“ความลับของสายประคำ”

[rosa-lee]

ความลับของสายประคำ​
โดย​ : นักบุญ​ หลุยส์​ เดอ​ มงฟอร์ต​

เนื้อหา​ทั้งหมด​ ( 81 )ตอน
…………………………………………………………………………

ความลับของสายประคำ​
โดย​ : นักบุญ​ หลุยส์​ เดอ​ มงฟอร์ต​
ตอนที่​( 1 )
ต้องสวดลูกประคำทำไม?... เหตุ​ผล!...

เพื่อสันติภาพของโลก
จงสวดลูกประคำทุกวัน เพื่อสันติภาพของโลก แม่พระแห่งฟาติมา 1917
ในพระสมณสารประจำเดือน​พฤษภาคม​
พระสันตะปาปาปอลเรียกร้องคริสตชนให้วิงวอนพระราชินีแห่งสันติภาพเพื่อสันติภาพของโลก
พระองค์ได้เน้นถึงความสำคัญของลูกประคำว่า​“เป็นการสวดภาวนาที่พระแม่เจ้าโปรดปรานมาก
และพระสันตะปาปาทุกองค์ก็เชิญชวน”​

เพื่อความสุขในครอบครัว
“ไม่มีเครื่องมือใดจะเรียกร้องพระพรของพระเจ้ามาสู่ครอบครัวอย่างอุดมยิ่งไปกว่าการสวด
ลูกประคำทุกวัน” - ปีโอ ที่ 12
“ถ้าครอบครัวฟังสาส์นของข้าพเจ้า และยอมใช้เวลาสิบนาทีจาก 24 ชั่วโมง ในการสวดลูกประคำ
ทุกวัน ข้าพเจ้าขอรับประกันว่า​ โดยพระพรของพระเจ้า ครอบครัวของท่านจะมีสันติ สงบสุข
และน่าศรัทธาเหมือนสวรรค์น้อย ๆ สมดังเจตนาของพระเจ้าผู้สร้างมันไว้” - คุณพ่อปีตัน (Peyton)

กล้าที่จะเผชิญชีวิต
“เป็นเครื่องมือมหัศจรรย์เพิ่มพูนความกล้าหาญ และมานะอดทนของท่าน...” - พระสันตะปาปาเลโอ ที่ 13
เป็นอุปกรณ์ที่หาง่ายและพร้อมที่จะช่วยรักษาความเชื่อ

“เราเคยบอกคริสต์ชนที่ศรัทธาแล้วว่า ผลประโยชน์ยิ่งใหญ่อีกอย่างหนึ่งของลูกประคำก็คือ เป็นอุปกรณ์
ที่หาง่ายและพร้อมที่จะเอามาใช้บำรุง ความเชื่อของเขาได้ ทั้งยังช่วยเขาให้พ้นจาก​ ความเขลาทางศาสนา
และอันตรายที่จะลุ่มหลงได้” - พระสันตะปาปา เลโอ ที่


ความลับของสายประคำ​
โดย​ : นักบุญ​ หลุยส์​ เดอ​ มงฟอร์ต​
ตอนที่​ ( 2 )
การถวายตัวแก่แม่

ข้าแต่พระแม่ผู้นิรมล ลูก...คนบาปน่าสงสาร วันนี้มากราบอยู่ต่อหน้าแม่ ขอรื้อฟื้นคำปฏิญาณตัว
วันรับศีลล้างบาปใหม่ว่า
ลูกจะละทิ้งปีศาจ ความโอ่โถงฟุ้งเฟ้อ และกิจการงานของมัน และขอมอบตนทั้งครบไว้ในมือของ
พระเยซูคริสตเจ้า ผู้เป็นพระปรีชาญาณลงมาเกิด ลูกสัญญาว่าจะแบกกางเขนเดินตามพระองค์ทุกวัน
จะซื่อสัตย์ต่อพระองค์มากขึ้น

ต่อหน้าเทพนิกร และนักบุญในสวรรค์ วันนี้ขอเลือกเอาพระแม่เป็นมารดาและเจ้านายของลูก
ขอมอบตนเป็นทาสของแม่ทั้งใจและกาย​ ทรัพย์สิน และคุณความดีทั้งภายในและภายนอก​ ถวายกิจการดี
ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตแก่พระแม่​ ขอถวายให้พระแม่มีสิทธิมีอำนาจทุกอย่างกับทุกสิ่งที่เป็นของลูก
โดยไม่มีข้อยกเว้น ขอให้พระแม่จัดการได้ตามความพอใจ เพื่อพระสิริมงคลของพระผู้เป็นเจ้า
บัดนี้และตลอดนิรันดร - อาแมน

ความลับของสายประคำ​
โดย​ : นักบุญ​ หลุยส์​ เดอ​ มงฟอร์ต​
ตอนที่​ ( 3 )
บทภาวนาของนักบุญ​ไม​เคิ้ล​

ข้าแต่ท่านพรหมเทพไมเคิ้ลผู้เป็นอัครเทพ โปรดป้องกันเราในการรบ ผู้ช่วยปกป้องเราในความชั่ว
และเล่ห์กลของปีศาจ เรากราบอ้อนวอนพระเป็นเจ้าให้บัญชามัน และขอท่านจอมทัพแห่งสวรรค์โดยฤทธิ์
อำนาจของพระเจ้า​ได้โปรดขับไล่เจ้าซาตานและจิตชั่วร้ายทั้งหลายลงไปนรก เพราะพวกมันกำลังกระจายกัน
ไปทั่วโลก คอยหาโอกาสที่จะทำลายวิญญาณให้พินาศ​ไป​ อาแมน
(- ประกาศโดย​ พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 13​

ความลับของสายประคำ​
โดย​ : นักบุญ​ หลุยส์​ เดอ​ มงฟอร์ต​
ตอนที่​ ( 4 )
บทภาวนา​สำหรับ​พระ​สันตะปาปา​

ขอพระผู้เป็นเจ้าจงคุ้มครองพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 โปรดให้พระองค์มีพระชนม์มายุ
ยืนนาน​ และทรงพระเกษมสำราญ​ รอดพ้นจากการทำลายล้างของศัตรู

ให้เราภาวนา ข้าแต่พระเจ้าผู้เป็นนายชุมพาบาล และผู้คุ้มครองสัตบุรุษทั้งหลาย โปรดกรุณา
ทอดพระเนตรดูข้ารับใช้ของพระองค์​ คือ พระสันตะปาปา จอห์น ปอล ซึ่งพระองค์ได้แต่งตั้งให้
ปกครองพระศาสนจักรของพระองค์ และขอพระองค์โปรดให้ท่านเป็นตัวอย่างที่ดี​ ทั้งด้วยวาจาและ
กิจการแก่ทุกคนที่อยู่ได้ความดูแลของท่าน เพื่อว่า​ โดยฝูงแกะที่ถูกมอบแก่ท่าน ท่านจะได้ลุถึงชีวิตนิรันดร

ทั้งนี้..........

กรุณาสวดทุกวันเพื่อรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของท่านด้วย

ความลับของสายประคำ​
โดย​ : นักบุญ​ หลุยส์​ เดอ​ มงฟอร์ต​
ตอนที่. ( 5 )
ภาพดวงพระทัยอันบริสุทธิ์​ และ​โศกเศร้า​ของพระแม่มา​รี​ย์​

เป็นภาพของดวงพระทัยอันบริสุทธิ์ และโศกเศร้าของพระแม่​ ภาพนี้รู้สึกว่ามีประวัติที่ค่อนข้าง
จะแหวกแนวสักหน่อย เป็นภาพที่ถูกค้นพบในปี ค.ศ.1918 เป็นปีแห่งการเซ็นสัญญาสงบศึกสงคราม
โลกครั้งที่ 1 ในห้องใต้ดินของโรงเรียนกินนอนแห่งหนึ่ง ที่นาย Berthe Petit ซึ่งเป็นสมาชิกคณะ
ฟรังซิสกันชั้น 3 ที่ยากจนคนหนึ่ง ได้ร่ำเรียน หลังจากกองทหารได้เคลื่อนย้ายไปแล้ว​ ซิสเตอร์คณะ
แบร์นาดินคนหนึ่ง ก็ลงไปทำความสะอาดห้อง ได้พบแผ่นกระดานแผ่นหนึ่งมีภาพโปสเตอร์ลามกปะ
อยู่เธอก็ฉีกรูปนั้นออก​ โดยคิดว่าจะเอาไปเผาไฟ แต่เธอต้องแปลกใจมากที่เมื่อฉีกภาพลามกออกแล้ว
ก็เห็นรูปแม่พระที่สวยงามอยู่บนกระดาน เป็นภาพที่รวมศิลปะของทั้งจารีตตะวันออกและตะวันตก รูป
ใบหน้าก็คล้าย ๆ​ กับรูปของพระแม่การุญ (Pieta) และการสวดต่อหน้ารูปนี้ ปรากฏว่าได้รับผลดีเป็นพิเศษ

พระเยซูได้บอกกับ Berthe Petit “จงไปสอนวิญญาณให้รักดวงใจของมารดาของเรา ดวงใจที่
ถูกแทงทะลุด้วยความทุกข์โศกอันเดียวกันที่ได้แทงดวงใจของเรา”​ (ธ.ค. 25, 1909.)
“ดวงพระทัยของแม่มีสิทธิที่จะถูกเรียกว่า 'เจ้าแห่งความทุกข์'​ และแม่อยากให้เขียนสมญานามนี้
ไว้หน้าชื่อที่ว่า 'บริสุทธิ์' (Immaculate) เพราะแม่ได้ชนะความทุกข์โศกนี้โดยตัวเอง​ พระศาสนจักรได้
จำกัดความในกรณีของพระมารดารของเรา (เยซู​) ในสิ่งที่เราเองได้กำหนดไว้ - คือ การปฏิสนธินิรมล
ของพระนาง สิทธินี้ซึ่งพระแม่ของเรามีสำหรับชื่อที่ว่า 'แม่แห่งความยุติธรรม' บัดนี้​ ตามความปรารถนา
อันเร่งด่วนของเรา จะต้องเป็นที่รู้จักและยอมรับกันทั่วโลก พระนางได้รับสมญานี้โดยการปรับตัวให้เป็น
หนึ่งเดียวกับความทุกข์โศกของเรา โดยการทรมานของพระนาง การเสียสละ​ และบูชาตนบนภูเขากัลวาร์​
ทั้งนี้โดยการตอบสนองพระหรรษทานของเราในการไถ่บาปของมนุษยชาติ” (กันยา 8, 1911)
“พวกเธอต้องเปลี่ยน ดวงใจของพวกเธอ ทั้งนี้โดยความเลื่อมใสศรัทธาที่ถูกประกาศ อธิบาย เทศน์​
และชักชวนในทุกหนทุกแห่ง การวิ่งเข้ามาพึ่งพระแม่ของเราภายใต้ชื่อใหม่นี้ เราอยากให้กระทำกันไป
ทั่วโลก เผื่อจะเป็นดังความช่วยเหลือขั้นสุดท้ายที่เราจะให้ก่อนการจบสิ้นของกาลเวลา” (กรกฎา 2, 1940)

โปรดติดตาม​ตอนต่อไป​

[rosa-lee]

ความลับของสายประคำ​
โดย​ : นักบุญ​ หลุยส์​ เดอ​ มงฟอร์ต​
ตอนที่​ (6)
ดอกกุหลาบ​ขาว​ (สำหรับพระสงฆ์​)

