ความหมายของกางเขน

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
Rakkypoko!
โพสต์: 960
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm

พุธ ต.ค. 03, 2007 6:02 pm

ความหมายของกางเขน (Cross)

เมื่อพระเยซูคริสต์ถูกตัดสินให้ประหารด้วยการตรึงบนไม้กางเขน เขาก็นำพระองค์ไปโบยตีด้วยแส้หนังตามวิธีลงโทษนักโทษประหาร แส้นี้ทำด้วยหนังเป็นเส้นๆ คล้ายหางม้า และมีตะกั่ว กระดูกสัตว์หรือของมีคมอื่นๆ ผูกเป็นปมๆ ติดอยู่ เพื่อเพิ่มความเจ็บปวดและสร้างบาดแผลให้มากยิ่งขึ้น นักโทษบางคนถึงกับเสียชีวิตด้วยการโบยด้วยแส้นี้ บางคนถึงกับตาบอดก็มี หลังจากเฆี่ยนแล้วเขาก็นำพระองค์มาล้อเลียน เยาะเย้ย ทั้งเอาหนามมาสานเป็นมงกุฎสวมให้ด้วย พอวันรุ่งขึ้นเขาก็ให้พระองค์แบกกางเขนอันใหญ่และหนักไปตามถนนทั้งๆ ที่พระองค์บอบช้ำและอดนอนมาตลอดทั้งคืนแล้ว ขบวนแห่นักโทษนี้จะมีทหารคุมไป 4 คนอยู่คนละมุมเป็นรูปสี่เหลี่ยม ข้างหน้ามีป้ายประจานความผิดของนักโทษเขียนเป็น 3 ภาษาคือ กรีก ลาติน และฮีบรู เพราะภาษากรีกเป็นภาษาที่ใช้ในทางการค้า ภาษาลาตินเป็นภาษาทางราชการ ส่วนภาษาฮีบรูเป็นภาษาท้องถิ่น เขาจะนำป้ายอันนี้มาติดไว้ที่ยอดกางเขนเมื่อตรึงแล้วด้วย นักโทษจะถูกแห่ประจานไปรอบๆ เมือง ก่อนที่จะนำไปประหาร โดยใช้เส้นทางที่ยาวและคดเคี้ยวที่สุด ด้วยเหตุผลสองประการคือ หนึ่งเป็นการประจาน และสองถ้าในขณะที่เดินไปมีผู้ใดจะคัดค้านและขอเป็นพยานในความบริสุทธิ์ของนักโทษก็จะประท้วงคำพิพากษานี้ได้ คดีนี้จะต้องรื้อฟื้นขึ้นมาพิจารณาใหม่ น่าสลดใจที่ไม่มีผู้ใดคัดค้านเพื่อพระเยซูกันเลยแม้แต่คนเดียว

กางเขนที่พระเยซูแบกไปนั้นเข้าใจกันว่าเป็นกางเขนที่เราเห็นอยู่ในโบสถ์ทั่วๆ ไปซึ่งเรียกกันว่ากางเขนแบบลาติน กางเขนในสมัยนั้นไม่ได้มีอยู่แบบเดียวเท่านั้น ยังมีกางเขนรูปตัว X เรียกว่ากางเขนของนักบุญอันดรูว์ เพราะเชื่อว่าอัครสาวกอันดรูว์ถูกตรึงด้วยกางเขนชนิดนี้ แบบที่ 3 ก็เป็นรูปตัว T มีชื่อว่ากางเขนของนักบุญแอนโทนี และแบบที่ 4 ก็คือแบบของกรีกที่เป็นรูปกากบาท + คือแบบสัญลักษณ์ของกาชาดนั่นเอง

