สวัสดีครับ ขอวิธีเผยแพร่ศาสนาคริสต์หน่อยครับ
-
- โพสต์: 20
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ธ.ค. 26, 2006 4:20 am
คือเท่าที่ทำอยู่
1. ก็แค่เป็นตัวอย่างคริสต์เตียนที่ดี ให้คนศาสนาอื่นดู
2. เป็นพยานในเรื่องต่างๆ กับคนที่เรารู้จัก
แต่เหล่านี้ก็ทำได้กับคนที่เรารู้จักอะครับ
อยากได้วิธีแบบไปเผยแพร่กับคนที่พึ่งพบกันครั้งแรกอะครับ (ทำเป็นกลุ่มหรือคนเดียวก็ได้ครับ)
ไม่ต้องเป้นวิธีที่ได้ผลก้ได้ แต่ขอให้ทำได้จริงอะครับ เด๋วพยายามต่อไปเรื่อยๆก้ได้ผลเอง
เท่าที่เคยเห็นมาก็มีการ
1. ไปแจกใบปลิวตามสถานที่ต่างๆ
2. ถือโทรโข่งเลยประกาสเป็นต้น
อยากได้วิธีประมาณเนี่ยครับ แจกใบปลิวยังไงให้คนสนใจ ป่าวประกาสยังไงดีให้คนมาฟัง?
มีวิธีไหนอีกบ้างครับที่พี่น้องพอคิดได้ สำหรับคนที่เราไม่เคยรุ้จักมาก่อนเลย
มีวิธีไหนเด็ดๆบ้างไหมครับพี่น้อง พี่น้องเคยใช้วิธีไหนกันบ้าง หรือเคยเห็นใครทำอย่างไรบ้างมาเล่าสู่กันฟังบ้างครับ
จะได้เอาความคิดของพี่น้องไปต่อยอดได้ครับ
หรือมีเว๊ปไซไหนบ้างที่ผมพอจะหาข้อมูลได้ ขอความกรุณา ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
1. ก็แค่เป็นตัวอย่างคริสต์เตียนที่ดี ให้คนศาสนาอื่นดู
2. เป็นพยานในเรื่องต่างๆ กับคนที่เรารู้จัก
แต่เหล่านี้ก็ทำได้กับคนที่เรารู้จักอะครับ
อยากได้วิธีแบบไปเผยแพร่กับคนที่พึ่งพบกันครั้งแรกอะครับ (ทำเป็นกลุ่มหรือคนเดียวก็ได้ครับ)
ไม่ต้องเป้นวิธีที่ได้ผลก้ได้ แต่ขอให้ทำได้จริงอะครับ เด๋วพยายามต่อไปเรื่อยๆก้ได้ผลเอง
เท่าที่เคยเห็นมาก็มีการ
1. ไปแจกใบปลิวตามสถานที่ต่างๆ
2. ถือโทรโข่งเลยประกาสเป็นต้น
อยากได้วิธีประมาณเนี่ยครับ แจกใบปลิวยังไงให้คนสนใจ ป่าวประกาสยังไงดีให้คนมาฟัง?
มีวิธีไหนอีกบ้างครับที่พี่น้องพอคิดได้ สำหรับคนที่เราไม่เคยรุ้จักมาก่อนเลย
มีวิธีไหนเด็ดๆบ้างไหมครับพี่น้อง พี่น้องเคยใช้วิธีไหนกันบ้าง หรือเคยเห็นใครทำอย่างไรบ้างมาเล่าสู่กันฟังบ้างครับ
จะได้เอาความคิดของพี่น้องไปต่อยอดได้ครับ
หรือมีเว๊ปไซไหนบ้างที่ผมพอจะหาข้อมูลได้ ขอความกรุณา ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
เอ่อ...เดินโข่งแจกใบปลิวเนี่ย ขอเลยค่ะว่าอย่า
นอกจากจะได้ผลในระดับต่ำแล้ว ยังทำให้พระเจ้าโดนด่าอีกต่างหาก
ก็พอจะเข้าใจนะคะ ว่ากำลังไฟแรง แต่ขอให้เข้าใจด้วยว่า
พระพรแต่ละคนไม่เหมือนกัน คุณอย่าคิดว่าเขาทำอย่างนั้นได้
เราจะทำแล้วได้ด้วย หรือ ใครทำได้ผล เราจะได้เหมือนกัน
เราไม่ใช่นักเทศน์ในสมัยโบราณ ที่จะไปยืนกลางลานแล้วประกาศพระวาจา
แล้วมีคนกลับใจเป็นจำนวนมากเหมือนในพระคัมภีร์
ทางที่ดี สวด / อธิษฐาน ขอความสว่าง ขอสติปัญญา ขอพลัง
และให้พระเจ้าทรงไขแสดงกับเราดีกว่า ว่าจะประกาศพระวาจาอย่างไร
ถึงจะเหมาะสม ถึงจะสามารถนำคนมารู้จักพระเจ้าได้
พี่คิดว่า.... การประกาศที่ได้ผล น้อย แต่แน่นด้วยปริมาณและคุณภาพ
ดีกว่าได้ผลมาก... แต่รากฐานไม่มั่นคง
ขอให้ดูเรื่อง เศษเงินของหญิงม่ายนะคะ
พระเยซูทรงสอนเราเรื่องการกระทำการใด ๆ ด้วยจิตใจ มากกว่าจะด้วยจำนวน
ขอพระเจ้าอวยพรนะคะ
นอกจากจะได้ผลในระดับต่ำแล้ว ยังทำให้พระเจ้าโดนด่าอีกต่างหาก
ก็พอจะเข้าใจนะคะ ว่ากำลังไฟแรง แต่ขอให้เข้าใจด้วยว่า
พระพรแต่ละคนไม่เหมือนกัน คุณอย่าคิดว่าเขาทำอย่างนั้นได้
