อยากได้รูปบุญราศีทั้งเจ็ดของประเทศไทยครับ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
เคยไปมา 4-5 ครั้งแล้วคะ
สวยงามมากเลย *no1
สวยงามมากเลย *no1
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
เคยไปมาเหมือนกันครับ แต่ไม่กล้าเข้าไปดูใกล้ ๆครับ
ผมมีภาพบุญราศรีทั้ง 8 ของไทยมาให้ดูครับ


สวยมากครับ *no1
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
พี่เพชรภาพ นี้ ขึ้นปกหนังสือ หรือ ที่เขาแจกเป็นแผ่นๆAndreas เขียน: ผมมีภาพบุญราศรีทั้ง 8 ของไทยมาให้ดูครับ
คริสตังไทย ภาวนาผ่าน บุญราศีทั้ง แปด บ่อยไหมฮะ 8)
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ภาพสวยจังตาเพชร *inlove
- Good Nanny
- ~@
- โพสต์: 227
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 13, 2005 10:32 pm
- ที่อยู่: BKK
ทำไมต้องไม่กล้าเข้าไปใกล้ๆ ด้วยอ่ะ ???Batholomew เขียน: เคยไปมาเหมือนกันครับ แต่ไม่กล้าเข้าไปดูใกล้ ๆครับ
ปล.ไม่เคยไปเลยอยากรู้ว่าเป็นไงอ่ะ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
เพราะมีหุ่นขี้ผึ้งจำลองของคุณพ่ออยู่บนพระแท่นมั๊ง
เลยไม่กล้า
เลยไม่กล้า
เป็นไฟล์ภาพอยู่ในคอมพิวเตอร์ครับ งั้นผมจะส่งให้นะครับJeab Agape เขียน:พี่เพชรภาพ นี้ ขึ้นปกหนังสือ หรือ ที่เขาแจกเป็นแผ่นๆAndreas เขียน: ผมมีภาพบุญราศรีทั้ง 8 ของไทยมาให้ดูครับ
คริสตังไทย ภาวนาผ่าน บุญราศีทั้ง แปด บ่อยไหมฮะ 8)
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
อิ๊ๆๆ เฮีย ตั้งให้เองเหรอ เวนกำอีกที 8) ;Dprincess of wands เขียน:เวรกรรม...บอกคุณแม่ไปว่าแต่งตั้งแล้วโดยท่าน จอห์นพอลที่ 2 - - มั่วจริงๆเลยตู~@Little lamb@~ เขียน: ยังคะ แต่ก็ใกล้แล้วแหละ *no1
ปล.อันที่จริงผู้ที่อยู่ ณ บนสวรรค์ทุกท่าน ก็สามารถวิงวอนพระเป็นเจ้าเหมือนกับท่านนักบุญได้นะครับ
ตี่ต่างว่า เจี๊ยบเลือก บุญราศี พ่อบุญเกิด แล้วเจี๊ยบจะใช้ชื่อไหน ของท่านฮับ :D งง ป่าว ???
นี่ครับมีพ่อนิโคลัสครบNew lamb เขียน: จะหาอ่านประวัติของท่านทั้งหมดใด้ที่ไหนคะ อยากทราบประวัติและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่ะ ???
