ขอปรึกษาเรื่องการฟ้องร้อง

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

พฤหัสฯ. ธ.ค. 28, 2006 1:41 pm

พี่น้องครับ มีเรื่องอยากสอบถามครับ

เรื่องมีอยู่ว่ามีคนยืมเงินผมไปลงทุนโดยสัญญาว่าจะมีผลตอบแทนให้เป็นรายเดือนโดยไม่เกี่ยวกับผลประกอบการของเขา ซึ่งที่ว่านั้นเป็นชื่อทางการ แต่จริงๆก็คือการยืมเงินไปโปะหนี้เดิม ผมเองให้ไปก็แต่เป็นปีแล้วก็ไม่ยอมจ่ายให้ตามสัญญา ไม่เลย ไม่แม้จะติดต่อมาถ้าไม่ติดต่อไปก่อน เวลาทวงก็บอกลำบากอย่างโน้นอย่างนี้สารพัดแล้วก็เจียดมาให้ทีละพันสองพันเหมือนผมไปรบกวนขออุปการะคุณจากเขา ซึ่งตามสัญญามันไม่ใช่ สรุปง่ายๆคือไม่มี ไม่หนีไม่จ่าย เขาขายทอง ขายของ ขายอะไรต่อมิอะไรได้เขาไปใช้หนี้หรืออะไรเขาหมดแต่ไม่เคยให้มาทางผมเลย ผมเคยบอกพระแล้วว่าผมจะไม่เอาอะไรจากเขาแล้ว ยกให้อยากโกงๆไป ผมเองก็ลำบากเหมือนกันเพราะที่เขาเอาไปมันก็น้ำพักน้ำแรงหามา แถมยังมีเงินในอนาคตอีกบางส่วน ตอนคลอดลูกสาวเขาก็รู้แต่ก็ไม่เคยแม้จะโทรมาถามสารทุกข์สุกดิบ (เรื่องเงินไม่ต้องพูด) ทีนี้มาคิดๆดูแล้ว เขาไม่ได้ทำแบบนี้กับผมคนเดียว หลายคนที่ผมรู้จักเขาพยายามจะชวนให้มาลงทุนทำนองเดียวกันนี้ ผมคิดมาตลอดว่าเอาไงดี ผมผิดตรงที่ผมอยากได้มากเกินไป แต่เขาก็ผิดตรงที่ไม่รักษาสัญญาและหลอกลวง ก่อนหน้าโน้นเขาเคยยืมเงินแฟนผมไปรอบหนึ่งแล้วกว่าจะทวงกันได้ แทบตาย แต่เอาน่าตอนนั้นเขายืม คนเรามันผิดมันพลาดกันได้ แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ ไม่ได้ยืมตรงๆ แต่ชวนให้ลงทุนกับเขา ผมตรวจหลายอย่างแล้วก็ตกลงไป แต่สุดท้ายก็รู้ว่าเขาเอาไปโปะหนี้ของเขาโดยไม่ได้เอาไปซื้อของหรืออะไรเลย สามทุ่มสี่ทุ่มยังโทรมาบอกให้เอาเงินไปให้หน่อย ช่วยหน่อย วิงวอนแทบเป็นแทบตาย

เข้าเรื่องเลยนะครับ ผมไม่อยากตัดสินว่าเขาเป็นคนไม่ดีนะครับ เรื่องนั้นให้พระตัดสินเอง ตอนนี้เขาก็ลำบาก แต่ลำบากเพราะเขาทำตัวเอง เคยบอกแล้วว่าเอาแต่พอตัวทำแต่พอตัวก็ไม่เชื่อ ผมเคยตัดใจไปรอบหนึ่งแล้ว ไม่โทรไปหา ลบเบอร์ทิ้งไป แต่คิดๆดูแล้วผมอยากฟ้องครับ ทำผิดต้องรับผิดชอบ ผมรับผิดชอบไปแล้วในความโลภของผมที่อยากได้ทรัพย์มากเกินไปคือความลำบากต่างๆที่ได้รับตอนนี้ แต่เขาละครับ เขายังไม่ได้รับผิดชอบอะไรกับผมเลย สับสนครับระหว่างความรักการให้อภัยและการฟ้องร้อง เคยอ่านบทความที่คุณโฮลี่เคยเอาขึ้นไว้เรื่องตบแก้มซ้ายแก้มขวา ก็จริงนะครับให้เขาอยู่ในเกม ยอมเขาในเกม นี่ผมก็ยอมให้เขาเบี้ยวมาตลอด แต่ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ผมจะเรียกร้องความถูกต้องบ้าง

ไม่ทราบว่าพี่น้องคิดเห็นยังไงครับ ฟ้องดีหรือไม่ฟ้องดี (ถ้าเป็นไปได้คงฟ้องอาญา)

