เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 ที่ผ่านมาว่าจะแบ่งปันแล้วก็ลืม ผมฟังคุณพ่อเทศวันอาทิตย์ พระคัมภีร์ยอห์น บทที่ 6 ข้อ 1 - 15 ตอนฟังก็นึกขึ้นได้ว่าการโคลนนิ่งไม่ใช่ของใหม่ แม้แต่พระคัมภีร์ก็ยังมีซึ่งพระเยซูเองก็เคยทำมาแล้ว ด้วยการโคลนนิ่งขนมปังบาร์เลย์ 5 ก้อน กับ ปลา 2 ตัว เลี้ยงดูคนนับเฉพาะผู้ชายอย่างเดียวไม่รวมผู้หญิงและเด็ก การโคลนนิ่งจะว่าใหม่มันก็ไม่ใหม่หรอกครับเพราะเยซูเคยทำเมื่อสองพันกว่าปีที่แล้วแถมไม่ต้องใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์อีกด้วย
ส่วนเรื่องที่พ่อเขาเทศ เขาเทศเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับฟิลิปที่ไม่มีความเชื่อว่าเงินที่เขามีอยู่ตอนนี้จะเลี้ยงดูคนจำนวนมากได้ยังไง แล้วพ่อก็บอกอีกว่า ขนมปังที่ทำจากข้าวบาร์เลย์เป็นขนมปังถูกๆ ที่ไม่ดีเหมือนขนมปังที่ทำจากข้าวสาลี ส่วนปลาก็ปลาแห้งๆ 2 ตัว ที่ติดตัวเด็กผู้ชายคนหนึ่งมา
เรื่องโคลนนิ่งพระเยซูก็เคยทำ
-
- โพสต์: 423
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
- ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa
สวัสดีครับ คุณ Joseph
ผมเกรงว่าคุณ Joseph จะเข้าใจคลาดเคลื่อนแล้วหล่ะครับ
การโคลนนิ่ง ภาษาอังกฤษ คือ Cloning มาจากคำว่า Clone ที่ใช้เรียกสิ่งมีชีวิต
ที่สืบพันธุ์นจากระบบไร้เพศ เป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์ หรือ ชีววิทยา การโคลนนิ่ง
ในทางปศุสัตว์ คือ การผลิตสัตว์ให้มีรูปร่างลักษณะแสดงออก (phenotype) และ
ลักษณะพันธุกรรม (genotype) ให้เหมือนเดิมทุกประการ โดยวิธีทำอาจจะทำโดย
การตัดแบ่งตัวอ่อน เรียก "Embryo Splitting" หรือ การย้ายฝากของนิวเคลียส ที่
เรียกว่า "Nuclear Transfer"
ส่วนเรื่องที่พระเยซู ทรงทำอัศจรรย์ เสกขนมปัง 5 ก้อน กับ ปลา 2 ตัวเลี้ยงคน 5 พัน
ที่ถูกบันทึกไว้ ในพระวรสารทั้งพระธรรมเก่า(เฉลยธรรมบัญญัติ 18:15) และ พระธรรมใหม่
(นักบุญมัทธิว มาร์โก ลูกา และยอห์น) นั้น เป็นเรื่องของอัศจรรย์ที่พระเยซูทรงแสดง
ต่อสาธารณะชน เป็นเรื่องเหนือกฎเกณฑ์ธรรมชาติ เหนือหลักวิทยาศาสตร์ ในทาง
คริสตศาสนาเราเรียกขนมปังว่า "มานนา" การที่พระเยซูทรงแสดงอัศจรรย์ในที่
ต่าง ๆ ตั้งแต่ การเสกน้ำเป็นเหล้าองุ่น,การรักษาคนตาบอด ล้วนเป็นการประกาศอาณา
จักรสวรรค์สู่มวลมนุษยชาติ
แต่ "แก่น" ของพระวรสารสอนให้เรารู้จัก การให้ การแบ่งบัน และการแก้ปัญหา
ต่าง ๆ ด้วยปัญญาญาณ เพราะพระเยซูทรงอธิฐานต่อพระผู้เป็นเจ้าในการทำ
อัศจรรย์ ครั้งนี้ เป็นที่มาของคำว่า New Mana คือ "ขนมปังที่พระเยซูเจ้าประทาน
