คืนนี้ผมนอนไม่หลับ ผมร้องไห้ออกมา ทั้งที่วันพรุ่งนี้ยังมีภาระเยอะแยะมากมาย ตีสองกว่าแล้วผมยังสับสน ผมเหงา ผมร้องไห้ ผมท้อแท้และเหนื่อยกับชีวิต ผมเหงา ไม่มีมีเพื่อนที่รู้สึกว่าเข้าใจเราจริงๆ เหตุการณ์รอบตัวบังคับให้ผมต้องเป็นอย่างนี้ รู้สึกอย่างนี้ ผมเคยหาหมอที่สวนปรุง เพื่อรับยาฟลูออกซิทีน แต่ยิ่งกินผมก็ยิ่งมึนงง ทำงานไม่ได้ ไม่กินผมก็เหมือนคนบ้า รู้สึกเหงา คิดวนเวียนแต่เรื่องเดิม ๆ
ผมเหงาครับ ผมอยากบอกใครสักคนให้รู้ ผมนั่งวนหาเว็บสักทีบนเน็ต ที่ผมจะบอก ผมอยากมีคนที่กอดผมให้ผมได้ร้องไห้ ไม่ทิ้งผมแม้ผมจะไม่มีอะไรให้ หลายครั้งผมเกลียดตัวเอง เหมือนตัวเองอยู่บนโลกนี้คนเดียว แก้ปัญหาคนเดียว ผมบอกพ่อกับแม่ก็ไม่ได้ มีแต่จะซ้ำเติมผม ผมเกลียดบ้าน ผมเกลียดพ่อกับแม่ตัวเอง พี่สาวก็ไม่เข้าใจผม ผมแค่อยากให้มีคนเข้าใจ ไม่ใช่ซ้ำเติม ที่ทำงานก็มีแต่พวกเห็นแก่ตัว บางครั้งผมอยากฆ่าพวกมัน แต่ก็ไม่กล้า แต่ทำให้ใจสงบก็ไม่ได้ ผมโกรธจนตัวสั่น แต่พวกมันก็ทำกับผมเหมือนผมไม่ใช่คน ผมจะบอกใครได้ที่บ้านไม่มีเลย เพื่อนผมก็ไม่มี มีแต่เข้ามาแล้วก็ผ่านไป ผมคุยไม่เก่ง ผมจะกังวลแต่เรื่องเดิมๆ เรื่องเงินไม่พอใช้ ผมตั้งใจทำงาน ตั้งใจทำทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เหมือนไม่มีอะไรที่สำเร็จเลยสักอย่าง มีแต่อุปสรรค ผมบอกตัวเองงว่าผมโง่
ร่างกายผมก็ไม่แข็งแรง ผมเบื่อตัวเอง อยากตายก็หลายที แต่ก็กลัวที่จะทำ อยากเอาปืนมายิงคนที่ทำให้ผมเจ็บใจ ผมอยากทำแต่แค่คิด มือผมก็สั่น ผมทำไม่ได้ แต่ก็ถอยไม่ได้ ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองจะเป็นบ้า บางวันมีสติ บางวันเหมือนคนอ่อนแอ บางทีก็นอนร้องไห้อย่างเดียว ทำไมคนเราต้องเกิดมา ทำไมผมต้องโกรธคนอื่น เราจะทำมาหากินไปเพื่ออะไร เราจะต้องเสแสร้งตีสองหน้าต่อกันไปอีกนานแค่ไหน ทำไมคนทำงานต้องเห็นแก่ตัวกันทุกคน
ผมอยากหาหมอแต่หมอไม่เคยช่วยอะไรเลย มองผมเป็นตัวประหลาดจะให้ยาผมแล้วก็ไล่ผมออกจากห้อง ผมอยากจะร้องไห้ในอ้อมกอดของใครสักคนที่เข้าใจ อยู่เป็ฯเพื่อนผม ผมไม่รู้จะไปโรงพยาบาลเพื่ออะไร พวกให้คำปรึกษาก็มองผมเหมือนผมไม่เป็นอะไร ผมก็ไม่รู้ว่าผมเป็นอะไร รู้แต่ว่าผมอยากร้องไห้ในทุกวัน ผมพูดได้พิมพ์ได้ คิดได้ไม่ใช่ว่าผมรู้สุกมีความสุขในชีวิต ผมเกลียดพวกมัน พวกทำงานนแล้วไม่เข้าใจคนอื่นผมแค่อยากบอกใครสักคน ใครก็ได้ที่ช่วยผมที หรือไม่ก็ใหผมเป็นบ้าไปเลยจะได้ไม่ต้องทนทรมานอย่างนี้ ผมอยากร้องไห้
หมดกำลังใจ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
มัทธิว 11:28 -30
บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนักจงมาหาเราและเราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข..