ถ้าอ่านข้างบนแล้วสับสนเรียงความไม่ได้คืออย่างนี้ ผมโดนเบี้ยวเงิน ผมควรจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง ตามหลักยุติธรรมและความรัก รบกวนความเห็นจากพี่น้องด้วยครับจะได้ประมวลเพื่อหาทางเลือกในการจัดการ ช่วงนี้ก็สวดขอพระนำทางเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ไม่รู้ว่าเข้าข้างตัวเองหรือเปล่า มีหลายอย่างเหมือนบอกว่าให้ฟ้อง

ขอบคุณครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. ธ.ค. 28, 2006 3:20 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

พฤหัสฯ. ธ.ค. 28, 2006 1:44 pm

::002:: ถ้าเขาไม่มีจริงๆ ก็ไม่ควรฟ้อง แต่ถ้ามีแล้วไม่จ่ายฟ้องโลดเด้อคะ
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

พฤหัสฯ. ธ.ค. 28, 2006 1:44 pm

:+: seraphim :+: เขียน: ::002:: ถ้าเขาไม่มีจริงๆ ก็ไม่ควรฟ้อง แต่ถ้ามีแล้วไม่จ่ายฟ้องโลดเด้อคะ
แล้วพวกพยายามไม่มีอะ ทำไงดี
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

พฤหัสฯ. ธ.ค. 28, 2006 1:47 pm

อันตน เขียน:
:+: seraphim :+: เขียน: ::002:: ถ้าเขาไม่มีจริงๆ ก็ไม่ควรฟ้อง แต่ถ้ามีแล้วไม่จ่ายฟ้องโลดเด้อคะ
แล้วพวกพยายามไม่มีอะ ทำไงดี


::011:: ก็พยายามหาทางฟ้องมันเลยดิ อิอิอิอิอิอิ (มโนธรรมฝ่ายชั่วเริ่มทำงาน)
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

พฤหัสฯ. ธ.ค. 28, 2006 1:51 pm

พวกพยายามไม่มี แสดงว่า เค้าไม่บริสุทธิ์ใจหรอครับ
ถ้าอย่านั้นก็ฟ้องเถอะครับ เราเองก็ต้องการความยุติธรรมเหมือนกันนะครับ

จริงอยู่ครับ พระสอนเรา เวลาใครยืมเงินไปก็อย่าคิดไปทวงกับเค้า เพราะว่าพระองค์สอนให้เรารักทุก ๆ คน
แต่ว่า เท่าที่อ่านดู ถ้าพี่ไม่จัดการลงไปบ้าง เค้าก็ต้องทำกับคนอื่นอีก ต่อไปเรื่อย ๆ ครับ
สู้ว่า ฟ้องไปเลยดีกว่าครับ

เรื่องของการฟ้องกับการให้อภัย ผมว่ามันคนละเรื่องนะครับ
ในกรณีนี้ พี่เรียกร้องความยุติธรรมเพื่อตัวพี่และครอบครัวของพี่เอง
แต่พี่ก็ไม่ได้โกรธเค้าและก็ให้อภัยเค้า
เราคุยกันได้เหมือนเดิม แต่ว่า เราไม่ต้องให้เงินเค้าอีก (ในกรณีที่เค้ามายืมอีก)

ผมก็มีเพื่อนแบบนี้เหมือนกันครับ
ยืมเงินแล้วหายไปเลย อะไรแบบนี้อ่ะครับ
แต่สุดท้าย ผมตัดปัญหาว่า อย่าให้เราต้องเสียเพื่อนเพราะเรื่องเงินเลยดีกว่าครับ
จอมนางกระบี่เดี่ยว
โพสต์: 1159
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm

ศุกร์ ธ.ค. 29, 2006 12:18 pm

เอ่อ มันเข้าข่ายฟ้องแพ่งไม่ใช่เหรอ ว่าแต่พี่มีสัญญา หรือพยานรับรู้การตกลงกันบ้างหรือเปล่าคะ

ฟ้อง ก็ดี ตรงที่ พอถึงเวลาเนี่ย มันประนีประนอมยอมความกันได้ โดยมีทนาย หรือศาลเป้นพยาน

ว่าง่าย ๆ คือ คำสัญญา ที่จะผัดผ่อนชำระ หนี้ หรืออะไรก็ตามแต่ จะเป็นลายลักษณะอักษร และมีสภาพบังคับมากขึ้น

อันนี้ ดูได้จากข่าว กรณีสมรัก คำสิงห์ กับเช็คเด้งนะคะ การฟ้องร้องทางศาลคือ การจัดการเรื่องความยุติธรรมค่ะ ซึ่งมีความสมควรอยู่ค่ะ นัยหนึ่งเนี่ย เขาเอง จะได้เรียนรู้เรื่องความรับผิดชอบในชีวิตมากขึ้นด้วย(ถ้าเขาจะเปิดใจเรียนรู้จากประสบการณ์ และมีปัญญาพอจะเรียนรู้ได้บ้างนะคะ)