http://www.catholic.or.th/document/bknicolas/index.html
บุญราศีสองคอน
http://www.geocities.com/prakobkit/saintday/7bless.htm
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ เสาร์ ก.ค. 02, 2005 8:53 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
...ความเป็นมาของวัดบ้านสองคอน จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าสูงอายุของบ้านสองคอน พอสรุปความเป็นมาได้ว่า เมื่อคุณพ่อฟรังซิส มารี ซาเวียร์ เกโก สงฆ์พระธรรมทูตผู้มาแพร่ธรรม และก่อตั้งกลุ่มคริสตชนที่บ้านสองคอนเป็นองค์แรกและครั้งแรกนั้น ประมาณว่าเป็นปี ค.ศ.1887(พ.ศ.2430) นั้นเอง
...วัดหลังแรกมีรูปร่างคล้ายศาลา เรียบๆ เป็นเสาไม้เนื้อแข็ง ประมาณ ปี ค.ศ.1917 คุณพ่อมาชี มาอภิบาลกลุ่มคริสตชนบ้านสองคอน สืบต่อจากคุณพ่อเกโก ลำดับต่อมาคือ คุณพ่อกุลิเย,คุณพ่อการ์เซียง,คุณพ่อซู,คุณพ่อเปาโล ฟิเก
...ในสมัยคุณพ่อฟิเก ได้เกิดกรณีพิพาทเรื่องพรมแดนระหว่างไทยกับอินโดจีนของฝรั่งเศส
....คุณพ่อฟีกเก เป็นชาวฝรั่งเศส ต้องเดินทางออกนอกประเทศไทย พระศาสนจักรคาทอลิกโดยเฉพาะที่บ้านสองคอน ถูกต่อต้าน เบียดเบียน เพื่อล้มล้างอย่างรุนแรง ถึงกับคริสนชนบ้านสองคอน รวม 7 ท่าน ยอมพลีชีพยืนยันความเชื่อมั่นในองค์พระเจ้า เมื่อวันที่ 16 และวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2483 และวัดหลังที่สองนี้จึงถูกบังคับรื้อทำลายลงด้วย ช่วงนั้น คริสตชนไม่มีทั้งวัดและพระสงฆ์เป็นเวลา 2 ปี
....คุณพ่อที่มาเยี่ยมเป็นองค์แรก คือ คุณพ่ออัลแบร์ ดง จากอุบลราชธานี เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2486 ได้ใช้บ้านของสามเณรเคน ว่องไว เป็นวัดชั่วคราว และได้ถวายบูชามิสซาเป็นครั้งแรก ณ วัดชั่วคราวหลังนี้
....จนปัจจุบัน คณะกรรมการบุญราศีแห่งประเทศไทย ซึ่งมีพระอัครสังฆราชลอเรนช์ คายน์ แสนพลอ่อน ประมุขแห่งอัครสังฆมณฑลท่าแร่หนองแสง เป็นประธาน จึงได้พิจารณาจัดสร้างอนุสรณ์สถานเป็นเกียรติเป็นที่ระลึกบุญราศีมรณสักขี ทั้ง 7 องค์ ซึ่งพระศาสนจักรคาทอลิก โดยสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ได้ประกาศเทิดเกียรติ...
...เป็น"บุญราศี" อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2532 ณ มหาวิทยาลัยเซนต์ ปีเตอร์ นครวาติกัน และกำหนดให้สร้างที่บ้านสองคอน อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ นอกจากเพื่อเป็นเกียรติแล้ว ยังมีประโยชน์ใช้สอยเป็นที่เผยแพร่เกียรติคุณวีรกรรมของบุญราศีมรณสักขี ทั้ง 7 ท่านด้วยดังนี้.
1.เป็นสถานที่รองรับการแสวงบุญของมหาชน จำนวน 20,000 คน ในโอกาสสมโภชใหญ่
2.รองรับการฟื้นฟูจิตใจ ส่งเสริมความศรัทธาสำหรับคริสตชน ทั้งเป็นหมู่คณะ และส่วนตัว
3.เป็นศูนย์กลางบริหารกิจกรรมคาทอลิกในพื้นที่ อาทีเช่น ศูนย์กลางครูคำสอน,พลมารี ฯลฯ สำหรับภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
สักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขี นับเป็นวัดหลังที่ 11 เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2535 และแล้วเสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2538
สักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขี นอกจากจะเป็นสถานจาริกแสวงบุญระดับประเทศ เป็นอนุสรณ์สถานเทิดเกียรติบุญราศีมรณสักขี ทั้ง 7 ท่าน และยังประโยชน์แก่ศาสนจักร และคริสตชนชาวไทยทุกสังฆมณฑลถ้วนหน้ากัน ในอันที่ได้ช่วยกัน ให้ปณิธานที่ยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ของแผนงานอนุสรณ์สถานบุญราศี ทั้ง 7 ท่าน ของประเทศไทยเป็นความจริงอีกด้วย ซึางจะยั่งยืนตลอดชั่วกาลนาน.
