พวกแบ่งแยกสีผิวนี่มันช่าง.....

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
Dis volentibus

จันทร์ ธ.ค. 01, 2008 11:54 pm

Phulasso เขียน:
บ่ใช่
โปปที่เป็นชาวอาฟริกัน มีสามองค์คือ
Pope Victor I (189 to 199)
Pope Miltiades (310/311 to 314)
Pope Gelasius I (492 to 496)

ทั้งสามเป็นชาว Berber องค์ที่ผิวคล้ำที่สุดน่าป็น ST. Miltiades
เอกสารบางฉบับบอกว่า ท่านไม่ได้เป็นผิวสี  เเม้จะ บอร์น อิน เเอฟริกา
Phulasso
โพสต์: 1236
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 24, 2006 10:18 am
ที่อยู่: Thailand

อังคาร ธ.ค. 02, 2008 11:13 am

†Ecclēsia เขียน:
Phulasso เขียน:
บ่ใช่
โปปที่เป็นชาวอาฟริกัน มีสามองค์คือ
Pope Victor I (189 to 199)
Pope Miltiades (310/311 to 314)
Pope Gelasius I (492 to 496)

ทั้งสามเป็นชาว Berber องค์ที่ผิวคล้ำที่สุดน่าป็น ST. Miltiades
เอกสารบางฉบับบอกว่า ท่านไม่ได้เป็นผิวสี  เเม้จะ บอร์น อิน เเอฟริกา
แม่นจ้า อย่าง St Gelasius นั้นเป็นคนโรมันที่เกิดในอาฟริกา
แต่อย่างที่พี่พลายแก้วบอกไว้น่ะ
ลองดูรูปคน Berber เองว่าเขาผิวคล้ำนะ ไม่ใช่ ฝรั่งคอเคซอยด์ caucasoid  white race แท้
คงผสมอาฟริกาบ้าง อย่างพวกโปรตุเกสตอนใต้ ก็ไม่ได้ขาวจั๊ว
Pry-Kaew เขียน: อเมริกา จะบอกให้ หากเราไม่ใช่คนผิวขาวฝรั่งนะ ไปวัด ร่วมมิซซา มันก็ไม่ถือเราเป็นมนุษย์เท่ากับมัน ผมไปเมกาสี่ปี ไปวัดต้องเจอการเหยียดผิวทุกครั้ง หากใครคิดอยู่ต่อ ต้องเจอเหยียดผิวในวัดจนวันตาย บ้าหรือเปล่า แบบนี้มันไม่ใช่ความรักหรอก ตามธรรมเนียมของคนกระเหรี่ยง(คนผิวเหลือง)ในเมกา เราต้องหลบ เลี่ยง ถิ่นฝรั่ง เพื่อไม่ให้เจอสิ่งเหล่านี้ แต่.....หากวัดคาทอลิกเป็นถิ่นฝรั่งที่คริสตัง(ซึ่งเป็นลูกของพระ)ไม่มีสิทธร่วมมิซซา แล้วชีวิตความเชื่อจะดำเนินได้เช่นไร วัดคาทอลิก และพระเจ้า เป็นของคนทุกคนครับ ผมเชื่อในพระฯ ของให้พระเจ้าทรงแก้ไขปัญหา(ทุกอย่างที่มาจากฝรั่งใจดำในโลก และในวัดสร้างปัญหา)ให้คลี่คลาย  และให้พวกมันเลิกคิดว่าตัวมันคือเทวดา และกระเหรี่ยงคือสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่คนด้วยเถิด อาเมน
เรื่องปกติ เรื่องชาตินิยมผิวนิยม ช่างเขาเถอะ
พวกกบในกะลา พวกนี้ถ้าเคยมาเมืองไทยจะไม่กล้าแสดงอาการอย่างน้หรอก
เห็นมาเยอะแล้ว เขาไม่เคยไปไหน โลกแคบก็คิดว่า สีขาวดีที่สุด
ต้องให้ความรู้ และคุยกับเขาแบบ เสมอภาคทางปัญญา

เพื่อนเล่าให้ฟังว่า อเมริกันมาทำงานด้วยให้ทำรายงานส่ง (คนไทย)
เขาเขียนแล้วแอบไปให้คนดัชช์ ตรวจแก้ให้ก่อนส่ง
พอมาดูระดับการศึกษาแล้ว เขากลัวจนตัวสั่นเชียวแหละ  :grin:
Pry-Kaew
โพสต์: 959
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 29, 2005 3:03 pm
ติดต่อ:

อังคาร ธ.ค. 02, 2008 11:55 pm

~@Little lamb@~ เขียน:
Pry-Kaew เขียน: อเมริกา จะบอกให้ หากเราไม่ใช่คนผิวขาวฝรั่งนะ ไปวัด ร่วมมิซซา มันก็ไม่ถือเราเป็นมนุษย์เท่ากับมัน ผมไปเมกาสี่ปี ไปวัดต้องเจอการเหยียดผิวทุกครั้ง หากใครคิดอยู่ต่อ ต้องเจอเหยียดผิวในวัดจนวันตาย บ้าหรือเปล่า แบบนี้มันไม่ใช่ความรักหรอก ตามธรรมเนียมของคนกระเหรี่ยง(คนผิวเหลือง)ในเมกา เราต้องหลบ เลี่ยง ถิ่นฝรั่ง เพื่อไม่ให้เจอสิ่งเหล่านี้ แต่.....หากวัดคาทอลิกเป็นถิ่นฝรั่งที่คริสตัง(ซึ่งเป็นลูกของพระ)ไม่มีสิทธร่วมมิซซา แล้วชีวิตความเชื่อจะดำเนินได้เช่นไร

วัดคาทอลิก และพระเจ้า เป็นของคนทุกคนครับ ผมเชื่อในพระฯ ของให้พระเจ้าทรงแก้ไขปัญหา(ทุกอย่างที่มาจากฝรั่งใจดำในโลก และในวัดสร้างปัญหา)ให้คลี่คลาย  และให้พวกมันเลิกคิดว่าตัวมันคือเทวดา และกระเหรี่ยงคือสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่คนด้วยเถิด อาเมน

พี่แก้ว... อภัยค่ะ  อภัย

พี่อภัยตั้งนานแล้ว แต่ติดปัญหาสามัคคีธรรมไม่ได้ ไม่สามารถร่วมห้องเรียนคำสอนได้ ดำเนินชีวิตความเชื่อไม่ได้แน่ๆ พวกเวียดนาม เกาหลี เขาเจอปัญหาตรงนี้ เขาไปเปิดวัดคาทอลิกเอง เพื่อรักษาความเชื่อไว้ และดำเนินชีวิตคริสตชนได้ตามปกติตามมนุษย์ปกติ(คริสตัง)ทั่วไปได้ แต่.......คนไทยในประเทศไทย ก็เป็นคริสตชนน้อยอยู่แล้ว ไปเมืองนอก ในชุมชนคนไทย เราเป็นคนเดียวที่เป็นคริสตชน(ที่ยังไปวัดอยู่ ลองคุณเจอมันมองคุณเหมือนขึ้ทุกครั้งเวลาไปร่วมมิซซาสิ ยังจะมีความเชื่ออยู่หรือเปล่า) พี่เห็นคริสเตียนไทย และคริสตังไทย ทึ้งความเชื่อ ซ้ำร้ายบางคนเปลี่ยนไปนับถือศาสนาพุทธ(เพราะชุมชนคนไทยในเมกา มีวัดพุทธไทย)มาเป็นสิบแล้ว ก็เพราะเรื่องในวัดคาทอลิกนี้แหละ(คริสเตียนยังดี ยังเข้าโบสถ์ลาวได้ แต่คริสตังไทย ต้องไปเข้าวัดเวียดนาม แต่ฟังภาษาเวียดนามไม่ออก สุดท้ายก็ต้องจำใจ มาถูกฝรั่งมองเป็นก้อนขึ้ และมาร่วมมิซซาในวัดฝรั่ง เพราะฟังออก แค่นั้นเอง)

น้องจิงจิง หากน้องเข้าวัดแล้ว คนมองน้องเป็นก้อนขึ้กองหนึ่ง(จนวันตาย)  น้องจะดำเนินความเชื่ออย่างไรครับ  ทุกวัดเป็นเหมือนกันหมด สัญชาติญานกระเหรี่ยงในถิ่นไอ้ขาว(ฝรั่ง) ต้องหลีกเลี่ยงไม่ไปเสือกในถิ่นไอ้ขาวให้มันต้องดูถูกเหยียดหยาม แต่.....วัดคาทอลิกดันผ่าเป็นถิ่นพวกมันเนี่ยสิ Kuจะทำอย่างไรดีครับ

