2 สัปดาห์ก่อนผมได้รับแจ้งจากที่ทำงานว่ามีงานออกหน่วยนอกสถานที่ๆต่างจังหวัด แต่ไม่ทราบว่าไปที่ไหน เดาว่าคงเป็นพื้นที่ในเขตมิสซังโคราชที่ผมอยู่อาจจะต้องเดินทางอย่างไกลสุดคงไม่เกิน 200 กม. มีพี่พยาบาลคาทอลิกที่ทำงานรพ.เดียวกันมาบอกว่าสงสัยจะได้ไปอำนาจเจริญ ตอนแรกผมก็คิดว่าคงไม่น่าจะใช่เพราะเป็นคนละมิสซังกัน และงานนี้เป็นคิวทำงานนอกสถานที่ของผมพอดี น่าจะเป็นงานหารายได้ให้รพ.ไม่ใช่งานการกุศล
ปรากฏว่าสัปดาห์ที่แล้วผมได้รับแจ้งยืนยันว่าสถานที่ๆได้รับมอบหมายให้ไปออกหน่วยให้บริการตรวจสุขภาพเป็นวัดคาทอลิกชื่อวัดนักบุญเปาโลกลับใจ อยู่ที่ บ.นาดูน ต.เปือย อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ จริงๆ สรุปว่างานนี้ไปฟรี แถมบอกว่าจะออกเดินทางกันตอนตี 3 เพื่อไปให้ทันมิสซาเช้าวันอาทิตย์เสร็จพิธีแล้วก็จะได้ให้บริการชาวบ้านสัตบุรุษที่นั่นแล้วก็ออกเดินทางกลับโคราชคงกลับมาถึงค่ำๆ แค่ฟังก็เหนื่อยแล้วครับ
พ่อแม่ผมซึ่งเป็นสัตบุรุษวัดเซนต์จอห์นปากทางลาดพร้าวจะเดินทางมาเยี่ยมผมกะครอบครัวช่วงเสาร์อาทิตย์นี้พอดี ท่านบอกว่าสนใจร่วมเดินทางไปกับผมด้วยอีกตะหาก
ขอบคุณพระเจ้าสำหรับภารกิจแห่งความรัก ณ จ.อำนาจเจริญ
จริงๆแล้วไปฟรีหนะไม่ใช่เรื่องซีเรียสอะไรสำหรับผมเลยเพราะปกติถ้าไม่ติดงานหรือธุระจำเป็นผมจะไปออกหน่วยตรวจสุขภาพและฝังเข็มให้พี่น้องสัตบุรุษในเขตมิสซังโคราชตามงานฉลองวัดแล้ว แต่งานนี้ต้องไปไกลนอกเขตมิสซัง แถมต้องเดินทางกลางดึกอำตะหาก
อย่างไรก็ตามผมได้รับแจ้งอีกทีเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาว่าทีมเวชบุคคลคาทอลิกรพ.เซนต์เมรี่(โคราช)จะเดินทางกันตอนบ่ายวันเสาร์ที่ 16 พ.ย.โดยรถมินิบัสของบ้านเณรกลาง และจะไปค้างแรมที่บริเวณวัดดังกล่าว (ยังไม่ทราบว่าพักที่ไหน อาจจะเป็น home stay หรือนอนอัดกันในบ้านพักพระสงฆ์ก็ได้) พ่อแม่ผมเลยบอกว่าเราไปหาที่พักในตัวเมืองใกล้ๆน่าจะดีกว่าและขับรถไปกันเอง คุณแม่ผมมีปัญหาปวดหลังเรื้อรังหากนั่งไปกับรถมินิบัสอาจจะกระเทือนมาก เราก็เลยตกลงกันจะขับรถไปกันเอง 3 คนพ่อแม่ลูก โดยผมได้บอกภรรยาไว้ก่อนว่าจะไปปฏิบัติภารกิจนี้กับทางรพ.ซึ่งเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรที่จะต้องอยู่เฝ้าบ้านกับลูกสาวผม