ส่วนด้านเมตตาธรรมหรือความรัก จะเกิดขึ้นตอนเจรจายอมความหรือประนอมหนี้กัน อันนั้น ก็ไปว่าอีกที ว่าตัวเองจะใจอ่อนแค่ไหน

แต่ที่ แน่ ๆ การฟ้องร้องคดี ย่อมเสียทรัพย์อยู่พอสมควรนะคะ รวมทั้งเวลาด้วย ลองพิจารณาดูดี ๆว่าคุ้มกับเงินที่จะได้มาหรือเปล่า อันดับแรก ต้องหาทนายก่อนเลยค่ะ ถ้านึกไม่ออก แนะนำให้ไปปรึกษาสภาทนายความเด้อค่ะ เพราะเขามีแผนกให้คำปรึกษาอยู่ 
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

ศุกร์ ธ.ค. 29, 2006 1:35 pm

เท่าที่คุยกับเพื่อน ฟ้องแพ่งกว่าจะได้อาจจะต้องตำน้ำกินก่อน เพราะฝ่ายโน้นอาจจะยกเรื่องความยากจนมาอ้าง หรือถ้าอีขอเป็นบุคคลล้มละลายขึ้นมาเราก็แห้ว หาทางให้มันเป็นอาญาก่อน แล้วมาคุยกันว่าจะจ่ายเท่าไหร่

แต่เรื่องทนายนี่ดิ กลัวเหมือนกันว่าได้มาเท่าไหร่ค่าทนายรับประทานหมด
จอมนางกระบี่เดี่ยว
โพสต์: 1159
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm

ศุกร์ ธ.ค. 29, 2006 1:55 pm

เบอร์สภาทนายความ 02-2827167
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

ศุกร์ ธ.ค. 29, 2006 2:14 pm

จอมนางกระบี่เดี่ยว เขียน: เบอร์สภาทนายความ 02-2827167
สงสัยไปปีใหม่กันหมด มีแต่พนักงานสำเร็จรูปต้องรับบอกให้กดๆๆๆๆ สุดท้ายกลับมาที่โอปะเรเต้อสำเร็จรูปอีกที
เอาไว้ค่อยโทรหลังปีใหม่ดีฝ่า
จอมนางกระบี่เดี่ยว
โพสต์: 1159
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm

ศุกร์ ธ.ค. 29, 2006 2:17 pm

อันตน เขียน:
จอมนางกระบี่เดี่ยว เขียน: เบอร์สภาทนายความ 02-2827167
สงสัยไปปีใหม่กันหมด มีแต่พนักงานสำเร็จรูปต้องรับบอกให้กดๆๆๆๆ สุดท้ายกลับมาที่โอปะเรเต้อสำเร็จรูปอีกที
เอาไว้ค่อยโทรหลังปีใหม่ดีฝ่า
แม่นนแล้ววว ถุกต้องงงง ตอนนี้เหงามาก อยากกลับบ้านมากเลย ติดต่อใครไมได้เลย ไม่มีใครคุยด้วย ทกคนไปปีใหม่กันหมด
warlock
โพสต์: 642
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 3:37 am

ศุกร์ ธ.ค. 29, 2006 2:24 pm

เกิน ห้าหมื่น มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร จึงฟ้องเป็นคดีอาญา นะครับ ถ้าจำไม่ผิด      เอ่อ  ไม่ทราบว่าต้องการหน่วยเร่งรัดหนี้สินไม๊ครับ  แนะนำติดต่อน้องบิ๊กด่วนนนนนนนนนนนน 
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

ศุกร์ ธ.ค. 29, 2006 2:26 pm

warlock เขียน: เกิน ห้าหมื่น มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร จึงฟ้องเป็นคดีอาญา นะครับ ถ้าจำไม่ผิด      เอ่อ  ไม่ทราบว่าต้องการหน่วยเร่งรัดหนี้สินไม๊ครับ  แนะนำติดต่อน้องบิ๊กด่วนนนนนนนนนนนน 
จริงดิ โหะโหะ ขอบคุณพระเจ้า พอเห็นหนทางแล้ว
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

ศุกร์ ธ.ค. 29, 2006 4:51 pm

อันตน เขียน:
warlock เขียน: เกิน ห้าหมื่น มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร จึงฟ้องเป็นคดีอาญา นะครับ ถ้าจำไม่ผิด      เอ่อ  ไม่ทราบว่าต้องการหน่วยเร่งรัดหนี้สินไม๊ครับ  แนะนำติดต่อน้องบิ๊กด่วนนนนนนนนนนนน 
จริงดิ โหะโหะ ขอบคุณพระเจ้า พอเห็นหนทางแล้ว
ถามทนายเอกสิครับ :huh:

