กษัตริย์พระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า Charles ที่ 5 พระองค์ทรงมีผู้รับใช้ที่ดี ซื่อสัตย์ และอุทิศตน
รับใช้กษัตริย์ในทุกเรื่องอย่างสุดความสามารถ เป็นคนมีน้ำใจและจงรักภักดีต่อกษัตริย์เป็นที่สุด หลัง
จากรับใช้อย่างดีมานาน ผู้รับใช้ผู้นี้ป่วยหนักและกำลังจะตาย กษัตริย์ทรงรักผู้รับใช้ผู้นี้เป็นพิเศษ วันหนึ่ง
พระองค์เสด็จออกจากวังเป็นการส่วนพระองค์อย่างรีบด่วน เพื่อไปเยี่ยมผู้รับใช้ที่ดีผู้นี้ เมื่อไปถึงพระองค์
ตรัสถามด้วยความห่วงใยว่า "เพื่อนรักเป็นอย่างไรบ้าง มีอะไรให้เราช่วยขอให้บอกมาคำเดียว เราจะ
ประทานให้ และทำทุกอย่างที่เจ้าปรารถนา ขอมาได้เลย ถ้าเราทำให้ได้ เราจะจัดการให้เจ้าทุกอย่าง"
ผู้รับใช้มองพระพักตร์ของกษัตริย์ และพูดด้วยเสียงดังว่า "ขอบพระทัยพระองค์ที่เสด็จมาเยี่ยมครั้งนี้และ
จะทรงประทานของขวัญให้ ข้าพระองค์ไม่ต้องการอะไรแล้ว ยกเว้นสิ่งเดียวก็คือ ขอพระองค์ประทานวัน
และเวลาให้ข้าพระองค์ยืดความตายไปอีก 1 วัน ได้หรือไม่" กษัตริย์พระพักตร์ซีดลงทันที เพราะพระองค์
ไม่สามารถประทานวันและเวลาได้ พระองค์ตรัสกับผู้รับใช้ด้วยเสียงแผ่วเบาว่า "ทุกสิ่งที่เจ้าต้องการเรา
หามาให้ได้ แต่ถ้าขอวันและเวลา เราไม่มีอำนาจที่จะให้เจ้าได้ มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่จะทรงประทานให้ได้"
ผู้รับใช้มองพระพักตร์ของกษัตริย์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้มองด้วยความเศร้าและผิดหวัง พูดเสียงเบา ๆ เช่นเดียว
กันว่า "ข้าพระองค์เป็นผู้รับใช้ที่โง่จริง ๆ ใช้เวลารับใช้พระองค์ ทุ่มเทพละกำลังทั้งหมดเพื่อรับใช้ปรนบัติ
พระองค์ อุทิศตนเพื่อดูแลพระองค์ แต่ลืมรับใช้ผู้ที่จะประทานชีวิตเหนือกาลเวลา ชีวิตใหม่ และชีวิตนิรันดรได้"
หน้าที่ของมนุษย์ ทุกคนคือการขอบพระคุณพระเจ้า และรับใช้พระองค์ผู้เดียวตลอดเวลา เราทุกคน
ควรแสวงหาพระเจ้าก่อนสิ่งอื่นใดในชีวิต เพราะถ้าเราไม่ทำเช่นนั้น ชีวิตเราจะแห้งแล้งและสิ้นหวังเช่นเดียว
กับผู้รับใช้ผู้นี้ เหมือนคนที่ขาดน้ำและต้องอยู่ในทะเลทรายเลยทีเดียว
พระเยซูเจ้าได้กล่าวบทเทศน์บนภูเขา เพื่อเป็นหลักในการดำเนินชีวิตที่ดี บรรลุเป้าหมาย
และมีความสุข คือบุญลาภ ความสุขแท้ ปีศาจบอกว่ามันก็มีเหมือนกัน ถ้ามนุษย์สนใจให้มาเอา
ไปปฏิบัติได้เลย ดูซิว่าของ ใครจะมีความสุขมากกว่ากัน
ปิศาจเริ่ม ……
"เป็นบุญของผู้ที่เหน็ดเหนื่อย วุ่นวาย จนไม่มีเวลาเลยแม้ชั่วโมงเดียว เพื่อไปร่วมพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ
ในวันอาทิตย์ ท่านทั้งหลายคือพนักงานที่ดีของเรา (ปิศาจ)"
"เป็นบุญของคริสตชนทั้งหลายที่ชอบถาม ชอบแสวงหาคำขอบคุณก่อนเสมอ ๆ ข้า (ปีศาจ) ต้องการคนแบบนี้"
"เป็นบุญของคนที่ขี้โมโห และแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัว แม้ยอมขาดวัดวันอาทิตย์ เขาทั้งหลายเป็น
