เจ็บแค้นคือโกรธ โทษทันความโกรธคือ ความเจ็ยบปวดที่เราต้องรับเองอย่างแสนสาหัส
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
สดุดี บทที่ 37
1อย่าให้เจ้าเดือดร้อนเพราะเหตุคนที่กระทำชั่ว อย่าอิจฉาคนที่ประพฤติผิด
2เพราะไม่ช้าเขาจะเหี่ยวไปเหมือนหญ้า และแห้งไปเหมือนพืชสด
3จงวางใจในพระเจ้า และกระทำความดี ท่านจึงอาศัยอยู่ในแผ่นดินและชื่นบานอยู่กับความปลอดภัย
4จงปีติยินดีในพระเจ้า และพระองค์จะประทานตามใจปรารถนาของท่าน
5จงมอบทางของท่านไว้กับพระเจ้า วางใจในพระองค์ และพระองค์จะทรงกระทำให้สำเร็จ
6พระองค์จะทรงให้ความยุติธรรมแก่ ท่านกระจ่างอย่างความสว่าง และให้สิทธิของท่านแจ้งอย่างเที่ยงวัน
7จงสงบอยู่ต่อพระเจ้า และเพียรรอคอยพระองค์อยู่ อย่าให้ใจของท่านเดือดร้อนเพราะเหตุ ผู้ที่เจริญตามทางของเขา
หรือเพราะเหตุผู้ที่กระทำตามอุบายชั่ว
8จงระงับความโกรธ และทิ้งความพิโรธ อย่าให้ใจของท่านเดือดร้อน มีแต่จะชั่วไป
9เพราะคนที่กระทำชั่วจะถูกตัดออกไป แต่บรรดาผู้ที่รอคอยพระเจ้าจะได้ แผ่นดินตกไปเป็นมรดก
10ยังอีกหน่อยหนึ่ง คนอธรรมจะไม่มีอีก แม้จะมองดูที่ที่ของเขาให้ดีเขาก็ไม่ได้อยู่ที่นั่น
11แต่คนใจอ่อนสุภาพจะได้แผ่นดินตกไปเป็น มรดก และตัวเขาปีติยินดีในความเจริญอุดมสมบูรณ์
12คนอธรรมปองร้ายคนชอบธรรม และขบเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่เขา
13แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระสรวลต่อคนอธรรม
เพราะพระองค์ทอดพระเนตรเห็นวันเวลาของเขากำลังมา
14คนอธรรมชักดาบและโก่งคันธนู เพื่อเอาคนจนและคนขัดสนลง เพื่อสังหารคนที่เดินอย่างเที่ยงธรรม
15ดาบของเขาจะเข้าไปในใจของเขาเอง และคันธนูของเขาจะหัก
16เล็กๆน้อยๆที่คนชอบธรรมมี ก็ดีกว่า ความอุดมสมบูรณ์ของคนอธรรมเป็นอันมาก
17เพราะแขนของคนอธรรมจะหัก แต่พระเจ้าทรงเชิดชูคนชอบธรรม
18พระเจ้าทรงทราบวันเวลาของคนไร้ตำหนิ และมรดกของเขาจะดำรงอยู่เป็นนิตย์
19เขาจะไม่ได้อายในยามชั่วร้าย ในวันกันดารเขาจะมีอุดมสมบูรณ์
20แต่คนอธรรมจะพินาศ ศัตรูของพระเจ้า เหมือนสง่าของทุ่งหญ้า เขาอันตรธานไป อันตรธานไปเหมือนควัน
21คนอธรรมขอยืม และไม่จ่ายคืน แต่คนชอบธรรมนั้นใจกว้างขวางและแจกจ่าย
22เพราะบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงอำนวยพระพร จะได้แผ่นดินตกไปเป็นมรดก แต่บรรดาผู้ที่ถูกพระองค์สาป จะต้องถูกตัดออกไปเสีย
23ถ้าพระเจ้าทรงนำย่างเท้าของมนุษย์คนใด และคนนั้นพอใจในมรรคาของพระองค์
24แม้เขาล้ม เขาจะไม่ถูกเหวี่ยงลงเหยียดยาว เพราะว่าพระหัตถ์พระเจ้าพยุงเขาไว้
25ข้าพเจ้าเคยหนุ่ม และเดี๋ยวนี้แก่แล้ว แต่ข้าพเจ้ายังไม่เคยเห็นคนชอบธรรมถูกทอดทิ้ง หรือลูกหลานของเขาขอทาน
26เขาแจกจ่ายอย่างกว้างขวางและให้ยืมเสมอ และลูกหลานของเขาก็เป็นคำพร
27จงพรากเสียจากการชั่ว และกระทำความดี และท่านจะดำรงอยู่เป็นนิตย์
