Belong to the Truth Jesus Christ

ก็ไม่ถึงกับตามกระแส แต่ก็รู้ว่าเป็นวันแห่งความรักครับ

นักบุญวาเลนไทน์...



ข้าแต่พระเป็นเจ้า พระองค์โปรดให้นักบุญวาเลนไทน์เป็นแบบอย่างและกำลังใจแก่พวกเราในเรื่องของความเชื่อ และความรักที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ โดยอาศัยแบบอย่างจากท่านที่มั่นคงต่อพระผู้เป็นเจ้าสูงสุด ทำให้เราได้มีเวลาสวดภาวนามากขึ้น และยึดมั่นในความเชื่อต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าหนึ่งเดียวตลอดไปด้วยเทอญ อาแมน. 

ไม่เข้าใจเล้ยพวกที่คิดว่าวันวาเลนไทน์คือ "วันเสียตัวแห่งชาติ"

พวกที่จะเสียตัว มันก็มีได้ทุกวี่ทุกวันนั่นแหละ จะวันพระวันเพ็ญหรือวันอะไร ๆ ตราบที่มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ผสมพันธุ์ได้ไม่กำหนดฤดู วันเสียตัวแห่งชาติก็คือ 365 วันนั่นแหละ

มันก้อต้องมีคนขึ้นบ้างละ
ก้อลิฟต์มันไม่ได้ปิดนิ
ม่ายรู้ดิ ไม่เคยไปตึกศิลป์ศาสตร์ ท่าพระจันทร์

บ้าเห่อกระแสตะวันตก มากเกินไป...

เป็นวันแห่งความรักวันนึงซึ่งมีข้อเสียที่เยอะกว่าข้อดีมุ้งเน้นแต่เรื่องหาแฟนและค่านิยมผิดๆ

ส่วนใหญ่คิดถึงความรักแบบหนุ่มสาว โดยลืมความรักแบบพ่อแม่ เพื่อน พี่น้อง

และคนส่วนมากไม่รุ้ความหมายที่แท้จริง

เนื่องจากวันวาเลนไทน์ถือเป็นส่วนหนึ่งของคริสตศาสนา
เมื่อเกิดความเข้าใจและท่าทีที่ไม่ถูกต้องต่อวันวาเลนไทน์ในประเทศไทย
ทำให้เกิดภาพพจน์ของคนไทยต่อคริสตศาสนาในทางลบ
แม้คนที่ทำเสียส่วนใหญ่จะไม่ใช่คริสตชนก็ตาม

สิ่งที่เกิดขึ้นคือคนไทยส่วนหนึ่งที่ไม่รู้จักพระเจ้า
ตัดสินศาสนาคริสต์จากวันวาเลนไทน์ไปเรียบร้อยแล้วว่า...

1. พวกคริสต์=พวกฝรั่ง / พวกฝรั่ง=พวกเพศเสรี ดังนั้น พวกคริสต์=พวกเพศเสรี
เป็นผลให้เกิดความคิดที่ว่า...
2. การมานับถือคริสต์=คล้อยตามวัฒนธรรมฝรั่ง / คล้อยตามวัฒนธรรมฝรั่ง=เสื่อมเสียต่อวัฒนธรรมไทย

ซึ่งจริงๆ แล้วมันคนละเรื่องกันเลย คนต่างศาสนาที่เข้าใจผิด อยากให้เข้าใจใหม่ว่า...

1. ฝรั่งทุกคนไม่ใช่ชาวคริสต์ และ ชาวคริสต์ทุกคนไม่ใช่ฝรั่ง แต่พระเจ้าเป็นพระเจ้าของชนทุกชาติ
2. การรู้จักกับพระเจ้าถือเป็นความจำเป็นของมนุษย์ทุกคน ไม่เกี่ยวกับเรื่องวัฒนธรรม
3. ประเพณีหรือวัฒนธรรมไม่ว่าของชาติใดที่ไม่ขัดต่อน้ำพระทัยของพระเจ้า และไม่เป็นซูแปติซัง
คริสตชนเราสนับสนุนให้เจ้าของวัฒนธรรมธำรงรักษาไว้ และใช้วัฒนธรรมเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า
แต่ถ้าวัฒนธรรมใดที่ขัดฯ เราต้องเลือกน้ำพระทัยของพระเจ้าก่อน
4. คริสตชนถือว่าการกระทำ(การล่วงประเวณี)ของบางคนในวันวาเลนไทน์ เป็นบาปร้ายแรง

เท่าที่เคยทราบ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เหมือนกับว่าพระศาสนจักรจะให้ความสำคัญกับนักบุญซีรีล มากกว่าเสียอีก
http://www.catholic.org/saints/saint.php?saint_id=39

เพ้อเจ้อดีครับ

ขึ้นเป็นปรกติสุขครับ แต่ย่างที่บอกว่า มันอาจจะไม่จริงก็ได้ สมัยนั้น อาจไม่มีลิฟ

ขอให้ร่ำรวยกันทุกคนนะครับ

เช่นกันน้าคร้าบบบบบบ  อิอิ
ขอพระเจ้าอวยพรครับ

Isolation เขียน: ขอให้ร่ำรวยกันทุกคนนะครับ

เช่นกันครับ ขอให้ร่ำรวย พระพรของพระเจ้านะฮะ

ขอพระเจ้าอวยพรครับ

เดี๋ยวก่อนนะ

วันวาเลนไทน์จริงๆมันเป็นเหมือนเทศกาลที่มีอิทธิพลมาจากฝั่งอเมริกามากกว่าป่ะ

คือในยุโรป อย่างเดนมาร์ก หรือ ยุโรปเหนือ ไม่เห็นเค้าจะอะไรกันมากเลย ???