ท่านผู้เป็นบริกรของพระเจ้าสูงสุดทุกท่าน ท่านที่เป็นเพื่อนสงฆ์ของข้าพเจ้า ท่านผู้เทศนาความจริง
ของพระเป็นเจ้าทุกวี่วัน และประกาศข่าวดีแก่นานาชาติ ข้าพเจ้าขอมอบหนังสือน้อย ๆ นี้แก่ท่านให้เป็น
ดังดอกกุหลาบขาวบริสุทธิ์ซึ่งข้าพเจ้าชอบและหวงแหนนักหนา เนื้อหาต่าง ๆ ที่บรรจุในหนังสือนี้ได้ถูก
บรรยายออกมาอย่างง่าย ๆ ซื่อ ๆ​ โปรดเก็บมันไว้ในดวงใจของท่าน​ เพื่อที่ท่านเองอาจปฏิบัติกิจศรัทธา
แห่งสายประคำได้โดยมีหลักเกณฑ์​ และเกิดผลในวิญญาณ และขอให้ความจริงเหล่านี้รั่งพรูออกมาจาก
ปากของท่านอย่างคล่องแคล่ว เพื่อท่านจะได้เทศน์เรื่องการสวดสายประคำนี้เสมอ เพื่อทำให้คนบาป
กลับใจ​ และคนดีก้าวหน้าในความศรัทธาต่อไป

ข้าพเจ้าใคร่ขอร้องท่านกรุณาอย่าคิดว่าสายประคำเป็นเรื่องไม่มีความสำคัญใด ๆ ดังเช่นคน
เบาปัญญาและผู้คงแก่เรียนหลายคนกระทำกัน เพราะนอกจากว่าเป็นสิ่งสำคัญแล้ว​ สายประคำ
ยังเป็น ขุมทรัพย์ล้ำค่าซึ่งพระเป็นเจ้าเองดลใจให้

พระผู้เป็นเจ้าได้มอบสายประคำนี้แก่ท่าน เพื่อท่านจะใช้เป็นเครื่องมือทำให้คนบาปกลับใจ และแม้
ชาวเฮเรติกที่ดื้อรั้นกลับใจได้ด้วย พระเป็นเจ้าได้ตกแต่งมันด้วยพระหรรษทานในโลกนี้และสิริมงคลใน
โลกหน้า บรรดานักบุญทั้งหลายได้สวดอย่างซื่อสัตย์​ และพระสันตะปาปาก็สนับสนุน

เมื่อพระจิตเจ้าได้เปิดเผยความลับนี้แก่พระสงฆ์และผู้แนะนำวิญญาณบางคนนั้น ช่างเป็นบุญลาภ
สำหรับท่านเหล่านั้นเสียเหลือเกิน​ เพราะประชาชนส่วนใหญ่หาได้ล่วงรู้ความลับนี้ไม่ หรือรู้ก็เพียงผิวเผิน
​ และถ้าพระสงฆ์คนใดรู้เรื่องความลับนี้ดี ๆ ท่านก็คงจะสวดสายประคำนี้ทุกวัน และก็คงจะชักชวนคนอื่น
ให้สวดด้วยอย่างแน่นอน แล้วพระเป็นเจ้าและพระมารดาก็จะหลั่งพระหรรษทานลงมาในวิญญาณของท่าน
เพื่อทำให้ท่านเป็นเครื่องมือแห่งพระสิริมงคลของพระองค์ และให้คำเทศน์หรือคำพูดของท่าน​ และคำแม้
จะง่าย ๆ ซื่อ ๆ ในเดือนหนึ่ง ๆ มีค่ามากกว่านักเทศน์อื่นพูดเป็นเวลาแรมปีเสียอีก

ฉะนั้นเพื่อน ๆ และพี่น้องสงฆ์ทั้งหลาย มันไม่เป็นการเพียงพอที่เราจะเทศน์สอนเรื่องความศรัทธานี้
แก่คนอื่นอย่างเดียว เราต้องปฏิบัติด้วยจึงจะถูก แม้เราจะเชื่อมั่นในความสำคัญของสายประคำนี้เพียงใด
ก็ตาม หากเราไม่สวดด้วยก็ไร้ประโยชน์ ดังมีภาษิตว่า​ “สิบรู้ไม่เท่าเจน”​ และประชาชนก็คงไม่อยากทำ
ตามหากเราไม่ทำด้วย “พระเยซูเจ้าเริ่มทำและสอน” (กิจการ 1:1) เราก็ควรทำเหมือนพระองค์ที่ทำก่อน
แล้วจึงสอน และก็ควรเอาอย่างนักบุญเปาโล ซึ่งบอกว่าไม่รู้จักอะไร และเทศน์อะไรนอกจากพระเยซู​ผู้​
ถูก​ตรึง​ -​ การสวดสายประคำมิใช่การเอาบทข้าแต่พระบิดา และวันทามารีย์มารวมกันเท่านั้น แต่ยัง
เป็นบทสรุปแห่งข้อลึกลับต่าง ๆ​ ถึงชีวิต การทรมาน ความตาย และสิริมงคลของพระเยซูและแม่พระ

ข้าพเจ้าอาจบอกท่านได้ว่ามีพระหรรษทานมากมายที่พระเป็นเจ้าให้ข้าพเจ้าทราบโดยประสบการณ์
ว่าเป็นผลแห่งการสวดสายประคำ และข้าพเจ้าได้เห็นด้วยตาตนเองว่ามีคนกลับใจมากมายเพราะการสวดนี้​
ข้าพเจ้าพร้อมที่จะบอกแก่ท่านหากรู้สึกว่าท่านจะได้เผยแพร่เรื่องนี้ให้กว้างขวางต่อไป ซึ่งดูก็เป็นการยาก
สักหน่อย เพราะพระสงฆ์สมัยนี้คิดว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อหรือล้าสมัยไปแล้ว อย่างไรก็ตามข้าพเจ้าก็อดที่จะ
เปิดเผยบางเรื่องซึ่งแม้จะเก่าแก่แต่ก็เป็นความจริงพอที่จะเชื่อถือถึงฤทธิเดชของการสวดสายประคำได้
แต่เรื่องตัวอย่างที่ยกเอามากล่าวนี้ดูออกจะเกี่ยวข้องกับ ชาวฝรั่งเศส​ มากกว่า ก็ขออภัยคริสตชนชาติอื่นด้วย

โปรดติดตาม​ตอนต่อไป​

[rosa-lee]

( 7 )

ความลับของสายประคำ​
โดย​ : นักบุญ​ หลุยส์​ เดอ​ มงฟอร์ต​
ตอนที่​ (7)
กุหลาบแดง​ (สำห​รับ​คนบาป​)​

เพื่อนพี่น้องชายหญิงที่เป็นคนบาปทั้งหลาย ข้าพเจ้าที่เป็นคนบาปหนามากกว่าใคร ขอมอบ
ดอกกุหลาบนี้แก่ท่าน เป็นสีสดใส​ เพราะพระโลหิตของพระเยซูเจ้าได้หยดลงมาบนดอกนี้ จงขอ
พระเป็นเจ้าให้มันนำกลิ่นหอมมาให้ชีวิตของท่านด้วย​ แต่เหนืออื่นใด ให้มันช่วยท่านพ้นจากภัย
อันตรายต่าง ๆ ทุก ๆ วัน คนบาปที่ไม่มีความเชื่อและไม่เป็นทุกข์กลับใจจะร้องว่า “ให้เราสวมมงกุฎ​
ของเราด้วยดอกกุหลาบ”​ - แต่เสียงร้องของเราควรจะเป็นดังนี้ว่า
“ให้เราสวมมงกุฎด้วยดอกกุหลาบจากสายประคำ (พวงมาลัยกุหลาบ) อันศักดิ์สิทธิ์”​

ดอกกุหลาบของเขากับของเราช่างต่างกันจริง ๆ กุหลาบของเขาคือ ความสนุกของเนื้อหนัง​
เกียรติยศของโลก ความร่ำรวย​ อันไม่ถาวร ซึ่งจะมีวันสูญสลายไปได้​ แต่ของเรานั้นเป็นบทข้าแต่
พระบิดาและวันทามารีย์ซึ่งถูกกล่าวซ้ำไปซ้ำมาอย่างร้อนรน แถมเรายังเติมบทสวดแสดงการเป็น
ทุกข์ ถึงบาปอีก​ กุหลาบเหล่านี้ไม่มีเหี่ยวแห้ง และจะมีกลิ่นหอมสดชื่นเสมอไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไป
กี่ร้อยกี่พันปีก็ตาม

ตรงข้าม ดอกกุหลาบของคนบาปนั้น ดู ๆ ก็เหมือนกุหลาบอยู่หรอก แต่ตามความเป็นจริงแล้ว
ก็มีหนามแหลมคม ซึ่งอาจทิ่มแทงเขาตลอดชีวิต ทำให้มโนธรรมตายด้าน​ และเวลาจะตายก็ทำให้
เขาเศร้าใจด้วยความขมขื่น เพราะมโนธรรมติเตียน และมีหวังที่จะสูญเสียวิญญาณตลอดนิรันดรด้วย
ทำให้พวกเขาต้องกระโจนลงในขุมไฟแห่งความหมดหวัง แต่ถ้าหากกุหลาบของเรายังมีหนาม​ มันก็
เป็นหนามของพระเยซูซึ่งเปลี่ยนเป็นกุหลาบ​ และถ้าหากมันจะทิ่มตำเรา ก็แค่ชั่วเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
และเพื่อเป็นการเยียวยารักษาโรคร้ายของบาป และช่วยวิญญาณเราให้รอดเท่านั้น

ฉะนั้น​ ในทุกกรณีเราต้องพยายามสวมมงกุฎที่ทำด้วยกุหลาบจากสวรรค์ โดยสวดสายประคำ
ดอกกุหลาบครบสายทุกวัน นั่นคือ​ สวดลูกประคำธรรมดา (ที่มี 50 เม็ด) สามสาย ซึ่งเป็นเหมือนพวง
หรีดเล็ก ๆ​ สามพวง หรือมงกุฎดอกไม้สามมงกุฎ และเราก็มีเหตุผลสองอย่างในการทำเช่นนี้ ประการ
แรก คือให้เกียรติแก่สามมงกุฎของพระเยซูและแม่พระ กล่าวคือมงกุฎแห่งพระหรรษทานของพระเยซู
ในเวลาที่พระองค์ลงมารับเอากาย มงกุฎหนามแห่งมหาทรมาน และมงกุฎแห่งความรุ่งเรืองของพระองค์
ในสวรรค์ และแน่นอนมงกุฎสามขั้นนี้พระตรีเอกภาพก็ได้มอบให้แก่พระนางมารีย์ในสวรรค์ด้วย

ประการที่สอง เราควรทำเช่นนี้เผื่อว่าตัวเราเองจะได้รับมงกุฎสามมงกุฎ​ จากพระเยซูและแม่พระด้วย​
มงกุฎวงแรกสำหรับบุญกุศลที่เราได้ทำมาตลอดชีวิต มงกุฎ​วงที่สองเป็นมงกุฎแห่งความสงบสุข​ในเวลา
ใกล้จะตายของเรา และมงกุฎวงที่สามเป็นมงกุฎแห่งสิริมงคลของเราในสวรรค์

ถ้าท่านสวดสายประคำอย่างซื่อสัตย์ตลอดชีวิต ข้าพเจ้ารับรองว่า “แม้ท่านจะมีบาปมากมายในชีวิต​
พี่ท่านก็จะไม่ผิดหวังที่จะได้มงกุฎแห่งสิริมงคล” แม้ท่านจะมายืนบนขอบแห่งการสาปแช่ง​ แม้ท่านมีเท้า
ข้างหนึ่งอยู่ในนรกแล้ว แม้ท่านได้ขายวิญญาณแก่ปีศาจ เหมือนหมอผีทำเวลาปลุกเสกอาคม แม้ท่าน
เป็นเฮเรติกที่หัวรั้นยังกะปีศาจ ไม่ช้าก็เร็วท่านจะกลับใจและแก้ไขชีวิตของท่าน​ แล้ววิญญาณของท่าน
จะรอด​ - โปรดจำคำข้าพเจ้าไว้ - อย่างสั้น​ ๆ​ ก็คือว่า ขอให้ท่านสวดสายประคำ​ (​3 สาย) ทุกวันอย่าง
เลื่อมใสจนถึงสิ้นชีวิต ทั้งนี้โดยมีจุดมุ่งหมายว่า ขอให้ได้รู้จักความจริง ได้กลับใจ​ และรับการอภัยบาป

