ท่านจะทำยังงายยยยยยย
พูดถึงปากเป็ดนึกถึงเหตุการณ์สมัยทำงานอยู่ที่ปากน้ำ มันเกี่ยวกับปากเป็ดเพราะว่ามันคือลิ้นเป็ดและลิ้นเป็ดมันก็อยู่ในปากเป็ด
ที่โรงงานมีเถ้าแก่วัยหนุ่มจากเกาหลีมาเยี่ยมอยู่เนืองๆ เถ้าแก่คนนี้นัยว่าเรียนเอมบีเอจากอเมริกาดังนั้นจึงพูดอังกฤษได้ดี แต่เนื่องจากไม่ใช่เนถีบสะปี้กกลิ้งจึงยัง"คงลิช"(อังกษสำเนียงเกาหลีคล้ายๆกับไทยลิช)อยู่มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่โอกาส
เหตุการณ์มันมีอยู่ว่าเถ้าแก่ฝั่งไทยพาแกไปรับรองที่เหลาแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงย่านปากน้ำร้านนี้เถ้าแก่เกาหลีก็เคยมาแล้วเช่นกัน อาหารโปรดของแกคือลิ้นเป็ด ดังนั้นเมื่อเถ้าแก่ไทยถามว่าจะกินอะไร เขาคุยกันเป็นอังกฤษครับ ผมไปในฐานะล่ามสำรองของสำรอง คือจะมีคนเกาหลีที่พูดไทยได้อีกคนไปด้วย คนนี้จะเป็นคนแปลหลักส่วนผมก็คนแปลรองจากคนนี้อีกที พอเถ้าแก่ไทยถามอย่างนั้นเถ้าแก่เกาหลีจึงบอกว่าเขาอยากกิน "Duck tongue" แกชอบ มาคราวก่อนได้กินแล้วติดใจ
ประเด็นมันอยู่ตรงคำว่า "Duck tongue" นี่แหละครับ
คนไทยอย่างน้อยก็รุ่นผมและที่แก่กว่าผมขึ้นไปนี่เท่าที่ทราบส่วนใหญ่เรียนภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงอังกฤษ แล้วจึงมาผสมกับสำเนียงอเมริกาทีหลัง(สมัยผมเรียนประถมผมจำได้ว่าต้องเขียนคำว่า "สี" ว่า "Colour" ไม่ใช่ "Color" คำว่า"นักเรียน"ใช้คำว่า "pupil" เป็นต้น) แต่คนเกาหลีนั้นแต่ไหนแต่ไรมาเรียนภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงอเมริกาตามพวกหมอสอนศาสนาที่เข้ามาในช่วงเปลี่ยนแปลงประเทศ ดั้งนั้นคำว่า "Duck" ของพวกเราคนไทยบนโต๊ะอาหารคราวนั้นมันคือ "ดั๊ก" ไม่ใช่กึ่ง "ด๊อก"กึ่ง "ด๊ก" แต่หนักไปทาง "ด๊อก" ของเกาหลี ที่หนักหนาไปกว่านั้นอีกคือ "tongue" นี่พี่เถ้าแก่เกาหลีแกออกชัดถ้อยชัดคำและตรงกับเฮียๆชาวไทยว่า "ท๊อง" รวมกันมันเลยกลายเป็น "ด๊อกท๊อง" โอ้ว มายกู๊ดเนส อาหารอะไรของเขาเนี่ย "ด๊อกท๊อง" เฮียๆเจ๊ๆไทยก็พยามฟังและพยามหันหน้าถามกันว่ามันคืออะไร พี่เถ้าแก่เกาหลีก็ "ด๊อกท๊อง"ๆๆๆๆๆ เอาละสิ มันร่วงเต็มโต๊ะแล้วนะไอ้สุวรรณบุปผาเนี่ย หลังจากพยายามกันอยู่นานก็เลยหันไปบอกเกาหลีที่เป็นล่ามว่า "โอรี ฮยอ" ก็เลยถึงบางอ้อว่า อ๋อ มันคือลิ้นเป็ด
พี่น้องประชาชาติไทยเอ๋ย สำหรับผมแล้วลำพังไอ้ลิ้นเป็ดนี่มันก็พิศดารอยู่มากแล้ว โถ เป็ดหนึ่งตัวลิ้นหนึ่งลิ้น ลิ้นก็เท่าปลายเล็บ โถๆๆๆ ยังอุตส่าห์ไปดึงไปทึ้งมากิน โถๆๆจานนึงต้องใช้เป็ดกี่ตัวกันนี่ โถๆไมมันพิศดารเสียจริง แม๊ยังมาเจอด๊อกทองบนโต๊ะอาหารอีก อารมณ์วันนั้นมันบอกไม่ถูกมันทั้งขำทั้งเซ็งเป็ด
เล่าให้ฟังครับ
