เยอรมัน ประเทศที่มีอะไรดีๆน่าสนใจเยอะ

[:+: seraphim :+:]

เจี๊ยบชอบใส้กรอกเยอรมัน ฮะ

พี่เจ้าคณะมาเมื่อไหร่ เจี๊ยบจะช่วยออกค่ารถเมล์ ฮะ

ระดับพี่เจ้าคณะมีเรอะจะมารถเมล์ โน้นๆๆๆๆ โน้นเลย เรือหางยาว ก็แหม..รีสอร์ทแกติดทะเลซะขนาดนั้น รถเมล์ผ่านถึงซะที่ไหนหล่ะ

[Jeab Agape]

เจี๊ยบชอบใส้กรอกเยอรมัน ฮะ

พี่เจ้าคณะมาเมื่อไหร่ เจี๊ยบจะช่วยออกค่ารถเมล์ ฮะ

ระดับพี่เจ้าคณะมีเรอะจะมารถเมล์ โน้นๆๆๆๆ โน้นเลย เรือหางยาว ก็แหม..รีสอร์ทแกติดทะเลซะขนาดนั้น รถเมล์ผ่านถึงซะที่ไหนหล่ะ

เจี๊ยบหมายถึงเมื่อพพี่เจ้าคณะมาถึงสุวรรณภูมิแล้ว จะต่อไปร้านอาหารที่พี่เพชรแนะนำนะครับผม

[อันตน]

น้อยใจ ไม่ไปและ เห็นเราเป็นอะไร ออกให้แค่ค่ารถเมล์

[Jeab Agape]

น้อยใจ ไม่ไปและ เห็นเราเป็นอะไร ออกให้แค่ค่ารถเมล์

งั้นค่ากินด้วยครับ

[:+: seraphim :+:]

น้อยใจ ไม่ไปและ เห็นเราเป็นอะไร ออกให้แค่ค่ารถเมล์

งั้นค่ากินด้วยครับ

แล้วนอนหล่ะ ศาลาวัดหรือ

[syaoran]

The Pilgrimage Church of Wies (German: Wieskirche) is an oval rococo church, designed in the late 1740s by Dominikus Zimmermann, who for the last eleven years of his life lived nearby. It is located in the foothills of the Alps, in the municipality of Steingaden in the Weilheim-Schongau district, Bavaria, Germany.
In 1738, tears were seen on a dilapidated wooden figure of the Scourged Saviour. This miracle resulted in a pilgrimage rush to see the sculpture. In 1740, a small chapel was built to house the statue but it was soon realized that the building would be too small for the number of pilgrims it attracted, and so Steingaden Abbey decided to commission a separate shrine. Many who have prayed in front of the statue of Jesus on the altar, have claimed that people have been miraculously cured of their diseases, which has made this church even more of a pilgrimage site.
Construction took place between 1745 and 1754, and the interior was decorated with frescoes and with stuccowork in the tradition of the Wessobrunner School. "Everything was done throughout the church to make the supernatural visible. Sculpture and murals combined to unleash the divine in visible form"[1].
There is a popular belief that the Bavarian government planned to sell or demolish the rococo masterpiece during the secularization of Bavaria at the beginning of the 19th century, and that only protests from the local farmers saved it from destruction. Available sources however document that the responsible state commission clearly advocated the continuation of Wies as a pilgrimage site, even in spite of economic objections from the abbot of Steingaden.[2]
The Wieskirche was added to the UNESCO World Heritage List in 1983 and underwent extensive restoration between 1985 and 1991.