เผื่อจะมีคำแนะนำ
boylife
โพสต์: 315
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 14, 2005 8:27 pm
ที่อยู่: Nakhonnayok

ศุกร์ ธ.ค. 29, 2006 8:39 pm

หมวด 2 ผลแห่งหนี้ ส่วนที่ 1 การไม่ชำระหนี้
มาตรา 203 ถ้าเวลาอันจะพึงชำระหนี้นั้นมิได้กำหนดลงไว้ หรือ จะอนุมานจากพฤติการณ์ทั้งปวงก็ไม่ได้ไซร้ ท่านว่าเจ้าหนี้ย่อม จะเรียกให้ชำระหนี้ได้โดยพลัน และฝ่ายลูกหนี้ก็ย่อมจะชำระหนี้ของ ตนได้โดยพลันดุจกัน
ถ้าได้กำหนดเวลาไว้ แต่หากกรณีเป็นที่สงสัย ท่านให้สันนิษฐาน ไว้ก่อนว่าเจ้าหนี้จะเรียกให้ชำระหนี้ก่อนถึงเวลานั้นหาได้ไม่ แต่ฝ่าย ลูกหนี้จะชำระหนี้ก่อนกำหนดนั้นก็ได้
มาตรา 204 ถ้าหนี้ถึงกำหนดชำระแล้ว และภายหลังแต่นั้นเจ้าหนี้ ได้ให้คำเตือนลูกหนี้แล้ว ลูกหนี้ยังไม่ชำระหนี้ไซร้ ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัด เพราะเขาเตือนแล้ว
ถ้าได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ตามวันแห่งปฏิทิน และลูกหนี้มิได้ ชำระหนี้ตามกำหนดไซร้ ท่านว่าลูกหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดโดยมิพักต้อง เตือนเลย วิธีเดียวกันนี้ท่านให้ใช้บังคับแก่กรณีที่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า ก่อนการชำระหนี้ ซึ่งได้กำหนดเวลาลงไว้ อาจคำนวณนับได้โดย ปฏิทินนับแต่วันที่ได้บอกกล่าว
มาตรา 205 ตราบใดการชำระหนี้นั้นยังมิได้กระทำลงเพราะ พฤติการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบ ตราบนั้นลูกหนี้ ยังหาได้ชื่อว่าผิดนัดไม่
มาตรา 206 ในกรณีหนี้อันเกิดแต่มูลละเมิด ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัด มาแต่เวลาที่ทำละเมิด
มาตรา 207 ถ้าลูกหนี้ขอปฏิบัติการชำระหนี้ และเจ้าหนี้ไม่รับ ชำระหนี้นั้นโดยปราศจากมูลเหตุอันจะอ้างกฎหมายได้ไซร้ ท่านว่า เจ้าหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัด
มาตรา 208 การชำระหนี้จะให้สำเร็จผลเป็นอย่างใด ลูกหนี้จะ ต้องขอปฏิบัติการชำระหนี้ต่อเจ้าหนี้เป็นอย่างนั้นโดยตรง
แต่ถ้าเจ้าหนี้ได้แสดงแก่ลูกหนี้ว่า จะไม่รับชำระหนี้ก็ดี หรือเพื่อ ที่จะชำระหนี้จำเป็นที่เจ้าหนี้จะต้องกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งก่อน ก็ดี ลูกหนี้จะบอกกล่าวแก่เจ้าหนี้ว่า ได้เตรียมการที่จะชำระหนี้ไว้ พร้อมเสร็จแล้ว ให้เจ้าหนี้รับชำระหนี้นั้น เท่านี้ก็นับว่าเป็นการเพียงพอ แล้ว ในกรณีเช่นนี้ ท่านว่าคำบอกกล่าวของลูกหนี้นั้นก็เสมอกับคำของ ปฏิบัติการชำระหนี้
มาตรา 209 ถ้าได้กำหนดเวลาไว้เป็นแน่นอนเพื่อให้เจ้าหนี้กระทำ การอันใด ท่านว่าที่จะขอปฏิบัติการชำระหนี้นั้นจะต้องทำก็แต่เมื่อ เจ้าหนี้ทำการอันนั้นภายในเวลากำหนด
มาตรา 210 ถ้าลูกหนี้จำต้องชำระหนี้ส่วนของตนต่อเมื่อเจ้าหนี้ ชำระหนี้ตอบแทนด้วยไซร้ แม้ถึงว่าเจ้าหนี้จะได้เตรียมพร้อมที่จะรับ ชำระหนี้ตามที่ลูกหนี้ขอปฏิบัตินั้นแล้วก็ดี หากไม่เสนอที่จะทำการ ชำระหนี้ตอบแทนตามที่จะพึงต้องทำ เจ้าหนี้ก็เป็นอันได้ชื่อว่าผิดนัด
มาตรา 211 ในเวลาที่ลูกหนี้ขอปฏิบัติการชำระหนี้นั้นก็ดี หรือใน เวลาที่กำหนดไว้ให้เจ้าหนี้ทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยกรณีที่บัญญัติ ไว้ใน มาตรา 209 นั้นก็ดี ถ้าลูกหนี้มิได้อยู่ในฐานะที่จะสามารถชำระ หนี้ได้ไซร้ ท่านว่าเจ้าหนี้ยังหาผิดนัดไม่
มาตรา 212 ถ้ามิได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ก็ดี หรือถ้าลูกหนี้มี สิทธิที่จะชำระหนี้ได้ก่อนเวลากำหนดก็ดี การที่เจ้าหนี้มีเหตุขัดข้อง ชั่วคราวไม่อาจรับชำระหนี้ที่เขาขอปฏิบัติแก่ตนได้นั้น หาทำให้ เจ้าหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดไม่ เว้นแต่ลูกหนี้จะได้บอกกล่าวการชำระหนี้ ไว้ล่วงหน้าโดยเวลาอันสมควร
มาตรา 213 ถ้าลูกหนี้ละเลยเสียไม่ชำระหนี้ของตน เจ้าหนี้จะ ร้องขอต่อศาลให้สั่งบังคับชำระหนี้ก็ได้ เว้นแต่สภาพแห่งหนี้จะไม่เปิด ช่องให้ทำเช่นนั้นได้
เมื่อสภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้บังคับชำระหนี้ได้ ถ้าวัตถุแห่งหนี้ เป็นอันให้กระทำการอันหนึ่งอันใด เจ้าหนี้จะร้องขอต่อศาลให้สั่งบังคับ ให้บุคคลภายนอกกระทำการอันนั้นโดยให้ลูกหนี้เสียค่าใช้จ่ายให้ก็ได้ แต่ถ้าวัตถุแห่งหนี้เป็นอันให้กระทำนิติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งไซร้ ศาลจะสั่งให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของลูกหนี้ก็ได้
ส่วนหนี้ซึ่งมีวัตถุเป็นอันจะให้งดเว้นการอันใด เจ้าหนี้จะเรียกร้อง ให้รื้อถอนการที่ได้กระทำลงแล้วนั้นโดยให้ลูกหนี้เสียค่าใช้จ่าย และ ให้จัดการอัน ควรเพื่อกาลภายหน้าด้วยก็ได้
อนึ่ง บทบัญญัติในวรรคทั้งหลายที่กล่าวมาก่อนนี้ หากระทบกระทั่ง ถึงสิทธิที่จะเรียกเอาค่าเสียหายไม่
มาตรา 214 ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่ง มาตรา 733 เจ้าหนี้มี สิทธิที่จะให้ชำระหนี้ของตนจากทรัพย์สินของลูกหนี้จนสิ้นเชิง รวม ทั้งเงินและทรัพย์สินอื่น ๆ ซึ่งบุคคลภายนอกค้างชำระแก่ลูกหนี้ด้วย
