ครั้งหนึ่งเมื่อผมกลับไปเข้ามิสซาที่วัดเซนต์หลุยส์

[Florian]

บ้านผมอยู่ไกล เมื่อตอนที่ยังเป็นเด็กก็เลยไม่ค่อยได้เข้าเมืองนัก ตอนที่ผมเลือกเรียนต่อม.ปลาย เพราะผมโง่เลข ตอนม.3 เคยสอบตกด้วยครับ ก็เลยเลือกศิลป์-ภาษาฝรั่งเศส เพราะเห็นเขาว่าไพเราะดี ซึ่งพอได้เรียน ได้สัมผัสกับภาษานี้แล้ว ผมก็ว่าไพเราะจริงๆครับ

พอผมเลือกเรียนภาษาฝรั่งเศส แม่ผมซึ่งทำงานแถวสีลม ก็แนะนำให้ผมไปเรียนพิเศษภาษาฝรั่งเศสเพิ่มเติมที่สมาคมฝรั่งเศส ถนนสาธรใต้ ซึ่งผมก็ไป ทำให้ผมได้เข้าเมืองไปเปิดหูเปิดตาสัปดาห์ละ 1 วัน

หลังจากเริ่มเรียนไปไม่นาน ผมได้ทราบว่าเพื่อนผมที่โรงเรียนคนหนึ่งไปเรียนพิเศษภาษาเยอรมันที่สถาบันเกอเธ่ ซอยอรรถการประสิทธิ์ ผมเคยไปหาเพื่อนที่นั่น เห็นสถานที่สวยดี ประกอบกับที่บ้านผม ญาติผมขี้บ่นมาก จุกจิกเหลือเกิน ผมก็เลยหนีไปเรียนภาษาเยอรมัน เพื่อหลบเสียงบ่นครับ

สรุป วันเสาร์ ครึ่งเช้าผมเรียนภาษาฝรั่งเศส ครึ่งบ่ายผมก็เรียนภาษาเยอรมัน พอเลิกเรียน ผมไม่รู้ไปไหน ก่อนกลับบ้าน ก็ไปเข้าวัดเซนต์หลุยส์ซะ

ผมอยู่กับภาษายุโรปเกือบทั้งวัน ในหนังสือเรียนและตามฝาผนังห้องเรียนก็มีรูปโบสถ์สวยๆอยู่บ้าง ทำให้เวลาผมไปเข้ามิสซาเย็นวันเสาร์วัดเซนต์หลุยส์ วัดเซนต์หลุยส์ซึ่งสร้างในรูปแบบที่ผนังเป็นอิฐแดง สวยแบบโบสถ์ในทางยุโรปอยู่แล้ว ก็เลยกลายเป็นวัดในยุโรปไปในมโนสำนึกของผม เหมือนเข้ามิสซาที่ยุโรปยังไงยังงั้น ผมชอบมิสซาเสาร์เย็นที่เซนต์หลุยส์มาก วัดก็สวย บรรยากาศภายในก็ดี ม้านั่งก็นั่งสบาย ที่คุกเข่าก็คุกเข่าแล้วสบายหัวเข่า และคนไม่เยอะเกินไปครับ จนกระทั่งวันหนึ่งไม่กี่ปีหลังจากที่ผมได้เข้ามิสซาวัดเซนต์หลุยส์ครั้งแรก ผมก็ได้มีโอกาสไปยุโรปจริงๆครับ

หลังจากนั้นมาร่วมสิบปี ผมก็ได้มาเข้าวัดเซนต์หลุยส์อีก แต่เป็นรอบ 10.30 น. กับรอบ 11.30 น. บรรยากาศเปลี่ยนไป ตรงที่วัดสองรอบนี้ คนเยอะมาก มาก มาก เหมือนฉลองวัดเลย ซึ่งมากเกินไปสำหรับผม มากเสียจนผมยกจิตใจขึ้นหาพระไม่ได้ อาจเหมาะสำหรับหลายคนนะครับ แต่ไม่เหมาะสำหรับผมเลย ไม่ถูกจริต ว่างั้นเถอะครับ คนก็เยอะ แล้วแถมคนที่ไปวัดที่ผมเห็น ก็ไปเหมือนกับเป็นหน้าที่ ไม่ได้ไปด้วยใจ ผมเห็นบางคน เวลามอบสันติสุขในคนรอบข้าง ก็เหมือนสักแต่ทำไปงั้นๆให้เสร็จๆ เขาทำกันก็ทำบ้าง จนบางทีเหมือนไม่ได้ไหว้คน แต่ไปไหว้ปะลกๆให้กระถางต้นไม้รอบๆตัวเขางั้นแหละ จนผมคิดว่า วัดสายของเซนต์หลุยส์ไม่น่าเข้าไปร่วมมิสซา และทำให้ผมหวนคิดถึงมิสซาเสาร์เย็นที่ผมเคยเข้า ผมคิดว่าตอนนี้วันเสาร์เย็นก็คงน่าจะยังเหมือนเดิม คืออย่างน้อย คนก็ยังไม่เยอะมากไป กระนั้นก็ดี เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้มีโอกาสเข้ามิสซาเย็นที่วัดเซนต์หลุยส์อีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้เป็นวันอาทิตย์ ซึ่งผมลองดู เพราะคิดว่าคนคงไม่น่าจะเยอะเหมือนรอบสายวันอาทิตย์ และบรรยากาศน่าจะดีเหมือนกับวัดเสาร์เย็นที่ผมเคยเข้า แม้เวลาจะล่วงเลยมาสิบกว่าปีแล้วก็ตามครับ

