โดย สนธิ สารธรรม
ตอนที่ ( 21 )
2. ความคิดเห็นจากนักเทววิทยารุ่นใหม่
โดยทั่วไปแล้วบรรดานักเทววิทยารุ่นใหม่มักจะมีความเห็นว่า “ปฏิปักษ์ต่อพระคริสต์” ควรจะเจาะจง
ลงไปเพียง “เฉพาะบุคคล” และพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป
คำว่า “ปฏิปักษ์ต่อพระคริสต์” ถูกนำมากล่าวขานบ่อยๆ กับบรรดานักเทศน์ทั้งหลายใน ศตวรรษที่
14-15 พวกกลุ่มนี้เทศน์สั่งสอนศาสนิกชนแบบผิดๆ ทำให้บรรดาศาสนิกชนสับสน ไขว้เขวทางความเชื่อ
และหลักปฏิบัติทางศีลธรรม ดังนั้น พระสังคายนาลาเตรัน ครั้งที่ 5 จึงเรียกบรรดานักเทศน์กลุ่มนี้ว่า
“ปฏิปักษ์ต่อพระคริสต์”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคกลาง คำดังกล่าวนิยมใช้กันมาก เป็นคำฮิตติดอันดับอันหมายถึงบุคคลที่
ต่อต้านอำนาจการสั่งสอนของพระสันตะปาปา โดยเฉพาะบรรดานักเขียน นักวิจารณ์คาทอลิก พวกที่ชอบ
แตกแถวแตกแนวจากข้อความเชื่อและคำสั่งสอนของพระศาสนจักรเจาะจงลงไปมากกว่านั้น พวกที่ต่อต้าน
พระสันตะปาปาจะถูกเรียกว่า “ปฏิปักษ์ต่อพระคริสต์” ฉะนั้น คำดังกล่าวนี้จึงเป็นที่ถกเถียงกันมากทีเดียว
ในยุคของ มาร์ติน ลูเธอร์ เกี่ยวกับประเด็นที่ว่า “ใครคือหัวหน้า หรือประมุขของพระศาสนจักร”
ค. เลข 666 กับตำแหน่งพระสันตะปาปา เป็นค่อริและมีความขัดแย้งกันเช่นไร
1. ความเป็นคู่อริ ทำให้เกิดความแตกต่างในบทบาทหน้าที่และต่อเหตุการณ์ต่างๆ
“สัตว์ร้ายตัวที่สอง” ดังที่กล่าวมาแล้ว เมื่อเขียนมาเป็นภาษาฮีบรูจะนับออกมาเป็นหมายเลข 666 มัน
เป็นลูกสมุนหรือลิ่วล้อของสัตว์ร้ายตัวแรก มันถูกส่งมาในโลก และแผ่ขยายพิษแห่งความชั่วไปทุกหนทุกแห่ง
เพื่อให้ชาวโลกมึนเมาต่อกิเลสตัณหา และหันไปบูชาสัตว์ร้ายตัวแรก มันเป็นปีศาจหรือซาตาน ที่วางแผนและ
ยุยงมนุษย์ให้เป็นปฏิปักษ์ กล่าวผรุสวาทต่อพระเจ้า ต่อพระนาม และต่อสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
ตำแหน่งและหน้าที่ของพระสันตะปาปา
ก. พระเยซูเจ้าเป็นผู้ตั้งพระสันตะปาปาขึ้นมา มอบหมายให้ท่านเป็นผู้นำพระศาสนจักร (อ่าน มธ.16:16-18
พระเยซูได้ยืนยันชัดเจนว่าตำแหน่งผู้นำพระศาสนจักรคือ “เปโตร” และผู้สืบตำแหน่งท่าน)
ข. ตำแหน่งพระสันตะปาปาต้องอยู่คู่กับพระศาสนจักรของพระคริสต์จวบจนชั่วฟ้าดินสลาย เพราะพระเยซู