ผู้แพร่ธรรมที่ดีของเรา (ปีศาจ)"
"เป็นบุญของคนที่เคร่งศาสนา แต่เขาทั้งหลายเป็นเพื่อนสนิทกับเรา (ปีศาจ) เสมอ"
"เป็นบุญของคนที่ชอบสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น เขาทั้งหลายจะถูกเรียกว่า ลูกศิษย์ของเรา (ปีศาจ)"
"เป็นบุญของคนที่ไม่มีเวลาสวดภาวนา เขาทั้งหลายก็จะภาวนาให้เราเอง (ปีศาจ) เป็นอัตโนมัติ"
"เป็นบุญของคนที่ชอบนินทา เขาทั้งหลายเป็นสายลับของเรา (ปีศาจ)"
"เป็นบุญของคนที่ชอบวิพากษ์วิจารณ์พระศาสนจักร เขาทั้งหลายจะรับมรดกในอาณาจักรปีศาจ
ของเราอย่างแน่นอน"
"เป็นบุญของคนที่ชอบบ่นว่าผู้อื่นเสมอ ๆ เขาจะเป็นผู้ช่วยที่ดีของเรา (ปีศาจ) เสมอ ๆ"
"เป็นบุญของคนที่อ่านบทความนี้ และคิดว่าทุกข์ของคนอื่นไม่เกี่ยวกับเรา อย่าไปสนใจไยดี
เขาทั้งหลายเป็นเพื่อนแท้ของเรา (ปีศาจ)"
หญิงชราคนหนึ่งมีความเชื่อและความศรัทธาดี อ่อนโยน ลำบาก สมถะ เป็นคนสุภาพ ดูภายนอกเป็น
คนจนคนหนึ่ง ทุกคนล้วนเข้าใจว่า เธอไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณทุก ๆ สัปดาห์พร้อมกับเพื่อนคริสตชนทั้ง
หลาย เนื่องจากเธอดูยากจน ทุกคนจึงพยายามช่วยเหลือเธอ ทั้งเรื่องเงินและสิ่งของเท่าที่จะสามารถช่วยได้
คณะวินเซนต์เดอปอล ก็ช่วยอย่างสม่ำเสมอ คณะพลมารีย์ก็เช่นกัน สภาภิบาลของวัดก็สนับสนุน เพื่อให้เธอ
ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขพอสมควร เป็นแบบนี้มาหลายปีที่ทุกคนจับมือกันช่วยเหลือหญิงชราคนนี้ จนวันหนึ่ง
เพื่อนพลมารีย์รู้มาว่า เธอมีลูกชายทำงานอยู่ที่เมืองนอก ประเทศสหรัฐอเมริกา เลยถามถึงลูกชายของหญิง
ชราว่าลูกเป็นอย่างไร สบายดีไหม การงานเป็นอย่างไร ส่งเงินมาใช้เธอใช้บ้างไหม หญิงชราก็ไม่ได้ปิดบังอะไร
เธอเล่าให้ฟังว่า "ลูกชายของฉันเขียนจดหมายมาทุกเดือน ทำงานอยู่แต่ไม่ได้ส่งเงินมาให้ น่าจะค่อย ๆ ปรับตัว
อยู่ ค่าใช้จ่ายคงจะมาก คงไม่ค่อยมีเงิน และคงยุ่งกับงาน" หญิงชราพยายามพูดเพื่อปกป้องลูก เข้าใจลูก และ
เห็นใจลูก เพื่อนพลมารีย์รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย จึงถามหญิงชราว่าขอดูจดหมายที่ลูกของเธอเขียนมาได้ไหม
เธอบอกว่าได้ (ความจริงแล้วเธออ่านหนังสือไม่ค่อยได้) เมื่อเธอเอาหนังสือพระคัมภีร์ที่มีจดหมายคั่นอยู่มา
ให้เพื่อนพลมารีย์ดู เธอบอกว่าลูกส่งมาให้เธอทุกเดือน เธออ่านออกบ้างไม่ออกบ้าง และลูกก็ชอบส่งรูปอะไร
มาให้ไม่รู้มีตัวเลขแต่อ่านไม่ออก แค่ดูรูปและเดาว่า คงเป็นรูปที่ลูกส่งมาให้ดู เธอบอกว่าแปลกใจอยู่เหมือนกัน
พลมารีย์คนนั้นรู้สึกงงและประหลาดใจมาก เพราะนอกจากจดหมายแล้ว รูปแปลก ๆ ที่เธอบอกว่าลูกส่งมาให้ดู
แท้จริงแล้วเป็นเช็คเงินสดที่ลูกชายของเธอส่งมาให้ทุกเดือนเป็นเวลาหลายปี เป็นเช็คหลายฉบับ พูดตรง ๆ
เลยก็คือ ถ้านับเป็นเงินตามที่ระบุในเช็คที่หญิงชราคนนี้ได้รับ มีมากกว่าทุกคนในหมู่บ้านของเธอเลยทีเดียว
เธอรวยกว่าทุกคนที่ช่วยเหลือเธอซะอีก