สวัสดีครับคุณ
Cherval
ขออนุญาตไม่อ้างอิง quoute นะครับ เดี๋ยวกระทู้จะยาวแล้วอ่านยาก
อ่านจากที่คุณ
Cherval เขียนนี่แสดงว่าอ่านหนังสือ และยืนหลักองค์ความรู้ของสังคมไทย
ครบเชียวครับ ทั้ง
สุ จิ ปุ ลิ คือ
ฟัง คิด ถาม และเขียน
แนวคิดบางแนว บางความเชื่อ ผมก็ไม่อยากเขียนลงสู่สาธารณะครับ ด้วยเหตุผล
1. นำไปสู่ประเด็นการถกเถียง เพราะเป็นเรื่องของการต่างความเชื่อ และวิธีคิด
2. สุแปรติซัง เป็นคำ ๆ นึง ที่กำหนดคาทอลิกไว้ค่อนข้างเคร่งครัด ....
ในข้อ 2 นั่นเป็นเหตุผล ๆ หนึ่งที่ทำให้ ศาสนาที่เป็น เทวนิยม เช่น ฮินดู,คริสต์ และอิสลาม
ไม่ค่อยเปิดความเช้าใจ หรือเปิดใจกว้างที่จะศึกษาศาสนาอื่น จึงทำให้การศึกษาศาสนาแล้ว
มองโลก มิติเดียว ...
ผมขออนุญาตยกตัวอย่าง เรื่องการปกครอง เช่น บ้านเรามีการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ...บางคนก็ไม่เคยศึกษาระบอบการปกครองอื่น เพราะ
กลัวถูกกล่าวหาว่า
"ฝักใฝ่การปกครองอื่น" ซึ่งในประวัติศาสตร์บ้านเราแล้วเราก็เคยผ่านเรื่อง
ดังกล่าวมา เช่น
เหตุการณ์ 6 ต.ค. ,หรือ กรณี อ.วรเจตน์ นิติราษฎร์ เพราะเรื่องเหล่านี้เป็น
เรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งผู้รู้ท่านก็ได้เขียนมาแต่โบราณแล้วว่า เรื่อง
การเมืองอย่าง ศาสนาอีก
อย่าง ถ้าถกเถียงกัน...รังแต่จะนำไปสู่ สงครามทั้งสิ้น ไม่ว่าสงครามรัฐต่อรัฐ หรือ สงคราม
กลางเมือง
การที่เราจะอ่านประวัติศาตร์ในถ่องแท้ นั้นเราจำต้องอ่านประวัติศาสตร์หลายเล่ม และนำมา
เปรียบเทียบ และสำคัญท่านต้องอ่าน
ประวัติศาตร์โลก ประวัติศาสตร์รอบบ้าน และใช้หลัก
ตรรกะ เข้ามาเสริมจะทำให้เกิดความเข้าใจ
เชิงเหตุ เชิงผล มากขึ้น
เช่น ทำไมพระนเรศวรทรงใช้เวลากู้เอกราชตั้งนาน แต่พระเจ้าตากใช้ 7 เดือน เท่านั้น
เราต้อง
ย้อนกลับไปอ่านประวัติศาสตร์พม่า....ว่าจริง ๆ แล้วช่วงนั้นพม่ายกทัพหลวงกลับไปรบกับจีน
และอำนาจอังกฤษกำลังมา
ศาสนาก็เช่นกันครับ!