เราจะทำแล้วได้ด้วย หรือ ใครทำได้ผล เราจะได้เหมือนกัน
เราไม่ใช่นักเทศน์ในสมัยโบราณ ที่จะไปยืนกลางลานแล้วประกาศพระวาจา
แล้วมีคนกลับใจเป็นจำนวนมากเหมือนในพระคัมภีร์
ทางที่ดี สวด / อธิษฐาน ขอความสว่าง ขอสติปัญญา ขอพลัง
และให้พระเจ้าทรงไขแสดงกับเราดีกว่า ว่าจะประกาศพระวาจาอย่างไร
ถึงจะเหมาะสม ถึงจะสามารถนำคนมารู้จักพระเจ้าได้
พี่คิดว่า.... การประกาศที่ได้ผล น้อย แต่แน่นด้วยปริมาณและคุณภาพ
ดีกว่าได้ผลมาก... แต่รากฐานไม่มั่นคง
ขอให้ดูเรื่อง เศษเงินของหญิงม่ายนะคะ
พระเยซูทรงสอนเราเรื่องการกระทำการใด ๆ ด้วยจิตใจ มากกว่าจะด้วยจำนวน
ขอพระเจ้าอวยพรนะคะ
-
- โพสต์: 20
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ธ.ค. 26, 2006 4:20 am
อธิฐานแล้วรอเขา เข้ามาหาพวกเราเองเหรอครับ ผมทำอยู่ทุกวันเลยอะครับ แต่อยากรู้ว่ามีเทคนิคอย่างอื่นอีกหรือเปล่าที่จะพาคนมาได้โดย ไม่ต้องเอาแต่พึ่งพระเจ้าอะครับ อย่างที่ผมยกตัวอย่างไปผมก็ทราบดีอะครับว่ามันไร้สาระมาก คงไม่มีใครอยากรู้จักกับพระเจ้าแค่กับเศษกระดาษใบเดียวหลอก หรือไปยืนตะโกนปาวๆ อย่างกับเล่นปาหี่ เปลืองแรงเปล่าๆ คนจะนึกว่าเป็นพวกปัญญาอ่อนด้วยซ้ำ ดังนั้นผมจึงอยากรุ้ว่ามีอย่างอื่นอีกไหม นอกจาก 2อย่างนี้ ที่ทำๆกัน ก็เลยเข้ามาถามอะครับ เผื่อว่า กลุ่มของพี่ๆ กลุ่มไหนมีเเทคติกอันเลิสล้ำ
ผมรุ้ว่าพระเจ้าสามารถทำให้เป็นจริงได้ครับ ด้วการที่เราขอพระองค์
แต่ในฐานะเราก็เป็นมนุษย์ คนหนึ่งในโลกนี้ก็อยากจะพาคนที่เป็นมนุษย์เหมือนเราเนี่ย มารู้จักพระเจ้าบ้าง
ทราบครับว่าผมนั้นยัง มีความบาป เลว ทราม ต่ำ ช้า คงยากนักที่คนชั่วๆแบบผม จะพาคนอื่นมารู้จักพระเจ้าโดยตัวของผมเอง โดยที่พระเจ้าไมได้ชักนำเลย
ผมรุ้ว่าพระเจ้าสามารถทำให้เป็นจริงได้ครับ ด้วการที่เราขอพระองค์
แต่ในฐานะเราก็เป็นมนุษย์ คนหนึ่งในโลกนี้ก็อยากจะพาคนที่เป็นมนุษย์เหมือนเราเนี่ย มารู้จักพระเจ้าบ้าง
ทราบครับว่าผมนั้นยัง มีความบาป เลว ทราม ต่ำ ช้า คงยากนักที่คนชั่วๆแบบผม จะพาคนอื่นมารู้จักพระเจ้าโดยตัวของผมเอง โดยที่พระเจ้าไมได้ชักนำเลย
...ก็เลียนแบบพระองค์สิครับ
ประพฤติตน ให้มีความชอบธรรม
สำแดงพระองค์ในตัวคุณ
ประพฤติตน ให้มีความชอบธรรม
สำแดงพระองค์ในตัวคุณ
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
ใช้ชีวิตเลียนแบบพระเยซูค่ะ
1. ศึกษาพระวาจาพระเจ้าให้เข้าใจ ไม่ได้หมายถึงถึงแค่จำได้ว่า พระเจ้าพูดอะไร แต่ ต้องให้เข้าใจความหมายลึกซึ้งที่อยู่ในนั้น เข้าใจแม้กระทั่งว่า ทำไม พระเป้นเจ้าถึงสอนอย่างนั้น
2. ปฏิบัติตามพระวาจา เพราะเราต้องเชื่อในสิ่งที่เราจะบอกเขาหรือสอนเขา และเราต้องทำได้ด้วย จึงจะทำให้คนอื่นคล้อยตาม
เอาแค่สองข้อนี้ก่อนค่ะ เมื่อกระจ่างแล้ว ด้วยพระหรรษทาน ก็จะมีเทคนิคเฉพาะของแต่ละบุคคล บางทีแค่รอยยิ้มสงบจริงใจก็มีลูกแกะเดินตามมาข้างหลังเพียบแล้ว
ดูอย่างพระเยซุเจ้าสิคะ พระองค์ไม่ได้ออกไปกวาดต้อนแกะเลยนะ พระองค์แค่เป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดา และสอนในสิ่งที่พระองค์เชื่อ ไม่ได้ใช้เทคนิคอะไรมากมาย ก็มีคนเดินตามพระองค์เพียบแล้ว
1. ศึกษาพระวาจาพระเจ้าให้เข้าใจ ไม่ได้หมายถึงถึงแค่จำได้ว่า พระเจ้าพูดอะไร แต่ ต้องให้เข้าใจความหมายลึกซึ้งที่อยู่ในนั้น เข้าใจแม้กระทั่งว่า ทำไม พระเป้นเจ้าถึงสอนอย่างนั้น