ความเป็นมาของกางเขนนั้นเดิมทีเกิดขึ้นในหมู่ชาวเปอร์เซีย พวกเขามีความเชื่อว่าแผ่นดินนั้นบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ จึงไม่ยอมให้ร่างกายของผู้ทำผิดหรือร่างกายที่ชั่วร้ายนั้นมาเกลือกกลั้ว เมื่อจะประหารก็จัดการตรึงไว้ด้วยตะปูนแขวนห้อยเหนือพื้นดิน เมื่อตายแล้วก็ให้แร้งหรือสุนัขป่ามาฉีกกินจนสิ้นซาก วิธีการเช่นนี้พวกคาเธจซึ่งอยู่ใกล้อิตาลีหรือโรมจดจำมาใช้และทางโรมันก็นำมาใช้อีกต่อหนึ่ง แต่การนำกางเขนมาใช้นี้มิได้ใช้กับชาวโรมัน แต่จะใช้กับพวกทาสหรือพวกกบฏที่เป็นชาวต่างชาติ เพราะเขาถือว่าชาวโรมันเป็นผู้ที่อยู่เหนือกว่าคนชาติอื่นๆ จะถูกทำทารุณกรรมอย่างนั้นไม่ได้ ซิเซโร นักปรัชญาเป็นเอกที่มีชื่อเสียงในสมัยก่อนคริสตศตวรรษแสดงความเห็นไว้ว่า สำหรับประชาชนชาวโรมันแล้ว "การถูกจับมัดก็เป็นอาชญากรรม ถ้าถูกเฆี่ยนตีก็ยิ่งเลวร้ายไปกว่านั้นอีก คือถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างที่สุด แต่ถ้าถูกตรึงบนกางเขนละก็ไม่ทราบว่าจะเปรียบกับอะไรอีกได้" ด้วยเหตุนี้การประหารด้วยการตรึงบนกางเขนจึงไม่มีในหมู่ชาวโรมัน พระเยซูคริสต์ของเราถูกประหารอย่างทารุณที่สุด ต่ำต้อยที่สุดและน่าอับอายที่สุดที่มนุษย์จะคิดขึ้นได้ในสมัยนั้น
Rakkypoko!
โพสต์: 960
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm

พุธ ต.ค. 03, 2007 6:02 pm

การตรึงบนไม้กางเขน

เป็นวิธีการทำให้เจ็บปวดรวดร้าว เป็นวิธีการประหารชีวิตซึ่งพวกโรมันใช้ ไม่ใช่เป็นวิธีการของพวกยิว พวกยิวในสมัยพระคัมภีร์เดิมใช้วิธีประหารชีวิตพวก อาชญากรโดยใช้หินขว้างให้ตาย และเอาศพแขวนไว้บนต้นไม้เป็นเครื่องแสดงว่าคนถูกประหารชีวิตเหล่านั้นอยู่ภายใต้การสาปแช่งของพระเจ้า (ฉธบ. 21:22-23) พวกยิวในสมัยพระเยซูอยู่ภายใต้การปกครองของโรมไม่มีอำนาจจัดการประหารชีวิต เขาต้องยอมให้ทางโรมทำ อย่างไรก็ตามพวกชาวยิวไม่ขอให้โรมเอาหินขว้างพระเยซูให้ตาย เขาเห็นว่าจับพระองค์ตรึงบนกางเขนให้ตายมันง่ายดีกว่า (มธ. 27:22-23)