จริงๆผมก็อยากให้เธอกับลูกนั่งรถไปด้วยกัน ไหนๆเราก็จะขับรถไปเอง เสียค่าโรงแรมเพิ่มอีกห้องก็ไม่ได้แพงมากมายอะไร แต่เท่าที่ผมทราบอยู่เดิมนั้นภรรยาผมไม่ค่อยอยากจะเดินทางไปไหนกับครอบครัวเดิมผมเท่าไหร่นัก และผมก็ไม่กล้าขอให้เธอไปด้วย
อย่างไรก็ตามผมได้รับแจ้งอีกทีเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาว่าทีมเวชบุคคลคาทอลิกรพ.เซนต์เมรี่(โคราช)จะเดินทางกันตอนบ่ายวันเสาร์ที่ 16 พ.ย.โดยรถมินิบัสของบ้านเณรกลาง และจะไปค้างแรมที่บริเวณวัดดังกล่าว (ยังไม่ทราบว่าพักที่ไหน อาจจะเป็น home stay หรือนอนอัดกันในบ้านพักพระสงฆ์ก็ได้) พ่อแม่ผมเลยบอกว่าเราไปหาที่พักในตัวเมืองใกล้ๆน่าจะดีกว่าและขับรถไปกันเอง คุณแม่ผมมีปัญหาปวดหลังเรื้อรังหากนั่งไปกับรถมินิบัสอาจจะกระเทือนมาก เราก็เลยตกลงกันจะขับรถไปกันเอง 3 คนพ่อแม่ลูก โดยผมได้บอกภรรยาไว้ก่อนว่าจะไปปฏิบัติภารกิจนี้กับทางรพ.ซึ่งเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรที่จะต้องอยู่เฝ้าบ้านกับลูกสาวผม
จริงๆผมก็อยากให้เธอกับลูกนั่งรถไปด้วยกัน ไหนๆเราก็จะขับรถไปเอง เสียค่าโรงแรมเพิ่มอีกห้องก็ไม่ได้แพงมากมายอะไร แต่เท่าที่ผมทราบอยู่เดิมนั้นภรรยาผมไม่ค่อยอยากจะเดินทางไปไหนกับครอบครัวเดิมผมเท่าไหร่นัก และผมก็ไม่กล้าขอให้เธอไปด้วย
ดูเหมือนลูกสาววัย 3 ขวบของผมจะดีใจมากที่คุณปู่คุณย่าเดินทางมาหาจากกทม.ซึ่งท่านมาถึงเมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ 15 นี่เอง ผมก็นั่งนึกในใจภาวนาขอพระอยากให้มีสันติสุขในครอบครัว อยากให้เข้าใจและยอมรับกันมากขึ้นที่ผ่านมาก็มีปัญหาความคิดเห็นไม่ตรงกันอยู่บ้าง ผมนึกกังวลในใจว่าถ้าลูกผมเจอคุณปู่คุณย่าตอนเย็นวันศุกร์แล้วบ่ายวันเสาร์เธอต้องอยู่กับแม่ 2 คน และพ่อกับปู่ย่าเดินทางไปอำนาจเจริญกัน 3 กัน เธออาจจะร้องไห้ตามเป็นชั่วโมงเลยก็ได้
ปรากฏว่าตอนสายๆของวันเสาร์เมื่อวานนี้อย่างไม่คาดฝันภรรยาผมกลับออกปากขอเดินทางไปด้วย เพราะเธอสงสารที่ลูกต้องร้องไห้ตามปู่กะย่าแน่ๆและเธอเบื่อเหมือนกันที่ต้องอยู่รออยู่กับลูกสองคน หลังเสร็จธุระช่วงเช้าเราออกเดินทางเกือบบ่ายสองมุ่งตรงสู่ จ.อำนาจเจริญ ระยะทางประมาณ 330 กม.จากโคราช ลูกสาวผมเธอโลดเต้นยินดีมากที่ได้เดินทางไปกับปู่และย่า คุยเล่นหัวเราะร่าไปเกือบตลอดทางหลับกลางวันไปนิดหน่อยเท่านั้น
