ต้มส้มดับร้อน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 16, 2009 9:52 pm
วันนี้กระผมนายอันตนขอนำเสนอรายการอาหารดับร้อนทำกินง่ายๆได้ที่บ้าน ซดเป็นเปล่าๆก็ชื่นใจ ซดแก้เผ็ดตอนกินข้าวก็คล่องคอดี ที่สำคัญอากาศร้อนๆแบบนี้กินอาหารที่มีรสเปรี้ยวจากพืชช่วยดับพิษร้อนได้ดีนักแล แต่สำหรับคนธาตุอ่อนก็กินแต่พอประมาณก็แล้วกัน ให้คำนึงไว้ว่าพวกพืชรสเปรี้ยวทั้งหลายนี่กินน้อยเป็นยาระบายกินมากเป็นยาถ่าย
เอาละมาเข้าเรื่องกันเลย อาหารจานนี้เป็นอาหารพื้นเมืองแถบภูเก็ต กระผมย้ายมาอยู่ที่นี่พอได้ชิมก็ชอบ เลยอยากเอามาแบ่งปันหลังจากที่ลองทำกินดูแล้วมันอร่อยดี อาหารจานนี้ชื่อว่า "ต้มส้ม" ครับ ที่เรียกต้มส้มเพราะว่ามีรสเปรี้ยวนำอันได้มาจากพืชรสเปรี้ยวหลายๆอย่างที่ระดมใส่ลงไป ส่วนผสมมีดังนี้ครับ
1 สัปรดดิบขนาดย่อมๆครึ่งลูก ฝานเป็นแผ่นพอคำ อย่าทำเป็นเหลี่ยม หรือสลักเสลาให้มันวิจิตร เอาเป็นแผ่นๆบางๆเป็นดีที่สุด
2 ผักบุ้งเอาแบบที่ใส่ในเย็นตาโฟ ที่ก้านมันแข็งๆหน่อย สักกำย่อมๆก็พอ เอาแบบในรูปนะครับ แบบอื่นไม่เคยเห็นเขาใช้ทำกัน หั่นเป็นท่อนๆยาวสักสองข้อนิ้วมือ

3 หยวกกล้วยเลือกเอาอ่อนๆ เขาขายน้อยที่สุดเท่าไหร่ก็เอามาเท่านั้นก็พอ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆยาวสักสองข้อนิ้วมือ

4 ยอดส้มป่อยกำมือหนึ่ง หาไม่ได้ก็เอายอดมะขามอ่อนแทน ถ้ามะขามอ่อนยังหายากอีกเพราะหน้าแล้งก็ไม่ต้องใส่เลยก็ได้ ยอดส้มป่อยเป็นอย่างในรูปครับ

5 ส้มแขกสักสามสี่แว่น
6 มะขามเปียกปั้นเล็กๆหนึ่งปั้น
7 ปลารากกล้วยแห้ง หรือชื่ออื่นว่าปลากะตักแห้ง ปลาจิ้งจั้ง ฉิ้งฉั้ง สองกำมือ ฉีกเป็นสองซีกตามยาวดึงใส้ดำๆมันออกให้หมด ถ้าขี้เกียจก็ฉีกเป็นสองซีกก็พอ ที่บอกว่าฉ๊กสองซีกที่หมายถึงมีก้างอยู่ตรงกลางนะครับ ไม่ได้เป็นซีกหลังกับซีกท้อง ฉีกง่ายไม่ยากอย่างที่คิด
8 หอมแดงห้าหัว
9 กะปิแกง 2 ช้อน ถ้าไม่มีกะปิแกงก็กะปิทั่วไปนั่นแหละ
10 เกลือฟายมือหนึง
11 น้ำเปล่าสักครึ่งหม้อ
วิธีทำ
1 ต้มน้ำให้เดือด ระหว่างนั้นโขลกหัวหอมกับกะปิให้แหลกเป็นจุลเนียน พอน้ำเดือดก็ละลายน้ำ
2 เมื่อเครื่องละลายดีแล้วใส่ส้มแขก สัปรด และมะขามเปียก ปลารากกล้วยแห้งลงไป ต้มจนสัปรดสุกดี ส้มแขกบาน มะขามเปียกไม่จับเป็นก้อนแล้ว ใส่เกลือดลงไปทีละนิดๆ ชิมรสให้เปรี้ยวนำเค็มรั้ง แต่งรสเค็มให้ดี เผื่อตอนใส่ผักบุ้งด้วย
3 ผักบุ้งก่อนใส่บีบให้มันช้ำๆก่อน เหมือนกับเวลาเราทำแกงเทโพ จากนั้นใส่ลงไป ต้มจนผักบุ้งสุกแล้วราไฟลง
4 ใส่ใบส้มป่อยหรือใบมะขามอ่อน แล้วต้มไฟรุมๆต่อสักห้านาที ชิมรสครั้งสุดท้ายให้เปรี้ยวนำเค็มรั้งนิดๆ อย่าให้เค็มจัด
เมื่อแต่งรสได้ที่แล้วก็ยกลง กินกับผัดเผ็ดและข้าวเปล่า คล่องคอดีนัก ซดเล่นๆก็ได้ ลองทำกันดูนะครับ ถ้าทำกินเองคนเดียวหรือสองคนก็ลดส่วนประกอบลงตามสัดส่วน ถ้าทำขนาดนี้ก็กินได้สี่ห้าคนเชียวแหละ
สวดขอบคุณพระก่อนทำด้วย ขอให้ทุกคนที่ได้กินข้าวร่วมกันกับเรารักและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน พระให้ข้าวเราทุกคนกินเหมือนกันดังนั้นเราทุกคนควรรักซึ่งกันและกันไม่ควรขัดแย้งกันเพราะพระให้ทั้งเราและเขากินเหมือนกัน ลองสวดก่อนทำอาหารหรือระหว่างทำอาหารแล้วจะรู้ว่ารสมือเราอร่อยกว่ารสดีหรือรสเทียมๆใดๆทั้งสิ้น อาแมน
เอาละมาเข้าเรื่องกันเลย อาหารจานนี้เป็นอาหารพื้นเมืองแถบภูเก็ต กระผมย้ายมาอยู่ที่นี่พอได้ชิมก็ชอบ เลยอยากเอามาแบ่งปันหลังจากที่ลองทำกินดูแล้วมันอร่อยดี อาหารจานนี้ชื่อว่า "ต้มส้ม" ครับ ที่เรียกต้มส้มเพราะว่ามีรสเปรี้ยวนำอันได้มาจากพืชรสเปรี้ยวหลายๆอย่างที่ระดมใส่ลงไป ส่วนผสมมีดังนี้ครับ
1 สัปรดดิบขนาดย่อมๆครึ่งลูก ฝานเป็นแผ่นพอคำ อย่าทำเป็นเหลี่ยม หรือสลักเสลาให้มันวิจิตร เอาเป็นแผ่นๆบางๆเป็นดีที่สุด
2 ผักบุ้งเอาแบบที่ใส่ในเย็นตาโฟ ที่ก้านมันแข็งๆหน่อย สักกำย่อมๆก็พอ เอาแบบในรูปนะครับ แบบอื่นไม่เคยเห็นเขาใช้ทำกัน หั่นเป็นท่อนๆยาวสักสองข้อนิ้วมือ