มันไม่เกี่ยวกับการให้อภัยหรอก แต่มันดำเนินชีวิตความเชื่อไม่ได้เลยนะครับ พี่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ฝรั่งลูกค้าพี่ ฝรั่งเพื่อนพี่ และฝรั่งอาจารย์พี่ ไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย ไอ้เรื่องแบบนี้ กลับเกิดขึ้น(แบบไม่ยอมแพ้ จนกว่ามรึงจะไปให้พ้นจากวัดคาทอลิกกู)จากคริสตังฝรั่งนั้นเอง ไม่ต่างจากพวก KKKเลย

หากเราเป็นคริสตังไทยนะ พี่แนะนำเลยนะ หากจะไปเรียน หรือไปเป็นโรบินฮู้ด และฯลฯ อย่าได้ไปเหยียบรัฐทางใต้ของเมกาเป็นอันขาด(โดยเฉพาะอย่างยิ่งTexas) และหากเลี่ยงได้ ไปพวกประเทศที่เป็นประเทศคาทอลิกดีกว่า(สเปน ฝรั่งเศล อิตาลี หรือแม้กระทั่งประเทศแองคลีกัน อาทิเช่น ออสเตรีเลีย และนิวซีแลนต์ เพราะมีกฎหมายคุ้มครองเรื่องการกีดกันดีสีผิวอยู่ ฯลฯ) แม้นว่าประเทศเหล่านั้นอาจจะเหยียดคนกระเหรี่ยง แต่คงไม่ลามไปในวัดแน่นอน คนไอ้กันมันหัวดื้อและหยิ่งในตัวเองยิ่งกว่าบินลาเดน เสียอีก จะบอกให้

อ้อ......คนไทยในต่างแดน 99.99% ไม่เข้าใจ ไม่รับฟัง และไม่มีวันรับรู้สิ่งที่เราเจอหรอก เพราะพวกนั้นเป็นคนไทยพุทธหมด พวกนั้นมีวัดไทย คนไทย และพระสงฆ์พุทธไทย ในร่วมกิจกรรมและดำเนินความเชื่อ ดังนั้นต่อให้เขาอยู่เมืองนอกมานานแค่ไหน ลำบากเพียงใด ก็ไม่มีวัน ไม่มีทางเข้าใจ และไม่ได้เข้าใจด้วย ในการกดขี่ กีดกัน ดูหมิ่น เหยียดหยาม และถูกมองเป็นก้อนขึ้เวลาไปขอสามัคคีธรรมและเรียนคำสอน เพราะเขาเหล่านั้น มีวัดไทยพุทธ พระสงฆ์ไทยพุทธ และมีการเรียนพระธรรมตรี โท เอก และกิจกรรมส่งเสริมความศรัทธาในวัดไทย จนไม่รู้ว่า การกีดกันทางศาสนาและความเชื่อ ที่เกิดจากสีผิวและเชื่อชาตินั้น(คริสเตียนไทยยังมีคริสตจักรลาว คริสตจักรไทย ให้เข้า)แต่คริสตังไทย หมดสิทธิเลยครับท่าน ฝรั่งมองเป็นก้อนขึ้สกปรกทุกครั้งเวลาไปร่วมมิซซา เรียนคำสอน และไม่ยอมให้สามัคคีธรรม

อยากให้โป๊ปรู้เรื่องพวกนี้จัง แต่ท่านคงไม่สนก้อนขึ้(ในสายตาฝรั่ง)แต่เป็นลูกของพระในสายตาพระเยชูเจ้าและแม่พระหรอก(พระเยชูเจ้ามอบกุญแจสวรรค์ไว้กับโป๊บ ทุกคนคือลูกของพระ และโป๊ปคือพระเยชูเจ้าบนพื้นพิภพนี้ที่พระเป็นเจ้าและแม่พระ มอบความชอบธรรมให้แก่พื้นพิภพ ในการปกครองลูกของพระเยชูเจ้า) แต่ทำไมหนอ ไม่ยอมให้คริสตังกระเหรี่ยง สามารถดำเนินชีวตความเชื่อโดยปกติได้ แไม่ถูกมองเป็นก้อนอุจจาระสกปรกรกพื้นที่วัด จากสายตาฝรั่งที่บอกว่าตัวเองเป็นคริสตัง แต่มองคนที่ไม่ใช่ฝรั่งเป็นเพียงก้อนขึ้ จนสามารถร่วมมิซซา เรียนคำสอน และดำเนินชีวิตคริสตังได้อย่างคริสตชนคาทอลิกปกติเขาทำกัน