มาตรา 215 เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ให้ต้องตามความประสงค์ อันแท้จริงแห่งมูลหนี้ไซร้
เจ้าหนี้จะเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนเพื่อ ความเสียหายอันเกิดแต่การนั้นก็ได
มาตรา 216 ถ้าโดยเหตุผิดนัด การชำระหนี้กลายเป็นอันไร้ ประโยชน์แก่เจ้าหนี้ เจ้าหนี้จะบอกปัดไม่รับชำระหนี้ และจะเรียก เอาค่าสินไหมทดแทนเพื่อการไม่ชำระหนี้ก็ได้ ้
มาตรา 217 ลูกหนี้จะต้องรับผิดชอบในความเสียหายบรรดาที่ เกิดแต่ความประมาทเลินเล่อในระหว่างเวลาที่ตนผิดนัด ทั้งจะต้อง รับผิดชอบในการที่การชำระหนี้กลายเป็นพ้นวิสัย เพราะอุบัติเหตุ อันเกิดขึ้นในระหว่างเวลาที่ผิดนัดนั้นด้วย เว้นแต่ความเสียหายนั้น ถึงแม้ว่าตนจะได้ชำระหนี้ทันเวลากำหนดก็คงจะต้องเกิดมีอยู่นั่นเอง
มาตรา 218 ถ้าการชำระหนี้กลายเป็นพ้นวิสัยจะทำได้เพราะ พฤติการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งลูกหนี้ต้องรับผิดชอบไซร้ ท่านว่าลูกหนี้ จะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เจ้าหนี้เพื่อค่าเสียหายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การไม่ชำระหนี้นั้น
ในกรณีที่การชำระหนี้กลายเป็นพ้นวิสัยแต่เพียงบางส่วน ถ้าหาก ว่าส่วนที่ยังเป็นวิสัยจะทำได้นั้นจะเป็นอันไร้ประโยชน์แก่เจ้าหนี้แล้ว เจ้าหนี้จะไม่ยอมรับชำระหนี้ส่วนที่ยังเป็นวิสัยจะทำได้นั้น แล้วและ เรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อการไม่ชำระหนี้เสียทั้งหมดทีเดียวก็ได้
มาตรา 219 ถ้าการชำระหนี้กลายเป็นพ้นวิสัยเพราะพฤติการณ์ อันใดอันหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นภายหลังที่ได้ก่อหนี้ และซึ่งลูกหนี้ไม่ต้องรับ ผิดชอบนั้นไซร้ท่านว่าลูกหนี้เป็นอันหลุดพ้นจากการชำระหนี้นั้น
ถ้าภายหลังที่ได้ก่อหนี้ขึ้นแล้วนั้น ลูกหนี้กลายเป็นคนไม่สามารถ จะชำระหนี้ได้ไซร้ ท่านให้ถือเสมือนว่าเป็นพฤติการณ์ที่ทำให้การ ชำระหนี้ตกเป็นอันพ้นวิสัยฉะนั้น
มาตรา 220 ลูกหนี้ต้องรับผิดชอบในความผิดของตัวแทนแห่งตน กับทั้งของบุคคลที่ตนใช้ในการชำระหนี้นั้นโดยขนาดเสมอกับว่าเป็น ความผิดของตนเองฉะนั้น แต่บทบัญญัติแห่ง มาตรา 373 หาใช้บังคับ แก่กรณีเช่นนี้ด้วยไม่
มาตรา 221 หนี้เงินอันต้องเสียดอกเบี้ยนั้น ท่านว่าจะคิดดอกเบี้ย ในระหว่างที่เจ้าหนี้ผิดนัดหาได้ไม่
มาตรา 222 การเรียกเอาค่าเสียหายนั้น ได้แก่เรียกค่าสินไหม ทดแทนเพื่อความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นแต่การไม่ชำระ หนี้นั้น
เจ้าหนี้จะเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ แม้กระทั่งเพื่อความเสียหาย อันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษ หากว่าคู่กรณีที่เกี่ยวข้องได้คาดเห็นหรือ ควรจะได้คาดเห็นพฤติการณ์เช่นนั้นล่วงหน้าก่อนแล้ว
มาตรา 223 ถ้าฝ่ายผู้เสียหายได้มีส่วนทำความผิดอย่างใด อย่างหนึ่งก่อให้เกิดความเสียหายด้วยไซร้ ท่านว่าหนี้อันจะต้องใช้ ค่าสินไหมทดแทนแก่ฝ่ายผู้เสียหายมากน้อยเพียงใดนั้น ต้องอาศัย พฤติการณ์เป็นประมาณ ข้อสำคัญก็คือว่าความเสียหายนั้นได้เกิดขึ้น เพราะฝ่ายไหนเป็นผู้ก่อยิ่งหย่อนกว่ากันเพียงไร
วิธีเดียวกันนี้ ท่านให้ใช้แม้ทั้งที่ความผิดของฝ่ายผู้ที่เสียหายจะ มีแต่เพียงละเลยไม่เตือนลูกหนี้ให้รู้สึกถึงอันตราย แห่งการเสียหาย อันเป็นอย่างร้ายแรงผิดปกติ ซึ่งลูกหนี้ไม่รู้หรือไม่อาจจะรู้ได้ หรือ เพียงแต่ละเลยไม่บำบัดปัดป้อง หรือบรรเทาความเสียหายนั้นด้วย อนึ่งบทบัญญัติแห่ง มาตรา 220 นั้นท่านให้นำมาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม
มาตรา 224 หนี้เงินนั้น ท่านให้คิดดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัด ร้อยละเจ็ดกึ่งต่อปี ถ้าเจ้าหนี้อาจจะเรียกดอกเบี้ยได้สูงกว่านั้น โดย อาศัยเหตุอย่างอื่นอันชอบด้วยกฎหมาย ก็ให้คงส่งดอกเบี้ยต่อไปตามนั้น
ท่านห้ามมิให้คิดดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัด
การพิสูจน์ค่าเสียหายอย่างอื่นนอกกว่านั้น ท่านอนุญาตให้พิสูจน์ได้
มาตรา 225 ถ้าลูกหนี้จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อราคาวัตถุ อันได้เสื่อมเสียไประหว่างผิดนัดก็ดี หรือวัตถุอันไม่อาจส่งมอบได้ เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งอันเกิดขึ้นระหว่างผิดนัดก็ดี ท่านว่า เจ้าหนี้จะเรียกดอกเบี้ยในจำนวนที่จะต้องใช้เป็นค่าสินไหมทดแทน คิดตั้งแต่เวลาอันเป็นฐานที่ตั้งแห่งการกะประมาณราคานั้นก็ได้ วิธี เดียวกันนี้ ท่านให้ใช้ตลอดถึงการที่ลูกหนี้จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการที่ราคาวัตถุตกต่ำเพราะวัตถุนั้นเสื่อมเสียลงในระหว่างเวลา ที่ผิดนัดนั้นด้วย
----------------------
ประมวลกฏหมายแพ่ง มาตราที่ 233-236

