ไม่ได้ตั้งใจกิน
อ๋อ เมื่อก่อนผมก็เคยแต่ไม่รู้เรื่ิองพระคัมภีร์บอกมาก่อน ผมสำคัญมหากางเขนยกจานขึ้นแล้วบอกว่า"ข้าพเจ้าขอถวายเนื้อหนังของสัตว์นี้คืนแด่พระบิดาผู้ประทานลงมา มิใช่เทพเจ้าอื่นใด อาแมน" แล้วก็กินCherval เขียน:คือ พอทำพิธีเขาจบ ก็จึงนำไก่ต้มกับขนมต้มออกมา อาจารย์บอกกินได้ๆ ผมเลยเข้าไปกิน นึกขึ้นอีกที อยากจะพรวดออกจากปาก พระคัมภีร์เคยบอกว่า "ของซึ่งถวายแก่รูปเคารพแล้วนั้น อย่ากิน"
[/quote]
:s013: 
อร่อยไหมล่ะ 
1คร 10:23-33 แนวปฏิบัติในเรื่องเนื้อที่ถวายแด่รูปเคารพแล้ว
ท่านมักพูดว่า “ข้าพเจ้าทำอะไรได้ทุกอย่าง” แต่ข้าพเจ้าขอบอกว่า “ทุกสิ่งมิใช่มีประโยชน์เสมอไป “ข้าพเจ้าทำได้ทุกอย่างก็จริง แต่ทุกอย่างมิใช่ว่าจะเสริมสร้าง จงอย่าให้ใครเสาะหาผลประโยชน์ส่วนตน แต่จงเสาะหาผลประโยชน์เพื่อผู้อื่น เนื้อทั้งหลายที่มีขายในตลาดนั้น ท่านจงกินโดยไม่ต้องกังวลจนเกิดปัญหาด้าน มโนธรรม เพราะแผ่นดินและทุกสิ่งที่อยู่บนแผ่นดินเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า ถ้าคนต่างศาสนาเชิญท่านไปกินอาหารและท่านต้องการไป จงกินอาหารทุกอย่างที่เขานำมาให้โดยไม่ต้องกังวลในมโนธรรม แต่ถ้าใครบอกท่านว่า เนื้อนี้ได้ถวายแด่รูปเคารพแล้ว จงอย่ากิน เพื่อเห็นแก่ผู้ที่ได้ตักเตือนและเพื่อเห็นแก่มโนธรรม ข้าพเจ้ามิได้หมายถึงมโนธรรมของท่าน แต่หมายถึงมโนธรรมของผู้ที่ตักเตือน บางคนอาจแย้งว่า ทำไมมโนธรรมของเขาจึงจำกัดอิสรภาพของข้าพเจ้าเล่า ถ้าข้าพเจ้ากินอาหารโดยขอบพระคุณพระเจ้า ทำไมข้าพเจ้าต้องถูกตำหนิเพราะอาหารที่ข้าพเจ้าขอบพระคุณนั้นเล่า เมื่อท่านจะกินจะดื่มหรือจะทำอะไรก็ตาม จงกระทำเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าเถิด อย่าทำสิ่งใดให้เป็นที่ขุ่นเคืองใจแก่ผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นชาวยิวหรือชาวกรีก หรือชุมชนของพระเจ้า ข้าพเจ้าพยายามกระทำทุกสิ่งเพื่อเป็นที่พอใจของทุกคน มิได้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน แต่เห็นแก่ประโยชน์ของทุกคน เพื่อเขาจะได้รับความรอดพ้น
ท่านมักพูดว่า “ข้าพเจ้าทำอะไรได้ทุกอย่าง” แต่ข้าพเจ้าขอบอกว่า “ทุกสิ่งมิใช่มีประโยชน์เสมอไป “ข้าพเจ้าทำได้ทุกอย่างก็จริง แต่ทุกอย่างมิใช่ว่าจะเสริมสร้าง จงอย่าให้ใครเสาะหาผลประโยชน์ส่วนตน แต่จงเสาะหาผลประโยชน์เพื่อผู้อื่น เนื้อทั้งหลายที่มีขายในตลาดนั้น ท่านจงกินโดยไม่ต้องกังวลจนเกิดปัญหาด้าน มโนธรรม เพราะแผ่นดินและทุกสิ่งที่อยู่บนแผ่นดินเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า ถ้าคนต่างศาสนาเชิญท่านไปกินอาหารและท่านต้องการไป จงกินอาหารทุกอย่างที่เขานำมาให้โดยไม่ต้องกังวลในมโนธรรม แต่ถ้าใครบอกท่านว่า เนื้อนี้ได้ถวายแด่รูปเคารพแล้ว จงอย่ากิน