ในหนังสือเล่มนี้มีเรื่องของคนบาปสำคัญ ๆ หลายคนที่กลับใจโดยอำนาจของสายประคำ
โปรดอ่านดูและพิจารณาไตร่ตรองดูบ้างเถิด
1 เปโตร 5:4

โปรดติดตาม​ตอนต่อไป​

[rosa-lee]

ความลับของสายประคำ​
โดย​ : นักบุญ​ หลุยส์​ เดอ​ มงฟอร์ต​
ตอนที่​ (8)
ต้นกุหลาบมหัศจรรย์​ (สำหรับ​คนศรัทธา)

ท่านผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายที่กำลังเดินอยู่ในหนทางแห่งพระจิตเจ้า ข้าพเจ้าคิดว่าท่านคงจะ
ไม่ถือสาอะไรที่ข้าพเจ้าจะมอบต้นกุหลาบมหัศจรรย์น้อย ๆ นี้แก่ท่าน ซึ่งถูกนำลงมาจากสวรรค์​
จะได้เอาไปปลูกในวิญญาณของท่าน มันจะไม่รบกวนหรือขัดขวางกลิ่นหอมจากดอกไม้ที่มาจาก
การบำเพ็ญภาวนาของท่าน​ เพราะมันเป็นต้นไม้ทิพย์​ และกลิ่นของมันหอมหวน​ชวนดม มันเป็น
ดอกไม้ที่บริสุทธิ์ไม่มีรอยด่างพร้อย​ ถ้าได้รับการรดน้ำพรวนดินดี ๆ ทุกวัน​ มันก็จะเติบโตสูงใหญ่
แผ่กิ่งก้านสาขาออกไป พอที่จะปกป้องและช่วยให้ความศรัทธาด้านอื่น ๆ ครบครันยิ่งขึ้นอีกด้วย

แน่นอน ท่านคงเข้าใจความหมายของข้าพเจ้า เพราะพวกท่านเป็นศรัทธาชน ต้นกุหลาบสวรรค์
นี้ก็คือ พระเยซูและแม่พระในชีวิต​ ในความตาย​ และนิรันดร ใบเขียว ๆ​ ของมันก็คือข้อรำพึงลึกลับ
ยินดี​ หนามก็คือ บทรำพึงถึงความทุกข์โศกของพระองค์ และดอกกุหลาบก็คือบทรำพึง ข้อรุ่งเรืองถึง
พระเยซู​และพระแม่มารีย์ ช่อตูมของกุหลาบก็คือชีวิตวัยเด็กของพระเยซู​และแม่พระ การเบ่งบานของ
ดอกนี้ก็คือการทนทรมานของพระองค์ท่านทั้งสอง​ และการเบ่งบานเต็มที่ก็หมายถึงพระเยซูเจ้าและ
แม่พระในชัยชนะและรุ่งเรืองของพระองค์และพระนาง

ความงามของกุหลาบทำให้เราชื่นใจและเย็นใจ เช่นเดียวกัน​ บทรำพึงข้อลึกลับเรื่องน่าอภิรมย์
ยินดีของพระเยซูแม่พระก็ทำให้เรายินดีฉันนั้น แล้วหนามอันแหลมคมก็ทำให้เราเจ็บปวดเป็นทุกข์
โดยคิดถึงข้อรำพึงอันโศกเศร้าของกุหลาบนี้ ที่สุด​ กุหลาบ ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวล​ไปให้ทุกคนที่
รักมัน โดยการคิดถึงบทรำพึงถึงความรุ่งเรืองของพระเยซูเจ้าและแม่พระนั้นเอง

ฉะนั้น​ ขออย่าเยาะเย้ยถากถางต้นดอกไม้ทิพย์นี้ แต่จงนำเอาดอกไม้นี้มาปลูกไว้ในใจ​ และในมือ
ของท่าน โดยตั้งใจว่าจะสวดลูกประคำทุกวัน โดยการสวดทุกวัน​ และทำกิจการที่ดีก็เท่ากับว่าท่านเอาใจ
ใส่ทะนุถนอมและรดน้ำต้นไม้แล้วทีละเล็กละน้อย ท่านจะเห็นว่าต้นไม้ดอกเล็ก ๆ ที่ให้แก่ท่านนี้ จะเจริญเติบ
โตเป็นต้นไม้ใหญ่ จนฝูงสกุณาแห่งสวรรค์ คือวิญญาณที่ศรัทธาทั้งหลายจะมาเกาะกิ่งบนต้นกุหลาบวิเศษนี้
และทำรังอาศัยบนต้นกุหลาบวิเศษนี้ ร่มใบของมันจะช่วยปกป้องพวกเขาจากความร้อนของดวงอาทิตย์
ความสูงของมันจะช่วยให้พวกเขาพ้นจากการรบกวนของสัตว์ร้ายบนพื้นดิน และที่ดีกว่านั้น อาจกินผลไม้
จากต้นกุหลาบนี้เป็นอาหาร และผลไม้วิเศษเลิศรสทิพย์นี้ก็คือพระเยซูคริสตเจ้าของเรา ซึ่งพวกเขาจะพากัน
แซ่ซ้องสรรเสริญและถวายสดุดีตลอดกาล

ขอให้เป็นเช่นนี้แก่พระผู้เป็นเจ้าแต่ผู้เดียว

โปรดติดตาม​ตอนต่อไป​

[rosa-lee]

ความลับของสายประคำ​
โดย​ : นักบุญ​ หลุยส์​ เดอ​ มงฟอร์ต​
ตอนที่​ (9)
ดอกกุหลาบ​ตูม​ (สำหรับเด็ก ๆ​ )

คุณหนู​ ๆ​ ที่รักทั้งหลาย!​ ดอกกุหลาบตูม ๆ เหล่านี้เป็นของสำหรับ​ คุณหนู มันหมายถึงเม็ดลูกประคำ
แต่ละเม็ดบนสายประคำนั้น​ พวกหนูคงจะสงสัยว่าเม็ดเล็ก ๆ เหล่านี้จะมีคุณค่าอะไร? โอ​ อยากให้หนูรู้เสีย
จริง ๆ ว่าเม็ดเหล่านี้มีประโยชน์ต่อคุณหนูมากมายเพียงใด สักวันดอกเล็ก ๆ เหล่านี้ จะผลิบานเบ่งเต็มที่​
เป็นดอกกุหลาบใหญ่โตสวยงาม และส่งกลิ่นหอม หากพวกหนูจะสวดบทวันทามารีย์อย่างดี

แน่นอน มันจะเป็นการมากเรื่องเกินไป หากข้าพเจ้าขอร้องให้คุณหนูสวดวันละ 150 เม็ดทุกวัน แต่คิดว่า
สวดวันละ 50 เม็ด​ คงได้แน่ สวดด้วยตั้งใจ ด้วยวาจา​ และด้วยความรัก​ ลูกประคำนี้จะเป็นดังพวงหรีดรัก​
และมงกุฎทั้งหลายที่หนู ๆ จะเอาไปถวายพระเยซูและพระมารีย์ได้​ โปรดฟังถ้อยคำที่ข้าพเจ้าพูดมานี้​
และพยายามปฏิบัติตามเถิด

มีเด็กหญิงสองคนพี่น้อง กำลังตั้งใจสวดลูกประคำหน้าบ้านของเขา มีสุภาพสตรีสาวสวยคนหนึ่ง
ประจักษ์มาและเดินตรงไปหาคนเล็ก ซึ่งมีอายุ ราว ๆ 6-7 ปีเท่านั้น จับมือแม่หนู และพาแม่หนูหายไป
พี่สาวตกใจมาก และวิ่งไปหาน้องทุกหนทุกแห่ง หาจนเหนื่อยอ่อนก็ไม่พบ ก็เลยเดินคอตกกลับบ้าน
และบอกพ่อแม่ว่าน้องถูกลักพาไป ไม่ทราบว่าพาไปไหน ตลอดเวลาสามวันเต็ม ๆ พ่อแม่ได้ออกติดตาม
หาลูกสาวคนเล็ก แต่ก็ไม่พบ

เย็นค่ำวันที่สาม เขาก็มาพบลูกที่ประตูบ้าน​ ดูมีอาการสุขกายสบายใจยิ่งนัก แน่นอนพวกเขาต้องรัว
คำถามใส่ว่าแม่หนูตัวดีหายหน้าหายตาไปอย่างไรมาอย่างไร? แม่หนูก็บอกว่าสุภาพสตรีที่หนูเคยสวด
ลูกประคำขอนั้นได้พาเธอไปชมสถานที่สวยงาม และให้ขนมอร่อย ๆ รับประทาน เธอยังบอกด้วยว่า
สุภาพสตรีนั้นได้ให้เธออุ้มเด็กชายเล็ก ๆ​ น่ารักและสง่างามมาก เธอได้จูบกุมารนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า

บิดามารดา ซึ่งเพิ่งกลับใจมาเป็นคาทอลิกก่อนหน้านี้ไม่นาน​ ได้ส่งคนไปเชิญพระสงฆ์เยซูอิต มา
อบรมสั่งสอนตน เพื่อจะได้เข้ามาอยู่ในพระศาสนจักรอย่างดี และสอนเรื่องความศรัทธาในการสวดสาย
ประคำด้วย พวกเขาได้บอกพระสงฆ์ถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้น​ แล้วพระสงฆ์นั้นเองก็มาเล่าเรื่องนี้ให้ข้าพเจ้าฟัง​
-​ เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศปารากวัย​(Paraguay)

ฉะนั้น​ พ่อหนูแม่หนูทั้งหลาย จงทำตามอย่างของแม่หนูทั้งสองนี้​ และสวดลูกประคำทุกวันเหมือนเขา
ถ้าหนูทำเช่นนี้หนูจะมีสิทธิไปสวรรค์เห็นพระเยซู​และแม่พระ

จึงขอเชิญทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้คงแก่เรียน คนไร้การศึกษา​ คนชอบธรรม คนบาป คนมียศศักดิ์
และคนธรรมดา พากันมาถวายเกียรติแด่พระเยซูและแม่พระ ทั้งวันทั้งคืน​ โดยการสวดลูกประคำ
“จงบอกมารีย์ผู้ทำงานหนักเพื่อท่านทุกคน”​ (โรม 16:6)

………………………………………………………………………

ความลับของสายประคำ​
โดย​ : นักบุญ​ หลุยส์​ เดอ​ มงฟอร์ต​
ตอนที่​ ( 10 )
ภาค​ 1 สายประคำ ​(ROSARY) คืออะไร?​
กุหลาบดอกที่​ 1 (การภาวนา​แบบมงกุฎ​กุหลาบ)​