บุญราศีทั้ง 7 แห่งสองคอน
ปลายปี พ.ศ.2483 ชาวไทยคาทอลิก 7 ท่าน ยอมพลีชีพเพื่อยืนยันความภักดีต่อพระคริสตเจ้า สี่สิบเก้าปีต่อมา เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2532 พระศาสนจักรประกาศเทิดเกียรติพวกท่าน เป็น "บุญราศี" ผู้เป็นมรณสักขี (THE BLESSED MARTYRS)
ก่อนเหตุการณ์ที่สองคอน
ในปี 2483 ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศไทยเจรจาตกลงเรื่องพรมแดนกับประเทศฝรั่งเศสไม่สำเร็จ จนต้องใช้กำลังรบเข้าตัดสินปัญหา กรณีพิพาทยุติลงตอนหลายปี 2484 โดยการไกล่เกลี่ยของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตอนปลายปีเดียวกัน ได้เปิดฉากสงครามเอเชียบูรพากับฝ่ายพันธมิตร และบังคับประเทศไทยให้เข้าร่วม
ความเคียดแค้นต่อฝรั่งเศส อันเนื่องจากการใช้อำนาจยึดดินแดนบางส่วนของประเทศไทยไปเป็นของอินโดจีนในอาณัติของฝรั่งเศสนั้น กอปรกับการที่บาทหลวงตามโบสถ์คาทอลิกส่วนใหญ่เป็นชาวฝรั่งเศส ทำให้ชาวไทยคิดรวมไปว่า ศาสนาคาทอลิกเป็นศาสนาของฝรั่งเศส จึงเริ่มมีการต่อต้านเบียดเบียนเกิดขึ้น
ที่หมู่บ้านสองคอน การต่อต้านเริ่มต้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคุ้มครองหมู่บ้าน ประกาศห้ามชาวบ้านนับถือศาสนาคาทอลิก โดยคาดโทษผู้ฝ่าฝืนว่าจะต้องระวางโทษสถานหนัก
คุณพ่อฟิเก ผู้ประจำอยู่ที่สองคอน ถูกขับไล่ออกราชอาณาจักร หมู่บ้านสองคอนจึงขาดผู้ดูแลคริสตชน เหลือแต่ผู้นำที่ยังเข้มแข็ง คือ ครูสีฟอง และซิสเตอร์ที่ประจำอยู่ที่โบสถ์สองคอน
มรณสักขี 7 องค์แห่งประเทศไทย
ชาวบ้านถูกกดขี่มากขึ้น ครูสีฟองจึงทำจดหมายแจ้งพฤติการณ์ดังกล่าว ไปยังเจ้าหน้าที่ของ อ.มุกดาหาร แต่จดหมายดังกล่าวกลับไปตกอยู่ในมือของตำรวจชุดคุ้มครองหมู่บ้าน ยังผลให้พวกเขาตัดสินใจกำจัดครูสีฟอง
วันที่ 15 ธันวาคม 2483 ครูสีฟองถูกลวงจากจดหมายปลอมว่า นายอำเภอมุกดาหาร สั่งเข้าพบ และออกเดินทางไปพร้อมกับตำรวจสองคน วันรุ่งขึ้น ขณะกำลังข้ามห้วยตุ้มนก ครูสีฟองจึงถูกยิงเสียชีวิต ศพของครูสีฟองถูกฝังไว้ที่บ้านพาลุกา
หลังจากครูสีฟองถูกฆ่า แม้ว่าคาทอลิกหลายคนไม่กล้าแสดงตัวเป็นคาทอลิกอย่างเปิดเผย ชาวบ้านกลุ่มใหญ่ภายใต้การนำของซิสเตอร์สองท่านยังมั่นคงในความเชื่อ
บ่ายวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2483 ซิสเตอร์ทั้ง 2 ท่าน ถูกเรียกพบ และมีการปลอบ การขู่ให้ละทิ้งศาสนาคาทอลิก ที่สุดพวกเขาถูกหลอกว่า ถ้าพวกเขาไม่สวมชุดนักบวช การเบียดเบียนศาสนาจะยุติลง เมื่อชาวบ้านเห็นซิสเตอร์ไม่สวมชุดนักบวช พวกเขายิ่งท้อแท้หมดกำลังใจมากกว่าเดิม ต่อมาชาวบ้านถูกเรียกให้มาประชุมด้วย พวกเขาได้รับคำสั่งให้เปลี่ยนศาสนา ทุกคนนั่งเงียบ ยกเว้นนางสาวเซซีลีอา บุดสี ว่องไว ผู้ประกาศว่า "ตายครั้งเดียวเพื่อความเชื่อ ฉันไม่กลัว".
