โดย สนธิ สารธรรม
ผู้เขียนมีเพื่อนชาวยิวผู้หนึ่งชื่อ Mr. Uzi Vered เป็นเจ้าของบริษัททัวร์ในเทลอาวิฟ อิสราเอล
เขาต้องไป ๆ มา ๆ เป็นประจำระหว่างเทลอาวิฟ กรุงเทพฯ เพราะต้องมารับนักศึกษาไทยอาสาสมัคร
ที่จะไปทำงานในโมช้าฟ อิสราเอล เมื่อวันที่ 18 มกราคม 1991 เราพบกันอีก ผู้เขียนคุยกับเขาในเชิง
ปรารภว่า น่ากลัวอิรักจะดึงอิสราเอลเข้าไปพัวพันด้วยแน่ ๆ เขาตอบว่าอย่างไรก็ตามอิสราเอลจะไม่มี
ทางแพ้ แต่อิรักนั่นแหละจะไม่เหลือซาก ไม่ใช่เพราะพันธมิตรมีมากประเทศกว่า แต่เพราะพระคัมภีร์
กล่าวไว้อย่างนั้น แล้วเขาก็ให้ผู้เขียนกลับบ้านไปเปิดพระคัมภีร์ในพันธสัญญาเดิมของโปรเฟท เจเรมีย์
บทที่ 51 ผู้เขียนนึกชมชาวยิวในใจที่เขามีศรัทธามั่นในพระเจ้าเสียจริง ๆ นึกไม่ถึงว่านักธุรกิจยุคไฮเทค
จะแม่นพระคัมภีร์ไม่แพ้พระรับไบผู้ทรงศีลทีเดียว
ประกาศก หรือโปรเฟท เจเรมีย์เกิดประมาณปี 646 ก่อน ค.ศ. จากตระกูลสงฆ์ในเยรูซาเล็ม เพราะ
มีบันทึกประวัติของท่านไว้ในหนังสือของท่านเอง ท่านมีชีวิตอยู่ก่อนและหลังที่แคว้นยูดาและเยรูซาเล็มถูก
ทำลาย พระวิหารเยรูซาเล็มถูกเผาในปี 587 ก่อน ค.ศ. ชาวยิวจำนวนหนึ่งถูกขับเป็นเชลย เจเรมีย์คงอยู่
ที่เยรูซาเล็ม และเทศน์สอนตักเตือน ทั้ง "ขู่และปลอบ" ชาวอิสราเอลที่ยังเหลืออยู่
พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า "ดูเถิด เราจะปลุกวิญญาณของผู้ทำลายต่อสู้กับบาบิโลน ต่อสู้กับชาวประเทศเคลเดีย
เราจะส่งผู้ฝัดไปยังบาบิโลน และเขาทั้งหลายจะฝัดมัน และเขาทั้งหลายจะไม่ให้แผ่นดินของมันว่างเปล่า เมื่อ
เขาทั้งหลายมาล้อมมันไว้ทุกด้าน ในวันแห่งความยากลำบาก อย่าให้นักธนูโก่งคันธนูได้ อย่าให้เขาสวมเสื้อ
เกราะลุกขึ้นได้ อย่าไว้ชีวิตคนหนุ่ม ๆ ของมันเลย จงทำลายพลโยธาของมันทั้งหมด เขาทั้งหลายจะถูกฆ่าล้มลง
ในแผ่นดินของชาวเคลเดีย และบาดเจ็บอยู่ที่ถนนเมืองนั้น เพราะว่าอิสราเอลและยูดามิได้ถูกทอดทิ้ง
โดยพระเจ้า ของเขาทั้งหลาย พระเจ้าจอมโยธา (มหิทธิเดชานุภาพ) แต่แผ่นดินของชาวเคลเดียนั้นเต็มด้วย
ความผิดต่อองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล (1-5) ฯลฯ ฯลฯ
"นักวิ่งคนหนึ่งไปพบนักวิ่งอีกคนหนึ่ง ทูตคนหนึ่งวิ่งไปพบทูตอีกคนหนึ่ง เพื่อทูลกษัตริย์แห่งบาบิโลน
(อิรัก) ว่าเมืองของพระองค์ถูกยึดไว้ทุกด้านแล้ว ท่าลุยข้ามก็ถูกยึดแล้ว เครื่องป้องกันก็ถูกไฟไหม้ และ
บรรดาทหารก็ระส่ำระสาย" (เยเรมีย์ 51:31-32)
(เป็นการเสนอแผนสันติภาพด้วยการเจรจาทางการทูตของฝ่ายฝรั่งเศส อิหร่าน และรัสเชียต่ออิรัก แต่ไม่สำเร็จ)
"เขาทั้งหลายอยู่ในที่กำบังเข้มแข็งของเขา...ที่อาศัยของมันก็กำลังไฟไหม้ และดาลประตูของมันก็หัก"
(เยเรมีย์ 51:30) (อิรักได้เตรียมตัวมานานเพื่อทำสงคราม ด้วยการสร้างที่หลบภัย กองบัญชาการ
และที่เก็บอาวุธทั้งเครื่องบิน และรถถังไว้ใต้ดิน มีประตูทำด้วยคอนกรีตอย่างหนา)
"ดูเถิด มีคนขี่มา คือพลม้าเป็นคู่ ๆ และเขาตอบว่า บาบิโลนล่มแล้ว" (อิสยาห์ 21:9)