2. ปฏิบัติตามพระวาจา เพราะเราต้องเชื่อในสิ่งที่เราจะบอกเขาหรือสอนเขา และเราต้องทำได้ด้วย จึงจะทำให้คนอื่นคล้อยตาม
เอาแค่สองข้อนี้ก่อนค่ะ เมื่อกระจ่างแล้ว ด้วยพระหรรษทาน ก็จะมีเทคนิคเฉพาะของแต่ละบุคคล บางทีแค่รอยยิ้มสงบจริงใจก็มีลูกแกะเดินตามมาข้างหลังเพียบแล้ว
ดูอย่างพระเยซุเจ้าสิคะ พระองค์ไม่ได้ออกไปกวาดต้อนแกะเลยนะ พระองค์แค่เป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดา และสอนในสิ่งที่พระองค์เชื่อ ไม่ได้ใช้เทคนิคอะไรมากมาย ก็มีคนเดินตามพระองค์เพียบแล้ว
รัก............ โดยไม่มีเงื่อนไข ไม่มีข้อแม้ (สิ่งมีชีวิตทุกชนิด สัมผัสความรักได้) และแน่นอน เมื่อได้รับความไว้วางใจจากเขาหล่านั้น เขาก็จะเดินเข้ามาหาคุณเอง เมื่อตัวคุณเองต้องการจะเป็นเซ็นเตอร์เพื่อพาเขาเหล่านั้นให้รู้จักพระเจ้า แน่นอนว่า แรงดึงดูดต้องมาจากตัวคุณ ทำให้เขาไว้วางใจคุณ จากกิจการของคุณ ความรักของคุณ ความเผื่อแผ่ของคุณ เมื่อเขาเหล่านั้นเข้ามารายล้อมคุณ คุณก็ไม่จำเป็นต้องกวาดต้อนอีกต่อไป เพียงเดินนำ เขาเหล่านั้นก็จะเดินตามคุณด้วยความไว้วางใจ และความหวังในพระเจ้าที่จะได้พบสันติสุขเหมือนคุณ




-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ผมว่าเท่าที่ทำมา 2 ข้อก็โอเคแล้วนะครับ
แต่ถ้าอยากทำได้มากกว่านั้น ก็สวขอความสว่างจากพระนะครับ
แต่ถ้าอยากทำได้มากกว่านั้น ก็สวขอความสว่างจากพระนะครับ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
การกระทำใดที่ไม่ได้มาจากพระเจ้า หรือไม่ได้พึ่งพระเจ้า
การนั้นไม่มีความหมายค่ะ
การที่คุณจะติดตามพระเจ้า ก็ต่อเมื่อคุณล่ะทิ้งตัวตนของคุณ
ให้พระเจ้าเป็นผู้นำคุณอย่างสิ้นเชิง และ ทุกกรณี
ก่อนที่จะไปหาคนอื่น ลองเริ่มจากคนใกล้ตัวคุณก่อนดีมั๊ยคะ?
การนั้นไม่มีความหมายค่ะ
การที่คุณจะติดตามพระเจ้า ก็ต่อเมื่อคุณล่ะทิ้งตัวตนของคุณ
ให้พระเจ้าเป็นผู้นำคุณอย่างสิ้นเชิง และ ทุกกรณี
ก่อนที่จะไปหาคนอื่น ลองเริ่มจากคนใกล้ตัวคุณก่อนดีมั๊ยคะ?
สำหรับเร เริ่มจากคนรู้จักค่ะ
ไม่ต้องไปกวาดต้อนคนไม่รู้จักมากมาย
แค่ทำยังไงให้คนรู้จักเรารอบๆตัวหันมาหาพระจ้า (เชื่อมั๊ยว่า คนๆนึงมีคนรู้จักหลายร้อยคนเชียวนะคะ)
แค่คนรู้จักของเรานี่ก็ไม่หวาดไม่ไหวแล้วค่ะ
ตั้งแต่เพื่อนสมัยประถม มัธยม มหาวิทยาลัย เพื่อนที่ทำงาน แฟนเพื่อน เพื่อนแฟน
คนใกล้บ้าน ร้านข้าวแกง ร้านวีดีโอ คนซ่อมรองเท้า หมอฟัน ช่างทำผม เพื่อนใน msn ฯลฯ
สำแดงพระคริสต์ในชีวิตของเราให้พวกเขาได้เห็น
เป็นพยานทุกครั้งที่มีโอกาส แต่อย่ากวาดต้อนมาเกินไปจนน่าเกลียด เพราะไม่เป็นผลดีค่ะ
การที่จะดึงคนไม่รู้จักเข้ามาหาพระเจ้าเลยเป็นเรื่องยากและเสี่ยงมากที่พระเจ้าของเราจะโดนดูถูกมากกว่าได้รับคำสรรเสริญ
สำหรับเรการไปไล่แจกใบปลิวเรว่าได้ผลน้อย เพราะคนไม่เปิดใจยอมรับอะไรง่ายๆ
สิ่งที่ดีที่สุดที่เราน่าจะทำเพื่อพระเจ้าก็คือ หว่านเมล็ดแห่งความสนใจและทัศนคติที่ดีลงในจิตใจของทุกคนที่เราได้พบหรือติดต่อด้วย
เช่น เวลาหยิบเงินให้ขอทาน หรือ ช่วยยายแก่ซื้อท็อฟฟี่ หรือ ทำความดีอื่นๆ
เคยบอกเค้ามั๊ยคะว่า "ขอให้พระเจ้าอวยพระพร" หรือ "พระเยซูบอกให้ฉันทำดีกับทุกคน ฉันจึงมาช่วยคุณเพราะพระเยซูให้ฉันมา"
หากอยากจะแจกใบปลิวให้เหมาะสมต้องใช้เทศกาลเข้าบังหน้าค่ะ