จงเอาแอกของเราแบกไว้แล้วเรียนจากเราเพราะว่าเราสุภาพและใจอ่อนน้อมและจิตใจท่านทั้งหลายจะได้พัก..
"ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะและภาระของเราก็เบา.."
ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ อย่าแบกโลกไว้ทั้งใบค่ะ
อะไรที่ทิ้ง ๆ ไปได้ก็ทิ้งๆ ไปซะ อย่าเก็บเอาความทุกข์ไว้กับตัวเลย
พระเจ้าอยู่เคียงข้างคุณตลอดเวลา
ลองหยุด เลิกคิดถึงสิ่งใด ๆ แล้วนั่งลง พูดกับพระเยซูเจ้า
เล่าให้พระองค์ฟังถึงความทุกข์ของคุณ หยิบพระคัมภีร์มาเปิดอ่าน
บางทีคุณอาจจะได้คำปลอบประโลมที่คุณโหยหามาตลอดจากในพระคัมภีร์ก็ได้
บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนักจงมาหาเราและเราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข..
จงเอาแอกของเราแบกไว้แล้วเรียนจากเราเพราะว่าเราสุภาพและใจอ่อนน้อมและจิตใจท่านทั้งหลายจะได้พัก..
"ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะและภาระของเราก็เบา.."
ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ อย่าแบกโลกไว้ทั้งใบค่ะ
อะไรที่ทิ้ง ๆ ไปได้ก็ทิ้งๆ ไปซะ อย่าเก็บเอาความทุกข์ไว้กับตัวเลย
พระเจ้าอยู่เคียงข้างคุณตลอดเวลา
ลองหยุด เลิกคิดถึงสิ่งใด ๆ แล้วนั่งลง พูดกับพระเยซูเจ้า
เล่าให้พระองค์ฟังถึงความทุกข์ของคุณ หยิบพระคัมภีร์มาเปิดอ่าน
บางทีคุณอาจจะได้คำปลอบประโลมที่คุณโหยหามาตลอดจากในพระคัมภีร์ก็ได้

-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
พระเจ้าข้า ขอประทานกำลังใจ และสุขภาพที่แข็งแรง ก็ พี่ alone ด้วยเทอญ .อาเมน
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
อย่าคิดมากเลยครับ พระองค์รักคุณนะครับ
บางครั้งท้อแท้ หมดกำลังใจ ลองคุยกับพระองค์ดูซิครับ พระองค์เป็นแพทย์ผู้ประเสริฐนะครับ
บางครั้งท้อแท้ หมดกำลังใจ ลองคุยกับพระองค์ดูซิครับ พระองค์เป็นแพทย์ผู้ประเสริฐนะครับ
"จงบากบั่นต่อไปจนบรรลุความรอดด้วยความกลัวจนตัวสั่น เพราะพระเจ้า คือผู้ทรงกระทำกิจภายในท่าน ให้ท่านตั้งใจและกระทำตามพระประสงค์อันดีของพระองค์" (ฟีลิปปี 2:12-13)