ไม่ได้เกี่ยวกับความโกรธจนต้องให้อภัย หรือเกิดจากความยึดติด จนต้องปล่อยวาง แต่ในเมื่อชีวิตคริสตัง มันไม่สามารถดำเนินได้ในสังคมแบบนั้น(99.99% ของคนไทยในเมกา ไม่เข้าหรอก ว่าการถูกกีดกันทางพิธีกรรม ศาสนาและความเชื่อ รวมทั้งด้านสามัคคีธรรม มันเป็นอย่างไร แม้นว่าพวกเขาจะลำบากขนาดไหนก็ตาม กระเหรี่ยงไทยพุทธ ไม่เคยเจอการถูกกระทำแบบกระเหรี่ยงไทยคริสตังเจอหรอก เพราะพวกเขามีวัดไทยพุทธ  พระสงฆ์ไทยพุทธ และชุมชนไทยพุทธ) จะไปอยู่ทำKuayอะไร เงินก็ได้น้อย อนาคตตรงนั้นก็ไม่มี วัดคาทอลิก็เหยียดผิว เรียนก็ไม่รุ่ง(เพราะกูไม่รวยเหมือนเกาหลีนี้หว่า เรียนด้วยทำงานด้วย ก็จะตายอยู่แล้ว ไม่มีเวลาส้นตีนมาทบทวนเหมือนพวกเกาหลีที่ว่างแล้วมาทบทวนหรอก) กินก็ไม่ค่อยจะมี สังคมก็กีดกันสีผิว สัตบุรุษไอ้กันก็ชอบคิดว่าพระเจ้า เป็นของคนขาวเท่านั้น ทำงานก็ต้องลักลอบทำ(เพราะวีซ่าผมห้ามทำงาน) เงินหาได้ก็แค่ซื้อข้าวกิน จ่ายค่าน้ำมัน จ่ายค่าห้อง จ่ายค่าเทอม(หากไม่ไปเรียน ตม.จะมาจับตัว และกระทืบจนซี่โครงหักก่อนจับเข้าห้องขัง ใครจะมาช่วย) วัดคาทอลิกก็มองเราเป็นก้อนขึ้กองหนึ่ง ไม่ได้มองเราเป็นมนุษย์ แล้วแบบนี้ ชีวิตกาย(และชีวิตความเชื่อต่อพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก
)จะดำเนินต่อไปอย่างไรครับ

ลำบากผมไม่เคยกลัวเลย แต่ลำบากแล้วไม่มีอนาคต ไม่มีเงิน ไม่มีหวัง และไม่สามารถดำเนินชีวิตความเชื่อได้ตามปกติ รวมทั้งประกอบกิจศรัทธาได้(เนื่องจากการเหยียดผิว และกระเหรี่ยงคือก้อนขึ้ในวัดคาทอลิกเมกัน) จะทำอย่างไรครับ(ไปๆมาๆ มันโหดร้ายยิ่งกว่าประเทศที่ปกครองด้วยระบบคอมมิวนิสด์อีก)

อยากถามจริงๆเหอะ จะมีคริสตังไทยกี่คนที่เจอแบบผมเจอ ทนแบบผมจำทนในวัด อ้อ.......ส่วนใหญ่พวกคุณคงไปยุโรปหรือไม่ก็ออสซี่กัน เพราะมีเงินกันนิ ใช่ไหมครับ

