แปลและเรียบเรียงโดย สนธิ สารธรรม
(12 สิงหาคม 1932)
"ทุกคนที่เรียกเราว่า "พระบิดา" แม้เพียงครั้งเดียวจะไม่พินาศ แต่จงมั่นใจได้เลยว่า เขาจะมีชีวิต
นิรันดร์ร่วมกับบรรดาชาวสวรรค์"
เราเพิ่งได้เปิดน้ำพุแห่งชีวิตขึ้น เป็นน้ำพุซึ่งจะไม่มีวันเหือดแห้ง นับตั้งแต่วันนี้ไปจวบจนอวสานกาล
เรากำลังมาหาลูกผู้เป็นสิ่งสร้างของเรา เพื่อเผยความในใจอันเปี่ยมด้วยความรักที่เรามีต่อลูก เราต้องการ
ให้ลูกเป็นพยานยืนยัน ถึงความรักอันไร้ขอบเขต และเปี่ยมด้วยความเมตตาของเรา เพียงได้แสดงให้ลูก
เห็นความรักของเรานั้น ยังไม่เพียงพอสำหรัเรา เรายังปรารถนาจะเปิดดวงใจของเราที่ซึ่งน้ำพุอันสดชื่น
จะไหลพวยพุ่งออกมา และมนุษย์จะได้ดับความกระหายของเขา เมื่อนั้น พวกเขาจะได้พบความปีติยินดี
อย่างที่ไม่เคยรู้จักจนถึงบัดนี้ ทั้งนี้ เพราะพวกเขาถูกครอบงำด้วยความกลัวบิดาผู้อ่อนโยนของเขาจนเกินเหตุ
นับตั้งแต่ครั้งที่เราได้สัญญากับมนุษย์ว่าจะส่งพระผู้ไถ่มาให้ เราได้ให้น้ำพุนี้ไหลพรั่งพรูออกมา
(คุณแม่เอวเจนิอาบันทึกว่า "ดิฉันสามารถมองเห็นน้ำพุนี้ได้ทุกวัน นับตั้งแต่ครั้งแรกที่พระองค์ได้ตรัสถึง)
เราได้ให้น้ำพุนี่ไหลผ่านดวงหฤทัยของพระบุตร โดยการเปิดทรวงอกของเรามายังลูก แต่ความรักอันยิ่งใหญ่
ที่มีต่อลูกทำให้เราต้องทำมากไปกว่านั้นอีก โดยการเปิดทรวงอกของเราให้น้ำพุแห่งความรอดพ้นไหลพุ่ง
ออกมาเพื่อลูกๆ ของเรา และเราอนุญาตให้พวกเขาตักตวงทุกสิ่งที่เขาต้องการได้อย่างเสรี ทั้งในเวลานี้
และตลอดนิรันดร
หากลูกปรารถนาจะทดสอบพลังของน้ำพุที่เรากำลังกล่าวถึงนี้ สิ่งแรกที่ลูกจะต้องทำคือ เรียนรู้ที่จะรู้จัก
เราให้มากกว่านี้ และรักเราอย่างที่เราปรารถนา นั่นคือ มิใช่เพียงในฐานะบิดาเท่านั้น แต่ในฐานะเพื่อน และ
ผู้ที่ลูกไว้เนื้อเชื่อใจที่สุด
ทำไมลูกจึงประหลาดใจในสิ่งที่เรากำลังพูดถึง เรามิได้สร้างลูกขึ้นมาตามภาพลักษณ์ของเราดอกหรือ
เราได้ทำดังนี้เพื่อลูกจะได้ไม่รู้สึกแปลก เมื่อลูกพูดคุยอย่างสนิทสนมกับพระบิดาของลูก พระผู้สร้างและพระเจ้า
ของลูก ลูกได้กลายเป็นบุตรของพระบิดาและพระผู้เป็นเจ้า โดยผ่านความดีงามอันเปี่ยมด้วยความเมตตาของเรา
พระเยซูบุตรของเราสถิตในเรา และเราก็สถิตในพระองค์ ท่ามกลางความรักระหว่างเรา คือพระจิตเจ้า
ผู้ทรงรวมเราไว้ในพันธนาการแห่งความรักที่ทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกัน
พระบุตรของเราคือภาชนะรองรับน้ำพุนี้ ซึ่งมนุษย์อาจจะเข้าไปหา และตักตวงจากดวงพระทัยของพระองค์
เอ่อล้นด้วยน้ำแห่งความรอดพ้นนี้อยู่ตลอดเวลา แต่ลูกต้องมั่นใจว่าน้ำพุของพระบุตรของเราประทานให้ลูกนี้
มีอยู่จริง เพื่อลูกจะได้ให้ความมั่นใจแก่ตัวลูกได้เองว่า น้ำนั้นสดชื่นและน่าดื่มยิ่งนัก ดังนั้น จงมาหาเราผ่าน
ทางพระบุตรของเราเถิด และเมื่อลูกอยู่ใกล้ชิดกับเราแล้ว จงมอบความต้องการของลูกแก่เรา เราจะให้ลูก