ค่ำของวันที่ 24 ธันวาคม 2483 ซิสเตอร์ทั้งสอง ตัดสินใจสวมชุดนักบวชตามเดิม คืนของวันที่ 24 ธันวาคม 2483 ซิสเตอร์อักแนส พิลา เขียนจดหมายถึงตำรวจฉบับหนึ่ง ซึ่งต่อมาจึงทราบว่า จดหมายฉบับนั้นมีใจความว่า..
เวลาเย็นวานนี้ท่านได้รับคำสั่ง....อย่างเด็ดขาดแล้วสำหรับลบล้างพระนามของพระผู้เป็นเจ้า ผู้เป็นเจ้าชีวิตจิตใจพวกฉันแต่ผู้เดียว พวกฉันไหว้นมัสการพระองค์แต่ผู้เดียว แต่ก่อนสองสามวันล่วงมานี้ ท่านได้พูดกับพวกฉันแล้วว่า จะไม่ลบล้างพระนามของพระผู้เป็นเจ้า พวกฉันก็ยินดีพลอยยอมถอดเครื่องแต่งกายอันนี้ ที่แสดงว่าพวกฉันเป็นข้าปรนนิบัติพระองค์ แต่วันนี้ไม่เป็นเช่นนี้นั้นเสียแล้ว ฉันขอยั่งยืนว่า ศาสนาพระคริสต์เป็นศาสนาจริงเที่ยงแท้แต่ศาสนาเดียว ฉะนั้น พวกฉันขอตอบคำถามของท่าน เวลาเย็นวานนี้... พวกฉันยังไม่ทันได้ตอบคำถามของพวกท่านเลย เพราะว่าพวกฉันยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย มาวันนี้พวกฉันขอตอบว่า... ไหน ๆ ก็ขอท่านจงจัดการสำหรับพวกฉันเสียเถิด... อย่ารอช้าเลยค่ะ จงทำตามคำสั่ง...เถิด พวกฉันยินดีที่จะถวายชีวิตคืนให้แก่พระผู้เป็นเจ้าผู้ประทานชีวิตนี้ให้ พวกฉันไม่ยอมให้ตกไปเป็นเหยื่อของผีปีศาจหรอกค่ะ ขอจงจัดการเถิด ขอจงเปิดประตูสวรรค์ให้แก่พวกฉันเถิด พวกฉันจะได้ยั่งยืนว่านอกจากศาสนาของพระคริสต์แล้วไม่มีทางที่จะเอาตัวรอดขึ้นสวรรค์ได้เลย เอาเถิดค่ะ พวกฉันเตรียมตัวเสร็จสรรพอยู่แล้วค่ะ เมื่อพวกฉันไปแล้วพวกฉันจะไม่ลืมท่านหรอก ขอท่านจงสงสารพวกฉันฝ่ายวิญญาณเถิดค่ะ พวกฉันจะขอขอบใจท่านมาก และจะไม่ลืมบุญคุณของท่านเลย และวันสิ้นภิภพ พวกฉันกับพวกท่านจะได้เห็นหน้ากันอีก จงคอยดูกันเถิด.... ฉันถือตามพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า ขอเป็นพยานให้แก่พระองค์เถิด พระเจ้าค่ะ
พวกฉันคือ นางอักแนส นางลูซีอา แม่พุดทา นางบุดสี นางบัวไข นางสุวรรณ ขอเอาเด็กหญิงภูมา ให้ไปกับพวกฉันด้วยค่ะ เพราะฉันรักมาก
พวกฉันตกลงกันหมดแล้วค่ะ
ประมาณบ่ายสามโมงของวันที่ 26 ธันวาคม ซิสเตอร์กับคณะรวม 8 คน พากันมาที่วัดตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ และหลังจากปฏิเสธที่จะทิ้งความเชื่อ มี 6 คน ผู้พลีชีพในวันนั้น คือ
1. ซิสเตอร์อักแนส พิลา ทิพย์สุข 2. ซิสเตอร์ลูซีอา คำบาง สีคำพอง
3. คุณแม่อากาทา พุดทา ว่องไว 4. นางสาวเซซีลีอา บุดสี ว่องไว
5. นางสาวบีบีอานา คำไพ ว่องไว 6. เด็กหญิงมารีอา พร ว่องไว