ขอบคุณครับ เล่าให้ฟังแค่นี้แหละ พวกคุณไม่มีวันเข้าใจสิ่งนี้จนวันตายหรอก เพราะพวกคุณมีเงิน และอยู่ในสังคมคริสตัง และไม่เคยถูกกระทำเรื่องความเชื่อ(ทั้งในครอบครัว สังคม และชีวิตส่วนตัว) ต่อให้คุณไปเมืองนอก คุณก็ไปในประเทศ(หรือรัฐ)ที่ไม่ต้องเจอเรื่องแบบนี้ แม้นว่าบางคนจะอ้างว่าเคยไปเมกา แต่คุณไม่เคยไปเจอการเหยียดผิว ไม่เคยไปหาเช้ากินค่ำ ไม่เคยถูก ตม.ข่มขู่เรืองวีซ่าและการลักลอบทำงาน(เพียงแค่หาเงินซื้อข้าวกิน กูผิดหรือไงว่ะ) ไม่เคยถูกมองเป็นก้อนขึ้เวลาร่วมมิซซา(จนต้องจำใจเกือบทึ้งวัด เพราะไม่สามารถดำเนินชีวิตความเชื่อได้ ทั้งด้านพิธีกรรม สังคม และฯลฯ)

คอมมิวนิสด์และเผด็จการฟาซิลม์ ยังแพ้ความใจร้าย ใจดำ และเลือดเย็น ของคนอเมริกันจริงๆ(มองคนเป็นก้อนขึ้ไม่ใช่คนเหมือนเขา เพียงแค่เขาอยากใกล้พระ ร่วมมิซซา แก้บาป รับศีล กลับมองว่าเขาเป็นกระเหรี่ยงหัวดำ มาเสือกเหยียบถิ่นไอ้ขาว วัดคาทอลิกของลูกพระเยชูเจ้า ไม่ใช่หรือ?????)

หากเรื่องเวรกรรมมันมีจริงๆคงดีเน้อ และหากอำนาจโป๊ปสามารถบังคับคริสตังเมกันได้ คงดีเน้อ และ.....................หากพระเยชูเจ้า(และแม่พระ)มอบอำนาจให้โป๊ปแล้ว ใยจึงให้คริสตังผิวขาว เหยียดย่ำ กีดกัน และดูหมิ่นความศรัทธาคริสตชนผิวเหลือง ว่าเป็นเพียงก้อนอุสจาระ ที่มาเกะกะในวัดคาทอลิก(อันเป็นพระนิเวศของพระเจ้า) ใยจึงให้คนใจร้าย ข่มเหงคนรักพระล่ะ(ไม่เกี่ยวกับการให้อภัยและปล่อยว่างนะ แต่เป็นเรื่องของการไม่สามารถดำเนินชีวิตความเชื่อได้ จากการกีดกันต่างๆ)

กระทู้นี้เล่าให้ฟังเฉยๆ ในสิ่งที่พวกคุณไม่มีวันเจอตั้งแต่คุณเกิดยันคุณตาย ขอบคุณครับ

ขอพระอวยพรครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

พุธ ธ.ค. 03, 2008 12:20 am

พวกเขาก็เป็นลูกพระเหมือนกันพี่ 

ท่องไว้พี่  รักศัตรู  ๆ ๆ ๆ

แม้จะยาก  ก็ต้องพยายามน๊าาาา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Edwardius
โพสต์: 1392
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 3:02 pm
ที่อยู่: Lamphun, Thailand

พุธ ธ.ค. 03, 2008 4:42 am

พี่พลายจ๋า พี่อคติไปป่าวค้าบบ

ผมไป San Antonio ไม่เห็นมีอย่างพี่ว่าเลย

หรือว่าต่อมรับการเหยียดหยามผมจะฝ่อ 555++

ปล. แต่ที่ผมไปมาน่ะ Hispanic เยอะว่า คนขาวอ่ะ

ปล2. ไปวันฉลองอะไรซักอย่างช่วงอีสเตอร์ เจอนักบาสของสเปอร์ด้วย
Pry-Kaew
โพสต์: 959
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 29, 2005 3:03 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ธ.ค. 04, 2008 12:34 am