เลยจากตัว จ.ยโสธรไปหน่อยก็เริ่มมืด และเรามาถึงตัว จ.อำนาจเจริญ ตอนทุ่มกว่าๆ และเข้าพักที่โรงแรมแอลเจฯซึ่งผมหาเจอในอินเตอร์เนตแต่ก็ไม่ได้จองไว้ก่อนดีที่ห้องไม่เต็ม (มันเต็มหลังเราตัดสินใจและจ่ายค่าห้องแค่ไม่กี่นาที)
ปรากฏว่าตอนสายๆของวันเสาร์เมื่อวานนี้อย่างไม่คาดฝันภรรยาผมกลับออกปากขอเดินทางไปด้วย เพราะเธอสงสารที่ลูกต้องร้องไห้ตามปู่กะย่าแน่ๆและเธอเบื่อเหมือนกันที่ต้องอยู่รออยู่กับลูกสองคน หลังเสร็จธุระช่วงเช้าเราออกเดินทางเกือบบ่ายสองมุ่งตรงสู่ จ.อำนาจเจริญ ระยะทางประมาณ 330 กม.จากโคราช ลูกสาวผมเธอโลดเต้นยินดีมากที่ได้เดินทางไปกับปู่และย่า คุยเล่นหัวเราะร่าไปเกือบตลอดทางหลับกลางวันไปนิดหน่อยเท่านั้น
เลยจากตัว จ.ยโสธรไปหน่อยก็เริ่มมืด และเรามาถึงตัว จ.อำนาจเจริญ ตอนทุ่มกว่าๆ และเข้าพักที่โรงแรมแอลเจฯซึ่งผมหาเจอในอินเตอร์เนตแต่ก็ไม่ได้จองไว้ก่อนดีที่ห้องไม่เต็ม (มันเต็มหลังเราตัดสินใจและจ่ายค่าห้องแค่ไม่กี่นาที)
เช้านี้ต้องตื่นกันแต่เช้าเพราะต้องรีบไปให้ทันมิสซาเช้าที่วัดนักบุญเปาโลกลับใจ อ.ลืออำนาจ ตอน 7 น.สุดท้ายเราก็ไม่ทันเวลาสายไปราวๆสิบกว่านาทีแต่ปรากฏว่ามิสซาวันนี้ก็เริ่มไม่ตรงเวลาเหมือนกัน (เหมือนตั้งใจรอเลย)
งานนี้เรื่องมีอยู่ว่าคุณพ่อรองอธิการบ้านเณรกลางคือ คพ.อัครเดช วงศ์อนันต์ เป็นสัตบุรุษวัดแห่งนี้ และท่านเล็งเห็นว่าพี่น้องสัตบุรุษที่นี่เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องความเชื่อความศรัทธาจึงได้จัดให้บรรดาน้องๆเณรกลางทั้ง 12 คนที่กำลังศึกษาที่บ้านเณรกลางโคราชเดินทางมาออกค่ายช่วยชาวบ้านสัตบุรุษที่นี่เกี่ยวข้าวเป็นเวลา 20 วัน และได้ขอแรงชาวเวชบุคคลคาทอลิกรพ.เซนต์เมรี่มาให้บริการออกหน่วยในวันนี้