:: ส่วนที่ 3 การใช้สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้
มาตรา 233 ถ้าลูกหนี้ขัดขืนไม่ยอมใช้สิทธิเรียกร้อง หรือเพิกเฉย เสียไม่ใช้สิทธิเรียกร้อง เป็นเหตุให้เจ้าหนี้ต้องเสียประโยชน์ไซร้ ท่าน ว่าเจ้าหนี้จะใช้สิทธิเรียกร้องนั้นในนามของตนเอง แทนลูกหนี้เพื่อ ป้องกันสิทธิของตนในมูลหนี้นั้นก็ได้ เว้นแต่ในข้อที่เป็นการของ ลูกหนี้ส่วนตัวโดยแท้
มาตรา 234 เจ้าหนี้ผู้ใช้สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้นั้นจะต้องขอ หมายเรียกลูกหนี้มาในคดีนั้นด้วย
มาตรา 235 เจ้าหนี้จะใช้สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้เรียกเงินเต็ม จำนวนที่ยังค้างชำระแก่ลูกหนี้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงจำนวนที่ค้างชำระ แก่ตนก็ได้ ถ้าจำเลยยอมใช้เงินเพียงเท่าจำนวนที่ลูกหนี้เดิมค้าง ชำระแก่เจ้าหนี้นั้นคดีก็เป็นเสร็จกันไป แต่ถ้าลูกหนี้เดิมได้เข้าชื่อเป็น โจทก์ด้วย ลูกหนี้เดิมจะขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาต่อไปในส่วน จำนวนเงินที่ยังเหลือติดค้างอยู่ก็ได้
แต่อย่างไรก็ดี ท่านมิให้เจ้าหนี้ได้รับมากไปกว่าจำนวนที่ค้างชำระ แก่ตนนั้นเลย
มาตรา 236 จำเลยมีข้อต่อสู้ลูกหนี้เดิมอยู่อย่างใด ๆ ท่านว่าจะ ยกขึ้นต่อสู้เจ้าหนี้ได้ทั้งนั้น เว้นแต่ข้อต่อสู้ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อยื่นฟ้องแล้ว
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ ธ.ค. 29, 2006 8:53 pm