Edwardius เขียน: พี่พลายจ๋า พี่อคติไปป่าวค้าบบ

ผมไป San Antonio ไม่เห็นมีอย่างพี่ว่าเลย

หรือว่าต่อมรับการเหยียดหยามผมจะฝ่อ 555++

ปล. แต่ที่ผมไปมาน่ะ Hispanic เยอะว่า คนขาวอ่ะ

ปล2. ไปวันฉลองอะไรซักอย่างช่วงอีสเตอร์ เจอนักบาสของสเปอร์ด้วย

หากไปในถิ่นที่มีคนเม็กซิกัน(Histanic)เยอะ ไอ้ขาว(ฝรั่ง)จะเกรงใจ และกลัวเกรงคนเม็กซิกัน และคนเอเชียนครับ อ้อ.....น้องอยู่ไม่นาน(คาดว่าไม่เกินเดือน) และไปแบบสบายๆใช่ไหมครับ(โดยไม่ต้องไปทำงานหาเงินเพื่อมิให้อดตาย และมีเงินเติมน้ำมัน เพื่อให้เดินทางได้ และจ่ายค่าเทอมด้วยตัวเอง เพื่อมิให้ถูก ตม.เอาพี่เข้าคุก น้องไปไม่นาน ไปแบบสบาย หรือไปแบบกลุ่มชนชาวคริสตังที่เดินทางจากเมืองไทยไปที่นู้น สบายกว่าพี่เยอะครับ แค่บอกว่าได้เจอนักบาสฯ ก็รู้แล้วว่าไปแบบคนมีเงิน เพราะปกติ แค่ไปเรียน และทำงานเพื่อให้มีเงินใช้(เพียงหยิบมือ)ก็ไม่เห็นดวงเห็นตะวันแล้ว

บอกแล้วว่าพวกคุณต่อให้ไปเมกา ต่อให้ไปรัฐที่ผมอยู่ เมืองที่ผมเคยใช้ชีวิต ก็ไม่มีวันรับรู้สิ่งที่ผมเจอหรอก ดูจาก คคห.หลายคนแสดงความคิดเห็นแล้ว ชัดเจนเปลี่ยนเลยครับ

ผมไม่พูดอะไรมากแล้ว กลืนน้ำลายกลับคำ(ที่เคยลั่นวาจาไว้)ก็เพราะมาตอบกระทู้นี้เพียงเท่านั้น อย่าให้ผมพูดมากไปกว่านี้เลย มิน่าล่ะ คนต่างศาสนาเขาถึงมองว่าคริสตชนมีแต่คนรวย มันก็รวยจริงๆแบบที่คนต่างศาสนามองนั้นแหละ(เมื่อก่อนไม่เคยเห็นด้วยกับความคิดนี้นะ แต่ตอนนี้เห็นแล้ว จาก คคห.ต่างๆ) ความเชื่อก็ไม่เคยได้ถูกทดลองและเหยียดผิวในวัดบนต่างแดน(เพราะพวกคุณมีเงินมีทอง ไม่ต้องไปลำบากเลี้ยงปากเลี้ยงท้องในต่างแดน ไปเที่ยวได้ แสดงว่าโครตรวยเลย อีกอย่างาคุณเคยเจอการทดลองเรื่องความเชื่อเหมือนผมไหม คุณไปเข้าเงียบแสวงบุญ ก็มีคนออกเงินให้ แต่ผมไม่มีเงินเพียงพอแม้นกระทั่งกินข้าว ) หรือไม่ก็ไปประเทศที่เป็นประเทศคาทอลิก(ต้องคนมีเงินจริงๆ แพงกว่าไปเมกาอีก) เมื่อก่อนสิ่งต่างๆที่คนต่างศาสนาเขาพูดถึงคริสตังไทย ผมไม่เคยเชื่อเลย แต่ตอนนี้ เชื่อแล้วล่ะ(เพราะแม่ง เป็นจริงๆแบบเขาพูดจริงๆ)

ผมจะไม่เข้ามาตอบกระทู้ในนี้อีกแล้ว เพราะไม่อยากกลืนน้ำลายตัวเองไปมากกว่านี้ อย่ามาอ้างพระฯเลย ไม่เคยโดนกับตัว ไม่รู้รสหรอก แถมยังทำให้ผู้พูดดูเหมือนฟาริสีด้วย ผมเคยอยากเข้าบ้านเณร ก็มาสาเหตุนี้แหละ เพราะว่าอยากหนุนใจ และให้กำลังใจ กับคนที่ไร้เงินทอง ไร้คนรู้จักในสังคมคริสตัง และไม่เคยผ่านโรงเรียนคริสต์คนรวยเหมือนพวกคุณ(ในวัยเด็ก และวัยโต) แต่มีความเชื่อ ศรัทธาพระฯ แต่ถูกกีดกันสารพัด จากหลายๆอย่าง(เมืองนอกเห็นชัดเจนเลย)