การภาวนาแบบมงกุฎกุหลาบประกอบด้วย 2 อย่าง คือ​ จิตภาวนา​ และวาจาภาวนา จิตภาวนานั้น
คือการรำพึงคิดถึง ชีวิตลึกลับ ความตาย และสิริมงคลของพระเยซู และพระมารดาของพระองค์ วาจา
ภาวนานั้นประกอบด้วยการสวดออกเสียงเป็นบทวันทามารีอา 15 กลุ่ม กลุ่มละ 10 เม็ด แต่ละกลุ่มนำ
โดยบทข้าแต่พระบิดา และในเวลาเดียวกันก็พิจารณาและรำพึงถึงขั้นตอนของชีวิตที่สำคัญ ๆ และฤทธิ
กุศลต่าง ๆ​ ที่สำคัญ ๆ ของพระเยซูและแม่พระซึ่งได้ตัดตอนเอามาเป็นข้อคิด 15​ ข้อ

ในห้ากลุ่มแรก (กลุ่มละ 10 เม็ด) เราต้องให้เกียรติข้อลึกลับที่น่าอภิรมย์ยินดี และห้ากลุ่มที่สอง
ข้อลึกลับเกี่ยวกับความโศกศัลย์​ และห้ากลุ่มสุดท้าย คิดถึงข้อลึกลับรุ่งเรือง

ฉะนั้น​ การสวดลูกประคำก็เป็นการผสมผสานกันระหว่างจิตภาวนา และ วาจาภาวนา ซึ่งโดยการ
ภาวนาทั้งสองอย่างนี้เราให้เกียรติและพยายามจะถือตามเยี่ยงอย่างชีวิต ความตาย การทรมาน และ
ความรุ่งเรืองของพระเยซูเจ้า และพระมารดามารีย์

โปรดติดตาม​ตอนต่อไป​

[rosa-lee]

ความลับของสายประคำ​
โดย​ : นักบุญ​ หลุยส์​ เดอ​ มงฟอร์ต​
ตอนที่​ ( 11 )
กุหลาบดอกที่​ 2​

เนื่องจากบทสวดในการสวดสายประคำ เป็นบทของพระคริสตเจ้าเอง และบทคำนับทักทายของ
พระพรหมเทพผู้ถือสาร​ กล่าวคือ​ บทข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย​ และบทวันทามารีย์ จึงเป็นที่
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า บทภาวนาแรก และความศรัทธาแรก ๆ ของสัตบุรุษคงได้เริ่มใช้กันมานับแต่สมัย
อัครสาวกโน่นแล้ว

แต่ว่ามาในปี 1214 นั้น พระศาสนจักรได้รับสายประคำในรูปแบบปัจจุบันนี้ พร้อมกับวิธีใช้ซึ่งเหมือน
กับที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้​ สายประคำแบบนี้ถูกมอบให้แก่พระศาสนจักรโดยทางนักบุญดอมินิก​ ซึ่งได้รับจาก
พระหัตถ์ของแม่พระเอง​ ซึ่งมอบให้เป็นเครื่องมืออันทรงฤทธิ์ในการทำให้เฮเรติก​อัลบีแยนส์และคนบาปอื่น ๆ
กลับใจ

ข้าพเจ้าใคร่จะขอเล่าเรื่องราวการที่ท่านได้รับลูกประคำนี้มาได้อย่างไร ดังจะมีหลักฐานจากหนังสือ​
“เกียรติของบทเพลง” ​(De dignitate Psalteri) เขียนโดยบุญราศี อาลัน​ เดอ ลา ร้อจ ผู้เป็นสงฆ์คณะดอมินิกัน
และเป็นสาวกแห่งลูกประคำ ดังมีเรื่องว่า​ ท่านนักบุญดอมินิก มองเห็นว่าความชั่วร้ายของบาปกำลังขัดขวาง
การ กลับใจของพวกเฮเรติก อัลบีแย็นส์ จึงปลีกตัวเข้าไปอยู่ในป่าใกล้เมืองตูลูส ทำการจำศีลภาวนาไม่หยุด
หย่อนตลอดสามวันและสามคืน ระหว่างนี้ท่านไม่ทำอะไรนอกจากร้องไห้ และทำการทรมานกายใช้โทษบาป
อย่างหนัก เพื่อทุเลาพระพิโรธของพระเป็นเจ้า ท่านเคร่งครัดต่ออุดมการณ์​และระเบียบการมาก จนถึงกับ
ซูบซีดผ่ายผอมลง และเป็นลมล้มลงเข้าขั้นโคม่า

มาตอนนี้แม่พระได้ประจักษ์มาหาท่าน พร้อมกับเทวดาอีกสามองค์​ พระนางกล่าวว่า
“ดอมินิกที่รัก เธอทราบไหมว่าพระตรีเอกภาพชอบใช้อาวุธชนิดใด เพื่อปฏิรูปโลก”​

“ข้าแต่พระแม่”​ ดอมินิกตอบ “พระแม่รู้ดีกว่าผม เพราะรองลงมาจากพระเยซู​คริสตเจ้า​ ก็พระแม่นี่เองแหละ
เป็นอุปกรณ์ยอดเยี่ยมแห่งความรอด”​

แล้วพระแม่ก็ตอบว่า
“แม่อยากให้ลูกรู้ว่า ในการสงครามเช่นนี้ บทเพลงรบของแม่ก็คือ​บทเพลงของเทวดา (Angelic Psalter)
เสมอมา ซึ่งก็เป็นเสาหลักแรกแห่งพระธรรมใหม่ด้วย ฉะนั้น​ ถ้าลูกอยากเข้าถึงวิญญาณที่ดื้อกระด้าง
และนำเขามาหาพระเป็นเจ้า ก็จงเทศน์ถึงบทเพลงของแม่เถิด”

แล้วท่านนักบุญก็ลุกขึ้น รู้สึกโล่งใจ และเร่าร้อนด้วยความสาละวนที่จะเตือนคนในเขตอำเภอนั้น
ให้กลับใจ ท่านรับเดินตรงไปที่วัดสังฆราช

พอไปถึงก็มีเรื่องประหลาด​ เทวดาของพระเป็นเจ้าได้มาตีระฆังโบสถ์ให้กังวานออกไปเรียกร้อง
ประชาชนให้มาชุมนุมกัน​ แล้วท่านนักบุญก็เริ่มเทศน์ของท่านได้

พอเริ่มเทศน์เท่านั้น ก็เกิดลมพายุใหญ่พัดมาทันที แผ่นดินสั่นสะเทือน พระอาทิตย์ดับแสง มีฟ้าแลบ
ฟ้าร้อง ทำเอาผู้ฟังอกสั่นขวัญแขวนไปตาม ๆ กัน พวกเขารู้สึกกลัวมากขึ้น เมื่อมองดูรูปพระแม่ที่ประดิษฐาน
ไว้ในที่เด่นงาม พวกเขามองเห็นพระแม่ลอยขึ้นไปยังเบื้องสวรรค์สามครั้ง ราวกับว่าเรียกร้องการแก้แค้น
ของพระเป็นเจ้าให้ตกลงมาเหนือเขา หากไม่กลับใจ ไม่เปลี่ยนชีวิต และไม่แสวงหาการคุ้มกันจาก
พระมารดาพระเจ้า

โดยปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติเช่นนี้ พระผู้เป็นเจ้าต้องการเผยแพร่ความศรัทธาแบบใหม่
ต่อสายประคำอันศักดิ์สิทธิ์ และให้ความศรัทธาแพร่หลายออกไป

ที่สุด​ โดยคำภาวนาของท่านนักบุญดอมินิก พายุก็หยุดลง ท่านก็เทศน์ของท่านต่อไป ท่านเทศน์อย่าง
ร้อนรน และตรึงใจ ถึงความสำคัญ และคุณค่าของสายประคำจนทุกคนในเมืองตูลูสเห็นคล้อยตาม และ
ทิ้งความเชื่อถือผิด ๆ ของพวกเขา​ และภายในเวลาไม่นาน สภาพของศีลธรรมก็ดีขึ้นอย่างแทบไม่น่าเชื่อ
​ ประชาชนพากันดำรงชีวิตเป็นคริสตชนที่ดี​ และละทิ้งนิสัยไม่ดีต่าง ๆ​ ของตนเสียสิ้น

โปรดติดตาม​ตอนต่อไป​

[rosa-lee]

ความลับของสายประคำ​
โดย​ : นักบุญ​ หลุยส์​ เดอ​ มงฟอร์ต​
ตอนที่​ ( 12 )
กุหลาบ​ดอกที่​ 3 (นักบุญ​ดอมินิก) <A>

วิธีการอันประหลาดมหัศจรรย์ที่ความศรัทธาต่อการสวดสายประคำนี้ แพร่ขยายไป ดูเหมือนเป็น
ดังเส้นขนานที่คู่เคียงไปกับการที่พระเป็นเจ้าประทานทศบัญญัติแก่มนุษย์บนบรรพตซีนัย และได้แสดง
ให้มนุษย์เห็นความสำคัญและคุณค่าของการสวดนี้ด้วย

โดยมีพระจิตเจ้าดลใจ ได้รับคำสั่งสอนจากพระแม่เอง บวกกับประสบการณ์ส่วนตัว นักบุญดอมินิก
ได้ประกาศและเทศน์ถึงความศรัทธาต่อการสวดลูกประคำนี้ตลอดชีวิตของท่าน มิใช่เทศน์ด้วยวาจาเท่านั้น​
แต่ด้วยตัวอย่างด้วย เทศน์เรื่อยไปไม่ว่าเป็นถนนรนแคมหรือตรอกซอก​ ในเมืองหรือบ้านนอก ไม่เลือก
ชั้นวรรณะ การศึกษาหรือศาสนา ไม่ว่าจะเป็นคาทอลิก หรือเฮเรติก​ ก็ตาม

การสวดลูกประคำทุกวันของท่านก็เป็นดังการเตรียมเทศน์ไปในตัว และหลังจากเทศน์แล้วก็จัด
ให้มีพิธีนัดพบกันเล็ก ๆ น้อย​ ๆ​ กับแม่พระ

วันหนึ่งท่านต้องไปเทศน์ที่พระวิหารนอสเตรอดัม แห่งปารีส​ พอดีเป็นวันฉลองนักบุญ​ จอห์น เอวัง​เย​ลิสต
ท่านเข้าไปที่วัดน้อยซึ่งอยู่หลังแท่นใหญ่ สวดลูกประคำอย่างตั้งใจเพื่อเป็นการเตรียมเทศน์ดังที่เคยทำ
เสมอมา พระแม่เจ้าได้ประจักษ์มาหาท่านกล่าวว่า
“ดอมินิกเอ๋ย แม้ว่าเรื่องที่เธอได้วางโครงการไว้ว่าจะเทศน์อะไรนั้นเป็นสิ่งที่ดีแล้ว แต่แม่กำลังนำบทเทศน์
ที่ดีกว่ามาให้ลูก”​

ดอมินิกก็ยื่นมือออกไปรับหนังสือที่พระแม่เอามาให้อ่านบทเทศน์นั้นอย่างตั้งใจ และเมื่อเข้าใจดี​
ก็รำพึงถึงบทเทศน์นั้น​ แล้วก็ขอบคุณพระแม่

เมื่อถึงเวลาเทศน์ ท่านก็ขึ้นไปบนธรรมาสน์ และทั้ง ๆ​ ที่เป็นวันฉลองนักบุญจอห์น ท่านก็ไม่ได้พูด
อะไรนอกจากบอกว่า
นักบุญจอห์นเป็นองครักษ์ของพระราชินีสวรรค์ พวกที่มาฟังเทศน์นั้นเป็นนักวิทยาและผู้คงแก่เรียน
หลายคน ซึ่งเคยได้ยินแต่บทเทศน์ที่แปลก ๆ คมคายและน่าฟังมาก่อนทั้งนั้น แต่นักบุญดอมินิก
บอกพวกเขาว่า ตนไม่อยากเทศน์ด้วยสุนทรพจน์​อันเป็นวิชาการ และปรีชาฉลาดในสายตาของโลก
แต่จะขอพูดถึง ความซื่อ ๆ ของพระจิตเจ้า และพลังฤทธิ์ของพระองค์