งานนี้เรื่องมีอยู่ว่าคุณพ่อรองอธิการบ้านเณรกลางคือ คพ.อัครเดช วงศ์อนันต์ เป็นสัตบุรุษวัดแห่งนี้ และท่านเล็งเห็นว่าพี่น้องสัตบุรุษที่นี่เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องความเชื่อความศรัทธาจึงได้จัดให้บรรดาน้องๆเณรกลางทั้ง 12 คนที่กำลังศึกษาที่บ้านเณรกลางโคราชเดินทางมาออกค่ายช่วยชาวบ้านสัตบุรุษที่นี่เกี่ยวข้าวเป็นเวลา 20 วัน และได้ขอแรงชาวเวชบุคคลคาทอลิกรพ.เซนต์เมรี่มาให้บริการออกหน่วยในวันนี้
ชาวบ้านนาดูน ที่ ต.เปือย อ.ลืออำนาจ นี้นับถือคาทอลิกกันทั้งหมู่บ้านเลยครับ (คล้ายๆบางหมู่บ้านที่ผมเคยไปฉลองวัดในเขตมิสซังโคราช)
มิสซาวันนี้คพ.เจ้าวัดไม่ได้อยู่ทำมิสซาแต่มอบให้คพ.อัครเดช วงศ์อนันต์ และ คพ.สุเทพ วนพงษ์ทิพากร อธิการบ้านเณกลางโคราชซึ่งเดินทางมาเมื่อวานพร้อมกับคณะจากรพ. ทำมิสซาแทน หลังมิสซามีการถ่ายรูปกันกับบรรดาสัตบุรุษ บ้านนาดูน ของเรา จากนั้นให้สัตบุรุษไปตรวจเลือดปลายนิ้วคัดกรองเบาหวานกันก่อนอาหารเช้า
อาหารที่ชาวบ้านสัตบุรุษเตรียมไว้ต้อนรับเช้านี้เรียกว่าเป็นอาหารอีสานแบบชนิดจัดเต็มมาเลยทีเดียว มีทั้งปลากระทิงทอด เนื้อเค็มทอด หม่ำเนื้อ ดอกแคต้ม แจ่ว แจ่วบอง และไข่ดาวไว้กินแก้เผ็ด (ถ้ามีเวลาผมจะเอารูปมาลงให้ดูนะครับ)
กว่าจะเริ่มปฏิบัติภารกิจเป็นเรื่องเป็นราวก็เริ่มสายแล้วดีที่วันนี้อากาศไม่ร้อนและไม่มีฝน ผมไม่ได้นับว่าตรวจสัตบุรุษเราไปกี่คนมีชาวบ้านใกล้เคียงมาขอใช้บริการด้วยนิดหน่อย ผมได้ฝังเข็มให้ผู้ป่วยไปพอสมควร (ไม่ได้นับเหมือนกัน น่าจะไม่น้อยกว่าสิบราย) ส่วนมากชาวบ้านเราๆจะมีปัญหาปวดหลังซึ่งเกิดจากการทำงานหนักมาเป็นเวลานานและการยกของหนักในท่าก้มซึ่งทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อกล้ามเนื้อและเส้นประสาทไขสันหลังได้ง่าย ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงเกี่ยวข้าวก้มๆเงยๆกันอีกด้วย ผมไม่มีเวลาคุยกับผู้ป่วยว่าฝังเข็มแล้วดีขึ้นมากไหมเพราะต้องทำเวลาเดี๋ยวจะกลับค่ำเกิน จริงๆของผมไม่เท่าไหร่แต่พ่อแม่ผมท่านต้องเดินทางต่อเข้ากทม.เพราะคุณพ่อผมมีภารกิจแต่เช้าพรุ่งนี้เหมือนกัน
กลับถึงโคราชลูกสาวผมเริ่มงอแงเมื่อทราบว่าคุณปู่คุณย่าจะรีบกลับกทม.แต่ภรรยาผมพาออกไปดูงานลอยกระทงที่ อบต.ใกล้บ้านเลยหยุดร้องไปได้