ไปๆมาๆ ดูเหมือนว่า ศาสนาคริสตังบนแผ่นดินไทย(โดยเฉพาะกรุงเทพฯ) กลายเป็นความเชื่อที่เหมาะสำหรับคนมีตัง มีเงินมีทอง และเป็นคริสตังกันทั้งครอบครัวอยู่ก่อนแล้ว หากคริสตังยืนที่รักพระ ศรัทธาพระ แต่ไร้เงิน ไร้เส้นสาย และเป็นคริสตังคนเดียวในสังคม กลับกลายเป็นว่า สาหัสกว่าผ่านหลักสูตรรบพิเศษกับหน่วยพลร่มจู่โจมป่าหวายอีก(แถมไม่มีคนหนุนใจเรื่องความเชื่อด้วย เพราะพูดไป พวกคุณก็ไม่มีวันเข้าใจอะไรทั้งสิ้นอยู่ดี การเป็นสัตบุรุษก็ยากกว่าพวกคุณอยู่แล้ว บ้านเณรไม่ต้องพูดถึง ไม่มีเงิน ไม่มีเส้น จบข่าว แม้นจะมีศรัทธาก็ตาม)

เบื่อ....เซ็ง.......ไม่เข้ามาอีกแล้ว ดูเหมือนกลืนน้ำลายตัวเอง(อีกรอบ)

ขอพระอวยพรทุกท่าน(ครั้งสุดท้าย)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Edwardius
โพสต์: 1392
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 3:02 pm
ที่อยู่: Lamphun, Thailand

พฤหัสฯ. ธ.ค. 04, 2008 10:47 pm

Pry-Kaew เขียน:
Edwardius เขียน: พี่พลายจ๋า พี่อคติไปป่าวค้าบบ

ผมไป San Antonio ไม่เห็นมีอย่างพี่ว่าเลย

หรือว่าต่อมรับการเหยียดหยามผมจะฝ่อ 555++

ปล. แต่ที่ผมไปมาน่ะ Hispanic เยอะว่า คนขาวอ่ะ

ปล2. ไปวันฉลองอะไรซักอย่างช่วงอีสเตอร์ เจอนักบาสของสเปอร์ด้วย

หากไปในถิ่นที่มีคนเม็กซิกัน(Histanic)เยอะ ไอ้ขาว(ฝรั่ง)จะเกรงใจ และกลัวเกรงคนเม็กซิกัน และคนเอเชียนครับ อ้อ.....น้องอยู่ไม่นาน(คาดว่าไม่เกินเดือน) และไปแบบสบายๆใช่ไหมครับ(โดยไม่ต้องไปทำงานหาเงินเพื่อมิให้อดตาย และมีเงินเติมน้ำมัน เพื่อให้เดินทางได้ และจ่ายค่าเทอมด้วยตัวเอง เพื่อมิให้ถูก ตม.เอาพี่เข้าคุก น้องไปไม่นาน ไปแบบสบาย หรือไปแบบกลุ่มชนชาวคริสตังที่เดินทางจากเมืองไทยไปที่นู้น สบายกว่าพี่เยอะครับ แค่บอกว่าได้เจอนักบาสฯ ก็รู้แล้วว่าไปแบบคนมีเงิน เพราะปกติ แค่ไปเรียน และทำงานเพื่อให้มีเงินใช้(เพียงหยิบมือ)ก็ไม่เห็นดวงเห็นตะวันแล้ว

บอกแล้วว่าพวกคุณต่อให้ไปเมกา ต่อให้ไปรัฐที่ผมอยู่ เมืองที่ผมเคยใช้ชีวิต ก็ไม่มีวันรับรู้สิ่งที่ผมเจอหรอก ดูจาก คคห.หลายคนแสดงความคิดเห็นแล้ว ชัดเจนเปลี่ยนเลยครับ

