เรื่องสั้นสอนใจ ชุดที่ ( 14 )

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6901
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. ธ.ค. 11, 2025 2:38 pm

( 1 )

เรื่องสั้น ------> กษัตริย์และธิดาทั้งสาม จาก Inspirational Moral Stories
เรื่อง “The King and His Three Daughters”

แปลและปรับเรียบเรียงโดย กอบกิจ ครุวรรณ

กษัตริย์พระองค์หนึ่งประสงค์จะทราบว่าพระธิดาทั้งสามของพระองค์รักพระองค์มากน้อย
เพียงใด จึงตรัสถามพระธิดาทั้งสามว่า “บอกพ่อซิว่าลูกรักพ่อมากแค่ไหน?”

พระธิดาองค์โตตอบว่า “พ่อที่รักคะ ลูกรักพ่อมากกว่าเพชรและทับทิมทั้งหมดในโลกนี้รวมกัน”
พระราชาทรงพอพระทัยมากกับคำตอบ

พระธิดาองค์กลางตอบว่า “พ่อที่รักคะ ลูกรักพ่อมากเท่ากับทองคำและอัญมณีล้ำค่าทั้งหมดในโลก”
พระราชาทรงพอพระทัยมากกับคำตอบเช่นเดียวกับคำตอบของพระธิดาองค์โต

ส่วนพระธิดาองค์เล็กมีความคิดที่ต่างออกไปและตอบว่า “พ่อที่รักคะ ลูกรักพ่อเท่ากับเกลือ
ทั้งหมดในโลกนี้ค่ะ”

กษัตริย์กริ้วมากกับคำตอบของพระธิดาองค์เล็ก พระองค์ทรงมีรับสั่งให้ขับพระธิดาองค์เล็ก
ออกไปจากอาณาจักรของพระองค์และห้ามกลับเข้ามาในพระราชวังตลอดไป

พระธิดาองค์เล็กเป็นทุกข์ร้องไห้เสียใจมากและเข้าไปในป่า ไม่นานต่อมา มีเจ้าชายคนหนึ่ง
ผ่านมาและได้ยินเสียงร้องไห้ของเธอ และเมื่อพบเธอ เจ้าชายก็ตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น
เจ้าชายพาเธอไปพักอาศัยที่ปราสาทของเขาและขอเธอแต่งงาน

พระธิดาองค์เล็กตอบตกลงแต่มีเงื่อนไขว่า พระราชบิดาของเธอจะต้องเสด็จมาในงานแต่งงาน
เท่านั้น หลังจากนั้น เธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจนถึงเรื่องที่เธอถูกขับไล่ออกจากพระราชวังและ
ห้ามกลับเข้าพระราชวังอีก
เจ้าชายตอบตกลงและให้เตรียมจัดงานอภิเษกสมรสขึ้น เจ้าชายส่งหนังสือเชิญกษัตริย์ที่เป็น
พระราชบิดาของเจ้าหญิงด้วย แต่ไม่เปิดเผยพระนามของสตรีสาวที่จะเป็นคู่ครองโดยแจ้งเพียงว่า
เป็นความลับของพระราชวัง

ในวันอภิเษกสมรส กษัตริย์ผู้ได้รับเชิญเสด็จมาประทับ ณ โต๊ะจัดเลี้ยงที่มีพระกระยาหารมากมาย
ในภาชนะประดับด้วยอัญมณีล้ำค่าและจัดวางอย่างเป็นระเบียบ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พระองค์ทรง
ลิ้มรสเล็กน้อยของพระกระยาหารทั้งหมดแล้ว พระองค์กริ้วมาก ทรงมีพระสุรเสียงดังก้องว่า “อะไรกันนี่
อาหารจืดชืดทุกอย่างเลย คนทำอาหารไม่รู้จักใส่เกลือกันบ้างเลยหรือ!”