28เพราะพระเจ้าทรงรักความยุติธรรม พระองค์จะไม่ทอดทิ้งธรรมิกชนของพระองค์
จะทรงสงวนคนเหล่านั้นไว้เป็นนิตย์ แต่ลูกหลานของคนอธรรมจะถูกตัดออกไปเสีย
29คนชอบธรรมจะได้แผ่นดินตกไปเป็นมรดก และอาศัยอยู่บนนั้นเป็นนิตย์
30ปากของคนชอบธรรมเปล่งสติปัญญา และลิ้นของเขาพูดความยุติธรรม
31พระธรรมของพระเจ้าอยู่ในจิตใจของเขา และย่างเท้าของเขาจะไม่พลาด
32คนอธรรมเฝ้าดูคนชอบธรรม และแสวงที่จะสังหารเขาเสีย
33พระเจ้าจะไม่ทรงทิ้งเขาไว้ในมือของเขา หรือให้เขาถูกปรับโทษเมื่อเขาขึ้นศาล
34จงรอคอยพระเจ้า และรักษาทางของพระองค์ไว้ และพระองค์จะยกย่องท่านให้ได้แผ่นดินตกไปเป็นมรดก
ท่านจะมองเห็นการที่คนอธรรมถูกทำลาย
35ข้าพเจ้าเห็นคนอธรรมมีอำนาจมากยิ่ง และสูงเด่นอย่างต้นสนสีดาร์แห่งเลบานอน
36เขาได้ผ่านไป และนี่แน่ะ ไม่มีเขาเสียแล้ว ถึงข้าพเจ้าจะแสวงหาเขา ก็ไม่พบเขา
37จงหมายคนไร้ตำหนิไว้ และมองดูคนเที่ยงธรรม เพราะสันติชนจะมีอนาคต
38แต่ผู้ละเมิดจะถูกทำลายเสียด้วยกัน อนาคตของคนอธรรมจะถูกตัดออกไปเสีย
39ความรอดของคนชอบธรรมมาจากพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยของเขาในเวลายากลำบาก
40พระเจ้าทรงช่วยเขาและทรงช่วยกู้เขา พระองค์ทรงช่วยกู้เขาจากคนอธรรมและทรงช่วยเขาให้รอด
เพราะเขาทั้งหลายเข้าลี้ภัยในพระองค์
1อย่าให้เจ้าเดือดร้อนเพราะเหตุคนที่กระทำชั่ว อย่าอิจฉาคนที่ประพฤติผิด
2เพราะไม่ช้าเขาจะเหี่ยวไปเหมือนหญ้า และแห้งไปเหมือนพืชสด
3จงวางใจในพระเจ้า และกระทำความดี ท่านจึงอาศัยอยู่ในแผ่นดินและชื่นบานอยู่กับความปลอดภัย
4จงปีติยินดีในพระเจ้า และพระองค์จะประทานตามใจปรารถนาของท่าน
5จงมอบทางของท่านไว้กับพระเจ้า วางใจในพระองค์ และพระองค์จะทรงกระทำให้สำเร็จ
6พระองค์จะทรงให้ความยุติธรรมแก่ ท่านกระจ่างอย่างความสว่าง และให้สิทธิของท่านแจ้งอย่างเที่ยงวัน
7จงสงบอยู่ต่อพระเจ้า และเพียรรอคอยพระองค์อยู่ อย่าให้ใจของท่านเดือดร้อนเพราะเหตุ ผู้ที่เจริญตามทางของเขา
หรือเพราะเหตุผู้ที่กระทำตามอุบายชั่ว
8จงระงับความโกรธ และทิ้งความพิโรธ อย่าให้ใจของท่านเดือดร้อน มีแต่จะชั่วไป
9เพราะคนที่กระทำชั่วจะถูกตัดออกไป แต่บรรดาผู้ที่รอคอยพระเจ้าจะได้ แผ่นดินตกไปเป็นมรดก
10ยังอีกหน่อยหนึ่ง คนอธรรมจะไม่มีอีก แม้จะมองดูที่ที่ของเขาให้ดีเขาก็ไม่ได้อยู่ที่นั่น
11แต่คนใจอ่อนสุภาพจะได้แผ่นดินตกไปเป็น มรดก และตัวเขาปีติยินดีในความเจริญอุดมสมบูรณ์
12คนอธรรมปองร้ายคนชอบธรรม และขบเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่เขา
13แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระสรวลต่อคนอธรรม
เพราะพระองค์ทอดพระเนตรเห็นวันเวลาของเขากำลังมา
14คนอธรรมชักดาบและโก่งคันธนู เพื่อเอาคนจนและคนขัดสนลง เพื่อสังหารคนที่เดินอย่างเที่ยงธรรม
15ดาบของเขาจะเข้าไปในใจของเขาเอง และคันธนูของเขาจะหัก
16เล็กๆน้อยๆที่คนชอบธรรมมี ก็ดีกว่า ความอุดมสมบูรณ์ของคนอธรรมเป็นอันมาก