ดังนั้น​ ท่านก็เริ่มเทศน์เรื่องลูกประคำ และอธิบายความหมายของบทวันทามารีย์เป็นคำ ๆ ไป
เหมือนกับที่ท่านเคยไปพูดกับเด็ก ๆ​ และใช้ตัวอย่างง่าย ๆ ที่มีอยู่ในหนังสือที่แม่พระให้นั้น

มีนักปราชญ์คนหนึ่งชื่อว่า การ์ทาเยนา ได้บันทึกคำพูดของบุญราศี Alan de la Roche
(อาลัง เดอ​ ลา ร้อซ) ในหนังสือ​ “เกียรติของเพลงสดุดีแม่พระ” (De dignitale Psalteri)
ได้พูดถึงต้นตอของเรื่องนี้​ ดังนี้ :

บุญราศีอาลังเขียนไว้ว่า วันหนึ่งคุณพ่อดอมินิกได้พูดกับตนในภาพนิมิตว่า “ลูกเอ๋ย เป็นการดีที่
จะเทศน์ แต่มันมักมีอันตรายที่เราจะใฝ่หาคำสรรเสริญเยินยอมากกว่าการแสวงหาความรอดของ
วิญญาณ จงเอาใจใส่ฟังเรื่องราวที่เกิดกับพ่อในกรุงปารีส เพื่อลูกจะไม่ผิดพลาด”​

ในเรื่องนี้ คือ : “พ่อต้องไปเทศน์ในวัดใหญ่ซึ่งมีชื่อ เป็นวัดของแม่พระ พ่อกำลังสนใจที่จะเทศน์ให้ปราด
เปรื่องเป็นพิเศษ​ มิใช่เพราะความจองหองอวดตัว แต่เพราะเห็นว่าผู้มาฟังนั้นเป็นปัญญาชนชั้นสูงทั้งนั้น”

“หนึ่งชั่วโมงก่อนเทศน์ พ่อก็สวดลูกประคำอย่างสำรวมตนดังที่เคยทำเสมอมาก่อนขึ้นธรรมาสน์​ แล้ว
ตกอยู่ในสภาพการเข้าฌาณ พ่อเห็นพระมารดาที่รักมาหาพ่อพร้อมกับหนังสือเล่มหนึ่งในมือ พระแม่พูดว่า
“ดอมินิกเอ๋ย การเทศน์ของลูกวันนี้คงจะดีมาก​ จะอย่างไรก็ตาม​ วันนี้แม่เอาบทเทศน์มาให้บทหนึ่งซึ่งดีกว่าหมด”

“แน่นอนพ่อดีใจอย่างที่สุด ยื่นมือออกไปรับหนังสือนั้น และอ่านดูทุกถ้อยทุกคำ และก็รู้สึกว่าจริงดังที่
พระแม่ได้พูด พ่อได้เนื้อหาดี ๆ​ สำหรับเอามาเทศน์ พ่อขอบคุณพระแม่ด้วยสิ้นสุดใจ”​

เมื่อถึงเวลาเริ่ม พ่อได้เห็นว่ามหาวิทยาลัยแห่งปารีส​ รวมทั้งชนชั้นผู้ดีตระกูลสูง มากมายอยู่ที่นั่น พวกเขา
ได้เห็นและได้ยินสิ่งมหัศจรรย์ที่พระสวามีกำลังทำโดยอาศัยพ่อ พ่อก้าวขึ้นไปบนธรรมาสน์

โปรดติดตาม​ตอนต่อไป​

[rosa-lee]

ความลับของสายประคำ​
โดย​ : นักบุญ​ หลุยส์​ เดอ​ มงฟอร์ต​
ตอนที่​ ( 13 )
กุหลาบ​ดอก​ที่​ 3 (นักบุญ​ดอมินิก) <B>

“มันเป็นวันฉลองนักบุญจอห์น​อัครสาวก แต่ทุกสิ่งที่พ่อพูดได้ถึงท่านก็มีอยู่เพียงว่า ท่านถูกเห็นว่า
เป็นผู้สมควรที่จะเป็นผู้เลี้ยงดูพระราชินีสวรรค์ ดังนั้น​ พ่อจึงเปิดฉากทักทายพวกเขาว่า
“ท่านเจ้าขุนมูลนาย และอาจารย์มหาวิทยาลัยที่มีเกียรติทั้งหลาย​ พวกท่านคงเคยได้ยินบทเทศน์
ที่มีคารมคมคาย​ และอ่อนช้อยเพราะหูมานานแล้ว วันนี้อาตมาไม่ต้องการพูดด้วยสำนวนนักปราชญ์​
และปรัชญาของมนุษย์ แต่ต้องการแสดงให้พวกท่านทราบถึงพระจิตของพระเป็นเจ้า
และความยิ่งใหญ่ของพระองค์”​

คำอ้างของ อาลัง จบลงเพียงแค่นี้ ต่อไปนี้เป็นคำพูดของการ์ทาเยนาเองว่า :
“ครั้นแล้วนักบุญดอมินิกพูดถึงคำทักทายของเทพคาเบรียลแก่พวกเขา โดยคำพูดธรรมดา ๆ ซื่อ ๆ
ใช้ตัวอย่าง และการเปรียบเทียบจากชีวิตประจำวัน”

ตามคำอ้างของ​การ์ทาเย​ นา ท่านบุญราศีอาลังได้พูดว่า พระเยซูเจ้า และแม่พระได้ประจักษ์มาหา
นักบุญหลายครั้ง เร่งรัด​ และดลใจท่านให้เทศน์ถึงลูกประคำมากขึ้น​ เพื่อกวาดล้างบาป และทำให้คนบาป​
และเฮเรติกกลับใจ

มีตอนหนึ่งการ์ทาเยนา​ อ้างว่า :
“องค์บุญราศีอาลังบอกว่าแม่พระได้เปิดเผยแก่ตนว่า หลังจากที่พระนางได้ประจักษ์แก่นักบุญดอมินิกแล้ว
พระบุตรก็ได้ประจักษ์มาหาท่านนักบุญด้วย และตรัสว่า :
“ดอมินิกที่รัก เราดีใจที่เห็นว่าเธอไม่หลงเชื่อในความปรีชาฉลาดของตน​ และแสวงหาการสรรเสริญ
อันว่างเปล่าของมนุษย​​์ เธอกำลังทำงานด้วยความสุภาพถ่อมตน เพื่อความรอดของวิญญาณ

“แต่มีพระสงฆ์หลายองค์ต้องการเทศน์อย่างมีชื่อเสียงเพื่อต่อต้านกิเลสบาปหยาบร้าย โดยไม่รู้แจ้ง
เห็นจริงว่า ก่อนที่จะให้โอสถที่ขมนั้น เขาต้องได้รับการจัดเตรียมโดยจัดโครงสร้างของปัญญาที่ป่วย
ให้อยู่ในรูปรอยที่ถูกต้องเสียก่อน

“นี่แหละทำไมว่า ก่อนที่จะทำอะไร พระสงฆ์ควรจุดไฟรักแห่งการภาวนาลงในจิตใจของประชาชน​
เป็นต้น​บทเพลงรักของเทวดา​กา​เบรียล โอ ถ้าหากพวกเขาเพียงแต่เริ่มสวดบทนี้ และมีความเพียรสวด
ไปเรื่อย ๆ โดยพระมหากรุณาของพระองค์​ พระเป็นเจ้าจะไม่ปฏิเสธพระหรรษทานของพระองค์เลย
เหตุนี้แหละ​ เราจึงต้องการให้ลูกเทศน์เรื่องการสวดลูกประคำของเราให้เขาฟังด้วย

ในอีกตอนหนึ่งท่านบุญราศี อาลัง กล่าวว่า :
“พระสงค์ทุกคนควรสวดบทวันทามารีอาอย่างศรัทธาก่อนออกไปเทศน์ เพื่อขอพระหรรษทานของ
พระเจ้า พวกเขาทำเช่นนี้ก็เพราะแม่พระเองได้บอกนักบุญดอมินิกว่า “ลูกรัก จงอย่าแปลกใจอะไร
ถ้าเห็นว่าการเทศน์ของลูกมิได้ผลดังหวัง​ เพราะลูกกำลังหว่านพืชลงในผืนดินที่ไม่มีฝนเลย บัดนี้เมื่อ
พระผู้ทรงฤทธิ์ได้วางแผนที่จะนิรมิตโฉมหน้าโลกใหม่ พระองค์ก็เริ่มส่งฝนให้ตกลงมาจากสวรรค์
และฝนนี้ได้แก่บททักทายของเทวดาต่อพระแม่นั่นเอง​ โดยการสวดบทนี้ฝนจะตกลงมาทั่วโลกทีเดียว”

“ฉะนั้น​ เมื่อลูกเทศน์ จงชวนประชาชนให้หมั่นสวดลูกประคำ​​ แ​ละโดยวิธีนี้ คำพูดของลูกจะได้ผลดีแก่วิญญาณ”

“นักบุญดอมินิกไม่รีรอที่จะทำตามต่อไป และนับแต่นั้นมา​ การเทศน์ของท่านได้ผลดีมาก”​

คำอ้างอิงตอนสุดท้ายนี้เอามาจาก “หนังสือเรื่องมหัศจรรย์แห่งสายประคำ”
(เขียนเป็นภาษาอิตาเลียน​ และยังพบในบทเขียนของท่านยูส​ติน บทเทศน์ที่ 143)

ข้าพเจ้ายินดีที่จะอ้างเอาคำของท่านนักเขียนที่มีชื่อเหล่านี้ได้ทุก ๆ​ คำเป็นภาษาละติน
เพื่อผลประโยชน์ สำหรับพระสงฆ์และผู้คงแก่เรียนอีกหลายคนที่อาจมีความข้องใจสงสัยถึง
อำนาจมหัศจรรย์ของสายประคำศักดิ์สิทธิ์นี้

ตราบใดที่พระสงฆ์ทำตามอย่างนักบุญดอมินิก และเทศนาถึงความศรัทธาต่อลูกประคำ ความศรัทธา​
และความร้อนรน ก็จะกระจายไปทั่ว​ คริสตจักร และคณะนักบวชที่เลื่อมใสต่อลูกประคำนี้​ แต่เนื่องจากว่า
มนุษย์ได้เฉยเมยต่อของขวัญสวรรค์นี้ บาปทุกชนิด​ และความไร้ระเบียบจึงได้แผ่กระจายไปในโลก
ทั้งกว้างและไกล

โปรดติดตาม​ตอนต่อไป​

[rosa-lee]

ความลับของสายประคำ​
โดย​ : นักบุญ​ หลุยส์​ เดอ​ มงฟอร์ต​
ตอนที่​ ( 14 )
กุหลาบ​ดอก​ที่​ 4 (บุญ​ราศี​ อาลัง​ เดอ​ ลา​ ร้อช​ ~ Alan del LA Roche~)

เกือบทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่ของศักดิ์สิทธิ์บางอย่าง ก็ตกเป็นของการเปลี่ยนแปลง เป็นต้นเมื่อมัน
ต้องขึ้นอยู่กับน้ำใจ มนุษย์ซึ่งบางทีก็กลอกกลิ้งไปมาเหมือนหยดน้ำบนใบบัว ฉะนั้นจึงไม่น่าแปลก
ใจอะไร ที่คณะภราดรภาพแห่งสายประคำสามารถยืนหยัดในความศรัทธาของตนหลังจากถูกแต่งตั้ง
โดยนักบุญดอมินิกได้เพียงหนึ่งศตวรรษเท่านั้น หลังจากนั้นก็ถูกลืมเลือนไปเสียหมด