เองบอกกับเปโตรว่า “บนศิลาก้อนนี้ เราจะตั้งพระศาสนจักรของเรา ศัตรูนรกจะไม่มีวันเอาชนะอาณาจักรนี้
ได้เลย” พระองค์ยังได้รับปากสัญญากับเปโตร และบรรดาอัครสาวกอีกว่า “จงรับรู้ไว้ว่า เราจะอยู่กับท่าน
เสมอไปจวบจนสิ้นโลก” (มธ.28:30)
เราได้อ่านและทราบความจริงจากประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักรว่า จักรพรรดิโรมันฆ่าพระสันตะปาปา
จำนวนมาก หรือไม่ก็จับพระสันตะปาปาขังคุกมานักต่อนัก เท่านั้นยังไม่สะใจ ยังบังคับ ขู่เข็ญ ทรมานคริสตชน
ทั้งหลาย ให้ปฏิเสธอำนาจการสั่งสอนของพระสันตะปาปา เป็นเวลาศตวรรษแล้วศตวรรษเล่า แต่ว่า ความจริง
ก็คือความจริง ที่ยังคงปรากฏอยู่จนปัจจุบันนั่นคือ ตำแหน่งพระสันตะปาปายังอยู่คงกระพัน และยังคงรักษา
บทบาทหน้าที่เหมือนเดิม
ค. กิจกรรมและหน้าที่หลักของพระสันตะปาปาคือ การนำประชากรไปโลกมุ่งสู่พระคริสต์ ฐานะที่พระเยซู
คริสต์เป็นพระผู้ไถ่ และพระผู้ช่วยให้รอด เราเห็นบทบาทหน้าที่ตั้งแต่เริ่มแรกของนักบุญเปโตร จวบจนถึง
พระสันตะปาปาองค์ปัจจุบัน พระองค์ก็ยังคงรักษาหน้าที่เดิม คือสั่งสอนประชากรโลกให้ต่อทันความชั่ว
กิเลสตัณหา และการขจัดหายนะของบาป(อ่าน1ปต.5:8-9)
ง. คำสั่งสอนที่มาจากพระสันตะปาปานั้น จะไม่มีคำสาปแช่ง การกล่าวผรุสวาทต่อพระผู้สูงสุด และจะ
ไม่มีข้อผิดพลาดทางหลักความเชื่อหรือพระสัจธรรม
2. ความแตกต่างในบทบาทหน้าที่ต่อเหตุการณ์พิเศษอื่นๆ ระหว่างตำแหน่งพระสันตะปาปา กับพวกที่ถูก
หมายหัว6 สัตว์ร้ายที่นักบุญยอห์นกล่าวถึงในวิวรณ์ มีลักษณะดังนี้คือ “มันจะแผลงฤทธิ์จนทำให้ไฟตกลงมา
จากฟ้าสู่แผ่นดินโลกให้ประจักษ์แก่สายตามนุษย์ มันจะขู่ ล่อลวงมนุษย์ด้วยเหตุการณ์สยองขวัญเหล่านั้น
และยังไม่พอ มันยังยุยงให้มนุษย์สร้างรูปจำลองเอาไว้บูชามัน.... เพื่อจะเป็นที่ดึงดูดมวลมนุษย์เข้ามาฝาก
เนื้อฝากตัว เป็นลิ่วล้อของสัตว์ร้ายตัวแรก สอนมนุษย์ให้เห็นผิดเป็นชอบ... เห็นความชั่วเป็นความดี
(อ่านวิวรณ์13:13-15) ขณะที่ประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักรไม่เคยปรากฏว่า มีพระสันตะปาปาองค์ใด
อวดอ้างว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ แสดงปาฏิหาริย์หรืออัศจรรย์ได้ เพื่อจะอวดอ้างตัวเอง ดึงดูดคนทั้งหลายให้มา
เชื่อถือบูชาตน สันตะปาปานั้นถูกเลือกขึ้นมาเพื่อเป็นผู้นำคริสตชนให้เจริญ ก้าวหน้าไปสู่หนทางความดี