17เพราะแขนของคนอธรรมจะหัก แต่พระเจ้าทรงเชิดชูคนชอบธรรม
18พระเจ้าทรงทราบวันเวลาของคนไร้ตำหนิ และมรดกของเขาจะดำรงอยู่เป็นนิตย์
19เขาจะไม่ได้อายในยามชั่วร้าย ในวันกันดารเขาจะมีอุดมสมบูรณ์
20แต่คนอธรรมจะพินาศ ศัตรูของพระเจ้า เหมือนสง่าของทุ่งหญ้า เขาอันตรธานไป อันตรธานไปเหมือนควัน
21คนอธรรมขอยืม และไม่จ่ายคืน แต่คนชอบธรรมนั้นใจกว้างขวางและแจกจ่าย
22เพราะบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงอำนวยพระพร จะได้แผ่นดินตกไปเป็นมรดก แต่บรรดาผู้ที่ถูกพระองค์สาป จะต้องถูกตัดออกไปเสีย
23ถ้าพระเจ้าทรงนำย่างเท้าของมนุษย์คนใด และคนนั้นพอใจในมรรคาของพระองค์
24แม้เขาล้ม เขาจะไม่ถูกเหวี่ยงลงเหยียดยาว เพราะว่าพระหัตถ์พระเจ้าพยุงเขาไว้
25ข้าพเจ้าเคยหนุ่ม และเดี๋ยวนี้แก่แล้ว แต่ข้าพเจ้ายังไม่เคยเห็นคนชอบธรรมถูกทอดทิ้ง หรือลูกหลานของเขาขอทาน
26เขาแจกจ่ายอย่างกว้างขวางและให้ยืมเสมอ และลูกหลานของเขาก็เป็นคำพร
27จงพรากเสียจากการชั่ว และกระทำความดี และท่านจะดำรงอยู่เป็นนิตย์
28เพราะพระเจ้าทรงรักความยุติธรรม พระองค์จะไม่ทอดทิ้งธรรมิกชนของพระองค์
จะทรงสงวนคนเหล่านั้นไว้เป็นนิตย์ แต่ลูกหลานของคนอธรรมจะถูกตัดออกไปเสีย
29คนชอบธรรมจะได้แผ่นดินตกไปเป็นมรดก และอาศัยอยู่บนนั้นเป็นนิตย์
30ปากของคนชอบธรรมเปล่งสติปัญญา และลิ้นของเขาพูดความยุติธรรม
31พระธรรมของพระเจ้าอยู่ในจิตใจของเขา และย่างเท้าของเขาจะไม่พลาด
32คนอธรรมเฝ้าดูคนชอบธรรม และแสวงที่จะสังหารเขาเสีย
33พระเจ้าจะไม่ทรงทิ้งเขาไว้ในมือของเขา หรือให้เขาถูกปรับโทษเมื่อเขาขึ้นศาล
34จงรอคอยพระเจ้า และรักษาทางของพระองค์ไว้ และพระองค์จะยกย่องท่านให้ได้แผ่นดินตกไปเป็นมรดก
ท่านจะมองเห็นการที่คนอธรรมถูกทำลาย
35ข้าพเจ้าเห็นคนอธรรมมีอำนาจมากยิ่ง และสูงเด่นอย่างต้นสนสีดาร์แห่งเลบานอน
36เขาได้ผ่านไป และนี่แน่ะ ไม่มีเขาเสียแล้ว ถึงข้าพเจ้าจะแสวงหาเขา ก็ไม่พบเขา
37จงหมายคนไร้ตำหนิไว้ และมองดูคนเที่ยงธรรม เพราะสันติชนจะมีอนาคต
38แต่ผู้ละเมิดจะถูกทำลายเสียด้วยกัน อนาคตของคนอธรรมจะถูกตัดออกไปเสีย
39ความรอดของคนชอบธรรมมาจากพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยของเขาในเวลายากลำบาก
40พระเจ้าทรงช่วยเขาและทรงช่วยกู้เขา พระองค์ทรงช่วยกู้เขาจากคนอธรรมและทรงช่วยเขาให้รอด
เพราะเขาทั้งหลายเข้าลี้ภัยในพระองค์
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
นั่นสิครับ เราต้องให้อภัยเค้านะครับ ยกถวายพระ สวดให้เค้า นั่นแหละครับ สิ่งที่พระองค์ทรงอยากให้เราทำ 

ใจเย็นๆค่า ให้อภัยเค้าไปเถอะค่ะ อย่าคิดอะไรมากเลย
พี่อ่านๆดูแล้ว
คิดว่า ความโกรธนี้ เกิดมาจากความน้อยเนื้อต่ำใจที่เราโดนดูถูก มีไม่เท่าคนอื่น หรือถูกมองว่า ด้อยค่า ไม่มีคนสนใจ ใส่ใจในยามทุกข์ร้อน ... ไม่มีความสำคัญรึเปล่าคะ
ถ้าว่างวันเสาร์ อยากให้ลองไปเรียนเรื่องนี้ดูนะคะ
