เกาะติดวิกฤติโลกผ่านพระคัมภีร์ และนอสตาดามุส (51-60)

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6698
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ก.ค. 20, 2025 6:10 pm

🕵️ เกาะติด​วิกฤติ​โลกผ่านทาง​พระคัมภีร์​และนอสตราดามุส 🕵️
โดย​ สนธิ​ สารธรรม
ตอนที่​ ( 51 )

✴️ ทัวร์​แสวง​ (หา) บุญกึ่งแสวงหาข่าว​ (C)​ ✴️
2. )ปาฏิหาริย์ แม่พระได้สัญญาว่า “ปาฏิหาริย์” จะเกิดที่สวนสน มันจะเกิดในวันพฤหัสบดี เวลา​20.30 น.
ระหว่างวันที่ 8-16​ระหว่างเดือนมีนาคม​ เมษายน​ และพฤษภาคม “ปาฏิหาริย์” นี้จะประจวบกับเหตุการณ์
ในพระศาสนจักร คือ เป็นวันฉลองมรณสักขีหนุ่มผู้ศรัทธาในศีลมหาสนิท
การบอกใบ้เหล่านี้ของแม่พระจำเป็นต้องขยายความ ในปฏิทินคาทอลิก​ ทุกๆ วันจะถูกกำหนดให้
เป็นวันฉลองนักบุญ หรือมรณสักขีองค์หนึ่งหรือหลายองค์ (โดยมากเป็นวันตายของนักบุญองค์นั้น)
มรณสักขี หมายถึงนักบุญ​ที่ยอมตายเพื่อพระศาสนา ถึงแม้จะถูกทรมานถูกขู่อย่างไรก็ไม่ยอมทิ้งศาสนา
แม้จะเสียชีวิตก็ตาม ฉะนั้นจึงต้องเปิด​Encyclopaedia เพื่อหาดูว่านักบุญ​หนุ่มที่ยอมตาย เพื่อยืนยันใน
ศรัทธา หรือความเชื่อในศาสนาคริสต์​ และวันฉลองของท่านจะต้องตกในวันที่ 8-16 ระหว่าง เดือนมีนาคม
เมษายน​ พฤษภาคม ก็พบนักบุญพันกราส (St. Pancras) ซึ่งมีประวัติย่อๆ ว่าเกิดที่​ Frigia เป็นกำพร้า
มาเข้าศาสนาคริสต์ตามคุณลุง เป็นนักกีฬามวยปล้ำที่เก่งกล้า​ มีใจเด็ดเดี่ยวมั่นคง ตอนที่มีการเบียดเบียน
ศาสนาคริสต์ในสมัยจักรพรรดิ​ดีโอเกลซีอาโน ถูกข่มขู่ให้ทิ้งศาสนาท่านก็ไม่ยอมทั้งๆ ที่รู้จะต้องถูกตัดคอ​
ท่านถูกตัดคอยเมื่อปี​ค.ศ. 304 มีอายุแค่ 14 ปี เนื่องจากท่านเป็นนักกีฬา​ผู้​กล้าหาญ และยอมตายโดยไม่
ยอมทิ้งศาสนา ท่านจึง​ “ดัง”​ ในเรื่อง “เด็ดเดี่ยว” “ถอดหน้ากากคนโกง” “จับเท็จ”​ ฉลองของท่านจะตกใน
วันที่ 12 พฤษภาคม​ แม่พระได้บอกใบ้ไว้ว่า​ “ปาฏิหาริย์”​ นั้นจะเกิดในวันพฤหัสบดี เมื่อรู้วันเดือนปีแห่ง
ปาฏิหาริย์นี้แล้วก็ต้องมาดูว่าปาฏิหาริย์นี้คืออะไร? เมื่อประมวลจากหลายแหล่งก็สรุปได้ว่า จะเป็นเสาเมฆ
หากดูตอนกลางวัน ถ้าดูตอนกลางคืนจะเห็นเป็นเสาไฟจะลุกแต่ไม่ไหม้ เสานี้จะเป็นรูปกางเขนจะเกิดเหนือ
ต้นสนที่แม่พระเคยปรากฏมาที่คาราบันดัล เสาเมฆหรือเสาไฟที่เป็นรูปกางเขนนั้นอาจจะถ่ายรูปหรือถ่ายวิดีโอ
ก็ได้ แต่จะจับต้องไม่ได้​ เครื่องหมายกางเขนนี้จะคงอยู่ตลอดไปไม่มีวันเสื่อมสลาย ทุกคนในหมู่บ้านและทิวเขา
โดยรอบจะมองเห็นได้ คนเจ็บคนป่วยที่อยู่ในบริเวณนั้นจะหายจากโรค​ คนบาปและคนไม่เชื่อจะกลับใจ รัสเซีย
จะกลับใจหลังปาฏิหาริย์นี้ โป๊ปจะเห็นปรากฏการณ์นี้ไม่ว่าพระองค์จะอยู่ที่ใดก็ตาม
แม่พระยังบอกเธออีกว่า “ขณะที่จะเกิดปาฏิหาริย์นั้นให้สังเกตพระศาสนจักรดูเหมือนทำท่าจะล่มสลาย เมื่อ
พระสงฆ์จะมีความยากลำบากในการถวายบูชามิสซาหรือในการพูดเรื่องศักดิ์สิทธิ์เรื่องศรัทธา” เวลานั้นจะมาถึง
เมื่อพระศาสนจักรให้ความรู้สึกว่ากำลังถึงจุดหายนะ​ จะต้องผ่านกาทดสอบที่น่ากลัว เมื่อเธอถามแม่พระว่า จะ