เห็นน้ำพุบ่อนี้ และทำให้เราเป็นที่รู้จักของลูกอย่างที่เราเป็น เมื่อลูกรู้จักเราแล้ว ความกระหายของลูกจะดับลง
และกลับมามีชีวิตชีวา ความเจ็บป่วยของลูกจะได้รับการรักษา ความกลัวของลูกจะอันตรธานไป ความชื่นชม
ยินดีของลูกจะยิ่งใหญ่ขึ้น และความรักของลูกจะมั่นคงยิ่งขึ้นกว่าที่ได้เคยเป็นมา
แต่ลูกคงจะถามเราว่า ลูกจะเข้ามาหาเราได้อย่างไร? ลูกจงเข้ามาหาเราโดยทางแห่งความเชื่อมั่นเถิด
จงเรียกเราว่าพระบิดาของลูก รักเราทั้งด้วยจิตวิญญาณและความจริง เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้น้ำพุ
ที่สดชื่นและทรงพลังนี้ดับความกระหายของลูกได้
แต่ถ้าลูกปรารถนาจะได้รับสิ่งที่ลูกต้องการจากน้ำพุแห่งนี้อย่างแท้จริงแล้ว เพื่อจะได้รู้จักและรักเรา
หากลูกรู้สึกสิ้นหวัง จงเรียกเราด้วยนามอันไพเราะว่า "พระบิดา" และเราจะมาหาลูก น้ำพุของเราจะให้ความรัก
ความวางใจ และทุกสิ่งที่ลูกต้องการ เพื่อให้ลูกเป็นที่รักของพระบิดา และพระผู้สร้างของลูกตลอดกาล
ดังที่เราปรารถนาอย่างยิ่งที่จะให้ลูกทั้งหลายรู้จักเรา เพื่อลูกทุกคนจะสามารถชื่นชมยินดีในความดี
และความอ่อนโยนของเราตั้งแต่อยู่ในโลกนี้ จงปฏิบัติตนเป็นธรรมทูตต่อผู้ที่ยังไม่รู้จักเรา แล้วเราจะอวยพร
ความเหนื่อยยาก และความพยายามของลูก เราจะจัดเตรียมเกียรติมงคลอันยิ่งใหญ่ไว้ให้ลูก ร่วมกับเรา
ตลอดนิรันดร
ลูกๆ ของเราทั้งหลาย เราคือมหาสมุทรแห่งความรักและเมตตา และนี่คือข้อพิสูจน์อีกประการหนึ่ง
ถึงความรักฉันบิดาที่เรามีต่อลูกทุกๆ คน โดยไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นวัย สถานภาพ หรือประเทศชาติ
ของลูก หรือแม้แต่คนที่แตกต่างกัน ลัทธิต่างๆ พวกที่มีความเชื่อ พวกที่ไม่มีความเชื่อ หรือพวกที่ไม่สนใจ
อะไรเลย เรารวบรวมสิ่งสร้างที่มีสติปัญญาทั้งหลาย ซึ่งประกอบกันเป็นมนุษยชาติเอาไว้ในความรักนี้
นี่คือข้อพิสูจน์ว่าเราเป็นมหาสมุทรแห่งความรัก และเมตตา เราได้แสดงให้ลูกเห็นสิ่งซึ่งหลั่งไหล
ออกมาจากทรวงอกของเรา เพื่อดับกระหายของลูก บัดนี้ เราจะแสดงให้เห็นมหาสมุทรแห่งความรักและ
เมตตาสำหรับมวลมนุษย์ เพื่อให้ลูกเห็นความดีของเราที่มีต่อทุกคน ลูกอาจจะพุ่งดิ่งลงในมหาสมุทรนี้ได้
โดยไม่ต้องคิดอะไรเลย ทำไมน่ะหรือ? ทั้งนี้เพราะว่าการกระโดดลงในมหาสมุทรนี้ จะทำให้วิญญาณซึ่งขมขื่น
ด้วยความผิดบาปต่างๆ สามารถทิ้งความขมขื่นนั้นไว้ในห้วงน้ำแห่งความรักนี้ เขาทั้งหลายจะขึ้นจากม
หาสมุทรแห่งนี้ แล้วรู้สึกดีขึ้น มีความสุขที่ได้เรียนรู้ถึงการเป็นคนดี และมีเมตตาจิต หากลูกพลาดและล้มลง
ในความขมขื่นนี้อีกเพราะความเขลาหรือความอ่อนแอ เราก็ยังคงเป็นมหาสมุทรแห่งความรัก และเมตตา
และความดีงาม และทำให้ลูกศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกับเรา ผู้เป็นบิดาของลูก
ลูกทั้งหลาย ลูกต้องการดำรงชีวิตอยู่บนโลกนี้อย่างมีสันติสุข และเปี่ยมด้วยความปีติยินดีไหม?