แน่นอน​ การทำให้มนุษย์​เย็น​เฉยต่อสายประคำนี้ต้องถือว่าเป็นงานชิ้นเอกของจอมซาตานผู้อิจฉา​
ดังนี้ก็เป็นการทำให้สายธารแห่งพระหรรษทานของพระเจ้ามาสู่มนุษย์ก็ถูกอุดตันไป

ในปี 1349 พระเป็นเจ้าได้ลงโทษทั่วยุโรปทั้งหมด มนุษย์ต้องประสบกับโรคระบาดอย่างร้ายแรง
​ เริ่มจากทางตะวันออก ระบาดเข้าไปในอิตาลี เยอรมัน ฝรั่งเศส โปแลนด์​ และฮังการี ทำให้เกิดเมืองร้าง
และบ้านร้างมากมาย กะประมาณกันว่าในร้อยคนจะมีเพียงหนึ่งคนเท่านั้นที่รอดตายมาได้ เมืองใหญ่
เมืองน้อย​ หมู่บ้าน และอาราม ถูกทิ้งร้างไปถึงสามปี กล่าวคือจนถึงเวลาที่โรคหยุดระบาดแล้ว

จากนั้นการลงทัณฑ์ของพระเจ้าก็ถูกตามมาอย่างรวดเร็วด้วยมหาภัยฝ่ายวิญญาณ 2 ประการคือ​
ลัทธิเฮเรติก (มิจฉาคติ) ของพวก​ฟลาแยลลันต์ และลัทธิสกิสมาน​ (แตกแยก) ในปี 1376

ต่อจากนั้น เมื่อภัยพิบัติเหล่านี้ผ่านพ้นไปแล้ว สาธุ โดยพระแม่เมตตาของพระเป็นเจ้า พระแม่เจ้า
ได้สั่งให้บุญราศีอาลังฟื้นฟูคณะภราดรภาพแห่งสายประคำใหม่ ท่านอาลังผู้นี้เป็นพระสงฆ์คณะดอมินิกัน
องค์หนึ่งจากอารามดีนังในบริตานี​ ท่านเป็นนักเทวศาสตร์ที่ลือชื่อและเป็นนักเทศน์ลิ้นทอง พระแม่ได้
เลือกเอาท่านก็เพราะว่าภราดรภาพนี้ได้ถูกจัดตั้งขึ้นในจังหวัดนี้ก่อนเพื่อน​ จึงเป็นการสมควรอย่างยิ่ง
ที่สงฆ์ชาวดอมินิกันจากจังหวัดเดียวกันจะเป็นผู้รับเกียรติฟื้นฟูคณะนี้อีกที

ท่านบุญราศีอาลังเริ่มงานสำคัญของท่านนี้ในปี 1460 หลังจากที่พระเยซูเจ้าได้มาบอกท่านเอง
ขอได้เล่าเรื่องการรับสารของท่านดังนี้ :
วันหนึ่ง ขณะที่ทำนกำลังถวายบูชามิสซาอยู่นั้น พระสวามีเจ้าผู้ปรารถนาที่จะปลุกให้ท่านเทศน์เรื่อง
การสวดสายประคำได้ตรัสกับท่านในฮอสเตียศักดิ์สิทธิ์ว่า “ทำไมเธอจึงตรึงกางเขนเราอีกเร็วเช่นนี้?”
- ท่านอาลังก็ตกใจและถามว่า “พระเจ้าข้า​ พระองค์พูดอะไรครับ?”​ - “ก็ตรึงเราอีกโดยบาปของเธอน่ะซี”
พระเยซูตอบ​ “และเรายินดีที่จะถูกตรึงอีกดีกว่าที่จะปล่อยให้พระบิดาถูกสบประมาทโดยบาปที่เธอเคยทำ
แต่บัดนี้เธอกำลังตรึงเราอีก เพราะเธอได้เรียนรู้และเข้าใจดีว่าเธอต้องเทศน์ถึงความศรัทธาต่อลูกประคำ
ของพระแม่ของเรา แต่เธอก็ไม่ทำ ถ้าหากเธอทำเพียงสิ่งนี้เท่านั้นก็เท่ากับว่าเธอได้สอนหลาย ๆ​ วิญญาณ
ได้รู้จักหนทางที่ถูกต้อง​ เพื่อจูงพวกเขาไปให้พ้นบาป แต่อนิจจาน่าเสียดาย เธอไม่ได้ทำ ฉะนั้น​ ต้องนับว่า
เธอมีความผิดในบาปต่าง ๆ ที่พวกเขาทำด้วย”

คำติเตียนอันน่าสะพรึงกลัวนี้ ทำให้ท่านบุญราศี อาลัง ตั้งสัตย์ปฏิญาณอย่างสง่าว่าจะเทศน์เรื่องการ
สวดลูกประคำไม่หยุดหย่อน

วันหนึ่งแม่พระได้พูดกับท่านเพื่อเตือนให้ท่านเทศน์เรื่องสายประคำมากขึ้นว่า
“ในวัยหนุ่ม ลูกเป็นคนบาปหนา” พระแม่กล่าว “แต่แม่ได้รับพระหรรษทานจากพระบุตร เพื่อให้ลูกกลับใจ
ถ้าหากเป็นไปได้​ แม่ก็อยากรับการทรมานทุกชนิดเพื่อช่วยลูก เพราะการที่คนบาปกลับใจนั้นนับว่าเป็น
ความรุ่งเรืองและศักดิ์สิทธิ์ของแม่มาก และแม่ก็อยากทำเช่นนี้เพื่อให้ลูกเป็นผู้สมที่จะเทศน์
เรื่องสายประคำไปทั้งไกลและกว้าง”​

นักบุญดอมินิกเองก็ได้ประจักษ์มาหาท่านบอกว่าการเทศน์ของท่านได้ผลดีมากมายเพียงใด หลายคน
ได้กลับใจเพราะการฟังเทศน์มิสชั่นของท่าน นักบุญพูดกับท่านว่า :
“จงดูเถอะว่า มีผลดีน่าอัศจรรย์เพียงใดที่ฉันได้รับจากการเทศน์เรื่องสายประคำ! เธอและทุกคนที่รัก
แม่พระควรจะทำเช่นเดียวกัน เพราะโดยการสวดนี้ เธอจะดึงดูดทุกคนให้มีความรู้อันแท้จริงแห่งฤทธิ์กุศล”

พูดสั้น ๆ ก็คือ นี่คือเรื่องราวชี้แจงว่า นักบุญดอมินิกได้ตั้งสายประคำศักดิ์สิทธิ์อย่างไร และบุญราศีอาลัง
ได้รื้อฟื้นมันอย่างไร?

โปรดติดตาม​ตอนต่อไป​

[rosa-lee]

ความลับของสายประคำ​
โดย​ : นักบุญ​ หลุยส์​ เดอ​ มงฟอร์ต​
ตอนที่​ ( 15 )
กุหลาบ​ดอก​ที่​ 5 (คณะ​ภราดร​ภาพ)

พูดอย่างเคร่งครัดรัดกุมแล้ว ก็ต้องถือว่า มีคณะภราดรภาพแห่งสายประคำเพียงคณะเดียว
คือคณะที่สมาชิกยินยอมพร้อมใจกันสวดสายประคำแบบวันละ 150 เม็ด​ อย่างไรก็ตามหากพิจารณา
ถึงความศรัทธาของคนสวดแล้ว เราอาจแบ่งเป็น 3 จำพวก : คณะที่สมาชิกธรรมดาตั้งใจจะสวดครบ
150 เม็ด​ ในหนึ่งสัปดาห์ สมาชิกตลอดชีพซึ่งจะสวดปีละครั้ง และสมาชิกทุกวัน​ พวกนี้ตั้งใจแน่วแน่ว่า
จะสวดให้ได้วันละ 150 เม็ด

แต่จงจำไว้ว่าไม่มีการบังคับให้ใครสวดภายใต้มาตรการว่าเป็นบาป และถ้าไม่สวดก็ไม่เป็นบาปเบา
เสียด้วย เพราะการรับสวดนี้เป็นแบบอาสาสมัคร ขอเตือนสักหน่อยว่าจะ​ สัตบุรุษไม่ควรเข้าร่วมคณะนี้
หากไม่มีความตั้งใจที่จะทำตามข้อผูกมัดเรื่องการสวดลูกประคำบ่อย ๆ ให้ได้ โดยที่ไม่เป็นการละเมิด
หน้าที่ในฐานะชีวิตของตน

ฉะนั้น ถ้าหากการสวดนี้เป็นการขัดขวางต่อหน้าที่ตามฐานะชีวิตของตนแล้ว ก็ให้เลือกทำหน้าที่ของ
ตนดีกว่า เช่นเดียวกันคนป่วย​ ก็ไม่จำเป็นต้องสวดหมด 150 เม็ด หรือเพียงส่วนใดส่วนหนึ่ง หากการสวดนี้
ทำให้เขาเหน็ดเหนื่อยหรือสุขภาพทรุดโทรมลง

ถ้าหากท่านไม่สามารถสวดเพราะหน้าที่บังคับ หรือลืมเฉย​ ๆ​ หรือมีธุระด่วนจำเป็น ก็ไม่ถือว่าเป็น
บาปแม้แต่บาปเบา ท่านจะได้รับส่วนบุญจากคณะภราดรภาพเท่า ๆ เดิม​ คือได้รับพระหรรษทาน และส่วน
บุญจากการสวดลูกประคำจากพี่น้องชายหญิงทั่วโลก

และพี่น้องชาวคาทอลิกทั้งหลาย หากท่านไม่อาจจะสวดลูกประคำได้ เพราะความไม่เอาใจใส่หรือ
เกียจคร้าน หากไม่มีเจตนาสบประมาทการสวดนี้ โดยตัวมันเองก็ยังไม่เป็นบาปอะไร​ ในกรณีเช่นนี้มัน
เป็นเหมือนการหลอกเข้ามาในสมาคมคณะภราดรภาพเพื่อจะได้มีส่วนบุญในการสวดภาวนาของคณะนี้
อย่างสบาย ๆ เท่านั้น นอกนั้น​ เนื่องจากว่าท่านไม่ได้ซื่อสัตย์สิ่งเล็ก​ๆ​ น้อย ๆ ในไม่ช้าท่านก็จะตกถลำทำผิด
ในเรื่องใหญ่ ๆ ซึ่งอาจเป็นบาปก็ได้ ตามคำพระคัมภีร์ว่า “ใครที่ประมาทสิ่งเล็กน้อย​ จะถลำในสิ่งใหญ่”​
(เอเกลซีอัสติก 19:1)
……………………………………………………………………………………………………………

ความลับของสายประคำ​
โดย​ : นักบุญ​ หลุยส์​ เดอ​ มงฟอร์ต​
ตอนที่ ​( 16 )
กุหลาบ​ดอก​ที่​ 6 (บทเพลงสดุดี​พระ​แม่​มา​รี​ย์)

นับแต่เวลาที่นักบุญ​ดอมินิกเผยแพร่​ความ​ศรัทธา​ต่อ​ลูก​ประค​ำมาจนถึงคราวที่ท่านบุญราศี
อาลัง เดอ ลา ร้อช ทำการฟื้นฟูใหม่ในปี​ 1460 นั้น​ การสวดเช่นนี้เรียกว่า “เพลงสดุดีพระเยซูและ
พระแม่มารีย์” ทั้งนี้เพราะว่า มันมีจำนวนเท่ากับของบทวันทามารีย์กับบทเพลงสดุดีที่พระยาดาวิด
แต่ง แต่เนื่องจากว่าคนซื่อ ๆ​ และไม่ได้รับการศึกษา ย่อมไม่สามารถสวดบทเพลงของพระยาดาวิดได้​
จึงเห็นว่าสวดบทวันทามารีอาโดยการสวดสายประคำ 150 เม็ดนั้นง่ายกว่าและมีผลดีเช่นเดียวกัน