ปรากฏว่า เป็นไปดังคาดครับ บรรยากาศดี เพราะคนไม่เยอะ อันนี้สำคัญมาก แอร์เย็น สัตบุรุษศรัทธาดี เห็นหลายๆคนช่วยร้องเพลงเสียงดัง ตอบรับก็ชัดถ้อยชัดคำ น่าประทับใจมากครับ ข้างหลังผมเป็นซิสเตอร์คณะธิดามาเรียผู้นิรมล(พระแม่มารีย์) ซิสเตอร์ร้องเพลงเต็มเสียง เสียงใสแจ๋วเลย เพราะมาก เหมือนช่วยกระตุ้นทำให้ผมร้องเต็มเสียงด้วย เลยน่าจะทำให้คนแถวๆตรงที่ผมนั่งก็พลอยตอบรับและร้องเพลงเต็มเสียงไปด้วยน่ะครับ

คนที่นั่งข้างๆผมเป็นคนฝรั่งเศส น่าประทับใจมาก ตรงที่เขายังอายุน้อยอยู่ แต่ก็ยังมาวัด ในขณะที่วัยรุ่นยุโรปหลายคน เลิกเข้าวัดแล้ว แล้วท่าทางดูศรัทธามากๆๆๆๆๆด้วยนะครับ เยี่ยมจริงๆ ผมบอกเขาว่า ผมดีใจที่ได้เจอเขาซึ่งเป็นคนฝรั่งเศส จะว่าไปผมก็ดีใจทุกครั้งที่ได้เจอคนฝรั่งเศสครับ ทั้งนี้ก็เพราะผมรู้สึกสำนึกบุญคุณธรรมทูตชาวฝรั่งเศสอย่างมาก เป็นต้น นักบวชคณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีส เพราะมีพวกเขา ส่วนหนึ่งจึงทำให้เราได้รู้จักพระเจ้า และมาเชื่อพระวรสาร Merci beaucoup !!!!

ผมกลัวเขาเบื่อ เพราะเขาฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง อ่านภาษาไทยก็ไม่ออก ช่วงพ่อเทศน์ ผมก็คอยบอกเขาบ้างว่าตอนนี้พ่อเทศน์ถึงไหน เรื่องอะไรแล้ว พอมิสซาจบ เขาขอบคุณผม ผมบอกว่า Je vous en prie. ไม่เป็นไรนะ ยินดีมากเลย เพราะเราเป็นเพื่อนกัน พี่น้องกัน Nous sommes amis. Nous sommes freres. ที่น่าประทับใจ พอผมพูดจบปุ๊บ ถ้าผมฟังไม่ผิดและจำไม่พลาด เขาพูดต่อทันทีเลยครับว่า dans le christ. ซึ่งแปลว่า ในพระคริสตเจ้า แล้วชี้ไปที่รูปพระเยซูเจ้า ซึ่งแสดงถึงเอกภาพของพวกเราในองค์พระคริสตเจ้า แม้ว่าเราจะพูดกันคนละภาษาก็ตามครับ

ขอแบ่งปันความประทับใจเท่านี้ และขอคำภาวนาเพื่อเอกภาพของพระศาสนจักรทั่วโลกด้วยครับ

[Batholomew]

ขอบคุณที่แบ่งปันครับ

[~@Little lamb@~]

*no1 ขอบคุณค่ะ

[Divine Mercy]

ขอบคุณครับ ประทับใจครับ

[minnie]

เราก็ชอบวันเสาร์เพราะมีนพวารแม่พระด้วย และได้เข้ามิซซาด้วย :D

[-*-St.GrEGoRY-*-]