เด็กหญิงสอน ว่องไว ซึ่งรวมอยู่ในคณะ ไม่ได้ถูกยิงในครั้งแรก จึงกลับบ้านไป ส่วนคนอื่นถูกยิงซ้ำในเวลาต่อมา
ซิสเตอร์ทั้งสองและคณะของเธอ ได้บรรลุความปรารถนาในอันที่จะตายเพื่อยืนยันความเชื่อ พวกเขาได้หลั่งเลือดทาแผ่นดินไทย เป็นการประกาศให้ทุกคนได้ทราบว่า พวกเขามีพระเจ้าแต่เพียงองค์เดียวในชีวิตจิตใจและวิญญาณ พระเป็นเจ้าผู้ประทานชีวิตแก่โลก และแก่มนุษย์ พระผู้ดูแล ช่วยเหลือและเมตตาพวกเขา พวกเขารับชีวิตมาจากพระองค์ พวกเขาก็พร้อมที่จะให้ชีวิตนั้นคืนกับพระองค์ ไม่มีอะไรมาแยกพวกเขาจากพระเป็นเจ้าได้ แม้ความตายก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาหวั่นไหวที่จะละทิ้งพระองค์
ผู้พลีชีพเพื่อพระเจ้าทั้ง 7 ท่านแห่งสองคอนได้รับการสถาปนา เป็นบุญราศี ในวันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม ค.ศ.1989/2532 ณ มหาวิหารนักบุญเปโตร กรุงโรม
จากหนังสือ : อนุสรณ์พิธีเสก สักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขี
...วัดหลังแรกมีรูปร่างคล้ายศาลา เรียบๆ เป็นเสาไม้เนื้อแข็ง ประมาณ ปี ค.ศ.1917 คุณพ่อมาชี มาอภิบาลกลุ่มคริสตชนบ้านสองคอน สืบต่อจากคุณพ่อเกโก ลำดับต่อมาคือ คุณพ่อกุลิเย,คุณพ่อการ์เซียง,คุณพ่อซู,คุณพ่อเปาโล ฟิเก
...ในสมัยคุณพ่อฟิเก ได้เกิดกรณีพิพาทเรื่องพรมแดนระหว่างไทยกับอินโดจีนของฝรั่งเศส
....คุณพ่อฟีกเก เป็นชาวฝรั่งเศส ต้องเดินทางออกนอกประเทศไทย พระศาสนจักรคาทอลิกโดยเฉพาะที่บ้านสองคอน ถูกต่อต้าน เบียดเบียน เพื่อล้มล้างอย่างรุนแรง ถึงกับคริสนชนบ้านสองคอน รวม 7 ท่าน ยอมพลีชีพยืนยันความเชื่อมั่นในองค์พระเจ้า เมื่อวันที่ 16 และวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2483 และวัดหลังที่สองนี้จึงถูกบังคับรื้อทำลายลงด้วย ช่วงนั้น คริสตชนไม่มีทั้งวัดและพระสงฆ์เป็นเวลา 2 ปี
....คุณพ่อที่มาเยี่ยมเป็นองค์แรก คือ คุณพ่ออัลแบร์ ดง จากอุบลราชธานี เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2486 ได้ใช้บ้านของสามเณรเคน ว่องไว เป็นวัดชั่วคราว และได้ถวายบูชามิสซาเป็นครั้งแรก ณ วัดชั่วคราวหลังนี้
....จนปัจจุบัน คณะกรรมการบุญราศีแห่งประเทศไทย ซึ่งมีพระอัครสังฆราชลอเรนช์ คายน์ แสนพลอ่อน ประมุขแห่งอัครสังฆมณฑลท่าแร่หนองแสง เป็นประธาน จึงได้พิจารณาจัดสร้างอนุสรณ์สถานเป็นเกียรติเป็นที่ระลึกบุญราศีมรณสักขี ทั้ง 7 องค์ ซึ่งพระศาสนจักรคาทอลิก โดยสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ได้ประกาศเทิดเกียรติ...