สัจธรรม อันเป็นหนทางพระคริสต์
คำอธิบายพระวิวรณ์ตอนนี้ของท่านบาทหลวงวิษณุนับว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง หากมีอะไรเพิ่มเติมผมจะ
นำเสนอต่อไป
การที่ใครก็ตามพยายาม “ยัดเยียด” หมายเลข “666” ให้เป็นหมายเลขของพระสันตะปาปา คงยังไม่
เข้าใจลักษณะพิเศษที่ท่านยอห์นบรรยายถึงสัตว์ร้ายที่ออกมาจากแผ่นดินโลก สัตว์ตนนี้มีเขาเล็กๆ สองเขา
มองดูคล้ายลูกแกะ แต่มีเสียงร้องที่น่ากลัวประดุจเสียงมังกร ให้สังเกต สัตว์ตนมีเขาเล็กๆ มองดูคล้ายลูกแกะ
(ลูกแกะเป็นภาษาสัญลักษณ์ หมายถึง คนดี,คนซื่อ, พระเยซู,พระสันตะปาปา) แค่มองดู คล้ายๆ พระสันตะปาปา
แต่ไม่ใช่ พระสันตะปาปา และมีเสียงน่ากลัวดุจเสียงของ มังกร หรือ ซาตาน สรุปแบบรวบรัดก็คือหมายเลข 666
เป็นหมายเลขของสัตว์ร้ายที่มาจากแผ่นดินโลก (มนุษย์คนหนึ่งหรือแอนตี้ไคร้สต์) มองดูคล้าย พระสันตะปาปา
คือไม่ใช่ พระสันตะปาปาตัวจริง แต่จะเป็นพระสันตะปาปาตัวปลอม
ลองอ่านกลอนของนอสตราดามุส บทที่ 92/5 คงจะเข้าใจดีขึ้น
Apres le siege tenu dix sept ans,
Cinq changeront en tel revolu teme;
puis sera esleu de mesme temps,
Qui des Romains ne sera trop conforme
องค์หนึ่งจะครองอาสน์อยู่ 17 ปี
ห้าพระองค์จะเปลี่ยนไปเมื่อครบวาระ
ครั้นแล้วขณะเดียวกันนั้นเองผู้หนึ่งจะได้รับเลือกตั้งขึ้นมา
ซึ่งชาวกรุงโรมจะไม่เห็นพ้องด้วย
วิเคราะห์ โป๊ปปีโอที่ 11 ครองอาสน์ได้ 17 ปี คือตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 1992
ถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 1939 นี่ก็เป็นไปตามคำทำนายของนอสตราดามุสในบรรทัดที่ 1
ส่วนในบรรทัดที่ 2 นั้นว่าจะมี 5 พระองค์เปลี่ยนไปเมื่อครบวาระก็มี
1. โป๊ป ปีโอที่ 12 ระหว่างปี 1939 -1958
2. โป๊ปจอห์นที่ 23 ระหว่างปี 1958-1963
3. โป๊ปพอลที่ 6 ระหว่างปี 1963-1978
4. โป๊ป จอห์น พอลที่ 1 ระหว่างปี 1978-1978 (33วัน)
5. โป๊ป จอห์น พอลที่ 2 ระหว่างปี 1978-?
ในบรรทัดที่ 3 ที่ว่า ขณะเดียวกันนั้นเอง คือ ขณะที่องค์ที่ 5 คือจอห์น พอลที่ 2 กำลังครองอาสน์อยู่
จะมีผู้หนึ่งถูกหนุนขึ้นมาเป็นโป๊ป (ปลอม=Antipope)
pope) ในบรรทัดที่ 4 ชาวโรมันคาทอลิกทั่วโลก คงจะไม่ยอมรับเป็นแน่