(ในสงครามอ่าวเปอร์เซีย ฝ่ายพันธมิตรส่งเครื่องบินออกไปปฏิบัติการเป็นคู่ ๆ เมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 17 ม.ค. 91)
บทที่ 100/8
Pour I'abondance de l'arme respandue
De hault en bas par le bas au plus hault
Trop grande foy par ieu vie perdue,
De soif mourir par habondant deffault
ขนอาวุธมากมายก่ายกอง
(ยิง) จากข้างบนสู่ข้างล่างและจากข้างล่างสู่ข้างบน
ความเชื่อยิ่งใหญ่เหลือเกิน เสียชีวิตกันเป็นว่าเล่น
ที่เหลือเชื่อก็คือตายเพราะความกระหายน้ำ
วิเคราะห์ : นอสตราดามุสคงประหลาดใจที่เห็นสมรภูมิอ่าวเปอร์เซีย ก็กินบริเวณไม่เท่าไร
แต่ไฉนจึงขนอาวุธมามากมายก่ายกอง I'abondance de I'amme ดังนี้
เครื่องบินรบ (ลำ)
สหรัฐ---------------1,300
สภาอ่าวเปอร์เซีย--330
อังกฤษ-----------------48
ฝรั่งเศส-----------------36
แคนาดา----------------18
อิตาลี----------------------8
รวม-------------------1,740
อิรัก---------------------500
เรือรบ (ลำ)
สหรัฐ------------------55
สภาอ่าวเปอร์เซีย--36
อังกฤษ----------------16
ฝรั่งเศส---------------14
อิตาลี--------------------6
เบลเยี่ยม---------------3
แคนาดา----------------3
เนเธอร์แลนด์---------3
สเปน--------------------3
ออสเตรเลีย-----------2
อาร์เจนตินา-----------2
รัสเซีย------------------2
เดนมาร์ค---------------1
กรีซ----------------------1
นอร์เวย์-----------------1
โปรตุเกส---------------1
รวม------------------ 149
อิรัก
เรือรบ----------------------1
เรือโจมตีทางอากาศ--8
เรือทอร์ปิโด-------------6
รถถัง (คัน)
สหรัฐ------------------2,000
สภาข่าวเปอร์เซีย----800
อิยิปต์-------------------400
ซีเรีย---------------------270
อังกฤษ------------------163
ฝรั่งเศส-------------------40
รวม--------------------3,673
อิรัก--------------------4,000
กำลังหหาร (คน)
สหรัฐ------------------430,000
สภาข่าวเปอร์เซีย--150,000
อังกฤษ------------------35,000
อียิปต์--------------------20,000
ซีเรีย----------------------19,000
ฝรั่งเศส------------------10,000
ปากีสถาน-----------------7,000
บังกลาเทศ----------------2,000
โมรอคโค------------------1,700
เซเนกัล-----------------------500
ไนจีเรีย------------------------480
เชคโกสโลวาเกีย-----------200
ฮอนดูรัส-----------------------150
อาร์เจนตินา-------------------100
รวม------------------------676,130
อิรัก
ทหารประจำการ---510,000
ทหารกองหนุน------480,000
ทหารอาสาสมัคร---850,000
วิเคราะห์ ฝ่ายพันธมิตรส่งเครื่องบินไปบอมบ์เป้าหมายสำคัญทางยุทธศาสตร์ของอิรักถึงวันละ
ประมาณสองพันกว่าเที่ยว ในสามสิบวันก็เกินเจ็ดหมื่นเที่ยว นอสตราดามุสก็พรรณาไปตามที่เห็นว่า
ยิงจากข้างบน สู่ข้างล่าง จากข้างล่าง สู่ข้างบน แต่ไม่ได้พูดเจาะจงถึงขีปนาวุธสคัดที่อิรักยิงไปถล่ม
อิสราเอลและซาอุดิอาระเบียไปฝ่ายละประมาณ 30 ลูก และมิได้กล่าวถึงขีปนาวุธแพทริออตที่ใช้ยิง
ไปสกัดสคัดได้อย่างเหลือเชื่อ