเราไม่สงบ

ขอพระเจ้าอวยพร :s012:
ตอบกลับโพส