พอได้เป็นคริสต์ชนแล้วพบทางสว่างตรงไหนครับ
หวัดดีครับ แหะๆ เดี๋ยวนี้ค่อนข้างชอบการภาวนา ดูชีวิตดีขึ้นจังเลย อิอิ โดยเฉพาะเวลาอ้อนพระแม่นี่(ปรกติเป้นคำป้าๆเป๋อ ลืมของบ่อย เวลาจะร้องให้ทำไรไม่ถูกก็สวดวันทามารีอา แป๊ปปปป เดียว ก็หาเจอ ทดลองหลายเที่ยวแล้วด้วยนะนี่)(นี่ผมตัดสินความศักดิ์สิทธิ์ของพระเป็นเจ้าด้วยการหาของที่หายไปหรอนี่)
แล้วเวลามีเรื่องทุกข์นี่ หลายๆสิ่งก็ช่วยให้เราดีขึ้นเยอะ ตอนนี้วางใจในพระเจ้ามากเลยครับ เหมือนฝากชีวิตไว้กับพระองค์แล้วนะ แล้วมั่นใจว่าสิ่งที่ได้รับจากพระเจ้าทั้งสุขและทุกข์ต่างๆ เป็นแผนของพระเจ้าที่ผมพร้อมเผชิญครับ
จำได้วันหนึ่งอ่านกระทู้ในนิวมานา มีคนหนึ่งเล่าว่ามีคนที่ปลี่ยนศาสนาจากคริสต์เป็นอย่างอื่น แล้วบอกว่าอยู่คริสต์แล้วไม่ได้พบทางสว่าง
คนที่เล่าบอกว่า ไม่สว่างตรงไหน ตั้งแต่ได้เป็นคริสต์นี่สว่างโร่ๆเชียวนะ
เลยอยากลองฟัง ว่าเพื่อนๆพบทางสว่างตรงไหนกันบ้างครับ เช่น มีความสุขขึ้น มองโลกดีขึ้น รักตัวเองและคนอื่นๆขึ้น หรืออะไรบ้างครับ
อยากฟังเพื่อเสริมศรัทธาครับ
แล้วเวลามีเรื่องทุกข์นี่ หลายๆสิ่งก็ช่วยให้เราดีขึ้นเยอะ ตอนนี้วางใจในพระเจ้ามากเลยครับ เหมือนฝากชีวิตไว้กับพระองค์แล้วนะ แล้วมั่นใจว่าสิ่งที่ได้รับจากพระเจ้าทั้งสุขและทุกข์ต่างๆ เป็นแผนของพระเจ้าที่ผมพร้อมเผชิญครับ
จำได้วันหนึ่งอ่านกระทู้ในนิวมานา มีคนหนึ่งเล่าว่ามีคนที่ปลี่ยนศาสนาจากคริสต์เป็นอย่างอื่น แล้วบอกว่าอยู่คริสต์แล้วไม่ได้พบทางสว่าง
คนที่เล่าบอกว่า ไม่สว่างตรงไหน ตั้งแต่ได้เป็นคริสต์นี่สว่างโร่ๆเชียวนะ
เลยอยากลองฟัง ว่าเพื่อนๆพบทางสว่างตรงไหนกันบ้างครับ เช่น มีความสุขขึ้น มองโลกดีขึ้น รักตัวเองและคนอื่นๆขึ้น หรืออะไรบ้างครับ
อยากฟังเพื่อเสริมศรัทธาครับ
แก้ไขล่าสุดโดย iBONT เมื่อ พุธ ก.ย. 12, 2007 11:14 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 960
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm
ผมตอบไม่ถูกเหมือนนะ แต่รู้สึกจากข้างในอะครับ รู้สึกสงบขึ้น รู้สึกถึงพระวิญญาณบริสุทธิ ที่ทรงสถิตกับเรา
1 ความสว่างคือความรอดครับ เราพ้นจากการเป็นทาสของบาป เราเป็นลูกของพระเจ้าแล้ว ไม่ใช้เป็นลูกของซาตาน พระองค์ทรงไถ่เราให้เป็นไทย