ผมไม่พูดอะไรมากแล้ว กลืนน้ำลายกลับคำ(ที่เคยลั่นวาจาไว้)ก็เพราะมาตอบกระทู้นี้เพียงเท่านั้น อย่าให้ผมพูดมากไปกว่านี้เลย มิน่าล่ะ คนต่างศาสนาเขาถึงมองว่าคริสตชนมีแต่คนรวย มันก็รวยจริงๆแบบที่คนต่างศาสนามองนั้นแหละ(เมื่อก่อนไม่เคยเห็นด้วยกับความคิดนี้นะ แต่ตอนนี้เห็นแล้ว จาก คคห.ต่างๆ) ความเชื่อก็ไม่เคยได้ถูกทดลองและเหยียดผิวในวัดบนต่างแดน(เพราะพวกคุณมีเงินมีทอง ไม่ต้องไปลำบากเลี้ยงปากเลี้ยงท้องในต่างแดน ไปเที่ยวได้ แสดงว่าโครตรวยเลย อีกอย่างาคุณเคยเจอการทดลองเรื่องความเชื่อเหมือนผมไหม คุณไปเข้าเงียบแสวงบุญ ก็มีคนออกเงินให้ แต่ผมไม่มีเงินเพียงพอแม้นกระทั่งกินข้าว ) หรือไม่ก็ไปประเทศที่เป็นประเทศคาทอลิก(ต้องคนมีเงินจริงๆ แพงกว่าไปเมกาอีก) เมื่อก่อนสิ่งต่างๆที่คนต่างศาสนาเขาพูดถึงคริสตังไทย ผมไม่เคยเชื่อเลย แต่ตอนนี้ เชื่อแล้วล่ะ(เพราะแม่ง เป็นจริงๆแบบเขาพูดจริงๆ)

ผมจะไม่เข้ามาตอบกระทู้ในนี้อีกแล้ว เพราะไม่อยากกลืนน้ำลายตัวเองไปมากกว่านี้ อย่ามาอ้างพระฯเลย ไม่เคยโดนกับตัว ไม่รู้รสหรอก แถมยังทำให้ผู้พูดดูเหมือนฟาริสีด้วย ผมเคยอยากเข้าบ้านเณร ก็มาสาเหตุนี้แหละ เพราะว่าอยากหนุนใจ และให้กำลังใจ กับคนที่ไร้เงินทอง ไร้คนรู้จักในสังคมคริสตัง และไม่เคยผ่านโรงเรียนคริสต์คนรวยเหมือนพวกคุณ(ในวัยเด็ก และวัยโต) แต่มีความเชื่อ ศรัทธาพระฯ แต่ถูกกีดกันสารพัด จากหลายๆอย่าง(เมืองนอกเห็นชัดเจนเลย)

ไปๆมาๆ ดูเหมือนว่า ศาสนาคริสตังบนแผ่นดินไทย(โดยเฉพาะกรุงเทพฯ) กลายเป็นความเชื่อที่เหมาะสำหรับคนมีตัง มีเงินมีทอง และเป็นคริสตังกันทั้งครอบครัวอยู่ก่อนแล้ว หากคริสตังยืนที่รักพระ ศรัทธาพระ แต่ไร้เงิน ไร้เส้นสาย และเป็นคริสตังคนเดียวในสังคม กลับกลายเป็นว่า สาหัสกว่าผ่านหลักสูตรรบพิเศษกับหน่วยพลร่มจู่โจมป่าหวายอีก(แถมไม่มีคนหนุนใจเรื่องความเชื่อด้วย เพราะพูดไป พวกคุณก็ไม่มีวันเข้าใจอะไรทั้งสิ้นอยู่ดี การเป็นสัตบุรุษก็ยากกว่าพวกคุณอยู่แล้ว บ้านเณรไม่ต้องพูดถึง ไม่มีเงิน ไม่มีเส้น จบข่าว แม้นจะมีศรัทธาก็ตาม)

เบื่อ....เซ็ง.......ไม่เข้ามาอีกแล้ว ดูเหมือนกลืนน้ำลายตัวเอง(อีกรอบ)

ขอพระอวยพรทุกท่าน(ครั้งสุดท้าย)
พี่รู้จักผมเหรอ พี่ถึงกล้าพูดคำเหล่านี้ออกมา

ให้รู้ไว้ว่า พี่ตัดสินผมไปแล้วนะ
ผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงดีให้การเดินทางของผมดู ลำบาก เป็นทุกข์ น่าเวทนา ดูเป็นคริสตชนที่ถูกทดลองอย่างรุนแรง
แต่ที่ผมHighlightไว้น่ะ ไม่จริงซักอย่าง...เศร้าเลย
ตอบกลับโพส