น้องเจี๊ยบ เป็นคนจน และไม่ใช่คนเคร่ง แต่อยาก เรียน อาบังอันตน อย่างนี้ฮะ

1. ขอพี่ ภาวนา อย่างเทใจกับพระเจ้า วิงวอน ต่อพระเยซูเจ้า ก่อน ว่าพระองค์จะให้พี่มีทางออกอย่างไร

2. แล้วจึงก้าวไป ที่ ฟ้อง หรือไม่ฟ้อง ฮะ
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

ศุกร์ ธ.ค. 29, 2006 9:18 pm

ผมว่า ปรึกษากับคู่กรณี เกี่ยวกับ"การไกล่เกลี่ย"ดีมั้ย(มีสำนักงานไกล่เกลี่ย)
เดี๋ยวนี้ ที่ศาลจะมีการไกล่เกลี่ย ครับเพื่อให้คดีไม่ไปตกในชั้นศาล
(ถ้าผิดขออภัยด้วยครับ)
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

พุธ ม.ค. 03, 2007 9:03 am

ขอบใจ boylife แต่อย่างว่าแหละนะ ชาวบ้านๆอ่านภาษากฏหมายหรือมาตราแล้วงง LW103 ผมลงตั้งหลายรอบกว่าจะผ่าน เดี๋ยวจะลองค่อยๆพิจารณา

ขอบใจน้องเจี๊ยบ ผมอธิษฐานหลายตลบแล้ว ดิ้นรนตามที่พระจะให้ก็หลายรอบแล้ว คำตอบคือน่าจะฟ้อง เพราะเขาไม่เคยแสดงความจริงใจออกมาให้เห็นเลย อีกอย่างผมยังจำข้อพระคำภีร์อันหนึ่งที่บังเอิญได้อ่านเมื่อครั้งลำบากหนักๆ จำไม่ได้แล้วว่าข้อไหนหรือเขียนไว้อย่างไร เนื้อความไปในทำนองนี้คือ จงอย่าเข้าข้างเขาเพราะเห็นว่าเขายากจน จงอย่าเกรงใจเขาเพราะเห็นว่าเขามั่งมี
อนึ่ง ผมก็ไม่ได้ร่ำรวยหรอกครับ กว่าจะหามาให้เขาเอาไปได้นี่ก็เลือดตาแทบกระเด็นเหมือนกัน