2 เราได้พ้นความรักที่มาจากพระองค์ในศีลมหาสนิท ซึ่งศาสนาอื่นหรือเส้นทางอื่นไม่มีให้เราได้ เราได้พลังจากศีลมหาสนิทในการเปลี่ยนแปลงวิญญาณเราให้มีความรักความเมตตาเหมือนพระองค์ ซึ่งศาสนาอื่นสอนคือ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ต้องทำความดีด้วยตัวเอง แต่ศาสนาคริสต์เราดีจากภายในแล้วค่อยส่งผลออกมาภายนอก พระเจ้าไม่ได้มองที่การกระทำภายนอกแต่พระองค์ทรงมองท่าทีในจิตใจเรา ถ้าทำดีแบบฟาริสี พระองค์ก็คงไม่รับทำดีเพราะจิตเมตตาที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ
3 การวางใจการที่เราไม่รู้จักพระเจ้า เราก็จะวางใจในตัวเอง ในเงินทอง ในการศึกษา ถามว่าการศึกษาทุกวันนี้คุณมีความรู้แล้วคุณช่วยตัวเองได้ไหม คุณมีเงินถ้าเศรษฐกิจมันไม่ดีคุณจะมีเงินพอจ่ายลูกน้องไหมคุณอาจต้องไปหนี้ยืนเขามาแล้วก็เป็นหนี้อีก คุณวางใจในฝีมือความสามารถทุกวันนี้คงเก่งแค่ไหนก็สู้เครื่องจักรไม่ได้ เทคโนโลยีทันสมัยกว่า คุณสู้มันไม่ได้หรอก ดังนั้นคนที่คุยกว่าเก่งๆ ชั้นเป็นช่างฝีมือตกงานเป็นแถว แต่ถ้าเราวางใจพระเจ้าไม่ทิ้งเราแน่ พระองค์จะเลี้ยงดูเรา คนที่เชื่อพระเจ้าหลับก็ยังมีสุขเพราะเขาฝากชีวิตไว้ให้พระเจ้าดูแล คนที่ไม่มีพระเจ้าก็จะวุ้นวาย เช่นเดียวกับมารี และมาธาร์ มารีอยู่ใกล้ๆ พระเจ้า ส่วนมาธาร์วุ้นวายแต่ว่าจะหาอะไรมาทำเลี้ยงพระเยซูแล้วบ่นว่ามารีอีกว่าไม่ยอมช่วยเลยให้พี่ทำคนเดียว พระเยซูบอกว่า "มาธาร์เจ้าวุ้นวายหลายสิ่งนัก" ดังนั้นการมีพระเจ้าอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว ดาวิดบอกว่า "พระเจ้าทรงอยู่ขวามือของข้าพระเจ้า" "พระองค์ทรงชูกำลังข้าพระเจ้า" "พระองค์ทรงทำลายศัตรูของข้าพระเจ้า" "พระองค์ทรงเป็นโล่ล้อมข้าพระเจ้า" ผู้ที่วางใจในพระองค์จะไม่ขัดสนในสิ่งใดเลย ขอให้เราเชื่อและไว้วางใจ ฝากชีวิตให้พระองค์ดูแล ถึงหุบเขาเงามัจจุราชเราก็ไม่กลัวเพราะว่าเรามีพระเจ้า พี่บางทีก็เสี่ยงหลายคนทำแบบพี่ไม่ได้แต่ที่รู้สึกเฉยๆ เพราะว่าเรามีเพระเยซู
2 เราได้พ้นความรักที่มาจากพระองค์ในศีลมหาสนิท ซึ่งศาสนาอื่นหรือเส้นทางอื่นไม่มีให้เราได้ เราได้พลังจากศีลมหาสนิทในการเปลี่ยนแปลงวิญญาณเราให้มีความรักความเมตตาเหมือนพระองค์ ซึ่งศาสนาอื่นสอนคือ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ต้องทำความดีด้วยตัวเอง แต่ศาสนาคริสต์เราดีจากภายในแล้วค่อยส่งผลออกมาภายนอก พระเจ้าไม่ได้มองที่การกระทำภายนอกแต่พระองค์ทรงมองท่าทีในจิตใจเรา ถ้าทำดีแบบฟาริสี พระองค์ก็คงไม่รับทำดีเพราะจิตเมตตาที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ
3 การวางใจการที่เราไม่รู้จักพระเจ้า เราก็จะวางใจในตัวเอง ในเงินทอง ในการศึกษา ถามว่าการศึกษาทุกวันนี้คุณมีความรู้แล้วคุณช่วยตัวเองได้ไหม คุณมีเงินถ้าเศรษฐกิจมันไม่ดีคุณจะมีเงินพอจ่ายลูกน้องไหมคุณอาจต้องไปหนี้ยืนเขามาแล้วก็เป็นหนี้อีก คุณวางใจในฝีมือความสามารถทุกวันนี้คงเก่งแค่ไหนก็สู้เครื่องจักรไม่ได้ เทคโนโลยีทันสมัยกว่า คุณสู้มันไม่ได้หรอก ดังนั้นคนที่คุยกว่าเก่งๆ ชั้นเป็นช่างฝีมือตกงานเป็นแถว แต่ถ้าเราวางใจพระเจ้าไม่ทิ้งเราแน่ พระองค์จะเลี้ยงดูเรา คนที่เชื่อพระเจ้าหลับก็ยังมีสุขเพราะเขาฝากชีวิตไว้ให้พระเจ้าดูแล คนที่ไม่มีพระเจ้าก็จะวุ้นวาย เช่นเดียวกับมารี และมาธาร์ มารีอยู่ใกล้ๆ พระเจ้า ส่วนมาธาร์วุ้นวายแต่ว่าจะหาอะไรมาทำเลี้ยงพระเยซูแล้วบ่นว่ามารีอีกว่าไม่ยอมช่วยเลยให้พี่ทำคนเดียว พระเยซูบอกว่า "มาธาร์เจ้าวุ้นวายหลายสิ่งนัก" ดังนั้นการมีพระเจ้าอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว ดาวิดบอกว่า "พระเจ้าทรงอยู่ขวามือของข้าพระเจ้า" "พระองค์ทรงชูกำลังข้าพระเจ้า" "พระองค์ทรงทำลายศัตรูของข้าพระเจ้า" "พระองค์ทรงเป็นโล่ล้อมข้าพระเจ้า" ผู้ที่วางใจในพระองค์จะไม่ขัดสนในสิ่งใดเลย ขอให้เราเชื่อและไว้วางใจ ฝากชีวิตให้พระองค์ดูแล ถึงหุบเขาเงามัจจุราชเราก็ไม่กลัวเพราะว่าเรามีพระเจ้า พี่บางทีก็เสี่ยงหลายคนทำแบบพี่ไม่ได้แต่ที่รู้สึกเฉยๆ เพราะว่าเรามีเพระเยซู
- ใจเย็นขึ้น ((นี่เย็นแล้วนะ ย้ำ))
- มองโลกหลายมุมขึ้น ((โดยเฉพาะมุมร้าย จะมองด้านหลายมุมมาก ล้อเล่นน่า))
- มองอะไรกว้างขึ้น และชอบมองอะไรอย่างแตกต่างมากขึ้น ((มีผลนะครับ))
- นิ่งขึ้น สงบขึ้น((ย้ำว่านิ่งขึ้นแล้ว))
- ไม่ค่อยมีเรื่องกับใครเหมือนแต่ก่อน สงบสติอารมณ์เก่งขึ้น
- เที่ยวน้อยลง...มีรูปแม่พระตรงประตูห้องน่ะ มันเดินไปเที่ยวไม่ค่อยออก
- ศรัทธาในคำว่า "รัก" มากขึ้น ไม่จีบหรือหลีใครง่ายๆ เหมือนแต่ก่อน
- ให้คุณค่ากับหลายๆ อย่างมากขึ้น
แต่มันก็ยังไม่พออยู่ดี
แม่พระครับ โปรดประทานพระหรรษทานด้วยเถอด...