แต่เราอาจถือว่า การสวดลูกประคำนั้นจะได้รับบุญกุศลและมีค่ามากกว่าบทเพลงของพระยาดาวิด
ด้วยเหตุผล 3 ประการดังนี้
1. ประการแรก - เพราะบทเพลงของเทวดา ทำให้เกิดผลสูงค่ากว่าบทเพลงของดาวิด ที่พูดถึงพระ​วจ​นาถต์
รับเอากายนั้น เป็นเพียงการทำนายถึงการมาของพระองค์เท่านั้น
2. ประการที่สอง ​- สิ่งที่เป็นจริงย่อมดีกว่าสิ่งที่เป็นภาพพจน์เท่านั้น เหมือนกับกายเราย่อมดีกว่าเงาของมัน
ทำนองเดียวกัน เพลงของแม่พระย่อมดีกว่า เพลงของดาวิด ซึ่งเพียงแต่พาดพิงถึงพระองค์เท่านั้น
3. ประการที่สาม - เพลงของแม่พระ (ข้าแต่พระบิดา​ - วันทามารีอา) เป็นผลงานของพระตรีเอกภาพ
มิใช่งานของมนุษย์

บทเพลงของแม่พระหรือลูกประคำ แบ่งออกเป็น 3 ภาค​ ภาคละ 50 เม็ด ตามเหตุผลพิเศษดังนี้ :
1) ถวายเกียรติแก่พระตรีเอกภาพ
2) ถวายเกียรติแก่ชีวิต ความตาย​ และความรุ่งเรือง ของพระเยซูคริสต์เจ้า
3) เอาอย่างพระศาสนจักรผู้มีชัย (ในสวรรค์) - เพื่อช่วยสมาชิกของพระศาสนจักรซึ่งยังเป็นดัง
ทหารประจำการ​ และปัดเป่าความเจ็บปวดของพระศาสนจักรที่ทนทรมานในโลกนี้
4) เพื่อเอาอย่างกลุ่มสามกลุ่มที่ บทเพลงนี้แบ่งเป็น
ก) ชีวิตชำระตน
ข) ชีวิตรุ่งเรือง (Illuminative)
ค) ชีวิตรวมเป็นหนึ่งเดียว
5) สุดท้าย เพื่อจะประทานพระหรรษทานให้อย่างอุดมในชีวิตของเรา ประทานความสงบเวลา
จะสิ้นใจ และความรุ่งเรืองในนิรันดร

โปรดติดตาม​ตอนต่อไป

[rosa-lee]

ความลับของสายประคำ​
โดย​ : นักบุญ​ หลุยส์​ เดอ​ มงฟอร์ต​
ตอนที่​ ( 17 ))
กุหลาบ​ดอก​ที่​ 7 (มงกุฎ​กุหลาบ​)

นับแต่บุญราศีอาลังได้รื้อฟื้นปลุกเสกความศรัทธานี้ให้มีชีวิตใหม่​ เสียงของประชาชน
(ซึ่งนับว่าเป็นเสียงพระเจ้า) เรียกกันว่า​ “ลูกประคำ” (ภาษาอังกฤษว่าโรซารี) - คำว่า โรซารีนี้ แปลว่า
มงกุฎกุหลาบ​ ซึ่งหมายความว่าทุกครั้งที่เราสวดโรซารี (มงกุฎกุหลาบ - ลูกประคำ) อย่างศรัทธาก็เท่า
กับว่าเราวางมงกุฎที่ประกอบด้วยกุหลาบแดง 153​ ดอก​ และกุหลาบขาว 16 ดอก ไว้บนศีรษะของ
พระเยซูและแม่พระ แต่เนื่องจากเป็นกุหลาบสวรรค์​ กุหลาบเหล่านี้จะไม่มีวันเหี่ยวแห้งแหัง
หรือสูญสิ้นความสวยไปได้

แม่พระได้แสตงความพอใจในนามของโรซารีทุกประการ​ ได้เปิดเผยแก่หลายคนว่าทุกครั้งที่
พวกเขาสวดวันทามารีย์บทหนึ่ง​ พวกเขาก็มอบดอกกุหลาบให้แม่พระหนึ่งดอก​ และเมื่อสวดหมดสาย
​ (150 เม็ด) ก็เท่ากับว่าถวายมงกุฎกุหลาบให้พระแม่หนึ่งมงกุฎ

มีนักบวชคณะเยซูอิตผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่งชื่อ บราเดอร์​ อังฟองซ์ โรตรีเกส มักจะสวดสายประคำด้วย
ความร้อนรนจนถึงกับว่า บ่อย ๆ ท่านได้เห็นดอกกุหลาบแดงดอกหนึ่งออกมาจากปากของท่าน ทุกครั้งที่
สวดบทข้าแต่พระบิดาบทหนึ่ง และดอกกุหลาบสีขาวทุกครั้งที่สวดวันทามารีอาหนึ่งบท ดอกกุหลาบแดง
และขาวเหล่านี้สวยงามและหอมหวานเท่ากัน​ ต่างกันเพียงแต่สีเท่านั้น

ในบันทึกรายวันของนักบุญฟรังซิสบอกว่า มีฤาษีหนุ่มคนหนึ่งมีนิสัยน่าชมเชยอย่างหนึ่งคือ ทุกวัน
เขา ต้องสวดลูกประคำ​​ (150 ​เม็ด) ก่อนรับอาหารเที่ยง มีวันหนึ่งเขาลืมสวด พอได้ยินเสียงกระดิ่งเข้า
ห้องอาหาร ​ เขาก็นึกได้ เลยขออนุญาตอธิการไปสวดเสียก่อน อธิการก็อนุญาตให้ เขาก็เลยไปที่ห้อง
ของเขาและสวดภาวนา

เมื่อไปนานควรแก่เวลาแล้ว​ อธิการก็ส่งฤาษีอีกคนหนึ่งตามไปดูซิว่าเป็นอย่างไร ฤาษีคนนั้นก็เห็นเขา
คุกเข่าอยู่ในห้อง แวดล้อมด้วยแสงสวรรค์ ตาจ้องดูแม่พระซึ่งมีเทวดาอีก 2 องค์อยู่ด้วย​ ฤาษีนั้นเห็นว่า
มี​ดอกกุหลาบสวย ๆ ปลิวออกจากปากของเขาทุกครั้งที่สวดวันทามารีย์​ เทวดาก็เก็บเอาทีละดอก ๆ
วางไว้บนศีรษะของพระแม่ พระแม่ยิ้มด้วยความพอใจ

ที่สุดอธิการก็ส่งฤาษีมาอีก 2 องค์ดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น​ สองคนที่มาก่อนนี้จึงเงียบราวกับเข้ากลีบเมฆ
ไปแล้ว ทั้งสองก็ได้เห็นภาพที่สวยงามประทับใจเช่นนี้เช่นกัน และแม่พระไม่หนีไปจนกว่าการสวดสาย
มงกุฎกุหลาบจะจบลง

ฉะนั้นการสวดสายมงกุฎกุหลาบ ต้องเป็นมงกุฎใหญ่ และการสวดเพียง 50 เม็ด ก็เป็นดังเพียงหรีดเล็ก ๆ
หรือ มงกุฎกุหลาบเล็ก ๆ ซึ่งเราจะวางไว้บนพระเศียรของแม่พระหรือพระเยซู - ดอกกุหลาบนั้นเขาถือว่า
เป็นราชินีของบุปผาทั้งหลาย ฉะนั้น​ โรซารีก็คือกุหลาบแห่งความศรัทธาทั้งปวง ฉะนั้นจึงต้องนับว่า
มีความสำคัญและมีค่ายิ่งนัก

โปรดติดตาม​ตอนต่อไป​

[rosa-lee]

ความลับของสายประคำ​
โดย​ : นักบุญ​ หลุยส์​ เดอ​ มงฟอร์ต​
ตอนที่​ ( 18 )
กุหลาบ​ดอก​ที่​ 8 (ความ​น่า​อัศจรรย์​ของ​สาย​ประค​ำ) <A>

แทบเหลือความสามารถของข้าพเจ้าที่จะกล่าวได้ว่า​ พระแม่มารีย์คิดถึงสายประคำนี้อย่างไร
และพระนางโปรดปรานความศรัทธานี้มากกว่าความศรัทธาอย่างอื่นเพียงใด และข้าพเจ้าก็ไม่อาจ
จะพูดได้อย่างสมน้ำสมเนื้อว่า พระแม่จะให้รางวัลอย่างไรแก่ผู้เทศน์หรือประกาศและเผยแพร่
ความศรัทธานี้​ และในทางตรงข้ามพระแม่จะลงโทษผู้ที่ต่อต้านความศรัทธานี้อย่างไร

ตลอดชีวิต นักบุญดอมินิกไม่สนใจอะไรนอกจากสรรเสริญพระมารดา เทศน์สอนถึงความยิ่งใหญ่
ของพระนางและชักนำทุกคนให้ถวายเกียรติแก่พระนางโดยการสวดสายประคำ และเพื่อเป็นรางวัล
ท่านได้รับพระหรรษทานนับไม่ถ้วนจากพระนาง โดยใช้ฤทธิ์​อำนาจของพระแม่ในฐานะราชินีสวรรค์
พระนางอวยพรกิจการต่าง ๆ ด้วยมหัศจรรย์หลายอย่างและด้วยความสำเร็จอันน่าพิศวง​ พระเป็นเจ้า
ผู้ทรงสรรพานุภาพโปรดประทานให้ท่านทุกอย่างที่ท่านขอทางพระมารดา เกียรติอันยิ่งใหญ่กว่าหมด
ก็คือ พระนางช่วยท่านขยี้เฮเรติกอัลบีแยนส์ได้ และทำให้ท่านเป็นผู้ตั้งคณะนักบวช​ และสังฆปิตาจารย์
(Patriarch) คนหนึ่ง

ส่วนสำหรับบุญราศีอาลังผู้ฟื้นฟูความศรัทธาต่อลูกประคำนี้​ ท่านได้รับสิทธิพิเศษหลายอย่างจาก
แม่พระ คือพระแม่ได้ประจักษ์มาหาท่านหลายครั้งเพื่อบอกสอนว่าท่านต้องหาทางเอาตัวรอดอย่างไร
ต้องเป็นพระสงฆ์ที่ดีและนักบวชอย่างไร​ และจะต้องถือตามตัวอย่างของพระอาจารย์เจ้าอย่างไร?