เช่นแจกพ่วงไปกับไข่ต้มในเทศกาลอีสเตอร์ คนนิยมของฟรีอยู่แล้ว อยู่ๆมีคนเอาไข่ต้มมาแจกฟรีคนก็สนใจ
เราก็ถือโอกาสเล่าว่า วันนี้เป็นวันสำคัญยังไง และให้ใบปลิวไปด้วย
ส่วนเค้าจะมาหรือไม่ก็เป็นสิทธิของเค้า แต่อย่างน้อยเราก็ได้สะกิดใจให้เค้ารู้ว่า อีสเตอร์สำคัญยังไง
หากเค้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเอาได้จากที่ไหน
หรือการร้องเพลงคริสมาสต์และแจกใบปลิวตามห้างในเทศกาลคริสต์มาสก็เวิร์คค่ะ
เรียกความสนใจได้มากแต่เราต้องเนฝ่ายให้ข้อมูลเฉยๆ ไม่ใช่ไปกวาดต้อนเหมือนเซลส์ฟิตเนสนะงับ
อื่นๆที่เราจะช่วยได้ก็เช่น ซื้อหนังสือเสริมศรัทธาและพระคัมภีร์ไปบริจาคเวลาที่มีห้องสมุดรับบริจาค
ให้เรื่องราวของพระคริสต์เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่าย ค้นหาได้ง่ายสำหรับทุกๆคน
โดยเฉพาะหนังสือสำหรับเด็กที่มีภาพสวยงาม (แบบการ์ตูนก็มีนะ)
หรือ ถ้าหาซื้อหนังสือเสริมศรัทธาที่อ่านเข้าใจง่ายๆไปแจกจ่ายในเทศกาลสำคัญได้ก็จะดี
เช่นปีใหม่ แทนที่เราจะให้ส.ค.ส.ธรรมดา ก็ใส่ข้อความดีๆจากพระคัมภีร์เข้าไป
หรือใส่หนังสือเล่มเล็กๆลงไปด้วย (ชาวพุทธชอบทำนะคะ ให้หนังสือเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าในเทศกาลำสำคัญ เราน่าจะทำบ้าง)
ช่วยสนับสนุนด้วยการไปดู หรือ ซื้อหา VCD/DVD หนังเสริมศรัทธาแผ่นจริง
เพื่อให้บริษัทหนังมีกำไร และจะได้นำหนังพระดีๆมาให้คนไทยได้ชมกันอีก
ถ้าเราเองยังไม่ไปช่วยอุดหนุน ถ้าหนังเค้าขาดทุนมากๆ ก็จะไม่มีหนังดีๆมาให้เราใช้เป็นโอกาสในการเผยแพร่อีกต่อไป
ทุกวันนี้เรใช้ post it ที่มีข้อความจากพระคัมภีร์เวลาติดต่องานกับเพื่อนร่วมงานค่ะ
เป็นที่รู้กันว่า ใบนี้มาจากเร ^^
เห็นบ่อยๆเข้า เค้าก็จะชิน และ มีทัศนคติที่ดีตามมาเอง
ให้เพื่อนร่วมงานรู้สึกว่า เออ ศาสนาคริตส์ก็สอนอะไรดีๆนิ
ตอนปีใหม่ก็ส่ง SMS ด้วยข้อความจากพระคัมภีรโดยไม่ลืมใส่คำอวยพรแล้วลงท้ายว่า
ขอพระเจ้าอวยพระพร พยายามให้คนอื่นรู้สึกว่า คริสต์นี่เป็นเรื่องใกล้ตัวนะ
เรว่าวิธีที่จะเวิร์คน่าจะเริ่มจากการหว่านพืช ไม่ใช่การเก็บเกี่ยว การจะให้เขารักคนที่เขาไม่เคยได้ยิน หรือไม่เคยรู้จักเป็นเรื่องยาก
แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อคนๆหนึ่งได้รับข้อมูลเกี่ยวกับพระเยซูมากๆเข้า จากหลายๆแห่ง เขาจะสนใจเข้าสักวัน
ตอนอีสเตอร์ฉันก็ได้ไข่พร้อมเรื่องราวการฟื้นคืนพระชนม์
ตอนคริสมาสต์ไปเดินที่ห้างก็ได้ทราบเรื่องราวการประสูติ และคำนายโบราณ
ไปห้องสมุดก็มีคนเอาหนังสือเสริมศรัทธามาบริจาคเป็นกองพะเนิน เดินไปนี่มีหนังสือเกี่ยวกับพระเยซูเป็นหิ้งๆเลย
ตอนปีใหม่ก็ได้ส.ค.ส.พร้อมข้อความจากพระคัมภีร์
ตอนป่วยก็มีคนส่งบัตรพร้อมข้อความให้กำลังใจจากพระคัมภีร์มาให้
ไปงานแต่งงานเพื่อนที่เป็นคริสต์ก็ได้หนังสือเล่มเล็กๆ ที่มีเรื่องราวน่าสนใจของพระเจ้า
ขับรถไปตามเสา BTS ก็มีโฆษณาหนังพระเยซู
เอ...พระเยซูนี่จะดีจริงมั๊ยนะ ... ต้องถามเพื่อนซะแล้ว
อิอิ ก็เข้าทางเราไงคะ ^^
แนะนำเทศกาลที่เราจะทำอะไรได้ง่ายอีกเทศกาลหนึ่งก็คือ วาเลนไทน์ค่ะ
มาทำการ์ดวาเลนไทน์บอกเล่าความรักของพระเจ้าแล้วส่งให้คนรู้จักทุกคนกันสิคะ
เรเคยคัดข้อความเกี่ยวกับความรักจากพระคัมภีร์แล้วเอาใส่กรอบส่งเป็นของขวัญด้วยล่ะ
พระคัมภีร์สอนอะไรเราเกี่ยวกับความรัก?