ซินเจี่ยยู่อี่เป็นหนี้ต้องใช้ รวยๆกันทั่วๆหน้าคับ

Deo Gratias เขียน: เนื่องจากวันวาเลนไทน์ถือเป็นส่วนหนึ่งของคริสตศาสนา
เมื่อเกิดความเข้าใจและท่าทีที่ไม่ถูกต้องต่อวันวาเลนไทน์ในประเทศไทย
ทำให้เกิดภาพพจน์ของคนไทยต่อคริสตศาสนาในทางลบ
แม้คนที่ทำเสียส่วนใหญ่จะไม่ใช่คริสตชนก็ตาม

สิ่งที่เกิดขึ้นคือคนไทยส่วนหนึ่งที่ไม่รู้จักพระเจ้า
ตัดสินศาสนาคริสต์จากวันวาเลนไทน์ไปเรียบร้อยแล้วว่า...

1. พวกคริสต์=พวกฝรั่ง / พวกฝรั่ง=พวกเพศเสรี ดังนั้น พวกคริสต์=พวกเพศเสรี
เป็นผลให้เกิดความคิดที่ว่า...
2. การมานับถือคริสต์=คล้อยตามวัฒนธรรมฝรั่ง / คล้อยตามวัฒนธรรมฝรั่ง=เสื่อมเสียต่อวัฒนธรรมไทย

ซึ่งจริงๆ แล้วมันคนละเรื่องกันเลย คนต่างศาสนาที่เข้าใจผิด อยากให้เข้าใจใหม่ว่า...

1. ฝรั่งทุกคนไม่ใช่ชาวคริสต์ และ ชาวคริสต์ทุกคนไม่ใช่ฝรั่ง แต่พระเจ้าเป็นพระเจ้าของชนทุกชาติ
2. การรู้จักกับพระเจ้าถือเป็นความจำเป็นของมนุษย์ทุกคน ไม่เกี่ยวกับเรื่องวัฒนธรรม
3. ประเพณีหรือวัฒนธรรมไม่ว่าของชาติใดที่ไม่ขัดต่อน้ำพระทัยของพระเจ้า และไม่เป็นซูแปติซัง
คริสตชนเราสนับสนุนให้เจ้าของวัฒนธรรมธำรงรักษาไว้ และใช้วัฒนธรรมเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า
แต่ถ้าวัฒนธรรมใดที่ขัดฯ เราต้องเลือกน้ำพระทัยของพระเจ้าก่อน
4. คริสตชนถือว่าการกระทำ(การล่วงประเวณี)ของบางคนในวันวาเลนไทน์ เป็นบาปร้ายแรง

ถ้าคนมันยอมเชื่อ ยอมฟัง ยอมเข้าใจ ล่ะก็นะ

พระพร ไหลมา เทมา 

เทศกาลนี้ฮอตฮิตในเอเชีย โดยเฉพาะ ญี่ปุ่นไปซะแล้ว

ทุกวันนี้มองมันเป็นวันธรรมดาอ่ะ
ส่วนใหญ่ชอบตีค.หมายกันผิดๆ 

เฮง ๆทุกคนคร้าบ ภาพใช้มือถือถ่ายอะ

พอดีผมเรียนนิเทศอะ ถ้าจะสอบทนายนี่ต้องจบนิติศาสตร์อย่างเดียวเลยใช่เปล่า
แล้วก็ เรียนนิเทศ สามารถทำงานที่เกี่ยวกับกฏหมายได้บ้างไหม 

เมื่อวานมะได้เข้าฮะ

อวยพรวันนี้

新正如意 新年发财.+圣华伦泰日快乐. นะค้าบบทุกๆคนเลยยยย ^w^

จะสอบใบอนุญาตว่าความต้องจบนิติศาสตร์เท่านั้นครับผม
เรียนนิเทศ ถ้าจะทำเกี่ยวกับกฎหมายเหรออืม.... คงยาก อ่ะจ้า เพราะกฎหมายเป็นเสมือนวิชาชีพเฉพาะด้าน เหมือนหมอ อ่ะครับ ต้องการคนที่จบโดยตรงมาทางนี้เท่านั้น
ถ้าชอบกฎหมายทำไมไม่เรียนนิติศาสตร์ไปเลยล่ะครับ ถ้าชอบ อะไร ๆ ก็ทำได้ทั้งนั้น ^^