ท่านเคยได้รับการผจญอย่างรุนแรงน่ากลัวหลายครั้ง บางครั้งก็ถูกทรมานจากปีศาจด้วย บางครั้ง
ก็ตกอยู่ในภาวะเศร้าโศกสุดจะกล่าวได้ และบางครั้งก็ดูเหมือนว่าชีวิตนี้มืดมิดสิ้นหวังเอาทีเดียว​ แต่แล้ว
แม่พระก็ได้มาบรรเทาท่านโดยการปรากฏตัวอย่างอ่อนหวานทำให้เมฆร้ายแห่งวิญญาณอันตรธานไปหมดสิ้น

พระแม่ได้สอนท่านให้ทราบว่าต้องสวดสายประคำหรือมงกุฎกุหลาบ (Rosary) อย่างไร อธิบายคุณค่า
และผลของการสวดนี้และพระคุณพิเศษให้แก่ท่านนั่นคือ​ ท่านได้รับเกียรติที่จะถูกเรียกว่า​ “พระภัสดาใหม่
ของพระนาง”​ และเพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งความรักอันบริสุทธิ์ของพระนางต่อท่าน พระนางก็สวมแหวนไว้
ที่นิ้วของท่านหนึ่งวง และสวมสร้อยคอทำด้วยเส้นผมของพระแม่เองรอบคอของท่านเส้นหนึ่ง และที่สุดก็
ประทานสายประคำ (Rosary) ให้ท่านหนึ่งสาย

คุณพ่อตรีเตเม การ์ทาเยนา และมาร์ตินแห่งนาวาร์ (ทั้งสองเป็นผู้คงแก่เรียนมาก) และคนอื่น ๆ
อีกหลายคนได้พูดถึงท่านด้วยความเคารพยิ่ง บุญราศีอาลังถึงแก่ความตายที่เมืองซูนอล (Zunolle)
ในแคว้นแฟลนเดอร์ (Flanders) วันที่ 8 กันยายน 1475 หลังจากได้พาคนร่วมแสนคนเข้ามาเป็น
สมาชิกคณะภราดรภาพ

บุญราศีโทมัสแห่งเซ็นต์จอห์น​ ก็มีชื่อเสียงดีเพราะคำเทศน์ของท่านเกี่ยวกับมงกุฎกุหลาบ (ลูกประคำ)
และปีศาจอิจฉาท่านมากสำหรับความสำเร็จในการนำวิญญาณกลับมาหาพระ จึงได้ลงมือทรมานท่านมาก
จนท่านล้มป่วยลงเป็นเวลานานจนหมอต้องเลิกรักษาท่าน คืนหนึ่ง​ ขณะที่กำลังคิดว่าตนกำลังจะ​ตาย​
เจ้าปีศาจปรากฏตัวมาหาท่านในรูปแบบที่น่ากลัวที่สุดที่อาจคิดได้ ใกล้​ ๆ​ เตียงท่านมีรูปพระแม่อยู่รูปหนึ่ง​
ท่านเหลือบตาดูและร้องโดยสิ้นสุดใจ สิ้นสุดวิญญาณ​ และสิ้นสุดกำลังว่า “คุณแม่ผู้อ่อนหวานชื่นใจของผม
ช่วยผมด้วย” พูดยังไม่ทันจบประโยค ภาพนั้นดูมีชีวิตชีวาขึ้น​ พระแม่ยื่นมือออกมาจับแขนท่าน​ กล่าวว่า :
“อย่ากลัวเลย โทมัส ลูกรัก แม่อยู่นี่​ และจะช่วยลูก ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ และออกไปเทศน์เรื่องมงกุฎ​กุหลาบของแม่
ดังที่เคยทำมาแล้ว แม่สัญญาว่าจะปกป้องลูกให้พ้นจากอำนาจของศัตรู”

โปรดติดตาม​ตอนต่อไป​

[rosa-lee]

ความลับของสายประคำ​
โดย​ : นักบุญ​ หลุยส์​ เดอ​ มงฟอร์ต​
ตอนที่​ ( 1 9 )
กุหลาบ​ดอก​ที่​ 8 (ความ​น่า​อัศจรรย์​ของ​สาย​ประคำ ) <B>

เมื่อพระแม่พูดเช่นนี้ เจ้าปีศาจก็หนีไป ท่านโทมัสก็ลุกขึ้น รู้สึกว่าตัวสบายดีทุกอย่าง ท่านกราบลง
ขอบคุณพระแม่ด้วยน้ำตานองหน้า​ แล้วเริ่มออกเทศน์เรื่องความศรัทธาต่อสายประคำ (กุหลาบ)
เสียใหม่​ ปรากฏว่าได้ผลดีอย่างน่ามหัศจรรย์

แม่พระมิใช่อวยพรแต่คนที่เทศน์เรื่องสายประคำเท่านั้น แต่ยังให้รางวัลชั้นดีแก่คนที่ชักชวนคนอื่น
ให้สวดโดยตัวอย่างของตัวด้วย

พระเจ้าอัลฟองซ์ กษัตริย์แห่ง​ เลอ็อง และกาลีเซีย ปรารถนาอย่างร้อนแรงอยากให้บรรดาคนใช้
ของพระองค์ถวายเกียรติแก่แม่พระโดยการสวดลูกประคำ จึงแขวนสายประคำสายใหญ่ ๆ บนเข็มขัด
ของพระองค์ และสวมมันเสมอ แต่น่าเสียดายไม่เคยสวดเลย​ กระนั้นก็ดี​ การแขวนสายประคำที่เข็มขัดนี้
ก็เป็นเหตุให้พวกชาววังของพระองค์สวดสายประคำอย่างศรัทธาร้อนรนยิ่งขึ้น

วันหนึ่งพระราชาองค์นี้ล้มป่วยลงอย่างหนัก และเมื่อคิดว่าอย่างไร ๆ ก็ต้องตายแน่ ก็ได้เห็นในภาพ
นิมิตว่า ตัวเองได้ไปอยู่ต่อหน้าบัลลังก์พิพากษาของพระเป็นเจ้า ปีศาจหลายตนกำลังรุมกันเข้ามาฟ้อง
พระเป็นเจ้าสำหรับบาปที่ตนได้กระทำ​​ และพระมหาตุลาการเจ้ากำลังจะพิพากษาพระองค์ให้ตกนรก
ก็พอดีแม่พระเสด็จเข้ามาขอความเมตตาช่วย พระนางสั่งให้เอาเครื่องชั่ง​(แบบ 2 จาน) แล้วเอาบาป
ของพระองค์วางลงบนจานเครื่องชั่งข้างหนึ่ง และเอาสายประคำที่พระองค์ได้แขวนไว้เสมออีกข้างหนึ่ง
รวมกับสายประคำที่มีคนได้สวดเพราะตัวอย่างของเขา ผลปรากฏว่าทางด้านสายประคำ (​มงกุฎ​กุหลาบ)
นี้หนักกว่าทางจานรับบาปของพระองค์

แม่พระมองดูกษัตริย์ด้วยแววตาสงสารพูดว่า “เพื่อเป็นรางวัลแก่เธอในการที่ให้เกียรติแก่แม่โดย
การสวมสายประคำนี้ แม่ได้รับพระพรยิ่งใหญ่จากพระบุตรที่จะให้แก่ลูกวันนี้​ คือชีวิตของเธอจะได้ถูกต่อ
ให้ยืนยาวต่อไปอีกหน่อย จงพยายามใช้เวลาที่เหลือนี้อย่างฉลาด และใช้โทษบาป”

เมื่อกษัตริย์ฟื้นจากการสลบ ก็ร้องตะโกนว่า “สาธุการแด่สายประคำอันศักดิ์สิทธิ์แห่ง
พระแม่พรหมจารีย์​ โดยสายประคำนี้แหละ ฉันได้รอดพ้นจากการสาปแช่งนิรันดร”

หลังจากหายป่วยแล้ว พระองค์ก็ใช้ชีวิตในการเผยแพร่ความศรัทธาต่อลูกประคำนี้
และสวดทุกวันอย่างซื่อสัตย์

ประชาชนผู้รักพระแม่ ก็ควรทำตามตัวอย่างของกษัตริย์อัลฟองซ์​ และของนักบุญที่ข้าพเจ้าเคย
เอ่ยนามมาแล้ว เพื่อพวกเขาจะได้ช่วยนำวิญญาณที่ใจดีให้มาร่วมในคณะภราดรภาพด้วยด้วยกัน​
แล้วพวกเขาจะได้รับพระพรอันใหญ่บนโลกและชีวิตนิรันดรในโลกหน้า
“พวกเขาที่อธิบายเราได้จะมีชีวิตนิรันดร” (เอกเกลซีอัสติก 24,​ 31)

……………………………………………………………………………………………………………

ความลับของสายประคำ​
โดย​ : นักบุญ​ หลุยส์​ เดอ​ มงฟอร์ต​
ตอนที่​ ( 20 )
กุหลาบ​ดอก​ที่​ 9 (ศัตรู​)

มันเป็นการไม่ดี และบ่อนทำลายวิญญาณอื่นมาก ๆ ในการที่จะขัดขวางการก้าวหน้าของคณะ
ภราดรภาพแห่งสายประคำ พระผู้เป็นเจ้าได้เคยลงโทษหลายคนที่ได้พยายามขัดขวางหรือเย้ยหยัน
คณะนี้หรือพยายามที่จะทำลายคณะนี้

แม้ว่าพระเป็นเจ้าได้ผนึกตราแห่งความเห็นดีเห็นชอบในการสวดสายประคำโดยอัศจรรย์หลายอย่าง
ก็ตาม และแม้ว่าได้มีกฤษฎีกาของพระสันตะปาปาหลายฉบับสนับสนุนและยกย่องความศรัทธานี้ ก็ยังมี
หลายคนที่ใจแข็งกระด้างต่อความศรัทธานี้​ เช่นพวกนักคิดเสรี​ เป็นต้น​ เขากล้าเยาะเย้ยศาสนา ถากถาง
สายประคำ และพยายามขัดขวางคนอื่นมิให้สวดสายประคำ

มันเป็นการง่ายที่จะมองเห็นว่าพวกเขาหลงกลืนกินยาพิษมรณะแห่งนรก และถูกชักนำดลใจจาก
ปีศาจ เพราะไม่มีใครสามารถประนามความศรัทธาต่อสายประคำได้โดยไม่สาปแช่งทุกสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์
ที่สุดในความเชื่อคาทอลิก เช่น คำภาวนาของพระสวามีเจ้า​ การคำนับของพรหมทูตและข้อลึกลับ
แห่งชีวิต​ ความตายและความรุ่งเรืองของพระเยชูคริสตเจ้าและพระมารดาของพระองค์

นักคิดเสรีเหล่านี้ที่ทนไม่ได้ที่จะเห็นใครสวดลูกประคำบ่อย​ ๆ​ สภาพจิตใจของเขาก็จะตกอยู่ในภาวะ
ของการเป็นเฮเรติกโดยไม่รู้ตัว​ และบางคนจะถลำไปถึงขั้นที่ว่าเกลียดสายประคำเอง รวมทั้งข้อลึกลับ
ประจำสายประคำนั้น

การที่มีความเบื่อหน่ายต่อคณะภราดรภาพนี้ ก็หมายความว่า​ เขากำลังเหนื่อยหน่ายพระเป็นเจ้า
และความศรัทธาทั้งปวง เพราะพระอาจารย์ของเราเคยพูดว่า พระองค์จะอยู่กับคนที่อยู่รวมกันในนาม
พระองค์ คงจะไม่มีชาวคาทอลิกที่ดีคนใดจะลืมได้ว่า​ พระศาสนจักร ได้ประทานพระคุณการุญมากมายแก่
คณะภราดรภาพนี้ นอกนั้นการที่จะล้างสมองใครไม่ให้มาร่วมเข้าคณะภราดรภาพนี้ก็เท่ากับว่า เป็นศัตรู
ของวิญญาณ เพราะสายประคำเป็นเครื่องมือที่ได้ผลในการรักษาเยียวยาตนเองให้บริสุทธิ์จากบาป
​ และช่วยในการโอบอุ้มชีวิตคริสตชน

นักบุญโบราณแวนตูราพูด (ในหนังสือ “บทเพลง”) ว่า “ใครผู้ใดที่ละเลยพระแม่ จะตายในบาปและ
ถูกสาปแช่ง ถ้าหากมีมาตรการหนักเช่นนี้สำหรับผู้เย็นเฉยแล้ว ผู้ที่มือไม่พายเอาตีนน้ำ ค​อยกีดกั้นคนอื่น
ไม่ให้ศรัทธาต่อแม่พระนั้นเล่า จะมิต้องรับโทษมหันต์มากกว่านี้อีกหรือ?”

โปรดติดตาม​ตอนต่อไป​