หรือเล่าถึงประวัติของท่านนักบุญก็ได้
แทนที่จะให้แต่ของขวัญเราก็สอดแทรกเรื่องราวเข้าไปด้วย
เทศกาลสำคัญหลายอย่างเราสามารถทำเนียนให้ข้อมูลได้โดยที่คนอื่นๆไม่รู้สึกต่อต้านค่ะ
ไม่ต้องไปกวาดต้อนคนไม่รู้จักมากมาย
แค่ทำยังไงให้คนรู้จักเรารอบๆตัวหันมาหาพระจ้า (เชื่อมั๊ยว่า คนๆนึงมีคนรู้จักหลายร้อยคนเชียวนะคะ)
แค่คนรู้จักของเรานี่ก็ไม่หวาดไม่ไหวแล้วค่ะ
ตั้งแต่เพื่อนสมัยประถม มัธยม มหาวิทยาลัย เพื่อนที่ทำงาน แฟนเพื่อน เพื่อนแฟน
คนใกล้บ้าน ร้านข้าวแกง ร้านวีดีโอ คนซ่อมรองเท้า หมอฟัน ช่างทำผม เพื่อนใน msn ฯลฯ
สำแดงพระคริสต์ในชีวิตของเราให้พวกเขาได้เห็น
เป็นพยานทุกครั้งที่มีโอกาส แต่อย่ากวาดต้อนมาเกินไปจนน่าเกลียด เพราะไม่เป็นผลดีค่ะ
การที่จะดึงคนไม่รู้จักเข้ามาหาพระเจ้าเลยเป็นเรื่องยากและเสี่ยงมากที่พระเจ้าของเราจะโดนดูถูกมากกว่าได้รับคำสรรเสริญ
สำหรับเรการไปไล่แจกใบปลิวเรว่าได้ผลน้อย เพราะคนไม่เปิดใจยอมรับอะไรง่ายๆ
สิ่งที่ดีที่สุดที่เราน่าจะทำเพื่อพระเจ้าก็คือ หว่านเมล็ดแห่งความสนใจและทัศนคติที่ดีลงในจิตใจของทุกคนที่เราได้พบหรือติดต่อด้วย
เช่น เวลาหยิบเงินให้ขอทาน หรือ ช่วยยายแก่ซื้อท็อฟฟี่ หรือ ทำความดีอื่นๆ
เคยบอกเค้ามั๊ยคะว่า "ขอให้พระเจ้าอวยพระพร" หรือ "พระเยซูบอกให้ฉันทำดีกับทุกคน ฉันจึงมาช่วยคุณเพราะพระเยซูให้ฉันมา"
หากอยากจะแจกใบปลิวให้เหมาะสมต้องใช้เทศกาลเข้าบังหน้าค่ะ
เช่นแจกพ่วงไปกับไข่ต้มในเทศกาลอีสเตอร์ คนนิยมของฟรีอยู่แล้ว อยู่ๆมีคนเอาไข่ต้มมาแจกฟรีคนก็สนใจ
เราก็ถือโอกาสเล่าว่า วันนี้เป็นวันสำคัญยังไง และให้ใบปลิวไปด้วย
ส่วนเค้าจะมาหรือไม่ก็เป็นสิทธิของเค้า แต่อย่างน้อยเราก็ได้สะกิดใจให้เค้ารู้ว่า อีสเตอร์สำคัญยังไง
หากเค้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเอาได้จากที่ไหน
หรือการร้องเพลงคริสมาสต์และแจกใบปลิวตามห้างในเทศกาลคริสต์มาสก็เวิร์คค่ะ
เรียกความสนใจได้มากแต่เราต้องเนฝ่ายให้ข้อมูลเฉยๆ ไม่ใช่ไปกวาดต้อนเหมือนเซลส์ฟิตเนสนะงับ
อื่นๆที่เราจะช่วยได้ก็เช่น ซื้อหนังสือเสริมศรัทธาและพระคัมภีร์ไปบริจาคเวลาที่มีห้องสมุดรับบริจาค
ให้เรื่องราวของพระคริสต์เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่าย ค้นหาได้ง่ายสำหรับทุกๆคน
โดยเฉพาะหนังสือสำหรับเด็กที่มีภาพสวยงาม (แบบการ์ตูนก็มีนะ)
หรือ ถ้าหาซื้อหนังสือเสริมศรัทธาที่อ่านเข้าใจง่ายๆไปแจกจ่ายในเทศกาลสำคัญได้ก็จะดี
เช่นปีใหม่ แทนที่เราจะให้ส.ค.ส.ธรรมดา ก็ใส่ข้อความดีๆจากพระคัมภีร์เข้าไป
หรือใส่หนังสือเล่มเล็กๆลงไปด้วย (ชาวพุทธชอบทำนะคะ ให้หนังสือเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าในเทศกาลำสำคัญ เราน่าจะทำบ้าง)
ช่วยสนับสนุนด้วยการไปดู หรือ ซื้อหา VCD/DVD หนังเสริมศรัทธาแผ่นจริง
เพื่อให้บริษัทหนังมีกำไร และจะได้นำหนังพระดีๆมาให้คนไทยได้ชมกันอีก
ถ้าเราเองยังไม่ไปช่วยอุดหนุน ถ้าหนังเค้าขาดทุนมากๆ ก็จะไม่มีหนังดีๆมาให้เราใช้เป็นโอกาสในการเผยแพร่อีกต่อไป
ทุกวันนี้เรใช้ post it ที่มีข้อความจากพระคัมภีร์เวลาติดต่องานกับเพื่อนร่วมงานค่ะ
เป็นที่รู้กันว่า ใบนี้มาจากเร ^^
เห็นบ่อยๆเข้า เค้าก็จะชิน และ มีทัศนคติที่ดีตามมาเอง
ให้เพื่อนร่วมงานรู้สึกว่า เออ ศาสนาคริตส์ก็สอนอะไรดีๆนิ
ตอนปีใหม่ก็ส่ง SMS ด้วยข้อความจากพระคัมภีรโดยไม่ลืมใส่คำอวยพรแล้วลงท้ายว่า
ขอพระเจ้าอวยพระพร พยายามให้คนอื่นรู้สึกว่า คริสต์นี่เป็นเรื่องใกล้ตัวนะ