๑. ใบอนุญาตว่าความ หรือ ตั๋วทนาย
ตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. ๒๕๒๘
มาตรา ๓๕ ผู้ขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
(๑) มีสัญชาติไทย
(๒) อายุไม่ตํ่ากว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ในวันยื่นคำ ขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาต
(๓) สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรืออนุปริญญาทางนิติศาสตร์หรือประกาศนียบัตรในวิชานิติศาสตร์ ซึ่งเทียบได้ไม่ตํ่ากว่าปริญญาตรีหรืออนุปริญญาจากสถาบันการศึกษา
ซึ่งสภาทนายความเห็นว่าสถาบันการศึกษานั้น มีมาตรฐานการศึกษาที่ผู้ได้รับปริญญาตรีหรืออนุปริญญาหรือประกาศนียบัตรควรเป็นทนายความได้ และเป็นสมาชิกแห่งเนติบัณฑิตยสภา
(๔) ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือบกพร่องในศีลธรรมอันดีและไม่เป็นผู้ได้กระทำ การใดซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่น่าไว้วางใจในความซื่อสัตย์สุจริต
(๕) ไม่อยู่ในระหว่างต้องโทษจำ คุกโดยคำ พิพากษาถึงที่สุดให้จำ คุก
(๖) ไม่เคยต้องโทษจำ คุกโดยคำ พิพากษาถึงที่สุดให้จำ คุกในคดีที่คณะกรรมการเห็นว่าจะนำ มาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ

๒. การเป็นสมาชิกเนติฯ
ระเบียบเนติบัณฑิตยสภา ว่าด้วยการสมัครเป็นนักศึกษาในสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา เพื่อเป็นสมาชิกเนติบัณฑิตยสภา
๑. คุณสมบัติ ผู้เป็นนักศึกษาในสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภาต้องเป็น
๑.๑ ผู้สอบไล่ได้ปริญญาตรีทางนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัยรามคำแหงขึ้นไป
๑.๒ ผู้ที่ได้ศึกษาวิชานิติศาสตร์ในสถาบันอื่นในหรือนอกประเทศไทย และสอบไล่ได้ตามมาตรฐานซึ่งคณะกรรมการอำนวยการอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภาเทียบให้ไม่ต่ำกว่าวิทยฐานะดังกล่าวใน ข้อ ๑.๑


สรุป...ถ้าจะทำงานด้านกฎหมายก็ต้องจบนิติศาสตรบัณฑิต เท่านั้นครับ
เพราะวิชาชีพนิติศาสตร์ เป็น "วิชาชีพ" ไม่ใช่ "อาชีพ"
ซึ่งวิชาชีพนี้สงวนเอาไว้สำหรับผู้ศึกษามาแล้วในระดับหนึ่งครับ

ปล. ผมน่าจะไม่ไปสอบภาคปฏิบัติตั๋วทนาย เพราะอ่านหนังสือ ป.ตรี ไม่ทัน ฮ่าา

ปล. ถ้าชอบจริงๆ แนะนำให้เอาทรานสคริป ของมหาวิทยาลัยปัจจุบัน (ที่จบแล้ว) ไปขอเทียบนิติศาสตร์ ม.รามฯ อ่ะครับ
เพื่อให้สามารถจบ น.บ. ได้ภายในปีสองปี (ผมใช้วิธีนี้กับ เศรษฐศาสตร์ ม.รามฯ) ถ้าตั้งใจจริงๆ ก็จะจบออกมามีศักดิ์และสิทธิ์ประกอบวิชาชีพได้เหมือนๆ กันครับ

วันแห่งความรักไม่จำเป็นต้องแค่วาเลนไทน์ 

^
^

ยังไม่จบตรีก็สอบภาคทฤษฎีได้แระเหรอ เจ๋งแฮะ พี่เพิ่งคิดจะมาทางนี้ก็ตอนจบมา 1 ปี เอิ๊ก ๆ

ปล. ลงสอบภาคปฏิบัติมา 3 รอบแระ ไม่ผ่านสักทีมีเหตุให้ไม่ได้อ่านหนังสือตลอด T^T

Immanuel (MichaelPaul) เขียน: ^
^

ยังไม่จบตรีก็สอบภาคทฤษฎีได้แระเหรอ เจ๋งแฮะ พี่เพิ่งคิดจะมาทางนี้ก็ตอนจบมา 1 ปี เอิ๊ก ๆ

ปล. ลงสอบภาคปฏิบัติมา 3 รอบแระ ไม่ผ่านสักทีมีเหตุให้ไม่ได้อ่านหนังสือตลอด T^T

ไม่ได้คิดจะไปทางนั้นหรอกฮะ ไม่มีฝีมือพอ แต่จะสอบเก็บไว้เชยชม ฮ่าาา

ปล. ที่มหาลัยผมจะสอบกันตอนจบปีสามอ่ะครับ เป็นปกติๆ แต่...ผมน่าจะไม่ผ่าน เลยไม่ไปสอบดีก่าาาาา เอาไว้โอกาสหน้า เหอๆ