มาสิ และทิ้งตัวลูกลงสู่มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ และคงอยู่ในที่นั้นตลอดไป ขณะที่ลูกทำงาน และ
ดำเนินชีวิตตามปรกติ ชีวิตของลูกจะได้ศักดิ์สิทธิ์ด้วยความรักและความเมตตา สำหรับลูกๆ ผู้ไม่ได้ดำเนิน
ชีวิตตามสัจธรรมนั้น เรายังปรารถนาจะโอบอุ้มพวกเขาไว้ภายใต้ความรักฉันบิดาของเรา เพื่อว่าพวกเขา
จะเปิดตารับแสงสว่าง ซึ่งบัดนี้ส่องเจิดจ้ายิ่งกว่าแต่ก่อน
นี่คือยุคแห่งพระหรรษทานซึ่งเป็นที่รู้ และรอคอยกันมาตั้งแต่บรรพกาล เราอยู่ที่นี่เพื่อพูดกับลูก
เรามาหาลูกเยี่ยงบิดาที่อ่อนโยน และรักลูกมากที่สุด เราก้มลงมาหาลูกอย่างไม่ถือตน เพื่อยกลูกขึ้นมาหาเรา
และเพื่อช่วยลูกให้รอดพ้น ลูกทุกคนที่กำลังมีชีวิตอยู่ในศตวรรษต่อๆ ไป จวบจนสิ้นโลก จงจำไว้ว่า ลูกมิได้
อยู่เพียงลำพัง ยังมีบิดาผู้หนึ่งที่กำลังคิดถึงลูก และให้ลูกได้มีอภิสิทธิ์ในความรักของพระองค์ จงเข้ามาหา
น้ำพุซึ่งไหลออกจากดวงหทัยของพระบิดาผู้นี้ตลอดกาล จงลิ้มรสชาติแห่งความสุขตามที่ลูกต้องการแล้ว
จงเข้ามาและลงมาสู่มหาสมุทรแห่งความรักของเรา เพื่อที่ลูกจะมีชีวิตอยู่แต่ในเรา เพื่อตายต่อตนเองและ
มีชีวิตนิรันดรในเรา (คุณแม่เอวเจนิอาบันทึกว่าพระบิดาของเราตรัสกับดิฉันอย่างสนิทสนมว่า "น้ำพุนี้คือ
สัญลักษณ์แห่งความรู้ของเรา มหาสมุทรคือสัญลักษณ์ของความรักและเมตตาของเรา และความวางใจ
ของลูก เมื่อลูกปรารถนาจะดื่มน้ำพุนี้ จงศึกษาเราเพื่อจะได้รู้จักเรา และเมื่อลูกรู้จักเราแล้ว จงกระโจนลง
สู่มหาสมุทรแห่งความรักและเมตตาของเรา วางใจในเราด้วยความเชื่อมั่นอย่างลึกซึ้ง จนกระทั่งก่อให้เกิด
การเปลี่ยนแปลงในตัวลูก ดังนี้ เราจะไม่สามารถขัดขืนลูกได้ เราจะให้อภัยความผิดพลาดทั้งปวงของลูก
และจะประทานพระพรอันยิ่งใหญ่ให้แก่ลูก)