เพื่อเห็นแก่ผู้ที่ได้ตักเตือนและเพื่อเห็นแก่มโนธรรม ข้าพเจ้ามิได้หมายถึงมโนธรรมของท่าน แต่หมายถึงมโนธรรมของผู้ที่ตักเตือน บางคนอาจแย้งว่า ทำไมมโนธรรมของเขาจึงจำกัดอิสรภาพของข้าพเจ้าเล่า ถ้าข้าพเจ้ากินอาหารโดยขอบพระคุณพระเจ้า ทำไมข้าพเจ้าต้องถูกตำหนิเพราะอาหารที่ข้าพเจ้าขอบพระคุณนั้นเล่า เมื่อท่านจะกินจะดื่มหรือจะทำอะไรก็ตาม จงกระทำเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าเถิด อย่าทำสิ่งใดให้เป็นที่ขุ่นเคืองใจแก่ผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นชาวยิวหรือชาวกรีก หรือชุมชนของพระเจ้า ข้าพเจ้าพยายามกระทำทุกสิ่งเพื่อเป็นที่พอใจของทุกคน มิได้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน แต่เห็นแก่ประโยชน์ของทุกคน เพื่อเขาจะได้รับความรอดพ้น
-
pagorn1174
- โพสต์: 122
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 08, 2012 12:13 pm
- ที่อยู่: House No.157 Village No.3,Thon Samo Sub-district,Tha Chang District,Singburi Province 16140
จากกระทู้ข้างบน
ถ้าคนต่างศาสนาเชิญท่านไปกินอาหารและท่านต้องการไป จงกินอาหารทุกอย่างที่เขานำมาให้โดยไม่ต้องกังวลในมโนธรรม แต่ถ้าใครบอกท่านว่า เนื้อนี้ได้ถวายแด่รูปเคารพแล้ว จงอย่ากิน เพื่อเห็นแก่ผู้ที่ได้ตักเตือนและเพื่อเห็นแก่มโนธรรม ข้าพเจ้ามิได้หมายถึงมโนธรรมของท่าน แต่หมายถึงมโนธรรมของผู้ที่ตักเตือน
ในความคิดผม ผมว่า ในเมื่อไม่มีใครห้ามเรา มันก็น่าจะไม่เป็นไร นะครับ
ถ้าคนต่างศาสนาเชิญท่านไปกินอาหารและท่านต้องการไป จงกินอาหารทุกอย่างที่เขานำมาให้โดยไม่ต้องกังวลในมโนธรรม แต่ถ้าใครบอกท่านว่า เนื้อนี้ได้ถวายแด่รูปเคารพแล้ว จงอย่ากิน เพื่อเห็นแก่ผู้ที่ได้ตักเตือนและเพื่อเห็นแก่มโนธรรม ข้าพเจ้ามิได้หมายถึงมโนธรรมของท่าน แต่หมายถึงมโนธรรมของผู้ที่ตักเตือน
ในความคิดผม ผมว่า ในเมื่อไม่มีใครห้ามเรา มันก็น่าจะไม่เป็นไร นะครับ
ถ้าสรุปจากบทจดหมายนักบุญเปาโลที่ยกมา คือpagorn1174 เขียน:จากกระทู้ข้างบน
ถ้าคนต่างศาสนาเชิญท่านไปกินอาหารและท่านต้องการไป จงกินอาหารทุกอย่างที่เขานำมาให้โดยไม่ต้องกังวลในมโนธรรม แต่ถ้าใครบอกท่านว่า เนื้อนี้ได้ถวายแด่รูปเคารพแล้ว จงอย่ากิน เพื่อเห็นแก่ผู้ที่ได้ตักเตือนและเพื่อเห็นแก่มโนธรรม ข้าพเจ้ามิได้หมายถึงมโนธรรมของท่าน แต่หมายถึงมโนธรรมของผู้ที่ตักเตือน
ในความคิดผม ผมว่า ในเมื่อไม่มีใครห้ามเรา มันก็น่าจะไม่เป็นไร นะครับ
กินได้ทั้งนั้นครับถ้าเราไม่ใส่ใจและคิดว่ามันแค่เนื้อ ให้สวดขอบคุณพระเจ้าขอพระเจ้าชำระและอวยพรแล้วกินไปเหมือนอาหารทั่วไปครับ แต่ถ้ามีคนสะดุดและมาเตือน ให้เห็นแก่ผู้ตักเตือนคือไม่ต้องกินครับ เพราะในสมัยพระธรรมเดิมชาวยิวไม่กินเนื้อที่ถวายแก่รูปคารพเพราะถือว่าเป็นการร่วมนมัสการรูปเคารพครับ