เรว่าวิธีที่จะเวิร์คน่าจะเริ่มจากการหว่านพืช ไม่ใช่การเก็บเกี่ยว การจะให้เขารักคนที่เขาไม่เคยได้ยิน หรือไม่เคยรู้จักเป็นเรื่องยาก
แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อคนๆหนึ่งได้รับข้อมูลเกี่ยวกับพระเยซูมากๆเข้า จากหลายๆแห่ง เขาจะสนใจเข้าสักวัน
ตอนอีสเตอร์ฉันก็ได้ไข่พร้อมเรื่องราวการฟื้นคืนพระชนม์
ตอนคริสมาสต์ไปเดินที่ห้างก็ได้ทราบเรื่องราวการประสูติ และคำนายโบราณ
ไปห้องสมุดก็มีคนเอาหนังสือเสริมศรัทธามาบริจาคเป็นกองพะเนิน เดินไปนี่มีหนังสือเกี่ยวกับพระเยซูเป็นหิ้งๆเลย
ตอนปีใหม่ก็ได้ส.ค.ส.พร้อมข้อความจากพระคัมภีร์
ตอนป่วยก็มีคนส่งบัตรพร้อมข้อความให้กำลังใจจากพระคัมภีร์มาให้
ไปงานแต่งงานเพื่อนที่เป็นคริสต์ก็ได้หนังสือเล่มเล็กๆ ที่มีเรื่องราวน่าสนใจของพระเจ้า
ขับรถไปตามเสา BTS ก็มีโฆษณาหนังพระเยซู
เอ...พระเยซูนี่จะดีจริงมั๊ยนะ ... ต้องถามเพื่อนซะแล้ว
อิอิ ก็เข้าทางเราไงคะ ^^
แนะนำเทศกาลที่เราจะทำอะไรได้ง่ายอีกเทศกาลหนึ่งก็คือ วาเลนไทน์ค่ะ
มาทำการ์ดวาเลนไทน์บอกเล่าความรักของพระเจ้าแล้วส่งให้คนรู้จักทุกคนกันสิคะ
เรเคยคัดข้อความเกี่ยวกับความรักจากพระคัมภีร์แล้วเอาใส่กรอบส่งเป็นของขวัญด้วยล่ะ
พระคัมภีร์สอนอะไรเราเกี่ยวกับความรัก?
หรือเล่าถึงประวัติของท่านนักบุญก็ได้
แทนที่จะให้แต่ของขวัญเราก็สอดแทรกเรื่องราวเข้าไปด้วย
เทศกาลสำคัญหลายอย่างเราสามารถทำเนียนให้ข้อมูลได้โดยที่คนอื่นๆไม่รู้สึกต่อต้านค่ะ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ ศุกร์ ม.ค. 05, 2007 7:55 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ดีจังเลยครับพี่เรย์
จากตัวอย่างที่พี่ยกมา น่าสนใจมาก ๆ ครับ
จากตัวอย่างที่พี่ยกมา น่าสนใจมาก ๆ ครับ

คำพยานของน้องเรย์ยอดเยี่ยมมาก
จะทำสิ่งใดใช้ความรักนำ และใช้ชีวิตของเราเองเป็นที่สำแดงพระคริสตเจ้าครับ อย่างที่น้องเรย์บอกว่าให้เขาเห็นเลยว่าเราเป็นคริสต์และเราทำสิ่งดีอย่างไร
อย่างคาทอลิค ผมจะบอกเลยว่า เวลาไปทานอาหารกล้าเดชะพระนามแล้วอธิษฐานก่อนกินข้าวไหม ถ้ายังอาย ก็อย่าคิดว่าจะไปประกาศกะใครเขาเลย และเบื้องต้นก็นำคนใกล้ตัวก่อนแหละครับดีที่สุด แล้วอย่าลืม อธิษฐานขอพระเจ้าทรงนำให้ทรงพาผู้ที่พระองค์ทรงเรียกมาให้เรารับใช้ ดังนั้นเมื่อตระหนักแล้วว่าเป้นผู้รับใช้ เขาอยากรู้อะไรจงอธิบายไป และเมื่อเรารับใช้ เราจะรู้ว่าเราต้องไม่บังคับอย่างไร
วิธีที่ดีที่สุดคือ ให้พระคริสต์ฉายแสงออกมาจากตัวเราให้ได้ ผมพบคนมากมายที่สนใจศาสนาคริสต์ เพราะเห็นคริสตชนที่ทำตัวดี มีความสุข และมีความรัก จนเขาอยากจะรู้ว่าศาสนานี้เป็นอย่างไร ยังไงก็ดีกว่าขู่เรื่องตกนรก หรือ ยัดข้อมูลที่เขาไม่พร้อมรับมากมายครับ
ปล.ถ้าคิดจะทำตัวไม่ดี แล้วไปบอกใครเขาว่าเป็นคริสต์จะกลายเป็นการประจานพระนามพระเจ้าเช่นกัน ต้องพร้อมด้วยว่า จะทำตัวเป็นพระฉายาของพระองค์ เพราะคนมากมายตัดสินพระเจ้าจากการกระทำของเราเองครับ
จะทำสิ่งใดใช้ความรักนำ และใช้ชีวิตของเราเองเป็นที่สำแดงพระคริสตเจ้าครับ อย่างที่น้องเรย์บอกว่าให้เขาเห็นเลยว่าเราเป็นคริสต์และเราทำสิ่งดีอย่างไร
อย่างคาทอลิค ผมจะบอกเลยว่า เวลาไปทานอาหารกล้าเดชะพระนามแล้วอธิษฐานก่อนกินข้าวไหม ถ้ายังอาย ก็อย่าคิดว่าจะไปประกาศกะใครเขาเลย และเบื้องต้นก็นำคนใกล้ตัวก่อนแหละครับดีที่สุด แล้วอย่าลืม อธิษฐานขอพระเจ้าทรงนำให้ทรงพาผู้ที่พระองค์ทรงเรียกมาให้เรารับใช้ ดังนั้นเมื่อตระหนักแล้วว่าเป้นผู้รับใช้ เขาอยากรู้อะไรจงอธิบายไป และเมื่อเรารับใช้ เราจะรู้ว่าเราต้องไม่บังคับอย่างไร