http://ccbkk.catholic.or.th/prcomsorn/ccn22.html
ค่าลงทะเบียน ไม่สำคัญ ถ้าอยากเรียน ขอให้บอก รึว่า ถ้าอยากคุยกับคุณพ่อศิริชัยก็ขอให้บอก
ความโกรธที่แรง และกลายเป็นความแค้น ส่วนมากมาจากการที่คนรู้สึกว่า ตัวเองถูกลดศักดิ์ศรีความเป็นคน (Human Dignity) คำสอนเรื่อง human dignity นี้ คาทอลิกค่อนข้างเน้นนะคะ (เพราะพระเยซูเจ้ามาในโลกนี้ เพื่อกู้ศักดิ์ศรีเรากลับมา ... เพื่อยกผู้ที่ถูกกดขี่ให้สูงขึ้น ... ) และเราก็เน้นเรื่องความสุภาพถ่อมตน เพื่อที่เราจะได้ทนรับได้ ในยามที่เราถูกลดศักดิ์ศรี .... เหมือนที่พระเยซูเจ้ายอมรับได้เวลาที่ทหารถ่มน้ำลายลดหน้าพระองค์ .... (ไม่โกรธ ไม่แค้น และยังสามารถรักคนที่เค้าทำกับเราได้ ไม่ใช่แค่อภัย ไม่ใช่แค่ลืม แต่"รัก" รักโดยไม่ถือโทษโกรธที่เค้าทำกับเรา อันนี้ไม่ใช่ง่ายๆนะคะ ต้องอาศัยการฝึกฝน การสวดภาวนา แต่คนที่สามารถทำได้ง่ายๆ ถือเป็นพระพร ต้องขอบคุณพระ พี่ว่า อันนี้เป็นพระพรพิเศษมากๆเลยล่ะ
)
พระองค์มาเพื่อยกเราขึ้นมา แต่พระองค์ก็ท้าทายเราอีกด้วยการ ให้เรารับใช้ผู้อื่น คริสตชน คือผู้รับใช้ เหมือนที่พระเยซูเจ้ารับใช้เรา ไม่ใช่ยกเพื่อให้เราเหนือกว่าคนอื่น แต่ยกขึ้นมาเพื่อให้เราต่ำกว่าคนอื่น
(งงมั้ยคะ
)
คิดว่า ความโกรธนี้ เกิดมาจากความน้อยเนื้อต่ำใจที่เราโดนดูถูก มีไม่เท่าคนอื่น หรือถูกมองว่า ด้อยค่า ไม่มีคนสนใจ ใส่ใจในยามทุกข์ร้อน ... ไม่มีความสำคัญรึเปล่าคะ
ถ้าว่างวันเสาร์ อยากให้ลองไปเรียนเรื่องนี้ดูนะคะ
http://ccbkk.catholic.or.th/prcomsorn/ccn22.html
ค่าลงทะเบียน ไม่สำคัญ ถ้าอยากเรียน ขอให้บอก รึว่า ถ้าอยากคุยกับคุณพ่อศิริชัยก็ขอให้บอก
ความโกรธที่แรง และกลายเป็นความแค้น ส่วนมากมาจากการที่คนรู้สึกว่า ตัวเองถูกลดศักดิ์ศรีความเป็นคน (Human Dignity) คำสอนเรื่อง human dignity นี้ คาทอลิกค่อนข้างเน้นนะคะ (เพราะพระเยซูเจ้ามาในโลกนี้ เพื่อกู้ศักดิ์ศรีเรากลับมา ... เพื่อยกผู้ที่ถูกกดขี่ให้สูงขึ้น ... ) และเราก็เน้นเรื่องความสุภาพถ่อมตน เพื่อที่เราจะได้ทนรับได้ ในยามที่เราถูกลดศักดิ์ศรี .... เหมือนที่พระเยซูเจ้ายอมรับได้เวลาที่ทหารถ่มน้ำลายลดหน้าพระองค์ .... (ไม่โกรธ ไม่แค้น และยังสามารถรักคนที่เค้าทำกับเราได้ ไม่ใช่แค่อภัย ไม่ใช่แค่ลืม แต่"รัก" รักโดยไม่ถือโทษโกรธที่เค้าทำกับเรา อันนี้ไม่ใช่ง่ายๆนะคะ ต้องอาศัยการฝึกฝน การสวดภาวนา แต่คนที่สามารถทำได้ง่ายๆ ถือเป็นพระพร ต้องขอบคุณพระ พี่ว่า อันนี้เป็นพระพรพิเศษมากๆเลยล่ะ

พระองค์มาเพื่อยกเราขึ้นมา แต่พระองค์ก็ท้าทายเราอีกด้วยการ ให้เรารับใช้ผู้อื่น คริสตชน คือผู้รับใช้ เหมือนที่พระเยซูเจ้ารับใช้เรา ไม่ใช่ยกเพื่อให้เราเหนือกว่าคนอื่น แต่ยกขึ้นมาเพื่อให้เราต่ำกว่าคนอื่น


แก้ไขล่าสุดโดย Buddy เมื่อ ศุกร์ ส.ค. 03, 2007 12:41 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
โมโหโกรธากริ้ว ผู้ใด รับเล่า?