ขอบคุณครับ ;D

[Buddy]

แล้วแถมคนที่ไปวัดที่ผมเห็น ก็ไปเหมือนกับเป็นหน้าที่ ไม่ได้ไปด้วยใจ ผมเห็นบางคน เวลามอบสันติสุขในคนรอบข้าง ก็เหมือนสักแต่ทำไปงั้นๆให้เสร็จๆ เขาทำกันก็ทำบ้าง จนบางทีเหมือนไม่ได้ไหว้คน แต่ไปไหว้ปะลกๆให้กระถางต้นไม้รอบๆตัวเขางั้นแหละ

At least they go to church... :)

[warlock]

;D ;D

ผมอยากมีโอกาสเรียนภาษ เยอรมันจังเลยครับ

[Florian]

;D ;D

ผมอยากมีโอกาสเรียนภาษ เยอรมันจังเลยครับ

Sicher ?

[warlock]

อยากรู้ภาษาเยอรมันไว้ศึกษาตำราน่ะครับ..... ;D ;D

[:+: seraphim :+:]

อยากรู้ภาษาเยอรมันไว้ศึกษาตำราน่ะครับ..... ;D ;D

::) ตอนนี้เจ้าศึกษาภาษาลาวก่อนเถอะ เดี๋ยวฟังมิสซาที่นั่นไม่รู้เรื่องเด้อ

[warlock]

ภาษาลาวคึดว่า หน่าซิเคลียร์อยู่ครั่บ เพราะสมัยเป็นเณรที่บ้านเณร80 ก่าปูเซง ก้อ อิสานทั้งน้าน ภาษาพูด ลาวกับอิสานไม่น่าจะแตกต่างกันเท่าไหร่ครับพี่ ไม่เชื่อถามพ่อเหน่งดูนะครับ(ให้พ่อเหน่ง เว้า ให้ฟังก็ได้ เหอะๆๆ) ;D ;D

[Florian]

ภาษาลาวคึดว่า หน่าซิเคลียร์อยู่ครั่บ เพราะสมัยเป็นเณรที่บ้านเณร80 ก่าปูเซง ก้อ อิสานทั้งน้าน ภาษาพูด ลาวกับอิสานไม่น่าจะแตกต่างกันเท่าไหร่ครับพี่ ไม่เชื่อถามพ่อเหน่งดูนะครับ(ให้พ่อเหน่ง เว้า ให้ฟังก็ได้ เหอะๆๆ) ;D ;D

ผมเคยเจอพ่อเหน่งตอนเป็นเณรใหญ่ ตอนนั้นกำลังติดหนังสือศรัทธา สำนักพิมพ์พระมหาไถ่ บุกไปซื้อถึงบ้านเณรมหาไถ่ที่สามพรานเลยครับ ;D

[warlock]

;D ;D ขอรับ ชุมพาบาลพุงพลุ้ย เหอะๆๆๆ ;D ;D

[Phulasso]

แล้วแถมคนที่ไปวัดที่ผมเห็น ก็ไปเหมือนกับเป็นหน้าที่ ไม่ได้ไปด้วยใจ ผมเห็นบางคน เวลามอบสันติสุขในคนรอบข้าง ก็เหมือนสักแต่ทำไปงั้นๆให้เสร็จๆ เขาทำกันก็ทำบ้าง จนบางทีเหมือนไม่ได้ไหว้คน แต่ไปไหว้ปะลกๆให้กระถางต้นไม้รอบๆตัวเขางั้นแหละ

At least they go to church... :)

ขอแถลงด้วยนะ
วิธีการมอบสันติสุขต่อกันโดยวิธีไหว้ นั้นเป็นการประยุกต์
มันเป็นพิธีการใหม่ของคนไทย
เมื่อก่อนในมิสซาใหญ่ๆ พระสงฆ์หลายองค์ทำมิสซา
จะเดินมาเอาแก้มชนกัน ก็สงสัยว่าเขาทำอะไรก้น
เฉพาะพระสงฆ์เท่านั้น สัตบุรุษไม่เกี่ยว..