ย้อนกลับมาเรื่องพระเจ้าหลายองค์...หรือองค์เดียว ที่เราเรียกพระตรีเอกานุภาพ ชุดความคิด
นี้จะกระจ่างแจ้งขึ้น...หากเราศึกษาให้ลงลึกไปสู่ศาสนาที่มีอิทธิพลต่อโลกเรา...ที่มีผู้คนเชื่อ
ถือ ศรัทธา และนับถือมาก ๆ เห็นทีจะเป็น 3 ศาสนาใหญ่ คือ
ฮินดู คริสต์ และอิสลาม
เราจำต้องศึกษาศาสนาประกอบแล้วเราจะเกิดความเข้าใจมากขึ้นในเชิง
ตรรกศาสตร์ คือ
การสามารถตีความ
เทวศาสตร์ ให้เป็น
ตรรกศาสตร์ ได้ ผมชอบวาทะท่านพุทธทาส
ที่ท่านว่า มี
ภาษาธรรม กับ
ภาษามนุษย์
ถ้าเราตีความภาษาธรรม ผิดเพี้ยน ก็จะนำไปสู่อีกลัทธิหนึ่ง เช่น กรณีการตีความ
นิพพาน
ของพุทธหรือการตีความ
โลกหน้าของคริสต์ หรือการตีความเรื่อง
จีฮัด ของอิสลาม
เป็นต้น
เท่าที่เรานับประวัติศาสตร์ศาสนาโลก ศาสนาแรกที่มีในโลกคือ ฮินดู แล้วจึงเป็นศาสนาพุทธ
แล้วจึงเกิดเป็นศาสนาคริสต์...แล้วจึงเป็นอิสลาม ตรงนี้ถ้าใครอ่านปฐมกาลจะรู้ว่าส่วน
หนึ่งของปฐมกาลอยู่กับทั้ง
ศาสนายิว,คริสต์ และอิสลาม เชื่อเหมือนกัน หรือคล้ายกัน
ต่อมา คริสต์รบอิสลาม เรียก สงครามครูเสท,อิสลามแพร่จากอาหรับ เข้าเอเซียทำให้
เกิดสงครามในประเทศอินเดีย ท่านคุรุ นานัก เดว ยิ จึงก่อตั้ง
ศาสนาซิกข์ขึ้นมา เมื่อปี
ค.ศ.1469(พ.ศ. 2012) ตรงกลับรัชสมัย
สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เป็นกรุงศรีฯ ช่วง
กลาง ๆ ราชวงศ์สุพรรณภูมิ
ถ้าเราจัด Road Map การศึกษาแบบนี้จะทำให้เราเข้าใจศาสนา
แบบตรรกะ และรู้ที่มาที่ไป...
ฮินดูมีพระเจ้า 3 พระองค์ เรียก
พระตรีมูรติ ภาษาอังกฤษใช้คำว่า :
Trinity ซึ่งช่างเหมือน
และตรงกับ
พระตรีเอกานุภาพ ยิ่งนัก พระพรหม ซึ่งเป็นผู้สร้างโลก พระศิวะ เป็นผู้ทำลาย
และพระวิษณุ(บ้านเราเรียกพระนารายณ์)เป็นผู้ปกป้องและรักษาโลก...และแปลกจังที่ฮินดู
ก็มีเรื่องน้ำท่วมโลก ฮินดูเรียก
ราตรีแห่งพรหม คือ
พรหม ผู้สร้างโลกจะเข้าสู่นิทราอันยาวนานมี
พระมนู เป็นตัวแทนช่วยมนุษย์โลกแบบ
โนอาห์
คุณ
Cherval และท่านผู้อ่าน เคยได้ยินชื่อ
ภูเขาอดัมส์พีค หรือชื่อ
สีปาดา(Sri Pada)ที่
ประเทศศรีลังกา ที่ทุกศาสนาต่างมีความเชื่อของตน ชาวฮินดี เชื่อว่าบนนั้นมีรอยเท้าของพระศิวะ
ชาวพุทธเชื่อว่าเป็นพระพุทธบาท ชาวคริสต์(บางส่วน)เชื่อว่าท่านนักบุญโธมัสมาที่นี่และมี
รอยเท้าที่นี่ชาวมุสลิม เชื่อว่าอดัมส์ซึ่งเป็นมนุษย์คนแรกถูกเนรเทศลงจากสวรรค์ตรงจุดนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม :
http://sripada.org/
http://www.natureconcern.com/natureconc ... lone-1.htm
หรือ ท่านเคยได้ยินไม๊ครับว่า...ช่วงชีวิตที่หายไปของพระเยซู ได้มาศึกษาทางศาสนาที่
มหาวิทยาลัยนาลันทา
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99% ... 7%E0%B8%B2
อย่างที่ผมเรียนไปเบื้องต้น ศาสนาเป็นเรื่องของความ
สุขุมคัมภีรภาพ จำต้องใช้เวลาศึกษา
และการศึกษาเชิงเปรียบเทียบ อันจะนำมาซึ่ง >>>
การศึกษาศาสนา ด้วยปัญญา ไม่ใช่ความงมงาย
ตอบยาวนิดนึงนะครับ ขอบคุณครับที่ติดตามอ่าน
โดย : ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ เดินทางทุกที่ ๆ มีพระองค์