ผู้คิดอยู่ในใจ นั่นแล
ท่านโกรธเกลียดผู้ใด จู่งได้ ปล่อยวาง
ก่อนไปหาพระแน่ ต้องให้ อภัย
พระคริสต์ต้องทัณฑ์ด้วย บาปเจ้า
ท่านนั้นเคยโทษเรา ก็ไม่
ซ้ำขอพระเป็นเจ้า ยกบาป เรานา
ลูกแกะพระยิ่งใหญ่ ไหนเล่า เท่าเทียม
จึ่งขอท่านจึ่งได้ พิจารณ์
ข้านั่นใช่อาจารย์ ท่านไม่
จู่งดูบทไหว้วาน พระคริสต์ เจ้านา
วางโทษผู้อื่นไว้ พระละ โทษท่าน
ผู้คิดอยู่ในใจ นั่นแล
ท่านโกรธเกลียดผู้ใด จู่งได้ ปล่อยวาง
ก่อนไปหาพระแน่ ต้องให้ อภัย
พระคริสต์ต้องทัณฑ์ด้วย บาปเจ้า
ท่านนั้นเคยโทษเรา ก็ไม่
ซ้ำขอพระเป็นเจ้า ยกบาป เรานา
ลูกแกะพระยิ่งใหญ่ ไหนเล่า เท่าเทียม
จึ่งขอท่านจึ่งได้ พิจารณ์
ข้านั่นใช่อาจารย์ ท่านไม่
จู่งดูบทไหว้วาน พระคริสต์ เจ้านา
วางโทษผู้อื่นไว้ พระละ โทษท่าน
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ตาม ที่พี่บัดดี้ ตอบครับ คนที่รับผิดชอบ ตายแทนความผิดบาป ของทุกคน คือ องค์ พระเยซูคริสต์ ฮะ :cheesy:songyos เขียน: แล้วที่มันทำละใครจะรับผิดชอบ มันหนักไปนะ3ปี
ความจริงที่คุณพี่ทรงยศ ต้องตระหนัก ถึงชีวิต คริสตชน ของเราแต่ล่ะคน (คุณด้วย ) คือ "ผู้ที่อยู่ในพระคริสต์ คือผู้ที่ถูกสร้างใหม่ แล้วสิ่งสารพัดเก่าๆ
ก็ล่วงไป และกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งสิ้น "
ตั้งแต่วันที่คุณตั้ง กระทู้แรกจนบัดนี้เวลาผ่านไป เป็นสิบๆ วันแล้ว ไม่ทราบว่า คุณได้ทำอะไรกับฝ่ายจิตวิญญาณบ้าง
ได้ไป วัดคาทอลิก ตามที่ ถามไหม ได้นั่งไตร่ตรอง/รำพึง อธิษฐาน พึ่งพาพระองค์ไหม ได้ทูลวิงวอนต่อพระเจ้าไหม
พระองค์ทรงสัญญาไว้ในหนังสือ เยเรมีย์ ว่า "ถ้าร้องวิงวอน ทูลขอ ต่อพระองค์อย่างสุดใจ พระเจ้าจะทรงตอบ"

ในหนังสือสดุดี ทรงสัญญาว่า "ไม่ทรงดูถูก จิตใจที่ฟกช้ำ " หนังสือ อิสยาห์ ทรงบอกว่า "จะเชิดชู และเป็นกำลังให้" เป็นต้น
เราโกรธ เราโมโห เราก็รู้สึกไม่สบายใจเอง รู้สึกอึดอัดเอง รู้สึกเป็นฟืนเป็นไฟเอง รู้สึกทรมานเอง
คนที่ทำเราโกรธ เค้าไม่ได้รู้สึกไม่สบายใจด้วย ไม่รู้สึกอึดอัดด้วย ไม่รู้สึกเป็นฟืนเป็นไฟด้วย และไม่รู้สึกทรมานไปกับเราด้วยนะครับ
เมื่อโกรธใคร ให้พยายามระงับความโกรธให้ทุเลาลง และให้อภัยเค้าครับ เพราะโกรธไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาครับ
ยกโทษให้เขา เพื่อเห็นแก่องค์พระเยซูเจ้า ที่ยังทรงยกโทษให้เราทุกๆครั้งที่เราทำผิด
ในเมื่อเรายังทำผิดได้ แล้วทำไมเค้าจะทำผิดบ้างไม่ได้ครับ
ทำให้ได้นะครับ แล้วใจเราจะสงบ และไม่ค่อยโกรธคนครับ
คนที่ทำเราโกรธ เค้าไม่ได้รู้สึกไม่สบายใจด้วย ไม่รู้สึกอึดอัดด้วย ไม่รู้สึกเป็นฟืนเป็นไฟด้วย และไม่รู้สึกทรมานไปกับเราด้วยนะครับ
เมื่อโกรธใคร ให้พยายามระงับความโกรธให้ทุเลาลง และให้อภัยเค้าครับ เพราะโกรธไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาครับ
ยกโทษให้เขา เพื่อเห็นแก่องค์พระเยซูเจ้า ที่ยังทรงยกโทษให้เราทุกๆครั้งที่เราทำผิด
ในเมื่อเรายังทำผิดได้ แล้วทำไมเค้าจะทำผิดบ้างไม่ได้ครับ
ทำให้ได้นะครับ แล้วใจเราจะสงบ และไม่ค่อยโกรธคนครับ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
จากหัวข้อนะครับ Re: เจ็บแค้นคือโกรธ โทษทันความโกรธคือ ความเจ็บปวดที่เราต้องรับเองอย่างแสนสาหัส
รู้ว่าจะทำร้ายตัวเอง แล้วจะทำทำไมอ่ะครับ
รู้ว่าจะทำร้ายตัวเอง แล้วจะทำทำไมอ่ะครับ

-
- โพสต์: 548
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 07, 2007 8:07 pm
ผมก็เกลียดคนกลุ่มหนึ่งเหมือนกันครับ
ทำอะไรไม่ได้ด้วย

ทำอะไรไม่ได้ด้วย

-
- โพสต์: 548
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 07, 2007 8:07 pm
ผมไม่ใช่คุณผมก็เลยไม่รู้หรอกว่าความโกรธคุณมีกี่กระสอบ
ที่แน่ๆพระเจ้าทรงรู้ตัวคุณดีกว่าตัวคุณอีก
กลอนสุภาษิตคำกลอนโลกนิติ
ถ้าเกลียดคูถคูถตามเกลียดความปะ ถ้ามักความความปะทะถึงฉิบหาย
ถ้ามักไข้ไข้หนักขี้มักตาย เป็นชาติชาย(หญิงก็ได้)หมิ่นชายจะอายคน
.