ขอบใจ Man of Macedonia ผมไกล่เกลี่ยกันเองตั้งหลายรอบแล้ว ทีนี้เห็นทีต้องให้บ้านเมืองบังคับไกล่เกลี่ยแล้วละ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

พุธ ม.ค. 03, 2007 9:46 am

1. อันดับแรกก็สัญญาครับทำเป็นหนังสือหรือเปล่า ถ้าทำก็ไปดูข้อต่อไปได้เลย
2. ถ้าเค้าทำในกรณี ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย บอกตามตรงว่าทำอะไรไม่ได้ครับ เพราะคดีแพ่งนั้นไม่มีโทษจำคุกครับ (พยายามโยงให้เข้าเป็นเรื่องโกงเจ้าหนี้ หรือหนีหนี้นะครับ จะได้ฟ้องอาญาโลด)
3. ถ้าเค้าโดนฟ้องล้มละลาย พี่ก็ไม่ได้ซวยนะครับเพราะเค้าจะเอาทรัยพ์สินลูกหนี้มาขายทอดตลาดแล้วแบ่งใช้ให้เจ้าหนี้ เพียงแต่ว่าจะเหลือมาถึงพี่เท่าไหร่ (กรณีเค้ามีเจ้าหนี้มากมายและเจ้าหนี้เหล่านั้นมีสิทธิมากกว่าพี่ คือ เจ้าหนี้จำนอง )
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

พุธ ม.ค. 03, 2007 9:53 am

Immanuel (MichaelPaul) เขียน: 1. อันดับแรกก็สัญญาครับทำเป็นหนังสือหรือเปล่า ถ้าทำก็ไปดูข้อต่อไปได้เลย
2. ถ้าเค้าทำในกรณี ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย บอกตามตรงว่าทำอะไรไม่ได้ครับ เพราะคดีแพ่งนั้นไม่มีโทษจำคุกครับ (พยายามโยงให้เข้าเป็นเรื่องโกงเจ้าหนี้ หรือหนีหนี้นะครับ จะได้ฟ้องอาญาโลด)
3. ถ้าเค้าโดนฟ้องล้มละลาย พี่ก็ไม่ได้ซวยนะครับเพราะเค้าจะเอาทรัยพ์สินลูกหนี้มาขายทอดตลาดแล้วแบ่งใช้ให้เจ้าหนี้ เพียงแต่ว่าจะเหลือมาถึงพี่เท่าไหร่ (กรณีเค้ามีเจ้าหนี้มากมายและเจ้าหนี้เหล่านั้นมีสิทธิมากกว่าพี่ คือ เจ้าหนี้จำนอง )
ถ้าไม่มีไม่หนีไม่จ่าย แล้วจะให้เข้าข่ายโกงได้ยังไงละครับ คืองี้เอาเป็นว่าหลอกลวงได้ไหม เพราะบอกว่าจะเอาเงินไปลงทุน(ในสัญญาเขียนไว้อย่างนั้น แต่เขาเอาไปโปะหนี้อื่นๆ) อย่างนี้ถือว่าฉ้อโกงและฟ้องอาญาได้ไหม
ภาพประจำตัวสมาชิก
Florian
โพสต์: 1513
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 31, 2006 12:05 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

พุธ ม.ค. 03, 2007 9:56 am

Immanuel (MichaelPaul) เขียน: 1. อันดับแรกก็สัญญาครับทำเป็นหนังสือหรือเปล่า ถ้าทำก็ไปดูข้อต่อไปได้เลย
2. ถ้าเค้าทำในกรณี ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย บอกตามตรงว่าทำอะไรไม่ได้ครับ เพราะคดีแพ่งนั้นไม่มีโทษจำคุกครับ (พยายามโยงให้เข้าเป็นเรื่องโกงเจ้าหนี้ หรือหนีหนี้นะครับ จะได้ฟ้องอาญาโลด)
3. ถ้าเค้าโดนฟ้องล้มละลาย พี่ก็ไม่ได้ซวยนะครับเพราะเค้าจะเอาทรัยพ์สินลูกหนี้มาขายทอดตลาดแล้วแบ่งใช้ให้เจ้าหนี้ เพียงแต่ว่าจะเหลือมาถึงพี่เท่าไหร่ (กรณีเค้ามีเจ้าหนี้มากมายและเจ้าหนี้เหล่านั้นมีสิทธิมากกว่าพี่ คือ เจ้าหนี้จำนอง )
นี่สิ มืออาชีพ คนนี้แหละ ที่เรารอมานาน  :cheesy:
ตอบกลับโพส