ที่โรงงานมีเถ้าแก่วัยหนุ่มจากเกาหลีมาเยี่ยมอยู่เนืองๆ เถ้าแก่คนนี้นัยว่าเรียนเอมบีเอจากอเมริกาดังนั้นจึงพูดอังกฤษได้ดี แต่เนื่องจากไม่ใช่เนถีบสะปี้กกลิ้งจึงยัง"คงลิช"(อังกษสำเนียงเกาหลีคล้ายๆกับไทยลิช)อยู่มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่โอกาส
เหตุการณ์มันมีอยู่ว่าเถ้าแก่ฝั่งไทยพาแกไปรับรองที่เหลาแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงย่านปากน้ำร้านนี้เถ้าแก่เกาหลีก็เคยมาแล้วเช่นกัน อาหารโปรดของแกคือลิ้นเป็ด ดังนั้นเมื่อเถ้าแก่ไทยถามว่าจะกินอะไร เขาคุยกันเป็นอังกฤษครับ ผมไปในฐานะล่ามสำรองของสำรอง คือจะมีคนเกาหลีที่พูดไทยได้อีกคนไปด้วย คนนี้จะเป็นคนแปลหลักส่วนผมก็คนแปลรองจากคนนี้อีกที พอเถ้าแก่ไทยถามอย่างนั้นเถ้าแก่เกาหลีจึงบอกว่าเขาอยากกิน "Duck tongue" แกชอบ มาคราวก่อนได้กินแล้วติดใจ
ประเด็นมันอยู่ตรงคำว่า "Duck tongue" นี่แหละครับ
คนไทยอย่างน้อยก็รุ่นผมและที่แก่กว่าผมขึ้นไปนี่เท่าที่ทราบส่วนใหญ่เรียนภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงอังกฤษ แล้วจึงมาผสมกับสำเนียงอเมริกาทีหลัง(สมัยผมเรียนประถมผมจำได้ว่าต้องเขียนคำว่า "สี" ว่า "Colour" ไม่ใช่ "Color" คำว่า"นักเรียน"ใช้คำว่า "pupil" เป็นต้น) แต่คนเกาหลีนั้นแต่ไหนแต่ไรมาเรียนภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงอเมริกาตามพวกหมอสอนศาสนาที่เข้ามาในช่วงเปลี่ยนแปลงประเทศ ดั้งนั้นคำว่า "Duck" ของพวกเราคนไทยบนโต๊ะอาหารคราวนั้นมันคือ "ดั๊ก" ไม่ใช่กึ่ง "ด๊อก"กึ่ง "ด๊ก" แต่หนักไปทาง "ด๊อก" ของเกาหลี ที่หนักหนาไปกว่านั้นอีกคือ "tongue" นี่พี่เถ้าแก่เกาหลีแกออกชัดถ้อยชัดคำและตรงกับเฮียๆชาวไทยว่า "ท๊อง" รวมกันมันเลยกลายเป็น "ด๊อกท๊อง" โอ้ว มายกู๊ดเนส อาหารอะไรของเขาเนี่ย "ด๊อกท๊อง" เฮียๆเจ๊ๆไทยก็พยามฟังและพยามหันหน้าถามกันว่ามันคืออะไร พี่เถ้าแก่เกาหลีก็ "ด๊อกท๊อง"ๆๆๆๆๆ เอาละสิ มันร่วงเต็มโต๊ะแล้วนะไอ้สุวรรณบุปผาเนี่ย หลังจากพยายามกันอยู่นานก็เลยหันไปบอกเกาหลีที่เป็นล่ามว่า "โอรี ฮยอ" ก็เลยถึงบางอ้อว่า อ๋อ มันคือลิ้นเป็ด
พี่น้องประชาชาติไทยเอ๋ย สำหรับผมแล้วลำพังไอ้ลิ้นเป็ดนี่มันก็พิศดารอยู่มากแล้ว โถ เป็ดหนึ่งตัวลิ้นหนึ่งลิ้น ลิ้นก็เท่าปลายเล็บ โถๆๆๆ ยังอุตส่าห์ไปดึงไปทึ้งมากิน โถๆๆจานนึงต้องใช้เป็ดกี่ตัวกันนี่ โถๆไมมันพิศดารเสียจริง แม๊ยังมาเจอด๊อกทองบนโต๊ะอาหารอีก อารมณ์วันนั้นมันบอกไม่ถูกมันทั้งขำทั้งเซ็งเป็ด
เล่าให้ฟังครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. พ.ค. 17, 2007 10:35 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
555+ ขำเรื่องพี่อันตน
ทุกวันนี้ที่เซงเป็ดบ่อย ๆ เพราะเหตุการณ์นี้นี่เอง
ทุกวันนี้ที่เซงเป็ดบ่อย ๆ เพราะเหตุการณ์นี้นี่เอง