.
.
หนึ่งลมแดงหรือจะแรงเท่าลมปาก เชื่อคำยากอย่านิยมว่าคมสัน
แต่ผีหลอกช่างผีตามทีมัน คนเหมือนกันหลอกกันเองน่าเกรงนัก
ที่แน่ๆพระเจ้าทรงรู้ตัวคุณดีกว่าตัวคุณอีก
กลอนสุภาษิตคำกลอนโลกนิติ
ถ้าเกลียดคูถคูถตามเกลียดความปะ ถ้ามักความความปะทะถึงฉิบหาย
ถ้ามักไข้ไข้หนักขี้มักตาย เป็นชาติชาย(หญิงก็ได้)หมิ่นชายจะอายคน
.
.
.
หนึ่งลมแดงหรือจะแรงเท่าลมปาก เชื่อคำยากอย่านิยมว่าคมสัน
แต่ผีหลอกช่างผีตามทีมัน คนเหมือนกันหลอกกันเองน่าเกรงนัก
แก้ไขล่าสุดโดย holy holy holy เมื่อ เสาร์ ส.ค. 04, 2007 5:31 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ไม่ต้องโกรธหรอกครับ เป็นของธรรมดาที่เราจะต้องเจอสิ่งที่ทำให้เราเคืองใจบ้าง
ต่อให้เป็นคนที่มีกระแสเรียก เพราะว่าเค้าเป็นมนุษย์เหมือนกันกับเรา ที่ต้องมีอารมณ์นะครับ
ปล่อยให้พระเป็นคนตัดสินครับ อย่าไปทำอะไรเค้าเลย สวดภาวนามาก ๆ นะครับ เราไม่มีหน้าที่นั้นซักหน่อย
เจ็บใจ เจ็บแค้น มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่ถ้าเรามีชีวิตที่มีพระอยู่กับเรา เราก็คงไม่โต้ตอบเค้า หรือหาเรื่องจับผิดเค้าหรอกครับ คนแบบนี้ จะตายเพราะภัยตัวเอง
อยู่ที่ตัวเราว่า เราจะจัดการตัวเรายังไงดีกว่านะ เชื่อผมดิ
ต่อให้เป็นคนที่มีกระแสเรียก เพราะว่าเค้าเป็นมนุษย์เหมือนกันกับเรา ที่ต้องมีอารมณ์นะครับ
ปล่อยให้พระเป็นคนตัดสินครับ อย่าไปทำอะไรเค้าเลย สวดภาวนามาก ๆ นะครับ เราไม่มีหน้าที่นั้นซักหน่อย
เจ็บใจ เจ็บแค้น มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่ถ้าเรามีชีวิตที่มีพระอยู่กับเรา เราก็คงไม่โต้ตอบเค้า หรือหาเรื่องจับผิดเค้าหรอกครับ คนแบบนี้ จะตายเพราะภัยตัวเอง
อยู่ที่ตัวเราว่า เราจะจัดการตัวเรายังไงดีกว่านะ เชื่อผมดิ

แก้ไขล่าสุดโดย Batholomew เมื่อ เสาร์ ส.ค. 04, 2007 1:59 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ตอนนี้ทุกคนพยายามช่วยเต็มที่ตามความสามารถของแต่ละคนนะคะsongyos เขียน: มันเจ็บบนะ
เราทนมานาน เพราะพระเจ้าสอนให้เรา อดทนต่อความยากลำบาก
ผมทนมาเยอาะแล้ว
ทุกวันนี้ปมไม่ได้ไปโบสถ์/วัด
ผมขอพักใจ
มันเจ็บมากกกกกก
ขนาดพระเจ้าผมภาวนาหายแล้ว
มันก็กลับมา
เมื่อเจอคนคนั้น
ถึงขนาดผมต้องกรีดข้อมืออะ
เหมือนอะไรรู้มั้ย เหมือนคนติดอยู่ในถ้ำมืดๆ หลุมมืดๆ และก็ร้องให้คนช่วย และคนที่อยู่ข้างนอกก็พยายามตะโกนบอกทา่งออกให้ แต่บอกเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง
ถามนิดได้มั้ยคะ อยากจะหลุดจากตรงนี้มั้ยคะ อยากหายโกรธมั้ย อยากหายเจ็บมั้ย
มันยากนะคะ ไม่ใช่ง่ายๆที่จะออกมาจากความเจ็บแค้น สิ่งสำคัญคือตัวเอง พระเป็นเจ้าช่วยเต็มที่ เพื่อนๆช่วยเต็มที่ แต่ส่งอะไรให้ก็ไม่เอา โยนเชือกลงไปให้ก็สะบัดหนี ดิ้นพราดๆ โยนกิ่งไม้ไปให้ แทนที่จะพยายามเกาะขึ้นมาอย่างมีสติ ก็ดันพยายามดึงเอาคนที่ยื่นกิ่งให้ตกลงไปในหลุมด้วย
ทุกคนสวดให้ พระพรของพระมาจ่อรออยู่ เหลือแค่เปิดใจรับแค่นั้น ไม่ใช่ดิ้นพราดๆแบบนี้ ขังตัวเอง อยู่กับตัวเอง หาทางออกไม่ได้
รู้มั้ย ลักษณะวิญญาณแบบนี้ คือวิญญาณในนรก เป็นวิญญาณที่ขังอยู่กับตัวเอง อยู่กับตัวเอง หาทางออกไม่ได้ ..... ทุกคนมีความเจ็บปวดทั้งนั้น แต่เค้าอยู่กันได้ เพราะเค้ายอมรับ ไม่ใช่อดทนอย่างไร้สติ แต่ยอมรับอย่างเข้าใจ และให้อภัย
ถ้าไม่เปิดใจนะคะ กรีดข้อมือจนตายก็ไม่มีใครช่วยได้นะ ::009::
แก้ไขล่าสุดโดย Buddy เมื่อ เสาร์ ส.ค. 04, 2007 6:57 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
การแสดงออกมันมีพื้นฐานมาจากความเชื่อนะ
แต่อย่าทำรายตัวเองเลย เพราะนอกจากเราเจ็บ พระวิญญาณบริสุทธิ์ในตัวเราเค้าเจ็บกว่า
อย่าทำให้การไถ่บาปของพระเยซุเจ้าต้องเสียเปล่าในชีวิตคุณจิ
แต่อย่าทำรายตัวเองเลย เพราะนอกจากเราเจ็บ พระวิญญาณบริสุทธิ์ในตัวเราเค้าเจ็บกว่า
อย่าทำให้การไถ่บาปของพระเยซุเจ้าต้องเสียเปล่าในชีวิตคุณจิ
จริงด้วย พระเจ้าไม่ได้สร้างข้อมือมาให้เรากรีดซะหน่อย
ไหนๆก็ออกมาจากความหวังได้เเล้ว ก็น่าจะปล่อยวางไปดีกว่าค่ะ ถ้าเป็นเเบบนี้ เดี๋ยวจะบอกผลกระทบให้
- ถ้าใจยังมีความโกรธเเค้นอยู่ เราจะไม่สามารถสัมผัสถึงความรักของพระเป็นเจ้าได้
- ถ้าเรายังไม่อภัยคนที่ทำผิดต่อเรา พอถึงเวลาที่เราทำผิดบ้าง พระเจ้าจะให้อภัยเราหรือ?
- โบสถ์ความหวัง ยังอยู่ต่อไป เเต่คนที่ลำบากใจ ก็คือตัวของเราเอง
เมื่อเรียนคำสอน(พระศาสนจักรคาทอลิก) จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับการเริ่มชีวิตใหม่เสมอๆ
สิ่งใดที่เราเคยเป็นในอดีต เราควรเปลี่ยนซะ เพื่อที่จะได้เหมาะสมกับการเป็นคริสตชนที่ดี
มาถึงตรงนี้อาจจะกลับไปคิดอีกว่า "อ้าว ในเวลา3ปีพวกนั้นมันทำอย่างงู๊นอย่างงี๊"เเต่ทำไมต้องมาเปลี่ยนตัวเรา
เราไม่ได้ทำอะไรซักกะหน่อย พวกนั้นต่างหากที่ทำ โอ้ มันเเย่มาก...ว่าไป...>
เเต่ดูก่อน ขนาดตัวเรา ยังไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองให้เลิกโมโหพวกนั้นได้
เเล้วเราจะไปหวังอะไรให้พวกเขาเปลี่ยนตัวของเขา????