พวกยิวถือกันว่ากางเขนของพระเยซูเป็นเสมือนต้นไม้ เพราะพระองค์ถูกแขวนไว้บนท่อนไม้รูปกางเขนนั้น พวกเขาจึงถือว่าพระองค์ตกอยู่ภายใต้การสาปแช่งของพระเจ้า แท้ที่จริงพระเยซูคริสต์ได้ทรงแบกการสาปแช่งของพระเจ้าไว้กับพระองค์อย่างที่เขาคิด พระองค์กระทำเช่นนั้นไม่ใช่เพราะพระองค์เองกระทำผิด พระองค์เป็นผู้บริสุทธิ์ไม่มีความบาป แต่พระองค์ทรงรับการสาปแช่งแทนคนบาป เพราะเหตุความเข้าใจผิดเรื่องการสาปแช่งแห่งการเขนจึงทำให้การตรึงพระเยซูบนไม้กางเขนเป็นหินสะดุดพวกชาวยิว พวกเขาปฏิเสธไม่ยอมเชื่อพระเยซู เพราะฉะนั้นกางเขนจึงเป็นเครื่องกีดกันพวกเขา ไม่ให้รับความรอดจากพระเจ้า ผู้เขียนพระคริสตธรรมคัมภีร์ใหม่ถือว่าการที่พระเยซูคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนนี้เป็นรากฐานแห่งพันธกิจการช่วยให้รอดของพระเจ้า ดังนั้นไม้กางเขนจึงกลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของความรอด ซึ่งพระเจ้าทรงโปรดให้ผู้เชื่อทุกคนพ้นจากความผิดบาป ข่าวประเสริฐก็คือข่าวเรื่องไม้กางเขนนั่นเอง กางเขนจึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความอับอาย และความตายด้วย พระเยซูคริสต์ได้ทรงชี้แจงด้วยพระองค์เองว่า คนเหล่านั้นที่ต้องการจะเป็นสาวกของพระองค์ ต้องพร้อมที่จะเผชิญกับความอับอาย ความทุกข์ทรมานและความตาย ถ้าหากพวกเขาเป็นสาวกที่แท้จริงของพระองค์

ปล.ไม้กางเขนกลับหัว อันที่จริง ก็กางเขนธรรมดานั่นแหละ
เป็นของนักบุญเปโตร เมื่อถูกตรึง ก็ให้ทหาร กลับหัวท่าน เพราะว่าไม่อยากตายท่าเดียวกับพระอาจารย์ เพราะตัวเองต่ำต้อย
+และการสวมไม้กางเขน เครื่องรางไม้กางเขน ไว้เป็นที่ระลึกถึงการสิ้นพระชนม์ของพระเยซู ท่านยอมสิ้นชีวิตแบบต่ำต้อยเพื่อไถ่บาปแทนมนุษย์+
พระเยซูเจ็บและทรมานมากๆ
แต่ความเจ็บของพระองค์มีคนทรมานยิ่งกว่า ทุกข์ยิ่งกว่า
คนๆนั้นคือ"พระแม่มารี" ทุกข์ของคนเป็นแม่ครับ
Rakkypoko!
โพสต์: 960
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm

พุธ ต.ค. 03, 2007 6:03 pm

เหตุผลอย่างน้อย 3 ด้านหลัก ๆ ที่จะทำให้เราเข้าใจว่า ทำไมพระเยซูคริสต์ต้องถูกตรึงตายบนไม้กางเขน?
ประการที่ 1 เหตุผลที่สืบเนื่องจากความบาปของมนุษย์
เพราะต้นตอของความบาปที่มนุษย์ทำคือ การไม่เชื่อฟังพระเจ้า ดังนั้นเมื่อพระเยซูต้องการไถ่บาปมนุษย์
พระองค์จะต้องแก้ให้ตรงจุด ซึ่งก็คือ การเชื่อฟังจนถึงที่สุด
ดังนั้นพระเยซูคริสต์จึงยอมเชื่อฟังพระเจ้าจนถึงที่สุด แม้ว่าจะต้องตายอย่างทุกข์ทรมาน

การตายของพระเยซูคริสต์ทำให้เราทุกคนที่เชื่อในพระองค์ได้ตระหนักว่า
เราตายไปแล้วกับพระเยซูคริสต์ในการบาป หรือพูดง่าย ๆ ว่า เราตายจากบาปแล้ว และเราจะไม่กลับไปทำบาปอีก
ชีวิตที่เรามีอยู่ในขณะนี้เป็นชีวิตของพระเยซูที่อยู่ในเรา การทำดีของคริสเตียนจึงไม่ใช่การ
"ทำดีเพื่อจะได้ดี" แต่เรา "ทำดีเพราะเรามีดี"
สิ่งที่ดีที่สุดที่เรามีอยู่ในชีวิตคือ "พระเยซูคริสต์"
ซึ่งส่งผลให้คริสเตียนสามารถเป็นคนดีได้