พระองค์ตรัสยังไม่ทันขาดคำ ก็มีสตรีสาวสวยในชุดเจ้าสาวถือขวดเกลือมายืนอยู่ต่อหน้า
พระพักตร์ทูลว่า “ฝ่าพระบาท นี่คือเกลือเพคะ”

กษัตริย์จำเสียงของพระธิดาองค์เล็กได้ทันที และทรงตระหนักถึงความผิดพลาดของพระองค์
และดังนั้นเสด็จพ่อขอให้พระธิดาองค์เล็กยกโทษให้ เธอร้องไห้ด้วยความดีใจ ไม่ถือโกรธเสด็จพ่อ
และพระธิดาองค์เล็กกับเจ้าชายพระสวามีของเธอก็ได้นำความสงบสุขมาสู่อาณาจักรทั้งสอง

-------------------------------------
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6901
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. ธ.ค. 11, 2025 2:45 pm

( 2 )


เรื่องสั้น ------> อีกากับกวาง จาก Inspirational Moral Stories
เรื่อง “Crow and Deer Story”
แปลและปรับเรียบเรียงโดย กอบกิจ ครุวรรณ

อีกากับกวางเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เล็ก ขณะเดียวกันก็มีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งอยากกินกวางที่
อ้วนท้วนสมบูรณ์ตัวนี้ มันจึงคิดวางแผนอยู่ในใจว่า “ถ้าจะกินกวางตัวนี้ให้ได้ ก่อนอื่นฉันจะต้องทำ
ให้กวางไว้วางใจฉันก่อน”

วันรุ่งขึ้น สุนัขจิ้งจอกก็กลับมายังจุดที่กวางและอีกาพูดคุยกันตามปกติ จากนั้นมันก็ทักทายทั้งสอง
ว่า “สวัสดีคุณทั้งสอง ฉันเห็นพวกคุณอยู่ด้วยกันมา 2-3 ครั้งแล้ว ตัวฉันเองอยากก็จะสมัครขอเป็น
เพื่อนกับพวกคุณด้วย!”

อีกาอุทานขึ้นทันทีว่า “ว้าว! เราจะเป็นเพื่อนกันได้ยังไงล่ะ!”
สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตอบว่า "โธ่เอ๋ย ทำไมสุนัขจิ้งจอกจะเป็นเพื่อนกับพวกคุณไม่ได้
โปรดให้โอกาสฉันพิสูจน์ตัวเองก่อนสิครับ ฉันสัญญาว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีจริง ๆ !"

อย่างไรก็ตามอีกายังคงไม่วางใจสุนัขจิ้งจอก แต่กวางเป็นสัตว์ที่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมพูดกับอีกาว่า
"โอ้ ดูท่าทางสุนัขจิ้งจอกสุภาพเรียบร้อยดีนะ เราจะให้โอกาสเขาเป็นเพื่อนบ้างได้ไหมนะ!"

อีการ้องเสียงหลงว่า “นี่เพื่อนกวางสติดีหรือเปล่า เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะรับสุนัขจิ้งจอกเป็นเพื่อน!!”

“ฉันไม่ถือสาสิ่งที่พวกคุณปรึกษากันหรอก! ฉันไปก่อนนะเพื่อน!' สุนัขจิ้งจอกพูดอย่างเรียบร้อยก่อน
จะเดินจากไป

วันรุ่งขึ้น เมื่อกวางอยู่ตามลำพัง สุนัขจิ้งจอกก็เข้ามาทักทายกวางอีกด้วยน้ำเสียงที่น่าฟังว่า
"สวัสดีกวางที่น่ารัก คุณรู้ไหมว่ามีฟาร์มแห่งหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ในฟาร์มนั้นมีพืชผักอร่อย ๆ
มากมาย ถ้าคุณไปที่นั่นละก็ คุณก็จะได้กินพืชผักสดสีเขียวอย่างไม่อั้นทีเดียว"

กวางแสนซื่อได้ยินสุนัขจิ้งจอกชักชวนก็ตกลง ตอบว่า "ไปสิ เราไปลุยกันเลย!" แล้วสุนัขจิ้งจอกก็
พากวางไปที่ฟาร์มนั้น กวางก็กระโดดโลดเต้นด้วยความยินดีเมื่อเห็นพืชผลในฟาร์มและเริ่มกินอย่าง
เพลิดเพลินจนอิ่ม