โบสถ์วีส์ หรือ โบสถ์แสวงบุญวีส์ (Wies church หรือ Pilgrimage Church of Wies; ภาษาเยอรมนี: Wieskirche หรือ Pfaffenwinkel) ตั้งอยู่ในเมืองโชนเกา อยู่บริเวณเชิงเทือกเขาแอลป์ ใกล้เมืองชไตนการ์เด็น (Steingaden) ในสหพันธรัฐบาเยิร์น ทางใต้ของประเทศเยอรมนี


ประวัติ

วันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 1783 เป็นวันแรก ที่มีคำกล่าวอ้างว่า ประชนได้เห็นน้ำพระเนตร หลั่งจากพระเนตรของรูปไม้กางเขนแกะสลักไม้ของพระเยซู หรือที่เรียกกันว่าพระมหาไถ่ถูกเฆี่ยน (Scourged Saviour)

เรื่องเล่าแห่งปาฏิหาริย์ในครั้งนั้น เป็นเหตุให้มีนักแสวงบุญเดินทางไปจารึกบุญ เยี่ยมชม และอธิษฐานขอพรจากรูปแกะสลักพระเยซูอย่างมากมาย

ด้วยความเชื่อที่ว่ารูปแกะสลักนี้สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ ในปี ค.ศ. 1740 ได้จัดสร้างชาเปลขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานรูปแกะสลักนี้โดยเฉพาะ แต่เนื่องด้วยขนาดของอาคารที่เล็กเกินกว่าที่จะรองรับจำนวนของนักแสวงบุญที่เดินทางมาจารึกบุญ จึงได้มีการตัดสินใจสร้างโบสถ์วีส์แห่งนี้ขึ้น

รูปทรงสถาปัตยกรรมภายนอก มีลักษณะการตกแต่งค่อนข้างเรียบ ภายในเป็นทำให้เป็นทรงรูปไข่ แม้ว่าตัวสิ่งก่อสร้างจะเป็นสี่เหลี่ยม และเน้นการตกแต่งภายในด้วยปูนปั้นตระกูลโรโคโคเวสโซบรุน

ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดอย่างวิจิตร ตามแบบฉบับของศิลปะโรโคโค การตกแต่งภายในออกแบบโดย โดมินิคุส ซิมเมอร์มันน์ ผู้เป็นศิลปินสำคัญของสมัยศิลปะโรโคโค

และถือกันว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของศิลปีนท่านนี้ โดมินิคุส ซิมเมอร์ มันน์ได้ทุ่มเทสร้างโบสถ์แห่งนี้ เป็นเวลา 11 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ 1745 จนถึงปี ค.ศ. 1754 ก่อนที่จะเสียชีวิตลง

ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ก็มีข่าวลือว่าทางรัฐบาวาเรียจะขายหรือทุบวัดทิ้งระหว่างสมัยการปฏิรูปที่ดิน ที่โบสถ์รอดมาได้ก็เพราะการประท้วงจากชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณนั้น

แต่หลักฐานเท่าที่หลงเหลืออยู่พบว่า คณะกรรมการผู้พิจารณาการยุบอารามตั้งใจจะรักษาเอาวัดแสวงบุญนี้ไว้ แม้ว่าแอบบอตของแอบบีไสตน์การ์เดนจะประท้วงเรื่องค่าใช้จ่ายก็ตาม

มรดกโลก

โบสถ์วีส์ ได้รับเลือกโดยองค์การยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในปี ค.ศ. 1983 จากนั้นได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในช่วงระหว่าง ค.ศ. 1985 - ค.ศ. 1991

ข้อแนะนำ

ในช่วงเดือนพฤษภาคม - เดือนกันยายน ของทุกปี จะมีการจัดแสดงดนตรีคลาสสิก ที่โบสถ์วีส์ เป็นช่วงที่เหมาะสำหรับการเยี่ยมชนโบสถ์แห่งนี้


ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี และข้อมูลภาษาไทยจาก http://www.bloggang.com/viewdiary.php?i ... 2&gblog=36
รายละเอียดโบสถ์แสวงบุญวีส์ ภาคภาษาอังกฤษครับ http://www.wieskirche.de/egeschcht.htm

[anatasia]

ที่แน่ๆคือเราชอบกินขาหมูเยอรมัน
แต่ไม่ชอบไส้กรอกของเยอรมันไม่อร่อยเลย
ตอนที่น้องสาวของเรากลับจากเยอรมัน
คุณน้องสาวที่น่ารักขนขนมจากเยอรมันมาที่ประเทศไทยด้วย
แต่สุดท้ายก็แช่ทิ้งไว้ในตู้เย็นแบบไม่มีใครสนใจใยดีเลย