ต่อมาเขาก็ให้สัตบุรุษทำบ้าง
แต่ถ้าคนไทยจะเอาแก้มชนกันคงไม่มีใครให้ลูกสาวไปวัดแน่
ก็ให้ใช้การไหว้แทน
เราจะไหว้อย่างไรดี
ถ้าท่านผู้ใหญ่นั่งติดทางขวามือเราก็สะดวกใจ
แต่ถ้าเป็นเด็กสิบขวบล่ะ
แล้วหนูคนนั้นก็หันไปไหว้ทางขวา เราก็จะไหว้เด็ก แปลกๆนะ
ก็ไม่เป็นไร เลยใช้วิธีแก้ปัญหาแบบไหว้กราด
จึงดูไม่สวยงามนัก
มันเป็นแบบนักมวยบนเวที
เราไม่ใช่นักมวยก็เลย ทำไม่ค่อยเข้าท่า :P ;)

ในอเมริกาใต้เขาใช้มือแตะบ่ากันต่อๆไป
ยุโรปก็ใช้จับมือกัน
วิธีที่อยากแนะนำก็คือ
ค่อยๆไหว้กันทีละคนจะสวยงาม ดูตามอาวุโสแบบแผนของไทย
เคยไปบางวัดต่างจังหวัดคนน้อยๆ ทำได้สวยงามมาก ;D

[minnie]

เคยเจอมิซซาแก้มชนแก้ม กอด จุ๊บกันด้วยเหมือนกัน

แถ ไปหาซิสเตอร์ กะกลุ่ม หยิงหยิง ก่อนเยย ;D


ที่วัดเซนต์หลุยส์ เราเคยรู้สึกเหมือนกันน๊ะ เอ๊ะ ทำไมหน้าไม่รับประทานเยย
พอมอบสันติสุข หน้าเป็นก้นเลยอะ

ตอนหลังมารู้ เค้ามาปลอบใจเรา โห แฟนเค้าเพิ่งเสีย เค้าปลอบใจเราไป ร้องไห้ไป

คิดในใจ ตูทำให้เค้าเสียใจอะปะงะ :D

[St.paul]

แล้วแถมคนที่ไปวัดที่ผมเห็น ก็ไปเหมือนกับเป็นหน้าที่ ไม่ได้ไปด้วยใจ ผมเห็นบางคน เวลามอบสันติสุขในคนรอบข้าง ก็เหมือนสักแต่ทำไปงั้นๆให้เสร็จๆ เขาทำกันก็ทำบ้าง จนบางทีเหมือนไม่ได้ไหว้คน แต่ไปไหว้ปะลกๆให้กระถางต้นไม้รอบๆตัวเขางั้นแหละ  

At least they go to church...  :)

ขอแถลงด้วยนะ
วิธีการมอบสันติสุขต่อกันโดยวิธีไหว้ นั้นเป็นการประยุกต์
มันเป็นพิธีการใหม่ของคนไทย
เมื่อก่อนในมิสซาใหญ่ๆ พระสงฆ์หลายองค์ทำมิสซา
จะเดินมาเอาแก้มชนกัน ก็สงสัยว่าเขาทำอะไรก้น
เฉพาะพระสงฆ์เท่านั้น สัตบุรุษไม่เกี่ยว..

ต่อมาเขาก็ให้สัตบุรุษทำบ้าง
แต่ถ้าคนไทยจะเอาแก้มชนกันคงไม่มีใครให้ลูกสาวไปวัดแน่
ก็ให้ใช้การไหว้แทนเราจะไหว้อย่างไรดี  
ถ้าท่านผู้ใหญ่นั่งติดทางขวามือเราก็สะดวกใจ
แต่ถ้าเป็นเด็กสิบขวบล่ะ
แล้วหนูคนนั้นก็หันไปไหว้ทางขวา เราก็จะไหว้เด็ก แปลกๆนะ
ก็ไม่เป็นไร เลยใช้วิธีแก้ปัญหาแบบไหว้กราด
จึงดูไม่สวยงามนัก
มันเป็นแบบนักมวยบนเวที
เราไม่ใช่นักมวยก็เลย ทำไม่ค่อยเข้าท่า :P ;)

ในอเมริกาใต้เขาใช้มือแตะบ่ากันต่อๆไป
ยุโรปก็ใช้จับมือกัน
วิธีที่อยากแนะนำก็คือ
ค่อยๆไหว้กันทีละคนจะสวยงาม ดูตามอาวุโสแบบแผนของไทย
เคยไปบางวัดต่างจังหวัดคนน้อยๆ ทำได้สวยงามมาก ;D

ตอนปีไหนครับน่าสน

[Phulasso]

Nicaragua 1990

[Phulasso]

คำถามคือตรงขีดเส้นใต้ใช่ไหมจ๊ะ
ประโยคนี้เป็น if clause
หมายถึงศาสนาจักรในประเทศไทยให้ใช้
ธรรมเนียมไทย คือการไหว้ เป็น
การแสดงการเป็นมิตรต่อกัน
เริ่มมาได้กว่าสามสิบปี แล้วเท่าที่นึกได้