...เป็น"บุญราศี" อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2532 ณ มหาวิทยาลัยเซนต์ ปีเตอร์ นครวาติกัน และกำหนดให้สร้างที่บ้านสองคอน อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ นอกจากเพื่อเป็นเกียรติแล้ว ยังมีประโยชน์ใช้สอยเป็นที่เผยแพร่เกียรติคุณวีรกรรมของบุญราศีมรณสักขี ทั้ง 7 ท่านด้วยดังนี้.
1.เป็นสถานที่รองรับการแสวงบุญของมหาชน จำนวน 20,000 คน ในโอกาสสมโภชใหญ่
2.รองรับการฟื้นฟูจิตใจ ส่งเสริมความศรัทธาสำหรับคริสตชน ทั้งเป็นหมู่คณะ และส่วนตัว
3.เป็นศูนย์กลางบริหารกิจกรรมคาทอลิกในพื้นที่ อาทีเช่น ศูนย์กลางครูคำสอน,พลมารี ฯลฯ สำหรับภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
สักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขี นับเป็นวัดหลังที่ 11 เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2535 และแล้วเสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2538
สักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขี นอกจากจะเป็นสถานจาริกแสวงบุญระดับประเทศ เป็นอนุสรณ์สถานเทิดเกียรติบุญราศีมรณสักขี ทั้ง 7 ท่าน และยังประโยชน์แก่ศาสนจักร และคริสตชนชาวไทยทุกสังฆมณฑลถ้วนหน้ากัน ในอันที่ได้ช่วยกัน ให้ปณิธานที่ยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ของแผนงานอนุสรณ์สถานบุญราศี ทั้ง 7 ท่าน ของประเทศไทยเป็นความจริงอีกด้วย ซึางจะยั่งยืนตลอดชั่วกาลนาน.
บุญราศีทั้ง 7 แห่งสองคอน
ปลายปี พ.ศ.2483 ชาวไทยคาทอลิก 7 ท่าน ยอมพลีชีพเพื่อยืนยันความภักดีต่อพระคริสตเจ้า สี่สิบเก้าปีต่อมา เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2532 พระศาสนจักรประกาศเทิดเกียรติพวกท่าน เป็น "บุญราศี" ผู้เป็นมรณสักขี (THE BLESSED MARTYRS)
ก่อนเหตุการณ์ที่สองคอน
ในปี 2483 ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศไทยเจรจาตกลงเรื่องพรมแดนกับประเทศฝรั่งเศสไม่สำเร็จ จนต้องใช้กำลังรบเข้าตัดสินปัญหา กรณีพิพาทยุติลงตอนหลายปี 2484 โดยการไกล่เกลี่ยของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตอนปลายปีเดียวกัน ได้เปิดฉากสงครามเอเชียบูรพากับฝ่ายพันธมิตร และบังคับประเทศไทยให้เข้าร่วม
ความเคียดแค้นต่อฝรั่งเศส อันเนื่องจากการใช้อำนาจยึดดินแดนบางส่วนของประเทศไทยไปเป็นของอินโดจีนในอาณัติของฝรั่งเศสนั้น กอปรกับการที่บาทหลวงตามโบสถ์คาทอลิกส่วนใหญ่เป็นชาวฝรั่งเศส ทำให้ชาวไทยคิดรวมไปว่า ศาสนาคาทอลิกเป็นศาสนาของฝรั่งเศส จึงเริ่มมีการต่อต้านเบียดเบียนเกิดขึ้น