ให้จะเป็นการเลี้ยงฉลองปัสกาใหม่"
ศาสนา เป็น เรื่องของความสุขุมคัมภีรภาพ(สุขุมลุ่มลึก) จำต้องใช้ความเข้าใจอย่าง
ถ่องแท้ ใช้หลัก สุ จิ ปุ ลิ(ฟัง คิด ถาม เีขียน) และสำคัญ คือ ความเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจ
และ ความคิดเชิงบวก การอาศัยความเข้าใจแบบ งู ๆ ปลา ๆ แล้วด่วน แล้วด่วนโพนทะนา
ในที่สาธารณะ รังแต่จะเป็นผลลบ ต่อศาสนา หรือทำให้เกิดบาป โดยไม่รู้ตัว ทางคริสต์
เรียก "สุแปร์ติซัง"
"หลักธรรม" หากตีความเพี้้ยนไป จะเป็น โทษมหันต์ ซึ่งเป็น "ภัย" มากกว่า "คุณ"
แบบ นิพาน เป็น อนัตตา(ไม่มีตัวตน) แต่ก็มีคนนำไปตีความ เป็น "อัตตา"(มีตัวตน)
หรือ ญิฮาด ของพี่น้องมุสลิม คือ การต่อสู้เพื่อศาสนา แบบมรณะสักขี ของเรา
แต่ก็มีคนนำไป ตีความเพื่อ ใช้ก่อความรุนแรง
หลักธรรมของทุกศาสนา มีความลุ่มลึก เข้าใจผิดนิดเดียว >>>
เข้ารกเข้าพง นะครัับ!....ในสมัยพุทธกาล ก็มี คือ องคุลิมาล ที่ถูกอาจารย์หลอก
และเข้าใจหลักธรรมผิด ทำให้ต้องฆ่าคนถึง 999 คน ฆ่าจนเป็นบ้า จนคนสุดท้ายที่จะฆ่านั้น
คือ องคุลิมาล จะทำมาตุฆาต(ฆ่าแม่ตนเอง) ดีที่พระพุทธองค์เสด็จมาโปรด
องคุลิมาล จึงบรรลุธรรม
โดย : ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ เดินทางทุกที่ ๆ มีพระองค์
ผมเกรงว่าคุณ Joseph จะเข้าใจคลาดเคลื่อนแล้วหล่ะครับ
การโคลนนิ่ง ภาษาอังกฤษ คือ Cloning มาจากคำว่า Clone ที่ใช้เรียกสิ่งมีชีวิต
ที่สืบพันธุ์นจากระบบไร้เพศ เป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์ หรือ ชีววิทยา การโคลนนิ่ง
ในทางปศุสัตว์ คือ การผลิตสัตว์ให้มีรูปร่างลักษณะแสดงออก (phenotype) และ
ลักษณะพันธุกรรม (genotype) ให้เหมือนเดิมทุกประการ โดยวิธีทำอาจจะทำโดย
การตัดแบ่งตัวอ่อน เรียก "Embryo Splitting" หรือ การย้ายฝากของนิวเคลียส ที่
เรียกว่า "Nuclear Transfer"
ส่วนเรื่องที่พระเยซู ทรงทำอัศจรรย์ เสกขนมปัง 5 ก้อน กับ ปลา 2 ตัวเลี้ยงคน 5 พัน
ที่ถูกบันทึกไว้ ในพระวรสารทั้งพระธรรมเก่า(เฉลยธรรมบัญญัติ 18:15) และ พระธรรมใหม่
(นักบุญมัทธิว มาร์โก ลูกา และยอห์น) นั้น เป็นเรื่องของอัศจรรย์ที่พระเยซูทรงแสดง
ต่อสาธารณะชน เป็นเรื่องเหนือกฎเกณฑ์ธรรมชาติ เหนือหลักวิทยาศาสตร์ ในทาง
คริสตศาสนาเราเรียกขนมปังว่า "มานนา" การที่พระเยซูทรงแสดงอัศจรรย์ในที่
ต่าง ๆ ตั้งแต่ การเสกน้ำเป็นเหล้าองุ่น,การรักษาคนตาบอด ล้วนเป็นการประกาศอาณา
จักรสวรรค์สู่มวลมนุษยชาติ
แต่ "แก่น" ของพระวรสารสอนให้เรารู้จัก การให้ การแบ่งบัน และการแก้ปัญหา
ต่าง ๆ ด้วยปัญญาญาณ เพราะพระเยซูทรงอธิฐานต่อพระผู้เป็นเจ้าในการทำ