วิธีที่ดีที่สุดคือ ให้พระคริสต์ฉายแสงออกมาจากตัวเราให้ได้ ผมพบคนมากมายที่สนใจศาสนาคริสต์ เพราะเห็นคริสตชนที่ทำตัวดี มีความสุข และมีความรัก จนเขาอยากจะรู้ว่าศาสนานี้เป็นอย่างไร ยังไงก็ดีกว่าขู่เรื่องตกนรก หรือ ยัดข้อมูลที่เขาไม่พร้อมรับมากมายครับ
ปล.ถ้าคิดจะทำตัวไม่ดี แล้วไปบอกใครเขาว่าเป็นคริสต์จะกลายเป็นการประจานพระนามพระเจ้าเช่นกัน ต้องพร้อมด้วยว่า จะทำตัวเป็นพระฉายาของพระองค์ เพราะคนมากมายตัดสินพระเจ้าจากการกระทำของเราเองครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ เสาร์ ม.ค. 06, 2007 1:34 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
จุ๊บๆๆ คำพยานการเผยแผ่ (เขาให้ใช้แผ่แทนแพร่ฮะ )ของพี่เรย์ยอดเยี่ยมกระเทียมดองมาก 
เพิ่มเติมอีกนิด คือ ให้คำอธิษฐานต่อคนที่กำลังมีปัญหาทันทีทันใด เช่นสมมติว่า เพื่อนพี่เรย์ บอกว่า "นี่เธอ ฉันกลุ้มใจมากนอนไม่หลับเลย เจ้าหนุ่มนั่นหักอกฉัน ทำไงดีล่ะ" พี่เร ก็เริ่มฟังๆๆๆๆ เมื่อเล่าหนุนใจนิดหน่อย แล้วกลุมมือเพื่อน แล้วบอกว่า "เราจะอธิษฐานวิงวอนต่อพระเจ้าให้นะ" แล้วพี่เรออกเสียงอธิษฐาน ตามสภาพเหตุการณ์ที่เกิด หรือสัมผัสความรู้สึกจากการเล่า ทูลต่อพระเจ้าต่อหน้าเพื่อน แล้วบอกว่าแล้วเราจะอธิษฐานให้ต่อนะ ฯลฯ นี่ก็เป็นวิธีหนึ่งด้วย
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า : การเผยแผ่ที่เกิดผลที่สุด ให้ประกาศตัวต่อตัว (อาศัยความสัมพันธ์ )
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า: การเผยแผ่ แบบแจกใบปลิว โหมโรงต่างๆ ได้ผลน้อยมาก (แต่คนคริสเตียนทำมากที่สุด ) :shocked:
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า: คนอายุ 25 ปีลงมา รับเชื่อพระเยซู ง่ายกว่าวัยอื่นๆ ( เพราะผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ มีความบาป ความดื้อด้านมาก จนยากที่จะเปิดใจ )
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า: คนที่รักการเผยแผ่ ต้องเริ่มในชีวิตของเราที่สำแดงชีวิตของพระเยซูในการกระทำ ของเราเองก่อน
แค่นี้ก่อนจะเข้าห้องเรียนแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า

เพิ่มเติมอีกนิด คือ ให้คำอธิษฐานต่อคนที่กำลังมีปัญหาทันทีทันใด เช่นสมมติว่า เพื่อนพี่เรย์ บอกว่า "นี่เธอ ฉันกลุ้มใจมากนอนไม่หลับเลย เจ้าหนุ่มนั่นหักอกฉัน ทำไงดีล่ะ" พี่เร ก็เริ่มฟังๆๆๆๆ เมื่อเล่าหนุนใจนิดหน่อย แล้วกลุมมือเพื่อน แล้วบอกว่า "เราจะอธิษฐานวิงวอนต่อพระเจ้าให้นะ" แล้วพี่เรออกเสียงอธิษฐาน ตามสภาพเหตุการณ์ที่เกิด หรือสัมผัสความรู้สึกจากการเล่า ทูลต่อพระเจ้าต่อหน้าเพื่อน แล้วบอกว่าแล้วเราจะอธิษฐานให้ต่อนะ ฯลฯ นี่ก็เป็นวิธีหนึ่งด้วย
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า : การเผยแผ่ที่เกิดผลที่สุด ให้ประกาศตัวต่อตัว (อาศัยความสัมพันธ์ )
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า: การเผยแผ่ แบบแจกใบปลิว โหมโรงต่างๆ ได้ผลน้อยมาก (แต่คนคริสเตียนทำมากที่สุด ) :shocked:
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า: คนอายุ 25 ปีลงมา รับเชื่อพระเยซู ง่ายกว่าวัยอื่นๆ ( เพราะผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ มีความบาป ความดื้อด้านมาก จนยากที่จะเปิดใจ )
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า: คนที่รักการเผยแผ่ ต้องเริ่มในชีวิตของเราที่สำแดงชีวิตของพระเยซูในการกระทำ ของเราเองก่อน