เกิดอย่างไร?​ แม่พระก็ตอบแต่เพียงว่า “ลัทธิคอมมิวนิสต์”
เกี่ยวกับประเด็นปรากฏการณ์ปาฏิหาริย์นี้ มีกรณีหนึ่งที่น่าสนใจ​ เป็นจดหมายที่คอนซิต้าได้เขียนไปถึง
โจอี้ โลมานจิโน เมื่อวันที่ 19​มีนาคม​ 1964 ใจความว่า “โจอี้ที่รัก​ วันนี้ที่สวนสนแม่พระได้กระซิบในใตฉัน
ให้มาบอกเธอว่า ในวันปาฏิหาริย์ครั้งใหญ่นั้น เธอจะได้รับดวงตาใหม่”​ ถึงแม้โจอี้จะรู้ว่าตาพิการของเขาจะ
รักษาให้หายไม่ได้แล้ว แต่จดหมายของแม่ระมาด​ในปี​ 1964 นั้นทำให้เขาเชื่อว่า วันหนึ่งเขาจะมองเห็น
คอนซิต้า ย้ำในจดหมายต่อไปว่า “สิ่งแรกที่โจอี้จะเห็น จะเป็นปาฏิหาริย์ซึ่งพระบุตรของแม่จะทรงแสดง
โดยการเสนอของแม่ และนาทีนั้นเขาจะมองเห็นตลอดไป”​ คอนซิต้าได้อธิบายในภายหลังว่าดวงตาใหม่นั้น
แม่พระหมายถึงดวงตาปกติธรรมดานี่เอง​ ไม่ใช่ดวงตาทางจิตวิญญาณ เพราะดวงตาใหม่นี้โจอี้จะใช้ให้เป็น
ประโยชน์ในการแพร่ธรรมและเกียรติคุณแห่งพระผู้เป็นเจ้าต่อไป
โจอี้เกิดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน​1931 ใกล้บรุคลิน นิวยอร์ก เมื่ออายุได้​ 16 ปี ขณะโจอี้กำลังสูบลมยางรถ
บรรทุกน้ำแข็งและถ่าน ยางก็เกิดระเบิดใส่หน้า ยางฟาดเข้าที่ตาทั้งสองข้าง ตัดประสาทดมกลิ่นและสายตา
ของเขา โจอี้ไปพบบาทหลวง ปีโอ ผู้โด่งดังเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ ที่อิตาลีขณะคุกเข่ารอคุณพ่อปีโอเพื่อถวาย
บูชามิสซา เมื่อคุณพ่อเดินผ่าน โจอี้รู้สึกเหมือนมีระเบิดในศีรษะของเขา​ ทันใดนั้นเขาได้ประสาทการดมกลิ่น
กลับคืนมา เขาได้กลิ่นหอมกุหลาบทันที แล้วโจอี้ก็ถามถึงแม่พระปรากฏมาที่คาราบันดัลเป็นเรื่องจริงหรือ
ท่านตอบว่า “จริง”​ “ควรไปที่นั่นไหม?”​ คำตอบของท่านคือ “ทำไมไม่ไปล่ะ!” แล้วโจอี้ก็ไปคาราบันดัลหลาย
ครั้ง จนได้ชื่อว่า “สาวกตาพิการแห่งคาราบันดัล”
3.) การลงทัณฑ์ ระหว่างเดือนกรกฎาคม 1962 คอนซิต้า มารีโลลี และยาชินทา ได้เห็นนิมิตว่า การลงทัณฑ์ที่
จะเกิดขึ้นนั้นจะมีสภาพอย่างไร​ แม่พระบอกเด็กทั้ง 3 นี้ว่า “ถ้าเราไม่เชื่อฟังการเตือนนี้ และมนุษยชาติไม่เปลี่ยน
แปลงหลังจากการเตือนและปาฏิหาริย์ที่สวนสน พระเป็นเจ้าจะส่งการลงทัณฑ์มาแน่ ในการพรรณนาถึงนิมิต
ของการลงทัณฑ์นั้น มารีโลลีกล่าวว่า “มันแย่ยิ่งกว่ามีไฟสุมหัวเราอีก ไฟข้างใต้ ไฟรอบตัวเรา เธอเห็นผู้คนทิ้ง
ตัวลงไปในทะเล แต่แทนที่ไฟจะดับ กลับดูเหมือนว่า​ ยิ่งทำให้ไหม้หนักขึ้นอีก
คอนซิต้ากล่าวว่า “แม่พระบอกว่า หลังจากโป๊ป จอห์นที่ 23 แล้ว​ ยังจะมีโป๊ปอีก 3 องค์​ จะมีองค์หนึ่งครอง
สาส์นสั้นๆ และเมื่อโป๊ป พอลที่​6 ได้รับเลือกตั้งเป็นโป๊ปต่อจากจอห์น​ที่ 23 แม่พระก็บอกหนูว่า หลังจากโป๊ปองค์นี้
จะเหลือโป๊ปอีก 2 องค์ แล้วก็จะถึงกาลสิ้นยุค แต่ไม่ใช่สิ้นโลก เพื่อนของเขาแย้งว่า “แล้วมันต่างกันอย่างไร?
”​ อีกคนตอบ “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”​
เพื่อนผมคนหนึ่ง เอาคำถามนี้ไปถามพระสงฆ์รูปหนึ่งว่า อีกไม่นานจะสิ้นยุคแล้วจริงหรือครับคุณพ่อ?​
พระสงฆ์รูปนั้นตอบว่า “เธอนี้เพี้ยนแล้ว!...?..!”

🔹---โปรดติดตามตอนต่อไป​-​--🔹
ตอบกลับโพส