- มองโลกหลายมุมขึ้น ((โดยเฉพาะมุมร้าย จะมองด้านหลายมุมมาก ล้อเล่นน่า))
- มองอะไรกว้างขึ้น และชอบมองอะไรอย่างแตกต่างมากขึ้น ((มีผลนะครับ))
- นิ่งขึ้น สงบขึ้น((ย้ำว่านิ่งขึ้นแล้ว))
- ไม่ค่อยมีเรื่องกับใครเหมือนแต่ก่อน สงบสติอารมณ์เก่งขึ้น
- เที่ยวน้อยลง...มีรูปแม่พระตรงประตูห้องน่ะ มันเดินไปเที่ยวไม่ค่อยออก
- ศรัทธาในคำว่า "รัก" มากขึ้น ไม่จีบหรือหลีใครง่ายๆ เหมือนแต่ก่อน
- ให้คุณค่ากับหลายๆ อย่างมากขึ้น
แต่มันก็ยังไม่พออยู่ดี
แม่พระครับ โปรดประทานพระหรรษทานด้วยเถอด...
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ทั้งชีวิตจ๊า
ถ้าไม่มีพระเจ้า คงตายไปแล้วตั้งแต่เกิด ไม่ได้มานั่งพิมพ์อยู่นี่หรอก
ถ้าไม่มีพระเจ้า คงตายไปแล้วตั้งแต่เกิด ไม่ได้มานั่งพิมพ์อยู่นี่หรอก
- รู้จักความรักต่อเพื่อนมนุษย์ (ข้อนี้สำคัญเป็นพิเศษ :cheesy: เพราะ ไม่เคยสัมผัสมาก่อน)
- ความเหงาที่หายไป แม้ต้องอยู่ตัวเดียวในห้อง
- อยากช่วยเหลือผู้อื่น เสียสละเผื่อผู้อื่น ไม่ว่ามิตรหรือศัตรู
- ศัตรูในใจหายหมด ไม่ได้หมายความว่าไม่มีคนคิดว่าเราเป็นศัตรูนะ อาจจะมีก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็หันมารักเขาแล้ว
- สุขภาพจิตดีขึ้น (ถึงกับจิตแพทย์ที่รักษามาปีกว่าๆ อนุญาตให้ไปเรียนได้เลย)
- สุขภาพกาย แน่นอนสุขภาพจิตที่ดี ย่อมน้ำมาสู่สุขภาพกายที่ดี
- เพื่อนเยอะขึ้น
- กลับใจเชื่อในเรื่องนรก สวรรค์
- รู้จักการอภัยของพระองค์ จึงหันมาให้อภัยแก่ผู้อื่นเช่นพระองค์
- เชื่อฟังพ่อ แม่ แต่หากพ่อ แม่เอาหลักธรรมต่างศาสนามาสอน ผมจะฟังหูไว้หู (เข้าใจว่าไม่ดี แต่ห้ามไม่ได้)
- ไม่กลัวตาย
- ไม่งก โลภ
- เห็นเงินเป็นแค่สิ่งเล็กๆสิ่งหนึ่ง
- ทำใจรับกับเรื่องฐานะทางบ้านได้ ซึ่งอันที่จริงมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากนัก
- มีศาสนาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ทำให้เข้าใจอะไรๆมากขึ้น
เพิ่มอีกนิด
- พ่อ แม่ ปลื้มใจมาก (พ่อทั้งดีใจ แต่ไม่พอใจนิดๆ เพราะ ท่านมีอคติเล็กๆกับคริสตศาสนา แต่ไม่เคยว่ากล่าวอย่างไร)
- ให้คนอื่น "ยืม" เงิน ด้วยใจบริสุทธิ์ อันที่จริงอยากให้ แต่ข้าพเจ้าเงินน้อยนิดนะ :lipsrsealed:
- เริ่มชอบอ่านหนังสือที่ตัวอักษรเต็มทั้งหน้า เหตุด้วยพระวจนะ
- เข้าใจถึงความศรัทธา
และ...บลาๆๆๆๆ
ถ้าจะให้ละพระองค์ ผมยอมตายเสียดีกว่า
- ความเหงาที่หายไป แม้ต้องอยู่ตัวเดียวในห้อง
- อยากช่วยเหลือผู้อื่น เสียสละเผื่อผู้อื่น ไม่ว่ามิตรหรือศัตรู
- ศัตรูในใจหายหมด ไม่ได้หมายความว่าไม่มีคนคิดว่าเราเป็นศัตรูนะ อาจจะมีก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็หันมารักเขาแล้ว