อัศจรรย์ ครั้งนี้ เป็นที่มาของคำว่า New Mana คือ "ขนมปังที่พระเยซูเจ้าประทาน
ให้จะเป็นการเลี้ยงฉลองปัสกาใหม่"
ศาสนา เป็น เรื่องของความสุขุมคัมภีรภาพ(สุขุมลุ่มลึก) จำต้องใช้ความเข้าใจอย่าง
ถ่องแท้ ใช้หลัก สุ จิ ปุ ลิ(ฟัง คิด ถาม เีขียน) และสำคัญ คือ ความเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจ
และ ความคิดเชิงบวก การอาศัยความเข้าใจแบบ งู ๆ ปลา ๆ แล้วด่วน แล้วด่วนโพนทะนา
ในที่สาธารณะ รังแต่จะเป็นผลลบ ต่อศาสนา หรือทำให้เกิดบาป โดยไม่รู้ตัว ทางคริสต์
เรียก "สุแปร์ติซัง"
"หลักธรรม" หากตีความเพี้้ยนไป จะเป็น โทษมหันต์ ซึ่งเป็น "ภัย" มากกว่า "คุณ"
แบบ นิพาน เป็น อนัตตา(ไม่มีตัวตน) แต่ก็มีคนนำไปตีความ เป็น "อัตตา"(มีตัวตน)
หรือ ญิฮาด ของพี่น้องมุสลิม คือ การต่อสู้เพื่อศาสนา แบบมรณะสักขี ของเรา
แต่ก็มีคนนำไป ตีความเพื่อ ใช้ก่อความรุนแรง
หลักธรรมของทุกศาสนา มีความลุ่มลึก เข้าใจผิดนิดเดียว >>>
เข้ารกเข้าพง นะครัับ!....ในสมัยพุทธกาล ก็มี คือ องคุลิมาล ที่ถูกอาจารย์หลอก
และเข้าใจหลักธรรมผิด ทำให้ต้องฆ่าคนถึง 999 คน ฆ่าจนเป็นบ้า จนคนสุดท้ายที่จะฆ่านั้น
คือ องคุลิมาล จะทำมาตุฆาต(ฆ่าแม่ตนเอง) ดีที่พระพุทธองค์เสด็จมาโปรด
องคุลิมาล จึงบรรลุธรรม
โดย : ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ เดินทางทุกที่ ๆ มีพระองค์
เรื่องโคลนนิ่งผมก็เคยอ่านมาบ้างครับ แต่ในที่นี้ผมต้องการจะประชดวิทยาศาสตรว่าสิ่งที่วิทยาศาสตร์ทำได้พระองค์ก็เคยทำมาแล้ว แล้วยิ่งกว่านั้นแจ๋วกว่าคือโคลนิ่งสิ่งที่ตายแล้ว อย่างขนมปังแล้วก็ปลาตากแห้งสองตัวที่เด็กผู้ชายผู้ยากจนคนหนึ่งนำติดตัวมาให้เพิ่มจำนวน เป็นการพูดประชดปนสนุกครับไม่ใช่โคลนนิ่งของจริง แต่ที่คุณ peopletribune เขีนมาก็ดีแล้วจะทำให้คนที่เข้ามาอ่านเข้าใจมากขึ้นผมเห็นด้วยครับ
-
- โพสต์: 423
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
- ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa
ขอโทษ คุณJoseph ด้วยครับ ที่ตีประเด็นผิด อำนาจของพระเจ้าเหนือJoseph เขียน:เรื่องโคลนนิ่งผมก็เคยอ่านมาบ้างครับ แต่ในที่นี้ผมต้องการจะประชดวิทยาศาสตรว่าสิ่งที่วิทยาศาสตร์ทำได้พระองค์ก็เคยทำมาแล้ว แล้วยิ่งกว่านั้นแจ๋วกว่าคือโคลนิ่งสิ่งที่ตายแล้ว อย่างขนมปังแล้วก็ปลาตากแห้งสองตัวที่เด็กผู้ชายผู้ยากจนคนหนึ่งนำติดตัวมาให้เพิ่มจำนวน เป็นการพูดประชดปนสนุกครับไม่ใช่โคลนนิ่งของจริง แต่ที่คุณ peopletribune เขีนมาก็ดีแล้วจะทำให้คนที่เข้ามาอ่านเข้าใจมากขึ้นผมเห็นด้วยครับ
วิทยาศาสตร์ และสรรพสิ่งครับ
พระเจ้าอวยพร ครับ!