ประการที่ 2 เหตุผลที่สืบเนื่องจากกฎแห่งความยติธรรมของพระเจ้า

การตายของพระเยซูเป็นไปตามกฎแห่งความยุติธรรมของพระเจ้า พระเจ้ากำหนดไว้แล้วว่า
"ค่าจ้างของความบาปคือความตาย" ดังนั้น เมื่อต้องการไถ่บาปให้กับมนุษย์
พระเยซูจึงต้องแลกด้วยความตาย เพื่อให้มนุษย์ทุกคนสามารถมีชีวิตใหม่ได้

พระเยซูเป็นตัวแทนคนที่สองของมนุษย์ หลังจากที่ตัวแทนคนแรกคือ อาดัม ได้ทำบาปและไม่ยอมเชื่อฟังพระเจ้า
ทำให้สายเลือดแห่งบาปฝังอยู่ในมนุษย์ทุกคน เราทุกคนจึงเป็นคนบาป แต่พระเยซูเป็นอาดัมคนที่สอง
พระองค์เกิดจากหญิงพรมจารีโดยฤทธิ์เดชของพระเจ้า พระองค์จึงบริสุทธิ์และไม่มีสายเลือดบาป
แต่พระองค์ต้องเลือกเอาระหว่างการเชื่อฟังพระเจ้าหรือการทำตามใจปรารถนาของตนเอง
ในที่สุดพระองค์ก็ได้รับชัยชนะ พระองค์ยอมเชื่อฟังพระเจ้าจนต้องตายที่กางเขน
พระเยซูจึงเป็นสายเลือดใหม่ของมนุษย์ ทุกคนที่เชื่อฟังพระเยซูก็จะพ้นจากสายเลือดบาป
และไม่ต้องรับโทษบาปอีกต่อไป

ประการที่ 3 เหตุผลที่สืบเนื่องจากความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อมนุษย์
การตายของพระเยซูเป็นการสำแดงความรักที่พระเจ้ามีต่อมนุษยชาติ พระคัมภีร์กล่าวว่า
"เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์เพื่อทุกคน
ภาพประจำตัวสมาชิก
แบกะดิน
โพสต์: 1085
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 7:49 pm

พุธ ต.ค. 03, 2007 6:18 pm

ขอบคุนมากๆๆเลยน้ะค้ะ
Marie Antoinette
โพสต์: 626
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 8:07 pm
ที่อยู่: bkk

พุธ ต.ค. 03, 2007 6:34 pm

Thank You ได้ความรู้อย่างเหลือล้นจริงๆค่ะ
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ ต.ค. 03, 2007 7:11 pm

พี่โปรดปราน เคยโพสต์ไว้ที่นี่ ฮะ

http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=33.0
Rakkypoko!
โพสต์: 960
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm

พุธ ต.ค. 03, 2007 7:40 pm

เอามาจากเวบอะนะ นานแล้วจำไม่ได้ว่าเวบไหน
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

พุธ ต.ค. 03, 2007 7:43 pm

Nisit_Christian เขียน: เอามาจากเวบอะนะ นานแล้วจำไม่ได้ว่าเวบไหน

:wink: เอามาจากเวปต้องให้เครดิตเวปกับผู้เขียนด้วยจ้า เพื่อพวกเขาจะได้มีกำลังใจในการสร้างสรรค์งานให้เราอ่านต่อไปเรื่อยๆ คะ  :angel:
Rakkypoko!
โพสต์: 960
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm

พุธ ต.ค. 03, 2007 7:54 pm

:+: seraphim :+: เขียน:
Nisit_Christian เขียน: เอามาจากเวบอะนะ นานแล้วจำไม่ได้ว่าเวบไหน

:wink: เอามาจากเวปต้องให้เครดิตเวปกับผู้เขียนด้วยจ้า เพื่อพวกเขาจะได้มีกำลังใจในการสร้างสรรค์งานให้เราอ่านต่อไปเรื่อยๆ คะ  :angel:

จำไม่ได้นี่ว่าเวบอะไร มันนานแล้ว เป็นปีแล้วละนะ
Won_J@
โพสต์: 113
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 03, 2007 8:07 pm
ที่อยู่: -
ติดต่อ:

พุธ ต.ค. 03, 2007 8:27 pm

ยังไงก้ขอบคุณมากๆนะครับ
Rakkypoko!
โพสต์: 960
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm

พฤหัสฯ. ต.ค. 04, 2007 12:05 am

ไม้กางเขน คือ ความหวังของคริสตชน
ไม้กางเขน คือ การกลับคืนชีพของคนตาย
ไม้กางเขน คือ การชี้ทางให้กับคนหลงทาง
ไม้กางเขน คือ การไถ่บาปคนสูญเสียชีวิตนิรันดร
ไม้กางเขน คือ ไม้เท้าของคนพิการ
ไม้กางเขน คือ การนำทางคนตาบอด
ไม้กางเขน คือ ความแข็งแกร่งของคนอ่อนแอ
ไม้กางเขน คือ การรักษาคนป่วย
ไม้กางเขน คือ จุดศูนย์กลางชีวิตของพระสงฆ์
ไม้กางเขน คือ ความหวังของคนหมดหวัง
ไม้กางเขน คือ อิสรภาพของคนบาป
ไม้กางเขน คือ ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าแผ่นดิน
ไม้กางเขน คือ ธารน้ำทรงชีวิต
ไม้กางเขน คือ การบรรเทาใจคนทุกข์ทรมาน
ไม้กางเขน คือ การกระหายน้ำทรงชีวิต
ไม้กางเขน คือ การนุ่งห่มของคนไม่มีเสื้อผ้าสวมใส่



ข้าแต่พระบิดา
เราขอบพระคุณพระองค์
ที่ทรงประทานไม้กางเขนแก่เรา
อาแมน



เวบไหนก็ไม่รู้อะ เอามานานแล้ว โทดนะ จำเวบไม่ได้จริงๆ
Invy
โพสต์: 137
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ส.ค. 07, 2007 1:00 am
ที่อยู่: ปทุมธานี
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ต.ค. 04, 2007 3:58 am

ลึกซึ้งจริงๆครับ ขอบคุณฮะ :cheesy:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Edwardius
โพสต์: 1392
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 3:02 pm
ที่อยู่: Lamphun, Thailand

พฤหัสฯ. ต.ค. 04, 2007 6:49 pm

ไม้กางเขนโบราณนั้น...
Marie Antoinette
โพสต์: 626
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 8:07 pm
ที่อยู่: bkk

พฤหัสฯ. ต.ค. 04, 2007 7:03 pm

ชอบรูปของเจ๊ฟิมจังอ่ะ มองแล้ว    เปรียบดั่งสาวน้อยวัยใส น่ารัก และแสนหวาน  :angel: :angel:
Nativity
โพสต์: 766
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 15, 2005 3:31 pm
ที่อยู่: Peace in sinner

พฤหัสฯ. ต.ค. 04, 2007 8:02 pm

สาวน้อย    :huh:
อยากเห็นตัวจริงจัง
Marie Antoinette
โพสต์: 626
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 8:07 pm
ที่อยู่: bkk

พฤหัสฯ. ต.ค. 04, 2007 8:10 pm

Windstruck เขียน: สาวน้อย    :huh:
อยากเห็นตัวจริงจัง
คนเรานะทำไรมักจะเอาสิ่งที่คล้ายๆตัวเองใส่ลงไปด้วย เจ๊ฟิมก็คงจะเป็นอย่างนั้นแหละ อย่าคิดมาก :grin: :grin:
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

พฤหัสฯ. ต.ค. 04, 2007 11:04 pm

melis เขียน:
Windstruck เขียน: สาวน้อย    :huh:
อยากเห็นตัวจริงจัง
คนเรานะทำไรมักจะเอาสิ่งที่คล้ายๆตัวเองใส่ลงไปด้วย เจ๊ฟิมก็คงจะเป็นอย่างนั้นแหละ อย่าคิดมาก :grin: :grin:
โถ แม่คุณ ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย 555+
ตอบกลับโพส