แค่นี้ก่อนจะเข้าห้องเรียนแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า

-
- โพสต์: 250
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 27, 2009 3:33 am
เริ่มจากเพื่อนพี่น้อง ญาติ คนใกล้ตัวก่อน ตามที่หลาย ๆ ท่านว่าไว้
ส่วนถ้าอยากจะประกาศข่าวเกี่ยวกับพระคริสต์กับคนอื่น แน่นอนว่าความรู้ หรือรายละเอียดต่าง ๆ คุณต้องแน่น
แล้วก็ทำเหมือนเซลแมนเลย เซลแมนขายสินค้า แต่เราก็ประกาศความรอด โดยเราให้เปล่า ๆ
สิ่งสำคัญในการประกาศคือ ข้อความของเราจะครบถ้วนหรือมีสาระสำคัญพอที่จะติดตรึงอยู่ที่จิตวิญญาณของผู้ฟังรึเปล่า
และเวลาหาผู้สนใจก็ดูคนที่เหมือนกำลังว่าง ๆ อยู่ อาจจะที่สวนสาธารณะก็ได้ครับ
ถ้าพูดกับคนใหนแล้วเขาไม่สนใจ ไม่ต้องตื๊อ คนที่เขากำลังหาความจริง แต่เขาไม่รู้ว่าจะหาได้จากที่ใหนมีอีกเยอะ
และสุดท้ายคงต้องให้พระวิญญาณสถิตย์อยู่กับเรา เพราะถ้าปราศจากพระวิญญาณ ผู้คนทั้งหลายคงจะไม่รู้สึก "แปลบปลาบใจ"
ถึงผมแนะนำไปอย่างนี้ก็เถอะ เพื่อน ๆ ผม ญาติผม ใครหลาย ๆ คนรู้ว่าผมเปลี่ยนใจมาเลื่อมใสพระคริสต์ แต่ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
ผมยังไม่เคยทำให้คนสนใจแล้วอยากศึกษาเลยสักคนเดียว...
แต่ให้คิดซะว่าเรากำลังฝากเมล็ดพืชไว้กับคนอื่น เพื่อรอว่าสักวันหนึ่งมันจะโต
ส่วนถ้าอยากจะประกาศข่าวเกี่ยวกับพระคริสต์กับคนอื่น แน่นอนว่าความรู้ หรือรายละเอียดต่าง ๆ คุณต้องแน่น
แล้วก็ทำเหมือนเซลแมนเลย เซลแมนขายสินค้า แต่เราก็ประกาศความรอด โดยเราให้เปล่า ๆ
สิ่งสำคัญในการประกาศคือ ข้อความของเราจะครบถ้วนหรือมีสาระสำคัญพอที่จะติดตรึงอยู่ที่จิตวิญญาณของผู้ฟังรึเปล่า
และเวลาหาผู้สนใจก็ดูคนที่เหมือนกำลังว่าง ๆ อยู่ อาจจะที่สวนสาธารณะก็ได้ครับ
ถ้าพูดกับคนใหนแล้วเขาไม่สนใจ ไม่ต้องตื๊อ คนที่เขากำลังหาความจริง แต่เขาไม่รู้ว่าจะหาได้จากที่ใหนมีอีกเยอะ
และสุดท้ายคงต้องให้พระวิญญาณสถิตย์อยู่กับเรา เพราะถ้าปราศจากพระวิญญาณ ผู้คนทั้งหลายคงจะไม่รู้สึก "แปลบปลาบใจ"
ถึงผมแนะนำไปอย่างนี้ก็เถอะ เพื่อน ๆ ผม ญาติผม ใครหลาย ๆ คนรู้ว่าผมเปลี่ยนใจมาเลื่อมใสพระคริสต์ แต่ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
ผมยังไม่เคยทำให้คนสนใจแล้วอยากศึกษาเลยสักคนเดียว...
แต่ให้คิดซะว่าเรากำลังฝากเมล็ดพืชไว้กับคนอื่น เพื่อรอว่าสักวันหนึ่งมันจะโต
- Deo Gratias
- โพสต์: 1100
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm
สำเนาถูกต้องค่ะJeab Agape เขียน:
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า : การเผยแผ่ที่เกิดผลที่สุด ให้ประกาศตัวต่อตัว (อาศัยความสัมพันธ์ )
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า: การเผยแผ่ แบบแจกใบปลิว โหมโรงต่างๆ ได้ผลน้อยมาก (แต่คนคริสเตียนทำมากที่สุด ) :shocked:
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า: คนอายุ 25 ปีลงมา รับเชื่อพระเยซู ง่ายกว่าวัยอื่นๆ ( เพราะผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ มีความบาป ความดื้อด้านมาก จนยากที่จะเปิดใจ )
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า: คนที่รักการเผยแผ่ ต้องเริ่มในชีวิตของเราที่สำแดงชีวิตของพระเยซูในการกระทำ ของเราเองก่อน
เจอสาเหตุที่โดนคอมเม้นเรื่องนักศึกษาเข้าห้องเรียนช้าละ ฮ่า ฮ่า ฮ่า (แซวแล้ว เผ่น~)Jeab Agape เขียน: แค่นี้ก่อนจะเข้าห้องเรียนแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า![]()