- สุขภาพจิตดีขึ้น (ถึงกับจิตแพทย์ที่รักษามาปีกว่าๆ อนุญาตให้ไปเรียนได้เลย)
- สุขภาพกาย แน่นอนสุขภาพจิตที่ดี ย่อมน้ำมาสู่สุขภาพกายที่ดี
- เพื่อนเยอะขึ้น
- กลับใจเชื่อในเรื่องนรก สวรรค์
- รู้จักการอภัยของพระองค์ จึงหันมาให้อภัยแก่ผู้อื่นเช่นพระองค์
- เชื่อฟังพ่อ แม่ แต่หากพ่อ แม่เอาหลักธรรมต่างศาสนามาสอน ผมจะฟังหูไว้หู (เข้าใจว่าไม่ดี แต่ห้ามไม่ได้)
- ไม่กลัวตาย
- ไม่งก โลภ
- เห็นเงินเป็นแค่สิ่งเล็กๆสิ่งหนึ่ง
- ทำใจรับกับเรื่องฐานะทางบ้านได้ ซึ่งอันที่จริงมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากนัก
- มีศาสนาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ทำให้เข้าใจอะไรๆมากขึ้น
เพิ่มอีกนิด
- พ่อ แม่ ปลื้มใจมาก (พ่อทั้งดีใจ แต่ไม่พอใจนิดๆ เพราะ ท่านมีอคติเล็กๆกับคริสตศาสนา แต่ไม่เคยว่ากล่าวอย่างไร)
- ให้คนอื่น "ยืม" เงิน ด้วยใจบริสุทธิ์ อันที่จริงอยากให้ แต่ข้าพเจ้าเงินน้อยนิดนะ :lipsrsealed:
- เริ่มชอบอ่านหนังสือที่ตัวอักษรเต็มทั้งหน้า เหตุด้วยพระวจนะ
- เข้าใจถึงความศรัทธา
และ...บลาๆๆๆๆ
ถ้าจะให้ละพระองค์ ผมยอมตายเสียดีกว่า
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. ก.ย. 13, 2007 5:39 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ได้มี "ศิลานิรันดร์" เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจค่ะ
ก่อนหน้านี้ทั้งต้องพึ่งพาตนเอง และยังอยู่ในโลกที่ไม่มีอะไรเที่ยงแท้
ตกลงเราพึ่งอะไรได้ไหม? ก็เราอ่อนแอ เราลุกขึ้นยืนเองยังไม่ได้
โลกเองก็เปลี่ยนไปตลอดเวลา ตัวเราเองยังเปลี่ยน
ตกลงเราพึ่งตัวเองยังไม่ได้ เหมือนยืนอยู่บนพื้นที่พร้อมจะพังลงไปได้ทุกเมื่อ
ในทางจิตวิญญาณเรากระหายหาที่พึ่งที่จะรับรองได้ว่าจะมั่นคงเป็นนิรันดร์
นั่นคือความรู้สึกก่อนหน้านี้ เหมือนยืนบนตึกที่พร้อมจะพังลงไป
จนกระทั่งได้พบความสงบในพระคริสต์
ทำให้เรามั่นใจได้ว่า ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปยังไง
ความรักมั่นคงของพระองค์จะดำรงเป็นนิรันดร์
ในโลกนี้มีคนอยู่ 2 แบบ
คือคนที่เชื่อว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะมีคนข้างบนที่ดำรงเป็นนิรันดร์
และคอยสอดส่องดูแลเพื่อให้เราได้รับสิ่งที่ดีที่สุด แม้ว่าอาจไม่ดีที่สุดในสายตามนุษย์
แต่จะทรงประทานสิ่งดีที่สุดด้วยสติปัญญาที่เหนือกว่าวิถีของเรา
และเรามั่นใจได้ว่าจะทรงนำเราไปในทางที่ดี เพื่อสวัสดิภาพ ไม่ใช่เพื่อทุขภาพ
กับคนอีกประเภทที่เชื่อว่ามีแต่ตัวเองเท่านั้นที่จะเชื่อถือได้ และตัวเองนั้นก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ
จนสิ้นสุดที่ความตายซึ่งตัวเองก็เลือกไม่ได้ด้วยซ้ำว่าจะตายวันไหน
คิดว่าคนประเภทไหนจะมีความสุขกว่ากัน?