ต้องขอบคุณองค์พระจิตเจ้าที่ทรงบันดาลให้ทุกอย่างในทริปนี้ราบรื่นอย่างยิ่งเลยครับ และขอพระองค์คุ้มครองและอวยพรแก่ทีมของพวกเราที่จะไป บ.ดินขาว อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ กันในสัปดาห์ต่อไปนี้ด้วยเทอญ (ปีนี้ผมไม่ได้ไปร่วมเหมือนปีที่แล้วทำเพียงขอสปอนเซอร์ให้เท่านั้นครับ)
มิสซาวันนี้คพ.เจ้าวัดไม่ได้อยู่ทำมิสซาแต่มอบให้คพ.อัครเดช วงศ์อนันต์ และ คพ.สุเทพ วนพงษ์ทิพากร อธิการบ้านเณกลางโคราชซึ่งเดินทางมาเมื่อวานพร้อมกับคณะจากรพ. ทำมิสซาแทน หลังมิสซามีการถ่ายรูปกันกับบรรดาสัตบุรุษ บ้านนาดูน ของเรา จากนั้นให้สัตบุรุษไปตรวจเลือดปลายนิ้วคัดกรองเบาหวานกันก่อนอาหารเช้า
อาหารที่ชาวบ้านสัตบุรุษเตรียมไว้ต้อนรับเช้านี้เรียกว่าเป็นอาหารอีสานแบบชนิดจัดเต็มมาเลยทีเดียว มีทั้งปลากระทิงทอด เนื้อเค็มทอด หม่ำเนื้อ ดอกแคต้ม แจ่ว แจ่วบอง และไข่ดาวไว้กินแก้เผ็ด (ถ้ามีเวลาผมจะเอารูปมาลงให้ดูนะครับ)
กว่าจะเริ่มปฏิบัติภารกิจเป็นเรื่องเป็นราวก็เริ่มสายแล้วดีที่วันนี้อากาศไม่ร้อนและไม่มีฝน ผมไม่ได้นับว่าตรวจสัตบุรุษเราไปกี่คนมีชาวบ้านใกล้เคียงมาขอใช้บริการด้วยนิดหน่อย ผมได้ฝังเข็มให้ผู้ป่วยไปพอสมควร (ไม่ได้นับเหมือนกัน น่าจะไม่น้อยกว่าสิบราย) ส่วนมากชาวบ้านเราๆจะมีปัญหาปวดหลังซึ่งเกิดจากการทำงานหนักมาเป็นเวลานานและการยกของหนักในท่าก้มซึ่งทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อกล้ามเนื้อและเส้นประสาทไขสันหลังได้ง่าย ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงเกี่ยวข้าวก้มๆเงยๆกันอีกด้วย ผมไม่มีเวลาคุยกับผู้ป่วยว่าฝังเข็มแล้วดีขึ้นมากไหมเพราะต้องทำเวลาเดี๋ยวจะกลับค่ำเกิน จริงๆของผมไม่เท่าไหร่แต่พ่อแม่ผมท่านต้องเดินทางต่อเข้ากทม.เพราะคุณพ่อผมมีภารกิจแต่เช้าพรุ่งนี้เหมือนกัน
กลับถึงโคราชลูกสาวผมเริ่มงอแงเมื่อทราบว่าคุณปู่คุณย่าจะรีบกลับกทม.แต่ภรรยาผมพาออกไปดูงานลอยกระทงที่ อบต.ใกล้บ้านเลยหยุดร้องไปได้
ต้องขอบคุณองค์พระจิตเจ้าที่ทรงบันดาลให้ทุกอย่างในทริปนี้ราบรื่นอย่างยิ่งเลยครับ และขอพระองค์คุ้มครองและอวยพรแก่ทีมของพวกเราที่จะไป บ.ดินขาว อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ กันในสัปดาห์ต่อไปนี้ด้วยเทอญ (ปีนี้ผมไม่ได้ไปร่วมเหมือนปีที่แล้วทำเพียงขอสปอนเซอร์ให้เท่านั้นครับ)