"ท่านไม่รู้หรือว่าในการแข่งขัน นักวิ่งทุกคนออกวิ่ง แต่มีเพียงคนเดียวที่ได้รับรางวัล? จงวิ่งไปอย่างนั้นเพื่อให้ได้รางวัลมา ผู้เข้าแข่งขันทุกคนผ่านการฝึกซ้อมอย่างเข้มงวด เขาทำทุกอย่างนั้นเพื่อมงกุฏอันไม่ยืนยงส่วนเราทำเพื่อมงกุฏอันยืนยงเป็นนิตย์ เหตุฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงมิได้วิ่งอย่างไม่มีจุดหมาย ข้าพเจ้ามิได้ต่อสู้เหมือนคนชกลม เปล่าเลยข้าพเจ้าฝึกฝนตนเองให้อยู่ในการควบคุม เพื่อว่าหลังจากที่ข้าพเจ้าได้ประกาศแก่คนอื่นแล้ว ข้าพเจ้าเองจะไม่ขาดคุณสมบัติที่จะได้รับรางวัล"(1 โครินธ์ 9:24-27)
"ท่านทั้งหลายเป็นแสงสว่างของโลก เมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขาจะซ่อนไว้มิได้ เช่นเดียวกัน ผู้คนจุดตะเกียงแล้ว ย่อมไม่เอาฝาครอบ แต่จะตั้งไว้บนเชิงตะเกียง ให้ส่องสว่างแก่ทุกคนในบ้าน ในทำนองเดียวกัน จงให้ความสว่างของท่านกระจ่างแจ้งต่อหน้าคนทั้งหลาย เพื่อให้เขาได้เห็นการดีของท่านและสรรเสริญพระบิดาของท่านผู้อยู่ในสวรรค์"(มัทธิว 5:14-16)
"เราอยู่นี่! เรายืนเคาะอยู่ที่ประตู ถ้าผู้ใดได้ยินเสียงของเราและเปิดประตู เราจะเข้าไปรับประทานอาหารกับผู้นั้น และเขาจะรับประทานร่วมกับเรา ผู้ใดมีชัยชนะ เราจะให้เขามีสิทธิ์นั่งกับเราบนบัลลังก์ของเรา เหมือนที่เราได้มีชัยชนะ และได้นั่งกับพระบิดาของเราบนบรรลังก์ของพระองค์"
"เพราะพระเจ้ามิได้ทรงให้เรามีใจขลาดอาย แต่ประทานใจอันเปี่ยมไปด้วยความเข้มแข็ง ความรัก และการรู้จักบังคับตนเองแก่เรา"(2 ทิโมธี 1:7)
สิริพึงมีแด่พระบิดา และพระบุร และพระจิต
ขอจงมีจิตใจที่เข้มแข็ง มองโลกในสายตาแห่งความรักเหมือนที่พระเจ้าทรงมองลูกแกะของพระองค์ ลองทำใจรักคนอื่นก่อนที่จะคาดหวังให้คนอื่นรักเรา
"ท่านไม่รู้หรือว่าในการแข่งขัน นักวิ่งทุกคนออกวิ่ง แต่มีเพียงคนเดียวที่ได้รับรางวัล? จงวิ่งไปอย่างนั้นเพื่อให้ได้รางวัลมา ผู้เข้าแข่งขันทุกคนผ่านการฝึกซ้อมอย่างเข้มงวด เขาทำทุกอย่างนั้นเพื่อมงกุฏอันไม่ยืนยงส่วนเราทำเพื่อมงกุฏอันยืนยงเป็นนิตย์ เหตุฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงมิได้วิ่งอย่างไม่มีจุดหมาย ข้าพเจ้ามิได้ต่อสู้เหมือนคนชกลม เปล่าเลยข้าพเจ้าฝึกฝนตนเองให้อยู่ในการควบคุม เพื่อว่าหลังจากที่ข้าพเจ้าได้ประกาศแก่คนอื่นแล้ว ข้าพเจ้าเองจะไม่ขาดคุณสมบัติที่จะได้รับรางวัล"(1 โครินธ์ 9:24-27)