ก่อนหน้านี้ทั้งต้องพึ่งพาตนเอง และยังอยู่ในโลกที่ไม่มีอะไรเที่ยงแท้
ตกลงเราพึ่งอะไรได้ไหม? ก็เราอ่อนแอ เราลุกขึ้นยืนเองยังไม่ได้
โลกเองก็เปลี่ยนไปตลอดเวลา ตัวเราเองยังเปลี่ยน
ตกลงเราพึ่งตัวเองยังไม่ได้ เหมือนยืนอยู่บนพื้นที่พร้อมจะพังลงไปได้ทุกเมื่อ
ในทางจิตวิญญาณเรากระหายหาที่พึ่งที่จะรับรองได้ว่าจะมั่นคงเป็นนิรันดร์
นั่นคือความรู้สึกก่อนหน้านี้ เหมือนยืนบนตึกที่พร้อมจะพังลงไป
จนกระทั่งได้พบความสงบในพระคริสต์
ทำให้เรามั่นใจได้ว่า ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปยังไง
ความรักมั่นคงของพระองค์จะดำรงเป็นนิรันดร์
ในโลกนี้มีคนอยู่ 2 แบบ
คือคนที่เชื่อว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะมีคนข้างบนที่ดำรงเป็นนิรันดร์
และคอยสอดส่องดูแลเพื่อให้เราได้รับสิ่งที่ดีที่สุด แม้ว่าอาจไม่ดีที่สุดในสายตามนุษย์
แต่จะทรงประทานสิ่งดีที่สุดด้วยสติปัญญาที่เหนือกว่าวิถีของเรา
และเรามั่นใจได้ว่าจะทรงนำเราไปในทางที่ดี เพื่อสวัสดิภาพ ไม่ใช่เพื่อทุขภาพ
กับคนอีกประเภทที่เชื่อว่ามีแต่ตัวเองเท่านั้นที่จะเชื่อถือได้ และตัวเองนั้นก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ
จนสิ้นสุดที่ความตายซึ่งตัวเองก็เลือกไม่ได้ด้วยซ้ำว่าจะตายวันไหน
คิดว่าคนประเภทไหนจะมีความสุขกว่ากัน?
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ทั้งชีวิตเหมือนพี่ LL ครับ
ไม่มีพระองค์ ทำอะไรไม่ได้เลย
ไม่มีพระองค์ ทำอะไรไม่ได้เลย
รู้สึกว่าตัวเอง มีเส้น มีสาย ไม่ใช่พวกกระจอก
เพราะพ่อผมใหญ่ รวย และ ใจดีที่สุด ใครจะทำไม 555+
รู้สึกอบอุ่น ไปไหนก็มีคนรัก
เพราะครอบครัวผมมีสมาชิกมากมาย ทั้งบนโลกและบนสววรค์ เราเป็นพี่น้องกัน ญาติมีเยอะ ใครจะทำไม 555+
รู้สึกว่าตัวเองมีค่าที่ซู้ด..
เพราะแม้พระเจ้ายังยอมตายเพื่อเรา แค่นี้ก็อธิบายได้แล้วว่าทำไมเราถึงมีค่า ใครจะทำไม 555+
เพราะพ่อผมใหญ่ รวย และ ใจดีที่สุด ใครจะทำไม 555+
รู้สึกอบอุ่น ไปไหนก็มีคนรัก
เพราะครอบครัวผมมีสมาชิกมากมาย ทั้งบนโลกและบนสววรค์ เราเป็นพี่น้องกัน ญาติมีเยอะ ใครจะทำไม 555+
รู้สึกว่าตัวเองมีค่าที่ซู้ด..