“ขอบคุณมากเพื่อน วันนี้ฉันกินอิ่มแล้ว เรากลับเข้าป่ากันเถอะ” กวางพูดกับสุนัขจิ้งจอก

ขณะเดินกลับเข้าป่าด้วยกัน สุนัขจิ้งจอกก็เริ่มดำเนินการตามแผนที่สอง มันเริ่มพูดถึงสิ่งที่ไม่ดีเกี่ยว
กับอีกาจนกวางหลงเชื่อและไม่พูดคุยกับอีกาอีกต่อไป นับแต่วันนั้น กวางก็ไปที่ฟาร์มกับสุนัขจิ้งจอกและ
กินพืขผลที่นั่นต่อไป

หลังจากนั้น 3–4 วัน เจ้าของฟาร์มออกตรวจแปลงผักของตนและพบร่องรอยความเสียหาย เจ้าของ
ฟาร์มโกรธมากและสังเกตเห็นรอยเท้ากวางอยู่ในบริเวณที่เสียหาย จึงวางตาข่ายดักตอนเย็นวันเดียวกัน

เช้าวันรุ่งขึ้น กวางก็มาที่ฟาร์มตามปกติ และติดอยู่ในตาข่ายอย่างง่ายดาย สุนัขจิ้งจอกที่ระวังตัว
อยู่ตลอดเวลาเห็นกวางติดกับก็น้ำลายไหลเพราะเข้าตามแผนที่มันวางไว้ จากนั้นมันก็วิ่งไปซ่อนตัวอยู่หลัง
ต้นไม้ ในช่วงเวลาเดียวกันอีกาก็บังเอิญบินอยู่เหนือฟาร์มและพูดกับตัวเองว่า “ดูเหมือนเพื่อนกวางของเรา
ติดอยู่ในตาข่ายนะ ฉันต้องไปช่วยเพื่อนให้ได้” แล้วอีกาก็บินมาหากวางที่ติดอยู่ในตาข่าย

“โอ้ เพื่อนรัก! โปรดยกโทษให้ฉันด้วย! ฉันสมควรตายเพราะฉันไม่ฟังที่คุณเคยเตือนไม่ให้คบกับ
สุนัขจิ้งจอก” กวางสะอึกสะอื้นพูดกับอีกา

อีกาเป็นสัตว์หัวไว มันคิดแผนช่วยเพื่อนกวางได้ในพริบตา พูดขึ้นว่า “ฟังให้ดีนะ ทันทีที่เพื่อนได้ยิน
เสียงฝีเท้าของเจ้าของฟาร์มเข้ามาใกล้ ให้เพื่อนกลั้นหายใจและนอนนิ่งทำตัวเหมือนตายไปแล้ว”

หลังจากบอกวิธีแกล้งทำเป็นตายให้กวางแล้ว มันก็บินไปเกาะบนกิ่งไม้เฝ้าดูกวางอยู่ห่าง ๆ
ไม่นาน ต่อมา เมื่อเจ้าของฟาร์มพบว่ามีกวางติดตาข่ายและเข้าใจว่ากวางตายแล้วก็เปิดตาข่ายออก
และทันทีที่ ตาข่ายเปิดออก กวางก็กระโดดตัวลอยวิ่งหนีไปทันทีโดยมีอีกาบินตามไปด้วย และทั้งสอง
ก็เป็นเพื่อนรักกันต่อไป

ข้อคิด : มิตรภาพที่แท้จริงไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน : True friendship does not ask anything in return.