ที่หมู่บ้านสองคอน การต่อต้านเริ่มต้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคุ้มครองหมู่บ้าน ประกาศห้ามชาวบ้านนับถือศาสนาคาทอลิก โดยคาดโทษผู้ฝ่าฝืนว่าจะต้องระวางโทษสถานหนัก
คุณพ่อฟิเก ผู้ประจำอยู่ที่สองคอน ถูกขับไล่ออกราชอาณาจักร หมู่บ้านสองคอนจึงขาดผู้ดูแลคริสตชน เหลือแต่ผู้นำที่ยังเข้มแข็ง คือ ครูสีฟอง และซิสเตอร์ที่ประจำอยู่ที่โบสถ์สองคอน
มรณสักขี 7 องค์แห่งประเทศไทย
ชาวบ้านถูกกดขี่มากขึ้น ครูสีฟองจึงทำจดหมายแจ้งพฤติการณ์ดังกล่าว ไปยังเจ้าหน้าที่ของ อ.มุกดาหาร แต่จดหมายดังกล่าวกลับไปตกอยู่ในมือของตำรวจชุดคุ้มครองหมู่บ้าน ยังผลให้พวกเขาตัดสินใจกำจัดครูสีฟอง
วันที่ 15 ธันวาคม 2483 ครูสีฟองถูกลวงจากจดหมายปลอมว่า นายอำเภอมุกดาหาร สั่งเข้าพบ และออกเดินทางไปพร้อมกับตำรวจสองคน วันรุ่งขึ้น ขณะกำลังข้ามห้วยตุ้มนก ครูสีฟองจึงถูกยิงเสียชีวิต ศพของครูสีฟองถูกฝังไว้ที่บ้านพาลุกา
หลังจากครูสีฟองถูกฆ่า แม้ว่าคาทอลิกหลายคนไม่กล้าแสดงตัวเป็นคาทอลิกอย่างเปิดเผย ชาวบ้านกลุ่มใหญ่ภายใต้การนำของซิสเตอร์สองท่านยังมั่นคงในความเชื่อ
บ่ายวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2483 ซิสเตอร์ทั้ง 2 ท่าน ถูกเรียกพบ และมีการปลอบ การขู่ให้ละทิ้งศาสนาคาทอลิก ที่สุดพวกเขาถูกหลอกว่า ถ้าพวกเขาไม่สวมชุดนักบวช การเบียดเบียนศาสนาจะยุติลง เมื่อชาวบ้านเห็นซิสเตอร์ไม่สวมชุดนักบวช พวกเขายิ่งท้อแท้หมดกำลังใจมากกว่าเดิม ต่อมาชาวบ้านถูกเรียกให้มาประชุมด้วย พวกเขาได้รับคำสั่งให้เปลี่ยนศาสนา ทุกคนนั่งเงียบ ยกเว้นนางสาวเซซีลีอา บุดสี ว่องไว ผู้ประกาศว่า "ตายครั้งเดียวเพื่อความเชื่อ ฉันไม่กลัว".
ค่ำของวันที่ 24 ธันวาคม 2483 ซิสเตอร์ทั้งสอง ตัดสินใจสวมชุดนักบวชตามเดิม คืนของวันที่ 24 ธันวาคม 2483 ซิสเตอร์อักแนส พิลา เขียนจดหมายถึงตำรวจฉบับหนึ่ง ซึ่งต่อมาจึงทราบว่า จดหมายฉบับนั้นมีใจความว่า..
เวลาเย็นวานนี้ท่านได้รับคำสั่ง....อย่างเด็ดขาดแล้วสำหรับลบล้างพระนามของพระผู้เป็นเจ้า ผู้เป็นเจ้าชีวิตจิตใจพวกฉันแต่ผู้เดียว พวกฉันไหว้นมัสการพระองค์แต่ผู้เดียว แต่ก่อนสองสามวันล่วงมานี้ ท่านได้พูดกับพวกฉันแล้วว่า จะไม่ลบล้างพระนามของพระผู้เป็นเจ้า พวกฉันก็ยินดีพลอยยอมถอดเครื่องแต่งกายอันนี้ ที่แสดงว่าพวกฉันเป็นข้าปรนนิบัติพระองค์ แต่วันนี้ไม่เป็นเช่นนี้นั้นเสียแล้ว ฉันขอยั่งยืนว่า ศาสนาพระคริสต์เป็นศาสนาจริงเที่ยงแท้แต่ศาสนาเดียว ฉะนั้น พวกฉันขอตอบคำถามของท่าน เวลาเย็นวานนี้... พวกฉันยังไม่ทันได้ตอบคำถามของพวกท่านเลย เพราะว่าพวกฉันยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย มาวันนี้พวกฉันขอตอบว่า... ไหน ๆ ก็ขอท่านจงจัดการสำหรับพวกฉันเสียเถิด... อย่ารอช้าเลยค่ะ จงทำตามคำสั่ง...