เพราะแม้พระเจ้ายังยอมตายเพื่อเรา แค่นี้ก็อธิบายได้แล้วว่าทำไมเราถึงมีค่า ใครจะทำไม 555+
มิใช่พระคริสต์ที่สว่างน้อยลง แต่เป็นวิญญาณเราที่มืดลงเอง
มิใช่พระนางมารีอาเป็นเทียนที่ริบหรี่ แต่เป็นวิญญาณเราที่จวนจะดับแล้ว
มิใช่พระศาสนจักรที่มืดสนิท แต่เป็นวิญญาณเราที่ป้ายสีพระศาสนจักรเอง
ความสว่างอยู่เบื้องหน้าท่าน แต่ท่านกลับมองไม่เห็นเหตุเพราะท่อนซุงในตาท่าน
มิใช่พระนางมารีอาเป็นเทียนที่ริบหรี่ แต่เป็นวิญญาณเราที่จวนจะดับแล้ว
มิใช่พระศาสนจักรที่มืดสนิท แต่เป็นวิญญาณเราที่ป้ายสีพระศาสนจักรเอง
ความสว่างอยู่เบื้องหน้าท่าน แต่ท่านกลับมองไม่เห็นเหตุเพราะท่อนซุงในตาท่าน
-
- โพสต์: 663
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 02, 2005 10:41 pm
- ที่อยู่: Sriracha Chonburi
- ติดต่อ:
ความสว่างก็ประสบมาบ่อยครับ
แต่ล่าสุดที่เจอ ... พระองค์ใช้ให้ผมถือตะเกียงสันติภาพ ไปยังคนในศาสนาเราที่มีความขัดแย้งกัน
และไปยังคนต่างศาสนาด้วย
แสงสว่างที่เห็นและ ปลื้ม! ที่สุด คือ... สันติภาพ
(เพราะไม่ปลื้ม นิสสัน ทีด้า) คิคิ
แต่ล่าสุดที่เจอ ... พระองค์ใช้ให้ผมถือตะเกียงสันติภาพ ไปยังคนในศาสนาเราที่มีความขัดแย้งกัน
และไปยังคนต่างศาสนาด้วย
แสงสว่างที่เห็นและ ปลื้ม! ที่สุด คือ... สันติภาพ
(เพราะไม่ปลื้ม นิสสัน ทีด้า) คิคิ
ความรัก และความอบอุ่นจากพระคริสตเจ้า
อึก..ถึงกับสะอึกเลยครับผม เพราะที่คุณพิมพ์มามันตรงกับผมมากเลยหน่ะnecromancer เขียน: - ใจเย็นขึ้น ((นี่เย็นแล้วนะ ย้ำ))
- มองโลกหลายมุมขึ้น ((โดยเฉพาะมุมร้าย จะมองด้านหลายมุมมาก ล้อเล่นน่า))
- มองอะไรกว้างขึ้น และชอบมองอะไรอย่างแตกต่างมากขึ้น ((มีผลนะครับ))
- นิ่งขึ้น สงบขึ้น((ย้ำว่านิ่งขึ้นแล้ว))
- ไม่ค่อยมีเรื่องกับใครเหมือนแต่ก่อน สงบสติอารมณ์เก่งขึ้น
- เที่ยวน้อยลง...มีรูปแม่พระตรงประตูห้องน่ะ มันเดินไปเที่ยวไม่ค่อยออก
- ศรัทธาในคำว่า "รัก" มากขึ้น ไม่จีบหรือหลีใครง่ายๆ เหมือนแต่ก่อน
- ให้คุณค่ากับหลายๆ อย่างมากขึ้น
แต่มันก็ยังไม่พออยู่ดี
แม่พระครับ โปรดประทานพระหรรษทานด้วยเถอด...
อ่านไปก็ อุ้ย นี่ก็ใช่ๆๆๆ
โดยฌฉพาะมองมุมต่างๆนี่ แล้วพออ่านบรรทักสุดท้าย
โอ กุญแจในใจถูกไขออกแล้วว
นึกถึงคำพูดของ่ทานบุญราศีแห่งสองคอนเลยครับEPG เขียน: ถ้าจะให้ละพระองค์ ผมยอมตายเสียดีกว่า![]()
ตายครั้งเดียวเพื่อยืนยันความเชื่อ....ฉันไม่กลัว
หง่ะnecromancer เขียน: ประทับตรา...
"สำเนาถูกต้อง"
ทุกข้อความ
hahahahahh
แม้โลกนี้จะสูญสิ้นไป ข้าพเจ้าก็ยังมีพระองค์อยู่ 