3 หยวกกล้วยเลือกเอาอ่อนๆ เขาขายน้อยที่สุดเท่าไหร่ก็เอามาเท่านั้นก็พอ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆยาวสักสองข้อนิ้วมือ

4 ยอดส้มป่อยกำมือหนึ่ง หาไม่ได้ก็เอายอดมะขามอ่อนแทน ถ้ามะขามอ่อนยังหายากอีกเพราะหน้าแล้งก็ไม่ต้องใส่เลยก็ได้ ยอดส้มป่อยเป็นอย่างในรูปครับ

5 ส้มแขกสักสามสี่แว่น
6 มะขามเปียกปั้นเล็กๆหนึ่งปั้น
7 ปลารากกล้วยแห้ง หรือชื่ออื่นว่าปลากะตักแห้ง ปลาจิ้งจั้ง ฉิ้งฉั้ง สองกำมือ ฉีกเป็นสองซีกตามยาวดึงใส้ดำๆมันออกให้หมด ถ้าขี้เกียจก็ฉีกเป็นสองซีกก็พอ ที่บอกว่าฉ๊กสองซีกที่หมายถึงมีก้างอยู่ตรงกลางนะครับ ไม่ได้เป็นซีกหลังกับซีกท้อง ฉีกง่ายไม่ยากอย่างที่คิด
8 หอมแดงห้าหัว
9 กะปิแกง 2 ช้อน ถ้าไม่มีกะปิแกงก็กะปิทั่วไปนั่นแหละ
10 เกลือฟายมือหนึง
11 น้ำเปล่าสักครึ่งหม้อ
วิธีทำ
1 ต้มน้ำให้เดือด ระหว่างนั้นโขลกหัวหอมกับกะปิให้แหลกเป็นจุลเนียน พอน้ำเดือดก็ละลายน้ำ
2 เมื่อเครื่องละลายดีแล้วใส่ส้มแขก สัปรด และมะขามเปียก ปลารากกล้วยแห้งลงไป ต้มจนสัปรดสุกดี ส้มแขกบาน มะขามเปียกไม่จับเป็นก้อนแล้ว ใส่เกลือดลงไปทีละนิดๆ ชิมรสให้เปรี้ยวนำเค็มรั้ง แต่งรสเค็มให้ดี เผื่อตอนใส่ผักบุ้งด้วย
3 ผักบุ้งก่อนใส่บีบให้มันช้ำๆก่อน เหมือนกับเวลาเราทำแกงเทโพ จากนั้นใส่ลงไป ต้มจนผักบุ้งสุกแล้วราไฟลง
4 ใส่ใบส้มป่อยหรือใบมะขามอ่อน แล้วต้มไฟรุมๆต่อสักห้านาที ชิมรสครั้งสุดท้ายให้เปรี้ยวนำเค็มรั้งนิดๆ อย่าให้เค็มจัด
เมื่อแต่งรสได้ที่แล้วก็ยกลง กินกับผัดเผ็ดและข้าวเปล่า คล่องคอดีนัก ซดเล่นๆก็ได้ ลองทำกันดูนะครับ ถ้าทำกินเองคนเดียวหรือสองคนก็ลดส่วนประกอบลงตามสัดส่วน ถ้าทำขนาดนี้ก็กินได้สี่ห้าคนเชียวแหละ
สวดขอบคุณพระก่อนทำด้วย ขอให้ทุกคนที่ได้กินข้าวร่วมกันกับเรารักและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน พระให้ข้าวเราทุกคนกินเหมือนกันดังนั้นเราทุกคนควรรักซึ่งกันและกันไม่ควรขัดแย้งกันเพราะพระให้ทั้งเราและเขากินเหมือนกัน ลองสวดก่อนทำอาหารหรือระหว่างทำอาหารแล้วจะรู้ว่ารสมือเราอร่อยกว่ารสดีหรือรสเทียมๆใดๆทั้งสิ้น อาแมน