"ท่านทั้งหลายเป็นแสงสว่างของโลก เมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขาจะซ่อนไว้มิได้ เช่นเดียวกัน ผู้คนจุดตะเกียงแล้ว ย่อมไม่เอาฝาครอบ แต่จะตั้งไว้บนเชิงตะเกียง ให้ส่องสว่างแก่ทุกคนในบ้าน ในทำนองเดียวกัน จงให้ความสว่างของท่านกระจ่างแจ้งต่อหน้าคนทั้งหลาย เพื่อให้เขาได้เห็นการดีของท่านและสรรเสริญพระบิดาของท่านผู้อยู่ในสวรรค์"(มัทธิว 5:14-16)
"เราอยู่นี่! เรายืนเคาะอยู่ที่ประตู ถ้าผู้ใดได้ยินเสียงของเราและเปิดประตู เราจะเข้าไปรับประทานอาหารกับผู้นั้น และเขาจะรับประทานร่วมกับเรา ผู้ใดมีชัยชนะ เราจะให้เขามีสิทธิ์นั่งกับเราบนบัลลังก์ของเรา เหมือนที่เราได้มีชัยชนะ และได้นั่งกับพระบิดาของเราบนบรรลังก์ของพระองค์"
"เพราะพระเจ้ามิได้ทรงให้เรามีใจขลาดอาย แต่ประทานใจอันเปี่ยมไปด้วยความเข้มแข็ง ความรัก และการรู้จักบังคับตนเองแก่เรา"(2 ทิโมธี 1:7)
สิริพึงมีแด่พระบิดา และพระบุร และพระจิต
ขอจงมีจิตใจที่เข้มแข็ง มองโลกในสายตาแห่งความรักเหมือนที่พระเจ้าทรงมองลูกแกะของพระองค์ ลองทำใจรักคนอื่นก่อนที่จะคาดหวังให้คนอื่นรักเรา
แก้ไขล่าสุดโดย 13PM. เมื่อ พฤหัสฯ. ก.ค. 05, 2007 1:22 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
พยามยามเข้าใจตัวเองและอดทนกับตัวเองนิดนึงนะคะ 
ทานยาหมอแล้วก็ต้องพยายามรักษาเองด้วยนิดนึง เหมือนโรคทางกายน่ะค่ะ ถ้าเรากินยาและออกกำลังด้วย เราจะดีขึ้น .... อันนี้เราก็ต้องพยายามนิดนึงเหมือนกัน สิ่งที่ช่วยได้มากคือการมีความสัมพันธ์กับผู้อื่น แต่ถ้าเราไม่ทักษะตรงนั้นเนี่ย ก็ต้องค่อยๆเริ่ม .... เริ่มจากตัวเองก่อนนะคะ เริ่มจากการเห็นคุณค่าตัวเอง เห็นว่า เราน่ารัก
.... ถึงเราไม่เห็น มีคนนึงที่เห็นตลอด นั่นก็คือ คนที่สร้างเรามา เป็นคนที่เรามองไม่เห็น แต่สัมผัสได้ ก็คือ พระเป็นเจ้า พระองค์รักเรา และเห็นว่า เราน่ารักเสมอ เรามีค่าเสมอสำหรับพระองค์ พระองค์อยากคุยกับเราเสมอ ไม่เคยต้องการปล่อยให้เราเหงา 
อยู่เชียงใหม่รึเปล่าคะ ลองไปคุยกับคุณพ่อที่วัดมั้ยคะ

ทานยาหมอแล้วก็ต้องพยายามรักษาเองด้วยนิดนึง เหมือนโรคทางกายน่ะค่ะ ถ้าเรากินยาและออกกำลังด้วย เราจะดีขึ้น .... อันนี้เราก็ต้องพยายามนิดนึงเหมือนกัน สิ่งที่ช่วยได้มากคือการมีความสัมพันธ์กับผู้อื่น แต่ถ้าเราไม่ทักษะตรงนั้นเนี่ย ก็ต้องค่อยๆเริ่ม .... เริ่มจากตัวเองก่อนนะคะ เริ่มจากการเห็นคุณค่าตัวเอง เห็นว่า เราน่ารัก


อยู่เชียงใหม่รึเปล่าคะ ลองไปคุยกับคุณพ่อที่วัดมั้ยคะ