เถิด พวกฉันยินดีที่จะถวายชีวิตคืนให้แก่พระผู้เป็นเจ้าผู้ประทานชีวิตนี้ให้ พวกฉันไม่ยอมให้ตกไปเป็นเหยื่อของผีปีศาจหรอกค่ะ ขอจงจัดการเถิด ขอจงเปิดประตูสวรรค์ให้แก่พวกฉันเถิด พวกฉันจะได้ยั่งยืนว่านอกจากศาสนาของพระคริสต์แล้วไม่มีทางที่จะเอาตัวรอดขึ้นสวรรค์ได้เลย เอาเถิดค่ะ พวกฉันเตรียมตัวเสร็จสรรพอยู่แล้วค่ะ เมื่อพวกฉันไปแล้วพวกฉันจะไม่ลืมท่านหรอก ขอท่านจงสงสารพวกฉันฝ่ายวิญญาณเถิดค่ะ พวกฉันจะขอขอบใจท่านมาก และจะไม่ลืมบุญคุณของท่านเลย และวันสิ้นภิภพ พวกฉันกับพวกท่านจะได้เห็นหน้ากันอีก จงคอยดูกันเถิด.... ฉันถือตามพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า ขอเป็นพยานให้แก่พระองค์เถิด พระเจ้าค่ะ
พวกฉันคือ นางอักแนส นางลูซีอา แม่พุดทา นางบุดสี นางบัวไข นางสุวรรณ ขอเอาเด็กหญิงภูมา ให้ไปกับพวกฉันด้วยค่ะ เพราะฉันรักมาก
พวกฉันตกลงกันหมดแล้วค่ะ
ประมาณบ่ายสามโมงของวันที่ 26 ธันวาคม ซิสเตอร์กับคณะรวม 8 คน พากันมาที่วัดตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ และหลังจากปฏิเสธที่จะทิ้งความเชื่อ มี 6 คน ผู้พลีชีพในวันนั้น คือ
1. ซิสเตอร์อักแนส พิลา ทิพย์สุข 2. ซิสเตอร์ลูซีอา คำบาง สีคำพอง
3. คุณแม่อากาทา พุดทา ว่องไว 4. นางสาวเซซีลีอา บุดสี ว่องไว
5. นางสาวบีบีอานา คำไพ ว่องไว 6. เด็กหญิงมารีอา พร ว่องไว
เด็กหญิงสอน ว่องไว ซึ่งรวมอยู่ในคณะ ไม่ได้ถูกยิงในครั้งแรก จึงกลับบ้านไป ส่วนคนอื่นถูกยิงซ้ำในเวลาต่อมา
ซิสเตอร์ทั้งสองและคณะของเธอ ได้บรรลุความปรารถนาในอันที่จะตายเพื่อยืนยันความเชื่อ พวกเขาได้หลั่งเลือดทาแผ่นดินไทย เป็นการประกาศให้ทุกคนได้ทราบว่า พวกเขามีพระเจ้าแต่เพียงองค์เดียวในชีวิตจิตใจและวิญญาณ พระเป็นเจ้าผู้ประทานชีวิตแก่โลก และแก่มนุษย์ พระผู้ดูแล ช่วยเหลือและเมตตาพวกเขา พวกเขารับชีวิตมาจากพระองค์ พวกเขาก็พร้อมที่จะให้ชีวิตนั้นคืนกับพระองค์ ไม่มีอะไรมาแยกพวกเขาจากพระเป็นเจ้าได้ แม้ความตายก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาหวั่นไหวที่จะละทิ้งพระองค์
ผู้พลีชีพเพื่อพระเจ้าทั้ง 7 ท่านแห่งสองคอนได้รับการสถาปนา เป็นบุญราศี ในวันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม ค.ศ.1989/2532 ณ มหาวิหารนักบุญเปโตร กรุงโรม
จากหนังสือ : อนุสรณ์พิธีเสก สักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขี
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ เสาร์ ก.ค. 02, 2005 8:57 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ใช่ครับ~@Little lamb@~ เขียน: เพราะมีหุ่นขี้ผึ้งจำลองของคุณพ่ออยู่บนพระแท่นมั๊ง
เลยไม่กล้า