ของบางอย่างมันต้องเริ่มจากตนเอง เพื่อความสบายใจของตัวเราเอง เเละเห็นแก่พระเจ้า
เราทำดีพระเห็น เขาทำไม่ดีพระก็เห็นเหมือนกัน ดังนั้นเรื่องที่เขาทำปล่อยให้พระเจ้าตัดสินดีกว่า
เราทำตัวเราให้ดีก็พอเเล้ว เบนเข็มจากการโกรธเเค้นพวกเขา มาสวดภาวนาให้พวกเขาดีกว่า เนอะๆๆ
ไหนๆก็ออกมาจากความหวังได้เเล้ว ก็น่าจะปล่อยวางไปดีกว่าค่ะ ถ้าเป็นเเบบนี้ เดี๋ยวจะบอกผลกระทบให้
- ถ้าใจยังมีความโกรธเเค้นอยู่ เราจะไม่สามารถสัมผัสถึงความรักของพระเป็นเจ้าได้
- ถ้าเรายังไม่อภัยคนที่ทำผิดต่อเรา พอถึงเวลาที่เราทำผิดบ้าง พระเจ้าจะให้อภัยเราหรือ?
- โบสถ์ความหวัง ยังอยู่ต่อไป เเต่คนที่ลำบากใจ ก็คือตัวของเราเอง
เมื่อเรียนคำสอน(พระศาสนจักรคาทอลิก) จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับการเริ่มชีวิตใหม่เสมอๆ
สิ่งใดที่เราเคยเป็นในอดีต เราควรเปลี่ยนซะ เพื่อที่จะได้เหมาะสมกับการเป็นคริสตชนที่ดี
มาถึงตรงนี้อาจจะกลับไปคิดอีกว่า "อ้าว ในเวลา3ปีพวกนั้นมันทำอย่างงู๊นอย่างงี๊"เเต่ทำไมต้องมาเปลี่ยนตัวเรา
เราไม่ได้ทำอะไรซักกะหน่อย พวกนั้นต่างหากที่ทำ โอ้ มันเเย่มาก...ว่าไป...>
เเต่ดูก่อน ขนาดตัวเรา ยังไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองให้เลิกโมโหพวกนั้นได้
เเล้วเราจะไปหวังอะไรให้พวกเขาเปลี่ยนตัวของเขา????
ของบางอย่างมันต้องเริ่มจากตนเอง เพื่อความสบายใจของตัวเราเอง เเละเห็นแก่พระเจ้า
เราทำดีพระเห็น เขาทำไม่ดีพระก็เห็นเหมือนกัน ดังนั้นเรื่องที่เขาทำปล่อยให้พระเจ้าตัดสินดีกว่า
เราทำตัวเราให้ดีก็พอเเล้ว เบนเข็มจากการโกรธเเค้นพวกเขา มาสวดภาวนาให้พวกเขาดีกว่า เนอะๆๆ
แก้ไขล่าสุดโดย Dis volentibus เมื่อ จันทร์ ส.ค. 06, 2007 12:23 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ใครๆ ก็ปลอบใจคุณเยอะแล้วsongyos เขียน: มันเจ็บบนะ เราทนมานาน เพราะพระเจ้าสอนให้เรา อดทนต่อความยากลำบาก
ผมทนมาเยอาะแล้ว ทุกวันนี้ปมไม่ได้ไปโบสถ์/วัด
ผมขอพักใจ มันเจ็บมากกกกกก ขนาดพระเจ้าผมภาวนาหายแล้ว
มันก็กลับมา เมื่อเจอคนคนั้น
ถึงขนาดผมต้องกรีดข้อมืออะ

เหมือนคนเป็นซาดิสต์ ชอบความทรมาน หรือเจ็บปวด

ในลูกา บทที่ 15 เมื่อคิดได้ ก็รีบกลับไปหา บิดา

แล้วบอกว่า กรีดข้อมือตัวเอง

อย่าให้ คนอื่น มีอิทธิพลต่อชีวิตของคุณ จงให้พระเยซูคริสต์ เป็นผู้มีอิทธิพลต่อชีวิตเพียงพระองค์เดียว :rolleyes:
เราว่าถ้ารู้สึกไม่ดีจิงๆกับที่นั่นก็ออกมาหาโบสถ์ใหม่เถอะ อธิษฐานก่อนให้พระเจ้านำไป แต่บางทีเรื่องนี้อาจเป็นการทดลองของพระเจ้าสอนอะไรบางอย่างแก่คุณก็ได้นะ เวลาเจอปัญหาอย่าถามพระเจ้าว่าทำไม ทำไม ทำไมต้องเป็นแบบนี้ แต่ถามพระเจ้าว่าพระองค์กำลังจะสอนอะไร เพราะ ถ้าคุณเชื่อพระเจ้าแล้วนั้นคุณต้องวางใจพระองค์และปฏิบัติตามบัญญัติของพระองค์ตามไบเบิ้ล มิใช่การกรีดข้อมือ เมื่อคุณต้อนรับพระเยซูแล้วพระองค์อยู่กับคุณตลอดเวลา สิ่งที่เกิดกับคุณพระองค์ทรงรู้หมด คุยกับพระเจ้าบ่อยๆนะ
สดุดี 139 ลองเปิดดูนะ
สดุดี 139 ลองเปิดดูนะ