-------------------------------------
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6901
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ ธ.ค. 13, 2025 12:40 pm

( 3 )


เรื่องสั้น -----> เพื่อนคู่หู : ลิงกับช้างในป่า จาก Inspirational Moral Stories เรื่อง
“Story of Two Friends - Monkey and the Elephant in a Jungle”
แปลและปรับเรียบเรียงโดย กอบกิจ ครุวรรณ

ในป่าแห่งหนึ่ง มีลิงกับช้างเป็นเพื่อนคู่หูกัน วันหนึ่งทั้งสองเกิดเถียงกันว่าใครจะเก่งกว่ากัน ---
ช้างอ้างว่าตนแข็งแรงและเก่งกว่า ส่วนลิงก็แย้งว่าตนว่องไวปราดเปรียวกว่า หลังจากโต้เถียงกัน
อยู่ครู่ใหญ่จนเหนื่อยด้วยกันทั้งคู่ ทั้งสองจึงตกลงจะไปให้นกฮูกผู้ชาญฉลาดเป็นกรรมการตัดสิน

เมื่อทั้งสองไปถึงนกฮูกและขอให้นกฮูกช่วยตัดสินปัญหาที่ทั้งสองโต้เถียงกันอยู่ นกฮูกตอบว่า
จะให้คำตอบได้ก็ต่อเมื่อทั้งสองจะต้องแข่งกันไปเก็บผลไม้ที่หายากมากชนิดหนึ่ง ผู้แข่งขันทั้งสอง
จะต้องเผชิญความท้าทายที่ยากลำบากมาก เริ่มจากการข้ามแม่น้ำใหญ่ที่น้ำไหลเชี่ยว หลังจากนั้น
จะต้องบุกป่าฝ่าดงอีกไกลก่อนจะถึงต้นไม้ที่สูงใหญ่และเก็บผลไม้สีทองจากต้นไม้ต้นนี้ ผู้ชนะจะได้แก่
ผู้ที่สามารถนำผลไม้สีทองมาให้นกฮูกได้ก่อน

หลังจากนั้นลิงและช้างก็เริ่มแข่งขันกันทันที ลิงมาถึงแม่น้ำก่อนแต่ไม่สามารถข้ามแม่น้ำได้
เมื่อช้างไปถึงแม่น้ำก็เห็นลิงผู้เป็นเพื่อนคู่หูมีสีหน้าเศร้าสลดก็รู้สึกเห็นใจและยอมให้ลิงกระโดดขึ้นไป
อยู่หลัง แล้วทั้งสองก็ข้ามแม่น้ำไปด้วยกัน

ทั้งสองเริ่มแข่งกันกันต่อหลังจากข้ามไปถึงอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำแล้ว ช้างซึ่งวิ่งเร็วกว่าลิงไปถึง
ต้นไม้หายากก่อน แต่แล้วช้างก็ยอมจำนนเพราะไม่สามารถปีนขึ้นต้นไม้หรือชูงวงได้สูงจนเก็บผลไม้ที่
ห้อยอยู่ได้ และดังนั้นเมื่อลิงมาถึงต้นไม้ก็ปีนขึ้นไปต้นไม้อย่างรวดเร็วและเด็ดผลไม้ได้สำเร็จ อย่างไร
ก็ตาม เมื่อลิงมาถึงแม่น้ำเพื่อจะข้ามกลับไปหานกฮูก มันก็พบอุปสรรคจากแม่น้ำอีกครั้งหนึ่ง ในที่สุด
ก็ต้องอาศัยหลังช้าง และที่สุดทั้งสองก็นำผลไม้สีทองมาให้นกฮูกพร้อมกัน

นกฮูกถามทั้งสองว่า "ใครเป็นคนนำผลไม้มาให้ฉัน"

ลิงซึ่งเป็นผู้เก็บผลไม้สีทองบอกนกฮูกว่าเป็นฝีมือของมัน พอลิงพูดจบ ช้างก็แย้งว่า
ถ้ามันไม่ช่วยเพื่อนลิงข้ามแม่น้ำ ลิงก็ไม่มีทางไปถึงต้นไม้นั้นได้

หลังจากฟังเหตุผลของทั้งสองฝ่ายแล้ว นกฮูกผู้ชาญฉลาดก็ตัดสินอย่างเที่ยงธรรมว่า "คุณทั้ง
สองต่างก็มีความสามารถและมีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนกัน ผมจึงตัดสินให้คุณทั้งสองเสมอกัน
และขอให้คุณทั้งสองเป็นเพื่อนคูหูที่รักกันตลอดไป”

---------------------------------------
ตอบกลับโพส